Harry Potter

       ผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง "กอร์ดอน ชาน" (Gordon Chan / 陳嘉上) เตรียมหยิบวรรณกรรมกำลังภายในสุดคลาสสิค "มังกรหยก" มาสร้างเป็นภาพยนตร์ขึ้นจอใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี พร้อมรายงานว่าผู้สร้างเริ่มเปิดเจรจากับนักแสดงดังอย่าง "เติ้งเชา" (Deng Chao / 鄧超), "หลิวอี้เฟย" (Crystal Liu Yi Fei / 劉亦菲)  และ "ซุนลี่" (Betty Sun Li / 孫儷) แล้ว
       
       หลังประสบความสำเร็จจาก Painted Skin (畫皮) เมื่อหลายปีก่อน กอร์ดอน ชาน ก็เข็นหนังย้อนยุคออกมาอีกหลายเรื่องทั้งหนังแฟนตาซี Mural (畫壁) และหนังกำลังภายใน The Four (四大名捕) ทั้ง 3 ภาค ซึ่งก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จ และล้มเหลว

       ซึ่งล่าสุดมีข่าวโปรเจ็คใหม่ของผู้กำกับดังชาวฮ่องกงออกมาแล้ว โดยตามรายงานของสื่อจีนได้เผยว่าเขาได้เริ่มเตรียมงานสร้าง "มังกรหยก ภาคแรก" หรือ "ก๊วยเจ๋งยอดวีรบุรุษ" (Legend of the Condor Heroes / 射雕英雄傳) ผลงานอมตะของ กิมย้ง ออกมาเป็นหนังไตรภาคเลยทีเดียว
       
       มังกรหยก นับเป็นนิยายกำลังภายในเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของประวัติศาสตร์วรรณกรรมแนวนี้ และเป็นภาคแรกของไตรภาคนิยายกำลังภายในที่เล่าเรื่องแนวอิงประวัติศาสตร์ช่วงสิ้นสุดราชวงศ์ซ่ง จนถึงยุคท้ายของราชวงศ์หยวน ซึ่งที่ผ่านมาได้ถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์เพื่อฉายทางโทรทัศน์มาแล้วหลายรอบ โดยฉบับที่ยังอยู่ในความทรงจำของผู้ชมก็น่าจะเป็นของ TVB เมื่อปี 1983 ที่ หวงเย่อหัว (Felix Wong / 黃日華) และ องเหม่ยหลิง (Barbara Yung / 翁美玲) แสดงคู่กัน ส่วนฉบับปี 2003 ที่ หลีหย่าเผิง (Li Yapeng / 李亞鵬) กับ โจวซวิน (Zhou Xun / 周迅) ก็ประสบความสำเร็จไม่น้อยเช่นเดียวกัน

       สุดท้ายหน้าที่กำกับหนังภาคแยกของ Harry Potter ที่ชื่อว่า Fantastic Beasts อาจจะตกเป็นของผู้กำกับชาวอังกฤษ "เดวิด เยตส์" (David Yates) ที่เคยกำกับหนังชุดนี้มาถึง 4 ภาคนั่นเอง
       
       แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ของ Variety ยืนยันว่า เดวิด เยตส์ ที่กำกับหนัง Harry Potter มาถึง 4 ภาครวมถึงภาคจบอย่าง Deathly Hallows ได้ตอบตกลงในเบื้องต้น ที่จะรับหน้าที่กำกับภาคแรกของไตรภาคชุดใหม่ที่ชื่อว่า Fantastic Beasts and Where to Find Them ซึ่งจะเล่าเรื่องในโลกใบเดียวกับ Harry Potter แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ขั้นตอนต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองจึงยังไม่มีการประกาศอะไรอย่างเป็นทางการออกมา
       
       ข่าวระบุว่า Warner Bros. ต้องการผู้กำกับที่มีความคุ้นเคยกับหนังชุดนี้ ซึ่ง เดวิด เยตส์ ที่กำกับ Harry Potter มาถึง 4 ภาคก็น่าจะเหมาะสมที่สุด
       
       หลังหนังชุด Harry Potter ได้ปิดฉากด้วยตอนสุดท้ายไปเมื่อปี 2011 ทาง เจ.เค. โรว์ลิง และ Warner Bros. ผู้สร้างหนังชุดนี้จึงได้โอกาสกลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อเข็นหนังที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวข้องกับโลกของพ่อมดขึ้นมาใหม่ แต่จะเป็นเรื่องราวส่วนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ แฮร์รี พ็อตเตอร์ และเพื่อนๆ โดยมีการวางโปรแกรมฉายเอาไว้ในวันที่ 18 พ.ย. 2016 นอกจากนั้นทางบริษัทยังวางแผนจะสร้างหนังออกมาเป็นไตรภาคเลยทีเดียว
       

       เอมมา วัตสัน (Emma Watson) นักแสดงสาววัย 24 ปี ที่โด่งดังอย่างมากจากบท เฮอร์ไมโอนี ในภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ได้เข้าร่วมพิธีจบการศึกษาพร้อมกับเพื่อนนักศึกษากว่า 2,000 คนจากรั้วมหาวิทยาลัยบราวน์ ท่ามกลางความชื่นชมจากบรรดาแฟนๆที่ร่วมแสดงความยินดีอย่างมากมายในทวิตเตอร์
       
       โดยเอมมา ได้จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวรรณคดีอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยบราวน์ ที่ถูกจัดอยู่ใน ไอวี ลีก ถือเป็นสุดยอดมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
       
       โดยเอมมา ได้เริ่มเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เธอมีชื่อขึ้นแท่นเป็นนักแสดงหญิงที่มีรายได้สิบปีมากที่สุดในโลกจากการบันทึกโดย กินเนส บุ๊ค ออฟ เวิล์ด เรคคอร์ด
       
       ซึ่งเมื่อครั้งเข้าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยช่วงแรกๆ เอมมา เคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเธอค่อนข้างกังวลกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยว่าจะสามารถเข้ากับเพื่อนได้หรือไม่
       
       "วันแรก ฉันเดินเข้าไปในโรงอาหาร ทุกคนเงียบกันหมดเลยค่ะแล้วก็หันมามองที่ฉัน ฉันบอกกับตัวเองเลยว่า 'ไม่เป็นไรนะ เธอทำได้ หายใจลึกๆแล้วก็รวบรวมกำลังใจไว้' "
       
       แม้ว่าเจ้าตัวจะหลีกหนีปาปารัสซีที่ตามเป็นเงาตามตัวคอยเก็บภาพเธอไม่พ้น แต่เธอ ก็รวบรวมความกล้าขอใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยตามปกติเหมือนนักศึกษาทั่วไป
       
       “ฉันไม่เคยโดนขอลายเซ็นตอนอยู่ที่วิทยาลัยเลยค่ะ ฉันไปร่วมงานปาร์ตี้กับนักศึกษาเกือบร้อยคน แต่ไม่มีเลยสักคนเดียวที่โพสต์รูปลงในเฟซบุ๊ค”
       

       “รินะ นานาเสะ” (Rina Nanase) นางเอกหนังโป๊ญี่ปุ่นเสพติดศัลยกรรมจนส่งให้หน้าเปลี่ยน โดนล้อเหมือน “ด็อบบี้” (Dobby) หรือ”เอล์ฟประจำบ้าน”ในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) เจ้าตัวไม่แคร์บอกคนที่ล้อเป็นเพราะอิจฉา
       
       แม้จะโดนล้อเลียนอย่างหนักว่าหน้าเหมือนเอลฟ์ประจำบ้านในภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ แต่ดูเหมือน รินะ นานาเสะ สาววัย 25 ปี จะยังคงภูมิใจกับใบหน้าตนเอง พร้อมตอกกลับคนที่ล้อเลียนเธอว่าเป็นพวกขี้อิจฉา
       
       รินะ นานาเสะ นางเอกหนังโป๊ญี่ปุ่นวัย 25 ปี ที่ใช้ชื่อในวงการว่า รูมิ คันดะ (Rumi Kanda) ไม่ปิดบังเรื่องการทำศัลยกรรมของตนเอง โดยอัพเดตรูปลงในทวิตเตอร์มาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งเผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็น ตา,จมูก และคาง
       
