10 เรื่องเด่นบันเทิงเกาหลีปี 2009

ปี 2009 นับเป็นปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทีเดียวสำหรับแวดวงบันเทิงเกาหลี ที่สร้างกระแสเกาหลีฟีเวอร์ให้เกิดขึ้นทั่วเอเชีย และเริ่มลุกลามไปยังดินแดนฝั่งตะวันตก จากความรุ่งเรืองทางด้านวงการเพลงรวมถึงวงการภาพยนตร์ เรื่องราวสุดขมขื่นของวงการบันเทิงเกาหลีก็ถูกนำเสนอจนเป็นข่าวครึกโครมไม่แพ้เรื่องใดๆเช่นกัน และนี่คือ 10 อันดับ เรื่องเด่นประจำปี 2009

1. กรณีฟ้องร้องต้นสังกัดของดงบังชินกิ (TVXQ) และซูเปอร์จูเนียร์ (Super Junior)

เรื่องราวที่ครึกโครมที่สุดในวงการบันเทิงเกาหลีเรื่องหนึ่ง คือการฟ้องร้องต้นสังกัด SM Entertainment ของ มิคกี้ ยูชอน (Micky Yoochun), ซีอา จุนซู (Xiah Junsu) และ ฮีโร่ แจจุง (Hero Jae Joong) 3 หนุ่มสมาชิกบอยแบนด์ที่โด่งดังที่สุดและกวาดรางวัลมากที่สุดอย่าง ดงบังชินกิ

โดยการฟ้องร้องครั้งนี้สืบเนื่องจากสัญญาที่ยาวนานกว่า 13 ปี ที่พวกเขาได้เซ็นกับต้นสังกัด ซึ่งพวกเขาระบุว่ามันคือ"สัญญาทาส" และรายได้จากการทำกิจกรรมต่างๆก็ยังถูกจัดสรรให้แต่ละคนอย่างไม่เหมาะสมด้วย

ทางต้นสังกัดเองก็ได้ออกมาระบุเช่นกัน ว่าสมาชิกทั้ง 3 คนที่ออกมาฟ้องร้องนั้น เป็นเพราะได้ร่วมกันลงทุนทำธุรกิจเครื่องสำอางค์ในประเทศจีน ซึ่งต้นสังกัดเกรงว่าจะเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาโดยใช้ชื่อเสียงของดงบังชินกิในการโปรโมท แต่บริษัทไม่มีส่วนได้กับธุรกิจครั้งนี้ ซึ่งทางบริษัทเครื่องสำอางค์เองก็ออกมาระบุว่า การออกมากล่าวแบบนี้ของต้นสังกัด นับเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น เพราะสมาชิกทั้ง 3 คนใช้เงินส่วนตัวในการลงทุนทำธุรกิจ และไม่ได้นำทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท SM Ent. มามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

และจากการฟ้องร้องของทั้ง 3 หนุ่ม ยังทำให้หุ้นของบริษัท SM ตกลงถึง 10% เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา และยังส่งผลให้คอนเสิร์ตและกิจกรรมต่างๆต้องถูกยกเลิกไป ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้มากมายอีกด้วย

ต่อมาในเดือน ต.ค. ศาลได้ตัดสินให้สัญญาที่ทั้ง 3 หนุ่มได้ทำกับบริษัทถูกระงับใช้และมีผลเป็นการโมฆะชั่วคราว และทั้ง 3 คนสามารถทำกิจกรรมส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม แม้ทางศาลจะออกมาตัดสินให้สัญญาทาสถูกระงับใช้ แต่ทั้ง 3 หนุ่มก็ยืนยัน ว่าพวกเขาอยากจะทำงานในฐานะสมาชิกวงดงบังชินกิร่วมกับเพื่อนๆที่เหลืออีก 2 คนอย่าง ยูโนว์ (U-Know) และชางมิน (Changmin) ต่อไป ในส่วนของการตัดสินคดีความยังไม่เป็นที่สิ้นสุด และต้องรอฟังคำตัดสินจากศาลอีกครั้งในปีหน้า

