Lawyers - ทาสหัวใจ กฎหมายรัก
คิมจูฮีเป็นเลขาให้กับโซจุงโฮที่สูญเสียพ่อแม่ไปเมื่อห้าปีก่อนในอุบัติเหตุทางรถยนต์ น้องสาวของเธอคือคิมซีฮีก็รับผลกระทบจากอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่คู่หมั้นของจูฮีไม่สนใจเธอหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น แล้วได้เดินทางไปอเมริกา ยูนซุกกิที่ทำงานชั่วคราวที่บริษัททนายที่เดียวกับจูฮี เขาได้เกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินให้ตลาดมืดที่สำคัญของประเทศเกาหลี
ซุกกิเป็นคนที่ไม่ดีที่พยายามที่จะทำให้การสืบสวนคดีของจุงโฮหยุดชะงัก เพราะขณะนั้นจุงโฮได้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับพวกอัยการในคดีนั้น จุงโฮได้แต่งงานกับเด็กที่มีปัญหาทางด้านแอลกอฮอล์ ซุกกิหมั้นกับนักไวโอลินเดบบี้ที่จริงๆ แล้วเธอที่ชอบอ่อยให้กับเลขาของเขา จูฮีที่แอบรักกับเจ้านายของเธอแต่ก็ยังไม่สามารถลืมรักแรกของเธอคือซุกกิได้ เธอไม่ยอมรับความจริงว่าเขาได้จากเธอไปเพราะเขาต้องการจะทิ้งเธอ หลังจากที่ซุกกิทำให้การสืบคดีนั้นหยุดได้ เขาก็ได้พยายามหาข้อมูลเก่าๆ ของจุงโฮ แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดทำให้จูฮีต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ซุกกิจะยังมีใจให้กับจูฮีหรือไม่ และจูฮีจะเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครกันแน่ ต้องติดตามชมความสนุกที่ตอนท้ายจากละคร
โศกนาฏกรรมความรักที่มิอาจมีใครห้ามได้ สองหนุ่มสาวที่มีรักแท้ และได้รับการยอมรับด้วยใจจากครอบครัวฝ่ายหญิง ถึงแม้ “ยุนซ๊อกกี” จะไม่มีอะไร ไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวย และยังต้องให้ครอบครัวฝ่ายหญิงที่มีพ่อและแม่เป็นแพทย์สนับสนุนค่าเล่าเรียน แต่สาวสวยและแสนดีอย่าง “คิมจูฮี” หาได้รังเกียจไม่ จูฮีดีใจมากที่ซ๊อกกีผ่านการสอบข้อเขียนกฎหมาย เหลือแต่การสอบสัมภาษณ์เท่านั้น
ครอบ ครัวฝ่ายหญิงก็ดีใจมากจึงจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้ซ๊อกกีที่โรงแรมห้า ดาวแห่งหนึ่ง ก่อนแยกจากกันในค่ำวันนั้น พ่อของจูฮีได้กอดทั้งสองไว้อย่างอบอุ่น พร้อมทั้งแอบกระซิบกับซ๊อกกีว่า “แม้ว่าเธอสอบไม่ผ่าน แต่พ่อก็ยอมรับในตัวเธอนะ” คำพูดประโยคนี้เองทำให้ซ๊อกกีซาบซึ้งยิ่งนัก ก่อนจากกันจูฮีได้เตือนน้องสาวว่ารถไม่มีประกัน ขับรถระวังด้วย น้องสาวตกปากรับคำอย่างดี ทั้งสามจึงออกไปขึ้นรถซึ่งตอนแรกคิดจะกลับบ้าน แต่แล้วก็มีโทรศัพท์มาจากคนไข้ขอให้ทั้งสองไปหาที่บ้านเพราะเธอไม่สบาย ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของอัยการหนุ่มอนาคตไกล ซูจุงโฮ เมื่อจูฮีและซ๊อกกีแยกไปเดทกันต่อที่บ้านซ๊อกกี ในค่ำคืนที่แสนจะโรแมนติก ในห้องมืด มีเพียงแสงสลัวๆ และหนุ่มสาวตามลำพัง จูฮีซึ่งรักซ๊อกกีชายคนรักมากและคิดจะฝากอนาคตไว้กับเขา ในค่ำคืนนั้นเธอและเขาก็มีความสัมพันธ์กันโดยการชักชวนแกมยั่วเย้าของจูฮี แม้เมื่อแรกซ๊อกกีจะยับยั้งชั่งใจไว้ แต่แล้วเขาก็โอนอ่อนตาม