       โดยภาพถ่ายเธอตอนอายุ 17 ปี เจ้าตัวได้เขียนใต้ภาพไว้ว่า “ฉันดูอ้วนจัง” แม้ว่าเธอจะดูผอมมากๆ นอกจากนั้นเธอยังได้แชร์ภาพถ่ายในช่วงที่เธอเป็นเน็ตไอดอลด้วย
       
       การเสพติดศัลยกรรมของ รินะ นานาเสะ ส่งผลให้เจ้าตัวทำศัลยกรรมไปหลายต่อหลายครั้งจนไม่รู้สึกว่าหน้าของตนเองเปลี่ยนแปลงไปมากนัก “ฉันไม่ได้รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก แต่ประหลาดใจกับปฏิกิริยาที่ได้รับกับคนที่ตามทวิตเตอร์มากกว่าค่ะ”
       

       "เจ.เค. โรวลิง" (J. K. Rowling) ผู้เขียนนิยายชุด "Harry Potter" และบริษัท Warner Bros. ร่วมยืนยันถึงแผนการสร้างหนังเรื่องใหม่ที่จะว่าด้วยโลกเวทมนตร์ แม้จะไม่ได้เป็นภาคต่อของ Harry Potter โดยตรงก็ตาม
       
       สิ้นสุดการรอคอยเสียทีสำหรับแฟนๆ ของ Harry Potter ทั่วโลกสำหรับเรื่องราวต่อเนื่องจากหนังสือ (และหนัง) 7 ภาค เมื่อล่าสุดทาง เจ.เค. โรวลิง และบริษัท Warner Bros. เปิดเผยว่าจะมีการสร้างหนังที่เล่าเรื่องราวในโลกเวทมนตร์ออกมาอีกภายใต้ชื่อ Fantastic Beasts and Where to Find Them แต่จะไม่ใช่เรื่องราวของตัวละครหลักอย่าง แฮร์รี พ็อตเตอร์ แต่อย่างใด
       
       สำหรับแฟนๆ ของหนังสือชุด Harry Potter ก็คงจะคุ้นเคยกับชื่อของ Fantastic Beasts and Where to Find Them อยู่บ้างเพราะนี่คือหนังสืออีกเล่มของ เจ.เค. โรวลิง ที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่ปี 2001 เพื่อหารายได้ให้กับการกุศล โดยสมมุติว่าหนังสือเล่มนี้เป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นหนังสือข้อมูลสัตว์ต่างๆ ที่มีรายชื่อเรียงลำดับตามอักษร A ถึง Z และเป็นหนังสือที่นักเรียนปีหนึ่งของโรงเรียนฮอกวอตส์ทุกคนต้องซื้อ โดยเนื้อหาในหนังจะเป็นการแต่งขึ้นมาใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มนี้นั่นเอง
       
       โดย เจ.เค. ได้กล่าวถึงแผนการสร้างหนังเรื่องใหม่ว่า "ถึงจะมีเนื้อหาอยู่ในชุมชนของโลกพ่อมด และแม่มดที่ฉันมีความสุขกับมันมากมาถึง 17 ปีเต็ม แต่ Fantastic Beasts and Where to Find Them ก็ไม่ได้เป็นทั้งภาคต่อ หรือภาคก่อนหน้าของ Harry Potter แต่อย่างใด เป็นเหมือนส่วนต่อขยายของโลกพ่อมดมากกว่า"
       

       ตัวแทนของนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเขา ที่ตอนนี้หนุ่ม "แดเนียล แรดคลิฟฟ์" (Daniel Radcliffe) ดูผอมซูบซีดไปมาก ว่าไม่ได้เกิดจากปัญหาอะไรให้วิตกกังวล แต่เป็นผลของความทุ่มเทในการแสดงละครเวที "Cripple of Inishmaan" ต่างหาก
       
       ทำให้แฟนๆ ต้องเป็นห่วงอยู่พอสมควรเมื่อหลายคนสังเกตเห็นว่าในระยะหลังหนุ่ม แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ดูเปลี่ยนแปลงไปมาก เหมือนน้ำหนักตัวจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาพล่าสุดที่เขาเพิ่งเดินออกมาจากโรงละครโนแอลโคเวิร์ดในกรุงลอนดอน สื่ออย่าง Daily Mail ถึงขั้นตั้งคำถามถึงปัญหาสุขภาพ และย้อนไปพูดถึงปัญหาดื่มสุราหนักของเขาเลยทีเดียว
       
       โดยนักแสดงหนุ่มวัย 23 ปีผู้โด่งดังไปทั่วโลกจากหนังชุด Harry Potter อยู่ระหว่างแสดงละครเวที The Cripple of Inishmaan ซึ่งเมื่อข่าวลือต่างๆ เริ่มแพร่สะพัดออกมา ทีมงานส่วนตัวของเขาจึงได้รีบอธิบายเพื่อทำให้เรื่องชัดเจนว่าหนุ่ม แรดคลิฟฟ์ ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไรให้เป็นห่วง แต่เพราะบทในละครเรื่องนี้เป็นงานที่ค่อนข้างจะเรียกร้องความทุ่มเทอยู่พอสมควร โดยเฉพาะทางด้านร่างกาย ในตอนนี้เขาจึงอาจจะดูผอมไปบ้าง
       
       นอกจากนั้นทีมงานของอดีตผู้รับบท แฮร์รี พ็อตเตอร์ ยังมีคำอธิบายว่า "ทุกคืนของการแสดงจะมีผู้ชมกลุ่มใหญ่มารออยู่ที่หน้าประตู และเขาจะใช้เวลาในการแจกลายเซ็น รวมถึงเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ถ่ายภาพ โดยไม่ได้ระมัดระวังถึงคลื่นความร้อนที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่พอสมควรในลอนดอนขณะนี้เท่าไหร่เลย"
       

       นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้จักในบทบาท “ลุงเวอร์นอน” (Vernon Dursley) จอมแสบในหนังชุด Harry Potter ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 65 ปี
       
       แม้จะได้รับการจดจำจากแฟนหนังรุ่นหลังในฐานะ ลุงเวอร์นอน ญาติที่ดูจะไม่ค่อยชอบหน้า แฮร์รี พอตเตอร์ ตัวเอกของหนังชุดพ่อมดน้อยนัก แต่อันที่จริงแล้ว ริชาร์ด กริฟฟิธส์ ถือว่ามีเส้นทางในงานสายการแสดงที่ยาวนาน มีผลงานในวงการมาถึงเกือบ 40 ปี และเคยคว้ารางวัลโทนีเกียรติยศในแวดวงละครเวทีมาแล้ว จึงถือว่าเป็นเรื่องเศร้าและความสูญเสียของวงการบันเทิงอังกฤษอีกครั้ง เมื่อครอบครัวของนักแสดงวัย 65 ปี ได้ยืนยันถึงข่าวการจากไปของเขาด้วยโรคหัวใจเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา
       
       ผลงานในบทสมทบจากหนังดังๆ ที่ผ่านมาของเขาได้แก่ Withnail and I, The French Lieutenant's Woman, Chariots of Fire และ Gandhi เป็นต้น ส่วนในแวดวงละครเวที กริฟฟิธส์ เคยคว้ารางวัล โทนี สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก The History Boys เมื่อปี 2006 มาแล้ว
       
       “ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่จะได้บอกว่า ครั้งหนึ่งได้เคยมีโอกาสรู้จักกับเขาครับ” แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) กล่าวถึงการจากไปของ กริฟฟิธส์ ที่ทั้งสองมีโอกาสได้ร่วมงานกันในหนัง Harry Potter ถึง 8 ภาค แม้ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ต่างฝ่ายต้องสวมบทบาทจะไม่ค่อยดีนัก แต่หลังฉากผู้รับบทพ่อมดน้อยแฮร์รี ได้กล่าวยกย่องนักแสดงรุ่นใหญ่ผู้นี้มาตลอด ว่าสอนอะไรให้กับเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดง หรือการใช้ชีวิตในวงการ ตั้งแต่การร่วมงานกันครั้งแรกในหนังภาค 1 เมื่อตอนที่ แรดคลิฟฟ์ ยังอายุแค่ 10 กว่าขวบเท่านั้น
       

ดาราสาวเจ้าของบท “เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์” (Hermione Granger) แห่งหนัง Harry Potter ยันยันว่า เธอจะกลับไปทำหน้าที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยบราวน์อีกครั้งอย่างแน่นอน หลังหยุดพักเพื่องานหนังมาช่วงใหญ่ๆ
       
