ข่าวญี่ปุ่น

      เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของการ์ตูนดังระดับตำนานของญี่ปุ่น ได้เผยแพร่ตัวอย่างความยาว 92 วินาทีของ ภาพยนตร์เรื่องยาวประจำปี 2013 ที่ใช้ชื่อว่า Eiga Doraemon: Nobita no Himitsu Dōgu Museum ให้ชมกันเป็นครั้งแรกแล้ว

       เมื่อวันศุกร์ที่แล้วมีการเผยแพร่ตัวอย่างของ โดราเอมอน ฉบับภาพยนตร์ตอนล่าสุดประจำปี 2013 ที่มีชื่อว่า Eiga Doraemon: Nobita no Himitsu Dōgu Museum หรือ Doraemon the Movie: Nobita's Secret Gadget Museum ที่คราวนี้โดราเอมอน และผองเพื่อนจะพาคนดูไปพบกับ "พิพิธภัณฑ์ของวิเศษ" กัน
       
       สำหรับเรื่องราวของหนังภาคนี้จะว่าด้วยเหตุการณ์ที่ โดราเอมอน โดนคนลึกลับขโมยกระดิ่งที่คอไป จนโนบิตะและเพื่อนๆ ต้องช่วยกันตามรอยคนร้ายปริศนา เพื่อทวงคืนกระดิ่ง จนเดินทางกันไปถึงสถานที่ลึกลับซึ่งเรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์ของวิเศษ

［のび太のひみつ道具博物館］予告編 第１弾
 

Manager Online

       เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา "เอริกะ ซาวาจิริ" (Erika Sawajiri) ได้กลับมาปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งปี เพื่อร่วมงานแถลงข่าวหนังเรื่อง Helter Skelter งานแสดงล่าสุดของเธอ
       
       เอริกะ ซาวาจิริ ที่ก่อนหน้านี้พักงานไปช่วงใหญ่ๆอีกครั้ง ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานแถลงข่าวหนังเรื่อง Helter Skelter เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยดาราวัย 26 ปี มาในโฉมใหม่ ตัดผมสั้น และย้อมผมทอง "ฉันรู้สึกประหม่ามากค่ะ ขอบคุณทุกๆคนที่มากันในวันนี้ เพราะนี่คือหนังเรื่องแรกในรอบ 5 ปีที่ฉันได้แสดงนำ เลยมีความสุขมากที่ได้มายืนที่นี่ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ"
       
       Helter Skelter ผลงานของผู้กำกับหญิง นินางาวะ มิกะ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดังของ โอกาซากิ เคียวโกะ เล่าเรื่องของ ริริโกะ (รับบทโดย ซาวาจิริ) หญิงสาวที่ผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมตั้งแต่หัวจรดเท้า จนได้มีโอกาสเข้าวงการบันเทิง แต่เมื่อประสบความสำเร็จโด่งดังขึ้นมาแล้ว ร่างกายของเธอกลับเริ่มแสดงผลกระทบจากการทำศัลยกรรม และก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมาย โดยหนังได้เข้าโรงฉายทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Manager Online

       ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับการกลับมาของ "ตำรวจอวกาศเกียบัน" (Space Sheriff Gavan / 宇宙刑事ギャバン)ในฉบับภาพยนตร์ที่มีกำหนดฉายในประเทศญี่ปุ่น เดือน ต.ค. นี้
       
       Toei ได้ส่งภาพแรกจากหนัง ตำรวจอวกาศเกียบัน หรือ Uchuu Keiji Gavan The Movie มาให้แฟนๆได้ชมกันแล้ว โดยนักแสดงหนุ่ม ยูมะ อิชิงากิ (Yuma Ishigaki) จากเรื่อง Gokusen, Hana Kimi, Azumi จะสวมบทบาทเป็น เกคิ จูมอนจิ หรือ เกียบัน คนใหม่ ที่จะถือเป็นการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งของซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ หลังจากซีรีส์ต้นฉบับฉายไปเมื่อ 29 ปีก่อน
       
       หนังยังจะมี นางาโอกะ ทาคุยะ (Nagaoka Takuya) สวมบทบาทเป็นเพื่อนคู่หูของ จูมอนจิ ส่วน ซูสุกะ โมริตะ (Suzuka Morita) จาก Samurai Sentai Shinkenger รับบทเป็น เชอร์รี นางเอกของเรื่อง
       
       การกลับมาอย่างเต็มรูปแบบของตัวละครจากซีรีส์ "เมทัลฮีโร" ของ Toei เกิดขึ้นได้หลังจากก่อนหน้านี้ เกียบัน ได้มีโอกาสคืนจอในหนัง Kaizoku Sentai Gokaiger vs Uchuu Keiji Gavan เมื่อต้นปี และประสบความสำเร็จถูกใจแฟนๆ ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก สำหรับเรื่องเนื้อหานั้นมีรายงานว่า เกคิ จูมอนจิ จะได้รับสืบทอดพลังมาจากอิจิโจจิ เร็ตสึ (เคนจิ โอบะ) หรือเกียบันคนแรก พร้อมทำหน้าที่ต่อสู้กับเหล่าร้ายแทนต่อไป
       

       ตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับเต็มของ Himitsu no Akko-chan (ひみつのアッコちゃん) ที่ดาราสาวสวยขวัญใจหนุ่มๆ "อายาเสะ ฮารุกะ" (Ayase Haruka) ได้มีโอกาสสวมบทบาทเป็นตัวละครแม่มดน้อย จากการ์ตูนคลาสสิกของญี่ปุ่น ได้ถูกเผยแพร่ให้แฟนๆได้ชมกันเป็นครั้งแรกแล้ว

       Himitsu no Akko-chan ฉบับภาพยนตร์นี้ จะเล่าเรื่องของ คางามิ อัตสึโกะ หรือ "อั๊กโกะจัง" เด็กสาววัย 10 ขวบ ที่กลายเป็นสาววัย 22 ปี (อายาเสะ ฮารุกะ) หลังได้รับกระจกวิเศษ ที่ยังช่วยให้เธอสามารถแปลงร่างในรูปแบบต่างๆได้ด้วย งานนี้ อั๊กโกะจัง ตัดสินใจใช้กระจกวิเศษนี้ ช่วยเหลือชายหนุ่มที่เป็นรักแรกของเธอ (โอคาดะ มาซากิ / Okada Masaki) ที่เป็นพนักงานมนุษย์เงินเดือน ของบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาบางอย่าง
       
       โดยทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ได้เผยแพร่ตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับเต็มของหนังที่สร้างจากการ์ตูนสุดคลาสสิกของ อาคัตสึกะ ฟูจิโอะ ให้แฟนๆได้ชมกันเป็นครั้งแรก กับเรื่องราวว่าด้วยเวทมนต์แปลงกาย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ดาราสาว อายาเสะ ฮารุกะ ได้โชว์เสน่ห์กับเสื้อผ้าแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดตำรวจหญิง, สิงห์มอเตอร์ไซค์, ชุดแต่งงาน และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะทำให้แฟนๆ ของการ์ตูนต้นฉบับพึงพอใจกับความน่ารัก, สนุกสนาน ของหนัง กับเรื่องราวแนวโรแมนติกคอมเมอดี้ที่ทำให้ผู้ชมทุกคนอมยิ้มได้
       
