บทสัมภาษณ์ กับ โจ เฉิง (Joe Cheng) นักแสดงนำใน "แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก"

ทุกคนคงจำกันได้ดีในการถ่ายทอดการให้สัมภาษณ์กับเจิ้ง หยวน ชั่ง (Zheng Yuan Chang - Joe Cheng) ที่ออกอากาศในคืนวันก่อนเทศกาลตรุษจีน ตอนนั้นเขาหวังว่าเขาจะเปลี่ยนบางอย่างในตัวเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาต้องการความท้าทายเพื่อพัฒนาฝีมือด้านการแสดงของเขา และเขาก็ไม่ใช่แค่เพียงอัจฉริยะเจียง จือ ซู่ (บทของเขาในเรื่อง It Started With A Kiss : They Kiss Again) อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันคราวนี้ พวกเราก็ได้เชิญเขามาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง เจิ้ง หยวน ชั่งเพิ่งถ่ายละครเรื่อง Honey and Clover เสร็จโดยบทของเขาเป็นคนที่ลังเลไม่สามารถตัดสินใจได้สักที (คนที่น่ารำคาญมากๆ ทุกคนจะต้องยิ้มยิงฟันแน่ๆ เมื่อได้เห็นเขา) อาจจะหลงรักหรือเกลียดเขาในเวลาเดียวกัน หวังว่าทุกคนจะไม่ใช่ชอบผมเฉพาะที่ว่าผมดูดี ผมต้องการให้ทุกคนพูดว่าผมแสดงได้ดี

คู่หูสุดซี้ในละครเรื่อง They Kiss Again ที่เจิ้ง หยวน ชั่งและหลิน อี เฉิน (Lin Yi Chen) ได้ร่วมงานกัน กำลังออกอากาศอยู่ที่ไต้หวัน จากคู่รักที่ชอบทะเลาะกัน กลายเป็นสามีภรรยาคู่วิวาท เขายังสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในฉากรัก ที่คู่รักมากมายได้ผ่านมา แต่เรตติ้งของเฉิน เฉียน เอิน(Chen Qian En) และอีธาน รวน(Ethan Ruan) ในเรื่อง Fated To Love You ก็ตามมาติดๆ เรื่องนี้ทำให้เจิ้ง หยวน ชั่ง(เสี่ยว จง)ไม่สบายใจบ้างหรือเปล่า?

การลาจากหลิน อี เฉิน เป็นระยะเวลาสั้นๆ

เจิ้ง หยวน ชั่งกล่าวว่า "เรตติ้งไม่สามารถควบคุมได้โดยนักแสดง ขณะการถ่ายทำ ผมคิดอยู่เสมอว่านี่เป็นบทที่ดี ที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นนักแสดงทั้งหมดมีความตั้งใจทำงานอย่างหนักด้วยกัน เหมือนกับว่าหลังจากพวกเขาถ่ายในฉากของตัวเองเสร็จ พวกเขาก็จะนั่งรอดูการถ่ายทำของนักแสดงคนอื่นๆ และแยกย้ายเมื่อทุกคนทำงานเสร็จ สถานการณ์อย่างนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่ว่าอาจเป็นเพราะบางทีผู้ชมยังคงชอบดูคู่รักสามีภรรยาที่หวานแหววมากกว่าที่ชอบทะเลาะกัน อย่างไรก็ตามละครเรื่องนี้ก็ยังออกอากาศไม่จบ ช่วงท้ายของละครเรื่องนี้จะยิ่งน่าตื่นเต้นขึ้นอีก ผมเชื่อว่าผู้ชมจะต้องดูต่อแน่และผมในฐานะนักแสดง ผมรู้สึกดีใจมากกับผลที่ออกมา" นี่จะสามารถพูดได้เพียงว่า ละครเรื่อง They Kiss Again ไม่สามารถทำลายคำสาปในเรื่องที่ว่า เรตติ้งของละครภาคต่อมา ไม่มีทางที่จะสู้กับเรตติ้งภาคก่อนได้

ไม่สำคัญเลยว่าเรตติ้งของภาคนี้จะดีกว่าภาคก่อนหรือไม่ เสี่ยว จงตัดสินใจมานานแล้วว่า เขาจะไม่เล่นในภาคที่สามต่อ "เว้นแต่ว่า ผมจะชอบบทจริง! จริงๆแล้ว ผมคาดหวังไว้สูงนะ ที่จะได้ทำงานร่วมกันหลิน อี เฉินอีก ในบทบาทที่แตกต่างไป นอกเหนือจากการทำงานร่วมกันในบทของจือ ซู่และเซียง ชินเท่านั้น เมื่อพวกเรากลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ในบทที่แตกต่างไป พวกเราจะรู้ว่า หลังจากที่พวกเราแยกกันไปในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเรามีการพัฒนาทักษะด้านการแสดงหรือไม่"