       ตัวแทนของ เอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) ยืนยันกับทางเว็บไซต์ Gossip Cop ว่า นักแสดงสาววัย 22 ปี จะกลับไปเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยบราวน์อีกครั้งในเดือน ม.ค.2013 เพื่อศึกษาต่อให้สำเร็จ หลังจากเข้าเรียนเมื่อเดือน ก.ย.2009 และตัดสินใจพักการเรียนเอาไว้ก่อนเมื่อปี 2011 เพื่อทุ่มเทให้กับการโปรโมตหนัง Harry Potter and the Deathly Hallows: Part II ซึ่งเข้าฉายในเดือน ก.ค.ปีนั้น แม้เธอจะรักการใช้ชีวิตที่นี่มากอย่างที่เขียนในบล็อกกว่า “อย่างที่ทุกคนรู้ ฉันรักบราวน์ และรักการเรียนมากกว่าสิ่งใดๆ ค่ะ”
       
       “แต่ระยะหลังชีวิตของฉันมันเริ่มยุ่งเหยิง กับการเป็นนักเรียน และงานในด้านอื่น ซึ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะทำให้มันลงตัว ฉันจะยังพยายามเพื่อให้ได้ปริญญา อาจต้องใช้เวลาเรียนนานขึ้นกว่าที่คิด ซักเทอมหรือสองเทอม” โดยเธอมีโอกาสใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาของบราวน์ หนึ่งในสถาบันระดับกลุ่มมหาวิทยาลัยไอวีลีก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโพรวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาประมาณ 18 เดือน
       
       ข่าวการหยุดพักเรื่องเรียนเมื่อปีที่แล้ว ยังทำให้เกิดข่าวลือขึ้นมาว่า วัตสัน อาจพบกับความลำบากในฐานะนักศึกษา โดยเฉพาะการโดนแกล้งและล้อเลียนจากบทบาทแม่มดน้อยคนเก่งในหนังชุด Harry Potter จากบรรดาเพื่อนนักศึกษาคนอื่น ซึ่งเธอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต่อมาสาวอังกฤษวัย 22 ปี ได้ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเป็นเวลา 1 เทอม ซึ่งยังทำให้เธอได้พบกับ วิล อดาโมวิคซ์ แฟนหนุ่มคนปัจจุบันด้วย
       

       นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังจากหนังจากหนังชุด “แฮร์รี พอตเตอร์” (Harry Potter) เป็นคนดังแดนผู้ดีรายล่าสุด ที่ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่วิ่งคบเพลิงสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ท่ามกลางชาวลอนดอนนับร้อย ที่มาคอยให้กำลังใจ
       
       รูเพิร์ต กรินต์ (Rupert Grint) นักแสดงผู้สวมบทบาทเป็น “รอน วีสลีย์” (Ron Weasley) ตัวละครเด่นจากหนังชุด แฮร์รี พอตเตอร์ ทั้ง 8 ภาค ได้รับหน้าที่วิ่งคบเพลิงโอลิมปิกเมื่อช่วงวันพุธที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ในระยะทางที่เริ่มต้นตั้งแต่มหาวิทยาลัยมิดเดิลเซกซ์
       
       โดยหนุ่มวัย 23 ปี บอกว่า ก่อนหน้านี้ เขาเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ว่า การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อันที่จริงในชีวิตประจำวันเขาเองก็ไม่ค่อยได้วิ่งไปไหนซักเท่าไหร่อยู่แล้ว กรินต์ ยังบอกอีกว่าอย่างน้อยการทำหน้าที่ในวันนี้ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่หนักหนาอะไรเกินไปนัก เพราะเส้นทางของเขาส่วนใหญ่เป็นการวิ่งลงเนินนั่นเอง
       
       “เบลอร์ไปหมดเลยครับ แต่ผมก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโอลิมปิก ยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นทุกคนตื่นเต้นกัน และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมคิดว่าจะต้องเป็นการแข่งขันที่สุดยอดแน่ๆ” รูเพิร์ต กรินต์ กล่าว
       
       การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกประจำปี 2012 จะเสร็จสิ้นลงในวันศุกร์นี้แล้ว เมื่อคบเพลิงเดินทางไปถึงสนามกีฬาโอลิมปิกกรุงลอนดอน ซึ่งหมายความว่า การแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ จะได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Manager Online

มีการแสดงความเห็นออกมามากมายเกี่ยวกับกระแสเค-ป็อปของเกาหลีใต้ที่ตอนนี้ระบาดไปทั่วทั้งในเอเชียและยุโรป ส่งให้มีการคาดการณ์ถึงอนาคตของกระแสดังกล่าวว่าจะไปในทิศทางใด โดยทางทางโคเรียไทมส์ได้ออกมาแสดงทรรศนะเชื่อว่า กระแสเกาหลีนี้จะอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่ยืนยาวอย่างที่หลายๆคนคาดการณ์ไว้
       
       การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของกระแสเกาหลีในบ้านเรา ในเอเชีย และในอีกหลายๆประเทศทั่วโลก นับเป็นความสำเร็จอย่างมากที่สร้างเม็ดเงินและรายได้อันมหาศาลเข้าประเทศเกาหลีใต้ แต่จากกระแสดังกล่าว ได้มีนักลงทุนและนักวิเคราะห์ออกมาเผยถึงมุมมองที่มีต่อกระแสนี้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด โดยหลายประเทศเชื่อว่าจะสามารถคงอยู่ไปได้อีกนาน ในขณะที่อีกหลายๆประเทศคาดการณ์ว่าไม่นานอย่างที่คิด
       
       "ต่างชาติ 6 ใน 10 ประเทศ เชื่อว่ากระแสนิยมในวัฒนธรรมเกาหลีทั้ง เค-ป็อป, ภาพยนตร์และละครทีวี จะลดความนิยมลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า" โคเรียไทมส์รายงานถึงตัวเลขผลการสำรวจของกระทรวงวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยวของเกาหลีที่ร่วมมือกับองค์กรเกาหลีสำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ที่เผยตัวเลขออกมาว่า 60% จาก 3,600 คนใน 9 ประเทศ แสดงความไม่แน่ใจว่ากระแสเกาหลีจะประสบความสำเร็จคงความนิยมไปได้อีกนาน
       
       "เหตุผลหลักที่ต่างชาติไม่แน่ใจว่าเกาหลีจะประสบความสำเร็จได้อีกต่อไปเป็นเพราะ ประเทศเกาหลีใต้มี 'มาตรฐานของเนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ' โดยผู้ตอบแบบสำรวจถึง 20.5% โหวตให้กับประเด็นนี้เป็นเหตุผลหลัก"
       

ดูเหมือนว่าในจอภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) "แดเนียล แรดคลิฟฟ์" (Daniel Radcliffe) และ "รูเพิร์ท กรินท์" (Daniel Radcliffe) 2 นักแสดงนำจะสนิทสนมและซี้กันมากๆ แต่เจ้าตัวเผยเองชีวิตจริงแตกต่างกันสิ้นเชิงเพราะแทบจะไม่ติดต่อพูดคุยกันเลย
       
       แม้ว่าในจอ แดเนียล แรดคลิฟฟ์, รูเพิร์ท กรินท์ และ เอมมา วัตสัน (Emma Watson) จะเป็นเพื่อนซี้ที่สนิทกันมาก แต่แดเนียล นักแสดงวัย 22 ปีได้พูดถึงเพื่อนนักแสดงว่า แทบจะไม่คุยกันเลย ผ่านทางซันเดย์ มิเรอร์
       
       "มีความคิดที่ว่าเอมมา วัตสัน, รูเพิร์ท และตัวผมเอง เรา 3 คนเป็นเพื่อนสนิทกันซึ่งต้องออกไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมแค่อยากจะบอกตรงนี้เลยว่า เอมมากับผมเราส่งข้อความหากันตลอด แต่รูเพิร์ทกับผมเราสองคนไม่เคยติดต่อส่งข้อความหากันเลย เราไม่เคยเจอกันเลยด้วย"
       
       "ถ้าผมได้เจอเขาทุกๆ 6 เดือน มันก็จะเป็นทำนองว่า 'หวัดดี เป็นไงบ้าง?' ประมาณนั้นครับ" นักแสดงหนุ่มกล่าวเพิ่มเติม
       