       สำหรับฉบับการ์ตูน Himitsu no Akko-chan เป็นงานคลาสสิกที่มีอายุเก่าแก่ถึง 50 ปี และที่ผ่านมาเคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะมาแล้วหลายครั้ง กับเรื่องราวของ อั๊กโกะจัง เด็กประถมขี้แยแต่รักในความยุติธรรม ที่ใช้กระจกวิเศษแปลงกายเป็นอะไรก็ได้
       

       สาว "โคจิมะ ฮารูนะ" (Kojima Haruna) แห่ง AKB48 ได้ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผลงานการแสดงเรื่องใหม่ของเธอ ในซีรีส์แนวแม่มดน้อยเรื่อง Megu-tan tte Mahou Tsukaeruno? (メグたんって魔法つかえるの) ที่จะฉายทางสถานีโทรทัศน์ NTV ในช่วงเวลาดึก งานนี้มีการเปิดเผยว่าจะมีฉาก กระโปรงเปิดโชว์กางเกงในของไอดอลสาวคนสวยด้วย
       
       ในซีรีส์เรื่อง Megu-tan tte Mahou Tsukaeruno? นี้ โคจิมะ ฮารูนะ แห่ง AKB48 จะสวมบทบาทเป็นแม่มดสาว เมกุ ที่ถูกมองว่าเป็นเด็กสมองทึบ เป็นนักเรียนยอดแย่ของโรงเรียนเวทมนต์ เธอจึงต้องทำการฝึกพิเศษ ด้วยการไปเรียนรู้ที่โลกมนุษย์ แต่งานนี้ยังมีกฎเหล็กว่า เมกุ ห้ามเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้ใครรู้เด็ดขาด หากทำไม่ได้เธอก็จะไม่ได้กลับมาโลกของตัวเองอีก
       
       ถือว่าเป็นเวลาถึง 4 ปีแล้วที่ โคจิมะ ฮารูนะ วัย 24 ปี จะได้กลับมารับงานแสดงในงานทางโทรทัศน์อีกครั้ง ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย และยิ่งกดดันขึ้นไปอีกเพราะคราวนี้เธอจะได้รับบทเป็นดารานำของเรื่องด้วย ซึ่งตัวเองก็มีอะไรคล้ายๆกับตัวละครที่ต้องแสดงอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะที่มักจะถูกคนรอบๆ ตัวมองว่าเป็นพวกหัวทึบ ซึ่ง โคจิฮารุ ก็ยืนยันว่า "จริงๆ แล้วฉันไม่ได้เป็นคนหัวทึบแบบนั้นหรอกค่ะ ซึ่งนี่ก็น่าจะทำให้ฉันสามารถถ่ายทอดบทนี้ออกมาได้ถูกต้องด้วย"
       
       ยังมีการเปิดเผยว่าในซีรีส์จะมีหลายตอนที่ โคจิมะ ต้องโชว์กางเกงใน เพื่อทำการลบความทรงจำของคนอื่น โดย อาคิโมโตะ ยาสึชิ โปรดิวเซอร์ของ AKB48 ยังได้ถามย้ำว่าเธอจะแสดงฉากแบบนี้ได้รึเปล่า ซึ่งไอดอลสาวก็ยืนยันว่าได้ "ฉันไม่ได้ตกใจอะไรมากกับฉากแบบนี้ เลยบอกเขาไปว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าถ่ายทำออกมาแล้วไม่น่าเกลียดก็พอ"
       

"ซาโตะ ทาเครุ" (Sato Takeru) ผู้รับบทนำของหนัง Rurouni Kenshin และนักแสดงคนอื่นๆ ในหนัง ได้ร่วมกันเดินพรมแดงเปิดตัวผลงานแนวซามูไร ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิต ที่มีแฟนๆ รอคอยชมกันมากมาย ในรอบการฉายปฐมทัศน์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา

       ทาเคอิ เอมิ (Takei Emi), อาโออิ ยู (Aoi Yuu), เองูจิ โยสุเกะ (Eguchi Yosuke), คิคคาว่า โคจิ (Kikkawa Kouji), อาโอกิ มุเนะทากะ (Aoki Munetaka), ทานากะ ทาเคโตะ (Tanaka Taketo) และ ซาโตะ ทาเครุ ได้ร่วมเดินพรมแดงเพื่อเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Rurouni Kenshin หรือ "ซามูไรพเนจร" ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดังของ วาสึกิ โนบุฮิโระ เล่าเรื่องราวของยอดนักดาบในสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองของญี่ปุ่น เป็นงานที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Shounen Jump Weekly ระหว่างปี 1994 - 1999 ส่วนฉบับรวมเล่มก็ทำขายได้ถึง 50 ล้านเล่มแล้ว
       
       โดยเรื่องราวในหนังจะครอบคลุมอยู่ในช่วงแรกๆของการ์ตูน ซึ่งยอดนักดาบผู้เก่งกาจแห่งยุคเมจิ พยายามปลีกตัวใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ศัตรูเก่าๆ และความวุ่นวายที่หลงเหลือมาจากยุคสมัยแห่งการต่อสู้ ก็ยังคงตามกลับมาหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ
       
       นักแสดงหนุ่ม ซาโตะ ทาเครุ ผู้สวมบทบาทเป็น ฮิมูระ เคนชิน หรือ ฮิมูระ บัตโตไซ ตัวเอกของเรื่อง กล่าวว่าเขาเองก็ชื่นชอบตัวละครที่ตนต้องรับบทครั้งนี้มาก และพยายามจะแสดงเป็น "เคนชิน" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนดาราสาว ทาเคอิ เอมิ ที่แสดงเป็น "คาโอรุ" นักดาบสาวที่พยายามรักษาสำนักของบิดาเอาไว้ ก็บอกว่าเธอเองก็คิดว่า เคนชิน เท่ดี และส่วนตัวก็สนุกกับการแสดงเป็น คาโอรุ ผู้สดใส, บริสุทธิ์ และเถรตรง มากเช่นเดียวกัน
       

แถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ “คาเมน ไรเดอร์ วิซาร์ด” (Kamen Rider Wizard) ไอ้มดแดงหมายเลข 14 แห่ง มดแดงยุคใหม่ที่เรียกกันว่า “เฮเซ คาเมนไรเดอร์” (14th Heisei Kamen Rider series.) ที่นักแสดง, ผู้สร้าง ได้ร่วมเปิดตัว “มดแดงพ่อมด” ตัวนี้ พร้อมเผยถึงเนื้อหาเรื่องราวของซีรีส์ที่มีกำหนดจะเริ่มต้นแพร่ภาพภายใน เดือน ก.ย.นี้

       หลังจากเป็นข่าวลืออยู่นาน ล่าสุด มีการยืนยันแล้วว่า มดแดงภาคใหม่จะมีชื่อว่า คาเมน ไรเดอร์ วิซาร์ด เป็นภาคที่ว่าด้วยเรื่องราวของพลังเวทมนต์คาถา และแหวนวิเศษ ในการต่อสู้กับศัตรูผู้ชั่วร้าย ด้วยพลัง 4 อย่าง อันได้แก่ ไฟ (สีแดง), น้ำ (สีน้ำเงิน), พายุ (เขียว) และแผ่นดิน (เหลือง)
       
