Devil Beside You - ถึงร้ายก็รัก
ละครเรื่องนี้ได้นำมาสร้างจากการ์ตูนของญี่ปุ่นที่เป็นของบริษัทโชโจ ที่ใช้ชื่อเรื่องว่า "Akuma de Souro" หรือที่แปลว่า Devil Does Exist ที่เขียนขึ้นโดย Takanashi Mitsuba
ฉียูเป็นหญิงสาวที่เดียงสาวและน่ารัก ซึ่งกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสอง เธอได้ปิ๊งกัปตันชมรมบาสเก็ตบอลหยวนอี้ เพราะแรงผลักดันจากเพื่อนสนิทของเธอจึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะสารภาพรัก แต่การที่เธอพยายามนั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะตอนที่เธอสารภาพกัปตันคนนั้นกลับเดินผ่านไปแล้ว จึงทำให้เธอยื่นจดหมายรักให้ผิดคน กลายเป็นว่าเธอยื่นให้กับเจียงเหมงแทน เขาเป็นถึงลูกชายของผู้อำนวยการของโรงเรียน เธอทำจดหมายของเธอตกไว้ แล้วก็วิ่งหนีไป
นักเรียนปีหนึ่งเจียงเหมงเป็นที่รู้จักกันในนาม "เจ้าชาย" เพราะความที่เขาหน้าตาดีและป๊อปมากๆ ในกลุ่มสาวๆ แต่เขากลับมีภาพพจน์เหมือนกับปีศาจ
เช้าวันรุ่งขึ้นเจียงเหมงแอบเอาจดหมายรักนั้นกลับไปขู่ฉียูทำให้เธอกลายเป็นทาสคอยรับใช้เขา มิฉะนั้นเขาจะเอาจดหมายนั้นไปประจานในที่สาธารณะ จริงๆ แล้วฉียูก็ยังลังเลที่จะรับปากเขา และเมื่อฉียูคิดว่าโชคของเธอคงไม่ร้ายไปกว่านี้ เธอกลับมารู้ว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นแม่หม้ายได้รับหมั้นกับแฟนใหม่ของแม่เธอที่เป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนซะแล้ว ซึ่งการหมั้นนี้จะทำให้เธอและเจียงเหมงกลายเป็นพี่น้องกัน
ฉียูค่อยๆ รู้จักเจียงเหมงมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงเริ่มรู้ว่าเขาไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่ทุกๆ คนคิด เขามีแบบฉบับของเขาในการให้ความสำคัญกับคนอื่น และความรู้สึกที่เธอมีให้เขาก็เริ่มดีตามขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้
ยังไงก็ตามพวกเขาต้องยอมรับชะตากรรมที่ไม่สามารถจะปฏิเสธได้ก็คือพวกเขากลายมาเป็นพี่น้องกันเพราะการแต่งงานของพ่อและแม่ของพวกเขาทั้งสอง แต่เรื่องร้ายๆ ก็ไม่จบลงแค่นั้นเมื่อรักเก่าของพวกเขาได้กลับเข้ามาวุ่นวายกับพวกเขามากขึ้น พวกเขาจะรู้ตัวมั้ยว่าพวกเขาต่างก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กันจะต้องติดตามละครโรแมนติคที่ไม่ควรพลาดอีกเรื่อง
จู่โจม
ความสุขไม่เคยเป็นของฉัน ฉันจึงต้องอธิษฐานขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น...
