"มิกะ นากาชิมะ" ฉลองซิงเกิลที่ 25 ในวัยเบญจเพส

ฉลองเบญจเพสไปได้เดือนกว่าๆ แล้วสำหรับนักร้องสาวคนดังของญี่ปุ่นที่แฟนๆ บางคนอาจจะรู้จักเธอในฐานะสาวมาดทอมบอยในหนัง NANA ทั้ง 2 ภาคมากกว่า อย่าง มิกะ นากาชิมะ (Mika Nakashima) ที่ล่าสุดเธอได้รับเลือกจากทางบ.ก.นิตยสาร Rolling Stone เวอร์ชั่นแดนปลาดิบ ให้เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรก ที่ได้ขึ้นปกของหนังสือฉบับเดือนเม.ย.(ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา)

ทาคาอากิ ไอโนะ บ.ก.ของนิตยสารเปิดใจว่า การที่เลือกมิกะมาขึ้นบนปกฉลองครบรอบหนึ่งปีที่ Rolling Stone เพิ่งจะออกจำน่ายในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา หลังจากที่ธรรมเนียมเดิมจะใช้แบบเป็นศิลปินนักแสดงตะวันตกมาตลอด (คนมาเป็นแบบฉบับก่อนคือ จอห์นนี เด็ปป์) เพราะเขาเห็นในศักยภาพ "จิตวิญญาณร็อกอันเข้มข้น" ในตัวของสาวมิกะ และเสริมว่าเธอมีความโดดเด่นออกมาจากผู้นำของวงการเพลงคนอื่นๆ ในประเทศ ที่ยังคงสามารถรักษามาตรฐานของผลงานเอาไว้ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งแต่เดิมทางนิตยสารต้องการผู้มาเป็นแบบที่เป็นศิลปินหญิง ที่สร้างอิทธิพลมากกว่าแค่วงการเพลงที่เธออยู่ ซึ่งมิกะที่มีผลงานอันโดดเด่นทั้งในการแสดงและแฟชั่น ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวที่สุด ซึ่งในนิตยสารยังอุทิศเนื้อหา 4 หน้าเต็มๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเธอล้วนๆ ซึ่งทางนิตยสารเผยว่าจะมีการเจรจาให้มิกะไปขึ้นปกของ Rolling Stone ต้นฉบับในสหรัฐฯ ต่อไปด้วย

และพอดีกับเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่เธอได้ฉลองวัยเบญจเพสด้วยผลงานซิงเกิลชิ้นที่ 25 ในเพลง Sakura ~hanagasumi~ ผลงานบัลลาดสไตล์ถนัดของเธอ และโอกาสนี้เธอได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจต่อทางนิตยสารโอริคอนถึงการทำงานในผลงานช่วงล่าสุดนี้ด้วย

Oricon: Sakura ~hanagasumi~ เพลงใหม่ของคุณฟังดูค่อนข้างเศร้ามากเลยน่ะ

Mika: เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นมาได้ปีกว่าๆ แล้ว และเป็นเพลงที่ฉันอยากจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์มากขึ้นไปอีก ฉันเสนอไอเดียในการดัดแปลงดนตรีและเนื้อร้อง ซึ่งพวกเขาก็ยอมให้ฉันเปลี่ยนแปลงมันหลายส่วน ซึ่งตอนแต่งออกมาแรกๆ มันไม่ใช่อย่างนี้เลย ฉันอยากให้เพลงนี้ฟังออกมาเรียบง่าย ฉันแนะนำให้พวกเขาเขียนเนื้อเพลงที่สื่อถึงความเศร้าอันล้ำลึกขนาดที่ผู้ฟังแทบจะไม่เหลือความหวังใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนที่ตัวเพลงมาด้วยท่อนจบที่ทำให้คนฟังได้สัมผัสถึงความหวังอีกครั้ง ซึ่งฉันคิดว่าเป็นบทสรุปที่ดี

Oricon: คุณมักจะแสดงทัศนะในการแต่งเพลงอย่างนี้บ่อยๆ เลยหรือ

Mika: ก่อนหน้านี้ฉันไม่ค่อยไปยุ่งกับกระบวนการแต่งเพลงเท่าไหร่หรอก ฉันเริ่มมามีเอี่ยวเมื่อ 2 ซิงเกิลล่าสุดอย่าง eien no shi และ LIFE เท่านั้น โดยเฉพาะ LIFE เพราะเพลงนี้ออกมาในช่วงปลายปี ซึ่งฉันรู้ว่าต้องเอาเพลงนี้ไปร้องในหลายๆ งานแน่ๆ แต่แม้ว่าฉันจะชอบเวอร์ชั่นป็อปที่เป็นต้นฉบับของเพลงนี้ แต่มันเป็นแนวที่ฉันยอมรับว่าไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ฉันเลยต้องการเปลี่ยนมันให้มาอยู่ในแนวทางที่ฉันมั่นใจว่าสามารถถ่ายทอดได้อย่างสมบูรณ์ เพลงนี้ฉันจึงเสนอแนวคิดลงไปในเพลงเยอะมากๆ

Oricon: มันเลยกลายเป็นเวอร์ชันบัลลาดที่ฟังดูเพราะจริงๆ และสามารถดึงเอาคุณภาพของเสียงคุณมาใช้ได้อย่างเต็มที่

