เคอเจิ้นตง (Kai Ko) ไม่โทษ เจย์ซี (Jaycee Chan) บอกตนโง่เองที่เสพยา

       “เคอเจิ้นตง” (Kai Ko) ที่โดนจับในคดีเสพกัญชาพร้อม “เจย์ซี ชาน” (Jaycee Chan) ได้เดินทางถึงกรุงไทเป ไต้หวัน บ้านเกิดแล้ว และยังจัดแถลงข่าวเพื่อเปิดใจต่อหน้านักข่าวร่วมร้อยชีวิต
       
       หลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่กรุงปักกิ่งเป็นเวลาถึง 14 วัน ล่าสุด เคอเจิ้นตง ได้รับการปล่อยตัว และได้เดินทางกลับมาถึงไต้หวันแล้ว โดยนักแสดงหนุ่มวัย 22 ปี ยังได้จัดแถลงข่าวขึ้นในทันทีในช่วงเช้าของวันที่ 30 ส.ค. หลังจากเดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินเที่ยวดึกของหนึ่งวันก่อนหน้านั้น โดยในการแถลงมีผู้จัดการส่วนตัว และพ่อแม่ร่วมให้กำลังใจอยู่ด้วย ซึ่งในการแถลงข่าววันนั้น เคอเจิ้นตง ถึงกับร้องไห้ออกมาในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
       
       จนกระทั่งวันต่อมานักแสดงหนุ่มชื่อดังจึงได้จัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับสื่อพร้อมผู้จัดการส่วนตัว โดยไม่ได้มีพ่อกับแม่มาคอยให้กำลังใจอยู่ด้วยแต่อย่างใด โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้ เคอเจิ้นตง ไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว แต่เขาก็ยังแสดงออกว่ารู้สึกผิด ด้วยการกล่าวคำว่า “ผมขอโทษครับ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังไม่กล้าสบตาใครเหมือนเดิม โดยในการแถลงข่าวมีผู้สื่อข่าวจากนับ 100 สำนักข่าว มาร่วมฟังการแถลงด้วย
       
       ระหว่างการเปิดใจนักแสดงหนุ่มคนดังเปรยว่าเขาจัดการแถลงข่าวขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นโอกาสสำหรับการขอโทษอย่างเป็นทางการ และยอมรับว่าตนเองเป็นตัวอย่างที่แย่มากสำหรับทุกคน แต่ก็ยังได้รับกำลังใจจากเพื่อนๆ และครอบครัวให้ลุกขึ้นเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง พร้อมสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นให้ได้
       
       เขายังกล่าวถึงมิตรภาพของตนเองกับ เจย์ซี ชาน ที่ยังอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวต่อไป และยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในสายตาของสังคม ว่าอาจจะเป็นคนยุยงส่งเสริมให้เพื่อนใช้ยาเสพติด โดย เคอเจิ้นตง ก็ยังคงกล่าวปกป้อง เจย์ซี ว่าเพื่อนรุ่นพี่คนนี้เป็นคนดี และที่ผ่านมาก็ดูแลเขามาตลอด
       
       “ที่ผ่านมาเขาให้พลังด้านบวกกับผมมาไม่น้อยครับ บางทีเราทั้งคู่อาจจะทำอะไรผิดพลาดลงไป แต่ผมก็เชื่อว่าเขายังเป็นคนดีเหมือนเดิมเคอเจิ้นตง ยังกล่าวแสดงความเชื่อมั่นด้วยว่าหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นไปแล้ว เขาและ เจย์ซี ก็ยังน่าจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
       
       เคอเจิ้นตง ยังยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำลงไป ได้กลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับแฟนๆ ของเขาที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเด็กๆ โดยพระเอกชื่อดังได้เอ่ยปากเตือนว่าไม่อยากให้ใครทำตัวแบบเขา และยังยืนยันว่าแม้จะเริ่มต้นใช้ยาเสพติดครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน แต่เขาก็ไม่ได้ใช้ยาต่อเนื่องในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้ติดยา และไม่เคยใช้ยาระหว่างอยู่ที่ไต้หวันแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดเขาจึงตัดสินใจแตะต้องยาเสพติด พระเอกหนุ่มยอมรับว่ามันไม่ได้เกิดจากความกดดัน หรือสภาพจิตใจอันย่ำแย่อย่างที่สื่อรายงานเลย เขาเพียงตัดสินใจทำเรื่องโง่ๆ ไปเท่านั้น

 

 

Manager Online