Golden Harvest คืนวงการ - เล็งรีเมก Fly Me to Polaris

บริษัทหนังระดับตำนานของวงการบันเทิงฮ่องกง เตรียมกลับมาผลิตภาพยนตร์อีกครั้ง กับการหยิบเอาหนังโรแมนติกสุดฮิตเมื่อปี 1999 กลับมาสร้างใหม่
       
       Golden Harvest หรือปัจจุบันที่ใช้ชื่อบริษัทว่า Orange Sky Golden Harvest Entertainment Co Ltd (OSGH) ได้เริ่มต้นกลับคืนสู่ธุรกิจภาพยนตร์อีกครั้ง ประเดิมด้วยการหยิบเอา Fly Me to Polaris หนังโรแมนติกสุดดังปี 1999 กลับมาสร้างใหม่
       
       สำหรับ Fly Me to Polaris เป็นหนังรักแฟนตาซีที่มี เริ่นเสียนฉี (Richie Jen) และจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) รับบทนำ เป็นผลงานของ จิงเกิล หม่า ที่ข่าวระบุว่าจะกลับมากำกับหนังฉบับใหม่ด้วย พร้อมทุนสร้าง 25 ล้านหยวน กับดารานำชุดใหม่ทั้งหมด โดยหนังยังจะเป็นความร่วมมือกับทาง Sony ที่จะสนับสนุนกล้อง 4K เพื่อช่วยให้หนังมีความน่าสนใจกับภาพความละเอียดสูง ที่ทางตัวแทนของ Golden Harvest ยืนยันว่า จะสร้างความแตกต่างจากหนังทั่วๆ ไปได้อย่างแน่นอน
       
       Fly Me to Polaris หรือ “ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ” เป็นงานที่เล่าเรื่องของ “หยังชงโถว” หนุ่มที่เป็นใบ้ และตาบอด ซึ่งหลงรัก “อี๋ชิวหนาน” นางพยาบาลสาวจิตใจดีผู้บริสุทธิ์และอ่อนโยน แต่ก่อนที่เขาจะได้สารภาพความในใจใดๆ กับเธอ กลับต้องมาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน จนสุดท้ายได้รับโอกาสอีก 5 วันบนโลกมนุษย์ เพื่อทำความปรารถนาให้สำเร็จก่อนจะจากโลกนี้ไป
       
       ซึ่งทางโฆษกของบริษัท เผยว่า Fly Me to Polaris เวอร์ชันใหม่ จะไม่ได้นำเรื่องราวเดิมกลับมาสร้างใหม่เสียทีเดียว อาจจะพูดได้ว่าเป็นหนังในชุดเดียวกันมากกว่า และจะเล่าเรื่องที่มีพื้นฐานคล้ายๆ กัน กับความรักของคนเป็นกับคนตายเหมือนเดิม
       
       Golden Harvest ที่ก่อตั้งโดย เลนนาร์ด เหอ และ เรย์มอน เชา อดีตผู้บริหารของ ชอว์ บราเดอร์ ถือเป็นผู้สร้าง และจัดจำหน่ายหนังแถวหน้าของฮ่องกงมาตั้งแต่ยุค 1970s มีผลงานโด่งดังไปทั่วโลกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานของสองนักบู๊ บรูซ ลี และ เฉินหลง อย่าง The Big Boss, Fist of Fury, Way of the Dragon, Enter the Dragon, Police Story, Project A ก็สร้างขึ้นภายใต้บริษัทแห่งนี้ รวมถึงหนังดังๆอีกมากมาย ชนิดที่ว่าโลโก้สี่เหลี่ยมผืนผ้า 4 อันต่อกัน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังฮ่องกงในยุคสมัยหนึ่งกันเลยทีเดียว
       
       แต่หลังวงการหนังฮ่องกงซบเซา Golden Harvest ก็เริ่มผลิตงานน้อยลง จนยุติการสร้างหนังไปในที่สุด และขายลิขสิทธิ์หนังของบริษัทไปให้กับ Star TV ในปี 1993 ที่ต่อมาหนังเหล่านั้นถูกเผยแพร่ผ่านแบรนด์ Fortune Star Entertainment (HK) Ltd โดยมีบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ China Media Capital เป็นเจ้าของ
       
       ส่วน Golden Harvest Entertainment Co Ltd ก็หันไปลงทุนกับธุรกิจโรงภาพยนตร์แทน จนกระทั่งในปี 2007 เรย์มอน เชา ได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ของตัวเองไปให้กับบริษัท Orange Sky ในอีก 2 ปีต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Orange Sky Golden Harvest จนถึงปัจจุบัน
       
       ซึ่งล่าสุดที่บริษัทระดับตำนานแห่งนี้ได้เริ่มขยับตัวกลับมาหาธุรกิจสร้างหนังอีกครั้งนั้น ก็เพราะแม้วงการหนังฮ่องกงยังคงซบเซาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ธุรกิจกำลังคึกคักขึ้นเรื่อยๆ มีภาพยนตร์ทำลายสถิติรายได้แทบทุกปี
       
       โดยทางโฆษกของ Golden Harvest กล่าวว่าจะพยายามสร้างหนังให้ได้ปีละ 1-2 เรื่อง อยู่ที่ว่าขั้นตอนการพัฒนาบท และเรื่องราวต่างๆ จะทำได้เร็วแค่ไหน ซึ่งหนังที่จะสร้างอาจเป็นการรีเมกจากงานคลาสสิกของทาง Golden Harvest เองหรือพัฒนาบทใหม่ๆ ขึ้นมา นอกจากนั้นก็จะพยายามหาโอกาสร่วมงานกับทางฝั่งฮอลลีวูดด้วย

 

Manager Online