บทสัมภาษณ์ คิม แทฮี กับกระแสวิจารณ์ เธอเป็นนักแสดงสมัครเล่น

เมื่อคนนึกถึง "คิม แทฮี (Kim Tae Hee)" พวกเขามักจะบอกว่าเธอสวย แต่การแสดงของเธอยังมีหนทางอีกยาวให้เดินไป มีคนพูดถึงจุดบกพร่องที่เห็นได้ จากการแสดงของดาราสาวผู้นี้ตลอด ในขณะที่เธอทำงานในฐานะนักแสดงตัวจริง มากกว่าบการเป็นบัณฑิตจากรั้วมหาลัยโซลเนชั่นแนล ภาพยนตร์ "Fight (Ssawoom)" ผลงานล่าสุดของเธอ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ จะสามารถเปลี่ยนความคิดเหล่านั้นได้หรือไม่ สำนักข่าว Chusun Ilbo มีโอกาสได้สัมภาษณ์ และรู้จัก "คิม แทฮี" ได้มากขึ้น

มีคนกล่าวว่าคุณพัฒนาฝีมือการแสดงแล้ว แต่ก็ยังคงมีอีกหลายคนที่กล่าวว่า ฝีมือการแสดงของคุณเป็นแค่นักแสดงสมัครเล่น

"คิม แทฮี" : เมื่อก่อน ฉันแทบจะไม่ได้ตระหนักว่าตนเองจะแย่ขนาดนี้ ฉันยุ่งมากๆ และเมื่อฉันเห็นจุดบกพร่องของตนเอง ฉันกลับบ่ายเบี่ยง แต่เมื่อสองหรือสามเดือนที่ผ่านมานี้ ฉันซื้อดีวีดีละคร "Love Story in Harvard" ซึ่งเป็นผลงานการแสดงปี 2004 มาชมและรู้สึกว่าอับอายตัวเอง จริงๆแล้วฉันจริงใจ และนำความตั้งใจใส่ลงไปในงานแสดง แต่ฉันกลับไม่เตรียมพร้อมแท้ๆ

ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง


"คิม แทฮี" : ฉันรู้สึกดีขึ้น แน่อยู่แล้ว ฉันยังคงมีทางอีกยาวไกลที่ต้องเดินไป

คุณรู้สึกอย่างไร เมื่อมีคนวิจารณ์การแสดงคุณบนอินเตอร์เน็ท

"คิม แทฮี" : ฉันรู้สึกท้อแท้ผิดหวังและโกรธ จนถึงกับไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ในเวลาเดียวกัน มีบางสิ่งในตัวฉัน ปฏิเสธที่จะยอมรับความคิดเห็นเหล่านั้น และผลักดันให้ฉันมุ่งมั่นทำงาน เพื่อให้ได้รับการยอมรับสักวันหนึ่ง

ทำไมคุณถึงมีปฏิกิริยาต่อคนที่ต่อต้านคุณ คุณสามารถทำชีวิตสบายๆด้วยการแค่ถ่ายทำโฆษณาก็ได้

"คิม แทฮี" : เมื่อคนเราเผชิญหน้ากับอะไรที่แปลกใหม่และท้าทาย พวกเขาก็จะตื่นเต้น แต่ก่อน การแสดงก็เหมือนการทำการบ้านอันแสนยาก แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกสนุกหรือรับรู้การประสบความสำเร็จจากการแสดง แต่เดี๋ยวนี้.. ฉันรู้สึกว่าฉันรู้แล้วว่า การแสดงเป็นอย่างไร และฉันคิดว่าฉันมีความสุขจริงๆ เมื่อฉันเป็นนักแสดงหญิงที่ยอดเยี่ยม

ทำไมคุณถึงเลือกตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ เธอเป็นหญิงหย่าร้าง และ ซอล คยองกู ผู้รับบทเป็นอดีตสามี อายุมากกว่าคุณถึง 12 ปี

"คิม แทฮี" : หลายคนต่อต้านที่ฉันรับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน ถามว่าทำไมฉันพยายามแสดงตัวละครที่ดูแก่กว่าฉัน แต่ความจริงก็คือ มันยากที่จะถึงภาพลักษณ์ทัศนคติของแม่หม้ายหรือหญิงที่แต่งงานแล้วในเกาหลีออกมา ตอนนี้หญิงเหล่านี้ยังดูยังสาวอายุน้อยจริงๆ สำหรับ ซอล คยองกู เขาดูเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่าดาราคนอื่นที่ฉันเคยร่วมถ่ายทำด้วย ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ทีมงานผู้หญิงทุกคนต่างชื่นชอบเขาเช่นกัน

