“หลิวอี้เฟย” (Liu Yi Fei) คืนจอเงิน รับบทปีศาจสาวใน “โปเยโปโลเย”

หายหน้าหายตาไปเสียนานจนหนุ่มๆ บ่นคิดถึงกันเป็นแถว มาคราวนี้สาวหน้าใส “หลิวอี้เฟย” (Liu Yi Fei) กลับมาพร้อมกับผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุด “A Chinese Ghost Story” 《倩女幽魂》 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โปเยโปโลเย” ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อ “เนี่ยเสี่ยวเชี่ยน” ในนิยายอมตะของจีนชุด “เหลียวจายจื้ออี้” 《聊斋志异》ของผู่สงหลิง โดยเธอรับบทเป็น “เนี่ยเสี่ยวเชี่ยน” ปีศาจสาวที่มาพบรักกับบัณฑิตหนุ่ม

ที่ผ่านมาตำนานรักข้ามภพเรื่องนี้ได้เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครหลายต่อหลายครั้ง โดยชอว์บราเดอร์สได้เคยหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 1959 กำกับการแสดงโดยหลี่ฮั่นเสียงผกก.ชื่อดังของฮ่องกง แต่เวอร์ชั่นที่ดังเปรี้ยงปร้างและตราตรึงใจผู้ชมที่สุดคงหนีไม่พ้น โปเยโปโลเย ตอน เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า ปี 1987 ของผู้กำกับฉีเคอะ ที่หวังจู่เสียน-เลสลี่ จางนำแสดง

แต่ในเวอร์ชั่นของผู้กำกับวิลสัน ยิป (ผู้กำกับยิปมันภาค 1 และ 2) นี้ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วน เช่นการให้เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนกลายเป็นปีศาจ แทนที่จะเป็นผีสาวอย่างเวอร์ชั่นก่อนๆ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมิติให้แก่ตัวละครมากขึ้น มีการสร้างปมความรักสามเส้าระหว่างเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน บัณฑิตหนิงไฉ่เฉิน (หยูเส้าฉวิน แสดง) และอาจารย์ปราบปีศาจ เยี่ยนเช่อเสีย (กู่เทียนเล่อ แสดง) ให้ผู้ชมได้ลุ้นจนตัวโก่ง แถมด้วยฉากเลิฟซีนที่หลิวอี้เฟยลงทุนประกบปากกับสองนักแสดงชายของเรื่องด้วย

หลิวอี้เฟย หายไปไหนมา?

หลายคนอาจสงสัยว่า หลังจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง “มังกรหยก (เอี้ยก้วย-เซียวเล่งนึ้ง)” และหนังเรื่อง “หนึ่งฟัดหนึ่ง ใหญ่ต่อใหญ่” (The Forbidden Kingdom) ที่เธอร่วมงานกับเจ็ท ลี (Jet Li) และเฉินหลง (Jackie Chan) แล้ว ทำไมถึงไม่ค่อยได้เห็นผลงานใหม่ๆ ของสาวน้อยคนนี้เลย

ต้องเท้าความไปเมื่อปี 2007 หลิวอี้เฟยได้เจริญรอยตามดารารุ่นพี่อย่างจางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) เซ็นสัญญาเข้าสังกัด William Morris ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ของฮอลลิวูด หลังจากนั้นทางบริษัทก็ได้วางตัวให้เธอแสดงบทนำในภาพยนตร์เรื่อง “หนึ่งฟัดหนึ่งฯ” ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่วงการฮอลลิวูดให้กับเธอ

หลังจากนั้นหลิวอี้เฟยเริ่มรับงานแสดงน้อยลง และตั้งหน้าตั้งตาเรียนการแสดง เพื่อเตรียมตัวโกอินเตอร์สู่ฮอลลิวูดอย่างเต็มตัว เธอเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2009 ว่า “ปีนี้ฉันปฏิเสธงานแสดงไป 20 กว่าเรื่อง บอกตามตรงบางทีฉันก็รู้สึกสับสน เคยคิดว่าเรื่องนี้น่าจะดังนะ แต่ฉันก็ยังเชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเอง หลายคนบอกให้ฉันรับงานแสดงมากๆ ถึงคุณภาพงานจะปานกลาง ก็ถือเสียว่าเป็นการฝึกฝน แต่ฉันรู้สึกว่า ผลงานธรรมดาๆ ไม่ได้ช่วยให้ฉันได้ฝึกฝน แต่จะเป็นการเสียเวลาเสียมากกว่า ฉันไม่คิดว่านักแสดงที่ดีต้องพึ่งประสบการณ์เพียงอย่างเดียวจึงจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าคุณได้เจอผู้กำกับที่ดี บทที่ดี และนักแสดงที่ดี นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการพัฒนา ฉันต้องการให้ผลงานการแสดงแต่ละเรื่องของฉันมีอะไรแปลกใหม่”

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาหลิวอี้เฟยเน้นหนักในเรื่องเรียนเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีงานโชว์ตัว โฆษณาและถ่ายแบบเป็นระยะ เพิ่งมาเมื่อปีที่แล้วหลิวอี้เฟยได้เริ่มรับงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง Love In Disguise 《恋爱通告》 ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่หวังลี่หงกำกับและแสดงเอง และมาในปีนี้แฟนๆ ของเธอก็จะได้ชมผลงานเรื่องล่าสุดของเธอกับบทปีศาจสาวเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน โดยหนังเรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายที่ฮ่องกงในวันที่ 22 เมษายนนี้

จากสาววัยใสสู่สาวเซ็กซี่พราวเสน่ห์

เป็นที่สังเกตได้ว่าระยะหลังๆ หลิวอี้เฟยซึ่งแจ้งเกิดในภาพลักษณ์ของสาวใสบริสุทธิ์ดุจเทพธิดา จะเริ่มปรับเปลี่ยนคาแรคเตอร์ของตัวเองให้ดูเป็นสาวขึ้น รวมทั้งสไตล์การแต่งตัวก็ค่อนข้างหวือหวามากขึ้น โดยเฉพาะในงานฉายหนังรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Love In Disguise ที่ปักกิ่ง ที่เธอปรากฎตัวในชุดเว้าเอวแถมผ่าขาสูง เล่นเอาช่างภาพกระหน่ำชัตเตอร์ไม่ยั้ง

และหลังจากที่ตัวอย่างหนังเรื่องโปเยโปโลเยถูกปล่อยออกไป ก็มีกระแสฮือฮาเกี่ยวกับฉากเปลือยหลังของหลิวอี้เฟยในเรื่องเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามหลิวอี้เฟยได้ออกมายอมรับว่า ฉากนั้นความจริงแล้วเธอใช้ตัวแสดงแทน เมื่อถามต่อว่าเธอยินยอมเสียสละเพื่องานแสดงหรือไม่ เธอตอบว่าตัวเธอเองยังมีขอบเขตอยู่ “ต้องดูเนื้อเรื่อง ผู้กำกับ และอารมณ์ของตัวละครด้วย ถึงยังไงฉันก็ยังต้องมีขอบเขตที่ชัดเจนอยู่”

倩女幽魂 A Chinese Fairy Tale_Trailer China

A Chinese Ghost Story 《倩女幽魂》Trailer

Manager Online