Donnie Yen (C)

เจินจื่อตัน (Donnie Yen), อู๋จุน (Wu Zun), เจ้าเหว่ย (Zhao Wei) และฉีจื่อซาน (Kate Tsui) ในหนังกำลังภายในเรื่องใหม่ 14 Blades

Submitted by canjamm on 16 ตุลาคม, 2009 - 11:29

ผลงานชิ้นใหม่ของพระเอกบู๊สุดร้อนแร่งของฮ่องกง พ.ศ. นี้ "เจินจื่อตัน" (Donnie Yen) จะเป็นหนังกำลังภายใน ซึ่งเขาได้รับบทเป็นสุดยอดสายลับของราชสำนัก ในยุคสมัยราชวงศ์หมิง ที่ว่ากันว่านี่จะเป็นหนัง เจสัน บอนด์ เวอร์ชั่นจีนย้อนยุค เลยทีเดียว

หนังกำลังภายในที่ชื่อว่า 14 Blades จะเล่าเรื่องกลุ่มราชองค์รักษ์ของฮ่องเต้ ที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจลับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การล้วงความลับ ลอบสังหาร ค้นหา และทำลายผู้มีแนวโน้มเป็นภัยต่อฮ่อง เหล่าองค์รักล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาจากข้างถนน ได้ฝึกฝนวิชาชั้นยอด แต่ละคนจะได้รับมอบมีดทั้ง 14 เล่มให้ครอบครอง มีด 8 เล่มมีไว้เพื่อทรมานเหยื่อ อีก 5 สำหรับเพื่อการสังหาร และมีดเล่มสุดท้ายเก็บสำหรับปลิดชีพตัวเองยามเสียทีแก่คู่ต่อสู้

เนื้อหาว่าด้วยหน่วยสายลับของราชสำนักเช่นนี้ ทำให้ 14 Blades ถูกมองว่าอาจจะเป็น เจมส์ บอนด์ ของจีน แต่ทางผู้สร้างบอกได้บอกใบ้ว่าหนังจะมีส่วนผสมของหนังสายลับร่วมสมัยที่มีความซับซ้อนแบบ The Bourne Identity ด้วยต่างหาก

14 Blades ได้สุดยอดดาราบู๊อย่างเจินจื่อตัน มารับบทนำเป็นตัวละครยอดองค์รักษ์ที่ชื่อว่า “มังกรเขียว” ขณะที่สาวเจ้าเหว่ย (Zhao Wei) จะมารับบทนำหญิงของเรื่อง และยังมีหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ อย่าง อู๋จุ่น (Wu Zun) และอดีตมิสฮ่องกง ฉีจื่อซาน (Kate Tsui) ร่วมแสดงอยู่ด้วย

อันที่จริงแล้ว14 Blades เป็นการดัดแปลงมาจากหนังเก่าคลาสสิคเมื่อ 25 ปีที่แล้วของบริษัทชอว์บราเดอร์ที่ชื่อ Secret Service of the Imperial Court (ยอดองค์รักษ์เสื้อแพร) แน่นอนว่าการหยิบกลับมาสร้างครั้งนี้ จะมีหลายๆ ที่แตกต่างออกไป ไม่เฉพาะกับหนังต้นฉบับ แต่รวมถึงหนังกำลังภายในก่อนหน้านี้ทั้งหมด

ผู้กำกับ เดเนียล ลี เจ้าของผลงาน สามก๊ก:ขุนศึกเลือดมังกร ที่คงรับผิดชอบการออกแบบงานสร้างทั้งหมดเหมือนเดิม ซึ่งในงานนี้เขาบอกว่าต้องใช้เวลาพอสมควร ในการทำวิจัยเพื่อออกแบบเครื่องแต่งกาย ของกลุ่มสายลับแห่งราชสำนักกลุ่มนี้ออกมาให้สมจริงสมจังที่สุด

ผู้กำกับชาวฮ่องกงบอกกับนักข่าวว่า ความพยายามอันดับแรกในการทำหนังเรื่องนี้ของเขาก็คือ การสร้างความรู้สึกร่วมสมัยให้กับหนัง “มันจะไม่เหมือนกับหนังกำลังภายในเก่าๆ ที่ทุกคนเคยดูมา ทั้งบท, ภาพ และฉากต่อสู้”