"บิ๊กแบง" (Big Bang) ปลื้ม กลับมาเจอแฟนคลับชาวไทยอีกครั้ง

เพิ่งผ่านพ้นไปสำหรับงาน 'Eversense Bigbang Fan Party' ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยการลัดฟ้ามาเจอแฟนคลับครั้งนี้ของ 5 หนุ่ม"บิ๊กแบง" (Big Bang) ทำเอาทั้ง 5 คนถึงกับเป็นปลื้มที่ได้มาเมืองไทยอีกครั้ง

ซึ่งการได้กลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งพวกเขาได้เผยความประทับใจที่มีต่อเมืองไทยด้วย
แทยัง : ประทับใจฤดูของที่นี่มากครับ ฤดูร้อน อบอุ่นมากครับ
จีดรากอน : ชอบที่ได้มาเมืองไทยครับเหมือนได้มาพักผ่อนแม้ว่าจะมาทำงานก็ตาม ชอบที่มีผลไม้เยอะแยะมาก แล้วก็ชอบว่ายน้ำที่นี่มากครับ

หลังจากที่พวกเขาเคยมาเปิดคอนเสิร์ตที่บ้านเราไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน สาวกแฟนคลับชาว V.I.P ยังได้เรียกร้องอยากให้พวกเขากลับมาจัดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาได้เผยว่ายังไม่มีกำหนดการแน่นอน แต่ถ้ามีเมื่อไหร่ต้องมาเมืองไทยแน่นอน "มีแน่นอนครับ แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน อยากให้รอติดตามกัน แต่รับรองว่าต้องมาที่นี่แน่ครับ"

ช่วงที่ผ่านมาหนุ่มๆทั้ง 5 คนได้มีการแยกย้ายไปทำงานเดี่ยวโดยมีทั้งงานออกอัลบั้มเดี่ยวและการผันตัวไปเป็นนักแสดง ซึ่งทุกคนระบุว่าอาจจะมีเหงาบ้างที่ต้องทำงานคนเดียวแต่ก็มีความสุข

แทยัง: แน่นอนว่าทำงานคนเดียวก็ต้องเหงาบ้างครับ ไม่ว่าจะทำงานเดี่ยวหรือกลุ่มแบบไหนผมก็มีความสุขครับเพราะว่าได้ทำงานในฐานะนักร้อง ซึ่งเป็นงานที่ผมรัก
จีดรากอน: ในฐานะที่ผมเป็นนักร้อง การทำผลงานอัลบั้มเดี่ยวก็ดีตรงที่เรามีโอกาสได้โชว์เสน่ห์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่ถึงยังไงผมก็ยังรักบิ๊กแบงอยู่และชอบทำงานของตัวเองไปพร้อมๆกันครับ
ซึงรี: งานเดี่ยวก็ต้องเหงาอยู่แล้วครับ แต่ว่าพี่ๆให้กำลังใจผมมากๆครับ ช่วยกันเชียร์ ผมรู้สึกดีและมีกำลังใจมากครับ

เห็นได้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมามีวงศิลปินเกิดขึ้นมากมายในวงการเพลงเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นรุ่นพี่ในวงการ ในส่วนของวงรุ่นน้องนั้นพวกเขาได้เผยว่าประทับใจวง 2NE1 ที่เป็นรุ่นน้องในสังกัดมากที่สุด และจะพัฒนาตนเองเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้อง

แดซอง: เก่งกันทุกวงนะครับ ผมรู้สึกว่าน้องๆเก่งและมีความสามารถกันมาก ทำให้รู้สึกว่าเราต้องพยายามให้มากขึ้น พัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าขึ้นกว่านี้ เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีครับ
จีดรากอน : จริงๆพวกเราสนใจทุกวงนะครับ เพราะเก่งๆกันหมด แต่ที่ประทับใจที่สุดคงเป็น 2NE1 รุ่นน้องที่อยู่ในค่ายเดียวกัน เพราะพวกเราสนิทกันด้วย และคุยกันบ่อยๆครับ