       การเปิดเผยครั้งนี้ เรียกได้ว่าทำเอาแฟนๆของหนังสือและภาพยนตร์หลายคนที่ติดตามผลงานพวกเขามานานกว่าสิบปีถึงขั้นงงกันไปตามๆกัน
       

"แดเนียล แรดคลิฟฟ์" (Daniel Radcliffe) นักแสดงหนุ่มชื่อดัง เกือบพลาดบท แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาไปทั่วโลก เหตุเพราะพ่อแม่กังวลว่าจะรบกวนชีวิตส่วนตัวของเขา เพราะนึกว่าหนังถ่ายทำในลอสแองเจลิส

แม้ว่าภาพยนตร์จะอวสานและลาโรงไปนานแล้ว แต่แดเนียล แรดคลิฟฟ์ นักแสดงหนุ่มวัย 22 ปี ผู้รับบทพ่อมดน้อยแฮร์รี ในภาพยนตร์ Harry Potter ได้ออกมากล่าวว่า เขาเคยเกือบต้องพลาดบทที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาบทนี้ เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาไม่มั่นใจที่จะให้เขาเข้ารับการคัดเลือกตัวนักแสดง เหตุเพราะทำให้เขาอาจต้องไปอยู่ที่ลอสแองเจลิสซึ่งไกลจากบ้านเกิดประเทศอังกฤษนานเกินไป

อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อ คริส โคลัมบัส ที่พบ แดเนียล ครั้งแรกในรายการโทรทัศน์ของเดวิด คอปเปอร์ฟีลด์ที่อังกฤษ ตัดสินใจถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งหมดในประเทศอังกฤษแทน

"คริส โคลัมบัส ได้พบเดวิด คอปเปอร์ฟีลด์ แล้วพูดว่า 'ผมอยากออดิชันเด็กคนนั้น' "

"พวกเขามาพบพ่อแม่ผม ในตอนนั้น ข้อตกลงในสัญญาที่ต้องทำ ผมคาดว่าน่าจะระบุไว้ว่าถ่ายทั้งหมด 6 ตอน และทั้งหมดจะถ่ายในลอสแองเจลิส พ่อและแม่ของผมก็พูดออกมาเลยว่า 'มันรบกวนชีวิตเขามากเกินไป มันไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด' "

"ผมไม่รู้ว่าเรื่องแบบนั้นเคยเกิดขึ้น จากนั้นประมาณ 3 หรือ 4 เดือนจากนั้นนี่แหละ ข้อตกลงก็ได้เปลี่ยนแปลงไป และตกลงว่าจะถ่ายทำกันแค่ 2 ตอนเท่านั้น และทั้ง 2 ตอนจะถ่ายทำในอังกฤษ พวกเขาก็เลย 'โอเค งั้นให้เขาไปออดิชันได้' ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากตรงนั้นจริงๆ"

บทพ่อมดน้อย แฮร์รี พอตเตอร์ ได้ทำให้แดเนียล โด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลกและขณะที่เขารู้สึกดีกับโอกาสต่างๆที่หยิบยื่นเข้ามาในชีวิต เขาก็ยอมรับด้วยว่าชื่อเสียงที่โด่งดังก็ทำให้เขายากที่จะรับมือกับมันเช่นกัน

"การเป็นคนมีชื่อเสียงเป็นสิ่งที่น่ากลัว เรื่องจริงเลย มันน่าสยอง แล้วก็เลวร้ายจริงๆ"

Manager Online

ผ่านมานานร่วมสิบปีกับการโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มในภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) มาตอนนี้ เหล่านักแสดงเด็กหลายคนจากเรื่องนี้ต่างโตเป็นหนุ่ม-สาว พร้อมๆ กับคนดูที่ต่างก็ใจหายเมื่อภาพยนตร์เดินทางมาถึงตอนจบ

3 เพื่อนซี้ในเรื่องที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทในชีวิตจริงทั้ง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe), เอมมา วัตสัน (Emma Watson) และ รูเพิร์ต กรินต์ (Rupert Grint) ต่างก็รู้สึกเป็นเกียรติที่พวกเขาถูกเลือกให้เป็น 3 นักแสดงนำของแฮร์รี พอตเตอร์ ที่มีความยาวถึง 7 ภาค 8 ตอน และในตอนจบอย่าง Harry Potter and the Deathly Hallows : Part 2 ก็เพิ่งลงโรงฉายตอนจบกวาดเงินจากผู้ชมหลายล้านคนทั่วโลก

“สัมพันธภาพระหว่างผม, รูเพิร์ต และ เอมมา ไม่มีวันแตกสลาย” แดเนียล ผู้รับบทแฮร์รี พอตเตอร์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนนักแสดงนำ

ในระหว่าง 10 ปี ที่พวกเขาโลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มในฐานะนักแสดงจากแฮร์รี พอตเตอร์ ในเรื่องของชีวิตส่วนตัวและการทำงานในวงการ เหล่านักแสดงก็ยังคงสวมหน้าที่และบทบาทอื่นด้วยเช่นกัน อย่างแดเนียล เองก็เคยต้องรับบทบาทท้าทายเปลือยล่อนจ้อนขณะแสดงละครเวที Equus ขณะพักการถ่ายทำแฮร์รี พอตเตอร์ เมื่อปี 2007

“มันไม่เคยเป็นประเด็นเลยจริงๆ” นักแสดงหนุ่มพูดถึงฉากนู้ดดังกล่าวที่แม้จะหวือหวาแต่ก็ไม่ได้ถูกวิจารณ์หนักหน่วง นอกจากนั้นปัญหาส่วนตัวที่เขาติดเหล้า เจ้าตัวก็ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ดื่มหนักและชอบปาร์ตี้ใช้ชีวิตแบบคนดังว่า “ผมดื่มแล้วผมกลายเป็นคนมั่นใจที่จะทำสิ่งต่างๆ สนุกกับทุกๆ อย่างรอบตัว”

นอกจากนั้นเขายังกล่าวยอมรับว่าเขาได้เลิกเหล้าแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่ผ่านมา “ไม่อายครับ ที่จะบอกว่าตอนนี้ผมมีความสุขดีกับการใช้ชีวิตแบบเงียบๆ”

ทางด้าน เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 21 ปีเองก็ได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยควบคู่ไปกับการทำงานในวงการ ก่อนที่เธอจะพบว่าการทำทั้งสองอย่างให้ดีพร้อมๆ กันมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะหลังจากที่เธอเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Brown แล้ว 18 เดือนต่อมา เธอก็ต้องขอพักการเรียนทันที “การเป็นนักศึกษาและรับผิดชอบงานของฉันอย่างเต็มที่ไปด้วย มันกลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากสักหน่อย”

หลังจากที่ "แดเนียล แรดคลิฟฟ์" (Daniel Radcliffe) นักแสดงหนุ่มชื่อดังออกมาเผยว่า เขาติดเหล้าอย่างหนักจนเป็นข่าวฮือฮาไปทั่ว "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) เพื่อนนักแสดงเผยว่า ไม่เคยรู้เรื่องที่เขาติดเหล้าเลย พร้อมชมว่าเป็นมืออาชีพไม่มีปัญหาขณะทำงาน และยอมรับว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็เคยเมาปลิ้นไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ พ่อมดชื่อดังจากแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) เพิ่งเปิดเผยความลับส่วนตัวของเขาเรื่องที่ติดเหล้าอย่างหนักกับทางนิตยสาร GQ ของอังกฤษ โดยระบุว่า เขาดื่มเหล้าเพื่อจะได้สนุกกับชีวิตและใช้ชีวิตในแบบคนดัง ก่อนจะรู้ตัวว่าไม่ได้เหมาะกับตนเองเลย ซึ่งทางด้านเอมมา วัตสัน ที่ร่วมงานกับเขามานานนับสิบปีเผยไม่เคยสังเกต และไม่รู้เรื่องเลย ว่าเพื่อนของเธอกำลังต่อสู้กับปัญหาดังกล่าวอย่างหนักอยู่

"ด้วยความสัตย์จริงค่ะ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากมายเลยจริงๆ" นักแสดงสาวเผยกับ เดวิด เลทเทอร์แมน พิธีกรรายการ Late Show เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

