มารดา "เหมยเยี่ยนฟาง" (Anita Mui) พึ่งสื่อ เรียกร้องความยุติธรรมคดีมรดกลูกสาว

มารดาของ "เหมยเยี่ยนฟาง" หวังใช้สื่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ในคดีความที่เธอเป็นฝ่ายแพ้ ไม่สามารถเข้าไปดูแลจัดการกองมรดกของลูกสาวได้อย่างที่หวัง

ถันเหม่ยจิน ได้จัดการแถลงข่าวขึ้นที่โรงพยาบาลระหว่างรักษาตัวอาการป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ในคดีที่เธอยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเข้าไปดูแลจัดการกองมรดกของลูกสาว ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 8 ปีก่อน

สื่อในฮ่องกงรายงานว่าแม้จะมีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก แต่หญิงวัย 88 ปี ยังแถลงข่าวด้วยเสียงอันดัง กับเรื่องที่เจ้าตัวอ้างว่า ทรัพย์สินของเหมยเยี่ยนฟาง กำลังถูกผู้จัดการมรดกผลาญให้หมดสิ้นลง โดยเธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย

เธอยังอ้างว่าตนเองถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปดูแลการปล่อยเช่าบ้านบนเขาหลังหนึ่งของเหมยเยี่ยนฟาง ทั้งๆที่ลูกสาวได้มอบให้กับเธอแล้ว "อาเหมยบอกกับฉันด้วยตัวของเธอเองก่อนจะเสียชีวิต ว่าให้ฉันดูแลปล่อยเช่าบ้านหลังนั้น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ"

"แต่เมื่อ แอน เหมย (พี่สาวของเหมยเยี่ยนฟาง) เสียชีวิตในปี 2000 เกิดความเข้าใจผิดบางอย่างขึ้นเกี่ยวกับเรื่องการเสียภาษี จนฉันไม่ได้เซ็นเอกสารเพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ในการดูแลบ้านหลังนั้น"

นอกจากนั้น ถันเหม่ยจิน ยังอ้างว่าผู้จัดการกองทุนมรดกของลูกสาว ยังหยุดจ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนหลังจากเธอยื่นเอกสารต่อศาล เพื่อขอเข้าไปดูแลกองมรดกของลูกสาวด้วยตัวเอง จนกระทั่งศาลได้สั่งยกฟ้องไปเมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

ถันเหม่ยจิน อ้างว่าเธอกำลังประสบสภาวะทางการเงิน ไม่มีกระทั่งค่าใช้จ่ายสำหรับซ่อมรถยนต์ หรือจ่ายค่าโรงพยาบาล นอกจากนั้นมารดาของนักร้องผู้โด่งดังได้ประกาศว่า "จะขอเรียกร้องความยุติธรรมทางโทรทัศน์" เพื่อบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

คดีการฟ้องร้องระหว่างครอบครัวของ เหมยเยี่ยนฟาง และผู้จัดการมรดก เป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการบันเทิงฮ่องกงมาหลายปี จนได้ข้อยุติเมื่อในวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยศาลตัดสินยกฟ้องคำร้องของฝ่ายครอบครัวซึ่งได้แก่มารดา และพี่ชาย ที่ขอเข้าไปจัดการมรดก เพราะเป็นคำร้องที่ขัดแย้งกับพินัยกรรมที่นักร้องคนดังได้เขียนเอาไว้ก่อนเสียชีวิต

ในพินัยกรรม เหมยเยี่ยนฟาง ได้ตัดสินใจมอบสิทธิ์การดูแลกองมรดกให้กับผู้อื่น แทนที่จะเป็นครอบครัว เพราะกังวลว่าแม่ของเธอจะไม่สามารถดูแลเงินก้อนโต และใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย จนอาจทำให้เงินหมดไปอย่างรวดเร็ว และอาจต้องพบกับปัญหาในบั้นปลายของชีวิต จึงเลือกที่จะให้เงินมารดาของเธอเป็นรายเดือน ในจำนวนซึ่งมากพอที่จะทำให้ท่านใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายของมารดาจะไม่เห็นด้วยในการตัดสินใจครั้งนั้น

“ฉันไม่เชื่อว่าลูกสาวจะสามารถเขียนสิ่งที่อยู่ในพินัยกรรมนั้นได้ในช่วงเวลาที่เธอป่วย และฉันก็ต้องการให้ศาลพิจารณาให้พินัยกรรมฉบับนั้นเป็นโมฆะ เพราะผู้ที่สมควรได้รับผลประโยชน์ในสมบัตินั้นทั้งหมดควรจะเป็นฉัน” ถันเหม่ยจินแม่ของดาราสาวกล่าวระหว่างการสู้คดีเมื่อปี 2008

อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นจากคดีฟ้องร้องครั้งล่าสุด ผู้จัดการกองมรดกได้ตัดสินใจเพิ่มค่าใช้จ่ายรายเดือนของ ถันเหม่ยจิน จากเดิม 70,000 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 270,000 บาท) เป็น 120,000 เหรียญ (460,000 บาท)

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ฝ่ายของ ถันเหม่ยจิน เปรยว่าเธอคงไม่มีแผนจะยื่นเอกสารคัดค้านพินัยกรรมของลูกสาวอีกแล้ว แต่ฝ่ายของพี่ชายกลับอ้างว่าครอบครัวยังหาโอกาสที่จะใช้มาตการทางกฏหมาย เพื่อเข้าไปดูแลกองมรดกของเหมยเยี่ยนฟางต่อไป

Manager Online