The Legend - ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์
ละครประวัติศาสตร์ของกษัตริย์คนที่สิบเก้าของราชวงศ์โคคูเรียว หวังวูงที่ถูกส่งมาจากสวรรค์เพื่อมาอยู่บนโลกมนุษย์เพื่อจะช่วยให้โลกดีขึ้น เขากลับไปตกหลุมรักกับแซโอและเขาได้ให้สร้อยคอจูแจกกับเธอไว้ แต่คาจินเกิดอิจฉาขึ้นมาเพราะว่าแซโอตั้งครรภ์กับหวังวูงและคลอดมาเป็นลูกชาย คาจินจึงได้ขโมยลูกของแซโอไป แล้วก็นำเด็กคนนั้นไปโยนทิ้งที่หน้าผา แซโอคิดว่าลูกชายของเธอได้จากไปเสียแล้ว เธอจึงได้แต่เศร้าโศกเสียใจ เธอจึงไม่สนใจกับสายใยรักที่เป็นสร้อยที่ได้มาอีกต่อไป และได้เริ่มพยายามทำลายล้างโลก หวังวูนเป็นเพียงคนเดียวที่จะสามารถหยุดยั้งเธอไว้ได้
ต่อมาหวังวูงจึงกลับไปสวรรค์และได้พูดว่าอีกสองพันปีต่อมาจะมีกษัตริย์จูชินที่จะมาบนโลกมนุษย์และจะมีเทพเจ้าอีกสี่องค์ที่จะช่วยเขาสร้างกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จูชิน
สองพันปีก่อน...ณ ดินแดนเกาหลีโบราณ เกิดการสู้รบกันระหว่างเผ่าสองเผ่าคือเผ่าพยัคฆ์และเผ่าหมี สวรรค์จึงส่งโอรสแห่งสวรรค์ “ฮวางวุง” พร้อมด้วยเทพผู้พิทักษ์ 3 องค์ คือ จ้าวเมฆา (มังกรเขียว-อูนซา), วายุเทพ (พยัคฆ์ขาว-พองแบ็ค), และพิรุณเทพ (เต่านิล-ยอนมู) ลงมาเพื่อทำให้โลกเกิดความสงบสุข แต่ “เสือ” ย่อมมีสัญชาตญาณของนักล่าเผ่าพยัคฆ์เองก็เช่นกันประกอบกับเผ่า นี้มีความสามารถในการบังคับพลังอัคคีได้ ซึ่งเผ่าพยัคฆ์ก็ได้ใช้พลังวิเศษนี้ในการต่อต้านฮวางวุงและเผ่าหมี ฮวางวุงรู้ถึงความน่ากลัวของพลังอัคคีดีจึงได้ดึงเอาพลังอัคคีจาก “คาจิน” หญิงสาวผู้ครอบครองพลังนี้แห่งเผ่าพยัคฆ์ และได้ส่งมอบพลังให้กับ “เซโอ” ราชินีแห่งเผ่าหมี พร้อมทั้งได้แต่งตั้งให้พลังอัคคีเป็นเทพหงส์ไฟ
วันหนึ่งเมื่อคาจินได้รับบาดเจ็บจากการรบกับเผ่าหมี ฮวางวุงได้ใช้พลังแห่งเทพรักษาเธอด้วยความสุภาพและอ่อนโยนของ เขาทำให้คาจินตกหลุมรักฮวางวุง ถึงขนาดยอมทรยศต่อเผ่าของตัวเองเพื่อฮวางวุง แต่แล้วฮวางวุงกลับเลือกแต่งงานกับเซโอ เหตุการณ์นี้ ยังความโกรธแค้นให้กับคาจินอย่างมาก เธอจึงกลับมาเป็นผู้นำแห่งเผ่าพยัคฆ์อีกครั้ง เธอนำเผ่าพยัคฆ์จู่โจมเผ่าหมีและได้ลักพาตัวลูกที่เพิ่งเกิดของเซโอไป เซโอเข้าใจผิดคิดว่าคาจินได้ฆ่าลูกของเธอแล้ว ปลุกให้เทพหงส์ไฟในตัวของเธอตื่นขึ้นความโกรธทำให้เทพหงส์ไฟกลายเป็นหงส์ดำ ซึ่งมาพร้อมกับพลังทำลายล้างที่เธอเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ ฮวางวุงได้เรียกให้เทพผู้พิทักษ์ทั้ง 3 มาปราบหงส์ดำนั้น แต่ก็ไม่สามารถปราบลงได้ ผู้เดียวที่จะสามารถทำลายหงส์ดำได้คือฮวางวุง เขาจึงตัดสินใจสังหารหญิงอันเป็นที่รักด้วยมือของเขา คาจินรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย การสูญเสียหญิงอันเป็นที่รักด้วยน้ำมือตัวเองกับอีกหนึ่งชีวิตที่ดับสลายไปต่อหน้าต่อตาทำร้ายจิตใจ ฮวางวุงเกินกว่าที่เขาจะทนอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไปได้ เหตุการณ์นี้ทำให้โลกได้รู้ถึงพลังอำนาจของเทพทั้ง 4 และก่อนที่ฮวางวุงจะกลับสวรรค์เขาได้สะกดพลังของเทพทั้ง 4 เอาไว้ และได้ทำนายไว้ว่าเมื่อดวงดาวแห่งราชาส่องแสงนั่นคือสัญญาณการจุติของมหากษัตริย์ผู้รวบรวม แคว้นโกคูรยอเป็นหนึ่งเดียวและวันนั้นจะเป็นวันที่พลังแห่งเทพทั้งสี่ที่ถูกผนึก ไว้จะถูกปลุกขึ้นอีกครั้งสองพันปีต่อมา...