ยอดประมูลเสื้อ "แจบอม" (Jae Bum) ราคาทะลุ 2,000 ล้านวอน ที่แท้เป็นเรื่องแหกตา

เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้นในการประมูลสินค้าดาราเพื่อการกุศลในเกาหลี เมื่อเสื้อผ้าของหนุ่ม "แจบอม" (Jae Bum) อดีตสมาชิกวง "2PM" มีผู้แข่งขันกันให้ราคาจนสูงเกินจริง ท้ายที่สุดพบว่าเป็นความผิดพลาดของระบบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประมูลใส่เลขเล่นๆ โดยไม่หวังจะได้สินค้าอย่างแท้จริง

กลุ่มธุรกิจการค้า Lotte ของเกาหลีร่วมกับ Fromcare องค์กรพิทักษ์และให้ความช่วยเหลือสัตว์จรจัด ได้จัดให้มีการประมูลสินค้าดารา เพื่อระดมเงินทุนในการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ภายใต้ชื่อโครงการว่า Thermometer of Love

มีศิลปินมากมายเข้ามามาส่วนร่วมรวมถึง ชางมิน (ChangMin) จาก TVXQ, อีทึก (Lee Teuk) จากวง Super Junior, สองสาวยูบิน (Yoo Bin) และซอนมี (Sunmi) จาก Wonder Girls, หนุ่มๆ จาก 2PM , ลีจุนกิ (Lee Jun Ki), สาวๆ วง T-ara และเรน (Rain) ที่ต่างมอบสมบัติส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น หนังสือ, ถ้วยกาแฟ หรือเสื้อผ้า เพื่อนำเงินที่ได้จากการประมูล มาเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วย หาที่อยู่, ซื้ออาหาร และยารักษาโรค ให้กับเหล่าสัตว์เร่รอน อย่างสุนัข และแมว

แต่แล้วหลังจากการประมูลเริ่มต้นไปได้ไม่นาน ก็เกิดเรื่องผิดปกติขึ้น เมื่อสินค้าจากวง 2PM ที่นำเอาเสื้อผ้าที่เคยใช้ในการแสดงคอนเสิร์ต มอบให้เพื่อร่วมประมูลในครั้งนี้ เกิดมีราคาพุ่งสูงขึ้นมามากอย่างผิดสังเกต โดยเฉพาะเสื้อของอดีตสมาชิกที่ต้องลาออกจากวงไปกะทันหันอย่าง แจบอม ที่ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ราคาของมันได้พุ่งไปที่ 9.7 ล้านวอน (ประมาณ 280,000 บาท) อย่างรวดเร็ว แต่นั้นก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

ในวันที่ 25 ต.ค. หรือหลังเปิดประมูลมาได้แค่สองวัน เสื้อผ้าชุดที่ว่านี้มีราคาถีบไปแล้วถึงระดับ 2,000 ล้านวอน (56 ล้านบาท) ขณะที่เสื้อผ้าของสมาชิกอีก 6 คนที่เหลือของ 2PM ก็มีราคาพุ่งสูงตามไปด้วย รวมถึงของหนุ่มไทยอย่าง นิชคุณ (NichKhun) ที่มีผู้ให้ราคาไว้ 11 ล้านวอน (ประมาณ 4 แสนบาท) โดยที่การประมูลยังจะมีต่อไปอีกจนถึงวันที่ 29 ต.ค. นี้

มีคำถามมากมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อสงสัยที่ว่า แฟนคลับซึ่งส่วนใหญ่ ล้วนเป็นเด็กวัยรุ่นวัยเรียนที่ยังไม่มีงาน และเงินเป็นของตัวเอง จะสามารถเอาเงินจำนวนมากเช่นนี้มาจากไหนกันแน่ มีคนตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า อาจจะเป็นแฟนคลับที่เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี หรือไม่ก็เป็นการร่วมมือกันของเหล่า Hottests จำนวนมากที่ร่วมลงขันกันเพื่อให้ได้ของมาครอบครอง

แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ต่างไม่เชื่อว่าเมื่อถึงวันปิดประมูล จะมีการจ่ายเงินจำนวนนี้จริง สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเล่นตลกของใครบางคน และอาจจะเป็นหลายๆ คนด้วยซ้ำไป เมื่อมีคนอยู่จำนวนหนึ่ง ใส่ตัวจำนวนเข้าไปเล่นๆ โดยไม่ได้อยากได้ของ หรือช่วยการกุศลแต่ประการใด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดปกติที่มีการแข่งขันราคากัน ตั้งแต่ตอนที่เส้นตายยังเหลืออีกหลายวัน ผิดปกติจากการประมูลทั่วๆ ไปที่ผู้ประมูล จะใส่ราคาก็ช่วงจะใกล้จะถึงกำหนดเวลาสุดท้ายแล้ว

จนกระทั่งในวันที่ 26 ต.ค. ทาง Lotte ที่ได้เฝ้าสังเกตการถึงเรื่องผิดปกติดังกล่าวมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ได้ตัดสนใจปิดการประมูลอย่างกะทันหัน กับสินค้าที่มีปัญหาทันที หลังจากพบว่ามันเป็นความบกพร่องของระบบ ที่ไม่สามารถป้องกันผู้ที่ตั้งใจเข้ามาป่วนได้

ซึ่งผู้ประมูลสามารถใส่ราคาเท่าไหร่ก็ได้ และไม่ได้มีมาตรการอะไรมารับประกัน ว่าผู้ชนะการประมูลในตอนท้าย จะไม่เบี้ยวหนีหายไปในขั้นตอนของการชำระเงิน ซึ่งเมื่อมีการปรับปรุงระบบแล้ว จึงจะมีการเปิดประมูลใหม่อีกครั้งหนึ่ง

โดยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ออกมาแถลงว่า "จุดมุ่งหมายทั้งหมดของโครงการนี้ก็เพื่อช่วยเหลือพวกสัตว์ แต่เพราะชาวเน็ตนอกคอกบางคนเท่านั้น ที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้น เราขอแสดงความเสียใจกับทุกฝ่ายที่ต้องตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้ ในอนาคตเราจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน เมื่อสินค้าทั้งหมดถูกนำกลับมาให้ประมูลอีกครั้ง"

Manager Online