       Kamen Rider Wizard จะมีผู้กำกับ โชจิโร นากาซาวา เจ้าของผลงานแนวฮีโรมากมาย (Magiranger, Gekiranger, Shinkenger, Gokaiger) มาดูแลการถ่ายทำ ส่วน คิโด ซึโยชิ เป็นผู้เขียนบท และ โทอากากิ อัตซึโนมิยะ รับหน้าที่อำนวยการสร้าง
       
       สำหรับผู้ที่ได้รับบทนำเป็นมดแดงคนล่าสุด คือ ชุนยะ ชิราอิชิ (Shunya Shiraishi) ที่เคยมีผลงานการแสดงในหนังเรื่อง GANTZ ที่จะได้สวมบทบาทเป็น โซมะ ฮารุโตะ (Souma Haruto) หรือ ไรเดอร์ วิซาร์ด ส่วนบทนางเอกเป็นของ โอคุนากะ มาโคโตะ (Okunaka Makoto) สมาชิกวงไอดอล PASSPO ที่จะสวมบทบาทเป็น “โคโยมิ” (Koyomi) หญิงสาวผู้ลึกลับ
       
       โดยซีรีส์มีกำหนดจะแพร่ภาพในวันที่ 2 ก.ย. หลังซีรีส์ไรเดอร์หมายเลข 13 Kamen Rider Fourze จบลงก่อน
       

       สาวๆ Wonder Girls พร้อมแล้วกับการเปิดตัวในวงการเพลงญี่ปุ่น ด้วยเพลงฮิต Nobody กับอัลบั้มเพลงภาษาญี่ปุ่นชุดแรกของพวกเธอ Nobody for Everybody โดยงานนี้ต้นสังกัดได้ส่งภาพคอนเซ็ปแฟชั่นสำหรับงานเพลงชุดนี้มายั่วน้ำลายแฟนๆแล้ว
       
       JYP Entertainment ได้ปล่อยภาพชุดแรกของสาวๆ Wonder Girls สำหรับงานเพลงชุด Nobody for Everybody ให้แฟนๆได้ชมกันเป็นครั้งแรกผ่านทาง Twitter อย่างเป็นทางการของวง ที่งานนี้ 5 สาวมาพร้อมเสื้อผ้าสีสันสดใสในแบบที่แตกต่างจากแฟชั่นย้อนยุคของเพลง Nobody ที่แฟนๆคุ้นเคยกัน
       
       โดย Nobody for Everybody มีกำหนดวางแผน 25 ก.ค. โดยจะมีให้เลือกถึง 3 แบบทั้ง ในเวอร์ชั่นธรรมดา และ Limited Edition สำหรับแฟนๆ ที่ต้องการเก็บสะสมโดยเฉพาะ
     

Manager Online

       เสร็จสิ้นกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการมอบรางวัล MTV VIDEO MUSIC AWARD JAPAN หรือ VMAJ ที่ในปีนี้จัดขึ้นที่ Makuhari Messe ใน จิบะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 มิ.ย. ที่กลุ่มศิลปิน EXILE สามารถคว้ารางวัลใหญ่อย่าง วิดีโอยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองได้ ส่วนศิลปินจากแดนกิมจิก็คว้ารางวัลสำคัญไปได้หลายสาขา
       
       ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ EXILE สามารถคว้ารางวัลวิดีโอแห่งปีจากเวที MTV VIDEO MUSIC AWARD JAPAN ไปได้ กับเพลง Rising Sun ในการมอบรางวัลประจำปี 2012 ซึ่งนักร้องนำของวงอย่าง อัตสึชิ ได้กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของแฟนๆ ที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินในเส้นทางสายดนตรีมาเป็น 10 ปี และจะขออยู่สร้างสรรค์ผลงานเพื่อสร้างความบันเทิง และมอบกำลังใจให้กับแฟนๆต่อไป
       
       ในการมอบรางวัล VMAJ ปีนี้ยังมีศิลปินจากเกาหลีใต้หลายรายที่คว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ อาทิ Girls’ Generation กับอัลบั้มชื่อเดียวกับวง ที่ทำยอดขายถึง 1 ล้านแผ่นในญี่ปุ่นจนคว้ารางวัลอัลบั้มแห่งปีไปครอง เอาชนะศิลปินนานาชาติได้ทั้ง Coldplay, Lady Gaga, Juju และเพื่อนร่วมชาติเกาหลีของพวกเธออย่าง KARA
       
       ส่วน 2NE1 ได้รางวัลมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินหน้าใหม่, 6 หนุ่ม 2PM คว้ารางวัลวิดีโอของศิลปินประเภทกลุ่ม และสาวๆ After School ยังคว้ารางวัลจากการร่วมงานกับ นามิเอะ อามูโระ (Namie Amuro) ในวิดีโอเพลง Make It Happen ด้วย
       

      สาวๆ Girls' Generation (SNSD) หรือที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อ "Shoujo Jidai" กลายเป็นกลุ่มศิลปินสาวที่ชาวแดนปลาดิบคิดว่ามีลีลาการแสดงบนเวทีดูดีที่สุด ในการทำโพลของ Rekochoku
       
       9 สาวเคป๊อปจากเกาหลีใต้ Shoujo Jidai คือกลุ่มศิลปินหญิงล้วนที่ทางชาวญี่ปุ่นลงความเห็นว่ามีลีลาการเต้นน่าประทับใจที่สุดจากการทำสำรวจของ Rekochoku
       
       หนึ่งในผู้ร่วมทำโพลอย่างสาววัย 20 เศษคนหนึ่งที่บอกว่าการแสดงของ SNSD นั้นมีทั้งการเล่นหูเล่นตา, ขยับแขนขา และท่าเต้นน่ารักที่เน้นการโชว์ขาสวย  ของสาวๆ ได้อย่างลงตัว ขณะที่แฟนคลับอีกคนก็บอกว่า การเต้นอันพร้อมเพรียงผสมผสานกันของสมาชิกทั้ง 9 คน คือสิ่งที่น่าประทับใจพอๆกับรูปร่างอันสวยงามของพวกเธอ การแสดงของ SNSD จึงออกมายอดเยี่ยมมาก
       
       สำหรับอันดับที่ 2 ของเป็นเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติญี่ปุ่น E-Girls ที่เป็นการรวมวงของเกิร์ลกรุ๊ป 3 กลุ่มอันได้แก่ Dream, Happiness และ FLOWER โดยผู้ร่วมโหวตคนหนึ่งบอกว่าการแสดงของสาวๆ กลุ่มนี้ดูมีพลังดี เมื่อร่วมกับเสียงร้องที่ดีอยู่แล้ว ก็ทำให้พวกเธอสามารถนำเสนอภาพสาวแกร่งได้อย่างเต็มที่
       
       และกลุ่มศิลปินที่ชาวญี่ปุ่นโหวตให้เป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีลีลาการเต้นยอดเยี่ยมที่สุดเป็นอันดับ 3 ได้แก่ Perfume ที่โด่งดังกับการมีท่าเต้นซึ่งทั้ง น่ารัก, สลับซับซ้อน และไม่เหมือนใคร
       

       อดีต Morning Musume "นากาซาว่า ยูโกะ" (Nakazawa Yuko) ที่ถือว่าเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้ง และยังเป็นสมาชิกที่มีอายุมากที่สุดของวง ได้ยืนยันว่าเธอกำลังจะเป็นคุณแม่ในวัย 39 ปี และขณะนี้ตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว
       