และนอกจาก 3 สมาชิกหนุ่มจากวงดงบังชินกิแล้ว หนึ่งหนุ่มชาวจีนสมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์ก็ออกมาฟ้องร้องต้นสังกัดเพื่อขอยกเลิกสัญญาทาส 13 ปีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยระบุว่าสัญญาดังกล่าวไม่เป็นธรรม และการทำงานที่ไม่ได้หยุดหย่อนนี้ทำให้ร่างกายของ ฮันกยอง (Han Kyung) หรือ หานเกิง (Han Geng) ต้องทรุดโทรมอย่างมากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ซึ่งการฟ้องร้องครั้งนี้ของฮันกยอง ยังมีผลต่อวง ซูเปอร์จูเนียร์ - เอ็ม สมาชิกกลุ่มย่อยของซูเปอร์จูเนียร์ที่เข้าไปตีตลาดในจีนด้วย เนื่องจากฮันกยอง ผู้เป็นชาวจีนรับหน้าที่เป็นหัวหน้าวงซูเปอร์จูเนียร์-เอ็ม (Super Junior M) กลุ่มย่อยที่บุกตลาดจีน ตลาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มเค-ป็อปนี้ด้วย

และจากการฟ้องร้องดังกล่าวคณะผู้จัดงาน Happy Valley Pop Music Festival ครั้งที่ 9 ในจีนวันที่ 1 ม.ค. นี้ ก็ยังขอยกเลิกการปากฏตัวของหนุ่มๆ ซูเปอร์จูเนียร์-เอ็ม ด้วย ทางต้นสังกัด SM เองก็ได้ออกมาระบุว่าจะมีการพูดคุยกับฮันกยองเพื่อแก้ปัญหานี้อีกครั้ง

2. กระแส Boys over Flowers

การนำผลงานการ์ตูนเรื่อง Hana Yori Dango หรือ "รักใสๆหัวใจ 4 ดวง" กลับมาสร้างใหม่อีกครั้งในเวอร์ชันเกาหลี นับเป็นซีรีย์ที่ได้รับการต้อนรับมากที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้เลยก็ว่าได้ โดยเรื่องนี้ในเวอร์ชันเกาหลีถูกนำมาดัดแปลงและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Boys over Flowers ซึ่งได้รับความสนใจ ตั้งแต่ที่มีการประกาศว่าจะนำกลับมาสร้างใหม่และแคสติ้งนักแสดงว่าใครจะมารับบทเป็นตัวละครหลักในเรื่อง ซึ่งผู้ชมเองก็ตื่นเต้นและร่วมลุ้นเช่นกันว่านักแสดงนำทั้ง 5 คนนั้นจะเป็นใครบ้าง

ละครเริ่มเปิดตัวเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และเพียงแค่ 5 ตอนก็สามารถทำเรตติ้งได้ถล่มทลาย จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน 5 อันดับของซีรีย์เกาหลีที่ดังสุดๆเลยก็ว่าได้ โดยตอนจบสามารถทำเรทติ้งได้สูงถึง 34.8% ครองแชมป์เป็นซีรีย์ที่มีเรทติ้งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งด้วย

และจากซีรีย์เรื่องนี้ยังส่งให้นักแสดงทั้ง 5 คนอย่าง คูฮเยซอน (Goo Hye Sun), ลีมินโฮ (Lee Min Ho), คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong หัวหน้าวง SS501 ), คิมบอม (Kim Bum), คิมจุน (Kim Joon) และ คิมโซอึน (Kim So Eun) โด่งดังสุดๆและมีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนั้นซีรีย์เรื่องนี้ยังได้รับการโหวตให้เป็นละครที่ดีที่สุดในปี 2009 จากการประกาศรางวัลของ Seoul Drama Awards ทางด้าน คิมฮยองจุน ก็ได้รับการโหวตให้เป็นนักแสดงหนุ่มยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยเช่นกัน

