Joe Cheng (C)

       หลังจากใช้ชีวิตนักศึกษา 12 ปีเต็มกับ 5 มหาวิทยาลัย จนมีข่าวว่าดาราหนุ่ม "หมิงเต้า" (Ming Dao) เพียงใช้เรื่องการเรียนมาเป็นข้ออ้าง เพื่อหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารเท่านั่น ล่าสุดมีรายงานว่าดาราวัย 32 ปี ยินยอมที่จะรายงานตัวเพื่อรับใช้ชาติแล้ว
       
       การเปลี่ยนสถานที่เรียนในระดับอุดมศึกษาไปเรื่อยๆ ถึง 5 แห่ง ภายในระยะเวลา 12 ปี ทำให้ หมิงเต้า ต้องเผชิญหน้ากับข้อหาเรื่อง "หนีทหาร" มาตลอด เพราะแม้จะใช้ข้ออ้างเรื่องการเรียน เพื่อขอผัดผ่อนในการรายงานตัวเข้ารับใช้ชาติ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีรายงานว่า ดาราหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีความมุ่งมั่นในการเรียนเลยแต่อย่างใดเลย
       
       สื่อไต้หวันระบุว่าตลอดระยะเวลา 12 ปีในการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย หมิงเต้า ทั้งขาดเรียนบ่อย, สอบตก เมื่อจวนตัวก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และสมัครเข้าเรียนในอีกแห่งทันที เป็นพฤติกรรมที่หลายฝ่ายมองว่า แสดงออกอย่างชัดเจน ในการใช้ช่องว่างของกฎหมาย ที่อนุญาตให้ผู้มีกำหนดต้องรับใช้ชาติ สามารถยืดเวลาออกไปได้ หากยังติดภารกิจทางการเรียน
       
       และในที่สุดเมื่อสัปดาห์ก่อน หมิงเต้า หรือที่มีชื่อจริงว่า หลินจ้าวจาง ได้ยุติคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆที่มีต่อเขามาตลอดได้ในที่สุด กับการมารายงานตัวเพื่อรับใช้ชาติ โดยมีพ่อและแม่มาส่ง ขณะที่ตัวเขาแต่งตัวแบบเรียบๆ และตัดผมสั้นเตรียมพร้อมสำหรับการทำหน้าที่
       
       ตามกฎหมายของไต้หวัน ชายที่มีคุณสมบัติสำหรับการเป็นทหาร ต้องเข้าทำหน้าที่ทันทีเมื่อมีอายุ 33 ปี โดยไม่สามารถผัดผ่อนด้วยข้ออ้างทางการศึกษาได้อีกต่อไป
       

เพื่อฉลองกับการอยู่ในวงการบันเทิงมาครบ 8 ปี นักแสดงหนุ่ม "ไมค์ เหอ" (Mike He) ได้ปล่อยอัลบั้มรวมภาพถ่ายออกมาเป็มเล่มแรก ภายใต้ชื่อ Mike He: Retour Du Sud De La France เป็นงานที่หนุ่มวัย 27 ปี ได้โชว์หุ่นให้ทั้งสาวแท้สาวเทียมน้ำลายหกกันถ้วนหน้า

อดีตนายแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามกับอาชีพนักแสดง ไมค์ เหอ หรือ เฮ่อจวินเสียง ได้เผยภาพตัวอย่างจาก Mike He: Retour Du Sud De La France อัลบั้มรวมภาพเล่มแรกของเขาออกมาให้เห็นกันแล้ว ซึ่งภาพนู้ดสุดเซ็กซี่ ตัวอย่างส่วนหนึ่งที่จะปรากฏอยู่ในหนังสือได้สร้างความร้อนแรงให้กับผลงานชิ้นนี้ ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกวางแผงจริงกันเลยทีเดียว

โดย ไมค์ เหอ ปล่อยภาพตัวอย่างชุดนี้ออกมาในวันที่ 19 ก.ย. และที่ฮือฮาสุดๆ ก็เห็นจะเป็นภาพที่เขานอนอยู่บนเตียง และมีเพียงหนังสือเล่มเดียวปิดจุดสำคัญของร่างกายเอาไว้เท่านั้น