       โดยอดีตไอดอลสาวคนสวย ได้กล่าวยืนยันถึงเรื่องนี้ ผ่านบล็อคอย่างเป็นทางการของเธอ ว่าขณะนี้ตนเองตั้งท้องได้ 5 เดือน ถือเป็นช่วงที่ภาวะครรภ์คงที่แล้ว จึงตัดสินใจแจ้งข่าวดีครั้งนี้ให้แฟนๆทุกคนทราบ "ถือว่าเป็นประสบการณ์การตั้งท้องครั้งแรกของฉัน เลยค่อนข้างจะวิตกกังวล, ทุกวันผ่านไปได้อย่างไม่ง่ายเลย แต่ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกมีความสุขมากค่ะ กับการกำลังจะได้เป็นคุณแม่" เธอบอกด้วยความยินดี
       
       "ตั้งแต่นี้ไป การคลอดลูกที่มีสุขภาพแข็งแรง คือเป้าหมายสำคัญที่สุด ฉันจะพยายามทำงานต่อไป โดยระมัดระวังเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ" โดย นากาซาว่า ยูโกะ ยังได้กล่าวถึงพิธีแต่งงานของเธอกับแฟนหนุ่ม ประธานบริษัทไอทีแห่งหนึ่งที่อายุมากกว่าเธอ 1 ปี ที่จัดกันไปเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังทั้งสองจดทะเบียนสมรสกันไปตั้งแต่เดือน เม.ย. แล้วว่า "มันเป็นวันที่ฉันมีความสุขมากค่ะ กับเพื่อนสนิท แล้วก็คนในครอบครัว ที่เฝ้าดูแลฉันด้วยสายตาที่อบอุ่นมาตลอด"
       
       เมื่อปี 1997 นากาซาว่า ยูโกะ อายุ 24 ปี เธอได้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายของการประกวดปั้นศิลปินไอดอลที่จัดโดยโปรดิวเซอร์ชื่อดัง สึงกุ ซึ่งเธอและสาวๆ อีก 4 คน ได้แก่ นัตสึมิ อาเบะ (Natsumi Abe), คาโอริ อีดะ (Kaori Iida), อายะ อิชิคุโระ (Aya Ishiguro) และ อาสึกะ ฟุคุดะ (Asuka Fukuda) ได้ร่วมออกแผ่นซิงเกิลด้วยกัน และมียอดขายดีจนถึงขั้นได้ร่วมทำงานด้วยกันอย่างเป็นทางการ Morning Musume จึงได้เริ่มต้นขึ้นในวันนั้น

สมาชิกดาวเด่นอีกคนของ AKB48 ต้องถูกลดชั้นให้ไปอยู่ในวงที่ถือว่าด้อยชื่อเสียงกว่า แต่อยู่ในเครือเดียวกันอย่าง HKT48 หลังเกิดประเด็นข่าวฉาวเรื่องภาพหวิว ที่ถูกปล่อยออกมาโดยอดีตแฟนหนุ่มที่คบหากันเมื่อหลายปีก่อน
       
       กลายเป็นเรื่องทันที หลังหนังสือพิมพ์แท็ปลอยด์จอมแฉ Shukan Bunshun ได้ตีพิมพ์ข่าวฉาวของสาว ซาชิฮาร่า ริโนะ (Sashihara Rino / 指原 莉乃) สมาชิกของกลุ่มศิลปินหญิง AKB48 กับความสัมพันธ์ของเธอกับอดีตแฟนหนุ่มที่เคยคบหากันอยู่ระหว่างช่วงปี 2008 - 2009 หรือเมื่อตอนที่ที่ฝ่ายหญิงมีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น พร้อมมีหลักฐานเป็นข้อความที่ทั้งสองส่งหากัน รวมถึงภาพถ่ายส่วนตัวจำนวนหนึ่ง ซึ่งจนถึงตอนนี้ได้ส่งผลต่อเส้นทางในสายไอดอลของสาวน้อยคนนี้แล้ว
       
       โดยข่าวระบุว่าฝ่ายชายนี้ได้ส่งข้อมูลให้กับ Shukan Bunshun พร้อมอ้างว่าเขามีเบอร์โทรศัพท์ของไอดอลสาวคนดังด้วย ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวลองโทรศัพท์ไปตามหมายเลข ก็สามารถโทรติดต่อกับ ซาชิฮาร่า ได้จริงๆ
       
       หลังเกิดเหตุ ซาชิฮาร่า ริโนะ ได้ยอมรับว่าเธอเคยพบกับชายคนที่ว่าจริง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและเขาก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมาย ... "เขาคนนั้นเป็นเพียงเพื่อนของฉันเท่านั้นจริงๆค่่ะ ฉันเสียใจกับเรื่องนี้จริงๆ" เธอกล่าวด้วยน้ำตาระหว่างขอโทษแฟนๆทางรายการวิทยุรายการหนึ่ง
       
       ไอดอลสาวผู้โชคร้ายยังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอเองก็ไม่ได้คิดมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลายแบบนี้ และข่าวต่างๆ ก็ได้สร้างความกดดันให้กับเธอเป็นอย่างมาก
       

       "นักเขียนการ์ตูนชื่อดังได้เปิดเผยว่าผลงานของเขาเรื่อง "Baki The Grappler" กำลังจะเดินทางมาสู่ช่วงสำคัญ กับการสรุปเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างสองพ่อลูกตระกูล "ฮันมะ" ที่ใกล้จะถึงจุดสุดท้าย และน่าจะจบเรื่องลงภายในไม่เกิน 10 ตอนนี้
       
       เคสุเกะ อิตางากิ (Keisuke Itagaki) ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าเขาได้วางแผนจะเขียนตอนจบของการ์ตูนสุดฮิตผลงานของตนเอง Baki The Grappler ภายในไม่เกิน 10 ตอนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตามเขายังยืนยันว่ามีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ที่จะได้กลับมาเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ต่อ หลังจากการหยุดพักซักระยะเวลาหนึ่งในอนาคตข้างหน้านี้
       
       "บากิ" การ์ตูนแนวต่อสู้ศิลปะป้องกันตัว เป็นผลงานที่ อิตางากิ เขียนมาอย่างยาวนานถึงตอนนี้กินระยะเวลาเกิน 20 ปีไปแล้ว จากภาคแรก บากิ: จอมประจัญบาน (Baki: The Grappler) ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1991 มีจำนวนฉบับรวมเล่ม 42 เล่ม ต่อด้วยภาคสอง บากิ: ศึกอสูรจอมประจัญบาน (Baki: In search of our strongest hero) อีก 31 เล่ม และภาคล่าสุด ฮันมะ บากิ (Baki: Son of Orge) ที่ตอนนี้มีออกมา 33 เล่มยังคงลงต่อเนื่องใน Weekly Shonen Champion จนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องราวภาคพิเศษของตัวละครรองๆ ทั้งที่เขาเขียนเอง และมอบหมายให้นักเขียนคนอื่นวาดแทนอีก 2 – 3 เรื่อง
       
       โดยเรื่องราวของ บากิ นั้นว่าด้วยเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่น ที่ต่อสู้เพื่อฝึกฝนร่างกาย และทักษะต่างๆ กับจุดประสงค์ท้าประลองกับพ่อ ผู้แข็งแกร่งที่มีฉายาว่า "สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก"