"แต่เท่าที่ฉันทราบคือ เขาไม่เคยมีอาการป่วยให้เห็นเลย เขาเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพที่สุด เป็นคนที่วิเศษมาก"

ซึ่งเอมมา ยังยอมรับด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแดเนียลแตกต่างออกไปทันที เมื่อพวกเขารับสารควบคุมดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย

"ฉันหมายถึง ค่ะ ใช่ ฉันเคยลองแอลกอฮอลล์ แน่นอน ฉันลองแล้ว ฉันหมายถึง เอ่อ มันมีสารบางอย่าง อย่างเช่น วิสกี้...ฉันตายตรงนี้ดีกว่า" นักแสดงสาวพูดพร้อมทำท่าแกล้งตายแบบติดตลก เมื่อเธอพยายามจะหลีกเลี่ยงคำถามดังกล่าว

"ที่อังกฤษเราดื่มได้ตั้งแต่อายุ 18 แต่ตอนนี้ฉันก็สามารถดื่มได้อย่างถูกกฏหมายจริงๆในสหรัฐฯ ฉันอายุ 21 แล้ว"

แม้ว่าเธอพยายามที่จะหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาดังกล่าว แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ครั้งหนึ่งเธอเองก็เคยเมาปลิ้นเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป

"ในชีวิตฉันเคยเมามากๆมาแล้วครั้งหนึ่ง เหมือนที่ทุกๆคนก็เคย ฉันเมา ฉันเคยเมา และฉันน้อมรับกับเรื่องนั้น" นักแสดงสาวพูดพร้อมลุกขึ้นย่อและก้มศีรษะยอมรับอย่างยินดี

Manager Online

เดินทางมาถึงตอนจบแล้วสำหรับภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ที่ล่าสุดในงานเปิดตัวภาพยนตร์ตอนจบ "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) ถึงกับปล่อยโฮต่อหน้าแฟนๆหลายพันคน

หลังจากถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ 7 ภาค 8 ตอน รวมเป็นเวลานานถึง 10 ปี มาตอนนี้ภาพยนตร์เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว โดยในงานเปิดตัวภาพยนตร์ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part II ที่ย่าน Trafalgar Square ในกรุงลอนดอน เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 21 ปี ก็ปล่อยโฮออกมาแบบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ รวมถึงเพื่อนนักแสดงอีกหลายคน

โดยระหว่างที่รูเพิร์ท (Rupert Grint) กำลังพูดต่อหน้าแฟนๆ พร้อมกล่าวขอบคุณเจเค โรลลิง ในสิ่งที่เธอเขียนถึงคนหัวแดงในเรื่องนี้ และขอบคุณแฟนๆ รวมถึงทีมงานทุกคน เอมมาก็ร้องไห้ออกมาโดยมี เดวิด เฮย์แมน โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ทำหน้าที่คอยปลอบเธอซบไหล่เขา ก่อนที่เขาจะจูบหน้าผากเธอเป็นการปลอบโยน

"มันยากที่จะเชื่อจริงๆ มันยังไม่จบ มันเหลือเชื่อ มันไม่รู้จะพูดอย่างไร มันรู้สึกแปลกมากจริงๆ ช่วงเดือนหลังๆมานี่ ผมรับไม่ได้นิดหน่อย แต่ผมคิดว่า เราต้องรับความจริงที่ว่ามันจบแล้วจริงๆ เวลาที่ผมเห็นโปสเตอร์เขียนตัวอักษรตัวใหญ่ว่า 'ทุกอย่างจบแล้ว' มันยิ่งฝังลึกลงในใจ ผมจะคิดถึงเรื่องนี้ มันวิเศษที่สุด" รูเพิร์ท กล่าวถึงการอำลาภาพยนตร์เรื่องนี้

ด้านเอมมา ก็กล่าวถึงผลงานเรื่องนี้เช่นกัน "ฉันคงจะคิดถึง รูเพิร์ท และ แดนมากจริงๆค่ะ ฉันจะคิดถึงการได้เป็นเฮอร์ไมโอนี ฉันชอบที่ได้อยู่ในโลกของเธอ มันไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูดดี แต่ฉันเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับบทนี้และได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับความรักและกำลังใจและการสนับสนุนผลงานทุกชิ้นของพวกเรา ฉันมีช่วงเวลา 10 ปีที่วิเศษที่สุดในชีวิตของฉัน ขอบคุณมากๆค่ะ"

ทางด้านแดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) ก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน "สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับผมอีกแล้ว มันวิเศษมาก ผมแค่ปล่อยให้ตัวเองสนุกและมีความสุขไปกับมันจนกระทั่งตอนจบ เพราะว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว มันค่อนข้างเศร้าเล็กน้อย แต่ก็พูดได้จริงๆว่า มันเป็นวันที่มีความสุขมากครับ"

The Guardian - จากเด็กชายผู้สวมบทบาทเป็นพ่อมดน้อย Harry Potter เมื่อ 10 ปีก่อน “แดเนียล แรดคลิฟฟ์” (Daniel Radcliffe) เติบใหญ่เป็นเด็กหนุ่มอายุ 21 ปี ซึ่งไม่ต้องกังวลต่อการเปิดเผยเรื่องที่ว่าเขาเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างหนัก ระหว่างช่วงถ่ายทำภาพยนตร์ Harry Potter and the Half-Blood Prince ในปี 2009 แต่ปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้แล้ว
       
       เลิกเหล้า, เลิกปาร์ตี้, มีความสุขกับชีวิตเรียบง่าย
       
       ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งล่าสุด นักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ยอมรับว่าครั้งหนึ่งเขาเคยดื่มเครื่องดองของเมา ในระดับที่เรียกว่าได้ “เกินพอดี” ระหว่างการถ่ายทำหนังชุด Harry Potter ในภาคหลังๆ “ผมเคยต้องพึ่งพาเหล้าในการเอ็นจอยกับชีวิต มีช่วงหนึ่งในปีหลังๆ ที่ผมหลงระเริงไปกับการใช้ชีวิตในแบบคนดัง ซึ่งอันที่จริงแล้วช่างไม่ได้เหมาะกับตัวของผมเอาเสียเลยครับ”
       
       หนุ่มวัย 21 ปี ยอมรับกับ GQ ว่าการใช้ชีวิตแบบคนดังที่ว่านั้น เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Half-Blood Prince ในปี 2009 อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่านับจากเดือน ส.ค. 2010 ตนเองก็ไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเลย “ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกครับ ถ้าจะมีความสุขกับชีวิตง่ายๆ และนั่นคือคำตอบสำหรับชีวิตในช่วงหลังของผม”
       
       “ถึงแม้ผมอยากจะเป็นคนประเภทที่ไปเที่ยวงานปาร์ตี้ ดื่มซักแก้วสองแก้ว มีเวลาดีๆ แต่สุดท้ายมันไม่เวิร์คสำหรับผมครับ ทำแบบนั้นไม่ขึ้นจริงๆ” เขากล่าว “ผมอาจจะนั่งอยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือ หรือไปทานดินเนอร์กับใครซักคน พูดคุยกับคนที่ผมรัก หรือพูดคุยกับคนที่ทำให้ผมหัวเราะ”
       

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาววัยรุ่นชื่อดังเปิดปากยอมรับว่าครั้งหนึ่งเธอเคยแอบชอบ"ทอม เฟลตัน" (Tom Felton) เพื่อนนักแสดงระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter)

เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 21 ปี ที่รับบทเฮอร์ไมโอนีในภาพยนตร์สุดฮิตแฮร์รี พอตเตอร์ ได้ยอมรับแล้วว่าเธอเคยแอบชอบ ทอม เฟลตัน ที่รับบทตัวร้ายในเรื่องอย่าง เดรโก มัลฟรอยด์ ระหว่างที่พวกเขาถ่ายทำภาพยนตร์ 2 ภาคแรกด้วยกัน

"เขาเป็นคนที่ฉันชอบคนแรก" เอมมากล่าวกับนิตยสาร Seventeen "เขารู้ดี เราเองก็คุยกันเรื่องนี้ เรายังนั่งหัวเราะกับเรื่องนี้กันอยู่เลย ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งมันเยี่ยมมากเลย!"

