คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) ให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Joon Gang ฉบับตุลาคม
ข่าวต่างๆ นานาว่า คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) ได้เพิ่มความนิยมมากอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากที่เขาเป็นหัวหน้าวง SS501 และละครเรื่องก่อนหน้านี้ของเขาเรื่อง Boys Over Flowers ที่ทำให้เขาได้เข้าวงการบันเทิงของญี่ปุ่น ข่าวนั้นกลับกลายออกมาว่าเป็นจริง เมื่อเร็วๆ นี้เขาเพิ่งเซ็นสัญญากับทาง Keyeast ที่ดูแลโดยเบยองจุน (Bae Yong Joon) และยังมีข่าวออกมาอีกด้วยว่า เขาได้รับของขวัญจากแฟนๆ ที่ส่งมาให้ที่ Keyeast มากกว่า ยงซามะ (Yonsama) ซึ่งคืออีกชื่อหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นเรียกเบยองจุน นี่เป็นครั้งแรกที่ทาง Keyeast พบว่า เบยองจุนไม่ได้รับของขวัญมากที่สุดอีก อย่างไรก็ตามเบยองจุนมีความสุขที่เขาสามารถเซ็นสัญญากับคิมฮยอนจุงได้
“พี่ยองจุน และผมมักจะพูดคุยกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับผู้หญิง ในขณะที่ดื่มกัน”
คิมฮยอนจุงถูกเลือกให้เป็น ศิลปินกระแสคลื่นลูกใหม่ของเกาหลีรุ่นต่อไป ตั้งแต่ที่เขาได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดแถบเอเชีย ซึ่งรวมไปถึงประเทศญี่ปุ่น ภายหลังกระแสคลื่นเกาหลีรุ่นดั้งเดิมเบยองจุนเลือกเขาในช่วงเวลาที่สัญญาของเขากำลังจะหมดกับทางเอเจนซี่เดิมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขากลายมาเป็น “หนุ่มน้อยของยงซามะ” เขาเลือกยงซามะเป็นแบบฉบับของเขา ซึ่งเมื่อถูกถามว่าเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับประธานบริษัท เบยองจุน เขาเรียกเบยองจุนว่า “พี่ยองจุน” อย่างมั่นใจในเวลาที่เขาถูกถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา
“บอกตรงๆ นะครับ ผมค่อนข้างตื่นเต้นเมื่อตอนที่ผมได้พบพี่เขาครั้งแรก พาวเว่อร์และท่าทางของพี่เขาดูดี เมื่อเขาลงมาจากรถของพี่เขา ผมคิดว่าผมกำลังมองดูเทวดา หรือประมาณว่ากษัตริย์ หรือ ซีอุสแบบนั้นครับ พี่เขาไม่ใช่คนที่หยิ่งหรือขี้อวด แต่ผมอาจจะรู้สึกจากชื่อของพี่ของเขาว่า “ยงซามะ” หลังจากที่พวกเราได้พูดคุยกัน ผมตระหนักว่า “อา...พี่เขาเป็นคนเหมือนผมนี่เอง” ตอนนี้ผมคิดว่าพี่เขาเป็นเหมือนพี่ชายของผมคนหนึ่ง”
เบยองจุนที่สร้างความประทับใจราวตำนานในเทพนิยาย กลายเป็นเหมือนกับว่า เขาเข้ากับคนอื่นๆ ไม่ค่อยได้ หรือเขาปิดกั้นตัวเองออกจากโลกภายนอก แต่จริงๆ แล้วเป็นเพราะว่า เขาไม่ทันสังเกตุ เขาเป็นเหมือนผึ้งขยัน และวางตัวสบายๆ กับเพื่อนของเขา
