ยอมทิ้งวงการ? "อิซาเบลลา เหลียง" เตรียมเป็นสะใภ้มหาเศรษฐี "ลีกาชิง"

"อิซาเบลลา เหลียง" (Isabelle Leung) ดาราสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นอนาคตของวงการบันเทิงฮ่องกง กำลังจะเป็นแค่อดีตเสียแล้ว เมื่อล่าสุดเธอยกเลิกการติดต่อโดยตรงทุกอย่างกับทางต้นสังกัด เพื่อจะนำไปสู่การยกเลิกสัญญา และตามมาด้วยการเตรียมตัวเป็นสะใภ้ของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเอเซียอย่าง ลีกาชิง (Li Ka Shing) ในไม่ช้า

เหลียงลั่วซือ หรือ อิซาเบลลา เหลียง ดาราสาวดาวรุ่งวัย 19 ที่มีผลงานให้แฟนๆ ได้ติดตามมาทั้ง Isabella, Spider Lilies และหนังระดับฮอลลีวูดที่กำลังเข้าฉายเร็วๆ นี้อย่าง The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor เตรียมจะยุติบทบาทในวงการบันเทิงของเธอในไม่ช้านี้แล้ว เมื่อเธอได้ปลูกต้นรักกับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่นอกวงการนามว่า หลี่เจ๋อข่าย หรือ ริชาร์ด ลี (Richard Li) วัย 41 ลูกชายคนรองของอภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง หลี่เจียเฉิง หรือ ลีกาชิง นั่นเอง

โดยผู้ที่รับบทเป็นแม่สื่อของทั้งสองได้แก่ มิเชล โหยว (Michelle Yeoh) ดาราสาวรุ่นพี่ของอิซาเบลลาที่ร่วมงานกันในเรื่อง The Mummy 3 โดยรายงานข่าวแจ้งว่าทั้งสองควงกันมาได้ครึ่งปีแล้ว แม้ว่าทั้งคู่จะมีอายุที่ต่างกันถึง 22 ปีทีเดียว

ซึ่งต้นสังกัดของอิซาเบลลานั้น ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากค่าย Emperor Entertainment Group ของเจ้าพ่อ อัลเบิร์ต เหยียง ที่กำลังโดนมหันตภัยเฉินกว้านซีเล่นงานอยู่ในขณะนี้ ซึ่งรายงานเปิดเผยว่าริชาร์ด ลีเตรียมทุ่มเงินนับล้าน เพื่อฉีกสัญญาที่ดาราสาวทำไว้กับค่าย ตั้งแต่เธออายุได้เพียง 12 ขวบทิ้งเร็วๆ นี้ด้วย

ทุกวันนี้สาวอิซาเบลลาได้ยกเลิกการติดต่อ ระหว่างเธอกับตัวแทนและต้นสังกัดเธอเรียบร้อยแล้ว โดยมีการตั้งทนายขึ้นมา เพื่อเจรจาผลประโยชน์ระหว่างกันแทน

หลังจากเหตุการณ์สุดช็อคล่าสุดของค่าย EEG เกิดขึ้น ผู้จัดการส่วนตัวของสาวอิซาเบลลาที่ไม่ได้รับการติดต่อจากเธออีกเลย ออกมาแสดงความรู้สึกเสียดายที่อุตส่าห์ดูแลเธอมาอย่างยาวนาน โดยย้ำว่าเธอถือเป็นนักแสดงที่มีศักยภาพที่จะก้าวไปบนเส้นทางนี้ได้อีกไกล และคงน่าเสียดายมากที่เธอตัดสินใจ ที่จะทิ้งทุกอย่างในวงการไปอย่างนี้

เนื่องจากครอบครัวที่มีแม่คอยเลี้ยงดูเธอและพี่สาวเพียงลำพัง อิซาเบลลา เหลียง จึงตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้กับค่าย EEG ตั้งแต่อายุ 12 เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว และได้รับโอกาสออกผลงานเพลงของตัวเองตั้งแต่อายุ 16 ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักแสดงในหนังใหญ่เรื่องแรกอย่าง Bug Me Not! ในปี 2005 จนได้รับการจับตามองว่า เป็นอนาคตของวงการบันเทิงฮ่องกงในที่สุด

แม้จะมีพ่อเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีหมื่นล้าน แต่ ริชาร์ด ลี เลือกที่จะออกมาตั้งตัวด้วยธุรกิจของตัวเอง และจากการสนับสนุนของผู้เป็นพ่อ ปัจจุบันเขาเป็นประธานของเครือ PCCW บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง รวมทั้งมีธุรกิจอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียอีกมากมาย ซึ่งมรดกที่เขาจะได้รับจากผู้เป็นบิดา จะทำให้เขาเป็นหนึ่งในบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในไม่ช้านี้

Manager Online