เมื่อไม่นานมานี้ (นักข่าว) ได้ยินว่าละครเรื่อง Skip Beat ต้องการให้พวกเขาทั้งสองกลับมาทำงานร่วมกันอีก แต่ต้องรอจนถึงเดือนตุลาคมถึงจะได้รู้คำตอบที่แน่นอน คำถามเกี่ยวกับว่าเขาจะรับเล่นหรือไม่ ขั้นแรกนั้นต้องให้เขาได้อ่านบทก่อน เพราะเขาไม่ต้องการเสี่ยงกับชื่อเสียงของเขาในฐานะคู่ที่ดีที่สุด ดังนั้นจึงต้องพิจารณาบทจากสคริป ก่อนที่จะรับเล่น และในช่วงขณะนี้ เสี่ยว จง กำลังหาคู่หูคนใหม่ เพื่อค้นหาคนที่ถูกใจเพิ่ม

ปฏิเสธตกหลุมรักจานิน ชั่ง

ก่อนหน้านี้ข่าวลือของเสี่ยว จง เกี่ยวกับนักแสดงนำหญิงจะไม่ใช่หลิน อี เฉิน ได้ยินมาว่าได้เปลี่ยนเป็นอีกคน และคนๆนั่นคือคนที่สื่อของไต้หวันกำลังพูดถึงเธอในฐานะ Popularity Beauty จานิน ชั่ง (Janine Chang) นักแสดงนำในละคร "เกมชีวิต ลิขิตหัวใจ" (The Hospital) เขาทั้งสองทำงานร่วมกันในเรื่อง Honey and Cloverและข่าวลือได้บอกว่าพวกเขาปิ๊งกัน ได้มีแฟนคลับของเจิ้ง หยวน ชั่ง+หลิน อี เฉิน ออกมากล่าวหาว่าเสี่ยว จงทรยศต่อหลิน อี เฉิน เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาไม่ยอมรับจานิน ชั่ง หลังจากเสี่ยวจงได้ยินข่าวนี้ เขาก็ไม่ได้โกรธแต่ตรงกันข้ามคือ เขารู้สึกมีความสุขและกล่าวว่า "นี่แสดงให้เห็นถึงว่าหลิน อี เฉินกับผมสร้างความตราตรึงและประทับใจให้กับผู้ชม แฟนคลับอินกับในละครมากกว่าตัวจริงของพวกเรา และพวกเขายังหวังว่าพวกเราจะเป็นคู่รักกันทั้งในจอและนอกจอ อย่างน้อยตอนนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และก็ขอให้แฟนๆเหลือที่ว่างให้พวกเราได้พัฒนาทักษะด้านการแสดงด้วย ผมไม่ต้องการให้หลิน อี เฉินเบื่อผม! ส่วนข่าวลือกับจานิน ชั่ง... ยังคง ok! เป็นแค่ผู้ร่วมงานในละคร มาจนถึงจุดนี้พวกเรายังไม่ได้คกัน"

ไม่ได้คัดค้าน ที่จะตกหลุมรักผู้หญิงที่แก่กว่า

เสี่ยว จงเปิดเผยว่าเขามีใจให้กับผู้หญิงอีกคนที่แสดงนำในละคร และนั่นก็คือทาร์ซี่ ซู (Tarcy Su) ด้วยเสียงที่น่าสงสัยฉัน(นักข่าว)กล่าวว่า"ทาร์ซี่ ซูมีอายุมากกว่าคุณ 10 ปีใช่ไหม?" ความรู้สึกไม่ใช่แค่การคบกัน แต่มันสามารถเป็นเรืองของความชื่นชอบ เสี่ยว จงอธิบายว่าทาร์ซี่ ซูมีคนที่สามารถดึงดูดผู้อื่นอย่างไม่รู้ตัวได้ ดูเหมือนว่าเสี่ยว จงจะอินกับบทบาทของเขา เพราะในละคร ทาร์ซี่ ซูและเขาจะมีความสัมพันธ์กันในลักษณะของผู้หญิงมีอายุมากกว่าผู้ชาย ในชีวิตจริงเขาจะรับได้หรือไม่? เสี่ยว จงให้ความคิดเห็นและบอกว่า "มันพูดยาก แต่ผมเป็นคนคิดอะไรเป็นผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้น ด้วยวุฒิภาวะแล้ว(พวกเรา)ไม่มีอุปสรรคในการสื่อสารกัน แต่คงจะต้องมีการคบกันไปสักพัก เพื่อให้รู้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึก"

