Google+ เจาะกลุ่มผู้ชาย นิยมใช้เครือข่ายสังคม
การออกผลิตภัณฑ์มาแต่ละครั้งแต่ละอย่าง ไม่ใช่ว่าจะสามารถเจาะตลาดลูกค้าได้ทุกเพศ ทุกวัย เสมอไป ตัวอย่างเช่นกรณีของกูเกิลพลัส Google+ ที่ออกมาเพื่อหวังชนกับเฟซบุ๊กโดยตรง ซึ่งผลการสำรวจล่าสุดจาก Website-Monitoring.com ระบุว่า ราว 2 ใน 3 ของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ของกูเกิลเป็นผู้ชาย
เรื่องของผู้ชายผู้หญิงมีความสำคัญ เพราะว่าฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของกูเกิลพลัส ตรงกันข้ามกับฐานลูกค้าของสื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก ที่ผู้ใช้บริการกลับเป็นผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ และราว 55% อยู่ในสหรัฐ
ผลการสำรวจนี้ทำให้เห็นว่า
- ประการแรก กรณีของกูเกิลนั้นมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การออกกูเกิลพลัสมาเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนต่อขยายจึงไม่ได้แตกต่างจากการใช้บริการหลักของกูเกิล
- ประการที่สอง เมื่อทำการเปรียบเทียบกันระหว่างกูเกิลพลัสกับเฟซบุ๊ก การจะสรุปออกมาให้ชัดเจนเกี่ยวกับเพศของผู้ใช้อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะเฟซบุ๊กมีการใช้กันอย่างกว้างขวางด้วยจุดประสงค์ของการเป็นสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งกรณีของกูเกิลพลัสยังทาบไม่ติดบทบาทนี้ และแวดวงคนใช้ยังค่อนข้างจำกัด การจะวัดออกมาแบบฟันธงจึงยังไม่มีความหมาย
- ประการที่สาม ที่ผ่านมาบริการส่วนต่อขยายอื่นๆ ของกูเกิล นอกเหนือจากกูเกิลพลัส ไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์ หรือ Gmail ก็ตาม ยังไม่เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากนัก อาจจะยังมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของผู้ใช้งานบริการได้อีกมากในอนาคต
- ประการที่สาม กูเกิลพลัส เป็นบริการต่อขยายที่ใช้ให้บริการกับโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟนในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งพบว่าเป็นที่สนใจในการนำไปใช้งาน โดยผู้ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของกูเกิลอยู่แล้ว รวมทั้งการใช้ระบบปฏิบัติการโมบายแอนดรอยด์ด้วย
- ประการที่สี่ คนที่ใช้กูเกิลพลัส ส่วนใหญ่เนื่องมาจากการอ่านพบว่ากูเกิลได้เปิดให้บริการนี้อยู่ แต่ไม่ใช่เพราะว่าใช้ในการติดต่อกับเพื่อนๆ หรือแวดวงสนทนาในสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก จึงไม่ใช่บริการที่จะมาทดแทนกันได้
นอกเหนือไปจากการค้นพบว่าผู้ชายเป็นลูกค้าที่ใช้บริการของกูเกิลพลัสเป็นส่วนใหญ่แล้วWebsite-Monitoring.com ยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่ได้จากการสำรวจที่น่าสนใจอีก ได้แก่
- ประเด็นแรก คนที่ใช้กูเกิลพลัสที่เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษามีมากที่สุด เทียบกับผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ โดยมีสัดส่วนรวมกันประมาณ 20% ขณะที่อาชีพอื่นๆ ที่เป็นผู้ใช้บริการกูเกิลพลัส ได้แก่ วิศวกรซอฟต์แวร์มีประมาณ 2.65% ที่ปรึกษามีประมาณ 1.99% และผู้บริหารมีประมาณ 1.72%
- ประเด็นที่สอง สหรัฐและอินเดียเป็น 2 ประเทศที่มีผู้ใช้งานจากบริการของกูเกิลพลัสมากที่สุด โดยสหรัฐมีสัดส่วนของผู้ใช้กูเกิลพลัสคิดเป็นประมาณ 31.5% ขณะที่อินเดียมีสัดส่วนของผู้ใช้ราว13.7% ของผู้ใช้กูเกิลพลัสทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นพลเมืองในบังคาลอร์ประมาณ 3.86% ของผู้ใช้กูเกิลพลัสทั้งหมด
- ประเด็นที่สาม ในบรรดาผู้ใช้งานกูเกิลพลัสราว 42% ยังคงเป็นคนโสด ขณะที่ 27.45% แต่งงานแล้ว และอีก 19.3% มีแฟนแล้ว
- ประเด็นที่สี่ บุคคลยอดนิยมมากที่สุดบนกูเกิลพลัสที่มีคนเป็น follower มากที่สุด ได้แก่ บริทนีย์ สเปียร์ สนูป ด็อกก์ และแลรี่ เพจ ที่เป็นซีอีโอของกูเกิลเอง
- ประเด็นที่ห้า แบรนด์ยอดนิยมบนกูเกิลพลัส 3 อันดับแรกได้แก่ เอช แอนด์ เอ็ม ซัมซุงสหรัฐ และเป๊ปซี่
- ประเด็นที่หก หน้าสื่อมีเดียที่ได้รับการโหวตเข้ามามากที่สุดบนกูเกิลพลัส 3 อันดับแรกคือ ESPN, BBC News และ Mashable
นับตั้งแต่เปิดตัวรับผู้สนใจเมื่อปีที่แล้ว มีคนเข้าไปใช้บริการของกูเกิลพลัสรวมกันแล้วกว่า 90 ล้านคน แม้ว่าอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจก็ตาม แต่ความเป็นสื่อสังคมออนไลน์ของกูเกิลพลัส ยังถือว่าห่างไกลอีกมากจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ที่มีจำนวนผู้ใช้รวมกันกว่า 800 ล้านคน
ทางทีมงานบริหารของกูเกิลก็พยายามเพิ่มการโปรโมตกูเกิลพลัสขึ้นจากเดิม เพื่อให้สามารถดึงดูดผู้ใช้เพิ่มขึ้น อย่างเช่นการนำแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ในการดูแลของกูเกิลเอง มาสร้างเป็นหน้าเว็บเพจที่เห็นได้ชัดเจนและสะดุดตา หาง่ายดายมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงทัศนะ หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับแบรนด์นั้นๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งหน้าเว็บเพจของแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ในการดูแลของกูเกิลก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น กูเกิล (Google), ยูทูบ (YouTube), กูเกิล โครม (Google Chrome), กูเกิล แมปส์ (Google Maps),จีเมล (Gmail), แอนดรอยด์ (Android)
นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่เพียงแบรนด์ต่างๆ ของกูเกิลเท่านั้นที่สามารถจะมีเว็บเพจเป็นของตัวเองบน กูเกิลพลัส ได้ หากแต่ผู้ใช้งานทั่วๆ ไป หรือบริษัทห้างร้านต่างๆ ก็สามารถสร้างหน้าเว็บเพจของตัวเองขึ้นมาได้เหมือนกัน
Manager