ขณะที่ตอนนี้ ทอม เฟลตัน วัย 23 ปี กำลังออกเดทอยู่กับ เจด โอลิเวีย แฟนสาวของเขา เอมมา วัตสัน เองก็กำลังอยู่ในช่วงค้นหาความรัก โดยเธอยอมรับว่าเมื่อไหร่ที่ต้องออกเดท เธอมักจะผู้เล่นที่ยอดแย่เสมอ

"ฉันมันพวกขี้หงุดหงิด ใจร้อน มันเป็นนิสัยยอดแย่ของฉันเลย" นักแสดงสาวกล่าว "ถ้าฉันอยากเจอใคร ฉันต้องได้เจอ แต่ถ้าฉันไม่อยากเจอ ฉันก็ไม่เจอ เพื่อนฉันมักจะบอกฉันอยู่เสมอว่า ฉันต้องเล่นตัวเพราะว่าฉันมักจะบอกกับพวกผู้ชายว่า 'ฉันชอบนาย เราออกไปเที่ยวกัน' แต่เพื่อนฉันบอกว่า 'เธอทำแบบนั้นไม่ได้นะ! เธอต้องแกล้งให้ความหวังเขา' มันเป็นเหมือนฝันร้ายเลย ฉันยังคงไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่ดี"

Manager Online

ขณะที่คนจำนวนมากยังรอคอยอย่างมีความหวังสำหรับหนังสือเล่มที่ 8 จากนิยายเยาวชนชุด Harry Potter แต่ผู้สวมบทบาทเป็นพ่อมดน้อยอย่าง “แดเนียล แรดคลิฟฟ์” (Daniel Radcliffe) กลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ พร้อมยอมรับว่าเขาต้องการก้าวไปสู่บทใหม่ ของชีวิตนักแสดงเสียที

เมื่อปีก่อนในการเป็นแขกรับเชิญของรายการ โอปราห์ วินฟรีย์ นักเขียนชาวเมืองผู้ดี เจ. เค. โรวลิ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสกลับมาจรดปากกาเขียนเรื่องราวของพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ในหนังสือเล่มที่ 8 หรือเล่มต่อ ๆ ไปว่า “ฉันคิดว่ามันจบแล้วนะ แต่คุณก็ไม่รู้หรอก อะไรก็เกิดขึ้นได้” ซึ่งนั่นกลายเป็นคำให้สัมภาษณ์ ซึ่งเหล่าสาวกของ Harry Potter ที่ยังไม่อยากให้นิยายเรื่องนี้จบลงเพียงแค่ 7 เล่มเท่านั้น ได้มีความหวังกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว รวมถึงผู้สวมบทบาทเป็นพ่อมดน้อยขวัญใจเด็กๆ อย่าง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ด้วย

อันที่จริงแล้วนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษยอมรับว่าเขาตกใจมาก กับข่าวที่เกิดขึ้น ถึงขั้นที่ว่าต้องรีบติดต่อถามความจริงกับ เจ. เค. โรวลิ่ง โดยทันทีเลยทีเดียว

“ผมกังวลมากครับ เลยส่งข้อความไปหาเธอว่า ‘มันจริงเหรอครับ ที่ว่าคุณจะเขียนหนังสือ Harry Potter อีกเล่ม’” หนุ่มวัย 21 ปี ให้สัมภาษณ์กับ Celebuzz.com

ซึ่งเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเขาก็ได้รับคำตอบจากนักเขียนคนดัง “เธอบอกว่าพอใจในการแสดงของผมในหนัง Harry Potter 7: Part 1 เลยจะให้รางวัล เป็นคำสัญญาว่าจะไม่เขียนหนังสือเกี่ยวกับ แฮร์รี อีกแล้ว” แรดคลิฟฟ์ เล่า

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ จะมีผลงานใหม่คือหนังเรื่อง The Woman in Black ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในปีหน้า ขณะที่ในปีนี้เขาจะทุ่มเทให้กับการแสดงละครเพลงเรื่องแรก หลังจากต้องใช้เวลากว่า 10 ปี กับหนังแฟนตาซีทุนสูงอย่าง Harry Potter

“ผมกำลังยุ่งอยู่กับละครเพลงเรื่อง How to Succeed in Business Without Really Trying ทำให้ไม่ค่อยได้คิดถึง Harry Potter เท่าไหร่ในตอนนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผมอาจจะต้องสับสวิตช์เพื่อเป็น แฮร์รี่ ในบางวัน แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาหวนรำลึกถึงอดีตเหล่านั้นเท่าไหร่แล้วครับ”

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาวชื่อดังยืนยันแล้วเตรียมย้ายจากมหาวิทยาลัยบราวน์ไปเรียนที่สถาบันอื่น พร้อมปฏิเสธข่าวไม่ได้ออกเพราะถูกเพื่อนร่วมชั้นแกล้ง

เอมมา วัตสัน นักแสดงสาวชื่อดังจากแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ได้ออกมายืนยันข่าวแล้วว่าเธอเตรียมย้ายที่เรียน ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังมีข่าวว่าเธอถูกเพื่อนร่วมชั้นคอยเสียดสีอยู่ตลอดเวลาจนเริ่มรับไม่ได้

วาเนสซา เดวีส์ ประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของเธอได้ออกมายืนยันข่าวการย้ายที่เรียนพร้อมระบุว่า นักแสดงสาวได้ตัดสินใจเตรียมโอนหน่วยกิตไปเรียนอย่างอื่น ซึ่งไม่มีที่บราวน์ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังรักช่วงเวลาที่เธออยู่ในสถาบันนี้มากจริงๆ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เอมมาต้องตกเป็นเหยื่อในชั้นเรียน ถูกเพื่อนคอยล้อเลียนพูดเสียดสีอยู่ตลอดทุกครั้งที่เธอตอบคำถามในชั้น จนอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เอมมาเริ่มไม่อยากเรียนที่สถาบันนี้

"พวกเขามักจะโต้ตอบด้วยประโยคจากหนังแฮร์รี พอตเตอร์ ที่ถูกใช้มากที่สุดคือ '3 คะแนนสำหรับกริฟฟินดอร์!' " แหล่งข่าวเผย

เอมมา ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการละครของสตรีชาวยุโรป ซึ่งเมื่อครั้งที่เธอเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในเดือน ก.ย. ปี 2009 เธอเคยกลัวว่าจะเข้ากับที่นี่ไม่ได้

"ฉันกลัวว่าพวกเขาจะคิดว่า เธอมันคนดัง เธอได้กระเป๋าถือฟรีมาใช้ แล้วทำไมเธอต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนคนธรรมดาด้วยล่ะ?" เอมมา เผยถึงความกลัวของตนเอง

จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ที่นักแสดงสาวผู้รักการเรียนชื่อดังที่เคยประกาศว่า ตนเองเลือกเรียนมากกว่างานในวงการ ก็เพิ่งจะออกมาประกาศอีกครั้งว่า เธอคงต้องขอเบรกเรื่องการเรียนเพื่อตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่

"อย่างที่คุณรู้ ฉันชอบ Brown และฉันก็ชอบการเรียนมากกว่าอย่างอื่น แต่เมื่อไม่นานนี้ ฉันสาละวนมากกับการเป็นนักเรียนด้วยและการทำงานอื่นไปด้วย ซึ่งฉันได้เรียนรู้ว่าทำสองอย่างให้ดีพร้อมๆกันมันเป็นไปไม่ได้เลย"

"ฉันเลยตัดสินใจพักแป๊บหนึ่ง เพื่อไปจัดการงานของฉันเกี่ยวกับภาพยนตร์ Harry Potter ( ตอนสุดท้ายจะเข้าฉายในช่วงก.ค.ที่จะถึงนี้ ) ให้เรียบร้อย และมุ่งทำงานในฐานะมืออาชีพรวมถึงงานด้านการแสดงด้วย"

Tangled สามารถพุ่งขึ้นมาเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ได้สำเร็จ เขี่ย Harry Potter ภาคล่าสุดลงมาจากตำแหน่งแชมป์จนได้ ขณะเดียวกัน หนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของนักแสดงชื่อดังจากเกาหลีใต้ "จางดองกัน" (Jang Dong Gun) ก็เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรก และทำรายได้มาเป็นอันดับที่ 9

