รวยมหาศาล เจย์ โจว (Jay Chou) ยังขอเงินรัฐบาลสร้างหนัง?

       กลายเป็นที่วิจารณ์ขึ้นมาจนได้สำหรับหนังเรื่องล่าสุดของ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ที่ชาวไต้หวันหลายคนรู้สึกไม่สบายใจกับการได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งๆที่ศิลปินหนุ่มชื่อดังคนนี้มีรายได้มหาศาลอยู่แล้ว
       
       ข่าวจากไต้หวันระบุว่า Rooftop ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ เจย์ โจว นั้นได้รับเงินสนับสนุนถึง 12 ล้านเหรียญไต้หวัน (12 ล้านบาท) จากรัฐบาลไต้หวัน ทั้งๆที่ศิลปินหนุ่มคนดังมีรายได้ในปีนี้ถึง 570 ล้านเหรียญไต้หวัน จากการทำงานทั้งที่ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ที่เขามาแย่งเงินก้อนนี้กับคนทำหนังรายอื่นๆ ที่ต้องการแหล่งเงินทุนจริงๆไป
       
       แหล่งข่าวเปิดเผยว่าหนังของ เจย์ โจว จะใช้เงินทุนสร้างรวมสูงถึง 200 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหนังเปิดเผยว่า Rooftop ไม่ได้เป็นหนังที่ เจย์ ลงทุนสร้างเอง แต่มาจากผู้ลงทุนหลายราย ซึ่งเมื่อหนังเข้าฉายอย่างเป็นทางการ ก็จะมีการคืนเงินให้กับภาครัฐต่อไป
       
       นอกจากตัวของศิลปินหนุ่มชื่อดังแล้ว หน่วยงานผู้ออกทุนก็โดนวิจารณ์ไปด้วย โดยนาย จูเหวินฉิง แห่งสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมโสตทัศน์และดนตรีได้อธิบายว่า หลักเกณฑ์การอนุมัติเงินทุนให้กับภาพยนตร์นั้น จะประเมินจากคุณสมบัติที่ว่าหนังเรื่องนั้นๆ ต้องเป็นหนังไต้หวันจริงๆ โดยหากผลงานดังกล่าวมีผู้กำกับ และทีมงานมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นชาวไต้หวัน รวมถึงถ่ายทำในไต้หวันเกิน 1 ใน 3 ของเรื่องทั้งหมด ก็จะถือว่าเข้าหลักเกณฑ์
       
       ในการให้สัมภารณ์ที่งานแถลงข่าวเปิดตัวหนัง เจย์ โจว กล่าวถึง Rooftop ว่าเป็นหนังที่ยากจะให้คำจำกัดความ เพราะจะมีทั้ง การเต้นรำ, ดนตรี และศิลปะการต่อสู้ เขายังยืนยันว่าจะเป็นงานที่มอบทั้งความสุข, ความตื่นเต้น และความประทับใจให้กับคนดูได้แน่นอน โดยศิลปินหนุ่มอันดับ 1 ของไต้หวัน ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อตัดสินใจทุ่มเทให้กับงานในวงการภาพยนตร์ นอกจากจะกำกับหนังเรื่องแรก Secret ได้ทั้งเงินและคำชมแล้ว ยังมีโอกาสไปไกลถึงได้งานแสดงในฮอลลีวูดด้วย
       
       อันที่จริงก่อนหน้านี้ Rooftop ของ เจย์ โจว ก็เคยสร้างประเด็นให้คนได้วิจารณ์กันมาแล้ว เมื่อมีรายงานว่าหนังได้เข้าไปใช้สถานที่ Hutoupi Scenic Area ใน ไท่หนานถ่ายทำ จนกระทบไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ไม่สามารถเข้าชมสถานที่ได้ รวมถึงเคยไปปักหลักถ่ายทำกันที่แหล่งท่องเที่ยวถนนเก่า ที่หยุนหลิน ในช่วงวันหยุด จนสร้างปัญหาให้กับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ทีมงานออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนขู่ว่ามีสิทธิ์ถูกไล่ออกได้ หากนำพล็อตของหนังไปเปิดเผยในทางอินเตอร์เน็ต

 

Manager Online