"JYP"เปิดปากครั้งแรก หลังโดนแฟนคลับรุมด่าไม่รั้ง"แจบอม" (JaeBum) พร้อมสั่งแบน"2PM"

หลังจากที่เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการลาออกจากวง 2PM ของ "ปาร์คแจบอม" (Park Jae Bum) มาได้สักพัก ล่าสุด "ปาร์คจินยอง" (Park Jin Young) เจ้าของค่าย JYP ได้ออกมาเปิดปากพูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก หลังแฟนคลับพากันรุมด่าและขอไม่สนับสนุนผลงาน 2PM อีกต่อไปหาก "ปาร์คจินยอง"ไม่สามารถนำเขากลับมาเข้าวงเหมือนเดิมได้

ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ปาร์คจินยองต้องออกมาแถลงการณ์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหล่าบรรดาแฟนคลับกลุ่มหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจที่บริษัท JYP Entertainment และปาร์คจินยอง ไม่ทำอะไรเพื่อที่แจบอมจะได้ไม่ต้องลาออกจากวงและบินกลับอเมริกา ซึ่งจากความไม่พอใจดังกล่าว พวกเขาได้รวมตัวเพื่อจะไม่ซื้อบัตรคอนเสิร์ต 2009 Dream Concert ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนหน้านี้โดยมีคิวของ 2PM ขึ้นแสดงด้วย

พร้อมกันนั้นพวกเขายังจะไม่สนับสนุนผลงานอัลบั้มของ 2PM ทั้งสินค้าและโฆษณาต่างๆที่ 2PM เป็นพรีเซ็นเตอร์รวมถึงกิจกรรมต่างๆ หากไม่มีแจบอมกลับมาเป็นสมาชิกวงเหมือนเดิม ซึ่งเหล่าแฟนคลับกลุ่มนี้ยืนยันที่จะทำตามแถลงการณ์ดังกล่าวของพวกเขา จนกว่าจะได้แจบอมกลับคืนมาสู่วง และยังกล่าวด้วยว่าสิ่งที่พวกเขาทำ ทำเพื่อผลประโยชน์ของวงแทบทั้งสิ้น

และจากเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ ปาร์คจินยอง ประธานบริษัท JYP Ent. ต้องออกมาแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ โดยวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เขียนข้อความผ่านโฮมเพจของบริษัทถึงกรณีดังกล่าวเป็นครั้งแรก ถึงการที่เขาปั้นแจบอมขึ้นมาและความรู้สึกของแจบอม ว่าแท้จริงแล้วเขาเสียใจต่อบรรดาแฟนคลับและประเทศเกาหลีมากขนาดไหน

โดยเขาได้เขียนข้อความว่า

"ผมเองก็ช็อคพอสมควรจากข้อความที่แจบอมเขียนถึงเพื่อนเมื่อ 4 ปีก่อน ถ้าเป็นคนในวงการคนอื่นๆ ผมคงจะรู้สึกโกรธมาก, ไม่พอใจ และ ต้องไม่สนใจเขาอีกเลยแน่ๆ แต่ผมรู้จักแจบอมมานาน คำพูดพวกนั้นเลยไม่ทำให้รู้สึกประหลาดใจเท่าใดนัก

ผมรู้ดีว่าแจบอมเคยเป็นเด็กแบบนั้นมาก่อน

ตอนที่แจบอมมาเกาหลีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เขาเป็นเด็กที่หัวรั้นและชอบแหกคอกอยู่เป็นประจำ เขาหัวเราะเยาะเกาหลีและดูถูกพวกเด็กฝึกหัด ซึ่งตัวผมเองเขาก็ไม่ให้ความเคารพเหมือนกัน ผมเชื่อว่าเขาคิดว่าการเป็นคนมีชื่อเสียงของเกาหลีเป็นสิ่งที่น่าหัวเราะ เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายที่อยากเป็นนักเต้นบี-บอยอยู่ตามถนนเท่านั้น เขาทะเลาะกับพนักงานในบริษัท ครูฝึกเต้น และพูดจาไม่ดีอยู่บ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเคยพูดว่าเขาไม่ชอบบริษัท JYP Ent. และจะเอ่ยชื่อบริษัทอื่นที่เป็นคู่แข่งอยู่เสมอ และขอร้องให้เราย้ายค่ายให้เขาแทนด้วย

