Korean wave ดับไปแล้วจริงหรือในญี่ปุ่น

» ภาพ ณ. Cinemart Roppongi

Korean wave ดับไปแล้วจริงหรือที่ญี่ปุ่น แต่โครงการความร่วมมือ กลับมีมากขึ้น เนื่องจากความสนใจในวัฒนธรรมเกาหลี
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ภาพถ่ายดาราเกาหลี ลี บูนฮุนปกคลุมไปกว่าครึ่งของ Cinemart Roppongi ซึ่งเป็นศูนย์รวมโรงภาพยนตร์ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งฉายแต่หนังเอเชียเท่านั้น มีภาพยนตร์เกาหลีใต้ทั้งหมด 16 เรื่อง ตั้งแต่เดือนมีนาคม ในงานครบรอบ 1 ปี แต่มีผู้เข้าชมเพียงแค่ 2,300 คน ในช่วงงานเทศกาลนั้น

ตอนเปิดศูนย์รวมภาพยนตร์ Cinemart Roppongi 90% ของแถวที่รอ เป็นผู้เข้าชมภาพยนตร์เกาหลี แต่ปัจจุบันมีเพียงแค่ 60% ประชาสัมพันธ์ของโรงภาพยนตร์ให้ข้อมูลว่า จนถึงปัจจุบัน ทางบริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เกาหลีใต้มามากกว่า 50 เรื่อง แต่ความนิยมของภาพยนตร์เกาหลี ตกลงในญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

ทาคาชิ เทราดะ ประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า จริงๆแล้ว เรารู้สึกโล่งอกเนื่องจาก DVD ของละครซีรีย์ เรื่อง "Palace" ขายได้ดีมากกว่าตัวอื่นถึง 4-5 เท่า แต่ภาพยนตร์เกาหลีทั้งหมดกำลังมีปัญหา

ความแรงของสินค้าที่เกี่ยวกับเกาหลี หรือที่เรียกว่า "Korean wave" มีอายุที่สั้นในญี่ปุ่น ละครทีวีเกาหลีเช่น "Winter Sonata" ความแรงของเบ ยองจุน ที่ถูกเรียกว่า "Yonsama" ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เป็นเรื่องติดปากกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันนี้ภาพยนตร์เกาหลีเช่น "The Host" และ "The King and the Clown" ซึ่งสามารถทำรายได้อย่างดีในตลาดเกาหลีเอง กลับยากที่จะหาผู้ชมในญี่ปุ่น

การจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เกาหลี แม้ว่าจะได้ลดราคาลงอย่างมาก ในตลาดญี่ปุ่น แต่ก็ยังถือว่า ราคาสูงไปสำหรับรายได้ ที่จะสร้างได้ แม้กระทั่งดาราชื่อดัง ก็ยังไม่สามารถทำให้ยอดขายสูงขึ้น ถึงแม้จะใช้ชื่อเสียงของเบ ยองจุน ยอดขายตั๋วเรื่อง "Once in a Summer" มีเพียงแค่ 300-400 ล้านเยน (2.5-3.3 ล้าน US ดอลล่าร์)ในขณะที่ค่าหนัง กลับมีราคาสูงกว่า 400 ล้านเยน บริษัทญี่ปุ่นซึ่งนำเข้า และจัดจำหน่ายภาพยนตร์เกาหลี มีเพียงแค่ 3 หรือ 4 บริษัท และมียอดขายตกลงมากกว่า 50% จากยอดจำหน่ายสูงสุด ยอดขายเฉลี่ยของการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในญี่ปุ่น เป็นเพียงแค่ 10 % ของที่เคยได้ ลี อุนกยอง แห่ง Kadogawa Pictures กล่าวว่า ไม่ว่าจะถูกขนาดไหน ก็ไม่มีใครอยากซื้อภาพยนตร์เกาหลี

