"จุนโนะ (Junnosuke) คัตตุน (KAT-TUN)" พาเพื่อนศิลปินทวงคืนกระแสญี่ปุ่น เตรียมขนซีรีส์เข้าฉายเพียบ

เรียกได้ว่ากระแสเกาหลีในบ้านเราไม่ว่าจะเป็นทั้งซีรีส์หรือเพลงสามารถเข้ามาตีตลาดไทยในช่วง 5-6 ปีนี้ไปได้ จนทำกระแสญี่ปุ่นที่เคยฮิตติดลมบนต้องค่อยๆถูกกลืนจนห่างหายจากทีวีบ้านเราไป ล่าสุดมีการปลุกกระแสเจแปนฟีเวอร์ให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการแถลงข่าวเปิดตัว "เจ ซีรีส์ เฟสติวัล"อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งงานนี้ได้หนุ่ม "จุนโนะ" (Junno) จากบอยแบนด์ดัง "คัตตุน" (KAT-TUN) ควงมากับ "มิโฮ คันโนะ" (Miho Kanno) นักแสดงสาวชื่อดังมาร่วมเปิดงานครั้งนี้ด้วย
       
       การจับมือครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นในนาม International Drama Festival Executive Committee ได้มีการเตรียมนำซีรีส์ญี่ปุ่นมากมายของสถานีโทรทัศน์ยอดนิยมทั้ง NHK, NTV, TBS, Fuji TV, TV Asahi และ TV Tokyo ภายใต้การสนับสนุนของระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารประเทศญี่ปุ่น จ่อคิวออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศไทย ทั้งฟรีทีวีและดาวเทียม
       
        สมาชิกงานครั้งนี้ได้มีการพาซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของแดนปลาดิบทั้ง จุนโนะสุเกะ ทางุจิ  (Junnosuke Taguchi) หรือ จุนโนะ สมาชิกบอยแบนด์วง คัตตุน และนักแสดงสาวมากฝีมือ มิโฮ คันโนะ มาร่วมให้สัมภาษณ์พูดคุยถึงการทำงานในวงการบันเทิงญี่ปุ่นด้วย นอกจากนั้นยังมีการแสดงจากศิลปินชื่อดังทั้ง ปิโกะ (PIKO) และ โตเกียว เกิร์ลส์ สไตล์ ( Tokyo Girl's Style ) มาร่วมร้องเต้นเล่นคอนเสิร์ตให้สาวกเจแปนได้สนุกสุดเหวี่ยงกันด้วย โดยงานนี้เหล่าบรรดาแฟนบอยของสาวๆ โตเกียว เกิร์ลส์ สไตล์ ต่างพากันลุกขึ้นเต้นตามสาวๆไปอย่างพร้อมเพรียง สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีเก่ง ธชย ประทุมวรรณ มาร่วมสร้างสีสันในฐานะศิลปินจากฝั่งไทยเช่นกัน
       
       ในช่วงเปิดตัว 2 ซุปตาร์ดังทั้ง มิโฮ คันโนะ และ จุนโนะ จากคัตตุน ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์บนเวทีอย่างเป็นกันเองต่อหน้าแฟนคลับหลายร้อยคนถึงการมาเมืองไทย ซึ่งทั้งคู่ยอมรับว่ามาเมืองไทยหลายครั้งแล้ว
       
       จุนโนะ : "มาครั้งที่ 3 แล้วครับ"
       มิโฮ : "มากับครอบครัวหลายครั้งแล้วค่ะ นับไม่ถูกเลยว่ากี่ครั้ง"
       
       การมาเมืองไทยหลายครั้งทำให้ทังคู่ประทับใจเมืองไทย ซึ่งฝ่ายจุนโนะแตกต่างจากศิลปินรายอื่นที่ชื่นชอบอาหารไทยชนิดต่างๆ แต่เจ้าตัวกลับตอบอย่างภูมิใจว่าเขาชื่นชอบ"ผักชี"
       