ฉีเยี่ยนำจดหมายรักที่อดหลับอดนอนเขียนตลอดทั้งคืน พร้อมด้วยฉิงจื่อและเสียวไฉ่เพื่อนรักพากันไปดักรอซ่างหยวนอีที่ถนนที่ใช้ เป็นทางผ่านเป็นประจำ
“ลุย...ฉีเยี่ย ! กระโจนสู่อ้อมกอดซ่างหยวนอีเลย !” จื่อฉิงผลักฉีเยี่ยเข้าหาซ่างหยวนอี
ฉีเยี่ยซึ่งถือจดหมายรักอยู่ในมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปกลับพบว่าชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ชายในฝันของเธอ แต่กลับเป็นเจียงเหมิ่งนักศึกษาใหม่คณะศิลปศาสตร์...นักศึกษาเจ้าปัญหาของ มหาวิทยาลัย
เจียงเหมิ่งใช้สายตาจิกฉีเยี่ยจนเธอต้องผละออกไป ฉีเยี่ยลนลานจนลืมมอบจดหมายรักให้เจียงเหมิ่ง กระทั่งวันรุ่งขึ้นเจียเหมิ่งก็ปรากฏตัวพร้อมจดหมายรักโดยนำจดหมายรักข่ม ขู่ฉี่เยี่ย...
“เป็นคนของฉัน” เพื่อแลกกับการที่จดหมายรักไม่ถูกเผยแพร่ออกไป ฉีเยี่ยไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมรับข้อเสนอที่ไร้เหตุผลของเจียงเหมิ่ง
ฉีเยี่ยไม่เพียงถูกบีบบังคับให้จดบันทึกบทเรียนให้เจียเหมิ่งเท่านั้น หลังจากเลิกเรียนแล้วก็ต้องหาซื้อน้ำ พัดให้เมื่ออากาศร้อน ช่วยถือกระเป๋าหนังสือ.....รับใช้จิปาถะ ทุกครั้งที่เจียเหมิ่งสั่นกระดิ่ง ฉีเยี่ยจะต้องถึงตัวเจียเหมิ่งทันที แต่แล้วฝันร้ายที่ฉีเยี่ยหวาดกลัวที่สุดก็ไม่ละเว้นเธอ ในที่สุดจดหมายรักก็ถูกเผยแพร่ออกมา แม้ว่าซ่างหยวนอีไม่ได้มีท่าทีเหินห่างต่อฉีเยี่ยก็ตาม แต่ฉีเยี่ยกลับทนไม่ได้ที่ต้องอยู่ใต้อาณัติของเจียงเหมิ่ง
“ความรู้สึกของคน ไม่สามารถถูกใครบีบบังคับได้ตามอำเภอใจ” นับเป็นครั้งแรกที่ฉีเยี่ยรวบรวมความกล้าเผชิญหน้ากับมารร้ายเช่นเจียงเห มิ่ง
“สิ่งใดก็ตามที่ฉันอยากได้ก็ต้องได้ เธอน่าจะรู้ดีที่สุด”
ไม่ได้เป็นโรคจิต ไม่ได้บีบบังคับข่มขู่ คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเจียงเหมิ่ง ทำให้ฉีเยี่ยซึมเลยทีเดียว
เมื่อกลับถึงบ้าน เสี่ยเวยแม่ของฉีเยี่ยบอกฉีเยี่ยด้วยความตื่นเต้นว่าเจ้าบ่าวที่แม่จะ แต่งงานใหม่เป็นหัวหน้าฝ่ายธุรการของมหาวิทยาลัย ที่ฉีเยี่ยศึกษาอยู่ วันนี้ลูกชายว่าที่เจ้าบ่าวจะมาทานอาหารที่บ้านของเรา และแล้วฉีเยี่ยก็พบว่าลูกชายของว่าที่เจ้าบ่าวนั้นคือเจียงเหมิ่งมารร้าย ซึ่งเธอต้องการสลัดหลุดให้ได้
นี่เป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน ถ้าหากนี่เป็นฝันร้ายจริงก็ขอให้ฉันตื่นจากฝันร้ายโดยเร็วด้วยเถิด
ช่วงชิง
ฉันเคยพูดว่าสิ่งใดก็ตามที่ฉันอยากได้ก็ต้องได้
