ในระยะหลังวงการบันเทิงกิมจิ เริ่มถูกพาดพิงโดยผู้ใหญ่ของบ้านเมือง และนักการเมืองเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านหนึ่งก็สะท้อนถึงผลกระทบของวงการบันเทิงต่อสังคมโดยรวม แต่ในทางตรงกันข้าม มีหลายคนเริ่มสงสัยว่า แวดวงบันเทิงหรือศิลปินวัยรุ่น กำลังตกเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพื่อสร้างข่าวสร้างกระแสให้ตนเองเป็นที่สนใจขึ้นมา
เมื่อสมัยประชุมของรัฐสภาเกาหลีใต้เริ่มต้นขึ้น ดูเหมือนว่าวงการบันเทิงเกาหลีใต้จะกลายเป็นหนึ่งในเป้าโจมตี จากแวดวงการเมืองระดับชาติ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนหลายท่าน ได้กล่าวพาดพิงมาถึงเหล่าดารา และวงการบันเทิง ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่ในแง่บวก
เริ่มมีการเอ่ยชื่อของศิลปินนักร้องแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล รวมถึงกล่าวถึงรายละเอียดแบบลึก ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะชื่อของศิลปินสาวตัวแม่ อีฮโยริ (Lee Hyo Ri), สมาชิกวงไอดอลอย่าง ซอลลี่ (Sulli) แห่ง f(x), คังจียอง (Kang Ji Young) แห่ง Kara, ยุนโฮ (Yunho) ดงบังชินกิ (Dong Bang Shin Gi) และซีรีส์ยอดฮิต Iris กลายส่วนหนึ่งที่ถูกสมาชิกสภาอันทรงเกียรติเอ่ยชื่อขึ้นมา ระหว่างการประชุมสภาในช่วงที่ผ่านมา ถึงประเด็นปัญหาต่าง ๆ กันไป
ซึ่งสุดท้ายในกระแสดังกล่าว ฝ่ายการเมืองเองก็ต้องตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เสียเองด้วย เมื่อนักวิเคราะห์การเมืองและชาวเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งเริ่มมีความรู้สึกว่า ความคิดเห็นต่าง ๆ ของนักการเมืองต่อวงการบันเทิง อาจเป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจ และแย่งชิงพื้นที่สื่อ มากกว่าจะตั้งใจพูดถึงปัญหาจริง ๆ
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สส. คิมซุงซู แห่งพรรคจีเอ็นพี กล่าวหาว่าศิลปินสาวซุปเปอร์สตาร์ อีฮโยริ ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการทำหน้าที่ทูตแห่งเนื้อวัวเกาหลี โดยเขากล่าวว่า "ด้วยผมย้อมสีทองของเธอ ลีฮโยริ ทำให้เรานึกถึงเนื้อวัวนำเข้าจากต่างชาติมากกว่า"
เขายังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวพรีเซนเตอร์ โดยหยิบประเด็นการลอกเลียนผลงานเพลง ของนักร้องสาววัย 31 ปี ว่าเป็นหนึ่งในคุณสมบัติอันไม่เหมาะสมของเธอ พร้อมอ้างว่าค่าตัว 360 ล้านวอนของนักร้องคนดังยังเป็นเรื่องแพงเกินกว่าเหตุ จนเรื่องทั้งหมดกลายเป็นประเด็นเผ็ดร้อนทั้งในหน้าสื่อ และตามชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ ของชาวกิมจิ