เกย์รุ่นใหญ่ “หลิวติงซิง” แฉตำรวจหนุ่ม, ดาราชาย ยอมเปลือยถ่ายนู้ดเพื่อเงิน
คดีความที่เศรษฐีเกย์ “หลิวติงซิง” ถูกนักแสดงชาย 3 คน และฟิตเนสเทรนเนอร์อีก 1 คนฟ้องร้องในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้ข้อมูลที่ว่าเขาเคยถ่ายภาพนู้ดของชายหนุ่ม 35 คนเอาไว้ มีทั้งนักแสดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกเปิดเผยออกมา
สื่อรายหนึ่งได้ตีพิมพ์ชื่อของนักแสดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมแล้ว 35 คน ที่ว่ากันว่า เคยโพสท่าเซ็กซีให้เกย์รุ่นใหญ่ลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพ ซึ่งในที่สุด หลิวติงซิง ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างต่อสู้ในคดีล่วงละเมิดทางเพศได้ยอมรับว่าลิสต์รายชื่อดังกล่าวเป็นของจริง โดยเขายังเปิดเผยอีกว่าเคยถ่ายภาพของนักแสดงหนุ่มหล่อ หลอจ้งเสียน ไว้ถึง 3 หน นอกจากนั้น หนุ่ม วิลเลียม เฉิน ก็เคยมาเป็นนายแบบให้เขาถ่ายภาพเก็บเอาไว้ด้วย
โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ หลิวติงซิง อายุครบ 62 ปี ซึ่งเขาไม่ได้มีกำหนดต้องไปขึ้นศาล จึงใช้เวลาให้สัมภาษณ์ถึงงานอดิเรกการเก็บสะสมภาพนู้ดของหนุ่ม ทั้งในวงการบันเทิง และบรรดาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ตอนนี้มีเก็บเป็นคอลเลกชันส่วนตัวถึง 100,000 ภาพแล้ว!!! บางคนเป็นภาพในชุดลำลอง, บางคนเป็นภาพเปลือยอก และบางคนก็ถึงขั้นสวมกางเกงจีสตริงถ่ายภาพกันเลยทีเดียว
หลิวติงซิง ยังเผยถึงรสนิยมส่วนตัวว่าเขามองไปที่หนุ่มหุ่นล่ำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากนั้น ก็ยังชมไปถึง หลอจ้งเสียน ว่า นอกจากจะบึกบึนดีแล้วก็ยังหน้าตาหล่อเหลาด้วย ส่วน วิลเลียม เฉิน นั้นเคยมาเป็นนายแบบให้เขาถ่ายภาพเก็บเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนแล้ว
หลิวติงซิง ลั่น !!! “ทุกคนสมัครใจเอง”
โดยหนุ่มๆ หลายคนที่อยู่ในรายชื่อ ปฏิเสธว่าพวกเขาไม่เคยเปลื้องผ้าเป็นนายแบบให้เกย์รุ่นใหญ่ถ่ายภาพแต่อย่างใด หลายคนอ้างว่าไม่เคยรู้จัก หลิวติงซิง เป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคุณหลิวได้ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง ที่ผ่านมา มีผู้เข้าประกวดมิสเตอร์ฮ่องกงถึง 8 คนที่เคยโพสท่าให้เขาถ่ายภาพ เช่นเดียวกับ หลอจ้งเสียน, ไบรรอน เผิง, เบนจามิน หยวน และสแตนลี เจิ้ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงอีกจำนวนหนึ่ง
เขายังกล่าวว่าตนเข้าใจดีที่หนุ่มๆ เหล่านี้ปฏิเสธข่าวเรื่องการถ่ายภาพ และไม่รู้สึกว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกันแต่อย่างใด แต่สำหรับเขาแล้วขอชื่นชมคนที่สามารถพูดความจริงได้โดยไม่บิดเบือนมากกว่า นอกจากนั้นเศรษฐีที่เปิดเผยเรื่องรสนิยมทางเพศของตนเองอย่างเต็มใจยังกล่าวว่า หนุ่มๆ เหล่านี้ยอมโพสท่าเป็นแบบให้เขาถ่ายภาพ ก็เพราะเหตุผลเรื่องเงิน และความโด่งดัง ที่เขาสามารถช่วยสนับสนุนให้ดังได้กันทั้งนั้น
หลังข่าวดังกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตขึ้นมา EEG ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่านักแสดงในสังกัดอย่าง วิลเลียม เฉิน ไม่เคยเป็นนายแบบนู้ดให้ คุณหลิว อันที่จริงเขาไม่เคยรู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป ซึ่งอาจมีการใช้มาตรการกฎหมายเพื่อปกป้องนักแสดงในสังกัดต่อไป
ฝ่าย Filmko ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ หลอจ้งเสียน ปฏิเสธข่าวยืนยันว่าศิลปินในสังกัดไม่เคยถ่ายภาพนู้ดชนิด “เปลือยทั้งตัว” หรือมีพฤติกรรมไม่สมควรใดๆ กับเศรษฐีคนนี้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเขาก็ไม่เคยเกี่ยวข้องกับคดี ไม่เคยไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากมีรูปที่ว่าจริงๆ บริษัทก็ต้องการจะเห็นด้วย