Manager Online / ผ่านฟ้าบุ๊คเซ็นเตอร์

       ได้ผลออกมาแล้วสำหรับกิจกรรม "การเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 4" ของกลุ่มศิลปินหญิงล้วน AKB48 ที่สุดท้าย "ยูโกะ โอชิม่า" (Yuko Oshima) สามารถคว้าอันดับ 1 ไปตามคาด และจะได้ตำแหน่งเซนเตอร์ในซิงเกิลต่อไปของวง
       
       ในปีที่สมาชิกดาวเด่นอย่าง อัตสึโกะ มาเอดะ (Atsuko Maeda) กำลังจะมีกำหนด "จบการศึกษา" ออกจากวงไป เธอจึงไม่ได้เข้าร่วมในการ "เลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 4" (4th Senbatsu General Election) ของวงหลังจากเคยได้เสียงโหวตเป็นอันดับ 1 มาแล้วสองครั้ง (ครั้งที่ 1 และ 3) จึงเป็นโอกาสของสาว ยูโกะ โอชิม่า ที่เคยคว้าอันดับ 1 ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 2 ที่ได้กลับขึ้นสู่จุดสูงสุดในหมู่สมาชิกของกลุ่มศิลปิน AKB48 อีกครั้ง หลังมีการนับคะแนน และประกาศผล ณ นิฮง บูโดกัน ไปเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา
       
       โดย โอชิม่า ได้คะแนนไปทั้งสิ้น 108,837 เสียง, ทิ้งห่าง วาตานาเบ้ มายุ (Watanabe Mayu) หรือ มายุยุ ของแฟนๆ ร่วม 30,000 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ คาชิวากิ ยูกิ (Kashiwagi Yuki) กับเสียงโหวต 71,076
       
       และถือว่าเป็นตัวเลขที่ก้าวกระโดดอยู่ไม่น้อย เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งทั่วไปในครั้งแรก ที่ อัตสึโกะ ครองอันดับ 1 ด้วยเสียงโหวต 4,630 เสียง, ส่วนในปีต่อมาเป็น โอชิมา ที่ได้เสียงโหวตไป 31,448 เสียง และปี 2011 ที่ อัตจัง กลับมาเป็นสมาชิกอันดับ 1 ของวงด้วยเสียงโหวตมากมายถึง 139,892 เสียง
       

       สาวร้อนแดนปลาดิบยังคงพิสูจน์ถึงความโด่งดังในจีนแผ่นดินใหญ่ต่อไป นอกจากไมโครบล็อคของเธอจะมีคนติดตามกด “ฟอลโลว์” มากขึ้นเรื่อยๆ จนมากกว่า 10 ล้านไปแล้ว การปรากฏตัวของสาวสวยอดีตดาว “เอวี” ก็ยังคงได้รับความสนใจ มีหนุ่มๆ ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มารุมล้อมมากมาย
       
       โซระ อาโออิ (Sora Aoi) ได้กลายเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นผู้โด่งดังที่สุดในเมืองจีนไปแล้ว เห็นได้จาก Sina Weibo หรือ Twitter ในแบบจีนแผ่นดินใหญ่ของเธอ ที่มีคนตามถึง 11,180,000 คน กันแล้ว ถึงขั้นมีคนกล่าวติดตลกว่าหากสาว อาโออิ จะระดมม็อบประกาศก่อการปฏิวัติขึ้นมาก็คงจะทำได้
       
       แต่ไม่ใช่เพียงตัวเลขในโลกออนไลน์เท่านั้นที่เป็นบทพิสูจน์ถึงความโด่งดังของเธอ อีเวนต์ต่างๆที่สาว โซระ อาโออิ ไปร่วมงาน ก็กลายเป็นหลักฐานถึงความนิยมในตัวเธอได้เป็นอย่างดี รวมถึงเมื่อเร็วๆนี้ ที่สาววัย 28 ปี ไปเยือนเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน กับอีเวนต์ที่สามารถระดมคนได้ในจำนวนมากมาย และแต่ละคนก็แสดงท่าทีสนใจคลั่งไคล้ในตัวดาราสาวกันอย่างเต็มที่ อย่างที่คนดังชาวจีนจำนวนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำได้
       
       ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นได้ถูกอัพโหลดลงเว็บไซต์ tt.mop จนสร้างความฮือฮาทั้งในหมู่ชาวจีนเอง และเป็นข่าวไปจนถึงญี่ปุ่นอย่างที่เว็บข่าว Japan Today ยังต้องนำเสนอ กับภาพของหนุ่มจีนจำนวนมากที่พยายามเข้าถึงตัวสาวอาโออิ ส่วนใหญ่ถือกล้องดิจิตอล และโทรศัพท์ไว้ในมือ บางคนบอกว่าเหมือนภาพใน “หนังซอมบี้” ไม่มีผิดเพี้ยน
       
       แม้แต่ผู้ใหญ่ในงานอีเวนต์ครั้งนี้ ก็ดูเหมือนจะสนอกสนใจในตัวของสาวแดนปลาดินคนดังอยู่ไม่น้อย และจับจ้องอยู่ที่เธอตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนอยู่บนเวที

       สถานีโทรทัศน์ NHK กำลังมีโครงการใหญ่ยักษ์ กับการหยิบเอาทีวีซีรีส์ระดับตำนานแห่งวงการโทรทัศน์ญี่ปั่น "สงครามชีวิตโอชิน" (OShin) ที่เคยสร้างความโด่งดังทั้งในประเทศ และต่างประเทศเมื่อยุค 80s กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบของภาพยนตร์
       
       ผลงานของ NHK เรื่องนี้ แพร่ภาพครั้งแรกระหว่างปี 1983 - 1984 จนกลายเป็นปรากฏการณ์อย่างที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับวงการโทรทัศน์ญี่ปุ่นมาก่อน นอกจากนั้นก็ยังถูกซื้อไปเผยแพร่ในประเทศต่างๆ 60 ประเทศทั่วโลกด้วย ซึ่งล่าสุดเรื่องราวของ สงครามชีวิตโอชิน จะได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง แต่เป็นในรูปแบบของภาพยนตร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดใดๆ ของหนังรวมถึงเรื่องนักแสดงแต่อย่างใด
       
       สงครามชีวิตโอชิน เล่าเรื่องของ โอชิน ทาโนะคุระ สตรีผู้ต่อสู้กับอุปสรรคมากมายกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของประเทศตั้งแต่ปี 1907 - 1980 โดยอิงจากประวัติชีวิตมารดาของ คาซุโอะ วาดะ ผู้ก่อตั้ง 'เยาฮัน' เครือห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นซีรีส์ที่ออกอากาศวันละ 15 นาทีกับจำนวนตอนมากถึง 297 ตอน ซึ่งเรื่องราวว่าด้วยการต่อสู้กับปัญหา และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกมากมาย สำหรับในญี่ปุ่นช่วงที่มีเรตติ้งสูงสุดนั้นยอดคนดูพุ่งไปสูงถึง 62.9% เลยทีเดียว
       
       สำหรับโอชินในฉบับซีรีส์นั้นมีนักแสดงหลายคน ที่ร่วมกันรับบทเป็นตัวละครเอกตัวนี้ในวัยที่แตกต่างกันไปโดย อายาโกะ โคบายาชิ สวมบทบาทเป็น เด็กหญิงโอชิน, ยูโกะ ทานากะ รับบทในวัยสาว และโนบุโกะ โอโตวะ เป็นในช่วงบั้นปลาย
       

     เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นที่กำลังต้องการระดมทุนอย่างเร่งด่วน ตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือจากกลุ่มศิลปินสาว AKB48 ในการช่วยขายพันธบัตรรัฐบาล ที่ให้ผลตอบแทนต่ำจนไม่ดึงดูดใจเหล่านักลงทุน
       
       มีรายงานว่ากลุ่มศิลปินหญิงล้วนที่กำลังโด่งดังที่สุดในวงการบันเทิงขณะนี้ กำลังมีส่วนร่วมช่วยเหลือในงานประชาสัมพันธ์การขายพันธบัตร ที่มีจุดประสงค์ในการระดมทุน เพื่อช่วยเหลือทางการเงินกับโครงการต่างๆ ในเขตพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อปีก่อน โดยทาง Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวถึงแผนการดังกล่าว
       
       AKB48 ประกอบไปด้วยสมาชิกเกือบ 90 คน มีอายุหลากหลายครั้งแต่วัยรุ่นตอนต้นๆ ไปจนถึง 20 กลางๆ นับเป็นศิลปินที่มียอดขายมากที่สุดกลุ่มหนึ่งในตลาดดนตรียุคปัจจุบัน กับการทำรายได้จากการขายแผ่นซีดี และดีวีดีในปีก่อนได้ถึง 200 ล้านเหรียญฯ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีของทั้งในญี่ปุ่น และเอเชีย ที่ความโด่งดัง ยังทำให้พวกเธอปรากฏตัวอยู่แทบจะทุกแห่งทุกหนในประเทศญี่ป่นตั้งแต่โฆษณาทางโทรทัศน์ จนไปถึงโทรศัพท์มือถือ
       
       สำนักข่าวในญี่ปุ่นระบุว่า นอกจากสาวๆ AKB48 โครงการระดมทุนครั้งนี้ก็ยังจะมีนักซูโม่ชื่อดัง ฮาคุโฮ และนักฟุตบอลหญิงซูเปอร์สตาร์ โฮมาเระ ซาวะ ร่วมประชาสัมพันธ์ด้วย
       
       สำหรับสาวๆ AKB48 เองก็ไม่ใช่หน้าใหม่กับการทำงานร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สาวๆ ก็เพิ่งจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการยุติพฤติกรรมฆ่าตัวตายในหมู่วัยรุ่นมาแล้ว กับโปสเตอร์ที่มีการเผยแพร่ไปยังทั่วประเทศ

       ซิงเกิลที่ 26 ของ สาวๆ AKB48 สามารถทำยอดขายถึง 1,171,000 แผ่นในการเปิดขายวันแรก ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตรายวันของ Oricon อย่างไร้คู่แข่ง และทำลายสถิติยอดขายซิงเกิลวันแรกได้ด้วย กับแผ่นซีดีที่แถมรหัสสำหรับการโหวตเลือกตั้งทั่วไปประจำปีของ AKB48
       
       โดย Manatsu no Sounds good! นับเป็นซิงเกิลที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ AKB48 สามารถทำยอดขาย 1 วัน 1 ล้านแผ่น จากหลังซิงเกิล Kaze wa Fuiteiru สามารถทำยอดขายได้ 1,046,000 แผ่น และ Flying Get ทำยอดขาย 1,026,000 แผ่นมาแล้ว นอกจากนั้นงานเพลงล่าสุดของสาวๆ ขวัญใจญี่ปุ่นกลุ่มนี้ยังสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการกับยอดขาย 1,171,000 แผ่นภายในวันเดียว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่มากที่สุดที่เคยมีมาด้วย
       
       ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ซิงเกิลแผ่นนี้ขายดีชนิดเทน้ำเทท่าก็คือทุกแผ่นซีดีจะมี เลขรหัสสำหรับการโหวตลงคะแนนให้กับสาวขวัญใจของแฟนคลับแต่ละคน ในกิจกรรม “การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 4 ของ AKB48” หรือการจัดอันดับความนิยมในหมู่สาวๆ AKB48 และกลุ่มศิลปินพี่สาวน้องสาวอีกหลายกลุ่มนั่นเอง โดยการลงคะแนนได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว
       
       และถ้าลองเปรียบเทียบกับซิงเกิลที่มาพร้อมรหัสแบบนี้ สำหรับกิจกรรมเดียวกันนี้ของปีก่อนๆ ก็จะพบว่าความนิยมในตัวสาวๆ AKB48 นั่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในทุกปีเลยทีเดียว
       
       โดยซิงเกิลที่แถมรหัสสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2009 Namida Surprise! ทำยอดขายในวันแรกไปได้ 40,000 แผ่น, ในปี 2010 กับซิงเกิล Ponytail to Shushu มียอดขาย 354,000 แผ่น และเมื่อปีก่อน Everyday, Kachuusha กับยอดขาย 942,000 แผ่น
       

      ซีรีส์ที่สร้างจากการ์ตูนชื่อดัง GTO กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง นำทีมโดย "อากิระ" (Akira) แห่งวง Exile ที่จะมาสวมบทบาทเป็นคุณครูสุดห่าม "โอนิซึกะ" บทเดียวกันที่ "ทาเคชิ โซริมาจิ" (Sorimachi Takashi) เคยแสดงเอาไว้จนโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน
       
       ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าผู้สร้างได้วางตัว อากานิชิ จิน (Akanishi Jin) ไว้ในบทนำของซีรีส์เรื่อง GTO ฉบับใหม่ แต่เพราะการตัดสินใจมีครอบครัวอย่างกะทันหัน และไม่แจ้งให้ต้นสังกัดทราบ ไอดอลหนุ่มคนดังจึงถูกพักงาน จนทำให้ต้องพลาดจากซีรีส์เรื่องนี้ไปโดยปริยาย และ อากิระ สมาชิกของ Exile จึงจะเข้ามาสวมบทบาทเป็น ครูพันธ์นักเลง "โอนิซึกะ เอคิจิ" ในซีรีส์ GTO: Great Teacher Onizuka ฉบับรีเมกแทน
       
       ข่าวของ Nikkan Sports ยังบอกว่า โทรุ ฟูจิซาวะ (Tohru Fujisawa) ผู้เขียน GTO ก็ค่อนข้างจะถูกใจกับการเข้ามารับบทนำของ อากิระ อยู่พอสมควร เพราะในมุมมองจากเจ้าของเรื่อง ศิลปินคนนี้มีบุคลิกที่คล้ายกับตัวละครที่เขาสร้างขี้นอยู่ไม่น้อย โดยซีรีส์เรื่องนี้จะมี Kansai TV เป็นผู้สร้าง
       
       GTO: Great Teacher Onizuka เล่าเรื่องของ โอนิซึกะ หนุ่มนักเลงหัวหน้าแก๊งมอร์เตอร์ไซค์ ที่ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางในชีวิต ยุติบทบาทนักเลงและสมัครเข้าเป็นครูในโรงเรียนมัธยมแทน ซึ่งเขาได้ใช้วิธีการสอนแบบที่ไม่เหมือนใคร อบรม และช่วยเหลือเหล่าเด็กแสบที่เต็มไปด้วยปัญหาต่างๆในชีวิต โดยนอกจากบทบู๊ และฉากตลกโปกฮาแล้ว ผลงานของ ฟูจิซาวะ ยังได้รับการยกย่องว่าสามารถแจกแจง และเสียดสีปัญหาของวัยรุ่น ในสังคมญี่ปุ่นยุคใหม่ได้อย่างน่าเชื่อถือ
       