หลังเผยภาพชุดนี้ออกไปก็มีความเห็นต่างๆออกมาทันที มีทั้งที่ชื่นชม และมองว่ามันดูเซ็กซี่มากเกินไป ซึ่งตัวของนักแสดงหนุ่มกล่าวว่า เขาต้องการเสนอภาพด้านที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับแฟนคลับได้เห็น เป็นภาพในมุมที่ดูดีสุดของตัวเอง จึงเป็นเหตุที่อัลบั้มภาพค่อนข้างออกมาเซ็กซี่

หนุ่มวัย 27 ปี ยังแสดงความหวังว่าผู้คนจะมองผลงานชิ้นนี้ในทางศิลปะ มากกว่าจะไปสนใจกับรูปร่างของเขา หรือความโป๊เปลือยของภาพเป็นประเด็นสำคัญ

ขณะที่เมื่อผู้สื่อข่าวถามไปถึงเรื่องการเกณฑ์ทหาร จู่ๆ ไมค์ เหอ กลับเลี่ยงไปพูดถึงเรื่องการเรียนแทน โดยเขาเปรยว่าต่อไปหวังว่าต้นสังกัดจะไม่เลือกรับงานที่ตรงกับวันที่เขามีเรียน จะได้ไม่ต้องขาดเรียนอีกในอนาคต เป็นคำตอบที่ดูเหมือนจะสอดคล้องกับข้อกล่าวหาจากชาวไต้หวันและสื่อในระยะหลัง ว่านักแสดงหนุ่มหลายรายเลือกที่จะใช้เรื่องเรียน มาเป็นข้ออ้างในการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ถึงขั้นที่ว่าบางคนใช้เวลาเรียนในระดับอุดมศึกษาเป็นสิบปี และดูทีท่าว่าจะไม่มีทางเรียนจบเสียทีด้วย

ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามซ้ำในประเด็นนี้อีก ไมค์ เหอ จึงตอบกลับไปว่า "ผมจะเกณฑ์ทหารหลังจากที่ หรวนจิงเทียน (Ethan Ruan) กับ เจิ้งหยวนช่าง (Joe Cheng) ทำหน้าที่เป็นทหารรับใช้ชาติเสร็จสิ้นก็แล้วกัน"

Manager Online

ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของนักแสดงหนุ่มวัย 31 ปี "หมิงเต้า" (Ming Dao) ดำเนินมาถึง 11 ปีแล้ว และยังมีทีท่าว่าเขาจะยังไม่สำเร็จการศึกษาในเร็วๆนี้ด้วย จนกลายเป็นเสียงวิจารณ์ว่า "หมิงเต้า" และเพื่อนนักแสดงหนุ่มอีกหลายคน กำลังใช้เรื่องการศึกษาเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารหรือไม่

นักแสดง/นายแบบหนุ่มชาวไต้หวัน หมิงเต้า กลายเป็นคนดังรายล่าสุด ที่ต้องเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาพยายามหลบเลี่ยงการรับใช้ชาติ ด้วยการใช้เรื่องการศึกษามาบังหน้า

เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวลือว่า หนุ่มวัย 31 ปีรายนี้ได้รับหมายเรียกให้เข้าเกณฑ์ทหาร และให้รายงานตัวในทันที มิเช่นนั้นก็อาจจะถูกบันทึกรายชื่อลงในแบล็คลิสต์ของรัฐบาลไต้หวันได้

ต่อมาต้นสังกัดของเขาได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ และอ้างว่าตอนนี้ หมิงเต้า ได้จ่ายเงินลงทะเบียนเรียนเทอมต่อไป สำหรับการศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีตงหนันเรียบร้อยแล้ว และต้นสังกัดยังยืนยันว่า หมิงเต้า มีแผนจะเข้ารับการเกณฑ์ทหารโดยทันทีในปี 2013 เมื่อภารกิจต่างๆ ของเขาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

อย่างไรก็ตามรองผู้อำนวยการของสถานศึกษาได้ออกมาเปิดเผยว่า หมิงเต้า คงจะไม่สามารถเรียนจบได้ง่ายๆแน่ ทั้งที่เขาก็เข้าเรียนมาหลายปีแล้ว เพราะถึงตอนนี้สามารถเก็บหน่วยกิตไปได้เพียง 6 จาก 74 หน่วยกิตเท่านั้น ซึ่งถ้าทุกอย่างยังเป็นแบบนี้ หมิงเต้า ก็อาจจะใช้เวลาเรียนเกินกว่า 20 ปี ถึงจะได้รับปริญญาบัตร