เจียงเหมิ่งซึ่งมีความอัจฉริยะทางด้านกีฬาได้ตัดสินใจเข้าร่วมชมรมบาสเกตบอล ตามคำเชิญของซ่างหยวนอีโดยมีข้อแม้ว่าฉีเยี่ยจะต้องเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ ตนเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันนี้เอง แฟนคลับที่เหนียวแน่นของเจียงเหมิ่งก็ได้แสดงตัวออกมาโดยยอมรับว่าเธอเป็นคน นำจดหมายรักไปปิดประกาศเอง ด้วยความที่ฉีเยี่ยรู้สึกผิดจึงตัดสินใจไปขอโทษเจียงเหมิ่ง นึกไม่ถึงว่าเจียงเหมิ่งกลับฉวยโอกาสนี้ดึงฉีเยี่ยเข้ามาจูบ และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือซ่างหยวนอีได้ผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอดี ถึงแม้ว่าซ่างหยวนอีแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่คนรอบข้างกลับสังเกตเห็นซ่างหยวนอีซึ่งเป็นคนเล็งผลเลิศนั้นมักจะใจลอย ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉีเยี่ยไม่กล้าเข้าชมรมบาสเกตบอล ด้วยไม่รู้จะเผชิญหน้ากับซ่างหยวนอีอย่างไรดี
ซ่างหยวนอีและฉีเยี่ยต่างหลบหน้ากันและกัน ฉิงจื่อสุดที่จะทนต่อไปได้จึงตัดสินใจไปเจรจากับซ่างหยวนอี นับเป็นครั้งแรกที่ฉิงจื่อพบเห็นซ่างหยวนอีบันดาลโทสะ ทำให้หมดศรัทธาซ่างหยวนอีเลยทีเดียว
ภายในห้องข้อมูล ฉีเยี่ยและซ่างหยวนอีมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ซ่างหยวนอีปิดประตูลงกลอนเพื่อพูดคุยเป็นส่วนตัวกับฉีเยี่ย
“คนดีก็เหนื่อยล้าเป็น” เมื่อเห็นใบหน้าของซ่างหยวนอีชิดเข้ามาก็ทำให้ฉีเยี่ยพลันหวนนึกถึงใบหน้า อันชั่วร้ายของเจียงเหมิ่งขึ้นมา
“ไม่” ฉีเยี่ยเบี่ยงตัวหลบซ่างหยวนอี ที่แท้ฉีเยี่ยพบว่าเธอหลงรักเจียงเหมิ่งมารร้ายเข้าเสียแล้ว
การปรากฏตัวของเจียงเหมิ่ง ทำให้ซ่างหยวนอีต้องจากไป แต่ศึกครั้งนี้ใช่ว่าจะยุติกันง่ายๆ
วิกฤต
"คนรักอยู่ข้างกาย โลกนี้มีความสุขใดเทียบเทียม"
เมื่อเห็นความสัมพันธ์ของเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยดีวันดีคืน ในที่สุดซินลี่เซียงก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
เพื่อทำลายความสัมพันธ์อันดีของเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ย ซินลี่เซียงได้วางแผนให้ร้ายฉีเยี่ย ทำให้เจียงเหมิ่งเข้าใจผิดฉีเยี่ยอย่างรุนแรง คนเดียวที่ช่วยแก้ไขวิกฤตนี้ได้มีเพียงซ่างหยวนอีเท่านั้น แต่เมื่อเห็นเจียงเหมิ่ง กลับก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เมื่อเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยเลวร้ายลง ซินลี่เซียงจึงฉวยโอกาสนี้เข้าหาเจียงเหมิ่งเพื่อแทนที่ฉีเยี่ย ถึงกระนั้นก็ตามแม้ว่าฉีเยี่ยไม่ได้อยู่ข้างกายเจียงเหมิ่ง แต่เจียงเหมิ่งก็ยังคงมีท่าทีเย็นชา ต่อซินลี่เซียงเช่นเดิม เจียงเหมิ่งบอกซินลี่เซียงว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นได้เพียงเพื่อนที่ เติบโตมาด้วยกันเท่านั้น หยางผิงรับรู้ถึงความหดหู่สิ้นหวังของซินลี่เซียงเป็นอย่างดี จึงปลอบประโลมให้เธอคลายเศร้า
