คิมคิบอม (Kim Kibum) กับภาพยนตร์เรื่องแรก

คิมคิบอม (Kim Ki Bum) ได้เริ่มแสดงออกถึงความปรารถนาของเขา เหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือก Jumunjin นั้นเป็นเพราะว่าเขาอยากแสดงในบทบาทที่มีเอกลักษณ์ “วิญญาณ” ซึ่งเป็นบทบาทของคนๆ หนึ่งที่เปลี่ยนตัวเองไปเป็นวิญญาณ หลังจากที่ต้องแยกจากกับคนรักของเขา คิบอมได้อ่านบทละครอยู่หลายครั้ง “เมื่อตอนที่ผมอ่านบทของเรื่องนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่พิเศษมาก ผมก็ไม่มั่นใจนักว่าจะสามารถแสดงบทนี้ได้ดี แต่ผมก็เลือกภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะว่าผมอยากลองดูสักครั้ง เนื้อหาของเรื่องมันน่าสนใจดี นอกจากนั้นแล้วผมอยากจะลองท้าทายความสามารถตัวเองดูในการแสดงนำเป็นครั้งแรกนี้”

ในบ้านพักตากอากาศที่แยกตัวออกมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่ Jumunjin วิญญาณนี้ได้รอคอยคนรักอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เพราะเธอได้ทิ้งเขาไป ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คิบอมจะต้องไว้ผมยาวและไม่ตัดทั้งเล็บมือและเล็บเท้า เขาจะต้องใช้ชีวิตเหมือนวิญญาณจริงๆ

“แรกๆ อาจจะรู้สึกว่าบทนี้ค่อนข้างจะเป็นผู้ชายแมนๆ ปกติ แต่มีบางเวลาของเขาก็มีอารมณ์เหมือนผู้หญิง ซึ่งบทนี้ตรงกันข้ามกับจินิ เพราะว่าวิญญาณนี้เหมือนในบทประพันธ์มาก ดังนั้นผมจึงต้องหาบทประพันธ์ต่างๆ มากมายมาศึกษา ถึงแม้ว่ามันจะยากสักหน่อย แต่เวลาที่ผมแสดงแล้ว ทุกครั้งผมจะรู้สึกว่า ใช่! แบบนี้น่าจะดีมั้ง? ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ และคอยฟังเสียงผู้กำกับสั่ง “โอเค” วินาทีนั้นก็จะทำให้ผมรู้สึกดีๆ”

ถึงแม้ว่าคิบอมจะไม่เคยมีความทรงจำในเรื่องของความรักในชีวิตจริงเหมือนที่วิญญาณนั้นเป็น แต่ว่าเขาได้พยายามอย่างมาก เพื่อที่จะแสดงออกถึงความรักที่วิญญาณนั้นมี คิบอมได้อ่านบทภาพยนตร์กับ Hwang Bora ทั้งคืนและมีการศึกษาและพูดคุยกับผู้กำกับอีกด้วย ทุกๆ ครั้งที่มีความคิดว่าอยากเลิก คิบอมก็มักจะตัดสินใจใหม่ว่า “ผมจะต้องเข้มแข็งกว่านี้” ดังนั้นเขาจึงต้องทรมานบ้าง และเมื่อเขากลับมาที่โซลความทรมานนั้นก็ยังมีอยู่บ้าง แต่เขากลับคิดเสมอว่า Jumunjin คือความสุขของเขา

“ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่ๆ ของผม หลังจากที่ผมได้แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ทำให้ผมได้ตระหนักถึงข้อดีและข้อเสียในตัวผมเอง จริงๆ แล้วในบทนั้นผมแทบจะไม่ค่อยได้พูด มีเพียงแต่ร้องไห้ส่วนใหญ่ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากจะไปแสดงในบทที่ขี้กังวล รุนแรง และอยากจะหาเรื่องใครสักคน” หลังจากที่เสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Jumunjin นี้แล้ว เขาก็ได้รับบทในเรื่อง A Middle Nap ของผู้กำกับ Heo Jin Ho

“มันน่าจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผม” คิมคิบอมเป็นคนที่ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดที่คนอื่นพูดนัก ถ้าเขาอยากจะทำอะไรล่ะก็ เขาจะพยายามทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม และผลตอบแทนที่เขาได้พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดนี้ ช่วงเวลาที่เขาจะมีความสามารถที่ดีที่สุดก็คงจะไม่ไกลเกินเอื้อม