Mika: ขอบคุณค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องให้คำเสนอแนะนี้เท่าไหร่ คือมีอะไรก็ร้องไปอย่างนั้น แต่เป็นเพราะว่าตัวฉันเป็นคนที่ชื่นชอบในเพลงบัลลาดมาตั้งแต่จำความได้ ฉันจะรู้สึกดีมากๆ ที่ได้ร้องเพลงเหล่านี้ แต่มันไม่ได้หมายความว่า ฉันอยากทำให้เพลงมันร้องง่ายขึ้นหรอกน่ะ แต่เป็นเพราะว่าฉันชอบเพลงนี้มากๆ และในความเห็นของฉัน เวอร์ชั่นบัลลาดสามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนของฉันได้อย่างดี และฉันก็ดีใจกับผลลัพธ์ของมันด้วย

Oricon: การต้องแสดงออกซึ่งความเศร้าอย่างนั้นคงจะยากน่าดู

Mika: เปล่าเลย การแสดงออกถึงความสนุกสนานหรือช่วงเวลาที่เป็นสุขมันยากกว่าเยอะ อย่าถามเลยฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

Oricon: แล้วคอนเซ็ปท์ของเพลงมันคืออะไร

Mika: เพลงนี้ตอนแรกที่ฉันอ่านเนื้อเพลง เข้าใจว่ามันเป็นความรักของหนุ่มสาวทั่วไป แต่หลังจากอ่านไปหลายๆ รอบแล้วถึงได้คิดว่าจริงๆ มันเป็นความรักระหว่างคนในครอบครัว ความรักของแม่ มันมีความหมายดีมากๆ

Oricon: เนื้อเพลงนี้สะท้อนชีวิตจริงของคุณบ้างหรือเปล่า

Mika: การมาอยู่ในวงการบันเทิงทำให้คุณแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวที่เฝ้าห่วงใยคุณเสมอ จำได้ว่า ตอนที่ฉันนั่งเครื่องบินออกมาจากบ้านเกิดที่คาโกชิมา เพื่อมาทำงานในโตเกียว และทิ้งแม่เอาไว้เบื้องหลัง มันทำให้ฉันเศร้าใจมากๆ แต่พอมาถึงที่นี่ ฉันก็รู้ว่าความเศร้ามันไม่มากพอ ที่จะทำให้ฉันล้มเลิกและหันหลังกลับ เพราะฉันคิดอยู่เสมอว่า อีกไม่นานฉันจะต้องพาพ่อแม่มาอยู่ด้วยกันที่โตเกียวให้จงได้ และตอนนี้เราก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาที่โตเกียวแล้ว แต่แม้เราจะคุยกันบ่อยแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ค่อยเอาเรื่องงานไปคุยกับท่านเท่าไหร่ เพราะฉันคิดว่าไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนฉันก็ไม่อยากทำให้ท่านเป็นห่วง

Oricon: แล้วปีนี้คุณตั้งเป้าหมายเอาไว้อย่างไรบ้าง

Mika: ฉันตั้งเป้าหมายเอาไว้หลายอย่าง แต่ก่อนอื่นสิ่งที่ฉันต้องทำเป็นอย่างแรกคือการฝึกซ้อม ทั้งทางกายภาพ, เสียงร้อง และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะตอนนี้ฉันยังไม่ได้เริ่มอะไรซักอย่าง

Oricon: ว้าว หลังจากนี้ตารางทัวร์ของคุณแน่นเอียดเลย เหลือเชื่อน่ะเนี่ย

Mika: ตอนนี้ฉันมีพลังเหลือเฟือ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ค่อยห่วงเรื่องความฟิตเท่าไหร่ แต่อีกไม่นานฉันคงพูดแบบนี้ไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) ก่อนที่สังขารจะพรากมันไป ฉันต้องทำความคุ้นเคยกับการออกกำลังกายเอาไว้มากๆ

Oricon: คำถามสุดท้าย อัลบั้มต่อไปจะออกมาในแนวไหน

Mika: ตอนนี้ยังเจาะจงไม่ได้ แต่ฉันอยากให้ชุดต่อไปมีความเป็นป็อปมากขึ้น ตอนนี้ฉันชอบเพลงที่มีความเรียบง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำอะไรที่แตกต่างจนหลุดโลกหรอกน่ะ เพราะชุดที่แล้ว (Yes) เพลงป็อปของฉัน มีกลิ่นอายของนิวออร์ลีนหรือเร็กเก้อย่างเข้มข้น แต่ชุดต่อไปฉันอยากทำเพลงที่แฟนๆ เข้าถึงง่ายกว่านั้น เหมือนอย่างเพลง Sakura ~hanagasumi~ เป็นต้น แนวเพลงชุดหน้าจะเป็นอย่างไรคงจะบอกได้ก็ต่อเมื่อเราลงมือทำกันไปซักพักแล้ว

Oricon: ถ้างั้นเราอาจจะได้ฟังธีมที่เป็นเจ-ป็อปฟังสบายในชุดต่อไปใช่ไหม

Mika: อาจจะน่ะ (หัวเราะ) เพราะว่ามันเป็นแนวที่ฉันหลงรักตอนนี้ซะด้วยซิ

[PV] 中島美嘉 - SAKURA~花霞~
SAKURA ~Hanagasumi~ ซิงเกิลล่าสุด

Yuki No Hana (with eng subs) หนึ่งในเพลงที่ดังที่สุดของมิกะ ที่มีทั้งนักร้องหญิงและชายทั่วเอเชียไปร้องใหม่มากมายทั้งในภาษาญี่ปุ่น, เกาหลี, กวางตุ้ง,จีนกลาง (ส่วนภาษาไทยมีในเพลง WILL)

Mika Nakashima - Life [Kouhaku Utagassen 2007]

Manager Online