คุยกับ "กัวฟู่เฉิง - เจิ้งอี้เจี้ยน" 2 พระเอกดังสุดฮอต

หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า (Storm Riders) สร้างขึ้นจากหนังสือการ์ตูนจีนกำลังภายในเรื่องดังของ หม่าหยงเฉิน เคยสร้างความฮือฮากันไปแล้วเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

โดยการกำกับของ แอนดรูว์ เลา ล่าสุด บริษัท ยูนิเวอร์ส เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้มอบหมายให้ 2 พี่น้อง ทั้ง อ๊อกไซด์ และแดนนี่แปง มานั่งแท่นกำกับ "ฟงอวิ๋น 2" หรือ "เดอะ สตอร์ม ไรเดอร์ #2" ซึ่งจะปักหลักถ่ายทำในเมืองไทยเป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยดึง กัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok) และ เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng) กลับมารับบทปู้จิ้งอวิ๋น และ เนี่ยฟง อีกครั้ง

โดยสองผู้กำกับชื่อดังได้ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้อง พร้อมทั้งให้สื่อมวลชนเข้าเยี่ยมกองถ่ายทำ ที่โกดังสยามทุนพัฒนา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทั้งนี้อ๊อกไซด์ และ แดนนี่ แปง กล่าวว่า สำหรับภาพยนตร์ ฟงอวิ๋น ภาคที่ 2 นี้ ไม่ได้ต่อเนื่องจากภาคแรก มีการใช้เทคนิคใหม่ ซึ่งในภาค 2 จะมีความแปลกใหม่ แตกต่าง

ทำไมถึงเลือกนักแสดงกัวฟู่เฉิง กับ เจิ้งอี้เจี้ยน

หนังเรื่องนี้ห่างจากภาคแรก10 ปี ซึ่ง แอนดรูว์ เลา เขากำกับไว้ ที่เลือกกัวฟู่เฉิง กับ เจิ้งอี้เจี้ยน เพราะทุกคนจำภาพฟงอวิ๋นภาคเก่าได้ ภาคเก่าเขาอาจจะดูเหยาะแหยะ แต่นี่เขาแข็งแรงขึ้น

มีใครซื้อหนังเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ประเทศโซนเอเชียได้ซื้อไปหมดแล้ว ส่วนในโซนยุโรปและอเมริกา ต้องรอให้หนังเสร็จก่อน ส่วนงบประมาณในการลงทุนก็ 300 ล้านบาท ถามว่าจะสู้ภาคแรกได้หรือไม่ ผมว่าเมื่อสมัย 10 ปีที่แล้ว ผู้กำกับ เขาทำรายได้เยอะ ก็ถือว่าเก่งมาก ซึ่งเราก็ยอมรับในตัวเขา พอมาถึงการทำงานของเรา เราก็ไม่ได้คิดว่าจะดีกว่า อย่างน้อยความสำเร็จก็ต้องทำให้เสมอกัน

กดดันหรือไม่ที่มาทำภาค 2

ถามว่ากดดันไหมที่ทำภาค2 ก็ต้องกดดันอยู่แล้ว แต่เราก็ทำให้ดีที่สุด แต่อย่างน้อยก็อยากให้คนพูดว่าดีกว่าภาคแรก ยังไงอยากให้ติดตามชม ในปี 2009 คิดว่าได้ดูแน่นอน

ทำไมถึงเลือกถ่ายทำเมืองไทย100%

เราคุ้นเคยกับที่นี่ทีมงานส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทย ที่เคยร่วมงานหนังกันมา 3-4 เรื่อง ยอมรับว่าสภาพปัญหาอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนมาก แต่ไม่เป็นปัญหา สำหรับเรื่องนี้ เราใช้เทคนิคพิเศษมาก โลเกชั่นก็เซตใหม่ เป็นการถ่ายทำในสตูดิโอ 90% เพื่อให้ภาพสวยงาม ยอมรับว่าสเปเชียลเอฟเฟกท์ เยอะพอสมควร

สำหรับพระเอกฮ่องกงกัวฟู่เฉิง กล่าวว่า เรื่องสภาพอากาศในเมืองไทยนั้นไม่เป็นปัญหา เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ฟิตร่างกายเพื่อเล่นคอนเสิร์ตอยู่แล้ว

ได้มาร่วมงานภาค2 อีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง

การกลับมาเล่นใหม่อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปีแล้ว ความคิดผมก็เปลี่ยนไป เป็นคนที่ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนการถ่ายทำบู๊ก็ไม่มีปัญหา ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถามว่ากดดันไหมกับภาค 2 ไม่มีความกดดันเลย

การทำงานกับผู้กำกับอ๊อกไซด์ และแดนนี่ แปง เป็นอย่างไรบ้าง

ผมว่าเขามีความพิเศษ เขาเป็นพี่น้องกัน ด้วยความคิดของเขา มีความคิดคล้ายคลึงกันมาก การรวมตัวของเขาทั้งสองคน ถือว่าเก่งมาก

มาเมืองไทยบ่อยหรือเปล่า

สำหรับการมาเมืองไทยผมมาหลายครั้งแล้ว ผมประทับใจของกินและคน เพราะคนไทยมีรอยยิ้ม สำหรับ 4 เดือนที่อยู่ที่นี่ ไม่ได้วางแผนไปไหนทั้งสิ้น เพราะตั้งใจมาถ่ายหนัง และจะมาเรียนการพูดภาษาไทย

ส่วนพระเอกหนุ่มเจิ้งอี้เจี้ยนผู้รับบท"เนี่ยฟง" กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาแสดงในภาค 2 นี้ เพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง "ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า" ประสบความสำเร็จอย่างสูง การได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งถือว่าเป็นวาสนา

อากาศที่เมืองไทยร้อนมากเป็นอุปสรรค์ในการทำงานหรือเปล่า

มาเมืองไทยครั้งนี้ก็รู้สึกดีใจการทำงานก็ราบรื่นดี ถึงแม้อากาศเมืองไทยจะร้อน แต่ผู้กำกับก็ดูแลเราอย่างดี ซึ่งเราก็สู้กับอากาศร้อนด้วย กับการมาถ่ายทำที่นี่ 4 เดือน หลักๆ ตั้งใจจะมาถ่ายหนัง ไม่ได้ตั้งใจมาทำอย่างอื่น แต่กิจกรรมก็อาจจะมีไปว่ายน้ำบ้าง

อยากไปเที่ยวไหนบ้าง

ก็คงทะเลทางภาคใต้แต่คงต้องเป็นที่ที่ไม่มีชื่อเสียง เพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว จริงๆ การอยู่ฮ่องกง ก็มีโอกาสได้โปรโมทที่เที่ยวในเมืองไทยไปหลายที่เหมือนกัน เพราะชอบเกาะต่างๆ ในเมืองไทย และแสงแดด

อย่างไรก็อย่าลืมติดตามภาพยนตร์ของสองผู้กำกับและสองนักแสดงชื่อดังเร็วๆ นี้

คม ชัด ลึก