เพื่อให้ฉีเยี่ยไปจากเจียงเหมิ่งอย่างถาวร ซินลี่เซียงจึงตัดสินใจเสี้ยมหยางผิงซึ่งหลงรักเธอจนหัวปักหัวปำ ให้ร้ายฉีเยี่ย แต่แล้วซินลี่เซียงก็เปลี่ยนใจกลางคันด้วยการบอกให้เจียงเหมิ่งไปช่วย ฉีเยี่ยโดยเร็ว
ในช่วงวิกฤตนั่นเอง แม้ว่าเจียงเหมิ่งสามารถช่วยฉีเยี่ยไว้ได้ แต่มิตรภาพระหว่างเจียงเหมิ่งและหยางผิงก็ต้องพังทลายลง ฉีเยี่ยตอบโต้หยางผิงและซินลี่เซียง ในที่สุดซินลี่เซียงก็ยอมรับความพ่ายแพ้ เมื่อซินลี่เซียงเห็นหยางผิงได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ ทำให้เธอตระหนักแล้วว่าหยางผิงเป็นองครักษ์ที่อยู่ข้างกายเธอ ไม่มีวันทอดทิ้งไปจากเธอ
หลุมพราง
ความหวาดระแวงสงสัย ความไม่สบายใจ ความรู้สึกผิด เป็นความรู้สึกที่ต้องลืมทั้งหมด
หยวนชวนย่างนักศึกษาชั้นปีหนึ่งคณะสารสนเทศตามจีบฉีเยี่ย รูปลักษณ์ภายนอกที่งดงามของหยวนชวนย่างทำให้ฉีเยี่ยเข้าใจผิดคิดว่าหยวนชวน ย่างเป็นผู้หญิง แต่ชายหนุ่มรูปงามกลับหอบความแค้นเอาไว้โดยหมายทำลายความ สุขของเจียงเหมิ่ง
ความจริงแล้วหยวนชวนย่างต้องการได้รับความเอาใจใส่จากพี่ชายจึงได้แฝงตัว อยู่ภายใต้เงาเจียงเหมิ่งมาโดยตลอด ส่วนเจียงเหมิ่งนั้นในวัยเยาว์เนื่องจากแม่เอาใจใส่ดูแลหยวนชวนย่างซึ่งมี สุขภาพอ่อนแอ ทำให้เจียงเหมิ่งถูกทอดทิ้งไม่ได้เหลียวแลเท่าที่ควร ด้วยความที่เจียงเหมิ่งเกิดความอิจฉาน้องชาย เจียงเหมิ่งจึงผลักรถเข็นซึ่งหยวนชวนย่างนั่งอยู่ลงบันไดจนมีความรู้สึกผิด เท่าทุกวันนี้ สืบเนื่องจากการที่พ่อแม่แยกทางกัน ทำให้พี่น้องไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยซึ่งความผิดทั้งหมดนี้ทุกคน ต่างพุ่งเป้าไปที่เจียงเหมิ่ง แม้ว่าเจียงเหมิ่งเป็นลูกชายของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยก็ตาม แต่วิกฤตครั้งนี้ทำให้เจียงเหมิ่งอาจถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว งานนิทรรศการเสื้อผ้าซึ่งจะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้กำลังจะมาถึง เจียงเหมิ่งก้มหน้าก้มตาตระเตรียมงานโดยไม่คำนึงถึงเรื่องร้ายที่เกิด ขึ้นกับตนแม้แต่น้อย นึกไม่ถึงว่าผลงานของเพื่อน ๆ กลับถูกทำลายลง มีเพียงผลงานของเจียงเหมิ่งเท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย
สิ่งที่ทำให้เจียงเหมิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟคือคนร้ายที่ก่อเรื่องก่อราวขึ้น มา คือหยวนชวนย่างน้องชายซึ่งตนหลบเลี่ยงมาโดยตลอด ฉีเยี่ยเห็นเจียงเหมิ่งและหยวนชวนย่างสองพี่น้องกินแหนงแคลงใจกันด้วยเรื่อง ในวัยเยาว์ เพื่อให้สองพี่น้องปรับความเข้าใจคืนดีกันได้ ฉีเยี่ยจึงตัดสินใจเป็นคนกลางเชื่อมความสัมพันธ์ให้สองพี่น้อง