หมิงเต้า ใช้ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยมาถึง 11 ปีเต็ม และย้ายที่เรียนมาถึง 3 ครั้งแล้วจากมหาวิทยาลัยศึกษาศาสตร์แห่งชาติฉางหัว, มหาวิทยาลัยจินเหวิน จนกระทั่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยตงหนัน กับสาขาภาษาอังกฤษ

ยิ่งไปกว่านั้นนักแสดงหนุ่มรายนี้ยังไม่ใช่คนดังชาวไต้หวันเพียงคนเดียว ที่ใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษายาวนานเป็นพิเศษ จนถูกข้อกล่าวหาว่าอาจใช้เรื่องการเรียนมาบังหน้า เพื่อหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ซึ่งตอนนี้เรียกว่าทำกันจนเป็นเรื่องธรรมดาในวงการบันเทิงไปแล้ว

ศิลปินกระแสคลื่นเกาหลีเบอยองจุน (Bae Yong Joon) และ “ยองซามะน้อย” คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) ร่วมเวทีกันเป็นครั้งแรกและเสร็จสิ้นการแสดงอย่างประสบความสำเร็จด้วยจำนวนแฟนๆ ถึง 30,000 คนจากหลายๆ ประเทศในแถบเอเชียมาร่วมให้การสนับสนุนปรบมือให้กับท่าทางที่ดูดีของเบยองจุนและชื่นชมรอยยิ้มของคิมฮยอนจุง

ในวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 18.00 น. เบยองจุนและคิมฮยอนจุงปรากฎตัวครั้งแรกต่อหน้าแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นด้วยงานการกุศลของ DATV ที่ชื่อว่า Project Smile ที่โตเกียวโดม ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ทั้ง 2 คนยืนอยู่เคียงข้างกันบนเวทีอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

คิมฮยอนจุงเริ่มที่จะเปิดงาน Project Smile ด้วยการร้องเพลง The Power of Smile อย่างน่าหลงใหล และเพลงนี้เองที่เป็นผลงานของโปรดิวเซอร์ชื่อดังของญี่ปุ่นโคมูโระ เทตสึยะ (Komuro Tetsuya)

หลังจากที่คิมฮยอนจุงร้องเพลงของเขาเสร็จแล้ว ยังมีศิลปินอื่นๆ ที่มาร่วมงานนี้เช่น ฮวานฮี (Hwan Hee), วง D-NA, วง SHU-I, โจเฉิง (Joe Cheng), Vanness Wu ฯลฯ มาแสดงบนเวทีให้กับแฟนๆ โดยที่เบยองจุนยังปรากฎตัวร่วมกับทุกคน

เบยองจุนและคิมฮยอนจุงปรากฎตัวเคียงข้างกันเป็นครั้งแรก หลังจากที่คิมฮยอนจุงย้ายมาอยู่ที่ค่าย Keyeast และมาปรากฎตัวครั้งแรกพร้อมๆ กันนี้ ทำให้แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นเรียกเขาว่า “ยองซามะน้อย”

ศิลปินทั้ง 2 คนยังปรากฎตัวร่วมกันก่อนหน้านี้ในเวลา 16.00 น. ที่ JCB Hallเพื่อร่วมกิจกรรมการกุศลเคียงข้างกัน สำหรับงานการกุศลนี้จึงมีจัดงานให้ถ่ายภาพสำหรับแฟนๆ และแฟนๆ ที่มาร่วมต่างตื่นเต้นตะโกน “ลีดเดอร์” และยองจุน กันตลอด แสดงให้เห็นว่าแฟนๆ ต่างชื่นชมพวกเขามากเพียงไหน

โดยที่โปรเจคนี้เป็นการกุศลเพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศกัมพูชา และฟิลิปปินส์ ซึ่งงานนี้เบยองจุน, คิมฮยอนจุง และศิลปินอื่นๆ ต่างสละเวลามาร่วมงานนี้เพื่อช่วยในการบริจาคนี้

