ญี่ปุ่นส่งผลงาน ผกก. สาวเชื้อสายเกาหลีชิงรางวัลออสการ์

        คณะกรรมการคัดเลือกภาพยนตร์เพื่อส่งชิงรางวัลออสการ์ของประเทศญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจเลือกผลงานของผู้กำกับหญิงวัยแค่ 37 ปี และยังเป็นชาวญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลี เพื่อส่งชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศในปีหน้า
       
       ภาพยนตร์เรื่อง Soko Nomi Nite Hikari Kagayaku หรือ The Light Shines Only There ได้กลายเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นในการชิงรางวัลออสการ์ประจำปี 2015 อย่างเหนือความคาดหมายเล็กน้อย เพราะนี่คือหนังอินดีซึ่งไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่ชาวญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังเป็นผลงานของผู้กำกับชาวญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลีด้วย
       
       ไม่เท่านั้น The Light Shines Only There ยังเป็นผลงานของผู้กำกับหญิงที่มีอายุแค่ 37 ปี เท่านั้น จึงนับว่าเป็นหนังของผู้กำกับหญิงชาวญี่ปุ่นคนที่ 2 เท่านั้นที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศไปชิงรางวัลออสการ์ หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนคณะกรรมการคัดเลือกฯ เคยส่ง Our Homeland ของ ยังยองฮี ผู้กำกับหญิงชาวญี่ป่นเชื้อสายเกาหลีอีกคนไปชิงรางวัลใหญ่ระดับโลก
       
       "ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะที่หนังของเราจะมีโอกาสไปฉายให้คนทั่วโลกได้ดูอีกครั้ง และแม้จะรู้สึกยินดีมากแล้ว ที่เกิดปาฏิหารณ์ขึ้นแบบนี้ แต่ก็อดที่จะนึกหวังไม่ได้ว่าอาจจะมีปาฏิหารณ์เกิดขึ้นอีกในอนาคต" โอ กล่าวผ่านเฟซบุ๊คอย่างเป็นทางการของหนัง The Light Shines Only There ว่าเธอเองก็หวังลึกๆ อยู่เหมือนกันว่าหนังจะไปได้ไกลกว่าการเป็นแค่ตัวแทนของประเทศ

       The Light Shines Only There เล่าเรื่องของหนุ่มตกงาน เท็ตสึโอะ ซาโตะ (โก อายาโนะ / Go Ayano) ที่ใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย จนได้คบเพื่อนคนหนึ่ง (มาซากิ สุดะ / Masaki Suda) ที่ได้พบกันโดยบังเอิญในร้านปาจิงโกะ เท็ตสึโอะ ยังได้ทำความรู้สึกกับครอบครัวของเพื่อนคนนี้ที่ประกอบไปด้วยพ่อซึ่งเป็นอัมพาตจนทำอะไรได้ไม่สะดวก และแม่ที่ดูจะไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย นอกจากทำตามคำสั่งของสามี แต่คนที่ เท็ตสึโอะ รู้สึกสนใจเป็นพิเศษกลับเป็น จินัตสึ (จิสุรุ อิเคะวากิ / Chizuru Ikewaki) พี่สาวของเพื่อนที่เป็นลูกสาวคนโตของบ้าน หญิงสาวที่มีบุคลิกน่าสนใจบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกสนใจขึ้นมา ความสัมพันธ์ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่ได้มีความเป็นใจเลยระหว่างคนทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้น
       
       หนังเรื่องนี้ เป็นงานที่มีต้นฉบับมาจากนิยายดังผลงานเมื่อปี 1989 ของ ยาสึชิ ซาโตะ ที่เล่าเรื่องของการต่อสู้กับอดีตอันเจ็บปวด และการใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าของตัวละครทั้ง 2 คน ในฉากหลังเมืองท่าเรือที่ฮอกไกโด ซึ่งเป็นหนังที่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่มองตรงกันว่าไม่ใช่ภาพยนตร์ตลาดที่ดูง่ายนัก แต่ก็เป็นงานที่ท้าทายสำหรับแฟนหนังทุกคน
       
       สำหรับผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ โอมิโป เกิดเมื่อปี 1977 ในจังหวะมิเอะ และทำงานในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นมานานมากกว่าทศวรรษแล้วหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอซาก้า โดยเธอเข้าเป็นพนักงานในบริษัทผลิตภาพยนตร์ PSC ของผู้กำกับรุ่นใหญ่ โนบุฮิโกะ โอบายาชิ ก่อนที่ โอ จะได้ทำหนังของตัวเอง โดยถึงตอนนี้เธอมีผลงานเป็นหนังสั้น กับหนังยาวอย่างละ 3 เรื่องแล้ว และคว้ารางวัลจากสถาบันต่างๆ มาพอสมควร
       
       ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับผู้กำกับหญิงวัย 37 ปี ที่จะแจ้งเกิดขึ้นมาในวงการหนังญี่ปุ่น ซึ่งยังคงได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรของผู้ชาย แต่นอกเหนือจากนั้น โอมิโป ยังเป็นชาวญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลีซึ่งถือว่าเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศด้วย
       
       ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าผลงานเรื่องนี้ก็ถือว่าสะท้อนความรู้สึกของเธอในฐานะคนนอกของสังคมออกมาเหมือนกัน "บางส่วนก็ใช่ค่ะ ... ฉันเป็นคนไซนิจิโคเรียน (ชาวญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลี) ไม่ใช่ญี่ปุ่นแท้ๆ เพราะฉะนั้นนี่ก็อาจจะเป็นพลังบางอย่างที่กระตุ้นให้ฉันสร้างหนังเรื่องนี้ออกมา ฉันอาศัยอยู่ในประเทศที่ตัวเองไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของที่นี่ พ่อแม่ปู่ย่าเดินทางมาที่ญี่ปุ่นแล้วฉันก็เกิดที่นี่ มันก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ฉันคิดอยู่ตลอดว่าการเป็นคนญี่ปุ่นคืออะไรกันแน่? หรือพูดอีกอย่างก็คือการใช้ชีวิตอย่างปกตินี่นี้จะต้องทำยังไงกันแน่? ฉันคงไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้เพราะเป็นคนเชื้อสายเกาหลีโดยตรง แต่ก็คงพูดได้ว่ามันเป็นแรงผลักดันในการสร้างตัวละครในหนังขึ้นมาเหมือนกัน"

 

 

『そこのみにて光輝く The Light Shines Only There』 予告編 trailer
 

 

Manager Online