"ปีเตอร์ ชาน" อึ้งฉากบู๊ช็อคโกแลตสุดยอด ยก "จีจ้า" แอ็กชั่นหญิงอนาคตไกล

สำหรับผู้กำกับฯ ยอดฝีมืออย่าง ปีเตอร์ ชาน (Peter Chan) ถือโอกาสในช่วงตรุษจีน บินลัดฟ้ามาพักผ่อน พร้อมกับเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทย นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสชมภาพยนตร์แอ็กชั่นสายพันธุ์ไทยเรื่อง "ช็อคโกแลต" ผลงานเรื่องที่ 3 ของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับฯ ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งเปิดตัวในเมืองไทยเป็นที่แรกในโลก หลังจากที่ ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับฯ ที่เคยผ่านงานการกำกับอย่าง WARLORDS 3 อหังการ์เจ้าสุริยา, THE EYE คนเห็นผี ฯลฯ ถึงกับเอ่ยปากชมว่า จีจ้า ญาณิน ทั้งเก่งและสวยเพียบพร้อมไปด้วยพละกำลัง และความสามารถที่เหนือกว่า มิเชล โหย่ว ยอดนักแสดงแอ็กชั่นหญิงของฮ่องกง และคาดว่าอนาคตบนเส้นทางภาพยนตร์โลกของนักบู๊สาวหน้าหวาน จะเดินไปได้อย่างสวยงามแน่นอน

ซึ่ง ปีเตอร์ ชาน กล่าวว่า "ที่ผ่านมาในภาพยนตร์ทั่วไปอาจมีนางเอกที่สู้เก่ง ดูสวย แต่ดูเหมือนไม่ค่อยมีเพาเวอร์ นั่นเป็นเพราะความรู้สึกที่ว่าสรีระร่างกายผู้หญิงไม่เท่าผู้ชาย แต่ครั้งนี้ไม่แล้วนะครับ หลังจากที่ผมได้ดูน้องจีจ้าในช็อคโกแลตแล้ว นึกไม่ถึงว่านอกจากสวยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแสดงแอ็กชั่น การต่อสู้ ทุกอย่างทำออกมาดีมาก รู้สึกมีเพาเวอร์มากๆ แล้วแอ็กชั่นที่เราเห็นในหนังเรื่องนี้ แทบจะเต็มที่ที่สุดเท่าที่ผมเคยดู สำหรับผู้หญิง รู้สึกจะมากกว่า มิเชล โหย่ว ด้วยซ้ำ ทำออกมาได้เหมือนหนังองค์บาก หรือ ต้มยำกุ้งของ จา พนม เลยทีเดียว ขนาดหนังแอ็กชั่นยังแบ่งเป็นหลายคัต แต่นี่เป็น Long Take ( ถ่ายยาวโดยไม่ต้องตัด) แล้วเห็นทั้งวิ่ง ทั้งโดด ทั้งเตะ หลายอย่างครบชุดในชอตเดียว ซึ่งแบบนี้ผมยังไม่เคยเห็นนักแสดงแอ็กชั่นหญิงคนไหน ไม่ว่าจะเป็น มิเชล โหย่ว หรือใครก็ตามมาก่อน ซึ่งแอ็กชั่นผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นสแตนด์อินหรือตัวแทนมากกว่า นางเอกแอ็กชั่นจริงๆ ก็มี มิเชล โหย่ว จะเป็นคนเดียวเลย แต่เท่าที่ผมเห็นน้องจีจ้าในหนังเรื่องนี้ก็เกินแล้วครับ ถือว่ากล้ามากครับ ดูแล้วรู้สึกเจ็บมาก ขนาดผู้ชายยังเจ็บเลย ก็อยากให้รักษาตัวด้วยนะ ให้กล้าและรักษาตัวด้วย คิดว่าอนาคตจะไปได้ไกลมากๆ เพราะคนต่างประเทศ แทบจะไม่เคยเห็นบทบาทแอ็กชั่นจากนักแสดงหญิงถึงขั้นนี้มาก่อน"

ปีเตอร์ ชาน กล่าวต่อว่า "ผมเชื่อว่า ช็อคโกแลต จะเป็นการตอกย้ำความเป็นต้นตำรับของหนังแอ็กชั่นไทยรูปแบบใหม่ ที่สร้างความฮือฮาในโลกภาพยนตร์อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ จา พนม เคยทำให้มุมมองของหนังแอ็กชั่นเปลี่ยนไป หลังจากที่ องค์บาก และต้มยำกุ้ง ออกฉาย ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้จะเปรี้ยงปร้างไม่แค่ที่ฮ่องกง แต่ทุกที่อีกหลายประเทศด้วย ผมว่าน่าจะเป็น Wave (คลื่นหรือกระแส) อีกอันหนึ่ง หลังจาก จา พนม เคยทำไว้ คิดว่าน่าจะเป็นอีกชื่อหนึ่งของนักแสดงหนังแอ็กชั่นไทย ที่ต่างประเทศจะรู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา หนังแอ็กชั่นของเมืองไทยประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกแล้ว ตั้งแต่หนังเรื่องแรกของ โทนี่ จา อย่างองค์บาก มาจนถึงต้มยำกุ้ง มันเป็นแบรนดิ้งอันดับหนึ่งที่บอกออกไปทั่วโลกให้รู้ว่า หนังไทยแอ็กชั่นเป็นแบรนด์ใหม่ สมัยก่อนคนก็จะดูแต่หนังแอ็กชั่นฮ่องกง แต่เดี๋ยวนี้หนังแอ็กชั่นฮ่องกงก็จะน้อย และมีแต่หนังโบราณ แต่สำหรับหนังแอ็กชั่นสมัยใหม่ รู้สึกว่าเมืองไทยจะเริ่มเป็นหลักของหนังแอ็กชั่นแล้ว ขนาดผู้กำกับฯ คิวบู๊ หรือผู้กำกับฯ ฮ่องกงเก่งๆ ที่ทำแอ็กชั่นก็เริ่มมมองดูว่า เอ๊ะ ทำไมเดี๋ยวนี้เราทำไม่ได้แล้ว ทำไมเราถึงไม่ค่อยทำหนังแอ็กชั่นแล้ว แต่ว่าหนังไทยกลับทำดีกว่า"

สยามดารา