ถึงแม้ว่า Tangled จะเปิดตัวด้วยอันดับ 2 ในสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) แต่หนังการ์ตูนเรื่องล่าสุดของ ดิสนีย์ ก็สามารถทะยานขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้สำเร็จในการฉายสัปดาห์ที่ 2 ด้วยยอดรายได้ล่าสุด 21.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมอยู่ที่ 96.4 ล้านเหรียญฯ แล้ว ขณะที่ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 ที่หล่นมาอยู่อันดับ 2 เป็นสัปดาห์แรก ทำเงินเพิ่มไปอีก 16.7 ล้านเหรียญฯ รายได้รวมทะลุไปถึง 244.2 ล้านเหรียญฯ

ตลาดของกลุ่มผู้ชมครอบครัว คือเบื้องหลังความสำเร็จในสัปดาห์ที่ 2 ของ Tangled ชัค เวียน หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายของ ดิสนีย์ แสดงความคิดเห็น "มันไม่บ่อยนักหรอกครับ ที่หนังจะต้องรอถึงในสัปดาห์ที่ 2 จึงจะสามารถเป็นอันดับ 1 ได้ มันจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหนัง ที่จะยืนโรงเก็บเงินได้เรื่อย ๆ ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป"

อย่างไรก็ตามภาพรวมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของฮอลลีวูดค่อนข้างจะเงียบเหงา รายได้รวมจากหนังทุกเรื่องอยู่ที่ 88 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่โรงหนังเก็บเงินได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้เลยทีเดียว เรียกว่าย่ำแย่น้อยกว่าช่วงสุดสัปดาห์หลังวันแรงงาน ที่ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศตกต่ำสุด ๆ เหลือแค่ 81 ล้านเหรียญฯ เล็กน้อยเท่านั้น

พอล เดอร์การาเบเดี้ยน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "มันเป็นสัปดาห์ที่แย่ มันแสดงให้เห็นว่าผู้ชมไปดูหนังกันจนอิ่มแล้วในช่วงวันหยุด 5 วัน ของเทศกาลขอบคุณพระเจ้าเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งพอถึงอาทิตย์ต่อมาพวกเขาคงเลือกที่จะไปทำอย่างอื่นแทน"

ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีหนังใหม่ที่เปิดฉายทั่วประเทศเพียงเรื่องเดียวคือ The Warrior's Way หนังร่วมทุน เกาหลีใต้/สหรัฐฯ ที่มีนักแสดงชาวเกาหลี จางดองกัน ประชันบทบาทกัน เคท บอสเวิร์ธ และเจฟฟรีย์ รัช ซึ่งหนังทำรายได้ใน 3 วันแรกไป 3.1 ล้านเหรียญฯ จาก 1,622 โรงฉายและมีค่าเฉลี่ยรายได้ต่อโรงอยู่ที่ 1,881 เหรียญ ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก โดยหนังใช้ทุนสร้างไปประมาณ 42 ล้านเหรียญฯ

"เฮอร์ไมโอนี แกรนเจอร์ (Hermione Granger) ตัวละครของ "เอ็มม่า วัตสัน" (Emma Watson) ในหนัง Harry Potter ได้รับเรื่องจากเด็กวัยรุ่นในอังกฤษ ให้เป็นสาวตนแบบหมายเลข 1 ของสาว ๆ เมืองผู้ดีเอาชนะนักร้องสาวคนดัง "เชอรีล โคล" และ "เคที เพอร์รี่" ไปแบบไม่เห็นฝุ่น

The Sun รายงานโดยอ้างอิงแบบสำรวจของ Asda เครือซุปเปอร์มาเก็ตดังของเมืองผู้ดี ในการค้นหาผู้หญิงต้นแบบของสาว ๆ ชาวอังกฤษ ซึ่งตัวละคร เฮอร์ไมโอนี แกรนเจอร์ จากหนังสือ และหนังชุด Harry Potter ที่สวมบทบาทโดยนักแสดงวัย 20 ปี เอ็มม่า วัตสัน ได้รับเสียงโหวตให้มาในอันดับ 1 ด้วยคะแนนมากกว่า 4 ใน 5 ของผู้ทำแบบสำรวจเกือบ 20,000 คน

ขณะที่อันดับรอง ๆ ลงไป ซึ่งได้คะแนนน้อยกว่าแบบสู้กันไม่ได้ ได้แก่ นักร้องสาว เชอรีล โคล และ เคที เพอร์รี่

เฮอร์ไมโอนี ได้รับเสียงโหวตให้เป็นต้นแบบของสาว ๆ ชาวอังกฤษ ไปถึงประมาณ 15,600 เสียง จากผู้ทำแบบสำรวจซึ่งเป็นเด็กสาวอายุตั้งแต่ 12 จนไปถึงวัยรุ่นอายุ 20 ปี รวมทั้งหมด 18,000 คน โดยส่วนใหญ่ชื่นชมในความรักเรียน, หัวดี และการแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญาของเธอ โดยบ่อยครั้งยังเป็นที่พึ่งของบรรดาเพื่อน ๆ ที่เป็นผู้ชายอีกด้วย

Asda ผู้ทำแบบสำรวจยังให้เห็นข้อมูลว่า ความนิยมและชื่นชมในตัวของ เฮอร์ไมโอนี ยังทำให้เสื้อแบบที่ วัตสัน สวมใส่กับการรับบทดังกล่าวในหนัง กลายเป็นสินค้าที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่า โดยตัวแทนของซุปเปอร์มาเก็ตเจ้าใหญ่กล่าวว่า "ลูกค้าของเรารักสไตล์แบบ เฮอร์ไมโอนี เรามียอดสั่งซื้อเสื้อแบบที่เธอใส่ในหนังเป็นจำนวนมหาศาลเลย"

นอกจากนั้นชีวิตจริงของ เอ็มม่า วัตสัน ผู้แสดงเป็นแม่มดสาวคนสวย ก็ดูจะสอดคล้องกับบทบาทที่เธอได้รับอยู่ไม่น้อย เพราะนอกเหนือจากการรับบทนำในหนังชุด Harry Potter ที่ทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว นักแสดงสาวชาวอังกฤษ ก็ไม่ได้รับงานในวงการบันเทิงใด ๆ อีก แต่เลือกที่จะทุ่มเทเวลาให้กับการเรียน และการใช้ชีวิตเหมือนนักศึกษาคนหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยบราวน์ ใน โรด ไอแลนด์ สหรัฐอเมริกาแทน

Manager Online

Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 กลายเป็นหนัง Harry Potter ที่ทำรายได้วันแรกสูงสุด ด้วยการเก็บเงินในการฉายเมื่อวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. ที่สหรัฐฯ ไปถึง 61.2 ล้านเหรียญฯ

การปิดฉากของหนังชุด Harry Potter เริ่มต้นขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 หนังตอนแรกที่สร้างจากหนังสือเล่มสุดท้ายของนิยายแฟนตาซี จากปลายปากกาของ เจ.เค. โรวลิ่ง สามารถทำรายได้วันแรก ในการเข้าฉายเมื่อวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. ถึง 61.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีโอกาสสูงที่จะทำให้ยอดรายได้ 3 วันแรกเอาชนะสถิติ 102.7 ล้านเหรียญฯ ที่ Harry Potter and the Goblet of Fire เคยสร้างเอาไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในจำนวนหนัง 6 ภาคที่ผ่านมา

โดยตัวแรกรายได้วันแรกของ Deathly Hallows: Part 1 ถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 5 ในจำนวนหนังทุกเรื่อง เป็นรอง The Twilight Saga: New Moon เจ้าของสถิติสูงสุด 72.7 ล้านเหรียญฯ, The Twilight Saga: Eclipse 68.5 ล้านเหรียญฯ, The Dark Knight 67.2 ล้านเหรียญฯ และ Transformers: Revenge of the Fallen ที่กวาดเงินวันแรกไปได้ 62 ล้านเหรียญฯ

สำหรับรายได้วันแรกสูงสุดของหนัง Harry Potter ในภาคก่อน ๆ ก็คือ Harry Potter and the Half-Blood Prince ซึ่งเปิดตัวด้วยการเก็บเงิน 58.2 ล้านเหรียญฯ

Harry Potter ภาคแรกเข้าฉายในปี 2001 ขณะนี้หนังทั้ง 6 ภาคสามารถทำเงินทั่วโลกไปถึง 5,500 ล้านเหรียญฯ แล้ว โดย Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 จะมีกำหนดเข้าฉายภายในเดือน ก.ค. ปีหน้า