ละครเกาหลีพากย์ญี่ปุ่นเรื่อง "Full House" and "Hotelier" กำลังออกอากาศ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมเท่าละครเกาหลีเรื่องอื่น เช่น "Winter Sonata" and "Jewel in the Palace" จากการสำรวจโดย Korean Broadcasting Institute (KBI) ญี่ปุ่นนำเข้ารายการทีวีของเกาหลี ลดลงประมาณ 16 พันล้านวอน (ประมาณ 17 ล้าน US ดอลล่าร์) ในปี 2006 เมื่อเทียบกับปี 2005 ปาร์ค แทยู ผู้นำของ World-J ซึ่งขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เกาหลี กล่าวว่า บริษัทสื่อของญี่ปุ่น มีแนวโน้มว่า จะเลี่ยงละครเกาหลี เพราะพวกเค้าไม่สามารถประกัน rating ของผู้ชมได้ และไม่มีสปอนเซอร์เลย นอกจากละครของเบ ยองจุน

บางคนกล่าวว่า คลื่นเกาหลีกำลังจะอิ่มตัว มากกว่าดับไปเลย กระแสเกาหลี ทำให้สภาพจิตใจเปลี่ยน ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นเป็นรูปร่าง หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานว่า เนื้อหาของเกาหลี ทำให้นึกถึงเรื่องที่ชาวญี่ปุ่นได้หลงลืมไป และนำมาซื่งกระแสนิยมนวนิยายของญี่ปุ่นเอง และละครในช่วง 1950 ซึ่งแสดงถึงความลึกซึ้ง ซับซ้อนของความสัมพันธ์ของมนุษย์ ยูกะ อันจาโกะ นักวิจัยของ Ritsumeikan, Asia Pacific University’s Korea Research Center กล่าวว่า เนื่องจากวัฒนธรรมของเกาหลีเข้ามาแพร่ในญี่ปุ่น โรงเรียนอนุบาลบางแห่ง จัดวันเกาหลีขึ้น เป็นงานพิเศษ เมื่อเด็กๆโตขึ้น พวกเค้าจะได้สามารถผ่านพ้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในอดีต ระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น
กระแสเกาหลีก็ยังมีผลประโยชน์อย่างอื่นอีกเช่นกัน นายบัง ซังวอน ผู้บริหารซัมซุงในญี่ปุ่นกล่าวว่า ปัจจุบันเค้ามีเรื่องคุยเรื่องใหม่ๆ กับ ผู้ร่วมค้านักธุรกิจชาวญี่ปุน ตั้งแต่พวกเค้าทั้งหมด ดูละครทีวีเกาหลีเรื่องเดียวกัน กระแสเกาหลีไม่ใช่หยุดแค่ในวงการสื่อเท่านั้น แต่ได้เปลี่ยนโครงสร้างความร่วมมือ และสายสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเกาหลี และบริษัทญี่ปุ่นด้วย ตัวอย่างเช่นโซนี่ และซัมซุงได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน,ธนาคารญี่ปุ่น Resona และธนาคาร Korea Exchange, Sumitomo Mitsui, และ Kookmin, บริษัทน้ำมันญี่ปุ่น ENEOS และเกาหลี SK, บริษัทสื่อสารญี่ปุ่น NTT DoCoMo กับ LG Electronics ได้เริ่มโครงการร่วมมือกันแล้ว

คิม มิโด๊ก นักวิจัยเกาหลี ในสถาบันวางแผนของบริษัทญี่ปุ่น Mitsui Corp กล่าวว่า ความจริงแล้วบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น ได้เริ่มตามกระแสนิยมเกาหลีแล้ว นับแต่กระแสความนิยมเกาหลีในญี่ปุ่น นักธุรกิจญี่ปุ่น ได้ยอมรับความเป็นไปได้ของเกาหลีแล้ว และได้ใช้เกาหลี ในการวางแผนต่างๆ เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดเอเชียทิ่ยิ่งใหญ่ขึ้น

Source: The Hankyoreh