ในคืนนั้นหลังจากที่ครอบครัวของจูฮีได้แยกจากเธอเพื่อไปตรวจรักษาคนไข้สาว ภรรยาอัยการ พวกเขาตัดสินใจให้ลูกสาวรอในรถ เพื่อปิดบังความลับให้คนไข้ เนื่องจากคนไข้รายนี้ไม่กล้าไปหาหมอเพื่อบำบัดอาการทางประสาทที่เธอเป็นอยู่ เธอจึงต้องรบกวนให้หมอมาหาเธอในยามวิกาล หลังจากที่คนทั้งคู่ดูอาการให้เธอ ก็ได้ให้ยานอนหลับ จากนั้นทั้งคู่ก็กลับมาขึ้นรถเพื่อเตรียมกลับบ้าน ลูกสาวที่กำลังนั่งรออยู่ เมื่อพ่อและแม่ขึ้นรถแล้วก็ออกรถไปโดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าต่อไปจะต้องประสบ อุบัติเหตุที่มีการเตรียมการไว้แล้ว เหตุการณ์นี้พลิกผันชีวิตคนจำนวนมากและทำให้หลายคนต้องประสบเคราะห์ถึงแก่ ชีวิต กลางดึกคืนนั้น จูฮีได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าคนในครอบครัวทั้งสามคนประสบอุบัติเหตุรถยนต์ เมื่อเธอรับโทรศัพท์แล้วก็เกิดอาการตื่นตระหนกจนซ๊อกกีที่นอนอยู่เคียงข้าง ต้องรับโทรศัพท์แทน เพื่อสอบถามข้อมูลทั้งคู่จึงรีบไปที่โรงพยาบาล อุบัติเหตุทำให้ทั้งพ่อแม่ของจูฮีเสียชีวิต และน้องสาวเธอต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส จนขาทั้งสองข้างไม่สามารถใช้การได้ ด้วยความที่ซ๊อกกีรักพ่อและแม่ของจูฮีมาก เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เขาจึงได้ติดตามสืบคดีนี้ แต่ผลของการติดตามสืบคดีนี้อย่างหนัก กลับทำให้ชายผู้หนึ่งเห็นคุณค่าในตัวเขา และหาทางทำให้เขามาเป็นพวก วันหนึ่งขณะที่ซ๊อกกีไล่ตามฆาตกรไป แต่แล้วเขากลับถูกจับไปทรมาน และบังคับให้เข้าพวก ด้วยไม่อาจทนความเจ็บปวด ความหนาว และความทรมานได้เขาได้ยอมแพ้ และกลายเป็นพวกของชายผู้นั้น จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้ฐานะทางการเงินของครอบครัวจูฮีสั่นคลอน ในงานศพ คนไข้สาวรายสุดท้ายของทั้งคู่ได้นำเช็คเงินสดก้อนโตมาให้ โดยฝากไว้กับหญิงสาวผู้หนึ่ง แต่เธอผู้นั้นกลับเก็บเงินนั้นไว้ ทำให้สองพี่น้องต้องตกระกำลำบาก จูฮีและน้องต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆ เย็นวันหนึ่ง ขณะที่จูฮีกำลังเก็บของ ซ๊อกกีมาหาเธอและทอดทิ้งเธอไปโดยไม่บอกเหตุผล
ห้าปีต่อมา ซ๊อกกีซึ่งไปอยู่อเมริกามานานกลับเกาหลีอย่างสง่าผ่าเผย ส่วนจูฮีทำงานกับจุงโฮ อดีตอัยการที่เที่ยงตรงซึ่งต่อมาต้องออกจากงานอัยการมาเป็นทนายที่สำนักงาน ทนายความของรุ่นพี่ จูฮีได้งานนี้เพราะภรรยาของจุงโฮ ซึ่งเป็นคนไข้ที่เรียกพ่อแม่จูฮีไปหาในวันเกิดอุบัติเหตุ ได้ออกปากฝากฝังให้เขาช่วยดูแลจูฮี ภรรยาของจุงโฮดูแลจูฮีในหลายๆเรื่อง จูฮีใช้ชีวิตตลอดห้าปีที่ผ่านมาอย่างยากลำบาก เธอพยายามสะสมเงินเพื่อมารักษาขาน้อง จากสองสาวศิลปินที่คนพี่(จูฮี)เป็นนักไวโอลิน และคนน้องเป็นนักบัลเล่ต์ โชคชะตาทำให้ทั้งสองต้องกลายเป็นสาวออฟฟิตและหญิงพิการ ด้วยอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร เมื่อยุนซ๊อกกี กลับมาเกาหลีอีกครั้งยังสำนักงานทนายความที่จุงโฮและจูฮีทำงานอยู่ ในชื่อใหม่ว่า Alex Yoon จูฮีจะเป็นเช่นไร เมื่อเขาจากไปไม่บอกเหตุผลและกลับมาแบบไม่ให้ซุ่มเสียง ทั้งที่ซ๊อกกีรักและคิดถึงแต่จูฮีเสมอ แต่ด้วยเหตุการณ์บีบบังคับ ซ๊อกกีและจูฮีจะสามารถกลับมารักกันดังเดิมได้หรือไม่...