ในส่วนของผลงานการแสดงคนที่ก้าวเท้าเข้ามารับงานส่วนนี้ก่อนเพื่อนก็คือหนุ่มท็อป ซึ่งแดซองกำลังจะมีผลงานละครตามมาหนุ่มท็อปถ่อมตนว่ายังไม่เก่งพอจะแนะนำน้องแต่อยากให้น้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
"ถ้าพูดตรงๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอที่จะให้คำแนะนำกับน้องครับ แต่ถ้าแดซองทำงานผมก็อยากให้เขาร่าเริง มีความสุข แล้วก็อยากให้มันเป็นช่วงเวลาที่ดีให้เป็นความทรงจำที่ดีๆสำหรับเขาครับ"

นอกจากจะแยกย้ายไปมีผลงานต่างๆของตนเองแล้ว สาวกแฟนคลับก็ยังคงรอที่จะให้พวกเขาออกผลงานอัลบั้มชุดต่อไป ซึ่งพวกเขายืนยันว่ามีออกมาแน่นอนและอยากให้รอติดตามกัน
"ในอัลบั้มชุดใหม่เพลงดีมากครับ อยากให้ทุกคนรอติดตามกัน ที่เกาหลีใกล้จะวางแผงแล้ว ก็ต้องรอติดตามกันนิดนึงครับ พวกเราตั้งใจและทุ่มเทมาก แต่ก็ยังตอบไม่ได้จริงๆครับว่าจะวางแผงเมื่อไหร่" จีดรากอนกล่าว

การทำงานแม้จะมีสมาชิกหลายคนในวง แต่พวกเขาก็ระบุว่าไม่เคยทะเลาะกันเวลาทำงานเลย ซึ่งเรื่องนี้ท็อปได้กล่าวอย่างติดตลกว่าเป็นเพราะตัวเขาเป็นพี่ใหญ่ที่ดีของวงทำให้ไม่มีใครทะเลาะกัน
"อาจจะแปลกใจนิดนึงนะครับ แต่ผมพูดได้เลยว่าพวกเราไม่เคยทะเลาะกัน เพราะว่าอายุและนิสัยแต่ละคนแตกต่างกัน ไม่เหมือนกันเลย ผมก็เคยมานั่งคิดเหมือนกันนะครับว่าทำไมพวกเราไม่เคยทะเลาะกันเลย แล้วก็ได้คำตอบว่าเป็นเพราะพี่ใหญ่ของวงครับ ซึ่งก็คือผมเอง มีนิสัยที่ดีมากน่ะครับ เป็นผู้นำที่ดีมากๆ น้องๆก็เลยไม่ทะเลาะกัน ( หัวเราะกันทั้งวง )" โดยระหว่างนี้พิธีกรได้ถามย้ำว่า "จริงเหรอ?" แดซองได้ตอบเป็นภาษาไทยด้วยว่า "จริงๆ ถูกต้องนะคร้าบบ" เรียกเสียงหัวเราะได้มากทีเดียว

การมาเมืองไทยครั้งนี้เป็นการมาเพื่อพบกับแฟนๆชาวไทยและถ่ายทำโฆษณาตัวใหม่ของผลิตภัณฑ์ Eversense ซึ่งพวกเขาได้กล่าวความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับสินค้าไทยว่า
แทยัง: ครั้งก่อนที่มาทำงาน อากาศร้อนมากๆครับ ร้อนมากจนผมตกใจ แต่มาครั้งนี้รู้สึกไม่ค่อยร้อนมากเท่าไหร่ก็เลยรู้สึกทำงานสนุกขึ้นครับ
แดซอง: ทุกครั้งที่มาทำงานรู้สึกว่าโคโลญจน์ของเอเวอร์เซนส์หอมมากครับ อยากให้ทุกคนในเกาหลีได้ลองดมดู ถ้าเป็นไปได้อยากเอาผลิตภัณฑ์กลับไปที่เกาหลีด้วยครับ
ซึงรี: รู้สึกเสียใจครับที่ในเกาหลีไม่มีเอเวอร์เซนส์ขาย
จีดรากอน: ครั้งก่อนพวกเราถ่ายที่เป็นโคโลญจน์กับโรลออน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมครับ อยากให้ลองดูว่าเป็นอะไร
ท็อป: อยากให้ติดตามโฆษณาตัวใหม่กันนะครับ ยังไม่บอกครับว่าเป็นยังไง แต่แตกต่างจากเดิมแน่นอน"