ชาวโคกูรยอต่างพากันรอคอยการกำเนิดของมหากษัตรย์ในตำนาน และแล้วในคืนหนึ่งเมื่อดวงดาวแห่งราชาปรากฏ...
นั่นคือสัญญาณบ่งบอกถึงการจุติของจอมกษัตริย์ในตำนานที่ทุกคนรอคอย.... การเสาะแสวงหาของวิเศษทั้ง 4 จึงเริ่มต้นขึ้น ทุกชีวิตในอดีตกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งโดยที่พวกเขา จำสิ่งที่เคยทำมาในอดีตไม่ได้เลย เทพทั้ง 3 กลับมาเกิดใหม่ ราชินีแห่งเผ่าหมีและเผ่าพยัคฆ์ก็กลับมาเกิดใหม่เป็นพี่น้องกัน โดยที่ยังคงได้เป็นผู้สืบทอดพลังอัคคีเช่นเดียวกันกับในอดีตชาติ ซึ่งเธอต่างจำไม่ได้เลยว่า เคยเป็นคู่แข่งในสงครามเหนือความรักและความตายเมื่อสองพันปีก่อน..ในคืนที่มหากษัตริย์ในตำนาน ได้ถือประสูติขึ้นมานั้น กลับมีโอรสเชื่อสายของกษัตริย์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาถึงสองพระองค์ องค์หนึ่งเป็นทายาทสกุลยอนซึ่งสืบสายเลือดกษัตริย์มีชื่อว่า ยอนโฮเก
อีกคนหนึ่งเป็นลูกชายของ โอจีจี พระอนุชาของพระราชาก็ได้ถือกำเนิดในคืนนี้เช่นเดียวกัน แต่โอจีจีกลับให้ทุกคนรู้ว่าลูกชายของตนได้ถือกำเนิด สี่วันหลังจากคืน ที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ทารกนี้มีชื่อว่า ทัมต๊อก บางทีอาจไม่ถือเป็นเรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว.... เนื่องจากฐานะโอจีจี ไม่ได้โดดเด่นสักเท่าใดนัก อีกทั้งเหินห่างกับชนชั้นสูง โอจีจีไปตั้งรกราก ณ สถานที่ที่ไกลจากวังหลวงมาก โดยเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ยังชีพ โอจีจี จงใจปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้ด้วย ไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ว่าทัมต๊อกและยอนโฮเก ถือกำเนิดในวันเดียวกัน ถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเชื่อว่าจะต้องนำมาซึ่งภัยพิบัติอย่างแน่นอน เนื่องจากหนึ่งแผ่นดินจะมีพระราชาสองพระองค์ไม่ได้
พระราชาผู้ปกครองแผ่นดินทรงไม่มีทายาท ยอนฮูหยินพระขนิษฐาของพระองค์ซึ่งเป็นแม่ของยอนโฮเกจึงทูลเสนอให้ยอนโฮเกเป็นองค์รัชทายาท แต่กลับถูกปฏิเสธ โอจีจี พระอนุชาของพระราชาดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท
ก่อนที่พระราชาสวรรคต พระองค์ทรงมีรับสั่งเรียกประชุมเชื้อพระวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ ทำให้ทุกคนได้พบกับโอจีจี และทัมต๊อกลูกชายซึ่งตั้งรกรากยังสถานที่ไกลแสน ไกลอีกครั้ง ในเวลานี้เองทุกคนถึงรู้ว่าพระราชาทรงสถาปนาโอจีจี เป็นองค์รัชทายาท พระราชาพระองค์ใหม่เถลิงราชย์ในพระนามพระเจ้ายังวัง แต่พระองค์กลับทรงไม่ได้ รับความไว้วางใจจากชนชั้นสูง นอกจากนี้ยังต้องรับศึกเหนือใต้ที่ข้าศึกเข้ามารุกราน พระเจ้ายังวังทรงตั้งพระทัยว่าพระองค์เพียง รักษาบัลลังก์ไว้ชั่วคราวเท่านั้น พระราชาที่แท้จริงคือทัมต๊อก สิ่งที่พระองค์ทรงต้องทำคือคุ้มครองทัมต๊อกให้ปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันที่ทัมต๊อกขึ้นครองราชย์ ด้วยเหตุนี้พระเจ้ายังวังจึงทรงเข้มงวด ต่อทัมต๊อกเป็นพิเศษ เนื่องจากทัมต๊อกเฉลียวฉลาด รวมทั้งมีความสามารถที่โดดเด่น ทัมต๊อกจะแสดงสิ่งเหล่านี้ให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถ ของทัมต๊อกที่เหนือกว่ายอนโฮเก
พระเจ้ายังวังทรงจำกัดบริเวณทัมต๊อก ถึงแม้ว่าทัมต๊อกปฏิบัติตามความประสงค์ของพระบิดา ในใจกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระเจ้ายังวังจึงทรงเข้มงวดกับตนเช่นนี้ นอกจากนี้พระเจ้ายังวังยังทรงห้ามไม่ให้ทัมต๊อกคบหาเพื่อนที่หอบัณฑิต รวมทั้งฝึกวรยุทธ พระองค์ทรงมีรับสั่งว่าทัมต๊อกสุขภาพไม่แข็งแรง พระองค์จึงทรงทำเช่นนี้ แต่ทัมต๊อกรู้แก่ใจดีว่าตนแข็งแรงมาก ดังนั้นจึงแอบศึกษาวรยุทธ แอบเข้าไปในหอหนังสือเพื่อศึกษาหาความรู้ วันหนึ่ง ขณะที่ทัมต๊อกแอบเข้าไปอ่านหนังสือที่หอหนังสือ ทัมต๊อกได้พบกับ คีฮา ธิดาเทพแห่งพรรคอัคคี เข้าโดยบังเอิญ
คีฮาไม่มีความทรงจำเมื่อครั้งเป็นเด็ก เมื่ออายุได้ห้าขวบถูกถูกพรรคอัคคี จับตัวไป นับแต่นั้นเป็นต้นมาบนไหล่ของนางก็มีรอยสักมาโดยตลอด ความทรงจำของนางสูญสิ้น แม้แต่ความทรงจำที่พรรคอัคคีฆ่าพ่อแม่ของนางก็สูญสิ้นไปด้วย นางจำได้แต่เพียงมีน้องสาวเท่านั้น แต่ก็หายสาบสูญไป คีฮามีฐานะสูงศักดิ์ในพรรคอัคคี แม้แต่ผู้เฒ่า ในพรรคยัง ให้ความเคารพยำเกรงนาง สำหรับคนพรรคอัคคี คีฮาเป็นธิดาอัคคีที่ลงมาจุติตามตำนาน คืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ได้มีหงส์ไฟปรากฏ ขึ้นที่บ้านสกุลเฮ ในเมืองแพกเจ พรรคอัคคีซึ่งรอคอยเหตุการณ์นี้อุบัติขึ้นนานนับพันปีต่างพากันมาที่บ้านสกุลฮุ่ย ทุกคนพบว่าเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบสามารถ ใช้อำนาจหยกแดงสะกด เพลิงไม่ให้ทำร้ายนางเอง ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงปักใจเชื่อว่าเด็กน้อยคนนี้ก็คือธิดาอัคคีอย่างแน่นอน พรรคอัคคีพาเด็กน้อยพร้อมด้วยยกแดงกลับไปที่พรรคอัคคี ทำให้ทุกคนมีความหวังว่าชัยชนะอยู่เบื้องหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น คีฮาทำได้แต่เพียงใช้หยกแดงจุดเทียนไข หรือไม่ก็จุดฟืนเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือนแรกเริ่มที่สามารถ สำแดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยเรื่องนี้ทำให้ผู้เฒ่าของพรรคเชื่อว่าเมื่อครั้งที่มหาเทพสะกดของวิเศษสามสิ่งไว้นั้น อิทธิฤทธิ์ของหงส์ไฟก็สูญสลายไปด้วย เว้นแต่จะทำลายมนต์สะกด ธิดาอัคคีก็จะสำแดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง ผู้เฒ่าพรรคอัคคีคิดว่าของวิเศษอีกสามสิ่งที่ถูกสะกดไว้จะต้องตกเป็นของพรรคด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อคีฮาอายุได้สิบห้าปีก็ต้อง ติดตามบรรดาผู้เฒ่าพรรคไปที่แท่นบูชาฟ้าดิน แท่นบูชาฟ้าดินได้มอบชีวิตใหม่ให้คีฮา โดยมีภารกิจสำคัญสองอย่างที่นางต้องทำภารกิจแรกต้องจับกุมตัวยอนโฮเกซึ่งถือ กำเนิดในคืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาวมาให้ได้การทำลายมนต์สะกดนั้นต้องใช้เลือดของมหาราชา ภารกิจที่สองคือพำนักอยู่ที่แท่นบูชาฟ้าดินเพื่อรอรับฟังข่าวคราวของวิเศษ คีฮาซึ่งถูกยกให้เป็นธิดาอัคคีนั้น สำหรับนางแล้วการมีชีวิตอยู่ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพรรคอัคคี ภารกิจสองอย่างเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนาง อย่างน้อยที่สุด ก่อนที่จะได้พบกับทัมต๊อก นางก็คิดเช่นนี้มาโดยตลอด
ทัมต๊อกและคีฮา ทั้งสองซึ่งอ้างว้างโดดเดี่ยวได้พบกันในที่สุด ทัมต๊อกต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระบิดาอย่างเคร่งครัด ทำให้ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ส่วนคีฮานั้นได้รับแรง กดดันจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายที่ต้องเป็นธิดาอัคคี ทำให้นางไม่สามารถดำรงชีวิตตามที่นางต้องการ ในเวลานี้นางถูกส่งมายังดินแดนข้าศึก นางจะต้องเป็นสายรายงาน ความเคลื่อนไหว ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงเห็นใจกันและกันเป็นอย่างดี ความจริงแล้วสำหรับคีฮานั้น ทัมต๊อกไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของนางแต่อย่างใด คนที่นางต้องให้ความสำคัญคือยอนโฮเกต่างหากที่นางต้องนำข่าวคราวไปรายงาน แต่ไม่แน่ว่าทัมต๊อกอาจเป็นคนที่ขัดขวางภารกิจของนางก็เป็นได้ แต่เมื่อคีฮาคบหา กับทัมต๊อกได้ระยะหนึ่ง ความรู้สึกที่นางมีต่อทัมต๊อกก็เปลี่ยนไป นางรู้สึกว่าช่วงเวลาที่อยู่กับทัมต๊อกเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด บรรดาผู้เฒ่าของพรรคอัคคีต่าง พากันย้ำเตือนคีฮาอย่าได้ใจอ่อนเป็นอันขาด สำหรับทัมต๊อก ทัมต๊อกรู้สึกว่าคีฮาเป็นคนสำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทัมต๊อกซึ่งสูญเสียแม่ตั้งแต่เล็กนั้น คีฮาเป็นเหมือนแม่ เป็นเหมือนพี่สาวที่มอบความรักความอบอุ่นที่ตนไม่เคยได้รับจากพ่อ ทุกคืนขณะที่ฝึกวรยุทธ คีฮาก็เป็นเหมือนเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง กาลเวลาผ่านไป ทัมต๊อกและคีฮาก็รักกัน ทัมต๊อกหลบหนีออกจากวังหลวงราวกับนักโทษที่แหกคุกออกมา ทัมต๊อกชอบแต่งตัวเป็นชาวบ้านเดินไปตามท้องถนน โดยสามารถรับฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย ต่อมา ทัมต๊อกก็ได้พบกับ ซูจีนี