18-27 มิถุนายน 2551
ปี ค.ศ. 2000 เทศกาลคริสต์มาส ถนนหนทางเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข จูฮีวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อพบกับซ๊อกกีที่กำลังคอย เธออยู่ จูฮีโผเข้ากอดจํบแสดงความยินดีที่ซ๊อกกีผ่านการสอบเป็นทนายความโดยไม่สนใจ สายตาคนรอบข้าง จูฮีพาซ๊อกกีไปที่บ้านเพื่อฉลองความสำเร็จกับครอบครัวของเธอ ทุกคนร่วมรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข พ่อแม่และเซฮีพากันไปรักษาคนไข้ ทำให้จูฮีและซ๊อกกีต้องอยู่ด้วยกันตามลำพัง ระหว่างทางที่พ่อแม่และเซฮีเดินทางกลับประสบอุบัติเหตุ แม้ว่าเซฮีโชคดีรักษาชีวิตไว้ได้ แต่พ่อแม่ก็ต้องเสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่ จูฮีได้รับความสะเทือนใจมากจนเป็นกลายเป็นคนสิ้นหวัง
ซ๊อกกีสืบคดีอุบัติเหตุที่เป็นเหตุให้พ่อแม่จูฮีต้องเสียชีวิต ซ๊อกกีถูกคนร้ายเล่นงานสะบักสะบอม เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ซ๊อกกีแยกทางกับจูฮี จากนั้นซ๊อกกีก็เดินทางไปใช้ชีวิตที่อเมริกา จุงโฮบอกจูฮีว่าจะมีทนายความคนใหม่มาจากอเมริกา ทำให้จูฮีต้องไปทำงานแต่เช้าเพื่อจัดห้องทำงานให้ทนายความคนใหม่ วันแรกของการทำงานของทนายความคนใหม่ ทนายความคนใหม่ทักทายจุงโฮ,ลียองและบรรดาทนายความทั้งหลายอย่างเป็นกันเอง จูฮีนำป้ายชื่อ Alex Yoon เข้าไปที่ห้องทำงานทนายความคนใหม่ จูฮีตกตะลึงเมื่อพบว่าทนายความคนใหม่คือซ๊อกกี แต่ซ๊อกกีกลับปั้นหน้าใส่จูฮี
เนื่องจากจูฮีได้พบกับซ๊อกกีโดยไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้เธอลนลานทำอะไรไม่ถูกจนต้องวิ่งออกจากห้องทำงานของซ๊อกกีไป ฮายองเป่าผมให้จูฮี ฮายองตำหนิจูฮีที่ใช้น้ำราดหัวจนเปียกปอน การทำเช่นนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาแต่อย่างใด จูฮีซึ่งท้อแท้หมดอาลัยตายอยากได้เลิกงานก่อนเวลาโดยเดินไปตามถนนโดยไม่มี จุดหมายปลายทาง หลังจากที่จูฮีกลับบ้านแล้วก็บอกเรื่องที่ซ๊อกกีกลับมาจากอเมริกาแล้วให้เซ ฮีน้องสาวของเธอรู้ รุ่งขึ้น จูฮีและซ๊อกกีพบกันโดยบังเอิญ ซ๊อกกีขอปรับความเข้าใจกับจูฮี ซ๊อกกีชมจูฮีเข้มแข็งมากที่สามารถผ่านช่วงเวลาอันแสนโหดร้ายไปได้ จูฮีหวังว่าซิจีจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนคนอื่น ซ๊อกกีชวนจูฮีมาทำงานกับตน เรื่องนี้สร้างความกลัดกลุ้มให้จูฮียิ่งนัก แต่แล้วจูฮีก็ปฏิเสธความหวังดีของซ๊อกกีโดยบอกซ๊อกกีว่างานที่เธอทำดีอยู่ แล้ว
จูฮีบอกจุงโฮว่าเฮซูเคยมาหาเธอ จุงโฮบอกจูฮีว่าอย่าได้สนใจเธอ จุงโฮบอกจุงโฮว่าหลังจากเลิกงานแล้วให้ไปช่วยงานตนที่โรงแรม ยองจุงไหว้วานฮายองให้ช่วยดูแลซ๊อกกีไปพลางก่อนจนกว่าจะหาเลขานุการให้ซ๊อก กีได้ ฮายองประหลาดใจมากที่ยองจุงไหว้วานเธอ ซ๊อกกีชวนฮายองร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน หลังจากเลิกงานแล้ว จูฮีก็ไปที่โรงแรมเพื่อช่วยงานจุงโฮตามที่รับได้มอบหมาย จุงโฮอาบน้ำอยู่ในห้องพักของโรงแรม เฮซูได้รับโทรศัพท์จากซ๊อกกีให้รีบรุดไปที่โรงแรม เฮซูเข้าใจผิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เฮซูจิกผมจูฮีด้วยความโกรธ จากนั้นก็ถามจูฮีว่าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้ได้อย่างไร จุงโฮตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเข้าขัดขวางเฮซู อีกด้านหนึ่งนั้น ลียองปลอบใจจูฮีให้คลายความหวาดกลัว