       มิโฮ : "ที่นี่อาหารอร่อย นวดดีมาก แล้วฉันก็เคยไปเที่ยวภูเก็ตมาแล้วด้วย"
       จุนโนะ : "10 ปีที่แล้วผมเคยมามิวสิคเฟสติวัลที่พัทยา ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่เลยแต่ตอนนี้โตแล้ว และผมชอบกินผักชีมากครับ"
       
       ในส่วนของซีรีส์ที่เตรียมจะนำเข้ามาฉายในประเทศไทย ทางด้านจุนโนะ ร่วมแสดงใน Legal High ซีรีส์แนวคอมเมดีแฝงข้อคิดทางกฏหมาย ผสมผสานความรักสุดอลวนในแวดวงทนายซึ่งเขารับบทเป็นชายหนุ่มลึกลับผู้ที่เข้ามาพัวพันในคดีสำคัญ เจ้าตัวกล่าวถึงบทบาทของตนเองว่า "ในซีรีส์ที่เห็นนะครับผมรับบทเป็นสปายสายลับ มีการแต่งตัวคอสเพล เปลี่ยนลุคหลากหลาย และเป็นบทที่ต้องมีแต่ฉากกิน ได้กินแต่อาหารอร่อยๆเยอะมากเลยครับ"
       
       ทางด้านสาวมิโฮ คันโนะ พาซีรีส์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์อย่าง Ooku หรือ The Inner Place ผลงานชิ้นเยี่ยมของเธอมาให้ได้ชมกัน ซึ่งเธอจะพาทุกคนย้อนไปสัมผัสประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นในยุคโชกุน โทะกุงาวะ ซึ่งเป็นเรื่องราวเข้มข้นที่มีทั้งความโกรธแค้น ริษยา และคราบน้ำตา รวมถึงการกลั่นแกล้งกันในสังคมนางสนมชั้นสูง โดยในเรื่องนี้มิโฮ จะต้องสวมชุดกิโมโนสวยๆอยู่ตลอดเวลา เมื่อถูกถามว่าเธอใส่กิโมโนบ่อยหรือไม่ เจ้าตัวรีบตอบทันที "ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นไม่ใส่กันค่ะ ในหน้าร้อนก็จะมีการใส่ชุดยูคาตะบ้าง"
       
       ใน่ส่วนของบรรยากาศการถ่ายทำละครของทีมงานญี่ปุ่น ทั้งคู่ระบุว่าเป็นบรรยากาศแบบสบายๆ
       จุนโนะ : "สำหรับผม เป็นละครแนวคอมเมดีบรรยากาศการถ่ายทำเลยสบายๆ สนุกสนานครับ"
       มิโฮ : "ละครโอโอคุได้แสดงร่วมกับรุ่นพี่เยอะมากแต่ก็เป็นบรรยากาศที่เป็นกันเองนะคะ สบายๆ เพราะว่ารุ่นพี่แต่ละท่านใจดีมากค่ะ"
       
       ทางด้านพิธีกรของงานอย่างสาวโอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ ได้เรียกเสียงหัวเราะด้วยการกล่าวถึงกับข้าวกองถ่ายคือสิ่งที่นักแสดงไทยรอคอยทุกครั้งที่มีการถ่ายทำ จึงเกิดคำถามว่าทางฝั่งกองถ่ายญี่ปุ่นเวลาออกกองกินอะไรกันบ้าง
       จุนโนะ : "มีอาหารญี่ปุ่นอย่างหนึ่งครับที่เขาเรียกว่า ซุปกระดูกหมู กินกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยลืม"
       
       ขณะที่หนุ่มจุนโนะ กำลังตอบถึงอาหารอย่างออกรสออกชาด ทำเอาสาวมิโฮ คันโนะ ที่นั่งอยู่ข้างๆขำไม่หยุด ทำให้เธอถามกลับว่าที่กองถ่ายไทย มีข้าวอุ่นๆให้กินไหม ซึ่งคำตอบจาก 2 พิธีกรเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างมาก