      เมื่อวันที่ 21 พ.ค. Oscar Promotion ได้เปิดตัวกลุ่มสาวเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ ที่จะแตกต่างจากกลุ่มศิลปินสาวในญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับความน่ารักสดใส แต่ Model Girls จะมีจุดขายอยู่ที่ความสูง, รูปร่างดี และลีลานางแบบ

      จากผู้สมัครออดิชั่นเข้ามามากกว่า 6,000 คน สุดท้ายสาวสวย 8 คนได้ถูกคัดเลือกจาก Oscar Promotion ให้ร่วมกันเปิดตัวภายใต้ชื่อ Model Girls ที่สาวๆแต่ละคน มีส่วนสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 175 ซม. กันเลยทีเดียว โดยต้นสังกัดต้องการจะใช้จุดขายความเป็น "เกิร์ลกรุ๊ปนางแบบ" ของสาวๆทั้ง 8 ในการออกผลงานที่จะมีทั้ง อัลบั้มรวมภาพถ่าย, แผ่นดีวีดี และซีดีเพลง ที่ได้ Sony Group มาจัดจำหน่ายให้ พร้อมจะออกวางตลาดภายในเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้

      โดยสมาชิกของ Model Girls ประกอบไปด้วย นากามูระ ซากูระ (Nakamura Sakura), ฟูจิโมโตะ เอริโกะ (Fujimoto Eriko), โทมาเบจิ เรนะ (Tomabechi Reina), โอบานะ คิเอะ (Obana Kie), ฮารุกิ (Haruki), มิโนชิมะ ฮิโรมิ (Minoshima Hiromi), ทาคิโมโตะ ริสะ (Takimoto Risa) และ คาวาอิ อิคารุ (Kawai Hikaru) โดย นากามูระ ทำหน้าที่เป็นลีดเดอร์ของวง

      พวกเธอทั้ง 8 ยังจะนำเสนอถึงจุดขายที่เรียกว่า "โมเดล ยิมนาสติกส์" ที่มีคำอธิบายว่าจะเป็นการให้ความสำคัญไปที่การ ออกท่าออกทาง, การเยื้องย่าง และ ส่วนเว้าส่วนโค้ง ที่สวยงาม เป็นแนวคิดที่ Oscar Promotion บอกว่าจะนำความสวยงามแบบสุขภาพดี มานำเสนอผ่านงานเพลง และแฟชั่น ซึ่งนอกจากงานในญี่ปุ่นแล้ว Model Girls ก็ยังมีแผนจะไปเผยแพร่ผลงานในประเทศต่างๆด้วย

      ในการเปิดตัว Model Girls ยังมีดาราสาวสวย ทาเคอิ เอมิ (Takei Emi) และ โคริกิ อายาเมะ (Gouriki Ayame) มาร่วมแสดงความยินดี และมอบช่อดอกไม้ด้วย

Manager Online

       จากการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ “อิ๊กคิวซัง” (Ikkyu-san / 一休さん) ที่ให้ความบันเทิง และแรงบันดาลใจกับคุณหนูๆ มารุ่นแล้วรุ่นเล่า ล่าสุด ผลงานของ “โตเอะ” กำลังจะกลับมาในรูปแบบของฉบับคนแสดง โดยได้ดาราเด็กคนดัง “ฟุคุ ซูซูกิ” (Fuku Suzuki) สวมบทบาท “เณรน้อยเจ้าปัญญา”
       
       เว็บไซต์ Sanspo ของญี่ปุ่นได้เปิดเผยว่า สถานีโทรทัศน์ ฟูจิทีวี ได้สร้างซีรีย์ชุดพิเศษ อิ๊กคิวซัง เพื่อออกอากาศในเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะประกอบไปด้วย เรื่องราวของเณรน้อยเจ้าปัญญา จำนวนทั้งหมด 3 ตอน และมีดาราเด็กวัย 7 ขวบ ฟุคุ ซูซูกิ มาสวมบทบาทเป็นตัวเอกของเรื่อง นอกจากนั้น เขาก็ยังจะร้องเพลงประกอบของเรื่องที่ชื่อว่า Minna no Ikkyū-san ด้วย
       
       อิ๊กคิวซัง ของ โตเอะ เป็นการ์ตูนดังที่ออกอากาศระหว่างปี 1975-1982 ทาง ทีวีอาซาฮี กับจำนวนถึง 265 ตอน ที่เล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็กของ พระนิกายเซน ชื่อ อิคคิว โซจุน ที่มีชีวิตในช่วง ค.ศ.1394-1481 กับการใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นการ์ตูนที่ได้รับการยกย่องว่ามีทั้งคติสอนใจเด็กๆ และเป็นตัวอย่างของการใช้ความคิดในการแก้ไขปัญหาแทนที่จะเป็นกำลัง ซึ่ง ฟูจิ ทีวี ก็เคยนำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นซีรีส์แบบคนแสดงมาแล้วในปี 1985-1986
       
       อย่างไรก็ตาม อิ๊กคิวซัง ฉบับใหม่อาจจะมีเนื้อเรื่องแตกต่างจากที่คุ้นเคยกันไปซักหน่อย เพราะข่าวระบุว่า เนื้อหาของเรื่องจะว่าด้วยเหตุการณ์เมื่อ อิ๊กคิวซัง กับ ชินเอมอนซัง ได้เดินทางข้ามเวลาไปสู่เมืองเกียวโตยุคปัจจุบัน และได้เยี่ยมชมตามสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมือง โดยขณะนี้ดาราตัวน้อย ฟุคุ ซูซูกิ ได้เริ่มฝึกฝนการนั่งวิปัสสนาเพื่อการรับบทดังกล่าวแล้ว

       เพิ่งกลับมาทำงานได้หยกๆ แต่เกิดอุปสรรคกับการคืนวงการของ "เอริกะ ซาวาจิริ" (Erika Sawajiri) ขึ้นอีกแล้ว เมื่อปัญหาสุขภาพได้ทำให้เธอต้องหยุดรับงานแบบไม่มีกำหนด รวมถึงอาจทำให้เธอไม่สามารถร่วมโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Helter Skelter ผลงานเรื่องล่าสุดของตัวเองด้วย

       เมื่อวันที่ 15 พ.ค. มีรายงานว่าดาราสาว เอริกะ ซาวาจิริ ได้ตัดสินใจหยุดพักรับงานแบบไม่มีกำหนด เป็นการหยุดพักมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนแล้ว ด้วยปัญหาทางสุขภาพที่ย่ำแย่ของเธอ หลังจากก่อนหน้านี้ดาราวัย 26 ปี เคยต้องหยุดงานไปพักใหญ่ด้วยปัญหาเรื่องฉาวมากมายมากมาย ทั้งที่เกิดจากพฤติกรรมในการทำงาน จนต่อมาได้ตัดสินใจแต่งงานอย่างกะทันหัน และหย่าขาดแยกทางกันสามีในเวลาอันสั้น
       
       จนเธอได้โอกาสคืนสู่วงการภาพยนตร์อีกครั้ง กับหนังเรื่อง Helter Skelter ที่ถ่ายทำเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่า เอริกะ ซาวาจิริ ยังคงไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งการขอพักงานด้วยปัญหาสุขภาพครั้งนี้ ยังทำให้อีเวนต์โปรโมตภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธอต้องถูกยกเลิกไปด้วย
       
       โดยแหล่งข่าวจากสื่อวงการภาพยนตร์ได้เปิดเผยว่า "เร็วๆนี้ ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับนิตยสารของเรา จู่ๆ คุณซาวาจิริก็โทรศัพท์มาขอยกเลิก ซึ่งก่อนหนังจะเข้าฉายประมาณ 2 เดือน มันคือช่วงของการโปรโมต แต่กลับมีการบอกกับเราอีกว่ายังไม่มีการกำหนดวันสัมภาษณ์ใหม่แต่อย่างใด ซึ่งมันก็กลายเป็นปัญหาของเราไปเลย ..."
       

