Pace Wu (C)

โอละพ่อ!! หรือเป็น สงไต้หลิน (Lynn Xiong) ที่สวมเขาให้ กัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok)

Submitted by canjamm on 24 เมษายน, 2013 - 18:25

      หลังฝ่ายชาย และดาราสาวที่โดนกล่าวหาเป็นมือที่สามโดนสังคมเพ่งเล็งอยู่พักใหญ่ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเริ่มมีกระแสข่าวสงสัยออกมาว่าที่ความสัมพันธ์ของ “กัวฟู่เฉิง” (Aaron Kwok / 郭富城) กับ “สงไต้หลิน” (Lynn Xiong / 熊黛林) ต้องจบลงอย่างกะทันหันนั้นเป็นเพราะฝ่ายหญิงต่างหากที่มีพฤติกรรมนอกใจ
       
       เรื่องราวพลิกผันอีกแล้ว สำหรับรักสามเส้าของนักแสดงชื่อดังจากวงการบันเทิงจีน ที่ก่อนหน้านี้มีเสียงลือว่า กัวฟู่เฉิง และ เกาหยวนฮุ่ย (Christine Kuo / 苟芸慧) ได้แอบคบหาจนทำให้ความรัก 7 ปีของเขากับ สงไต้หลิน ถึงจุดสิ้นสุดแบบไม่มีใครคาดคิด แต่ล่าสุดกลับมีข่าวออกมาว่าเป็นฝ่าย สงไต้หลิน เองนั่นแหละ ที่นอกจากจะเป็นแฟนกับ กัวฟู่เฉิง อยู่แล้ว ก็ยังมีความสัมพันธ์ลับๆ กับนักธุรกิจมหาเศรษฐีรายหนึ่งอยู่ด้วย
       
       แหล่งข่าวของสื่อในฮ่องกงอ้างว่า สงไต้หลิน ที่หลายคนกำลังสงสารกันอยู่ แท้จริงแล้วเดินแผนสูง ด้วยการชิงประกาศแยกทางกับ กัวฟู่เฉิง ก่อน เพื่อให้ตัวเองพ้นจากข้อกล่าวหา “นอกใจ” และยังทำตัวเป็น "เหยื่อ" ที่น่าเห็นอกเห็นใจในปัญหารักสามเส้าที่เกิดขึ้น แต่แท้จริงแล้วรักร้าวที่เกิดขึ้นกลับมีสาเหตุมาจากเธอ
       
       ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าตั้งแต่คบหากับ กัวฟู่เฉิง หรือมีตำแหน่งเป็น แฟนสาวของดาราหนุ่มหนึ่งใน 4 จัตุรัสเทพแห่งฮ่องกงมาได้ 7 ปี สงไต้หลิน ก็สามารถอัปชื่อเสียงให้มาอยู่แถวหน้าเป็นนางแบบชั้นนำของวงการได้ นอกจากนั้นก็ยังก้าวหน้าในอาชีพนักแสดง มีผลงานเป็นที่จดจำโดยเฉพาะหนัง ยิปมัน ฉบับที่ เจินจื่อตัน (Donnie Yen) แสดงทั้งสองภาค
       

กงลี่ (Gong Li) ร่วมโปรโมทเพชรหรู ทิฟฟานี ที่ปักกิ่ง

Submitted by canjamm on 25 ตุลาคม, 2010 - 15:16

เอเยนซี - ทิฟฟานี แบรนด์ออกแบบและผู้ค้าเพชรชั้นนำ เปิดแสดงคอลเลคชั่นใหม่ 2010/2011 ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีบรรดาดาราภาพยนตร์รับเชิญไปร่วมงานนี้ สร้างความโดดเด่นของกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก

การพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศจีนในรอบระยะเวลา 30 ที่ผ่านมา ทําให้รายได้โดยเฉลี่ยของประชากรจีนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลโดยตรงต่อปริมาณความต้องการในการบริโภคสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผลสำรวจพบว่า สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยลําดับ 3 รองลงมาจากบ้านและรถยนต์

รายงานสำรวจของ China Gem and Jewelry Market Overview พบว่าจีนซึ่งเพิ่งจะเปิดตลาดการค้าอัญมณีได้เพียง 20 ปี มีมูลค่าอุตสาหกรรมฯ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 100 ล้านหยวน เมื่อแรกเริ่ม มาเป็น 100,000 ล้านหยวน เป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการร่วมทุนเป็นฐานผลิตให้กับฮ่องกง อาศัยความได้เปรียบอันเป็นผลมาจากแรงงานราคาถูก และการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก

Manager Online

ทีมงานหนังขู่ปล่อยภาพนู้ด "อู๋เพ่ยฉือ" (Pace Wu) หลังโดนเบี้ยวค่าจ้าง

Submitted by canjamm on 25 ตุลาคม, 2010 - 15:00

ทีมงานจากภาพยนตร์เรื่อง "Lost In Panic Room" ตัดสินใจเล่นไม้แข็งหลังได้รับค่าจ้างล่าช้ากว่ากำหนด ด้วยการขู่ผู้สร้างว่า หากยังไม่มีการจ่ายเงินให้ครบตามสัญญาภายใน 1 สัปดาห์ แนววาบหวิวของนางเอกสาว "อู๋เพ่ยฉือ" (Pace Wu / 吳佩慈) จากหนังเรื่องดังกล่าว จะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชน

ชายที่ไม่ประสงค์จะออกนามแต่อ้างว่าตนเองเป็น 'ผู้ช่วยช่างแสง' ของภาพยนตร์จีนเรื่อง Lost In Panic Room ได้ประกาศในเว็บไซต์ Sina Weibo ของตนเองว่า กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวติดค้างเงินค่าจ้างของเขาอยู่ถึง 10,000 หยวน (ประมาณ 44,900 บาท) ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเงินก้อนดังกล่าวคิดเป็นครึ่งหนึ่ง ของค่าจ้างทั้งหมดในการทำงานให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้เลย

หลังจากไม่ได้รับเงินอย่างครบถ้วนตามสัญญา ทีมงานภาพยนตร์คนนี้จึงขู่ว่า เขาจะอัพโหลดภาพจากฉากร่วมรักของ อู๋เพ่ยฉือ นักแสดงสาวคนดังที่รับบทเด่นในเรื่อง กับนักร้องนักแสดงหนุ่ม หยวนเฉิงเจี๋ยว (Yuan Chengjie / 袁成杰) ซึ่งเป็นฉากที่ไม่ได้ใช้ในหนังฉบับสมบูรณ์

ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 ต.ค.) หนุ่มคนดังกล่าวได้โพสต์ภาพตัวอย่าง 5 ภาพ ในฉากที่นักแสดงทั้งสอง จูบและกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียง นอกจากนั้นยังมีภาพที่ฝ่ายหญิง พยายามจะถอดเสื้อตัวบนของฝ่ายชายออกด้วย ซึ่งทีมงานภาพยนตร์คนนี้ยังยืนยันว่า นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เพราะของจริงจะประกอบไปด้วยภาพนู้ดของ อู๋เพ่ยฉือ และหยวนเฉิงเจี๋ยว ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน

โดยเขาให้เวลาผู้สร้างภาพยนตร์ ในการชำระเงินค่าจ้างให้ครบ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

หลังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Lost In Panic Room ได้ออกมาปฏิเสธ พร้อมอธิบายเรื่องทั้งหมด โดยอ้างว่าบริษัทได้จ่ายเงินแก่บริษัท ที่รับทำงานด้านโปรดักชั่นในหนังไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งหาก 'ผู้ช่วยช่างแสง' คนนี้ยังไม่ได้รับเงินครบถ้วน บริษัทก็พร้อมจะช่วยเหลือจัดการเป็นธุระ ในการพูดคุยเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้

อย่างไรก็ตามยังมีข้อสงสัยจากชาวเน็ตจีนจำนวนหนึ่งว่า ข่าวทั้งหมดอาจเป็นเพียงการจัดฉาก เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ของผู้สร้างก็เป็นไปได้

Tomato Network / Manager Online

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) ไม่เคยคิดที่ออกจากวงการ

Submitted by canjamm on 10 กรกฎาคม, 2009 - 19:14

คืนวันก่อน เอเรียล หลิน (Ariel Lin) เข้าร่วมงานแสดงอัญมณีของสวารอฟสกี้ (Swarovski) พร้อมกับ อู๋เพ่ยฉือ (Pace Wu) ซึ่งอู๋เพ่ยฉือเปิดเผยว่า เธอจะออกจากวงการหลังจากผ่านไปอีก 2 ปี ทางด้านเอเรียล เมื่อเธอถูกถามว่าเธอมีแผนจะออกจากวงการหรือไม่ เธอตอบว่า "ฉันไม่เคยต้องการจะออกจากวงการ แม้ว่าฉันจะอายุมากขึ้น ฉันยังคงถ่ายละครได้ปีละหนึ่งเรื่อง" เมื่อไม่นานนี้ เธอออกอัลบั้มใหม่ของเธอที่มีชื่อว่า Meeting Happiness และเธอแสดงให้เห็นว่าเธอตื่นเต้นมาก ทางด้านโจเฉิง (Joe Cheng) และ Figaro Ceng ออกมาให้กำลังใจเธอด้วย

