ฟาเรนไฮต์รวมตัว เตรียมออกอัลบั้มใหม่

ปลายปี 2007 - ต้นปี 2008 เหล่ากลุ่มบอยแบนด์ในไต้หวัน ต่างก็ออกอัลบั้มใหม่พร้อมกัน โดยที่มิได้นัดหมาย อาทิ ปั้งปั้งถัง, 5566 แม้แต่ F4 เองก็ยังกลับมารวมตัวออกอัลบั้มอีกครั้ง แล้วแบบนี้บอยแบนด์ที่แรงที่สุดของไต้หวันในสองปีนี้อย่างฟาเรนไฮต์ (Fahrenheit) จะยอมแพ้ได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเตรียมออกอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า 'ซวงเมี่ยนเฟยหลุนไห่' (ฟาเรนไฮต์สองหน้า หรือ Two-Sided Fahrenheit หรือ Double Sided Fahrenheit) ในวันที่ 4 มกราคม ปีหน้าแน่นอน โดยค่ายเพลงถึงกับทุ่มทุนกับอัลบั้มชุดนี้เป็นล้าน

หลังจากว่างเว้นงานเพลงไปหนึ่งปี โดยปล่อยให้สี่หนุ่มฟาเรนไฮต์ต่างแยกย้ายกันไปแสดงละครทั้ง 'Hana-Kimi', 'Romantic Princess', 'จงจี๋อีเจีย', 'It Started With A Kiss', 'ฝานกุ่นปะตั้นเฉ่าฟั่น' ซึ่งในละครแต่ละเรื่องที่พวกเขาแสดง ก็ประสบความสำเร็จเรียกเรตติ้งถล่มทลาย รวมไปถึงเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเยอะแยะ จนแฟนเพลงคิดว่า พวกเขาอาจทิ้งงานเพลงไปเป็นนักแสดงซะแล้ว แต่ในที่สุดตอนนี้ฟาเรนไฮต์ก็กลับมาได้รวมตัวเพื่อออกอัลบั้มใหม่ 'ซวงเมี่ยนเฟยหลุนไห่' และเมื่อเร็วๆ นี้ สี่หนุ่มก็ได้มาถ่ายปกอัลบั้มด้วยกัน โดยช่างภาพได้เลือกสระว่ายน้ำใน MOTELหรูเป็นฉาก หวังให้หนุ่มๆ ฟาเรนไฮต์ถ่ายทอดความอ่อนละมุนเหมือนดังสายน้ำส่งผ่านถึงแฟนเพลง ซึ่งสี่หนุ่มใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวลงไปเริงร่าในน้ำเห็นทะลุถึงกล้ามข้างใน มีเพียงช่วงล่างที่ปกป้องไว้อย่างมิดชิด เพราะพวกเขายังสวมกางเกงยีนตัวหนาอยู่ ฟาเรนไฮต์ กล่าวอย่างติดตลกว่า 'พวกเราคือ ฟาเรนไฮต์สองหน้า ตอนนี้ปกป้องส่วนบนไม่ได้ เลยต้องปกป้องส่วนล่างแทนล่ะ ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า แต่ถึงอย่างนั้นทีมงานก็มีผู้หญิงอยู่เยอะ ยังไงพวกเราก็ยังเขินๆ อยู่ดี'

สำหรับเบื้องหลังการถ่ายปกครั้งนี้เมื่อสี่หนุ่มเข้าไปใน MOTEL และเมื่อรู้ว่าสระว่ายน้ำเป็นน้ำอุ่นต่างก็พากันโล่งอก 'วันนี้อุณหภูมิข้างนอกแค่สิบกว่าองศา ตอนเช้าไปถ่ายภาพข้างนอกเกือบหนาวตาย' เมื่อเอ่ยถึงการต้องลงน้ำต่อหน้าคนจำนวนมากอู๋จุน (Wu Zun) รีบแย่งพูดแทรกว่า 'ลงน้ำทั้งทียังต้องใส่เสื้อเชิ้ตให้ยุ่งยากอีก น่าจะถอดให้หมด' พอพูดเสร็จเพื่อนๆ ในกลุ่มก็แย่งกันช่วยถอดเสื้อให้เขาทันที CALVIN ตะโกนเสียงดังว่า 'รูปร่างอู๋จุนดีที่สุด ต้องให้นายถอดก่อน' อู๋จุนถึงกับปัดป้องปากก็ร้องว่า 'ฉันหมายถึงถ้า ซวงเมี่ยนเฟยหลุนไห่ วางแผงแล้วติดชาร์ตอันดับหนึ่งสองสัปดาห์ซ้อน พวกเราจะถอดเสื้อโชว์ตอบแทนทุกคน' ต้าตง (Jiro Wang) รีบสวนกลับว่า 'ฉันไม่ได้ตกลงด้วยนะ อยากถอดนายถอดคนเดียว' ขณะที่คนอื่นกำลังบอกปัดกันใหญ่ มีเพียงเหยียนย่าหลุน (Aaron Yan) ยึดคุณธรรมออกโรงปกป้องเพื่อน 'ไม่เป็นไร อันดับหนึ่งสองสัปดาห์ ฉันถอดเป็นเพื่อนนาย' ทำเอาอู๋จุน หันไปมองย่าหลุนด้วยสายตาขอบคุณ พร้อมกับอธิบายว่า 'อัลบั้มนี้พวกเรามีความกดดันสูงมาก เพราะทุกคนต่างคาดหวังสูง ทำให้พวกเรารู้สึกว่าต้องมีพัฒนาที่สูงขึ้น พวกเราไม่อยากทำให้ทุกคนที่รอคอยผิดหวัง จึงอยากทำให้ได้ตามเป้าหมายที่พวกเราเองวางไว้' เพราะครั้งนี้พวกเขาต้องเผชิญกับกลุ่มวงบอยแบนด์ดังๆที่ออกอัลบั้มใหม่ในช่วงปลายปีพร้อมกันมากมาย โดยเหยียนย่าหลุนออกหน้าอธิบายเพิ่มเติมว่า 'ผมได้ยินมาเหมือนกันว่ามีนักร้องกลุ่มออกอัลบั้มใหม่ 4 วง พวกเราจึงต้องมาพยายามด้วยกัน เพราะทั้ง 4 วง ต่างยอดเยี่ยม ต่างกลุ่มต่างมีจุดเด่น ครั้งนี้ให้ผู้ฟังได้มีโอกาสเลือกอย่างนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ'

