ทาบ"ทังเหว่ย" สลัดคราบเซ็กซี่ในเล่ห์ราคะ รับบท "จอมยุทธหญิง" ประกบ "หลิวเต๋อหัว"

เอเจนซี - หั่นทิ้งซะแทบสิ้นซาก สำหรับฉากหวือหวาเร้าอารมณ์ ในภาพยนตร์เรื่อง “เล่ห์ ราคะ” (色戒 - Lust, Caution) ของ “อั้งลี่” ผู้กำกับไต้หวันผู้มากฝีมือ แต่ก็นับว่าไม่ผิดหวัง สำหรับฝีมือการแสดงของเฮียเหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) และสาวน้อยทังเหว่ย (Tang Wei) ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างแนบเนียน ใครที่ติดใจฝีมือการแสดงของสาวน้อยนางนี้ ขอบอกว่าอาจมีลุ้นได้ชื่นชมผลงานเธออีกในไม่ช้า

เพราะล่าสุดมีข่าวแว่วว่า จาคอป จาง (จางจือเลี่ยง) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง มหาบุรุษกู้แผ่นดิน (Battle of Wits) จะเดินกล้องถ่ายทำ “ถังข่า” 《唐卡》 ภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องใหม่ในปีหน้า และตั้งใจทาบทามสาวทังเหว่ยและหลิวเต๋อหัวมาร่วมงานด้วย และที่น่าสนใจก็คือเรื่องนี้ ทังเหว่ยจะสลัดคราบ “คุณนายม่าย” ผู้ทรงเสน่ห์ใน “เล่ห์ ราคะ” มารับบทเป็น “องค์หญิงกำมะลอ” โดยรับบทเป็น “ตัวปลอมขององค์หญิงเหวินเฉิง” ที่ต้องเดินทางไกลนับพันนับหมื่นลี้ จากต้าถังไปเป็นชายาของสงจั้นกันปู้ ผู้ครองทิเบต

อย่างไรก็ตาม ทางอันเล่อ บริษัทเอเจนซีของทังเหว่ยยังไม่ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่หลิวเต๋อหัวเองก็เปิดเผยว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับเล่นหรือไม่

คำว่า “ถังข่า” นั้นเป็นคำทับเสียงภาษาทิเบต หมายถึง ผ้า กระดาษ หรือหนังแกะ หรือผ้าไหมที่ผ่านการวาด พิมพ์ลาย หรือปักลาย ซึ่งเป็นภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมทิเบต มีขึ้นในสมัยสงจั้นกันปู้ และล่ำลือกันว่าเป็นศิลปะที่องค์หญิงเหวินเฉิงคิดค้นขึ้น เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนที่องค์หญิงเดินทางจากบ้านเกิดมายังทิเบต เพราะหวั่นว่าการพกพาพระพุทธรูปเดินทางขึ้นที่สูงนั้นจะเป็นการยากลำบาก ดังนั้นจึงได้ใช้สีต่างๆ วาดเป็นรูปพระพุทธรูปบนผืนผ้า ดังนั้นภาพยนตร์เรื่อง “ถังข่า” นั้น ก็ว่าด้วยเรื่องราวขององค์หญิงเหวินเฉิงกับการเดินทางมาอภิเษกสมรสยังต่างแดนนั่นเอง

ตามเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากประวัติศาสตร์จีนนี้มีอยู่ว่า ฮ่องเต้ถังไท่จงหวั่นเกรงว่าจะมีการลอบปลงพระชนองค์หญิงระหว่างทาง จึงได้เตรียมองค์หญิงกำมะลอที่มีฝีมือเยี่ยมยอดไว้ ซึ่งบทนี้ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็น่าจะตกเป็นของสาวทังเหว่ย ส่วนเฮียหลิวเต๋อหัว ที่จางจือเลี่ยงใฝ่ฝันอยากจะร่วมงานด้วยอีกครั้งนั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้รับบทอะไร เป็นไปได้ว่าอาจรับบทสงจั้นกันปู้ สำหรับงบในการสร้างนั้น “ถังข่า” นับว่าลงทุนสูงกว่า “Battle of Wits” มากนัก และจะใช้เวลาถ่ายทำในทิเบตนานถึงครึ่งปี

Manager Online