งานนิทรรศการเสื้อผ้าเริ่มต้นขึ้น ฉีเยี่ยท้องเสียจึงไม่สามารถขึ้นเวทีได้ หยวนชวนย่างสวมใส่เสื้อผ้าที่เจียงเหมิ่งออกแบบเดินขึ้นเวที การแสดงของหยวนชวนย่างได้รับคำชมเชยเป็นอันมากจึงนับเป็นครั้งแรกที่เจียงเห มิ่งไม่ตกอยู่ภายใต้เงาของเจียงเหมิ่งอีกต่อไป ทำให้หยวนชวนย่างเป็นที่จับตามองเป็นที่สนอกสนใจจากผู้คน ในที่สุดความกินแหนงแคลงใจของสองพี่น้องก็สูญสลายไป
อุปสรรค
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สภาพแวดล้อมใหม่ แล้วพวกเราก็พบกัน
เถียนซือเซิ่นคนรักเก่าของฉีเยี่ยกลับมาที่มหาวิทยาลัย ที่เป็นเช่นนี้นั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากแม่ของฉีเยี่ยนั่นเอง
เถียนซือเซิ่นเคยเป็นลูกศิษย์ของพ่อฉีเยี่ยมาก่อน ทั้งยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษของฉีเยี่ยในวัยเยาว์อีกด้วย ฉีเยี่ยหลงรักและมีความศรัทธาเถียนซือเซิ่นพี่ชายที่มีความสุภาพเรียบร้อย เป็นอันมาก กระทั่งพ่อของฉีเยี่ยเสียชีวิต เถียนซือเซิ่นก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับบ้านสกุลฉีเรื่อยมา เมื่อเถียนซือเซิ่นได้รับใบประกอบวิชาชีพเพื่อเป็นอาจารย์แล้ว กอปรกับได้รับความช่วยเหลือจากแม่ของฉีเยี่ย ทำให้เถียนซือเซิ่นได้รับหนังสือเชิญจากเจียงโหย่วฮุยจึงได้เป็นอาจารย์มหา วิทยาลัยที่ฉีเยี่ยศึกษาอยู่
แม้ว่าเจียงเหมิ่งดูเหมือนเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ แต่ความจริงแล้วคุณย่าเจียงเป็นคนหนึ่งที่ให้การสนับสนุนเจียงเหมิ่งเรื่อย มา คุณย่าเจียงเป็นธุระจัดการให้ฟ่านเจียงหลิงซึ่งมีสัญญาผูกพันมาตั้งแต่เกิด ให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเจียงเหมิ่งนั้นเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน กับเจียงเหมิ่ง การที่คุณย่าเจียงทำเช่นนี้นั้นเพื่อเปิดโอกาสให้เจียงเหมิ่งและฟ่านเจียง หลิงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน
กระสุนทั้งสองนัดนี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ย เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เริ่มต้นที่เจียงเหมิ่ง หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว เจียงเหมิ่งก็ต้องไปส่งฟ่านเจียงหลิงกลับบ้าน ส่วนฉีเยี่ยนั้น จากคำรบเร้าของแม่ ฉีเยี่ยก็ต้องไปเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากเถียนซือเซิ่น