ในเรื่อง Honey and Clover จะแสดงเป็นคนติงต๊อง

ในเรื่อง Honey and Clover เสี่ยว จงจะแสดงเป็นเจิน ซาน (Zhen Shan) เขาอธิบายว่าในบทเขาน่ารำคาญมาก ทำให้ผู้หญิงรักและเกลียดเขาในเวลาเดียวกัน บทบาทนี้ไม่เหมือนกับบทที่เขาเคยเล่นมาก่อนเลย เขาตกหลุมรักนายจ้างของเขา (ทาร์ซี่ ซู) ผู้ซึ่งมีอายุมากกว่าเขา เขาหวังอยู่ตลอดว่าเขาจะสามารถเริ่มความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอได้ และในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ว่าเพื่อนที่โรงเรียน ที่ชื่อว่า อากง (จานิน ชั่ง) แอบปิ๊งเขา แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธความรักและความเอาใจใส่ของเธอ แต่ใจของเจิน ซานก็ยังคงมีแต่นายจ้างของเขา "เมื่อผมได้อ่านสคริปในตอนแรก ผมรู้สึกเกลียดมันมาก เขาทำให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? แต่เมื่อผมมองไปรอบตัว และก็พบว่ามีเพื่อนผมมากมายทำเช่นนั้น พวกเขามีคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว และยังไม่ยอมปฏิเสธคนอื่นที่เข้ามาชอบเขาอีก ผมถามพวกเขาว่าทำไม และพวกเขาก็ตอบว่าอย่าทำลายจิตใจของผู้หญิงที่ดี ที่ไม่ได้หวังจะเอาความรักไปเป็นของพวกเขาเอง ควรจะให้ความหวังกับพวกเขาไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นผมจึงตระหนักได้ว่าความรักทุกวันนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย ทุกๆคนต้องการทิ้งรอยด่างในชีวิตรักของคนอื่น อาจจะอยู่ในใจของคนอื่นเป็นระยะเวลาสั้น เสี่ยว จงอธิบายบทบาทของเขาว่าเป็นคนง่ายๆ เพราะบุคลิกของคนเรา ซึ่งยากต่อการเข้าใจ ยากที่จะหาคนที่สมบูรณ์แบบ เมื่อทุกคนดูจนยิ้มยิงฟัน ในขณะเดียวกัน ผมก็หวังว่าพวกเขาไม่เกลียดตัวละครนั้น"

ต้องการความท้าทายในการแสดง / ไม่ต้องการพึ่งหน้าตารูปร่าง

Honey and Clover ดัดแปลงมาจากการ์ตูนที่ขายดีในญี่ปุ่น เรื่องราวเกี่ยวกับนักเรียน 5 คนในโรงเรียนสอนศิลปะ และพวกเขาจะทำอย่างไรกับความรัก, ความเป็นเพื่อน และอนาคต และใครจะสามารถหาใบไม้สี่ใบที่จะนำโชคมาให้ได้ ในตอนสุดท้ายและได้ลองว่าความรักจะหวานเท่านํ้าผึ้งหรือไม่? มันเป็นเพราะพล็อตเรื่องและได้รับการดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุน ฉากจึงดูเวอร์ อย่างเช่น ตอนที่นักแสดงทั้งหมดนำบังเอิญเจอเหตุการณ์พิเศษ พวกเขาก็เริ่มจะแสดงปฏิกริยาบางอย่างของแต่ละคนออกมา ตัวอย่าง เช่น จานิน ชั่งจะเตะคน ในขณะที่เจิ้ง หยวน ชั่งจะทำหน้าทะเล้น ผู้กำกับเรียกเหตุการณ์เช่นนี้ว่า "การเปลี่ยนแปลงโดยใช้เวลาหนึ่งในพันของหนึ่งวินาที" ซึ่งหมายความว่าในเวลาหนึ่ง พวกเขาจะต้องเปลี่ยนสีหน้าตลอด และการที่จะต้องแสดงให้เว่อร์ๆอย่างนี้ เป็นเรื่องยากสำหรับเสี่ยว จงที่ปกติจะเล่นเป็นคนที่เท่และดูดี แต่ในเมื่อเขาต้องการความท้าทาย เขาก็ต้องการที่จะลองมัน "ผมหวังว่าเสียงตอบรับที่ผมจะได้รับจากทุกคน จะไม่เพียงแค่ท่าทางที่ดี แต่จะเป็นว่าเขาได้พัฒนาทักษะการแสดงของเขา นั่นคงจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด" เสี่ยว จงต้องการคงความเป็นที่หนึ่งในละครของเขาเอาไว้ และการที่จะต้องการแข่งกับดาราหน้าใหม่ เขาจะพึ่งแต่หน้าตาของเขาได้อย่างไร?

Mingpao / asianfanatics