ซูจีนีเป็นน้องสาวของคีฮา ในวันที่สกุลเฮถูกพรรคอัคคีทำลาย แม่ได้มอบหัวใจของหงส์ไฟให้คีฮา จากนั้นก็กำชับให้คีฮาดูแลซูจีนีให้ดี ขณะที่เทพแห่งความตายมาเอา ชีวิตของเด็กทั้งสองนั้น หัวใจของหงส์ไฟก็สำแดงอิทธิฤทธิ์คุ้มครองสองพี่น้องเอาไว้ พรรคอัคคีไม่พบซูจีนีซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถังข้าว ดังนั้นจึงพาแต่คีฮาและหงส์ไฟกลับไปเท่านั้น พรรคอัคคีหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่ทำให้หงส์ไฟสำแดงอิทธิฤทธิ์คือคีฮาหรือซูจีนีกันแน่ เนื่องจากทั้งสองเป็นลูกสาวบ้านสกุลเฮด้วยกันทั้งคู่ คนที่พบซูจีนีที่ซ่อนตัวอยู่ ในถังข้าวในคืนนั้นก็คือ ยอนโก ซึ่งก็คือพิรุณเทพกลับชาติมาเกิดนั่นเอง ในเวลานั้นยอนโกมีอายุครบสิบห้าปี เมื่อซูจีนีพบเห็นยอนโก นางก็ยิ้มให้ยอนโก
บรรดาผู้เฒ่าของหมู่บ้านเมื่อพบเห็นซูจีนี เนื่องจากหงส์ดำเป็นอัปมงคล ทำให้ไม่มีใครกล้าชุบเลี้ยงซูจีนีเอาไว้ มีเพียงยอนโกเท่านั้นที่เชื่อว่าซูจีนีเป็นหงส์ไฟ ไม่ใช่หงส์ดำ ด้วยเหตุนี้ ยอนโกจึงอุ้มซูจีนีซึ่งอายุไม่ถึงขวบขอร้องให้บรรดาผู้เฒ่าชุบเลี้ยงนางไว้ บรรดาผู้เฒ่าไม่อยากฆ่าเด็กบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงซูจีนีเอาไว้ สำหรับทุกคนแล้วต่างหวาดกลัวทายาทของหงส์ดำด้วยกันทั้งนั้น หงส์ไฟซึ่งกลับมาจุติพร้อมกับมหาราชานั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นไปตามตำนานหรือไม่ หากเป็นไปตามตำนาน เมื่อใดที่โกรธแค้นขึ้นมาก็จะกลายเป็นหงส์ดำทำลายล้างบ้านเมืองหรือไม่ โลกใบนี้จะลุกเป็นไฟอีกครั้งหรือไม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ควรจะรีบขจัดภัยพิบัตินั้นโดยเร็วที่สุด แต่ยอนโกกลับคัดค้านความคิดเห็นนี้มาโดยตลอด
ในคืนนั้น ผู้เฒ่าเตือนยอนโกซึ่งอุ้มซูจีนีว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ขอให้ดูแลเด็กคนนี้ให้ดี ถ้าหากวันใดยอนโกพบว่าซูจีนีเป็นหงส์ดำก็ขอให้ยอนโกกำจัดนางทันที ซูจีนีเป็นผู้หญิงคนเดียวของหมู่บ้าน นางเคารพนับถือยอนโกเป็นอาจารย์ นางถอดอุปนิสัยของอาจารย์มาจนหมดสิ้น นางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เติบโตในหมู่บ้าน ทำให้อุปนิสัยนางไม่เหมือนผู้หญิง สิ่งที่ผู้ชายทำได้ นางทำได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการพนัน ลักขโมย ยิงธนู วรยุทธ วันหนึ่ง ก่อนที่ผู้เฒ่าจะสิ้นใจได้เรียกชาวบ้านมาชุมนุมกัน ผู้เฒ่าได้มอบพลองวิเศษให้ผู้นำหมู่บ้านคนใหม่ ทันใดนั้นเอง พลองวิเศษก็ลอยขึ้นฟ้า หมุนอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ตกลงตรงหน้าผู้นำคนใหม่ ..... ยอนโก
ผู้นำคนใหม่ของหมู่บ้านได้ถูกเลือกสรรแล้ว ชะตากรรมของ ทัมต๊อก, คีฮา, ซูจีนีและยอนโฮเกที่ต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อเส้นทางแห่งสงครามเหนือความรักและความตายเมื่อสองพันปีก่อนกำลังหวนกลับมา พบเรื่องราวอันเข้มข้นของการแย่งชิงอำนาจ และเรื่องราวของตำนานจอมกษัตริย์กับเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ได้ใน “ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์” ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 18.00 น.