MingPao

ตะลึง!! จ้าวหยาจือ (Angie Chiu) “เปลือยการกุศล” ต้านมะเร็งเต้านม

Submitted by canjamm on 27 กันยายน, 2007 - 22:42

ซินหัวเน็ต - ดาราสาวจีนตบเท้าถ่ายแบบการกุศล ร่วมกับโครงการ “ริบบิ้นสีชมพู (Pink Ribbon)” เพื่อกิจกรรมต้านมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ปี แล้ว โดยครั้งที่ผ่านมาได้ดาราสาวอย่าง จงลี่ถี, อูจวินเหมย, หลี่ปิงปิง มาเป็นนางแบบ

ส่วนในปีนี้ได้ 3 ดาราสาว อาทิ เจ้าหยาจือ (Angie Chiu), อู๋เพ่ยฉือ (Pace Wu), หลี่เสี่ยวหรั่น (Li Xiaoran) ร่วมถ่ายแบบกับโครงการริบบิ้นสีชมพู 2007 และเมื่อนิตยสาร ดังกล่าวออกมา สิ่งที่ทำให้คนฮือฮานั่นคือ เจ้าหยาจือ วัย 53 ปี ฉายา“สาวพันปี” ใจกล้าลงปกเป็นพรีเซนเตอร์ในครั้งนี้ด้วย

เจ้าหยาจือได้เผยความในใจว่า การถ่ายแบบลงปกครั้งนี้ ฉันต้องต่อสู้กับความขัดแย้งในใจหลายตลบ ดังนั้นจึงเห็นว่า แม้เธอจะตัดสินใจลงปก แต่ก็ยังไม่เปลือยเต็มที่เท่ากับอีก 2 สาวที่ร่วมถ่าย โดยเธอได้บอกว่าตัวเองไม่ใช่สาวเปรี้ยว ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ และคนรอบข้างจะชมว่าเธอนั้นมีรูปร่างดี “แต่ฉันก็เป็นคนที่ไม่กล้าสวมรองเท้าแตะ หรือใส่เสื้อสายเดี่ยวเดินบนท้องถนน ความงามของคนเราไม่จำเป็นจะต้องเปิดเผย คนอื่นจะคิดหรือพูดอย่างไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ” ทั้งนี้ในบทความเรื่อง “ผู้หญิงเพียบพร้อมกับการถนอมความงามทรวงอก” เจ้าหยาจือยังบอกอีกว่า “ฉันไม่ได้ถ่ายแบบให้นิตยสารมานานแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยใจกล้าเท่านี้มาก่อน แต่เพราะโครงการ “ริบบิ้นสีชมพู” นี้ มีความหมายมาก เมื่อคิดดีแล้ว จึงอยากจะทำอะไร เพื่อผู้หญิงอีกหลายๆคน”

นอกจากนี้เธอยังได้แบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องลับของสุขภาพสตรี อย่างเป็นกันเองและเปิดเผยว่า “ฉันเคยเป็นแม่ให้กับลูก 3 คน แต่รู้สึกเสียดาย ที่ในยุคนั้นไม่เหมือนยุคนี้ที่นิยมการคลอดแบบธรรมชาติและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ถึงแม้ว่าฉันจะมีประสบการณ์ในการคลอดลูก ผ่านช่วงที่เต้านมขยายและยุบตัว แต่ก็ไม่มีโอกาสสัมผัสความสุขในการเลี้ยงลูกแบบนั้นอีกแล้ว ฉันจึงอยากแนะนำว่า ผู้หญิงทุกคนเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ควรหาแพทย์ประจำตัวไว้สักคน ซึ่งโดยส่วนตัวตั้งแต่อายุ 30 เป็นต้นมา ฉันจะตรวจอัลตราซาวน์ทุกปี”