ในช่วงเวลาที่เหตุการณ์กำลังชุลมุน ทอมมี่ได้ฉวยโอกาสนี้แอบขโมยข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของจุงโฮไป จุงโฮบอกเพื่อนร่วมงานว่าตนมีความมั่นใจในคดีที่ได้รับว่าจ้าง น่าเสียดายที่เหตุการณ์ความวุ่นวายทำให้ข้อมูลที่หามาได้หายไป จุงโฮประกาศยุติการสืบคดี ทันใดนั้นเอง ซ๊อกกีก็อาสารับคดีไปทำ ทอมมี่ได้รับมอบหมายจากซ๊อกกีให้ไปที่บ้านจูฮี นึกไม่ถึงว่าทอมมี่ได้พบกับเซฮี ทอมมี่จำได้ว่าเคยเห็นภาพถ่ายของเซฮีในสมุดบันทึกของจูฮี เซฮีไหว้วานทอมมี่ให้ช่วยซื้อผลไม้ให้เธอ จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกัน
30 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2551
ยอง จุงนัดหมายฮายอง มาพบในเวลากลางคืน ฮายอง เตรียมเครื่องบันทึกเสียงไว้พร้อมสรรพ จุงโฮชมเชยจูฮีที่มีความอดทนอดกลั้นต่อเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น จากเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นทำให้จุงโฮรู้สึกละอายใจยิ่งนัก จูฮีบอกจุงโฮให้ไปบอกเฮซูให้สบายใจได้ เธอไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด เดิมทีจุงโฮจะส่งจูฮีกลับบ้าน แต่จูฮีกลับปฏิเสธความหวังดี จุงโฮยิ่งรู้สึกผิดเมื่อเห็นจูฮีเดินจากไปด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่จูฮีกำลังจะรับโทรศัพท์จากเซฮีนั่นเอง ด้วยความไม่ระวังจึงทำโทรศัพท์หล่นลงพื้น ทอมมี่และจูฮีพากันยื่นมือเก็บโทรศัพท์ ทันใดนั้นเอง จูฮีก็เหลือบไปเห็นแหวนที่นิ้วมือทอมมี่ เมื่อจูฮีเห็นเช่นนั้นก็ดูเหมือนว่าเธอมีความคิดบางอย่างขึ้นมา จุงโฮโทรศัพท์ถึงซ๊อกกีเพื่อทำความตกลงกัน จุงโฮบันทึกเสียงซ๊อกกีเอาไว้
เมื่อกลับถึงบ้าน จุงโฮเปิดเทปบันทึกเสียงที่มีเสียงของซ๊อกกีให้เฮซูฟัง จากนั้นจุงโฮก็คำยืนยันจากเฮซู แม้ว่าเฮซูจำเสียงได้เลือนลาง แต่กลับบอกจุงโฮว่าเธอจำไม่ได้ ลียอง,เจซอได้พบกับเด็บบี้เพื่อนนักแสดง เด็บบี้ระบายความทุกข์ให้ลียองฟังว่าภาพถ่ายของเธอระบาดไปทั่วอินเตอร์เน็ต ซึ่งความจริงแล้วผู้หญิงในภาพถ่ายนั้นไม่ใช่เธอ ขอให้ลียองช่วยกอบกู้ชื่อเสียงให้เธอด้วย ซ๊อกกีบอกยองจุงว่าการที่ข้อมูลของจุงโฮหายไปเกิดจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ในวันนั้น อีกด้านหนึ่งนั้น จุงโฮบอกซ๊อกกีว่าคนขับรถของ ซ๊อกกีมีพิรุธเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด เมื่อซ๊อกกีได้ยินเช่นนั้นจึงย้อนถามจุงโฮว่าหรือว่าวันนั้นจูฮีไม่ได้อยู่ ในที่เกิดเหตุหรืออย่างไร
จุงโฮจำได้ว่าเขียนหมายเลขโทรศัพท์บ้านไว้บนกระดาษแผ่นหนึ่ง ดังนั้นจึงถามซ๊อกกีว่าคืนนั้นโทรศัพท์มาที่บ้านตนหรือไม่ ซ๊อกกีถามฮายอง ว่าจุงโฮและจูฮีมีความสัมพันธ์ใดต่อกัน เมื่อฮายองได้ยินเช่นนั้นจึงย้อนถามซ๊อกกีว่าเหตุใดจึงให้ความสนใจจูฮีถึง เพียงนี้ จุงโฮส่งจูฮีกลับบ้าน จุงโฮกำชับจูฮีว่าถ้าหากมีตำรวจมาขอสอบปากคำให้ตอบว่าไม่รู้เรื่องใดทั้ง สิ้น จูฮีตกใจมากเมื่อเห็น ทอมมี่ยืนอยู่หน้าบ้าน ทอมมี่บอกจูฮีว่าตนมาหาเซฮี จุงโฮซึ่งมีเรื่องชกต่อยกับซ๊อกกีไปหาเฮซูที่โรงพยาบาล จูฮีถูกตำรวจจับกุม ขอให้เฮซูตัดสินใจ ทอมมี่มาหาจูฮีที่บ้าน นึกไม่ถึงว่ากลับได้พบกับฮายองซึ่งอยู่เป็นเพื่อนเซฮี ฮายองบอกซ๊อกกีว่าถ้าหากซ๊อกกีช่วยเหลือจูฮี เธอยินดีอยู่เคียงข้างให้ความช่วยเหลือซ๊อกกี โฮซิกโอนเงินเข้าบัญชีจูฮีเพื่อประกันตัวเธอ