Manager Online

เป็นความกลุ้มอกกลุ้มใจแบบไม่เหมือนคนอื่นจริงๆเมื่อ "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาววัยรุ่นชื่อดังยอมรับ ว่ารู้สึกปวดหัวกับเงินในบัญชี หลังรู้ว่ามีมากมายมหาศาล จนตนเองเป็นเศรษฐินีขนาดย่อมไปแล้ว

เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 20 ปีจากแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ผู้รับบทเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ตั้งแต่มีอายุได้ 9 ปี เธอได้รับเงินมาใช้จ่าย 50 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จนกระทั่งอายุ 17 ปีพ่อของเธอจึงได้จับมานั่งพูดคุยถึงเงินในบัญชีของเธอทั้งหมดที่มี ทำเอาเจ้าตัวถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว

โดยเอมมาที่มีทรัพย์สินกว่า 20 ล้านปอนด์ระบุว่า "ในตอนถ่ายทำภาคที่ 3 หรือ 4 เนี่ยแหละ เงินเริ่มกลายเป็นปัญหาใหญ่ ฉันคิดไม่ออก ฉันรู้สึกแย่ มันหลายอารมณ์มากเลย"

และเพื่อรับมือกับปัญหาทางการเงินที่มีมากล้นดังกล่าว สาวเอมมาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากธนาคาร Coutts เพื่อช่วยจัดการทรัพย์สินและการเงินของเธออย่างเป็นระบบระเบียบ

นักแสดงสาวชาวอังกฤษที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบราวน์ในสหรัฐฯ ได้ตัดผมจนสั้นกุด เกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าตัวระบุว่า อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์เนื่องจากที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะติดเงื่อนไขจากการถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ ซึ่งในสัญญาได้ระบุห้ามมิให้เธอตัดผม แต่งหน้า และใส่ต่างหูระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์

โดยเธอระบายเรื่องนี้ผ่านทางนิตยสาร Vogue ว่า "เป็นเวลา 9 ปีที่ฉันอยู่กับ 'แฮร์รี พอตเตอร์' ฉันติดสัญญาที่สั่งห้ามไม่ให้ฉันตัดผมหรือมีผิวสีแทน เรื่องธรรมดาๆที่สาวๆเขาทำกัน ฉันทำไม่ได้เลย ดังนั้นพอมีโอกาสที่ฉันจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง นี่เลยเป็นสิ่งแรกที่ฉันทำ"

Manager Online

บริษัท Warner Brothers ผู้จัดจำหน่ายหนังชุด Harry Potter ออกมาประกาศข่าวการยกเลิกฉบับ 3 มิติของหนังภาคที่ 7 ซึ่งจะเข้าฉายภายในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมให้เหตุผลว่า ด้วยเวลาอันกระชั้นชิดจนเกินไป ผู้สร้างจึงไม่สามารถแปลงหนังจาก 2-D ให้กลายเป็น 3-D ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานได้

ตามแผนการเดิม Warner Brothers Entertainment ต้องการส่งภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Deathly Hallows ให้เข้าฉายทั้งในระบบ 2-D ปกติ และระบบ 3-D ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามแผนการดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไปในที่สุด หลังจากทีมงานไม่สามารถสร้างภาพสามมิติได้ในคุณภาพระดับมาตรฐาน ภายใต้เวลาอันจำกัดเพื่อเข้าฉายในกำหนดเดิมได้ "แม้ว่าทุกคนจะพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว เรายังไม่สามารถแปลงหนังทั้งเรื่องให้ออกมาเป็น 3-D มีคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐานได้" บริษัทจัดจำหน่ายหนังชื่อดังแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ตัวแทนของ Warner Brothers ยังเสริมว่า"เราไม่ต้องการสร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ ที่รอยคอยบทสรุปของการเดินทางอันยาวนานครั้งนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วหนังยังจะเข้าฉายในกำหนด 19 พ.ย. ตามแผนการเดิม ซึ่งทางคนทำหนังเชื่อว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อประสบการณ์ทางบันเทิงของผู้ชม Harry Potter" ในการประกาศข่าวครั้งนี้ เดวิด เฮย์แมน หนึ่งในทีมผู้อำนวยการสร้างกล่าวยืนยันว่า "สิ่งที่ได้รับการพิจารณาอันดับแรกก็คือ ความซื่อตรงต่อหนังสือของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ในการดัดแปลงสู่แผ่นฟิล์ม และการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือสิ่งที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในข้อนี้"

ภาพยนตร์ที่จากหนังสือเล่มสุดท้ายของนิยายจากปลายปากการของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ถูกแบ่งออกเป็นหนังสองเรื่อง Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 จะมีกำหนดเข้าฉายในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ขณะที่ภาคจบจะเข้าโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในเดือน ก.ค. 2011 ซึ่งเดิมทีผู้สร้างหวังเก็บเงินทั้งในโรง 2-D และ 3-D แบบเดียวกับหนังตอนก่อน Harry Potter and the Half-Blood Prince แตกต่างที่ในหนังภาคที่แล้วมีเฉพาะช่วงต้นของหนังเท่านั้น ที่เป็นระบบภาค 3-D

"เอ็มม่า วัตสัน" (Emma Watson) ดาราสาวผู้รับบทตัวละคร เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ในหนังดังชุด Harry Potter ได้เริ่มต้นในการเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก ที่มหาวิทยาลัย บราวด์ สถานศึกษาชื่อดัง ที่เธอหวังจะได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาเสียที

เอ็มม่า วัตสัน แตกต่างกับเพื่อนนักแสดงในเรื่อง Harry Potter อย่างเห็นได้ชัด เพราะในขณะที่คนอื่นพยายามดิ้นรนหางานแสดงอื่นๆ นอกเหนือจากบทในหนังชุด Harry Potter เพื่อความก้าวหน้าในอนาคต เธอกลับดูไม่กระตือรือร้นกับอาชีพนักแสดงนัก ในประวัติการทำงานของเธอ ที่ทำงานมาแล้ว 8 มีผลงานออกมาเพียง 8 เรื่อง และ 6 จาก 8 เป็นหนังในชุดพ่อมดน้อย

เป็นความตั้งใจตั้งแต่ต้นของดาราสาวัยทีน ที่หวังจะใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นของเธอ ในมหาวิทยาลัย มากกว่าจะเป็นกองถ่ายหนัง หลังจากต้องสูญเสียวัยเด็กไปให้กับการทำงาน

เพื่อนนักแสดงในหนัง Harry Potter อย่าง เดเนียล เรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) ก็เคยพูดเรื่องนี้ไว้ว่า เอ็มม่า วัตสัน เป็นคนฉลาด และสนใจเรื่องเรียนมาก ที่สำคัญเธอต้องการใช้ชีวิตอย่างเป็นคนธรรมดา ที่ไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องมีใครจดจำได้

โดยก่อนหน้านี้มีชื่อมหาวิทยาลัย มากมายที่ลือกันว่าดาราสาวอาจจะสมัครเข้าเรียนรวมถึง มหาวิทยาลัยเยล และมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

แต่สุดท้ายเป็น มหาวิทยาลัยบราวน์ สถานศึกษาระดับไอวีลีก ที่ตั้งอยู่ที่ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กฎระเบียบยืดหยุ่นกว่ามหาวิทยาลัยของอังกฤษที่มีระเบียบเคร่งครัดกับเรื่องชั่วโมงการเรียน ที่ดูจะเป็นปัญหากับดาราสาวหลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่ในวัยเด็กไปกับหนังเรื่อง Harry Potter โดยในเทอมแรกนี้เธอเลือกที่จะลงวิชาวรรณกรรม และธรณีวิทยา ที่ถนัด

เอ็มม่า วัตสัน หวังว่าจะใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเหมือนเด็กนักศึกษาคนหนึ่ง ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และทำกิจกรรมเหมือนเด็กปีหนึ่งทั่วๆ ไป ดาราสาวพูดถึงเรื่องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของเธอว่า “หวังว่าฉันจะถูกจดจำในฐานะ เอ็มม่า วัตสัน นักเรียนต่างชาติจากอังกฤษ มากกว่าจะเป็น เอ็มม่า วัตสัน ยัยเด็กที่แสดงในหนัง Harry Potter”

Manager Online