"ดงบังชินกิ" (DBSK) ร้าว! "ชางมิน" (Changmin) กับ "ยุนโฮ" (Yunho) เลือกฝั่ง "SM Entertainment"

อาจจะเป็นข่าวเศร้าอีกครั้งสำหรับแฟนๆ ของวง "ดงบังชินกิ" (Dong Bang Shin Ki / DBSK / TVXQ) เมื่อสองสมาชิกในวงอย่างหนุ่ม "ชางมิน" (Changmin) และ "ยุนโฮ" (Yunho) เลือกที่จะเข้าข้างทางฝั่งบริษัทต้นสังกัด "SM Entertainment" ในความขัดแย้งกับอีกสามสมาชิกที่เหลือ

ชางมิน และ ยุนโฮ ออกมาแถลงถึงเรื่องที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการว่า พวกเขาทั้งสองยังมีความเชื่อมั่นที่จะฝากอนาคตของตัวเองไว้กับ SM Entertainment นอกจากนั้นยังให้เส้นตายว่า ดงบังชินกิ จะกลับมาทำงานที่เกาหลีอีกครั้ง ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ซึ่งเพื่อนอีกสามคนที่เหลืออย่าง เซีย จุนซู (Xiah Junsu), มิคกี้ ยูชอน (Micky Yoochun) และ ฮีโร่ แจจุง (Hero Jaejoong) ควรจะตัดสินใจถึงเรื่องอนาคตให้ได้ภายในเร็ววันนี้

ดูเหมือนแถลงการณ์ความเห็นของสองสมาชิกแห่ง ดงบังชินกิ ที่ยังแสดงความภักดีต่อต้นสังกัดอยู่ ถูกส่งออกมา เพื่อตอบโต้ชัยชนะในศาลของอีกฝ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยแถลงการณ์ดังกล่าว มีใจความสำคัญว่า

"พวกเรา ดงบังชินกิ ทั้ง 5 คนตกลงเซ็นสัญญาในเงื่อนไขเดียวกันตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และทำงานภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว ด้วยความเชื่อใจในบริษัทมาโดยตลอด เราตั้งใจที่จะแบ่งบันความฝัน และอนาคตของพวกเราทั้ง 5 คนกับบริษัท และได้ให้สัญญาในกับเงื่อนไขต่างๆ ที่เราได้ให้ไว้ ดงบังชินกิ ถูกสร้างโดย SM Entertainment และตั้งจะทำงานกับ SM Entertainment เท่านั้น

ไม่มีใครสามารถสร้าง ดงบังชินกิ ได้ และมีเพียง SM Entertainment เท่านั้นที่สามารถมอบงานเบื้องหลัง และการจัดการที่ดีที่สุดให้กับเรา สมาชิกอีก 3 คน สมควรที่จะทราบเรื่องนี้มากกว่าใครทั้งนั้น ว่า SM Entertainment เท่านั้นที่รู้จัก ดงบังชินกิ ดีที่สุด และทำให้เรากลายเป็นสุดยอด ตั้งแต่เริ่มแรก เราทุกคนให้ความเชื่อใจ และรักษาสัญญากับบริษัท เพื่อดงบังชินกิจะมีอนาคตอันยิ่งใหญ่กับ SM Entertainment เราเชื่อว่า การทำงานโปรโมตในเกาหลี ที่จะเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิหน้า สมควรจะมีการเตรียมตัวอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้ถ้าทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ถ้าสมาชิกทั้งสามยังต้องการจะเป็นดงบังชินกิต่อ ก็สมควรที่จะตัดสินใจทุกอย่าง ก่อนที่มันจะสายเกินไป"

ชางมิน และ ยุนโฮ ยังแสดงความคิดเห็นถึง เรื่องธุรกิจเครื่องสำอางของแบรนด์ Crebeau ที่ทั้ง 3 สมาชิกมีหุ้นส่วนอยู่ จนเกิดเป็นความขัดแย้งกับ SM Entertainment ที่หลายๆ คนเชื่อว่าเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้ความขัดแย้งเลยเถิดมาถึงเรื่องสัญญาทาส และส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมอย่างที่เป็นอยู่

"ธุรกิจเครื่องสำอางนั้นเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เราไม่คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ แต่เชื่อว่าถ้าบริษัทใดต้องการทำธุรกิจกับ ดงบังชินกิ ก็ต้องผ่านความเห็นชอบและการแนะนำจาก SM Entertainment ก่อน สำหรับพวกเราที่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะมองเห็นว่า ถ้าทำอะไรไปโดย SM Entertainment ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยเลย มันเห็นได้ชัดๆ ว่าจะต้องเกิดปัญหาขึ้น

เราไม่ต้องการให้ชื่อเสียง และศักดิ์ศรี ที่เกิดจากการทำงานอย่างหนัก ต้องมาถูกทำลายโดยบางบริษัทที่เข้ามามีส่วนร่วมกับวงอย่างไม่ถูกต้อง เราไม่เคยรู้ว่าสมาชิกทั้ง 3 คนตกลงอะไรกับบริษัทแห่งนั้น พวกเราเองก็ไม่รู้เช่นกันว่า สมาชิกทั้ง 3 คน ได้รับผลประโยชน์แค่ไหนจากธุรกิจเครื่องสำอางที่เกิดขึ้น เรารู้เพียงว่า ดงบังชินกิ สู้มาด้วยกันตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อความฝันของพวกเรา แต่การที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพปัจจุบัน เพราะบริษัทที่ไม่มีศีลธรรมแห่งนั้น เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด

การที่ ดงบังชินกิ ต้องมาพังทลายเช่นนี้ เป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ มันน่าเศร้ามาก ที่สิ่งต่างๆ เกิดจากบริษัทเครื่องสำอางแห่งนั้น ตอนนี้ได้แต่หวังว่าสมาชิก 3 คน จะกลับมาสู่วันที่พวกเขาทำงานหนักอีกครั้ง เพื่อความฝันของพวกเราทุกคน"

ที่ผ่านมาชัยชนะทางกฎหมายไม่ว่าจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ไม่ได้เป็นประเด็นหลักสำหรับเหล่า Cassiopeia (กลุ่มแฟนคลับของ ดงบังชินกิ) เท่ากับโอกาสที่ได้เห็นทั้ง 5 หนุ่มกลับมาร่วมวงร้องเพลง และอยู่บนเวทีเดียวกันต่อไป แต่แนวโน้มจากความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจจะทำให้เรื่องดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ อย่างที่ทุกคนหวัง

Manager Online