7-11 กรกฎาคม 2551
จุ งโฮรู้ว่าขณะที่พ่อแม่ของจูฮีประสบอุบัติเหตุนั้น โฮซิกก็อยู่ในที่เกิดเหตุ เรื่องนี้สร้างความสงสัยให้จุงโฮยิ่งนัก โฮซิกอธิบายว่าเพื่อให้ความช่วยเหลือจูฮี ตนได้โอนเงินเข้าบัญชีจูฮี ทำให้จูฮีถูกตำรวจปล่อยตัวเป็นอิสระ ไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอีกต่อไป จูฮีเดินออกมาจากสถานีตำรวจด้วยความตระหนก จุงโฮเห็นเช่นนั้นจึงเข้าไปปลอบใจจูฮีว่าอย่าคิดมาก เหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซ๊อกกีและยองจุงพากันไปสืบคดีอย่างลับๆ ลียองชมเชยจูฮีทำงานโดยไม่ปริปากบ่น จูฮีไปหาเฮซูเพื่อถามถึงความสัมพันธ์ของเฮซูกับพ่อแม่ของเธอ เฮซูตอบจูฮีว่าเป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดเป็นพิเศษ จุงโฮไม่สบายใจมากเมื่อเห็นจูฮีสืบคดีเพียงลำพัง ดังนั้นจึงขอแรงจากเพื่อนให้ความช่วยเหลือจูฮี หลังจากที่เลิกงานแล้ว ฮายอง บอกจูฮีว่าเธอรู้ถึงความสัมพันธ์ของจูฮีและ ซ๊อกกีแล้ว
จูฮีขอโทษฮายอง ที่ไม่ได้เปิดเผยความจริงให้เธอรู้ ฮายองไปหายองจุง ฮายองบอกยองจุงว่ารหัสห้องนิรภัยของเธอถูกเปลี่ยน ยองจุงซึ่งอยู่กับซ๊อกกีบอกยองจุงว่าวันนี้จุดประสงค์การใช้ห้องนี้เปลี่ยน ไปแล้ว ขณะที่ฮายอง จากไปด้วยความโกรธนั่นเอง ฮายองได้พบกับเจซอเข้าโดยบังเอิญ จากนั้นก็ข่าวลงหนังสือพิมพ์ ลียองถามจุงโฮว่าส่งคนสืบประวัติซ๊อกกีใช่หรือไม่ อีกด้านหนึ่งนั้น ทอมมี่ไปหาเซฮี ทั้งหมี่เปิดใจขอคบหากับเซฮี
จุงโฮตกใจมากเมื่อพบว่าสถานที่ที่พ่อแม่จูฮีประสบอุบัติเหตุเคยเป็นที่พัก เก่าของตนมาก่อน ฮายองกลับมาจากชมคอนเสิร์ต ฮายองมอบซีดีเพลงที่มีลายเซ็นศิลปินให้จูฮี ทันทีที่ซ๊อกกีมาถึงสำนักงานก็เรียกฮายองเข้ามาพบที่ห้องทำงาน ซ๊อกกีถามฮายองว่าพูดอะไรกับศิลปิน ฮายองถามซ๊อกกีว่าเครื่องดนตรีมีมากมายเหตุใดจึงเลือกไวโอลิน ซ๊อกกีถามจูฮีว่าเหตุใดจึงสืบคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต ถ้าหากเป็นไปได้จูฮีควรจะลืมเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ไปให้ได้ จากนั้น ซ๊อกกีก็บอกจูฮีว่าตนรู้จักหมอคนหนึ่งซึ่งสามารถรักษาเซฮีให้หายเป็นปกติได้ ซ๊อกกีใช้เรื่องนี้เป็นข้อแลกเปลี่ยนเพื่อให้จูฮีเลิกสืบคดีอุบัติเหตุพ่อ แม่ของเธอ จูฮีโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เซฮีถามทอมมี่ว่ารู้จักกับซ๊อกกีได้อย่างไร
14-18 กรกฎาคม 2551
จุ งโฮตกใจมากเมื่อพบความจริงว่าผู้ก่อเหตุเป็นเหตุให้พ่อแม่ของจูฮีต้องเสีย ชีวิตด้วยอุบัติเหตุนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่โอนเงินเข้าบัญชีจูฮี จุงโฮตัดสินใจไม่เปิดเผยเรื่องนี้ให้จูฮีรู้ จูฮีบอกจุงโฮว่าหวังว่าคดีนี้จะยุติโดยเร็ว เธอไม่อยากหอบความหวังไว้อีกต่อไปแล้ว เมื่อจุงโฮได้ยินเช่นนั้นก็บอกจูฮีว่าหวังว่าจูฮีจะเป็นเหมือนวันนี้ที่เปิด เผยความรู้สึกให้ตนรู้ จูฮีและเซฮีพากันไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศที่บ้านพักลียอง ก่อนออกจากบ้าน ลียองบอกจูฮีไม่ต้องเกรงใจให้คิดว่าเป็นบ้านของตนเอง เมื่อถึงบริษัท ลียองก็โทรศัพท์มาหาจูฮี ลียองบอกให้จูฮีแฟกซ์ข้อมูลที่อยู่ในห้องหนังสือให้เธอ จูฮีค้นหาข้อมูลที่อยู่บนโต๊ะลียอง
