เหตุพาดพิงบันเทิงโสม, Fuji TV พ่นพิษ – ต้นสังกัดเฉดหัว “โซซึเกะ ทากาโอกะ” (Sousuke Takaoka) ทิ้ง

หลังมีข่าวว่านักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่น “โซซึเกะ ทากาโอกะ” (Sousuke Takaoka) ได้แสดงความเห็นเชิงไม่พอใจต่อกระแส “คลื่นบันเทิงเกาหลีใต้” ในโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดมีรายงานว่านักแสดงหนุ่มรายนี้ได้ถูกขับออกจากต้นสังกัดแล้ว

มีรายงานยืนยันว่า Stardust Promotion ได้ตัดสินใจไล่ โซซึเกะ ทากาโอกะ ออกจากสังกัด ภายหลังนักแสดงหนุ่มชื่อดังแสดงความเห็นอย่างรุนแรง เกี่ยวกับประเด็นความนิยมของสื่อบันเทิงเกาหลีใต้ ในโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตัวของ ทากาโอกะ ก็ได้ยอมรับถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ผมถูกไล่ออกจาก Stardust Promotion เพราะความผิดครั้งหนึ่งที่ได้ทำลงไป ที่มันได้สร้างปัญหาให้กับทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามันเป็นผลแห่งการกระทำที่สมเหตุสมผลดี ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ยังสนับสนุนผมครับ” ทากาโอกะ กล่าว

อย่างไรก็ตามยังมีรายงานจากสื่อบางสำนักว่าเป็น โซซึเกะ ทากาโอกะ ที่ขอลาออกยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดเอง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการลาออก ซึ่งเกิดจากการบีบโดย Stardust Promotion นั่นเอง

โดยเขายังยืนยันว่าจะไม่มีการประท้วงดื้อแพ่งต่อการตัดสินใจใดๆ ของต้นสังกัดอย่างแน่นอน “ผมไม่ได้หวังให้คนมองว่า ตัวเองคิดได้แล้ว อะไรแบบนั้นหรอกนะครับ … หวังว่าประชาชนทั่วไป จะสามารถคิดตัดสินใจถึงเรื่องนี้ได้เอง”

สุดท้ายแล้ว โซซึเกะ ทากาโอกะ กล่าวว่าตนเองรู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ของข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ก็จะยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกเสียงที่มีมาถึงตนเอง “ผมกลัวนะครับว่าจะมีรายงานที่สร้างเรื่องขึ้นมา จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ก็ขอรับคำวิจารณ์ทุกอย่างที่เกิดจากการกระทำของผมเอง สำหรับพวกเราในญี่ปุ่น ที่อาจจะยังตามเรื่องไม่ทัน อาจจะเชื่อรายงานตามเนื้อข่าว ได้โปรดจดจำไว้ด้วยนะครับ ว่าผมจะไม่ฆ่าตัวตายแน่นอน 120% เลย”

โดยมีความเห็นว่าสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับ โซซึเกะ ทากาโอกะ และ Stardust Promotion อดีตต้นสังกัดของเขาไม่ใช่การกล่าวพาดพิงถึงวงการบันเทิงเกาหลีใต้เป็นหลัก แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่ การแสดงความเห็นในทางลบต่อ Fuji TV สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของประเทศญีปุ่นนั่นเอง

ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องน่าตลกอยู่ไม่น้อย เพราะ Fuji TV เองเป็นบริษัทในเครือของ Fujisankei Communications Group ที่ยังเป็นเจ้าของสื่ออย่าง Sankei Shimbun หนังสือพิมพ์แนวอนุรักษ์นิยมของสังคมญี่ปุ่น ที่แสดงความเห็นอย่างรุนแรงต่อประเทศเกาหลีใต้อยู่เสมอ

ข้อความทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมาของ “โซซึเกะ ทากาโอกะ” ได้สร้างกระแสถกเถียงขึ้นอย่างมากมาย มีผู้แสดงความคิดเห็นผ่าน 2Channel ชุมชนออนไล์ที่ทรงอิทธิพลของประเทศญี่ปุ่นหลายพันความเห็นทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งนี้ เกิดจากความเห็นของ โซซึเกะ ทากาโอกะ ในทวิตเตอร์ ซึ่งมีคนตามอ่านอยู่ถึง 71,735 คน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ในอดีตที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณสถานีโทรทัศน์ Fuji TV อยู่นะครับ แต่ตอนนี้สงสัยแล้วว่า พวกเขาอาจจะกลายเป็นสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีไปแล้ว … สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าผมอยู่ในประเทศอะไรกันแน่ … มันทำให้ผมหัวเสีย ถ้ามีอะไรที่เกี่ยวกับเกาหลีโผล่ออกมา ผมจะปิดทีวีทันทีเลย มันเป็นปัญหาสำหรับผม เพราะดูแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองถูกล้างสมอง เพราะเราอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ผมอยากจะเห็นรายการของญี่ปุ่นมากกว่า รู้สึกขนลุกขนพองทุกครั้งที่ที่ได้ยินคำว่า ‘คลื่นบันเทิงเกาหลี’ ”

หลังจากนั้นในวันที่ 27 ก.ค. นักแสดงหนุ่มวัย 28 ปี ที่อยู่ระหว่างเดินทางไปทำงานยังประเทศสหรัฐอเมริกา ยังแสดงความเห็นต่อไปอีกถึงประเด็นดังกล่าว ชี้แจงว่าข้อความของเขา เป็นเพียงเรื่องของสิทธิเสรีภาพส่วนตัวเท่านั้น “ผมก็แค่นักแสดงคนหนึ่ง, คนคนหนึ่ง, ประชาชนคนหนึ่ง … มันหมายความว่ายังไงที่มีการพยายามควบคุมสิทธิการแสดงความเห็นของผมถึงขนาดนี้? โลกน่ากลัวขึ้นทุกวัน ทุกอย่างเกิดขึ้นจากแค่แสดงความเห็นเกี่ยวกับความบันเทิงจากเกาหลีใต้เท่านั้นเหรอ”

โดยระหว่างที่เกิดปัญหาขึ้น ทากาโอกะ ยังชี้แจงว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของเขาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับภรรยาสาวนักแสดงคนสวย อาโออิ มิยาซากิ (Aoi Miyazaki) อย่างแน่นอน “ผมไม่อยากเขียนแบบนี้เลย แต่เมื่อมีการขอร้องมา ผมก็จะทำ ภรรยาของผมเธอไม่ได้มีความรู้สึกเห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย”

ดาราหนุ่มสาวชื่อดัง โซซึเกะ ทากาโอกะ และ อาโออิ มิยาซากิ ได้เข้าพิธีสมรสกันในเดือน มิ.ย. 2007 หลังคบหาดูใจกันมานาน 7 ปี แต่หลังจากนั้น สื่อในวงการบันเทิงของประเทศญี่ปุ่นได้อ้างว่า ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ไม่ราบรื่นนัก ตัวของฝ่ายชายเองก็เคยเปรยถึงเรื่องปัญหาในชีวิตคู่เป็นครั้งคราวผ่านบล็อคส่วนตัว ซึ่งนักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังจากหนังเรื่อง Crow Zeros และ Rookies รายนี้เคยต้องปิดบล็อคส่วนตัวอยู่เป็นระยะ เพราะการแสดงความเห็นที่ค่อนข้างก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของเขานั่นเอง

Manager Online