เฉินคุนสารภาพ มี "ลูก" เป็นความจริง

ภาพยนตร์เรื่อง "ฮวาฮวาสิงจิ่ง" (ตำรวจมือปราบ) ที่เฉินคุน (Chen Kun) กับ อวี๋เหวินเล่อ นำแสดงได้ฤกษ์ลงโรงรอบปฐมทัศน์ที่ปักกิ่งไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดย หม่าฉู่เฉิง ผู้กำกับฯกล่าวชมการแสดงของ เฉินคุน ว่า "ก่อนหน้านี้ทุกคนคงรู้จักว่าเขาเป็นหนุ่มหล่อ แต่หลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ทุกคนจะรู้ว่าเขายังบู๊ได้เก่งมากด้วย ยิ่งในฉากที่ต้องแสดงอารมณ์เขายิ่งถ่ายทอดออกมาได้ลึกซึ้ง" ส่วนข่าวลือข่าวจริงของเขาในเรื่องลูกจริงลูกบุญธรรมนั้น เฉินคุนได้ให้คำตอบยอมรับแกนๆ ว่าเด็กเป็นลูกเขาเอง

เฉินคุน ที่เติบโตมาในครอบครัวที่แตกแยก เขากับแม่และน้องชายอยู่ด้วยกันเพียง 3 คน ตอนเด็กๆ เขาเคยฝันว่าจะเป็นมัณฑนากรชื่อดัง เพราะเขาชอบตกแต่งสิ่งต่างๆ แต่น่าเสียดายที่งานมีมาก จนทำให้ตอนนี้แม้แต่ห้องของตัวเขาเองก็ไม่ค่อยได้จัดเก็บ เฉินคุน ได้เล่าถึงประสบการณ์เลวร้ายตอนที่พ่อแยกออกไป ทำให้เขาต้องเติบโตในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ว่า "เด็กที่เกิดมาในครอบครัวแตกแยก มันก็ต้องมีความรู้สึกโกรธแค้นนิดหน่อย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ฝ่าฟันจนเข้ามายืนอยู่ในวงการตรงจุดนี้ ทำให้ผมเรียนรู้ที่จะให้อภัย ถ้าไม่มีความแค้น ก็จะไม่ได้เรียนรู้การให้อภัย ซึ่งวันนี้ผมได้ลิ้มรสชาติของความสุขจากการให้อภัยแล้ว ผมอภัยให้พ่อที่ทิ้งพวกเราไป และก็ถึงเวลาแล้วที่จะได้เรียนรู้การให้อภัยกับเรื่องที่ผิดพลาดของตัวเอง"

เมื่อถามว่าสภาพแวดล้อมในการเติบโตมีผลกระทบต่อมุมมองความรักของเขาหรือไม่ ในเรื่องนี้ เฉินคุน ตอบอย่างชี้ชัดว่า "ต่อไปถ้าหากผมแต่งงานก็จะไม่มีวันหย่าเป็นอันขาด ผมจะใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข แล้วผมก็อยากเป็นพ่อที่ดีด้วย" โดยมาตรฐานการเป็นพ่อที่ดีของเฉินคุน คือนอกจากจะรู้จักดูแลลูกแล้ว ยังต้องมีเวลาอบรบสั่งสอนลูกด้วย เพราะเด็กที่เติบโตมาด้วยความรักการเอาใจใส่จะมีความสุข "ผมจะเก็บของขวัญที่ลูกมอบให้ผมทุกอย่าง พกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ และจะบอกเล่าเรื่องราววัยเด็กทั้งหมดของตัวผมให้เขาฟัง แล้วผมก็จะเลี้ยงเขาด้วยวัฒนธรรมจีนคือ ถ้าเขาทำผิดผมจะตีเขา เพื่อให้เขาจำว่าอย่าทำผิดอีกเป็นซ้ำสองด้วย"

สำหรับ "คดีลูกแท้ลูกบุญธรรม" ที่เป็นข่าวครึกโครมพัวพัน เฉินคุน ก่อนหน้านี้ จากตอนแรกที่มีข่าวออกมาเขาปฏิเสธหนักแน่นว่า "เป็นลูกบุญธรรม" แต่แล้วในที่สุดเขาก็ประกาศยอมรับว่า "เป็นลูกแท้ๆ" ซึ่งเฉินคุนได้ขอร้อง และอธิบายเหตุผลที่ต้องเขาปิดข่าว เพราะเขาไม่อยากให้มีผลกระทบต่อเด็ก "ผมหวังว่าต่อไปเด็กจะไม่ถูกนักข่าวรบกวนอีก ความจริงแล้วผมไม่เคยคิดจะเก็บเขาไว้แต่ในบ้าน ผมก็อยากพาเขาออกไปเดินเล่นอย่างเปิดเผย ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกผมก็ดีหรือเป็นอย่างอื่นก็ช่าง แต่จะว่าไปเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกของผม ในเรื่องนี้ผมจะพูดเพียงครั้งเดียว หวังว่าต่อไปไม่ต้องมาถามผมอีก ผมเฉินคุนยอมรับได้ทุกอย่างแต่เด็กยังเล็ก ผมขอร้องทุกคนอย่าถามอีกเลย ขอให้เขาได้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องทำ"

สยามดารา