เจียงเหมิ่งเห็นเถียนซือเซิ่นและฉีเยี่ยอยู่ตามลำพังด้วยกันทุกวัน ด้วยความที่เจียงเหมิ่งทนไม่ได้จึงได้แสดงความไม่พอใจออกมา เจียงเหมิ่งไม่เพียงจงใจมีท่าทีเย็นชาต่อฉีเยี่ยเท่านั้น ทั้งยังแสดงท่าทีสนิทสนมกับฟ่านเจียงหลิงอีกด้วย แม้ว่าเจียงเหมิ่งไม่ได้มีใจฟ่านเจียงหลิงแม้แต่น้อย แต่กลับสร้างความหวาดหวั่นให้ฉีเยี่ยเป็นอันมาก แน่นอนว่าความรู้สึกเช่นนี้ย่อมปรากฏออกมาบนใบหน้า และแล้วเถียนซือเซิ่นก็พบความผิดปกติที่เกิดขึ้นเยี่ย อีกด้านหนึ่งนั้น ฟ่านเจียงหลิงก็พบว่าทั้งที่เธอหลงรักเจียงเหมิ่ง แต่เธอก็ไม่สามารถทำลายกำแพงความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนเป็นคนอื่นต่อกันลงได้
ดิ้นรน
พวกเราพบกันเพื่อมีความสุขด้วยกัน
การช่วย เหลือหญิงอื่นให้สมหวังในความรักกับชายที่รักถือว่าเป็นความเจ็บปวดและ ขมขื่น ในที่สุดซินลี่เซียงก็นัดหมายฟ่านเจียงหลิงอออกมาพบเพื่อพูดคุย ทำความตกลงกัน ซินลี่เซียงบอกฟ่านเจียงหลิงด้วยน้ำตาว่าเจียงเหมิ่งมีหญิงในดวงใจอยู่ก่อน แล้ว ฟ่านเจียงหลิงหันหลังกลับเดินทางจากไป นึกไม่ถึงว่ากลับชนเข้ากับเถียนซือเซิ่น เมื่อเห็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นของเถียนซือเซิ่น ฟ่านเจียงหลิงก็รีบปาดน้ำตาทิ้งโดยตัดสินใจว่านับแต่นี้เป็นต้นไปเธอจะค้นหา ความสุขที่แท้จริงที่เป็นของเธอเอง
แม่ฉีเยี่ยและคุณย่าเจียงก็พูดคุยทำความตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานในฤดู ใบไม้ผลิปีหน้า เรื่องนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งต้อง สิ้นสุดลง ในใจของฉีเยี่ยคิดต่อต้านจึงได้ตัดสินใจเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอและเจียง เหมิ่งให้แม่รู้
หลังจากที่ฉีเยี่ยเปิดเผยเรื่องราวของเธอและเจียงเหมิ่งให้แม่รู้แล้ว แม่กลับมีท่าทีที่เยือกเย็นโดยบอกฉีเยี่ยว่าเพื่อความสุขของลูกแล้ว แม่ตัดสินใจแยกทางกับเจียงโหย่วฮุย เมื่อเจียงโหย่วฮุยรู้เรื่องนี้ก็ยากที่ทำใจยอมรับความจริงถึงกับรีบรุดไป ที่บ้านสกุลฉีทันที แม่ของฉีเยี่ยเป็นลมหมดสติถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ภายนอกห้องพักคนไข้ เจียงเหมิ่งขอแยกทางกับฉีเยี่ยเพื่อความสุขของพ่อแม่ ในที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจไปจากบ้าน นึกไม่ถึงเจียงโหย่วฮุย(พ่อเจียงเหมิ่ง)กลับขัดขวางโดยเห็นว่าการที่ตนและ เสี่ยเวย(แม่ฉีเยี่ย)จะแต่งงานกันนั้นก็เพื่อความสุขของฉีเยี่ยและเจียงเห มิ่งเป็นครอบครัวที่อบอุ่น เจียงโหย่วฮุยไม่เพียงไม่คัดค้านการคบหากันของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่ง ทั้งยังให้กำลังใจคนทั้งสองแสวงหาความสุขที่ต้องการอีกด้วย
ใคร่ครวญ
อนาคตของฉันจะต้องมีเธอ