แต่สิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจกันมากขึ้นไปอีกคือ เมื่อเราถามเขาว่าเขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร เขาตอบกลับว่า "ต่อให้เราไม่มีเพลงของ JYP เราก็ประสบความสำเร็จได้"

ณ. จุดนี้ ทีมงานในบริษัทต่างตระหนักได้ว่า ทำไมผมถึงยังเก็บเด็กหัวรั้นคนนี้ไว้อีก และนี่คือเหตุผลด้วยว่าทำไมคำพูดของเขาเมื่อ 4 ปีก่อนถึงไม่ทำให้ผมประหลาดใจเท่าใดนัก

แล้วทำไมเราถึงยังเก็บเด็กคนนี้ไว้น่ะหรือ?

ผมชอบเด็กหัวรั้นนะ ผมชอบเด็กแบบนี้มากกว่าเด็กที่น่ารักทำตัวดีต่อหน้า แต่ลับหลังกลับเป็นปีศาจร้าย ผมชอบเด็กที่แสดงความดื้อรั้นหัวแข็งออกมาต่อหน้า ผมชอบที่เขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกของเขาออกมาตรงๆเลย มันทำให้ผมรู้สึกถึงความหวัง ใครกันที่จะกล้าพูดคำพูดเหล่านั้นออกมาต่อหน้าผม? พูดว่าเขาจะล้มเหลวถ้าใช้งานเพลงแย่ๆของผม? ผมเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกมาก

ผมเชื่อว่าเด็กหัวรั้นมีพลังมากมายมหาศาล เพียงแต่เขาไม่มีที่ให้แสดงออกถึงพลังเหล่านั้น หรือไม่มีใครที่จะเชื่อมั่นในตัวพวกเขามากพอที่จะหยิบยื่นเส้นทางแสดงออกที่ถูกต้องให้พวกเขา ผมอยากจะช่วยคนแบบนี้ให้ได้เดินต่อไปบนเวที และสนุกไปกับการใช้พลังทั้งหมดที่เขามี ตราบเท่าที่ผมสามารถทำให้เขาเข้าถึงพลังแห่งความเชื่อมั่นและความรักได้

สำหรับแจบอม มีคนอยู่เพียง 2 ประเภทเท่านั้น หนึ่งคือครอบครัวของเขา และสองคือคนที่ไม่ใช่ครอบครัว เขารักครอบครัวของเขามากกว่าที่ผมเคยรู้ เหตุผลที่เขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องเงินผ่านรายการหนึ่งว่า ถ้าเขามีเงินเขาไม่ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ แต่เขาจะเอาเงินทั้งหมดให้กับครอบครัวที่ทำงานหนักและลำบากเพื่อเขามาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักร้อง

เขาเป็นเด็กหัวรั้นแต่เขาก็ทำได้ดีที่สุดในขณะฝึกซ้อม

ผมเห็นสิ่งนี้ผมเลยคิดว่า เพียงแค่ผมทำให้เขานึกถึงบริษัท, ศิลปินฝึกหัดรุ่นน้องที่ตามเขามาว่าทุกคนในบริษัทเป็นครอบครัวเขา ผมว่านี่เป็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขาสามารถเปลี่ยนไปได้ ดังนั้นวันหนึ่งผมเลยเดินเข้าไปบอกเขาว่า "แจบอม ไม่ใช่ว่าใครคนหนึ่งไม่ใช่คนในครอบครัวเพียงเพราะเขาไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับนาย ได้โปรดเปิดใจให้พวกเขาก่อน จากนั้นพวกเขาก็จะเป็นครอบครัวของนายได้เหมือนกัน"

และจากสิ่งนี้ เขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป.. เขาเริ่มกอดบรรดาศิลปินฝึกหัดรุ่นน้องมากขึ้น เริ่มพูดคุยกับคนในบริษัท และเริ่มที่จะสนุกเวลาอยู่บนเวที

