"สามก๊ก" ของ "จอร์น วู" ส่อวุ่น หลัง "โจวหยุนฟะ" ขอรีเทิร์น

ทนแรงเสียดทานจากสื่อมวลชนในฮ่องกงไม่ไหว จนต้องกลับคำหรือเปล่า สำหรับนักแสดงผู้เป็นตำนานของฮ่องกงอย่าง "โจวหยุนฟะ" ที่ล่าสุดออกมาทำสัญญาปากเปล่าว่า เขาพร้อมที่จะกลับไปร่วมแสดงใน "สามก๊ก" ฉบับ "จอร์น วู" อีกครั้งแล้ว หลังจากทำเอาแฟนๆ ทั่วโลกอกหัก ด้วยการเดินออกจากโปรเจ็คท์ดังกล่าว ก่อนเปิดกล้องไม่กี่วันเมื่อเดือนที่แล้วอยู่แท้ๆ ตามรายงานจาก USA Today และ japan-zone.com

The Battle of Red Cliff หรือ โจโฉแตกทัพเรือ ผลงานดัดแปลงจากมหากาพย์ Romance of the Three Kingdoms หรือ สามก๊ก วรรณกรรมคลาสสิคของจีนในศตวรรษที่ 14 ผลงานกำกับเรื่องล่าสุดของ จอห์น วู ที่โด่งดังตั้งแต่การประกาศนักแสดงที่จะมารับบทในเรื่องแล้ว เมื่อแฟนๆ ต่างตั้งตาคอยการประชันบทของโจวหยุนฟะ และเหลียงเฉาเหว่ยกันแทบทั้งนั้น

แต่ข่าวที่ตามมาของเรื่องนี้ก็คือเรื่องวุ่นๆ ของการคัดตัวแสดงที่มีปัญหามาให้จอห์น วูปวดหัวแบบไม่หยุดหย่อน เมื่อพระเอกที่วางตัวเอาไว้ทั้งสองกลับเดินออกจากโปรเจ็คท์ทั้งคู่

ที่โด่งดังจนเป็นข่าวทั่วฮ่องกงไม่นานมานี้ได้แก่การตัดสินใจปัดบท จิวยี่ ของ โจวหยุนฟะ ก่อนที่จะเดินกล้องถ่ายทำแค่เพียง 3 วัน โดยโจวหยุนฟะให้เหตุผลว่า ไม่มีเวลาเตรียมตัวมากพอ เพราะได้บทมาช้าเกินไป

ขณะที่บทสำคัญของเรื่องอีกคนอย่าง โจโฉ ที่เดิมทีวางตัวให้นักแสดงระดับออสการ์อย่าง เคน วาตานาเบะ มาแสดงนั้น ก็ถูกโจมตีจากรอบด้าน ฐานให้นักแสดงชาวญี่ปุ่น ที่เป็นหอกข้างแคร่มารับบทเป็นตัวละครศักดิสิทธ์ของจีนรายนี้

รายสุดท้ายที่มีปัญหาได้แก่ เหลียงเฉาเหว่ย ที่บอกว่าเขาไม่พร้อมสำหรับบทขงเบ้ง เนื่องจากไม่มีเวลาเตรียมตัว สำหรับบทที่ต้องพูดด้วยภาษาจีนกลางในเรื่อง ซึ่งพระเอกที่ขี่ม้าขาวมาช่วยจอห์น วูไว้ทันได้แก่สุดหล่อเลือดไต้หวัน-ญี่ปุ่น อย่าง ทาเคชิ คาเนชิโร ที่จะมาสวมบทขงเบ้งในเรื่องนี้ ซึ่งเหลียงเฉาเหว่ยอ้างว่า ถึงแม้ทาเคชิจะมีเวลาเตรียมตัวน้อยกว่า แต่ดาราผู้น้องที่เคยร่วมงานกันในเรื่องล่าสุดอย่าง Confession of Pain คนนี้ ก็คล่องในภาษาจีนกลางมากกว่าเขามากนัก ซึ่งตัวเหลียงเฉาเหว่ยเอง ได้ถูกดันให้ไปเล่นบทจิวยี่ของโจวหยุนฟะแทน