3. การถือกำเนิดของวงเกิร์ลกรุ๊ป

ความสำเร็จของวงเกิร์ลกรุ๊ปดังอย่าง Girls Generation ( SNSD ), Wonder Girls และ 2NE1 นับเป็นบทพิสูจน์ได้ว่าปี 2009 นี้เป็นปีของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีอย่างแท้จริง และเป็นจุดเปลี่ยนแห่งวงการเพลง ให้หันมาจับตามองเกิร์ลแบนด์ในวงการเค-ป็อปกันมากขึ้น

ซึ่งนอกจาก 3 วงที่นับเป็นอันดับต้นๆของวงการแล้ว เกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นๆก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันทั้ง Brown Eyed Girls, T-Ara, KARA, Davichi, 4Minute, f(x) และ After School

โดย SNSD สร้างความโด่งดังเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ถูกจับตามมองมากที่สุดหลังจากส่งผลงานเพลง Gee ออกตีตลาดและกวาดรางวัลกลับบ้านจากเพลงนี้มากมาย

4. วันเดอร์ฟูล วันเดอร์ เกิร์ลส์

การเข้าสู่แวดวงอุตสาหกรรมบันเทิงของอเมริกา นับเป็นสิ่งที่ศิลปินเกาหลีหลายๆคนใฝ่ฝัน ซึ่งสิ่งนั้นเองที่สาวๆวันเดอร์เกิร์ลสามารถทำฝันนั้นให้เกิดขึ้นจริงได้ในปีนี้

และไม่เพียงแค่เข้าร่วมทัวร์กับ 3 พี่น้องบอยแบนด์ดังของอเมริกาอย่าง Jonas Brothers เท่านั้น เพลง Nobody ของพวกเธอยังเข้าไปติดในชาร์ต Billboard Top 100 เป็นศิลปินกลุ่มป็อปเกาหลีกลุ่มแรก ที่สามารถเข้าไปติดชาร์ตบิลบอร์ดได้สำเร็จด้วย

และมีรายงานเพิ่มเติมว่า พวกเธอเตรียมออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในอเมริกาปีหน้านี้แล้ว

5. การลาออกจากวง 2 PM ของ "แจบอม" (JaeBum)

2 PM นับได้ว่าปีนี้เป็นปีที่พวกเขาโด่งดังสุดๆจากผลงานเพลง Again and Again ที่ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชีย และจากความสำเร็จดังกล่าว ได้ส่งผลให้สมาชิกของวงได้รับความนิยมและมีแฟนคลับเกิดขึ้นจำนวนมากมาย และเมื่อได้รับความนิยมอย่างมากการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่บรรดาแฟนคลับต่างก็ทำกันเป็นกิจวัตรเช่นกัน จนเป็นที่มาของการลาออกของ "แจบอม" หัวหน้าวง 2PM ในครั้งนี้

โดยเรื่องราวเริ่มขึ้น เมื่อกลุ่มชาวเน็ตได้ค้นพบข้อความของแจบอม ที่เขียนระบุว่าเกลียดเกาหลีผ่านทาง Myspace ซึ่งเป็นข้อความที่เขาเขียนขึ้นสมัยที่เป็นเด็กฝึกหัดในสังกัดก่อนที่จะเปิดตัวในฐานะนักร้อง 2PM

ซึ่งข้อความเหล่านั้นระบุว่า "เกาหลีเป็นเกย์ ผมเกลียดคนเกาหลี" ซึ่งจากข้อความดังกล่าว ทำให้หนุ่มที่เกิดและเติบโตในอเมริกาอย่างเขาได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากคนเกาหลีไปทั่ว

และเพียงแค่ชั่วข้ามคืนเรื่องราวดังกล่าวก็เป็นข่าวใหญ่โตจนทำให้ แจบอม ต้องออกมาประกาศลาออกจากวงและบินกลับอเมริกาโดยทันที ซึ่งหลังจากนั้นเหล่าบรรดาแฟนคลับและชาวเกาหลีต่างก็ให้อภัย และก่อเกิดแคมเปญเรียกร้องให้แจบอมกลับคืนสู่วงการโดยเร็ว