นอกจากนั้นแล้วยังมีภาพที่ท่าอากาศยานฮาเนดะเพิ่มเติมของศิลปินทั้ง 2 ที่แฟนๆ เก็บมาให้ชมกัน

นักแสดงนำชายจาเรื่อง Playful Kiss ทั้งเวอร์ชั่นไต้หวันและเกาหลีคือ โจเฉิง (Joseph Cheng) และคิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) จะมายืนอยู่บนเวทีเดียวกัน

โดยที่เวทีนี้จะจัดเป็นกิจกรรมรอบแรกสำหรับงานคอนเสิร์ต Message to Asia ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคมที่โตเกียวโดม เป็นงานโปรเจค Smiles โดยผู้จัดงานนี้คือ DATV ของญี่ปุ่น ซึ่งงานโปรเจค Smiles นี้เป็นงานการกุศลเพื่อหวังที่จะนำรอยยิ้มมาสู่เด็กๆ ในแถบเอเชีย และเพื่อวันหนึ่งพวกเขาจะก้าวมาเป็นผู้นำในอนาคต โดยจะเป็นการนำไปช่วยเด็กผู้ยากไร้ที่ประเทศกัมพูชา, ฟิลิปปินส์ ฯลฯ

คิมฮยอนจุงและโจเฉิงต่างนำแสดงในละครเรื่อง Playful Kiss คนละเวอร์ชั่น แต่ทั้ง 2 นำแสดงในบทที่มีเอกลักษณ์เหมือนกัน และต่างก็ได้รับความรักจากแฟนๆ ไปทั่วแถบเอเชีย ซึ่งเวทีนี้เป็นที่สนใจอย่างมากสำหรับแฟนๆ ในแถบเอเชีย นอกจากคิมฮยอนจุงและโจเฉิงแล้ว ยังมีศิลปินอื่นๆ อีกมากมายเช่น เบยองจุน (Bae Yong Jun), ฮวานฮี (Hwan Hee), Vanness Wu, วง GACKT ฯลฯ ต่างมาร่วมกันสร้างสีสรรค์ให้กับงาน Message to Asia Concert ด้วยกัน

ซึ่งศิลปินทั้ง 2 นำแสดงคนละเวอร์ชั่นที่แฟนๆ ต่างคนต่างก็มีคนละความคิดเห็น แต่ที่แน่นอนคือทั้ง 2 ศิลปินตั้งใจทำงานเพื่อการกุศลและแฟนๆ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างให้กำลังใจในการทำงานของพวกเขา

ในงาน Asia Song Festival ครั้งที่ 7 ที่จัดขึ้นที่กรุงโซล ภาพของศิลปินที่ถ่ายร่วมกัน เมื่อเร็วๆ นี้มีภาพของสาวๆ วง Rainbow ถ่ายคู่กับศิลปินไต้หวันโจเฉิง (Joe Cheng) และเป็นที่สนใจของแฟนๆ

ตัวแทนของวงกล่าวในวันที่ 27 ตุลาคมว่า

“ในวันที่ 23 ตุลาคมที่วง Rainbow ได้ทักทายโจเฉิงหลังเวทีในงาน Asia Song Festival ครั้งที่ 7 ที่จัดขึ้นที่ Olympic Stadium กรุงโซล”

โดยที่ตัวแทนกล่าวว่า วง Rainbow ไปหาโจเฉิงที่ห้องแต่งตัว และบอกเขาว่าพวกเธอเป็นแฟนๆ ผลงานของเขา โจเฉิลทักทายสมาชิกแต่ละคนและทำให้สมาชิกวง Rainbow ประทับใจในเสน่ห์ของเขา

และวง Rainbow และโจเฉิงได้แลกลายเซ็นกันสำหรับอัลบั้มของพวกเขา และถ่ายภาพร่วมกัน

ในวันที่ 20 มิถุนายนนักแสดงยอดนิยมลีมินโฮ (Lee Min Ho) จัดงานมีทติ้งกับแฟนๆ MInoz โดยจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Kyung Hee กรุงโซล

กิจกรรมนี้ใช้ชื่อว่า 2010, The Special Day with Minoz – One Special Day with Minho” โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น.ที่เวลาประเทศเกาหลี

