เปิดใจพระเอก Dragonball Evolution ลั่น "ผมอยากเป็นโกคุจากภายใน"

"จัสติน แช็ตวิน" (Justin Chatwin) และ "เจมี ชุง" (Jamie Chung) ผู้รับบทเป็น "ซุงโกคุ" และ "จีจี้" พระเอกนางเอกจากฉบับภาพยนตร์ Dragonball Evolution ได้บินมาพร้อมกับทีมนักแสดงทั้ง 6 เพื่อมาเปิดใจต่อแฟนหนังชาวไทย ที่จะเป็นหนึ่ง 3 ประเทศเท่านั้นที่จะได้ดูหนังที่แฟนการ์ตูนทั่วโลกรอคอยเรื่องนี้หนึ่งเดือนก่อนฉายอย่างยิ่งใหญ่ที่สหรัฐฯ

เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จัสติน แช็ตวิน, เจมี ชุง, เอมมี รอสซัม, ปาร์ค จุงยอง, เจมส์ มาร์สเตอร์ และโจวเหวินฟะ และ ผู้กำกับ เจมส์ หว่อง ทีมงานของ Dragonball Evolution ฉบับหนังใหญ่สไตล์ฮอลลีวูดครั้งแรกของ Dragonball การ์ตูนญี่ปุ่นขวัญใจมหาชน ได้พร้อมใจกันเดินทางมาแถลงข่าวภาพยนตร์ชิ้นใหม่เรื่องนี้กันที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนประเทศในเอเชียเพียงแค่ 3 ประเทศเท่านั้นคือ ไต้หวัน, เกาหลี และเมืองไทยเป็นที่สุดท้าย ซึ่งบ้านเราจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่จะได้ฉายฉบับเต็มของ Dragonball Evolution ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวก่อนที่สหรัฐฯถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ ทีเดียว

โอกาสนี้ ทางคู่พระคู่นางของเรื่องอย่าง จัสติน แช็ตวิน นักแสดงชาวแคนาเดียน ผู้เคยมีผลงานในหนังฟอร์มใหญ่อย่าง War of the World และ The Invisible และ เจมี ชุง นางเอกสาวอเมริกันลูกครึ่งเกาหลี ได้ควงกันมาพบปะผู้สื่อข่าวเพื่อเปิดใจถึงความรู้สึกที่มีต่อการร่วมงานหนังทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญเรื่องนี้

1. มีเสียงวิจารณ์กันเยอะมากเรื่องการนำฝรั่งอย่างคุณมาสวมบทเป็นโกคุ

Justin: ครั้งแรกที่ เจมส์ หว่อง โทรมาให้บทโกคุกับผม ผมก็ถามเขากลับไปว่า "คุณมั่นใจเหรอ คุณแน่ใจแล้วน่ะ" แต่ในความคิดของผมเขาไม่ใช่แค่คนเอเชีย เขาไม่ใช่คนอเมริกัน หรือคนแคนาเดียนอย่างผม เขาเป็นเหมือนจิตวิญญาณที่อยู่ในตัวของพวกเราทุกคน และในการ์ตูนจริงๆ แล้วเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวด้วยซ้ำ

มันก็เป็นความรับผิดชอบอย่างสูงของผมและทำให้เกิดความกังวลเช่นกัน แต่ผมจะถ่ายทอดความเป็นเขาออกมาอย่างสุดความสามารถ ผมรักที่จะเล่นเป็นเขา เขาเป็นคาแร็กเตอร์ที่สนุกที่สุดที่ผมเคยเล่นมา ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาเล่นบทของโกคุอีกครั้ง

2. ในหนังโกคุได้เรียนวิทยายุทร์จากผู้เฒ่าเต่า แล้วในการถ่ายทำพวกคุณได้เรียนรู้อะไรจากดารารุ่นใหญ่อย่างโจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) บ้าง

jamie: ตอนแรกเราไม่รู้เลยว่านักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์เขาทำตัวกันอย่างไรในกองถ่าย แต่ที่เราเห็นจากเขาก็คือความสุภาพอ่อนน้อม ความเป็นกันเองกับทีมงานทุกคน และคอยช่วยเหลือเพื่อนนักแสดง เขาเป็นคนที่ฉันนับถือมาก

Justin: เขาเป็นเหมือนปรมาจารย์ของผมเลย นอกจากการได้เรียนรู้เรื่องท่าทางการแสดงและการออกเสียงพูดจากเขาแล้ว ผมยังได้เรียนรู้วิธีการเล่นตลกมาจากเขาด้วย ผมชอบความเป็นคอมมาดีที่บทของเขาเติมเต็มในหนังมากๆ ทำให้นึกถึงตัวละครแบบโจวซิงฉือ (Stephen Chow) ทีเดียว

3. คุณได้เรียนรู้อะไรจาก Dragonball Evolution บ้าง

Justin: สำหรับผมมันคือการเข้าถึงตัวละคร ผมไม่ต้องการที่จะเป็นเขาอย่างผิวเผิน ผมอยากจะถ่ายทอดความเป็นโกคุออกมาจากภายในตัวผม สำหรับผมแล้วการฝึกซ้อมฟิตร่างกายเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก เพราะเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ผมชอบเรียนรู้วิธีการต่อสู้ ผมสนุกมากๆ กับการได้ฝึกท่าต่อสู้ต่างๆ

jamie: มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับการแสดงหนังเรื่องแรกของฉัน ทั้งทีมงานที่ได้ร่วมแสดง บทที่ได้รับ การฝึกสอนต่างๆ และได้พบปะกับทีมงานทั้งหมด เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าจริงๆ