จูฮีเปิดเอกสารออกดูด้วยความระทึก ในที่สุดจูฮีก็รู้ความจริงถึงสาเหตุการตายของพ่อแม่ เมื่อจูฮีรู้ความจริงเช่นนั้นแล้วก็นึกถึงจุงโฮขึ้นมา เธอเชื่อว่าจุงโฮกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน จุงโฮนอนหมดสติอยู่ที่พื้น ซ๊อกกีจากไปโดยไม่ใยดี โฮซิกสั่งลูกน้องราดน้ำใส่จุงโฮ หลังจากที่จุงโฮได้สติแล้วก็มองดูรอบๆว่าเป็นสถานที่ใด ซ๊อกกีลงมาห้องใต้ดิน จุงโฮบอกซ๊อกกีว่าการที่ตนไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของซ๊อกกีและโฮซิกให้ จูฮีรู้นั้นด้วยต้องการให้ซ๊อกกีเปิดเผยความจริงให้จูฮีด้วยตนเอง จุงโฮขอร้องซ๊อกกีอย่าทำร้ายจูฮีอีกต่อไป
ซ๊อก กีบอกจุงโฮว่าเพื่อความปลอดภัยของจูฮีแล้วหวังว่าจุงโฮจะยุติการสืบคดี อุบัติเหตุพ่อแม่ของจูฮีเสียที ซ๊อกกีจับจ้องจุงโฮซึ่งดื้อรั้นด้วยสายตาที่เลือดเย็น จุงโฮก็จับจ้องไปที่ซ๊อกกีโดยไม่หวาดหวั่น จุงโฮเรียกจูฮีเข้ามาที่ห้องทำงาน จูฮีบอกจุงโฮว่าเธอไม่อยากให้จุงโฮต้องเดือดร้อนด้วยเรื่องของเธอไปมากกว่า นี้ ด้วยเหตุนี้จูฮีจึงขอสืบคดีด้วยตัวเธอเอง จุงโฮบอกจูฮีว่าสิ่งที่ซ๊อกกีหวาดกลัวมากที่สุดคือกลัวว่าจูฮีจะรู้ความจริง ทั้งหมด จุงโฮกำชับจูฮีว่าอย่าทำเป็นรู้เรื่องทั้งหมดแล้วเป็นอันขาด จุงโฮซื้อสัญญาณนิรภัยไปติดตั้งที่บ้านจูฮี ทำให้จูฮีดีใจมาก จูฮีบอกจุงโฮว่าเธอไม่มีอะไรติดค้างเฮซูอีกต่อไปแล้ว รุ่งขึ้น จุงโฮถามจูฮีว่าสํญญาณนิรภัยเป็นอย่างไรบ้าง จูฮีตอบจุงโฮว่าดีมาก ทำให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างเลยทีเดียว ฮายองถามซ๊อกกีว่าจะให้เธอช่วยเหลืออะไรบ้าง ซ๊อกกีตอบว่าไม่มี จากนั้นก็จากไป
21-25 กรกฎาคม 2551
ซ๊อก กีซึ่งอยู่ในห้องของจุงโฮนั้นได้แอบฟังคำสนทนาของจุงโฮกับลียอง ทอมมี่บอกซ๊อกกีว่าตนหลงรักเซฮีเข้าแล้ว นับแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าหากซ๊อกกีสั่งให้ตนทำในสิ่งที่เซฮีไม่ชอบ ตนก็จะไม่ทำ จุงโฮพาเฮซูซึ่งจะเดินทางกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ไปส่งที่สนามบิน จุงโฮจับจ้องไปที่เฮซูซึ่งพูดกับตนว่าไม่ต้องเสียใจ ซ๊อกกีเรียกจูฮีมาที่ห้องทำงาน จุงโฮถามจูฮีว่าเมื่อคืนนี้ปลอดภัยดีหรือไม่ นึกไม่ถึงว่าจุงโฮกลับพบเรื่องร้ายเสียเอง จุงโฮส่งข้อความสั้นบอกจูฮีว่าไม่ต้องเป็นห่วง จากนั้นไม่นานนักจูฮีก็ส่งข้อความสั้นกลับไปหาจุงโฮ ฮายองดื่มเหล้ากับเจซอ นึกไม่ถึงว่าได้พบกับจีฉุนและเด็บบี้
จุงโฮและซ๊อกกีดื่มเหล้าด้วยกัน ทั้งสองพบว่ามีคนแอบติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ จุงโฮถามซ๊อกกีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือใครกันแน่ ซ๊อกกีกลับย้อนถามจุงโฮว่ารักจูฮีใช่หรือไม่ ... จูฮีได้รับคำสั่งจากจุงโฮให้ไปถึงที่ทำงานเร็วกว่าปกติ เมื่อจูฮีถึงที่ทำงาน จูฮีก็ตกใจมากเมื่อเห็นจุงโฮกำลังชงกาแฟ จุงโฮรู้สึกว่าไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับจูฮีที่ห้องทำงาน ดังนั้นจึงชวนจูฮีไปที่ห้องรับแขก เรื่องนี้สร้างความสงสัยให้จูฮียิ่งนัก จูฮีถามจุงโฮว่าเหตุใดจึงให้เธอมาทำงานเร็วกว่าปกติ จุงโฮกลับตอบว่าเป็นเพราะความคิดถึง จากนั้นจุงโฮก็มอบของขวัญให้จูฮี