ในที่สุดเขาเริ่มที่จะปลดปล่อยพลังของเขาออกมาบนเวที และเริ่มส่งออกมาอย่างมากมายผ่านการร้องและเต้นอย่างดีเยี่ยม ผมจึงเลือกเขาให้เป็นหัวหน้าวง โดยมีสมาชิกที่เหลืออีก 6 คนที่เชื่อมั่นในตัวเขาและจะตามเขาในฐานะผู้นำของกลุ่ม เขาเลยฝึกซ้อมกับเหล่าสมาชิกวงบ่อยครั้ง และมักจะคิดถึงน้องๆในวงก่อนตัวเขาเสมอ หลังจากที่เขาเดบิวต์ความรู้สึกในใจของเขาเปลี่ยนไป ทั้งจากรายงานข่าวและความสนใจจากแฟนๆที่แสดงออกมาในแง่บวก ซึ่งนั่นเริ่มมีผลกับความรู้สึกเขาอย่างมาก เขาสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ถึงความรักจากแฟนๆที่มีให้เขา เขาได้เจอคนดีๆ,เพื่อนดีๆ,แฟนเพลงดีๆ รวมถึงดนตรี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไป แต่แล้วก็เหมือนฉากในหนัง ข้อความเมื่อ 4 ปีก่อนกลับถูกปล่อยออกมาทำลายเขา

เขารู้สึกเสียใจอย่างมากต่อน้องๆสมาชิก2PM, เสียใจต่อผม, ทีมงานทุกคนในบริษัท รวมถึงแฟนๆทุกคน และเหนือสิ่งอื่นใดต่อคนเกาหลี เขาเลยคิดกับตัวเองว่าถ้าเขาอยู่ที่นี่นานกว่านี้ เหล่าน้องๆในวงอาจจะต้องเจ็บปวดและถูกเกลียดไปมากกว่านี้ เขาบอกว่าเขาไม่เหลือความมั่นใจที่จะยืนอยู่บนเวทีได้อีกต่อไปแล้ว

ผมรู้ดีว่าเขาพูดถึงอะไรและมันทำให้ผมไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ ถ้าผมเป็นเขาผมก็จะตัดสินใจทำในแบบเดียวกัน และนั่นเขาถึงได้ไป

อีเมลสุดท้ายที่เขาส่งถึงผมเขาบอกว่า "เมื่อก่อนนี้ผมเคยเป็นเด็กก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะมากใช่ไหม? ผมขอโทษครับ เป็นเพราะคุณมุมมองในชีวิตผมถึงเปลี่ยนไปอย่างมาก ผมแค่อยากบอกให้คุณรู้ว่าประสบการณ์ชีวิตมันทำให้ผมเปลี่ยนแปลงไป มันทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น แกร่งขึ้น เข้มแข็งขึ้น และผมอยากจะขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่คุณเคยทำให้ผม ผมขอบคุณจริงๆครับ"

หัวใจผมแทบสลาย มันเจ็บปวดนะ แต่ผมก็รู้ดีว่าคนเกาหลีรู้สึกอย่างไรกับคำพูดของเขาเมื่อ 4 ปีก่อน พวกเขารู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลัง มันทำให้ผมไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

แต่สิ่งที่ผมสามารถทำอะไรเพื่อเขาได้อย่างหนึ่งคือ ผมบอกกับทุกๆคนไว้เลยว่าสิ่งที่เขาแสดงออกผ่านทีวีเขาไม่เคยเสแสร้งหรือโกหกเลย เขาอาจจะเป็นเด็กดื้อหัวรั้น แต่เขาไม่เคยโกหกหรือเสแสร้ง เขาไม่สามารถปิดบังความรู้สึกของตนเองได้ เขามักจะแสดงมันออกมาต่อหน้าตรงๆเลย...ซึ่งนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยเปลี่ยนเลย

ผมรู้ดีถึงกระแสสังคมหรือแฟนๆ ซึ่งตัวผมรับฟังในทุกๆความคิดเห็น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแจบอม เขาไม่ใช่ ปาร์คแจบอม จาก 2PM อีกต่อไปแต่ตอนนี้เขาเป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชื่อ แจบอมเท่านั้น

ผมอยากจะขอให้ทุกคนเคารพในการตัดสินใจของเขา ผมต้องขอโทษอีกครั้ง

JYP"

Manager Online