ความลับรั่ว! แสตนอินชื่อดัง รับเสี่ยงตาย แทน “เฉินหลง”

“มวยจีนต้องดูเฉิงเสี่ยวตง แอ็คชั่นต้องดูหลัวหลี่เสียน” กลายเป็นคำพูด ที่คนในวงการบันเทิงเอเชีย ต่างยอมรับโดยดุษณี

เมื่อเร็วๆ นี้ หลัวหลี่เสียน ซึ่งเคยเป็นแสตนอิน ฉากหวาดเสียว ให้แก่ดาราดังอย่าง หลิวเต๋อหัว โจวหยุนฟะ และโจวซิงฉือ ได้ออกมาแฉชีวิตการทำงานของเขา ผ่านในเว็บบล็อกของตัวเอง พร้อมยอมรับ เคยเสี่ยงตายท้ามฤตยูแทน “เฉินหลง” พระเอกกระดูกเหล็กมาแล้ว

งานนี้ผู้สื่อข่าวไม่พลาด โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงจากปากเจ้าตัว โดยหลัวหลี่เสียนยังยืนยันว่า ที่เฉินหลงโฆษณา ไม่ใช้ตัวแสดงแทนนั้น เป็นแค่ “คำลวงให้ดูดี” เท่านั้น เฉพาะแค่ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ที่เพิ่งเดินกล้องไป เขาก็ยังรับหน้าที่ แสดงฉากเสี่ยงตายให้อยู่เลย

หลัวหลี่เสียน ย้อนคุยเรื่องในอดีตให้ฟังว่า ในภาพยนตร์ เรื่องวิ่งสู้ฟัดภาคแรก ที่ผู้ชมเห็นเฉินหลงซิ่งมอเตอร์ไซค์ ฝ่าเปลวเพลิงนรก ลอยละลิ่วสู่พื้นดิน อย่างปลอดภัย พร้อมด้วยมาดเท่ห์บาดใจนั้น เบื้องหลังฉากเสี่ยงอันตรายนี้คือ หลัวหลี่เสียง! นั่นเอง เขาเล่าให้นักข่าวฟังว่า "ที่ผ่านมา ผมก็เห็นเฉินหลงใช้ตัวแสดงแทนตลอด!" เฉพาะหลัวหลี่เสียงคนเดียว ก็เหมาหน้าที่โชว์ลีลา ควบรถผาดโผนแทนเฉินหลง หลายต่อหลายเรื่อง "แค่เฉินหลงใช้ตัวแสดงแทน น้อยกว่าดาราคนอื่นเท่านั้น"

ในฉากต่อสู้ของเรื่องวิ่งสู้ฟัดนั้น หลัวหลี่เสียง เล่าขั้นตอนการทำงานให้ฟังว่า ต้องถ่ายทำฉากต่อสู้ของแสตนอินก่อน แล้วจึงค่อยถ่ายเฉินหลง จากนั้น จึงนำมาตัดต่อรวมกัน ผู้ชมจึงมองไม่ออก

แสดงแทนหยางจื่อฉุงเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ฉากหนึ่งของวิ่งสู้ฟัด 3 หลัวหลี่เสียนไว้ผมยาว แต่งกายเป็นหญิงแสดงแทน หยางจื่อฉุง (มิเชล โหยว) ที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ ทะยานขึ้นไปอยู่บนรถไฟ "ตอนนั้นรถไฟ วิ่งด้วยความเร็วเกือบ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมพลาดท่า ปะทะกับรถไฟ แล้วร่วงลงมาพร้อมรถ จากความสูงประมาณ 7 เมตร เลือดออก กระดูกแตก 6 จุด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โชคดี ที่ส่วนหัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร"

หลังจากนั้นมา เฉินหลงมักพูดว่า เขาไม่กล้าดูฉากนี้ เพราะนับเป็นฉากที่เสี่ยงตายจริงๆ ประสบการณ์ของหลัวหลี่เสียน และเพื่อนสตั๊นท์แมนของเขา นับเป็นเรื่องที่คนทั่วไป ไม่กล้าจะจินตนาการเลยทีเดียว

วิพากษ์นักแสดงและผู้กำกับที่เคยร่วมงาน

จากประสบการณ์ทำงานร่วม 20 ปีของหลัว ในฐานะแสตนอิน ฉากเสี่ยงตายแก่เฉินหลง ครูสอนเทคนิกการต่อสู้ ให้แก่หลิวเต๋อหัว และมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นฮ่องกงในปัจจุบัน เขาได้พูดถึงนักแสดงที่เคยร่วมงานด้วยว่า "เฉินหลงเดินทางสายฮีโร่ อันที่จริง นักแสดงทุกคน ล้วนจำเป็นต้องใช้ตัวแสดงแทนในบางฉาก แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เฉินหลงเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง ส่วนหลิวเต๋อหัวนั้น ไม่มีพื้นฐานกังฟูเลย ตอนเริ่มแสดงฉากแอ็คชั่นช่วงแรกๆ เขาจะออกท่าทางค่อนข้างช้า แต่หลิวเต๋อหัวก็เป็นคนที่มีความพยายามมาก ตอนนี้ฝีมือเขาดีขึ้นมากแล้ว"

ฟากผู้กำกับ หลัวหลี่เสียน ยกนิ้วให้ จอห์น วู (อู๋อี่ว์หลิน) เป็นผู้กำกับที่เยี่ยมยอดที่สุด เขาไม่ได้ตีกรอบทางความคิด หนังแอ็คชั่นของเขา ไม่จำเป็นต้องเป็นฉากดวลปืน รถเหาะ เสมอไป จอห์น วู สามารถถ่ายทำฉากแอ็คชั่น ที่แตกต่างกันออกไป ขณะที่สแตนลี่ย์ ถัง (ถังจี้หลิน) มีความสามารถ ในการจัดการกับฉากแอ็คชั่นได้ดีมาก ส่วนฉีเคอะ ก็เชี่ยวชาญด้านเทคนิกพิเศษต่างๆ

"ในความคิดของหลายคนอาจคิดว่า เทคนิกการต่อสู้ของภาพยนตร์จีนค่อนข้างเชย แต่ผมอยากให้ทุกคนมั่นใจกับศิลปะของชาติ ขนาดฉากแอ็คชั่นของหนังเรื่อง องค์บาก มีหลายฉากที่ใช้รูปแบบการต่อสู้ของจีน"

ManagerOnline