![]() |
รับบทโดย เบยองจุน (Bae Yong Jun) |
ในอดีตเขาคือฮวางวุงโอรสแห่งสวรรค์ผู้สุขุมและเยือกเย็น ผู้ถูกส่งลงมาเพื่อปกป้องโลก อีกสองพันปีต่อมาเขากลับมาเกิดใหม่โดยถือกำเนิดขึ้นใน วันที่ดวงดาวแห่งราชา ปรากฎ ผู้ที่ชะตากำหนดให้เขาเกิดมาเป็นมหากษัตริย์แห่งตำนาน ทัมต๊อกหรือพระเจ้า กวางแกโตมหารชแห่งอาณาจักรโกคูรยอหรือราชา แห่งจูชินผู้ซึ่งสืบสาย เลือดมา จากมหาเทพ ภาระกิจในฐานะราชาแห่งจูชิน คือการค้นหาและ ครอบครองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในตำนาน ซึ่งจะช่วยคลายปมปริศนาแห่งชะตากรรมที่ผูกพันกันมาแต่ชาติภพก่อน |
|
![]() |
รับบทโดย มูนโซริ (Moon So Ri) |
ในอดีตนางคือคาจินธิดาอัคคีแห่งเผ่าพยัคฆ์ ผู้โหดเหี้ยมและกร้าวแกร่ง สองพันปีต่อมาเธอกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในนามของ คีฮา พี่สาวแท้ๆของซูจีนี เมื่ออายุห้าขวบคีฮาต้องสูญเสียพ่อและแม่ด้วยน้ำมือของพรรคอัคคี ความทรงจำของนางสูญสิ้น จำได้เพียงแค่มีน้องสาวซึ่งหายสาบสูญไปเท่านั้น ด้วยพลังอัคคีที่แสดงออกมาในวันที่พรรคอัคคีเข้ารุกรานทำให้นาง ถูกพรรคอัคคีนำมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นธิดาอัคคี ซึ่งนางก็เชื่อมาตลอดว่านางคือธิดาอัคคีและต้องทำทุกอย่างเพื่อพรรคอัคคี ... จนกระทั้งได้มาพบกับทัมต๊อก..ชะตากรรมแห่งรักจากอดีตจึงย้อนกลับมา |
|
![]() |
รับบทโดย ลีจีอา (Lee Ji Ah) |
ซูจีนี หญิงสาวที่เฉลียวฉลาดและซุกซน เก่งกาจในการยิงธนู, การพนัน และการล้วงกระเป๋า อดีตชาตินางคือ เซโอ ราชินีแห่งเผ่าหมี ผู้ที่ฮวางวุงรักและมอบให้เป็นสืบทอดพลังแห่งเทพหงส์ไฟ เมื่อเธอกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งเป็น ซูจีนี น้องสาวแท้ๆ ของคีฮา นางต้องสูญเสียพ่อแม่และพี่สาวให้กับพรรคอัคคีตั้งแต่อายุเธอไม่ครบขวบดี ผู้ที่พบนางและได้รับนางมาเลี้ยงดู คือ ยอนโก ผู้ที่นางนับถือเป็นอาจารย์ ด้วยความที่ซูจีนีเติบโตมาในหมู่ชายล้วนทำให้นางมีนิสัย ไม่เหมือนผู้หญิงสักเท่าไหร่ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อชะตานำพาให้นางมาพบกับทัมต๊อกอีกครั้งด้วยความบังเอิญ วงล้อแห่งชะตากรรมในอดีตจึงหวนกลับมาอีกครั้ง |
|
![]() |
รับบทโดย โอวางรก (Oh Kwang Rok) |
ในอดีตชาติเขาคือ พิรุณเทพ (ยอนมู หรือ เต่านิล) ผู้นำแห่งเทพทั้ง 4 เมื่อกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งเขาคือ ยอนโกเขาและซูจีนีเป็นผู้ที่ช่วยให้พระเจ้าทัมต๊อกในการคลี่คลายปริศนาชะตากรรมแห่งตำนานนับพันปี หลังจากที่เขาได้รับสัญญาณจากพลองวิเศษ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งพิรุณเทพ (เต่านิล) เขาจึงได้รับเลือกให้เป็นผู้นำหมู่บ้านตั้งแต่ยังหนุ่ม ถึงแม้ว่าบุคลิกของเขาดูเป็นคนเย่อหยิ่งและชอบพูดดูถูกถากถางซึ่งทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรแห่งจูชินก็ตาม แต่เขาก็ยังคงได้รับการยกย่องอยู่ดี |