4.พวกคุณฝึกซ้อมฉากแอ็คชั่นกันอย่างไร

jamie: นอกจากนักแสดงจะได้รับการฝึกศิลปะป้องกันตัวแบบพื้นฐานแล้ว เราได้ยังทีมงานที่เคยออกแบบการต่อสู้ในหนังอย่าง 300 และ The Matrix มาสร้างวิธีการต่อเฉพาะทางของตัวละครแต่ละตัวด้วย ดังนั้นแต่ละคาแร็กเตอร์จะมีวิทยายุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับฉันที่เล่นเป็นจีจี้จะออกไปในแนวของเทควันโดเป็นหลัก

Justin: ของโกคุนี่จะเป็นการต่อสู้สไตล์จิวจี้ซุแบบบราซิล ผสมกับกังฟูสไตล์ของบรูซ ลี รวมทั้งท่าไม้ตายต่างๆ ที่มาจากตัวการ์ตูนเอง หัวใจสำคัญก็คือการซื่อตรงต่อแฟนหนังสือ และซื่อตรงต่องานของโทริยามาที่เป็นผู้สร้างท่าไม้ตายต่างๆ ขึ้นในการ์ตูน แล้วทำออกมาให้สมจริงและน่าตื่นเต้นอย่างที่สุด

5. ฉากไหนที่ท้าทายที่สุด

Justin: ก็เกือบทุกฉาก เพราะการถ่ายทำที่ดูแรนโกที่ประเทศเม็กซิโกเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ตอนกลางคืนจะหนาวจัดเหมือนมีหิมะตก แต่ตอนกลางวันก็ร้อนจัดกว่า 90 องศาฟาเรนไฮท์

jamie: และมันก็มีลมแรงมากๆ ด้วย จนบางครั้งลมที่แรงจัดพวกนี้มันทำให้ฉากหลังที่ถ่ายทำแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายของทีมงานสุดๆ

6. คุณได้ดูหนังที่สมบูรณ์หรือยังและชอบมันมากแค่ไหน

Justin: ใช่ ผมชอบมาก เขาทำหนังเรื่องนี้ออกมาให้เหมือนกับหนังที่ผมชอบตอนเด็กๆ อย่าง แบทแมน เป็นหนังที่ทำให้คุณพบกับความตื่นเต้นตอนที่เข้าไปในโรง กับงานสเปเชียลเอฟเฟคที่ตื่นตา ฉากที่ผมชอบที่สุดก็คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของพิคโกโรและโกคุ การปล่อยพลังคลื่นเต่าอย่างสมบูรณ์แบบมันเท่มากๆ น่ะ

7. นี่เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของคุณ มันทำให้คุณกังวลบ้างไหมกับการเล่นหนังที่มีคนจับตามองขนาดนี้

jamie: ฉันไม่สนหรอกค่ะ พวกเขาสนใจแต่ปาร์ค จุงยอง เขาสนใจแต่โจวเหวินฟะมากกว่า (หัวเราะ) แต่ความวิเศษในการสวมบทเป็นจีจี้ก็คือ เธอถือเป็นต้นแบบที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กสาว ถือเป็นเกียรติสำหรับฉันที่ได้มาถ่ายทอดบทของผู้หญิงที่มีเสน่ห์ อ่อนหวาน แต่ทรงพลังและเก่งในวรยุทธ์อย่างเธอ

8. คุณเคยเล่นหนังกับทอม ครูสมาแล้ว เขาเป็นคนอย่างไร

Justin: ทอมก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมน่ะ เขาก็เหมือนกับโกคุที่มองโลกในแง่ดีเสมอ และเขาก็เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วย

9. การเล่นเป็นโกคุสร้างแรงบันดาลใจแก่คุณอย่างไรบ้าง

Justin: มันเป็นสิ่งที่ผมชอบในการแสดงหนังทีเดียว การได้เรียนรู้ตัวเองจากบทที่ได้รับ นำบางสิ่งที่อยู่ในตัวคุณออกมา การได้เล่นเป็นโกคุ เป็นเหมือนการได้มองย้อนไปในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในชีวิต และออกเดินทางเพื่อเผชิญกับชะตากรรมของคุณเอง ไล่ล่าความฝัน โดยไม่สนใจสายตาของชาวบ้าน เดินตามจังหวะเสียงกลองใจส่วนลึกของตัวคุณเอง และค้นพบความเป็นตัวตนของคุณ ซึ่งทั้งหมดก็คือหัวใจของหนังเรื่องนี้

10. ถ้าคุณมีดรากอนบอลทั้ง 7 ลูก คุณอยากจะขอพรอะไร

jamie: ถ้าเป็นคำขอทั่วๆ ไปก็คงจะเป็นอยากให้โลกพบสันติสุข แต่ถ้าขอแบบเห็นแก่ตัวหน่อยก็คงจะเป็นขอให้มี Dragonball Evolution 2 น่ะค่ะ

11. บาดเจ็บจากการถ่ายทำตรงไหนบ้างไหม

Justin: ผมจมูกหัก และก็โดนต่อยที่คางจังๆ โดยเอริโกะ (คนที่เล่นเป็นมาอิ)
jamie: ใช่ฉันก็โดนเธอทุ่มเหมือนกัน ยังฝากรอบถลอกเอาไว้ด้วย
Justin: เธอเป็นคนที่จริงจังมาก มันโอเคเวลาเราเข้าฉากกับสตันท์ผู้ชาย แต่เจอกับนักแสดงหญิงที่ทุ่มเทอย่างเธอก็ต้องมีเจ็บตัวกันบ้าง ซึ่งผมคิดว่าเธอคงไม่ได้ตั้งใจหรอกน่ะ (หัวเราะ)

Manager Online