       โอปอล : "มีค่ะ แต่ไม่อุ่น ทุกอย่างเผ็ดๆ"
       โบ ธนากร ชินกุล : "ที่นี่ข้าวเช้าเป็นข้าวเที่ยง และข้าวเที่ยงเป็นข้าวเย็นครับ"
       จุนโนะ : "จริงๆถ้าไปตามสตูดิโอต่างๆ ก็มีโรงอาหารทั่วไปให้กินกันครับ แต่ว่าถ้าเป็นรายการที่มีคนดูมากๆเนี่ยบางทีก็มียากินิขุหรือเนื้อย่างให้ได้กินด้วย"
       
       นอกจากนั้นทั้งคู่ยังเผยถึงวิธีการดูแลสุขภาพที่ทำให้ตนเองดูดีเวลาอยู่หน้ากล้องแม้ว่าจะงานรุมเยอะก็ตาม
       จุนโนะ : "เคล็ดลับมีอยู่ 2 ข้อครับ ก่อนจะไปถึงกองถ่ายผมจะไม่นอน เพราะหลังตื่นตาจะโรย ตื่นแล้วตื่นเลยครับ เพราะผมเป็นคนตาเล็กอยู่แล้วด้วยครับ และเวลาว่างก็จะท่องบทจะได้ไม่เป็นการรบกวนคนอื่น"
       มิโฮ : "ได้รับการแนะนำมาจากโปรดิวเซอรฺอีกที คือการฝึกโยคะ เป็นการฝึกการบาลานซ์ในตัวด้วย"
       
       เมื่อถูกถามว่าหากถูกผู้ใหญ่ในวงการโทรทัศน์ของไทยทาบทามให้มาเล่นละครไทย สนใจจะรับเล่นหรือไม่ ทั้งคู่ถึงขั้นรีบเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาไทยทันที
       จุนโนะ : "ถ้ามีคนมาติดต่อยินดีเลยครับ สนใจทันที ผมดีใจมากที่ได้เล่นละครในที่ที่มีผักชีเยอะๆ แล้วก็ขอเปลี่ยนชื่อเลยขอใช้ชื่อไทยว่า 'ผักชี จุนโนะสุเกะ' ครับ"
       มิโฮ : "งั้นฉันขอเป็น 'ผัดไทย' นะคะ"
       
       โดยก่อนจะกล่าวลาแฟนๆ ทั้งคู่ได้บอกถึงเสน่ห์ของละครญี่ปุ่นในความรู้สึกของพวกเขา ทั้งคู่กล่าวว่าเป็นการส่งผ่านและเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศ และยินดีที่ได้มีโอกามาฉายที่เมืองไทย
       จุนโนะ : "ละครอยู่คู่กับผมมาตั้งแต่เกิดเป็นสิ่งที่ผมสัมผัสมาตลอด เป็นสิ่งที่ผมอยากทำ เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในตัวผมเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นการที่นำซีรีส์ของญี่ปุ่นมาฉายในครั้งนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยจะได้รับรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านทางซีรีส์ต่างๆครับ"
       มิโฮ : "สำหรับฉันละครเป็นสิ่งที่เหนื่อยและลำบากมากนะคะแต่ก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก การที่ซีรีส์ได้มีโอกาสมาฉายและทำให้ฉันได้รับโอกาสมาอยู่ที่นี่ตรงนี้รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ และฉันจะพยายามให้มากยิ่งๆขึ้นในการทำงานที่ญี่ปุ่นค่ะ"
       
       หลังจากนั้นได้มีการแสดงของทางฝั่งประเทศญี่ปุ่นที่ส่ง ปิโกะ ศิลปินเจ-ร็อกวงชายล้วนที่มีความพิเศษตรงที่นักร้องนำเป็นนักร้องสองเสียง เพราะมีเรนจ์เสียงที่กว้างมากทำให้เขาสามารถร้องเพลงได้ทั้งเสียงผู้หญิงและเสียงผู้ชาย โดยขึ้นแสดงในเพลง ยูเมะฮานะ และ โคโตโนะฮะ
       
