"บริทนีย์" โดนแฉอีกที่แท้เสียสาวตั้งแต่อายุ 14
หากใครยังจำภาพลักษณ์ของสาว"บริทนีย์ สเปียร์ส"เมื่อครั้งเข้าวงการใหม่ๆพร้อมภาพลักษณ์สาวน้อยวัยใสไร้เดียงสาพร้อมประกาศก้องว่าจะรักษาพรมจรรย์ไว้จนกว่าจะแต่งงานจนถูกจัสติน ทิมเบอร์เลกออกมาแฉว่าเธอเสียสาวให้เขาแล้ว ล่าสุดอดีตทนายความของบริทนีย์ออกมาแฉเองว่าแท้จริงแล้วเธอเสียสาวตั้งแต่อายุ 14 ปีต่างหาก
ซึ่งการตีแผ่ความจริงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อนิตยสารอเมริกันฉบับหนึ่งได้สัมภาษณ์อดีตทนายความของนักร้องสาวที่ขอแฉบริทนีย์เองว่าแท้จริงแล้วบริทนีย์เสียสาวตั้งแต่อายุ 14
อีริค เออร์วิน เป็นผู้ออกมากล่าวหานักร้องสาวว่าเคยมีสัมพันธ์สวาทกับเรก โจนส์ เพื่อนชายตั้งแต่วัยเด็กตลอดระยะเวลา 3 ปีที่คบกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่บริทนีย์จะเป็นสาว 15 เต็มตัวเสียอีก
แม้ว่าครั้งแรกตอนเปิดตัวในวงการเพลงฐานะนักร้อง เธอดังมากๆตอนตกเป็นข่าวว่า นักร้องสาวจะขอรักษาพรมจรรย์ไว้และจะรอจนกว่าจะได้แต่งงานถึงค่อยมีเซ็กซ์
ซึ่งอีริค กล่าวย้ำถึงภาพลักษณ์สาวใสของบริทนีย์ที่เกิดขึ้นว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์โปรโมทตัวเธอเท่านั้น จนกระทั่งเธอลงท้ายด้วยการถูกจัสติน ทิมเบอร์เลก ออกมาประกาศสัมพันธ์สวาทอันแสนลึกซึ้งระหว่างเธอกับเขาจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่ว
นอกจากข่าวช็อคล่าสุดนี้แล้วตามรายงานจากนิตยสารยังระบุอีกว่า ครอบครัวของบริทนีย์แต่เดิมก็มีโศกนาฏกรรมความลับในอดีตซ่อนอยู่ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อบุคลิกลักษณะนิสัยส่วนตัวของบริทนีย์ก็เป็นได้
เพราะก่อนหน้านี้ เอมมา จีน สเปียร์ส คุณย่าของเธอได้ฆ่าตัวตายในปี 1966 เมื่อเธอมีอายุได้เพียง 31 ปีเท่านั้น เธอเสียชีวิตหลังจากที่ลูกของเธอเสียชีวิตได้ 8 ปี ซึ่งเด็กน้อยลืมตาดูโลกได้เพียงแค่ 3 วันก็จากโลกนี้ไปเป็นเหตุให้เธอเกิดอาการซึมเศร้าและมีพฤติกรรมแปลกๆจนกระทั่งฆ่าตัวตายในที่สุด
ตามรายงานยังบอกอีกว่า เธอบอบช้ำและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก และเธอไม่สามารถลืมเลือนเหตุการณ์ดังกล่าวได้เลย และเธอยิงตัวเองตายอยู่ข้างหลุมฝังศพลูกน้อยของเธอเอง
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นได้รายงานข่าวการเสียชีวิตในช่วงเวลานั้นว่า "กระสุนถูกยิงเข้าที่หน้าอกและเธอเหนี่ยวไกปืนด้วยการใช้นิ้วเท้าข้างขวาเป็นตัวลั่นไก"
เธอทิ้งลูกๆอีก 4 คนไว้เบื้องหลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นยังรวมถึง เจมี สเปียร์ส คุณพ่อของบริทนีย์ด้วย ซึ่งพี่ชายน้องชายของเจมีเองก็จบชีวิตลงด้วยการถูกขึ้นบัญชีอาชญากรและอีกคนก็เป็นพวกเร่ร่อน
Source: manageronline