แต่ถึงอย่างไรยังไม่มีการยืนยันหรือข่าวคราวจากทาง JYP ต้นสังกัดของแจบอมแต่อย่างใ ดเกี่ยวกับกรณีที่จะนำตัวเขากลับมาทำหน้าที่หัวหน้าวง 2PM เพราะเวลานี้ทางแจบอมเองก็ได้เริ่มชีวิตใหม่ที่แสนธรรมดาใน ซีแอทเทล วอชิงตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

6. การฆ่าตัวตาย

จากความสำร็จของ Boys over Flowers ส่วนหนึ่งต้องนับว่า มาจากการฆ่าตัวตายของหนึ่งในนักแสดงสมทบที่เล่นละครเรื่องนี้ เพราะหลังการฆ่าตัวตายของเธอ ทำให้ละครเรื่องนี้มีผู้ชมรอชมผลงานเธอผ่านหน้าจอมากขึ้น

จางแจยอน (Jang Ja Yun) สาวผู้รับบท ซันนี่ ในซีรีย์เรื่องนี้ ได้ฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่ละครเรื่องนี้ยังคงออกอากาศอยู่ การฆ่าตัวตายของเธอ ได้กลายมาเป็นประเด็นระดับชาติ หลังจากที่โน๊ตสุดท้ายอันเป็นสารสำคัญก่อนปลิดชีพตนเองของเธอถูกเปิดเผย โดยข้อความระบุว่า เธอถูกบังคับจากต้นสังกัดให้มีสัมพันธ์ทางเพศกับเหล่าบรรดาผู้สร้าง ผู้ผลิตรายการต่างๆในแวดวงบันเทิง รวมถึงเหล่านักการเมือง และผู้มีอิทธิพลของวงการด้วย ทางด้านอดีตผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ก็ต้องถูกส่งตัวข้ามแดนจากญี่ปุ่น เพื่อนำตัวมาสอบสวนในเกาหลีด้วย

ทางด้านนักแสดงอีกหนึ่งคนอย่าง วูซึงยอน (Woo Seung Yeon) ก็ฆ่าตัวตายในเดือน เม.ย. เช่นกัน นับได้ว่าการฆ่าตัวตายกลายเป็นสถิติการเสียชีวิตอันดับ 4 ของคนเกาหลีจากการจัดอันดับอย่างเป็นทางการของสถาบันสถิติแห่งชาติเกาหลี

7. การฟ้องร้องคดีของ"เรน" (Rain)

หลังจากที่มีชื่อเสียงโด่งดังโกอินเตอร์ไปนาน จนถูกฟ้องร้องเป็นคดีความที่ฮาวาย อเมริกา ข่าวคราวนี้ก็นับเป็นประเด็นใหญ่ในเกาหลีทีเดียว เนื่องจากเรนต้องจ่ายค่าเสียหายหลายล้านเหรียญสหรัฐ

เรน นักร้องหนุ่มชื่อดัง ถูกฟ้องร้องเมื่อครั้งจะไปจัดคอนเสิร์ตที่ฮาวาย แต่ก็สั่งยกเลิกคอนเสิร์ตกะทันหันเมื่อปี 2007 ทำให้ทางบริษัท Click Entertainment ฟ้องร้องเขาและต้นสังกัด ซึ่งเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ได้เดินทางไปขึ้นศาล ซึ่งศาลมีคำสั่งให้เรนและJYP Ent. ต้องจ่ายค่าเสียหายมูลค่ามหาศาลให้กับโปรโมเตอร์อย่าง Click Ent. เป็นจำนวน 8.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเรนต้องออกเองเป็นเงินถึง 4.25 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

จากการฟ้องร้องดังกล่าว นับได้ว่าเรียกความสนใจจากสื่อทั่วโลกได้มากทีเดียว ซึ่งหลังจากที่ถูกฟ้องร้อง เขาต้องเดินทางไปฮาวายเพื่อให้การต่อศาลบ่อยครั้ง และในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประกาศว่า เรนได้ชำระหนี้ให้กับทางบริษัท Click เป็นที่เรียบร้อย