       จากนั้นคั่นด้วยศิลปินทางฝั่งไทยที่ส่งเก่ง ธชย ประทุมวรรณ จาก The Voice มาร้องเพลง What's My Name เพลงคัฟเวอร์ของรีฮันนาที่ใช้ในการประกวดรอบบลายด์ออดิชันของรายการ และเพลง Ain't No Sunshine ของ บิล วิทเธอร์ ที่เขานำมาคัฟเวอร์ใหม่ในสไตล์แบบฉบับของเขาเองเช่นกัน ก่อนจะส่งท้ายด้วยเพลง ทศกัณฑ์มานะ ซิงเกิลแรกของตนเอง
       
       ปิดท้ายด้วยโชว์จากสาวๆเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น โตเกียว เกิร์ลส์ สไตล์ ที่มาแสดงในเพลง ฟุตาริคิริ และ โอนาจิคิโมจิ ที่สอนท่าเต้นให้ทุกๆคนเต้นตาม ซึ่งแฟนคลับของสาวๆที่เป็นผู้ชายร่วมให้กำลังใจลุกขึ้นเต้นไปกับพวกเธออย่างสนุกสนานเลยทีเดียว
       
       นอกจากการให้สัมภาษณ์บนเวทีแล้ว ศิลปินญี่ปุ่นทุกคนยังเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกครั้ง เริ่มด้วยปิโกะ ที่กำลังมาแรงในขณะนี้

"จุนโนะ (Junnosuke) คัตตุน (KAT-TUN)" พาเพื่อนศิลปินทวงคืนกระแสญี่ปุ่น เตรียมขนซ

       โดยได้เผยถึงการมาเมืองไทยและความประทับใจที่มีต่อปะเทศไทย "พวกเราไปมาหลายที่เลยครับอย่างเช่นพัทยา เราก็เคยไปมาแล้ว และก็ได้ไปวัดด้วย เมืองไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่มากครับ"
       
       ปิโกะ กำลังมีผลงานใหม่ซึ่งเขาได้ฝากให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนเขาด้วย "ในส่วนของผลงานล่าสุดของพวกเรามีชื่อว่า ฮิโตะโคอิครับ เป็นผลงานที่พวกเราได้ร่วมกับโวคอลลอยด์ที่ชื่อฮัตสึเนะ มิคุ ด้วยครับ"
       
       ก่อนหน้านี้ทางปิโกะ ได้มีโอกาสร่วมงานกับวงเจ-ร็อกรุ่นพี่ระดับตำนานอย่าง ลาร์คอองเซียล พวกเขาได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับรุ่นพี่ที่เป็นมืออาชีพว่า "เพลง Emiiro Refrain เป็นเพลงที่แสดงถึงความรู้สึกของคนอย่างเช่นถ้าเป็นสีฟ้า ก็แสดงถึงความเศร้า ถ้าความดีใจ สนุกสนานก็ใช้เป็นสีส้มหรือสีเขียวในการแสดง"
       
       ในโลกดิจิตอลที่ทำให้ศิลปินมีการติดต่อสื่อสารกับแฟนๆได้ง่ายยิ่งขึ้น พวกเขาได้เผยว่าช่องทางติดต่อแฟนๆของพวกเขาคือทวิตเตอร์ "สำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์คก็มีทวิตเตอร์ครับ เล่นกันบ่อยมาก มีแฟนๆชาวไทยส่งภาษาญี่ปุ่นมาให้ด้วยเราก็ตอบภาษาญี่ปุ่นกลับไปเช่นกัน ก็รู้สึกดีใจมากครับ"
       
       ปฏิกิริยาอะไรของแฟนๆที่ทำให้รู้สึกมีความสุขมากที่สุด? "ตอนที่พวกเราแสดงคอนเสิร์ต และแฟนๆมีส่วนร่วมสนุกไปด้วยกัน มันทำให้เรามีความสุขมากและรู้สึกว่าอยากจะพยายามต่อไปให้มากยิ่งๆขึ้นและทำให้มันสนุกขึ้นไปอีกเรื่อยๆครับ ยิ่งแฟนๆไปฟังซีดีของเราแล้วมาร้องตามยิ่งทำให้รู้สึกมีความสุขมากครับ"