เด็บบี้มาหาจีฉุนที่สำนักงานทนายความ จีฉุนกลับเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในห้องทำงานลียอง ลียองบอกให้จี้ฉุนเปิดเผยความจริงเรื่องพ่อของเด็บบี้ให้เธอรู้ เจซอไม่มีทางเลือกจึงพาเด็บบี้ออกไปข้างนอก เด็บบี้ควงแขนจี้ฉุนด้วยความคิดถึง ทันใดนั้นเองก็มีกล้องจำนวนมากถ่ายรูปเด็บบี้เอาไว้ ทุกคนลงความเห็นว่าเด็บบี้เรียกนักข่าวมาทำข่าว ทั้งหมดเป็นแผนการที่ตระเตรียมไว้แล้ว จุงโฮบอกลียองว่าเฮซูขอหย่า ลียองจะไปพบหน้าเฮซูสักครั้งหรือไม่ เมื่อลียองได้ยินเช่นนั้นก็บอกจุงโฮว่าอย่าได้พูดถึงความรักกับตนอีกต่อไป จุงโฮและลียองมีความเห็นในคดีไม่ตรงกันจึงมีปากเสียงกันขึ้นมา ฮายอง และจูฮีซึ่งอยู่ข้างนอกห้องตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงลียองและจุงโฮทะเลาะกัน ซ๊อกกีถามฮายองว่าจดหมายที่ตนเคยให้ไปจัดส่งนั้นได้ส่งให้ตนหรือไม่
จุงโฮเห็นจูฮีไม่ปริปากพูดอะไรออกมาเลย หลังจากที่จุงโฮเดินไปเดินมาสักพักหนึ่งก็ชวนจูฮีกลับบ้าน จุงโฮถามจูฮีว่าในหัวใจของจูฮีมีตนบ้างหรือไม่ จูฮีกลับบอกจุงโฮว่าพรุ่งนี้พบกัน เมื่อกลับถึงบ้าน จูฮีพบว่ามีข้อมูลใหม่ซึ่งเกี่ยวพันกับคดีอุบัติเหตุพ่อแม่ของเธอ โดยต้องการให้จูฮีเบิกความต่อศาล เมื่อจูฮีตั้งสติได้แล้วก็คิดใคร่ครวญว่าจะบอกเรื่องนี้ให้จุงโฮรู้ดีหรือ ไม่ จุงโฮเตือนสติ ซ๊อกกีว่าถ้าหากมีการนำคดีอุบัติเหตุพ่อแม่ของจูฮีขึ้นมาพิจารณาใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างจูฮีและซ๊อกกีจะกลายเป็นศัตรูขึ้นมาทันที ถ้าหากเป็นไปได้ซ๊อกกีควรจะเปลี่ยนจุดยืนเสียตั้งแต่วันนี้ จูฮีและเซฮีจะกลายเป็นผู้ถูกปองร้าย บางทีอาจมีทางออก
28 กรกฎาคม -1 สิงหาคม 2551
เมื่อ ซ๊อกกีฟังคำแนะนำของจุงโฮแล้วก็บอกจุงโฮว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด หากไม่ได้รับการยืนยันจากตนก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น จุงโฮถามถามถึงทางออกจากซ๊อกกี ซ๊อกกีกลับไม่ตอบ ยองจุงบอกว่าคดีถูกสะสางแล้วขอให้เตรียมฉลองได้เลย ทุกคนฉลองกันอย่างมีความสุข มีเพียงจูฮีและจุงโฮที่ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น จุงโฮเรียกซ๊อกกีเข้ามาที่ห้องทำงาน เมื่อซ๊อกกีเข้ามา จุงโฮก็ชกซ๊อกกีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง...จุงโฮพบว่าเอกสารบนโต๊ะทำงานถูก เคลื่อนย้าย จุงโฮเชื่อว่าอาจมีคนแอบเข้ามาในห้องทำงานของตน
เฮซูไปที่บ้านจูฮี เฮซูยิ่งรู้สึกผิดเมื่อเห็นจูฮีซึ่งแสดงถึงความไม่สบายใจออกมา เฮซูบอกจูฮีว่าต่อไปนี้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ขอให้ปรึกษาขอความช่วยเหลือจากจุงโฮ เฮซูกล่าวต่อไปว่าเธอและจุงโฮหย่าขาดจากกันแล้ว จูฮีตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น จองวูซ๊อกบอกซ๊อกกีว่าอยากพบจุงโฮสักครั้ง จุงโฮได้รับข้อความสั้นจากซ๊อกกีว่าจะส่งคนมารับจุงโฮ จูฮีเห็นคนแปลกหน้ามารับจุงโฮออกไปจึงรู้สึกแปลกใจมาก จุงโฮบอกจูฮีไม่ต้องเป็นห่วง จากนั้นจุงโฮก็ติดตามคนแปลกหน้าไป จองวูซ๊อกนำหนังสือฟ้องร้องออกมาเพื่อแลกกับข้อมูลของเด็บบี้ จุงโฮบอกจองวูซ๊อกให้ปล่อยตัวซ๊อกกีเสียก่อน จุงโฮบอกให้ซ๊อกกีหาที่กบดานสักพักรอจนกว่าคดีจะคลี่คลาย