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้มีการถามถึงอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าของพวกเขาว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งทุกคนได้เผยเป้าหมายของตนเองว่า
แทยัง: อีก 20 ปีข้างหน้า ผมคงทำงานเพลงต่อไปครับ ถ้าไม่ใช่งานเกี่ยวกับนักร้อง งานเกี่ยวกับดนตรี ผมจะไม่ทำ ถ้าไม่ทำงานเพลงผมก็คงอยู่บ้านเฉยๆ
แดซอง: อีก 20 ปีข้างหน้าอาจจะมาอยู่เมืองไทย เปิดร้านนวดไทยไปเลย ผมเคยนวดให้ศิลปินน้องๆ ซึ่งทุกคนชอบมาก
ซึงรี: น่าจะเป็นพ่อของลูกๆครับ
จีดรากอน: ผมอยากเที่ยวทั่วโลก อีก 20 ปี ผมอาจจะเที่ยวทั่วโลกอยู่ครับ
ท็อป: ผมคงเป็นแม่ที่ยอดเยี่ยมครับ ( มีซึงรีเป็นพ่อเหรอ? ) ถ้างั้นไม่เอาดีกว่าครับ

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้พวกเขายังได้กล่าวขอบคุณแฟนคลับชาวไทยที่ให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาเสมอมาด้วย
แทยัง: ก่อนอื่นขอขอบคุณเอเวอร์เซนส์ครับที่ทำให้เรามีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง แะขอบคุณแฟนๆชาวไทยมากๆ ทุกครั้งที่พวกเราจะมาให้การต้อนรับอย่างดีและอบอุ่นมาก ถึงเราจะหายไปนานแต่ก็ยังคอยให้กำลังใจและสนับสนุนพวกเรา ผมสัญญาว่าถ้ามีคอนเสิร์ตที่เมืองไทยพวกเราจะเตรียมตัวมาแสดงอย่างดีที่สุดเพื่อแฟนๆชาวไทยทุกคนครับ
แดซอง: รู้สึกดีมากครับ มาเมื่อไหร่ก็รู้สึกเหมือนบ้าน ทุกคนต้อนรับดีมาก และอบอุ่นมากครับ
ซึงรี: ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้นะครับ ผมจะทุ่มเทเต้นและแสดงอย่างดีที่สุดเลยครับ
จีดรากอน: การที่เราเป็นคนของประเทศหนึ่งและไปรักและชื่นชมยอมรับวัฒนธรรมของอีกประเทศหนึ่งมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ผมเลยอยากฝากขอบคุณทุกคนครับที่มารักผมรักในเพลงของพวกผม พวกเราจะทำงานกันอย่างหนัก พยายามให้มากขึ้น ผมสัญญาว่าบิ๊กแบงจะมีอัลบั้มใหม่ออกมาเร็วๆนี้แน่นอน อยากให้รอติดตามกันนะครับ
ท็อป: ทุกครั้งที่มาผมรู้สึกได้ถึงความรักความอบอุ่นที่ทุกคนมีให้ครับ ทุกครั้งที่มาผมเลยรู้สึกว่ากำลังมีแฟนสาวๆกำลังรอผมอยู่ ผมก็เลยรู้สึกตื่นเต้นและดีใจครับ อยากขอบคุณทุกๆคนที่รักในงานเพลงของพวกเราครับ

Manager Online