"จุนโนะ (Junnosuke) คัตตุน (KAT-TUN)" พาเพื่อนศิลปินทวงคืนกระแสญี่ปุ่น เตรียมขนซ

Tokyo Girl's Style
       
       เป็นการมาเมืองไทยครั้งหรือเปล่า?
       ทุกคน : "ใช่ค่ะ มาครั้งแรกเลยค่ะ"
       มิยู (Miyu Yamabe): "ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้คิดว่าไม่น่าจะมีคนรู้จักพวกเราแต่ก็มีคนรู้จักเราเยอะมากได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ดีใจมากเลยค่ะ อยากจะกลับมาที่นี่อีกค่ะ"
       
       ช่วยแนะนำแนวเพลงของวง?
       เมอิ : "เพลงของพวกเราออกแนวน่ารักๆ ใสๆ เป็นเพลงที่ทุกคนสามารถเต้นไปด้วยกันได้อย่างสนุกสนานค่ะ"
       
       เอกลักษณ์เฉพาะตัวและความสามารถพิเศษมีอะไรบ้าง?
       อายาโนะ (Ayano Konishi) : "เล่นเปียโนค่ะ"
       มิยู : "พูดคำว่า'ปา'ได้เร็วมากค่ะ" ( ทำเอาเพื่อนๆทั้งวงหัวเราะ ก่อนที่สาวมิยูจะสาธิตการพูด'ปา'ให้สื่อมวลชนดู
       ฮิโตมิ (Hitomi Arai) : "ทำอาหารค่ะ"
       ยูริ (Yuri Nakae) : "ว่ายน้ำ เรียนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ"
       เมอิ (Mei Shyoji) : "การเต้นค่ะ"
       
       มีการแบ่งเวลาเรียนและเวลาทำงานอย่างไร?
       ฮิโตมิ : "การเรียน การทำงานสำหรับฉันไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ เพราะว่าฉันอายุน้อยสุดก็จะให้พี่ๆในวงช่วยสอนค่ะ"
       
       กินอาหารไทยอะไรไปแล้วบ้าง และชอบอาหารอะไร?
       ฮิโตมิ : "ต้มยำกุ้ง"
       มิยู : "ยังไม่ได้กินเลยค่ะ แต่มีของที่อยากกินคือสุกี้ไทยค่ะ"

 

"จุนโนะ (Junnosuke) คัตตุน (KAT-TUN)" พาเพื่อนศิลปินทวงคืนกระแสญี่ปุ่น เตรียมขนซ

       มิโฮ คันโนะ
       
       มาเมืองไทยครั้งแรกหรือเปล่า ถ้าเคยมาแล้วมาทำอะไรบ้าง?
       มิโฮ : "ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ มาหลายครั้งแล้ว มาเที่ยวกับครอบครัว ที่ที่ชอบไปมากเลยคือ ถนนข้าวสารค่ะ เวลาที่ไปไหนโซนเอเชียก็จะแวะมาลงที่กรุงเทพฯเพื่อไปเที่ยวข้าวสาร แล้วที่สำคัญชอบแกงกะหรี่ไทยมากๆเลยค่ะ"
       
       มิโฮ คันโนะ เป็นนักแสดงที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย มีเทคนิคอย่างไรที่ทำให้เป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้?
       มิโฮ : "เคล็ดลับจริงๆแล้วไม่มีอะไรมากเลย คือเวลาทำอะไรหรือเวลาทำการแสดงคือทำให้มันเต็มที่เท่านั้นเอง"
       
       บทบาทการแสดงแบบไหนที่อยากแสดง?
       มิโฮ : "จริงๆมีประสบการณ์การทำงานค่อนข้างเยอะแล้ว ตอนนี้ก็อายุ 36 แล้วนะคะ งานที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้คืออยากลองพากษ์การ์ตูน อย่างพวกอนิเมะอะไรแบบนี้ดูค่ะ"
       