|
![]() |
รับบทโดย ปาร์กซุงวุง (Park Sang Myun) |
เขาคือวายุเทพ (พยัคฆ์ขาว) กลับชาติมาเกิด จูมูจีเป็นคนกล้า เขาต่อสู้เพื่อทัมต๊อกเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต สู้ทุกวิถีทางประมาณว่า ถ้าไม่มีอาวุธก็ใช้มือชก ถ้าขาดมือก็จะใช้ฟันกัด เขาไม่อยากรู้จักทัมต๊อกในฐานะกษัตริย์และไม่อยากให้ทัมต๊อกต้องมารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขาอีกด้วย |
|
![]() |
รับบทโดย ลีฟิลลิป (Lee Philip) |
เขาคือจ้าวเมฆา (มังกรเขียว) ผู้พิทักษ์แห่งตะวันออก กลับชาติมาเกิด เซโรไม่ชอบที่ต้องอยู่ในร่างที่พิกลพิการในฐานะของเจ้าเมืองกวานบี ผู้เป็นเจ้าของของวิเศษแห่งมังกรเขียว เมื่อแรกที่เจอซูจีนีหัวใจของเซโรกระตุกอย่างแรงซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกับที่จ้าวเมฆาเคย รู้สึกมาแล้วกับเซโอในอดีตชาติ |
|
![]() |
รับบทโดย ยุนเทยุง (Yoon Tae Young) |
ยอนโฮเกเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง พ่อของยอนโฮเก คือ ยอนกาเรียว เป็นพระอนุชาผู้มีสิทธิสืบราชบัลลังก์แห่งอาณาจักรโกคูรยอและทางฝ่ายแม่ก็มีศักดิ์เป็นพระขนิษฐา (น้องสาว) ของพระราชาในรัชกาลก่อน ยอนโฮเกเกิดคืนเดียวกับทัมต๊อก วันที่ดวงดาวแห่งราชาปรากฎ ทำให้ทุกคนให้ความเคารพเขาในฐานะว่าที่มหากษัตริย์ในตำนาน ยอนโฮเกและทัมต๊อกนับถือกันเหมือนพี่น้อง แต่เมื่อเขารู้ว่าแม่เขาถูกทัมต๊อกคาดโทษตายเนื่องจากประทุษร้ายพระราชาองค์ปัจจุบัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องเปลี่ยนเป็นความแค้น และพร้อมที่จะลงสนามแข่งทั้งในเรื่องของสนามแห่งการแย่งชิงอำนาจและสนามแห่งความรัก |
|
![]() |
รับบทโดย ปาร์กซังวอน (Park Sang Won) |
เขาคือพระอนุชาผู้กุมอำนาจทางทหารไว้มากกว่าพระราชาแห่งโกคูรยอเสียอีก ยอนกาเรียวได้วางแผนให้ลูกชายคือ ยอนโกเฮ ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งโกคูรยอองค์ต่อไป ดังนั้นเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับทัมต๊อกเสมอ เพราะความเฉลียวฉลาด และเป็นนักวางแผนชั้นยอด ทำให้เขาคือศัตรูตัวฉกาจของทัมต๊อก |
|
![]() |
รับบทโดย ชอยมินซู (Choi Min Soo) |
เขาคือผู้นำพรรคอัคคี ผู้ถูกมอบหมายให้มาทำลายจอมกษัตริย์ในตำนานเพื่อฟื้นพลังอัคคีให้กลับมา แต่ด้วยความโลภทำให้เขาคิดที่จะครอบครองพลังแห่งเทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่ไว้เอง มากกว่าที่จะเป็นเพียงผู้พิทักษ์พลังเท่านั้น เพื่อให้ความตั้งใจบรรลุเขาต้องสังหารผู้สืบเชื้อสายราชาจูชินหรือผู้ที่เป็นจอมกษัตริย์ในตำนานด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือเขาต้องหาและครอบครองของวิเศษทั้งสีไว้ให้ได้ |