แต่สุดท้าย หลอจ้งเสียน จำต้องยอมรับว่าเขารู้จักคู่กรณีจริง แต่ที่โกหกไปก็เพราะด้วยเหตุผลจำเป็น “ผมรู้จักกับคุณหลิวผ่านทางเพื่อนนอกวงการคนหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธว่าไม่รู้จักเขาไปก็เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการให้เรื่องของคดีเป็นความลับ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งผมว่าถึงเวลาที่จะอธิบายแล้ว” นักแสดงหนุ่มกล่าว
พูดถึงหนุ่มๆ ในวงการ “อาเฉิน” (Edison Chen) ไม่ใช่สเปก, “แดเนียล” (Daniel Wu) แก่ไปแล้ว, “หลอจ้งเสียน” เล็กนิดเดียว
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ หลิวติงซิง ยังมีโอกาสพูดถึงหนุ่มๆ ทั้งที่ไม่เคยถ่ายรูปเขา และที่เคยมาแล้ว
ถ้าจะพูดถึงหนุ่มผู้อื้อฉาว เฉินกว้านซี เศรษฐีเกย์บอกว่าไม่ใช่แบบที่เขาชอบเท่าไหร่ และดูเหมือนว่าอาเฉินน่าจะเป็นคนอยากถ่ายรูปเองมากกว่า ส่วน หลินฟง (Raymond Lam) ก็แก่เกินไปแล้ว และดูจะรอบอกเล็กไปหน่อย ส่วน แดเนียล วู ก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป
แต่เมื่อพูดถึงแบบที่เขาชอบจริงๆ แล้วต้องเป็นหนุ่มที่ดูดีตั้งแต่หัวจดปลายเท้า และเขาชอบหนุ่มที่ดูมีความคิดเป็นของตัวเอง มีไหวพริบว่องไวมากกว่า
เมื่อถามถึงเรื่อง “ขนาด” ของส่วนสำคัญในตัวผู้ชาย หลิวติงซิง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “คุณเดาเอาไม่ได้หรอก จะไปเทียบ ‘ขนาด’ กับ ‘ส่วนสูง’ ไม่ได้เด็ดขาด หนุ่มที่รูปร่างธรรมดาๆ จะมีขนาดใหญ่น่าประทับใจอยู่ซัก 60% แต่คนที่ตัวสูงน่ะเหรอมีแค่ 20% เท่านั้นแหละ ยิ่งกล้ามใหญ่ส่วนล่างจะยิ่งเล็ก!”
สำหรับเรื่อง ‘ขนาด’ ของ หลอจ้งเสียน เขาไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก แต่ทำไม้ทำมือประกอบ พร้อมกล่าวว่า “ไม่ได้ใหญ่นัก”
จากเรื่องจริงสู่หนังเกย์ “Bishonen”
หนึ่งในหลักฐานที่ทำให้คำพูดของ หลิวติงซิง ดูน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้างก็เห็นจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Bishonen ของผู้กำกับเกย์ ยอนฟาน ที่เข้าฉายเมื่อปี 1998 และยังคงเป็นที่พูดถึงในปัจจุบัน ซึ่งว่ากันว่าสร้างมาจากเหตุการณ์จริง และอ้างอิงเรื่องราวของเศรษฐีเกย์รายนี้ด้วย
ในหนังเรื่องนั้น แดเนียล วู และ ฝงเต๋อหลุน ได้มีโอกาสสวมบทบาทเป็นคู่รักกัน โดยในเรื่องด้วยเหตุผลบางอย่างตัวละครของ แดเนียล ที่รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มรูปหล่อ ได้ตัดสินใจโพสท่าวาบหวิว ให้นักธุรกิจผู้ร่ำรวยซึ่งสวมบทบาทโดยดารารุ่นใหญ่ โจ จูเนียร์ ถ่ายภาพ โดยในหนังเรื่องนั้น แดเนียล ยังต้องแสดงบทรักกับนักแสดงรุ่นใหญ่อายุคราวพ่อด้วย
กลายเป็นว่า หลิวติงซิง นี่เองที่มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของหนัง Bishonen ซึ่ง ยอนฟาน ใช้เศรษฐีเกย์รายนี้เป็นต้นแบบตัวละครที่มี โจ จูเนียร์ เป็นผู้แสดงด้วย แต่เพราะเขาไม่ค่อยพอใจกับนักแสดงที่มาสวมบทบาทตัวเองเท่าไหร่ หลิวติงซิง จึงปฏิเสธที่จะดูหนังเรื่องนี้ พร้อมเผยว่าหากให้เลือกเองแล้ว เขาก็อยากให้เจียงหัว มาแสดงเป็นตัวเองมากกว่า
“เจิ้งจื่อเหว่ย” ถึงนักแสดงรุ่นน้อง Just Say No!!!
ประเด็นข่าวของเกย์รุ่นใหญ่กับหนุ่มๆ ในวงการมากหน้าหลายตา เป็นที่วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง รุ่นใหญ่ในวงการบันเทิงอย่าง เจิ้งจื่อเหว่ย (Eric Tsang) ยังได้ออกมากล่าวแสดงความเห็น และแนะนำไปถึงรุ่นน้องในวงการว่าควรจะปฏิเสธโดยทันที เพื่อไม่ให้มีปัญหาอะไรต้องมาทำให้ปวดหัวภายหลัง
“ก่อนอื่น, อย่าไปสงสัยอยากรู้อยากเห็นอะไร สองอย่าสั่นไหวกับข้อเสนอ จุดอ่อนในชีวิตของทุกคนก็คือปฏิเสธไม่เป็น!!!” เจิ้งจื่อเหว่ยกล่าว พี่เตี้ยแห่งวงการหนังฮ่องกงยังตอบคำถามที่ว่าเขาเคยเจอกับปัญหาแบบนี้บ้างหรือไม่ด้วย “หน้าแบบนี้น่ะเหรอครับ ไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับผมหรอก ต้องหาเลี้ยงตัวเองอย่างเดียวตั้งแต่หนุ่มแล้ว”
เหล่าหนุ่มๆ ที่เคยโพสท่าให้ หลิวติงซิง ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นคอลเลกชัน
Manager Online