ความสุขก่อตัวเป็นรูปร่าง แต่แล้วหยวนเหม่ยจินแม่เจียงเหมิ่งก็ตัดสินใจพาหยวนชวนย่างย้ายไปอยู่ที่ อิตาลี แม่หวังว่าเจียงเหมิ่งจะร่วมเดินทางไปด้วย แม้ว่าเจียงเหมิ่งปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ความรู้สึกโหยหาแม่ของเจียงเหมิ่งกลับไม่สามารถรอดพ้นสายตาของฉีเยี่ยไป ได้
ในที่สุดเจียงเหมิ่งก็เดินทางไปอิตาลี ส่วนฉีเยี่ยต่อสู้ใช้ชีวิตในญี่ปุ่น แต่ความรักที่แนบแน่นก็ข้ามพ้นระยะทางที่ไกลกัน 5 ปีผ่านไป สำเร็จการศึกษากลับมา ความรักซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรค หลังจากที่ใคร่ครวญเป็นอย่างดีแล้วจะลงเอยอย่างสวยงามหรือไม่
เพื่อชดเชยความสัมพันธ์แม่ลูกที่สูญเสียไปในวัยเยาว์และเพื่อให้ได้เป็นนัก ออกแบบที่โด่งดัง ในที่สุดเจียงเหมิ่งก็ตัดสินใจติดตามแม่เดินทางไปอิตาลี หลังจากที่ฉีเยี่ยรับรู้ถึงการตัดสินใจของเจียงเหมิ่งแล้วก็รู้สึกหดหู่ด้วย ไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงได้ เพื่อแก้ความทุกข์ฉีเยี่ยจึงไปร้องเพลงกับเพื่อนๆ ฉีเยี่ยดื่มเหล้าเมามาย ต่อมาก็ได้พบกับเจียงเหมิ่งเข้าโดยบังเอิญ ในเวลานี้เอง ฉีเยี่ยก็ระเบิดความในใจออกมาให้เจียงเหมิ่งรับรู้ จากนั้นก็จากไป เจียงเหมิ่งรั้งฉีเยี่ยไว้โดยบอกฉีเยี่ยว่า “ชั่วชีวิตนี้ฉันรักเธอเพียง คนเดียว” ประโยคนี้ทำให้ฉีเยี่ยตื้นตันใจจนวางใจลงได้
เฮ่อจินเสียง (Mike He) รับบท Jiang Meng 江猛
หยางเฉิงหลิน (Rainie Yang) รับบท Qi Yue 齊悅
หวังฉวนอี (Kingone) รับบท Sang Yuan Yi 尚源伊
Ivy Fan Xiao Fan รับบท Xin Li Xiang 辛莉香
He Du Lin รับบท Jiang You Hui 江友暉
Ge Wei Ru รับบท Huang Xue Wei 黃雪薇
Masuyama Yuki รับบท Yu Yang Ping 于陽平
Tsai Pei Lin รับบท Qing Zi 晴紫
Fu Xiao Yun รับบท Xiao Cai 小彩
Yuan Jun Hao รับบท Guo Kai 郭凱
Katherine Wang Kai Di รับบท Liu Mei Di 劉美蒂
Figaro Ceng Shao Zong รับบท Yuan Chuan Rang 袁川讓
Wu Zhong Tian รับบท Tian Si Shen 田思慎
Wang Jian Min รับบท Chui Ming 椎名
Tang Qi รับบท Grandma Jiang
Meng Ting Li รับบท Yuan Mei Jin 袁美津
Janel Tsai รับบท Chuang Ya Li 莊雅莉
Huang Xing Lun (黃星倫) รับบท Cai Yi Lang
Opening theme song(เพลงไตเติ้ลตอนต้น): Chou Nan Ren (臭男人) Jerk by Huang Yida
Ending theme song(เพลงไตเติ้ลตอนจบ): Ai Mei (暧昧) Ambiguous Love by Rainie Yang
เพลงประกอบอื่นๆs:
Li Xiang Qing Ren (理想情人) Ideal Lover by Rainie Yang
Set Me Free by Huang Yida
Yi Miao De An Wei (一秒的安慰) A Moment's Consolation by Huang Yida
Devil Beside You OST
เพลงประกอบละคร Devil Beside You
คลิกขวาที่ลิงค์ >> Save Target As…
Devil Beside You OST Full Album
Devil Beside You OST <--click
Rainie Yang and Mike He - Ambiguous