ในวงการแสดง ฟาเรนไฮต์ถือว่าเป็นตัวเรียกเรตติ้งอันดับต้นๆ ขณะที่เตรียมออกอัลบั้ม พวกเขายังคงต้องวิ่งรอกกองถ่ายไม่หยุด จนเปิดศึกแย่งชิงคนระหว่างค่ายเพลงกับกองถ่ายละคร กับเรื่องนี้ฟาเรนไฮต์ เปิดเผยว่า 'ตอนนี้พวกเราหวังจริงๆ ว่าจะมี ฟาเรนไฮต์สองหน้า จะได้แยกร่างหนึ่งไปกองถ่าย อีกร่างไปโปรโมตอัลบั้ม' ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลังปรับตารางงานลงตัวอย่างแน่นเอี้ยด ผลปรากฏว่าฟาเรนไฮต์มีเวลาโปรโมตอัลบั้มไม่ถึงครึ่งเดือน ด้วยเวลาอันสั้นนี้ จึงทำให้พวกเขายิ่งทุ่มเทให้กับการทำงานอัลบั้มนี้ 'ถึงแม้เว้นมาช่วงหนึ่งแล้วที่พวกเราไม่ได้รวมตัวกันทำงานเพลง แต่พวกเราเข้ากันได้ไวและเร็ว ปีนี้พวกเรามีประสบการณ์หลากหลายต่างไปทำงานของตัวเอง ถ่ายละคร เป็นพรีเซนเตอร์ มันทำให้ทุกคนมีความรับผิดชอบมีพัฒนาการในการทำงานเพิ่มขึ้นเยอะ 'ซวงเมี่ยนเฟยหลุนไห่' จึงเป็นสัญลักษณ์ว่าถึงพวกเราเติบโตขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งจิตใจขี้เล่นแบบเด็ก ดังนั้นเป้าหมายของพวกเราเองคือก้าวข้ามอัลบั้มแรก และในเมื่ออัลบั้มนี้ชื่ออัลบั้ม ฟาเรนไฮต์สองหน้า แน่นอนว่าก็ต้องทำยอดขายให้ได้เป็นสองเท่าล่ะ'

สำหรับอัลบั้มใหม่ 'ซวงเมี่ยนเฟยหลุนไห่' ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าฟาเรนไฮต์ ทั้งนี้ พวกเขากล่าวย้ำว่า ในอัลบั้มที่สองนี้จุดหลักที่ไม่เหมือนอัลบั้มแรกคือ นอกจากจะมีเพลงแบบเด็กหนุ่ม 'รักใสใส' แล้วยังจะมีเพลงที่ทำให้พวกเขาเป็นหนุ่มใหญ่ 'รักมั่นคง' มีการใช้เพลงรักกินใจถ่ายทอดความรักแท้ 'หลายคนตอนที่มีความรัก โดยเฉพาะตอนเป็นเด็กหนุ่มต่างคงเคยรู้สึกว่าบางครั้งตัวเองก็ทุ่มเทมุ่งมั่นอย่างผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วช่วงตกหลุมรักก็จะรู้สึกว่าตัวเองกลับไปมีนิสัยเป็นเด็กหนุ่ม' ฟาเรนไฮต์ ยังกล่าวต่ออีกว่า 'ที่จริงก็เหมือนอย่างที่ทุกคนรู้สึกกับพวกเราสี่คน มีบางครั้งที่ในละครให้ความรู้สึกเป็นหนุ่มรักมั่นทุ่มเทสุดๆ แต่ก็มีบางครั้งที่ขี้เล่นรักสนุกเหมือนเด็กหนุ่ม 'พูดไปก็คือพวกเราเป็นเด็กหนุ่มที่โตแล้ว แต่เป็นผู้ชายที่ยังไม่โต' ดังนั้นในอัลบั้มนี้พวกเราอยากผสมผสานระหว่างเด็กหนุ่มกับชายหนุ่ม ให้ทุกคนที่ได้ฟังเพลงรู้สึกถึงความใสบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มกับความอ่อนโยนของชายหนุ่มเป็นฟาเรนไฮต์ในสองความรู้สึกที่แตกต่าง' ... ใครที่เป็นแฟนๆ ของวงนี้ก็ตามให้กำลังใจกันได้

สยามดารา