ก่อนที่ซ๊อกกีจะจากไปได้บอกจูฮีว่าตนมีคำพูดที่ยังไม่ได้พูดกับเธอโดยขอให้ เธออย่าทิ้งตนไป จุงโฮพบกับเก๋อจง จุงโฮแนะนำให้เก๋อจงมอบตัวในคดีเมื่อห้าปีก่อน จากนั้นก็หยิบหลักฐานออกมาให้เก๋อจงดู ซ๊อกกีโทรศัพท์ถึงจุงโฮโดยบอกจุงโฮว่ามีบางเรื่องที่ตนจะต้องจัดการด้วยตน เอง จากนั้นซ๊อกกีก็วางโทรศัพท์ไป ทอมมี่ปฏิบัติตามคำสั่งของซ๊อกกีโดยนำตั๋วเครื่องบินและจดหมายฉบับหนึ่งไป มอบให้จูฮี
4 สิงหาคม 2551
จู ฮีอ่านเนื้อความในจดหมายถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อพบว่าที่อเมริกา ได้ตระเตรียมการผ่าตัดให้เซจูไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกด้านหนึ่งนั้น ทอมมี่โทรศัพท์ถึงซ๊อกกี แต่กลับไม่สามารถติดต่อได้ ซ๊อกกีแอบลอบเข้าไปในห้องนอนของจองวูซ๊อก แต่นึกไม่ถึงว่ากลับถูกชายหลายคนทำร้ายจนสะบักสะบอม จุงโฮช่วยชีวิตซ๊อกกีโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง

คิมซังคยอง (Kim Sang Kyung) รับบทเป็น ซู จุงโฮ (ทนาย - Suh Jung-ho)

จังเฮยอง (Jung Hye Young) รับบทเป็น คิม จูฮี (เลขา - Kim Joo-hee)

คิมซังซู (Kim Sung Soo) รับบทเป็น ยุน ซุกกิ (ทนาย - Yoon Suk-ki / Alex Yoon)

ฮันโกอึน (Han Go Eun) รับบทเป็น ยาง ฮะยัง (เลขา - Yang Ha-young)
Jung Hye Young รับบทเป็น Kim Joo-hee คิม จูฮี(เลขา)
Kim Sang Kyung รับบทเป็น Suh Jung-ho ซู จุงโฮ (ทนาย)
Kim Sung Soo รับบทเป็น Yoon Suk-ki / Alex Yoon ยุน ซุกกิ (ทนาย)
Han Go Eun รับบทเป็น Yang Ha-young ยาง ฮะยัง (เลขา)
Choo Sang Mi (추상미) รับบทเป็น Song Yi-ryong (ทนาย)
Lee Hwi Jae (이휘재) รับบทเป็น Lee Jae-suh (ทนาย)
Jung Ha Na (정하나) รับบทเป็น Oh Yuri (ทนายคนอเมริกัน)
Lee Dong Hoon (이동훈) รับบทเป็น Jang Ki-soon (ทนาย)
Kim Byung Ki (김병기) รับบทเป็น Koh Young-joon (ประธานสำนักทนายความ)
Jung Jung Ah (정정아) รับบทเป็น Eun-ae
Park Gri Na (박그리나) รับบทเป็น Min-ji
Jerome To (도성민) รับบทเป็น Tommy
Park Young Ji (박영지) รับบทเป็น Hong In-ki
Hwang Bo Ra รับบทเป็น Shin Ji-na
Park Nam Hyun (박남현) รับบทเป็น Kwon Hyuk-joong
Shin So Mi (신소미) รับบทเป็น Cha Hae-soo (ภรรยาจุงโฮ)
Im Jung Eun (임정은) รับบทเป็น Kim Se-hee (น้องสาวจุงฮี)
Myung Ro Jin (명로진) รับบทเป็น Ho-sik
Choi Yeo Jin รับบทเป็น Deborah Hong
Lawyers OST
01. Intro
02. Red Road (yung hon eh bang rang ja) - Lim Tae Kyung, Mithra Jin
03. seu chyuh ji na ga da - Koffee
04. ga shi jang mi (Classic Version) - Myung Joo
05. Blue Road (ma ji mak noon mool) - MC sniper Feat. JUST
06. seul puh ha ji ma - JUST
07. ga nan han sarang eh no rae - Myung Joo
08. nul de ryuh ga jwuh - BOOTH
09. White Road (noon mool bo da seul peun mi so) - Lim Tae Kyung
10. ga shi jang mi (Pop Version) - Mille
11. Waltz For Tears
12. Red Road (Instrumental)
13. Tango For Sad
14. Love - Marry-M