Park Seong Min แสดงเป็น Saryang
Shin Eun Jung แสดงเป็น Dalbi
Kim Mi Kyung แสดงเป็น Bason
Jang Hang Sun แสดงเป็น Heuk Gae (หัวหน้า Julno)
Kim Hyuk แสดงเป็น ลูกชายของ Heuk Gae
Kim Suk แสดงเป็น ลูกชายคนเล็กของ Heuk Gae
Jung Yoon Suk แสดงเป็น Ahjik (ลูกชายของ Kiha and Damdeok)
Lee Da Hee แสดงเป็น Gakudan
Yoo Seung Ho แสดงเป็น Damdeok ตอนเด็ก
Park Eun Bin แสดงเป็น Ki Ha ตอนเด็ก
Oh Seung Yoon แสดงเป็น Hyeonko ตอนเด็ก
Shim Eun Kyung แสดงเป็น Suzini ตอนเด็ก
Kim Ho Young แสดงเป็น Ho Gae ตอนเด็ก
Lee Hyun Woo แสดงเป็น Cheoro ตอนเด็ก


The Legend OST
01. Opening
02. Sung jun
03. Dam duk's theme (main theme)
04. Soo ji ni's theme (we ro oom)
05. Ki ha's theme (oon myung juk in man nam)
06. Oon myung
07. Hwa chun hwe
08. Shin deul eh jun jaeng
09. Dam duk's theme (yong maeng)
10. Guh meul chon
11. Juk goon eh gong gyuk
12. Dan gyul
13. Seung ri
14. Huh rak - Joon Suh
15. Se wol eun heu reu go
16. Ee roo uh ji ji ahn neun sarang
17. Chut sarang
18. Soo ji ni's theme (piano solo)
19. Chun nyun yun ga - Dong Bang Shin Ki
Rating
Date | Episode | Nationwide | Seoul |
---|---|---|---|
2007-09-10 | 1st Special | 14.1 (6th) | 14.5 (6th) |
2007-09-11 | 1 | 20.4 (3rd) | 21.6 (3rd) |
2007-09-12 | 2 | 26.9 (1st) | 27.7 (1st) |
2007-09-13 | 3 | 26.9 (1st) | 28.3 (1st) |
2007-09-19 | 4 | 31.7 (1st) | 33.3 (1st) |
2007-09-20 | 5 | 31.5 (1st) | 33.1 (1st) |
2007-09-26 | 6 | 23.4 (2nd) | 25.3 (1st) |
2007-09-27 | 7 | 30.9 (1st) | 33.0 (1st) |
2007-10-10 | 8 | 25.9 (2nd) | 26.4 (2nd) |
2007-10-11 | 9 | 28.2 (2nd) | 29.3 (1st) |
2007-10-17 | 10 | 27.5 (2nd) | 28.6 (1st) |
2007-10-18 | 11 | 28.3 (2nd) | 29.7 (1st) |
2007-10-24 | 12 | 29.6 (2nd) | 30.2 (1st) |
2007-10-25 | 13 | 29.1 (2nd) | 30.4 (1st) |
2007-10-31 | 14 | 27.9 (2nd) | 29.0 (1st) |
2007-11-01 | 15 | 31.9 (1st) | 33.2 (1st) |
2007-11-07 | 16 | 30.0 (2nd) | 31.0 (1st) |
2007-11-08 | 17 | 30.4 (2nd) | 31.9 (1st) |
2007-11-14 | 18 | 30.4 (2nd) | 31.5 (1st) |
2007-11-15 | 19 | 31.6 (2nd) | 32.8 (1st) |
2007-11-21 | 20 | 30.4 (2nd) | 32.1 (1st) |
2007-11-22 | 21 | 32.3 (2nd) | 33.4 (1st) |
2007-11-28 | 22 | 31.6 (2nd) | 32.9 (1st) |
2007-11-29 | 23 | 33.0 (2nd) | 34.6 (1st) |
2007-12-05 | 24 | 35.7 (1st) | 37.0 (1st) |
2007-12-06 | 2nd Special | 16.9 (2nd) | 16.0 (2nd) |
Average | 29.4% | 30.7% |
Source: TNS Media Korea