พวกเขาทั้ง 2 อายุต่างกันถึง 14 ปี พวกเขาพูดคุยและเข้ากันได้ดี ถึงแม้ว่าอายุจะต่างกันก็ตาม น่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบอากับหลานเสียมากกว่า เมื่อเร็วๆ นี้เบยองจุนและเขาเพียงแค่ 2 คนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พวกเขาพูดคุยกันอย่างกันเองเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตประจำวันของพวกเขา ไม่ใช่เกี่ยวกับละคร หรืออัลบั้ม ในขณะที่พวกเขานั่งดื่มกาแฟ และชาเขียว
เบยองจุนเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเอเจนซี่ของเขา คิมฮยอนจุงเป็นศิลปินใหม่ที่เบยองจุนกระตือรือล้นที่จะเซ็นสัญญาด้วย หรือกล่าวง่ายๆ ก็คือ พวกเขามีความสัมพันธ์เป็น “ประธาน” และ “ลูกน้องที่มีความสามารถคนใหม่” แต่คิมฮยอนจุงกล่าวว่า “ถ้ามองพี่เขาแล้ว พี่เขาเป็นคนง่ายๆ แตกต่างจากที่ผมคาดไว้ พี่เขารู้สึกไม่ค่อยชินหรือสบายใจกับชื่อเล่นที่ทางสื่อได้ตั้งให้กับเขา พี่เขาจริงจังจนกระทั่งพูดว่า “อย่าเรียกชื่อพี่ผิดๆ เรียกชื่อจริงของพี่ซะ” เวลาที่เพื่อนๆ ของพี่เขาโทรมาหาจะเรียกพี่เขาว่า “หวัดดี ยงซามะ”
“ผมเรียกพี่เขาว่า “พี่ยองจุน” ผมไม่สามารถเรียกพี่เขาว่า “ประธาน” หรือ “ยงซามะ” แล้วผมก็ไม่สามารถเรียกพี่เขาว่า อาจอชิ ที่หมายถึงผู้ชายวัยกลางคน ได้ด้วยเช่นกัน (พร้อมๆ กับหัวเราะ) ผมค่อนข้างมีความสัมพันธ์แบบสบายๆ กับพี่เขา พวกเราคุยเกี่ยวกับปัญหาของพวกเรา และพวกเราคุยกันได้เป็นชั่วโมงๆ อย่างสบายๆ และบางครั้งพวกเรายังตื่นเต้นเกี่ยวกับผู้หญิงสวยๆ เวลาที่พวกเราดื่ม พวกเราพูดเกี่ยวกับแฟนเก่าเช่นกัน ซึ่งพวกเราก็เป็นเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป”
คิมฮยอนจุงเป็นนายแบบให้กับ The Face Shop ในขณะเบยองจุนกำลังเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ ทั้งภาพและคอนเซ็ปท์ของโฆษณาให้อิมเมจและภาพลักษณ์ที่เหมือนกับเบยองจุน แล้วเดือนธันวาคมนี้เขาจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นพร้อมๆ กับเบยองจุนเพื่อการปรากฎตัวพิเศษบนเวทีด้วยกัน ซึ่งดูเหมือนว่าทางเอเจนซี่ของเขากำลังจัด “โปรเจคยงซามะรุ่นเล็ก” ด้วยความตั้งใจ แต่เบยองจุนไม่ได้สอนหรือบังคับอะไรเขามาก “พี่เขาไม่ได้สั่งให้ผมทำนั่นทำนี่ในทุกๆ เรื่อง ผมคอยจับตามองจากข้างกายพี่เขา แล้วเรียนรู้สิ่งที่ผมควรจะมีจากพี่เขา”
พี่เขาเป็นคนที่เข้มแข็งและจัดการดูแลตนเองเป็นอย่างดี พี่เขาไม่เคยโชว์มุมมองอ่อนแอของพี่เขาต่อหน้าใครๆ ผมพยายามที่จะเรียนรู้นำคุณสมบัติที่ดีของพี่เขามาใช้ นอกจากเรียนรู้จากพี่เขาแล้ว คำล่าวที่ว่า “เป็นยงซามะรุ่นเล็ก” นั้นยังเป็นการกล่าวเกินจริงครับ ผมไม่ค่อยเข้าถึงแฟนๆ ถึงแม้ว่าจะมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าผมมักจะพักอยู่ที่โรงแรมเฉยๆ ดังนั้นผมไม่ค่อยมั่นใจว่าผมได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าคุณถามผมว่า ทำไมแฟนๆ ถึงชอบผม? อืม...อาจจะเป็นเพราะว่าผมน่ารักมั้ง” (พร้อมหัวเราะออกมา)