"ฮิโตชิ อิวาอากิ" (Hitoshi Iwaaki / 岩明均) กลายเป็นเจ้าของรางวัล "เท็ตสึกะ โอซามุ" (Tezuka Osamu) ที่มอบให้กับการ์ตูนยอดเยี่ยมแห่งปี คนล่าสุดด้วยผลงานแนวอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Historie ของเขา กับการประกาศรางวัลเมื่อปลายเดือน เม.ย. และจะมีการมอบรางวัลกันในเดือนนี้ (พ.ค.) ต่อไป
       
       รางวัล "เท็ตสึกะ โอซามุ" ที่ตั้งชื่อตามนักเขียนการ์ตูนผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของผลงานดังอย่าง “แบล็คแจ็ค” (Black Jack) และ “อตอม” (Mighty Atom) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งวัฒนธรรม “มังงะ” อันยิ่งใหญ่ของแดนอาทิตย์อุทัย เป็นรางวัลที่มีหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ “อาซาฮี ชิมบุน” เป็นผู้สนับสนุน มีจุดประสงค์เพื่อเชิดชูผู้สร้างผลงานอันโดดเด่น และค้นหาผู้มีพรสวรรค์หน้าใหม่ๆ ให้กับวงการ
       
       รางวัล "เท็ตสึกะ โอซามุ" ประจำปี 2012
       
       สำหรับในปีนี้ ยู อิโตะ (Yu Itoh) เจ้าของผลงาน Shut Hell คว้ารางวัลนักเขียนหน้าใหม่ไป, ส่วนรางวัลการ์ตูนสั้นเป็นของ รอสเวล โฮโซกิ (Roswell Hosoki) กับผลงานที่มีชื่อว่า Sake no Hosomichi
       
       นอกจากนั้นยังมีรางวัลพิเศษมอบให้กับนิตยสาร Weekly Shonen Jump ที่ระหว่างเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือร่วมใจกัน เมื่อหนังสือ Weekly Shonen Jump เพียงเล่มเดียว ได้กลายเป็นความบันเทิงของเหล่าเด็กๆผู้ประสบภัยที่แบ่งปันหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นกันอ่าน และส่งต่อกันไปเป็นร้อยๆคน กลายเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยม

       ภาพถ่ายของสาวน้อย "กูฮารา" (Goo Hara) แห่งเกิร์ลกรุ๊ป Kara ในสื่อญี่ปุ่นกลายเป็นที่ถกเถียงมากมาย เมื่อภาพดังกล่าวเป็นการถ่ายที่เน้นใต้กระโปรงของไอดอลสาวคนดังอย่างออกนอกหน้า นอกจากนั้นก็ยังแสดงเจตนาด้วยการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นด้วย
       
       เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ภาพปกนิตยสารฉบับหนึ่งในญี่ปุ่น ได้ถูกอัพโหลดขึ้นในชุมชนออนไลน์แห่งหนึ่ง จนถูกส่งต่อไปทั่ว และก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์มากมาย โดยเป็นภาพที่ไอดอลสาววัยใส กูฮารา นั่งอยู่บนเกาอี้ และกระโปรงเปิดให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน
       
       แต่ไม่ใช่เท่านั้น เพราะนิตยสารฉบับดังกล่าวยังขยายภาพใต้กระโปรงของสาวน้อยวัย 21 ปี ให้ใหญ่เห็นชัดกันชนิดเป็นพิเศษด้วย จนสื่อยุ่นรายนี้ถูกวิจารณ์ในแง่ลบมากมาย โดยเฉพาะกับการจงใจขยายภาพวาบหวิวของไอดอลสาวให้ชัดเจนเกินความจำเป็นเช่นนี้
       
       กูฮารา เป็นหนึ่งใน 5 สาว Kara ที่โด่งดังจากท่าเต้นส่ายบั้นท้ายอันเซ็กซี ที่กำลังประสบความสำเร็จกับการเข้าไปทำงานในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นศิลปินจากเกาหลีใต้ที่โด่งดังที่สุดกลุ่มหนึ่งในแดนอาทิตย์อุทัยขณะนี้ โดยพวกเธอยังจะมีกำหนดขึ้นแสดงในสนามกีฬาโยโยกิ และไซตามะซูเปอร์อารีนา ในช่วงสัปดาห์นี้ด้วย

Manager Online

"Kadokawa Pictures" ได้เผยโฉมนักแสดงสาวที่รับบทเป็นตัวละครสุดคลาสสิกในหนังผีระดับตำนานภาคใหม่ "Sadako 3D" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับสาวหน้าใส "ฮาชิโมโตะ ไอ" (Hashimoto Ai) วัย 16 ปี ที่จะใช้ความหวานสร้างรสชาติสยองขวัญให้กับหนังภาคนี้

       ในอีเวนต์เปิดตัวหนังเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาผู้ชมที่โชคดีได้มีโอกาสร่วมเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกๆที่ได้ดูหนังเรื่อง Sadako 3D รอบพิเศษ
       
       แต่เอาเข้าจริงๆ หนังฉบับที่ฉายในวันนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นฉบับ "เกือบ" สมบูรณ์เท่านั้น เพราะได้มีการตัดช่วง 12 นาทีสุดท้ายออกไป ซึ่งเป็นช่วงที่หนังจะเผยให้เห็นถึงใบหน้าที่แท้จริงของตัวละคร "ซาดาโกะ" แต่สุดท้ายในวันนั้น ผู้รับบท ซาดาโกะ ได้มาเซอร์ไพร์ซคนดูบนเวที ร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆในเรื่อง หลังจากนั้นในอีกไม่กี่วันต่อมา ซาดาโกะ ยังได้รับเกียรติให้เป็นผู้ขว้างลูก เพื่อเปิดการแข่งขันกีฬาเบสบอล ณ สนามโตเกียวโดมด้วย
       
       อย่างไรก็ตามในทั้งสองกิจกรรมดาราสาวปริศนายังคงปกปิดหน้าตาตัวตนเอาไว้ ด้วยผมเผ้าปิดหน้า และชุดในแบบ ซาดาโกะ อยู่นั่นเอง
       
       ซึ่งผู้คนต่างสงสัยว่าใครกันแน่ ที่เป็นนักแสดงผู้อยู่เบื้องหลังบทบาทนี้ ? จนกระทั่งล่าสุด Kadokawa Pictures ได้เปิดตัวผู้มารับบทเป็น ซาดาโกะ คนใหม่แล้ว ซึ่งก็คือนักแสดงสาว ฮาชิโมโตะ ไอ นั่นเอง