เรน นับเป็นหนึ่งในศิลปินเกาหลีที่โด่งดังที่สุด เขาเคยมีชื่อติดหนึ่งใน "บุคคลที่ดูดีที่สุด" จากการจัดอันดับโดยพีเพิล และมีชื่อเป็นหนึ่งในร้อยคนผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในปี 2006 จากการจัดอันดับโดย ไทม์ แม็กกาซีน และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นฑูตของกระทรวงเกษตรเกาหลี เพื่อโปรโมทอาหารเกาหลีให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกด้วย

8. ดาราเกาหลีตบเท้าเข้าฮอลลีวูด

นับเป็นปีที่ดารานักแสดงเกาหลีต่างเดินแถวเข้าฮอลลีวูดกันเป็นว่าเล่น โดยมีทั้ง ลีบยองฮุน (Lee Byung Hun), เรน และ แดเนียล เฮนนี (Daniel Henny) นักแสดงนายแบบลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน ที่ต่างก็โกฮอลิวูดจนมีชื่อเสียงโด่งดังกันแทบทั้งสิ้น

โดยลีบยองฮุน ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง G.I. Joe: The Rise of Cobra ประกบกับนักแสดงมากมายทั้ง แชนนิง ทาทุม, เดนนิส เควด และ เซียนนา มิลเลอร์ นอกจากนั้นเขายังเล่นเรื่อง Storm Shadow ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่เขารับบทหลัก

G.I Joe ติดอันดับท็อปของบ็อกซ์ออฟฟิศหลังจากเปิดตัวในสัปดาห์แรก ซึ่งทำรายได้ไปถึง 54 ล้านเหรียญ และทำรายได้ในอเมริกาและทั่วโลกไปถึง 301 ล้านเหรียญ

ทางด้านเรนเองก็เปิดตัวกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องที่สอง Ninja Assassin ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย. โดยเรื่องแรกที่เขาแสดงในฐานะนักแสดงฮอลลีวูดคือ Speed Racer โดยเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ในส่วนของภาพยนตร์ Ninja Assassin สามารถทำรายได้ 34 ล้านเหรียญในอเมริกา

ส่วนแดเนียล เฮนนี ที่เป็นที่รู้จักอย่างมากจากละครเกาหลีสุดฮิตเรื่อง My Name is Kim Sam Soon ก็ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง X-Men Origins: Wolverine โดยรับบทเป็น Agent Zero เช่นกัน

ทางด้านจวนจีฮุน (Jun Ji Hyun) นักแสดงสาวจาก My Sassy Girl ก็เปิดตัวฮอลลีวูดในผลงานเรื่อง Blood: The Last Vampire ที่เข้าฉายในบางประเทศโดยทำรายได้ไป 5.7 ล้านเหรียญ

9. ภาพยนตร์เรื่อง Thirst เขย่าเมืองคานส์

จะมีใครคิดล่ะว่าภาพยนตร์แวมไพร์จะสามารถคว้าชัยในเมืองคานส์?

ภาพยนตร์เรื่อง Thirst เป็นผลงานการกำกับของ ปาร์คชานวุค โดยสามารถคว้ารางวัล Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ปี 2009 มาได้สำเร็จ โดยเฉือนชนะคู่แข่งอย่าง Fish Tank หนังอาร์ตจากประเทศอังกฤษไปได้

Thirst บอกเล่าเรื่องราวของ ซังฮยุน ( รับบทโดย ซองคังโฮ ) พระนักบวชที่ไปเป็นอาสาสมัครในแอฟริกาเพื่อทำการทดลองวัคซีน และเขาถูกฉีดด้วยสารที่ทำให้ถึงตายได้เพื่อใช้รักษาและถอนพิษ โดยวันหนึ่งเขาไอเป็นเลือดและเสียชีวิตลงก่อนจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในวันต่อมาแต่เป็นในฐานะแวมไพร์ และจากนั้นเขาก็เริ่มมีสัมพันธ์กับแทจู ( รับบทโดย คิมอ๊กบิน ) ภรรยาของเพื่อนเขา ซึ่งทั้งคู่ได้วางแผนฆ่าสามีของเธอด้วย

Thirst ยังเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 8 ที่ขายดีมากที่สุดในเกาหลีประจำปี 2009 โดยสามารถขายบัตรเข้าชมไปได้ถึง 2.22 ล้านที่นั่งด้วย

ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่นขงเกาหลีที่สามารถเข้าฉายที่คานส์ได้ยังมีเรื่อง Mother ที่แสดงนำโดย คิมฮเยจา, วอนบิน และจินกู ด้วย

10. เรื่องฉาวของวงการ

10 เรื่องเด่นของวงการเกาหลีคงจะจบลงแบบไม่สมบูรณ์ หากเรื่องฉาวต่างๆไม่ถูกรวมอยู่ในเรื่องเด่นนี้ด้วย จากเรื่องถูกกล่าวหาลอกเลียนผลงาน ไปจนถึงสัมพันธ์รักอื้อฉาว เหล่าคนดังในวงการไม่สามารถหลีกเลี่ยงกับข่าวฉาวที่อยู่ในแวดวงมายานี้ได้เลย

เริ่มจาก จี-ดราก้อน (G-Dragon) ที่พอปล่อยผลงานอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกของตนเองออกมาในเดือน ส.ค. ก็โดนกล่าวหาทันทีว่าเพลง Heartbreaker และ Butterfly ของเขาลอกเลียนผลงานเพลงดังของศิลปินตะวันตกมา ก่อนที่ทางบริษัท YG Ent. จะออกมากล่าวปฏิเสธโต้ข้อกล่าวหาทั้งหมด

นอกจากนั้นคอนเสิร์ตแรกของ จี-ดราก้อน ที่จัดขึ้นในเดือน ธ.ค. ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน เกี่ยวกับประเด็นการแสดงออกทางเพศอย่างโจ๋งครึ่มบนเวทีคอนเสิร์ต

ทางด้านจูจีฮุน (Joo Ji Hoon) เจ้าชายหนุ่มจากเรื่อง Princess Hours ก็ต้องถูกลากตัวขึ้นศาลเช่นกัน จากข้อหาพัวพันยาเสพติดขณะร่วมปาร์ตี้กับเหล่าเพื่อนนักแสดงในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม คำตัดสินก็ทำให้เขารอดพ้นจากคุก เนื่องจากศาลสั่งให้เขาบำเพ็ญประโยชน์และจ่ายค่าปรับเท่านั้น หลังจากที่เจ้าตัวอ้างต่อศาล ว่าการเข้ารับใช้ชาติเป็นทหารจะทำให้เขาปรับตัวเป็นคนที่ดีขึ้น

คังอิน (Kang In) สมาชิกจากบอยแบนด์ดังซูเปอร์จูเนียร์ พัวพันกับเหตุการณ์ฉาว 2 กรณี โดยในเดือนก.ย. เขาถูกควบคุมตัวหลังถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายผู้อื่นในบาร์แห่งหนึ่ง ก่อนที่ในเดือน ต.ค. เขาจะโดนสอบสวนหนักอีกครั้งจากข้อหาเมาแล้วขับ จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุชนแล้วหนี โดยรถคันดังกล่าว คังอิน ได้ขับไปชนกับแท็กซี่ขณะที่เขามึนเมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ ก่อนจะหายตัวไปจากทิ้งเกิดเหตุทันที

จากการกระทำดังกล่าว ทำให้เขาไม่สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆในฐานะสมาชิกบอยแบนด์ซูเปอร์จูเนียร์และต้องหยุดพักงานในวงการบันเทิงทั้งหมด ซึ่งเขาก็ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อแฟนๆที่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเขาด้วย

และข่าวฉาวล่าสุดคือนักแสดงหนุ่มที่เพิ่งโกฮอลลีวูดไปอย่าง ลีบยองฮุน ที่โดนนักศึกษาสาวสวยวัย 22 ปีสัญชาติแคนาดา - เกาหลี ออกมากล่าวหาว่าเขาหลอกลวงเธอให้มีสัมพันธ์ด้วยโดยให้คำมั่นว่าจะแต่งงานกัน ซึ่งงานนี้เธอออกมาฟ้องร้องเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอและเรียกร้องเงินเป็นจำนวนกว่า 119,000 เหรียญเพื่อเป็นค่าเสียหาย

Manager Online