เวลาโกรธ ตัวละครที่คุณแสดงคือ จินอา มักจะสวมวิกสีม่วงและร้องไห้ออกมา ในขณะที่ตัวละครของ ซอล คยองกู คือ ซังมิน เป็นคนแปลกรักษาความสะอาด ขัดอ่างอาบน้ำ วิกสีม่วงมีความหมายอะไรหรือเปล่า

"คิม แทฮี" : ฉันคิดว่ามันหมายถึงความหวัง แต่วิกในทางความฝันนึกคิดจะพูดถึงความหวังในอนาคต

คุณทำอะไรเมื่อรู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่า คุณร้องไห้เหมือนกับจินอาหรือเปล่า

"คิม แทฮี" : ฉันจะพึงเพื่อนๆ ฉันเป็นคนรู้สึกโดดเดี่ยวง่ายๆ และฉันไม่สามารถจะเอาชนะกับตนเองได้เลย แต่ฉันก็พยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็ง และยืนหยัดได้ด้วยตนเองสักวันหนึ่ง

คุณรู้สึกว่าไหมว่า คุณสามารถเอาชนะสิ่งนี้ได้ด้วยบทบาทตัวละครที่ได้รับ

"คิม แทฮี" : ฉันไม่เคยตั้งใจพยายามที่จะตกหลุมรัก เพื่อให้ได้รับความสนใจในการแสดงของฉัน แต่ด้วยประสบการณ์แล้วมันช่วยฉันได้ แน่อยู่แล้ว ฉันไม่เคยมีประสบการณ์ในการแต่งงานกับใครสักคน และต่อมาก็ต้องมาเกลียดชังคนนั้น เมื่อโลกแห่งแฟนตาซีมันจบลง แต่ฉันก็มั่นใจว่าพวกเราทุกคน ก็คงเคยมีประสบการณ์เช่นนี้เหมือนกัน การตกหลุมรัก ฉันคิดว่า เป็นส่วนสำคัญในการแสดงเลยทีเดียว

เมื่อถามคนอื่นให้พูดถึงตัวคน คนรอบข้างจะพูดถึงคุณ 2 อย่าง นั่นคือ คุณเป็นหญิงที่ยึดติดกับตัวเอง จะเรียกได้ว่าเป็นคนฉลาด ในขณะเดียวกันก็เกือบจะเป็นคนหลงตัวเอง และคุณเป็นคนซื่อๆหรือเรียกได้ว่าเป็นคนง่ายๆ

"คิม แทฮี" : ผิดไหมที่จะมีความมั่นใจในตัวเอง ฉันคิดว่าผู้หญิงทุกคนมีการหลงตัวเองในบางระดับ ผู้หญิงเริ่มมีความมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อพวกเธอสวย, เป็นกุลสตรี และน่าชื่นชม สำหรับความฉลาดหลักแหลม ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะว่าฉันไม่ค่อยมีประสบการณ์ชีวิตที่มากพอ ในความเป็นจริงก็มีหลายสิ่งที่คนอยากจะเชื่อฉันว่า ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บเมื่อรับรู้ถึงคำวิจารณ์เหล่านั้น

บางคนบอกว่าคุณเข้าวงการแสดงด้วยสติปัญญา อย่างเป็นหัวข้อสำหรับการเรียนรู้มากกว่าจะใช้ความรู้สึกในการแสดง

"คิม แทฮี" : นักแสดงเป็นอย่างไร ดาราระดับสูงบอกฉันว่านักแสดงก็คือนักแสดง เพราะเขาหรือเธอจะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ฉันยอมรับว่าฉันต้องการคำชมเชยเหมือนตอนที่ฉันเคยได้สมัยเรียน เมื่อพวกเราถ่ายทำภาพยนตร์ "Fight" คุณ ซอล คยองกู บอกฉันว่าเขารู้สึกดี ที่เห็นฉันเพลิดเพลินในทุกช่วงของการแสดง เขาบอกว่าเขาเป็นคนอ่อนไหวมากและรู้สึกกดดันมากด้วย ผู้คนคิดว่าฉันเป็นคนมีเหตุผลตลอดเวลา แต่นั่นไม่ใช่ความจริง

JKDramas