       มีวิธีการดูแลตนเองอย่างไร
       มิโฮ : "งานด้านนี้เป็นงานที่หนักมากนะคะ ก็มีบ้างค่ะเวลาที่ไม่ได้กินไม่ได้นอน แต่เมื่อต้องทำงานก็ต้องทำอย่างเต็มที่ ถ้ามีเวลาพักก็จะไปเที่ยวเพื่อนผ่อนคลายค่ะ"
       
       ฝากผลงานละครเรื่องโอโอคุให้แฟนๆไทยหน่อย
       มิโฮ : "จริงๆแล้วเรื่องนี้มีการถ่ายทำไว้ตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว แล้วนะคะ แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาฉายที่เมืองไทยก็รู้สึกดีใจมากๆเลย ขอบคุณมากค่ะ"

 

"จุนโนะ (Junnosuke) คัตตุน (KAT-TUN)" พาเพื่อนศิลปินทวงคืนกระแสญี่ปุ่น เตรียมขนซ

      จุนโนะสุเกะ ทางุจิ ( จากวง คัตตุน )
       
       รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้กลับมาเมืองไทยในรอบสิบปี?
       จุนโนะ : "ครั้งนี้ที่มีงานซีรีส์ เฟสติวัล รู้สึกดีใจมากๆ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ของคัตตุนที่มีการรวมตัวออกทัวร์ เสียดายที่ช่วงนั้นไม่ได้มาเมืองไทย ถ้ามีโอกาสก็อยากจะพาวงมาเหมือนกันครับ"
       
       ตั้งแต่รับงานแสดงมาบทบาทไหนที่รู้สึกว่าท้าทายมากที่สุด?
       จุนโนะ : "ขอพูดถึงในเรื่อง Legal High แล้วกันนะครับ บทที่ผมได้รับตอนที่ท้าทายมากที่สุด คือตอนที่ถ่ายฉากกินอาหาร คือการถ่ายทำของญี่ปุ่นจะมีการถ่ายแบ่งเป็น 3 รอบด้วยกันซึ่งมันทำให้ผมต้องกินอาหารเยอะมาก การที่เอาอาหารเข้าปากเยอะๆและกินเข้าไปเยอะๆถึง 3 ครั้งเนี่ย อันนี้แหละครับที่ผมว่าท้าทายที่สุดแล้ว"
       
       อยากให้เล่าถึงบทบาทในเรื่อง Legal High
       จุนโนะ : "ในส่วนที่ผมเล่นคือรับบทเป็นสปาย ในเรื่องต้องแต่งตัวเป็นคอสเพลต่างๆมากมายเพื่อที่จะไปเอาข้อมูล แต่ในเรื่องนี้คาแร็คเตอร์เป็นแบบสบายๆ คนดูน่าจะชอบ คือเป็นตัวดำเนินเรื่องที่สนุกสนานทำให้คนดูผ่อนคลายมากขึ้น"
       
       ฝากผลงานล่าสุด
       จุนโนะ : "ในส่วนของการแสดง วันที่ 13 เม.ย.นี้จะมี Legal High Special ออกฉาย ซึ่งผมก็รับบทเดิมครับแต่งคอสเพลแล้วก็กินแหลกลานเลยท้าทายอีกแล้ว ถ้ามาฉายที่นี่คงดีมาก ส่วนงานเพลงคัตตุนก็เพิ่งมีซิงเกิลออกวางขายเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาด้วยครับ"
       
       สมาชิกวงคัตตุนได้ฝากอะไรมาถึงแฟนคลับชาวไทยบ้าง และมีโอกาสที่จะมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยหรือไม่?
       จุนโนะ : "ตอนที่ผมมาถึงที่สนามบิน แฟนๆให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ถ้ามีโอกาสอยากจะตอบแทนแฟนๆทุกคนที่ให้กำลังใจผมครับ ถ้ามีโอกาสพวกเราอยากมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยเพื่อตอบแทนทุกคนเลยครับ"

 

 

Manager Online