หนังตลกเกาหลีใต้บุกฮอลลีวูด

หนังตลกจากเกาหลีใต้กำลังจะได้มีโอกาสไปฉายยังประเทศแถบตะวันตก หรือถูกรีเมกในเวอร์ชั่นฮอลลีวูด กลายเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองว่า อารมณ์ขันแบบเกาหลีใต้จะสามารถปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นสากาลได้หรือไม่

จากที่ในยุคสมัยหนึ่งหนังโรแมนติกเคยเป็นเครื่องหมายการค้าของวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ ต่อมาหนังคุณภาพของผู้กำกับเกรดเออย่าง ปาร์คชานวุก, คิมจีวุน, บองจุนโฮ ก็กวาดรางวัลในเทศกาลต่าง ๆ และกลายเป็นหนังในดวงใจของคนทั่วโลก ล่าสุดหนังตลกจากเกาหลีใต้กำลังจะกลายเป็นสินค้าออกชิ้นใหม่ ที่ต้องรอพิสูจน์ว่าอารมณ์ขันแบบชาวกิมจิ จะถูกรสนิยมแฟนหนังในตลาดโลกได้หรือไม่

หนังฮิตในเกาหลี เปิดฉายในสหรัฐฯ

ตามปกติงานภาพยนตร์แนวขายขำ เป็นสิ่งที่ขายดีในเกาหลีใต้อยู่แล้ว หนังตลกย้อนยุคที่ว่าด้วยเรื่องราวของคดีฆาตกรรม และการสืบสวนสอบสวน Detective K สามารถทำยอดคนดูในประเทศบ้านเกิดไปกว่า 4.58 ล้านคน เป็นหนังที่มียอดคนดูทะลุ 4 ล้านคนเรื่องแรกในปี 2011 ของเกาหลีใต้

ล่าสุดนอกจากความสำเร็จในประเทศแล้ว Detective K ยังได้เข้าไปฉายใน 10 เมืองใหญ่ของอเมริกาเหนือ อาทิ แอนแลนต้า, ซีแอตเทิล, ชิคาโก้, ดัลลัส, ฮาวาย และแวนคูเวอร์ นอกจากนั้นยังได้เข้าไปฉายใน ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว ในอีกหลายประเทศในแถบเอเชียและยุโรป อย่าง จีน, ไต้หวัน, ไทย, เยอรมัน, ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ด้วย

ขณะเดียวกันหนังตลก The Last Godfather ที่ล้อเลียนงานแก็งสเตอร์คลาสสิค The Godfather ฝีมือของผู้กำกับอดีตดาวตลกคนดัง ชิมฮยองเร ก็จะได้เข้าไปฉายในอเมริกาเหนือในวันที่ 1 เม.ย. นี้ รวมถึงหนังตลก Castaway on the Moon ก็กำลังจะเข้าไปฉายในสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน

สำหรับ The Last Godfather ที่ใช้ทุนสร้าง 15,000 ล้านวอน (ประมาณ 408 ล้านบาท) มียอดคนดูกว่า 2.55 ล้านคนในเกาหลีใต้ เป็นงานที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว อย่างไรก็ตามการบุกตลาดตะวันตกคือเป้าหมายอันดับ 1 ของผู้กำกับ ชิมฮยองเร ที่เคยพาหนังไซไฟแฟนตาซี D-War กวาดเงินเหรียญสหรัฐฯ มาแล้ว

ในการเปลี่ยนแนวมาทำหนังตลก ที่คาดหวังในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ผู้กำกับรุ่นใหญ่ก็ยังพยายามทำหนังของเขาให้มีความเป็นสากลที่สุด "นี่เป็นเหตุผลแรกว่าทำไม ผมถึงทำหนังแนวตลกเจ็บตัว ซึ่งใช้คำพูดน้อยกว่า และมีความเป็นสากลมากกว่า มันคือแนวทางที่เป็นเครื่องมือซึ่งทำให้คนอย่าง ชาร์ลี แชปลิน และ มิสเตอร์ บีน (โรแวน แอ็ตกินสัน) เรียกเสียงหัวเราะได้มาแล้ว"

ชิมฮยองเร ยังแสดงความเห็นว่า หนังตลกอาจจะเป็นแนวทางที่ทำให้หนังเกาหลีใต้ บุกไปสู่ตลาดโลกได้มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ "พูดตามตรงนะครับ เราไม่ได้มีเทคนิคการถ่ายทำระดับสุดยอด หรือทุนสร้างมหาศาลที่จะสร้างหนังใหญ่ๆ และมีมูลค่าทางการตลาดสูงๆ แบบ Avatar หรือ The Lord of the Rings ได้ สถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ พยายามหาวิธีเปลี่ยนสิ่งที่เรามีอยู่ วางแผนให้ดีในการก้าวเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ"

ตลกเกาหลีในหนังฮอลลีวูด

การเปิดตัวของหนังอย่าง Detective K เพียงใน 10 ถึง 12 เมืองของสหรัฐฯ และแคนาดา ยังเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าน่าผิดหวัง อย่างไรก็ตามยังมีวิธีอื่นๆอีกในการเผยแพร่หนังตลกจากเกาหลีใต้ ไปสู่ตลาดหนังโลก อย่างการขายลิขสิทธิ์ของหนังเกาหลี เพื่อสร้างเป็นหนังฮอลลีวูด

Hello Ghost ที่มี ชาแตฮยอน รับบทนำ เป็นหนังเกาหลีเรื่องล่าสุดที่กำลังจะถูกสร้างเป็นหนังฮอลลีวูด ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีหนังผีๆจากเกาหลีใต้ถูกรีเมกใหม่โดยผู้สร้างฝั่งตะวันตกมาหลายเรื่องแล้ว แต่สำหรับ Hello Ghost คือหนังผีที่ดูจะเน้นไปที่การเรียกเสียงหัวเราะเป็นหลัก

โดยหนังตลกเรื่องนี้ถูกขายลิขสิทธิ์ให้กับบริษัท 1492 Pictures เมื่อเดือนก่อน ซึ่ง คริส โคลัมบัส ผู้กำกับดังเจ้าของหนัง Harry Potter 2 ภาคแรก ผู้ก่อตั้งบริษัท กล่าวว่าเขารู้สึกประทับใจในเรื่องราวที่สามารถเข้าถึงคนทุกวัฒนธรรม และทุกวัยได้ของหนังเรื่องนี้

TheWrap.com อธิบายถึงเนื้อเรื่องของ Hello Ghost ว่าเกี่ยวข้องกับ “ชายหนุ่มที่ถูกหลอกหลอนโดยผี 4 ตน หลังจากเขาพยายามฆ่าตัวตาย โดยพระเอกของเรื่องต้องช่วยเหลือผีแต่ละตน ให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่เคยมี ก่อนเสียชีวิต จึงจะสามารถรอดพ้นจากการรังควานของผีทั้ง 4”

โดยผู้กำกับดังแห่งฮอลลีวูดอย่าง โคลัมบัส พูดถึงหนังเรื่องนี้ว่า "หนังจากดู Hello Ghost จบแล้ว ผมรู้สึกติดใจกับ ความยอดเยี่ยมในการผสม มุขตลก, ดราม่า และความหลากหลายทางอารมณ์เข้าด้วยกัน มันมีเรื่องราวที่เป็นสากลสามารถแปลงให้เข้าได้กับทุกวัฒนธรรม ผมตั้งตารอ ที่จะได้นำเวอร์ชั่นใหม่ ของเรื่องราวที่สุดพิเศษนี้ มาเสนอให้กับผู้ชมของตลาดหนังภาษาอังกฤษ"

Manager Online