แต่ล่าสุดทาง โจวหยุนฟะ นักแสดงวัย 51 ได้ทำการตกลงกับตัวแทนของทีมสร้างว่า จะกลับมาร่วมงานในโปรเจ็คท์นี้อีกครั้ง หลังจากถูกสื่อมวลชนเล่นงานว่า เอาความเป็นดาราใหญ่มาตั้งแง่ แถมยังถูกมองว่าเป็นการหักหลังจอร์น วู ผู้กำกับที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับเขา จากการร่วมงานกันใน A Better Tomorrow หรือ โหดเลวดี หนังแก๊งมาเฟียสุดเมื่อปี 1986 ด้วย

การทำสัญญาปากเปล่าดังกล่าว ทำให้ทางทีมงาน ต้องไปพิจารณาการหาบทสำหรับโจวหยุนฟะในเรื่องนี้ต่อไป แต่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ที่จะรับบทละครหลักๆ ที่วางตัวกันไว้เรียบร้อยแล้วอย่างแน่นอน

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จอร์น วู และทาเคชิ คาเนชิโรได้พากันไปโปรโมทผลงานเรื่องนี้กันที่นครปักกิ่ง สถานที่ถ่ายทำและสำหรับฉายเปิดตัว จากการสนับสนุนของรัฐบาลจีน

The Battle of Red Cliff ใช้ทุนสร้างกว่า 80 ล้านเหรียญ นับเป็นภาพยนตร์จากเอเชีย ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในปัจจุบัน จะแบ่งออกฉายเป็น 2 ภาค โดยภาคแรกจะถ่ายทำให้เสร็จ ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงฤดูร้อนปีหน้า และภาคสุดท้ายจะลงโรงฉายช่วงปลายปี 2008

จากปัญหาเรื่องตัวผู้แสดง ทำให้แผนกำหนดการณ์เดิมของการถ่ายทำ ต้องเลื่อนจากปลายเดือนมี.ค.มาเป็นกลางเดือนเม.ย.แทน ซึ่งในเรื่องที่บรรยายถึงกองทัพที่มีจำนวนนับล้านคน ที่ทำให้จอร์น วูต้องมีการถ่ายทำพร้อมๆ กันทีละหลายๆ ยูนิตเพื่อให้หนังเสร็จทันกำหนดฉาย

ในการแถลงข่าว จอร์น วู ยังได้เปิดใจถึงประเด็นการแยกตัวไปก่อนหน้านี้ของโจวหยุนฟะว่า ทำให้เขาหัวเสียเป็นอย่างมาก แต่ยังยืนยันว่าเขาทั้งสองยังเป็นเพื่อนรักกันอยู่ดี และกล่าวขอบคุณในน้ำใจของเหลียงเฉาเหว่ย ที่ยอมมารับบทของโจวหยุนฟะได้ทันเวลา

นอกจากจะเป็นวรรณกรรมที่ได้รับความนิยมตราบจนปัจจุบันแล้ว สามก๊ก ยังได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ ผ่านทางสื่ออย่างละครทีวี, การ์ตูน และเกมส์คอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับทาเคชิ คาเนชิโร ที่เปิดใจถึงการมารับบทในเรื่องนี้ว่า "ผมเป็นแฟนการ์ตูน และเกมส์สามก๊กมาตั้งแต่เด็กแล้ว ผมรู้เรื่องราวต่างๆ ในนั้นเป็นอย่างดี"

นอกจาก สามก๊ก แล้ว ทาเคชิ คาเนชิโร ดูจะไปได้ดีสำหรับหนังประวัติศาสตร์จีน หลังจากเพิ่งจะเสร็จการถ่ายทำ The Warlords อีกโปรแกรมมหายักษ์ที่เขาได้ประชันบทกับ เจ็ท ลี และ หลิวเต๋อหัว มาแล้ว

รายชื่อนักแสดงสำคัญใน The Battle of Red Cliff ล่าสุด

ทาเคชิ คาเนชิโร เป็น ขงเบ้ง
เหลียง เฉา เหว่ย เป็น จิวยี่
จาง ฟาง อี้ เป็น โจโฉ
ยู่ หยาง เป็น เล่าปี่
ฮู จุน เป็น จูล่ง
ชาง เฉิน เป็น ซุนกวน
จ้าวเหว่ย เป็น ซุนฮูหยิน น้องสาวของซุนกวนที่แต่งงานกับเล่าปี่
หลินจื้อหลิง เป็น เสี่ยวเกียว ภรรยาของจิวยี่

Source : Manager Online