นักแสดงตลกยูนฮยอนบิน (Yoon Hyun Bin) ที่นิยมในบทหวังบิโฮ (Wang Bi Ho) มาเป็นพิธีกรสำหรับกิจกรรมนี้ และยังมีซีลิบิตี้อีกมากมายมาร่วมกันบนเวทีแสดงกับลีมินโฮในกิจกรรมนี้ เช่นวง 2AM และ See Ya และเพื่อนสนิทอย่างคิมบอม (Kim Bum) และจองอิลวู (Jung Il Woo) มาร่วมในงานแฟนมีทติ้งนี้ด้วยมาร่วมในฐานะเพื่อนสนิทฉลองวันเกิดล่วงหน้าแทนวันที่ 22 มิถุนายน โดยที่ลีมินโฮยังมีแขกเซอร์ไพร์สพิเศษโจเฉิง (Joe Cheng) ที่นำของขวัญวันเกิดมาให้เขาในงานนี้ด้วย

ซึ่งงานแฟนมีทติ้งอีกครั้งที่จะจัดในวันที่ 28 สิงหาคม ภายใต้ธีม Pink Play Concert ที่โรงแรม Sheraton Walker Hill River Park ที่ Gwang Jang Dong กรุงโซล

ก่อนจะเริ่มงานแฟนมีทติ้ง ลีมินโฮมีจัดงานแถลงข่าวที่เขาพูดถึงของขวัญที่มีค่ากับความทรงจำที่สุด “ของขวัญวันเกิดที่มีคุณค่ากับความทรงจำที่สุดคือ ทีวี และระบบเครื่องเสียงที่บ้านที่ได้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังใช้อยู่ แฟนๆ ของผมเข้าใจผมดีจริงๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นหมวกแก๊ปหรือแหวน ผมได้มากทีเดียว หลังจากเลี้ยงสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัว ผมก็ได้ของขวัญสำหรับสุนัขด้วย ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ”

เมื่อถามว่าของขวัญที่เขาอยากได้ในปีนี้ เขากล่าวว่า “แฟนสาวสักคนหนึ่ง? ผมอยากจะไปเที่ยวและไม่จำเป็นว่าต้องเป็นต่างประเทศ ผมอยากปีนเขาและถ้ามีใครสักคนสนใจเหมือนผม ก็น่าจะดี”

Love or Bread ละครจากทาง GTV ออกมาในรูปแบบดีวีดี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เอเรียล หลิน (Ariel Lin) และโจ เฉิง (Joe Cheng) เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อโปรโมทงานกับแฟนๆ เอเรียลซึ่งห่างหายจากจอแก้วมานานมากกว่า 2 ปี ในที่สุด เธอก็ตอบรับที่จะแสดงในละครเรื่องใหม่ Extravagant Challenge โดยเธอจะร่วมงานกับซิวอน (Siwon) และดงเฮ (Donghae) แห่งวง Super Junior จากเกาหลี เธอกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน สำหรับละคร Coffee Prince เวอร์ชันไต้หวันนั่น ลือกันว่า แผนการณ์นี้มีขึ้นเพื่อให้เธอได้จับคู่กับเจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) ในขณะนี้ เอเรียลยังคงรอทีมงานในการค้นหานักแสดงนำชายที่เหมาะสม

เอเรียล หลิน และโจ เฉิง ร่วมงานกันในละครมา 3 เรื่องแล้ว และในใจของผู้ชมนั่น ดูเหมือนว่า พวกเขาจะเป็นคู่รักบนหน้าจอที่เหมาะสมกันมากที่สุด แต่ทั้งสองคนกังวลว่า ผู้ชมจะเบื่อกับการจับคู่อย่างต่อเนื่องของพวกเขา โจกล่าวว่า "อีกสัก 5 ปี มันจะทำให้เราเติบโตขึ้น ดังนั้น ให้เวลาพวกเราจนถึงปี 2015 ซึ่งก็บังเอิญไปตรงกับ It Started With A Kiss ครบรอบ 10 ปีพอดี" เอเรียลก้มหัวเห็นด้วยกับคำพูดของสามีในละครของเธอ

ทางด้านโจ เพิ่งเดินทางไปมัลดิฟ (Maldives) เพื่อพักผ่อน ที่ซึ่งเขาเริ่มการออกกำลังกายอย่างหนัก การมีผิวสีแทน เขายิ้ม "ผมต้องฝึกลดน้ำหนัก, วิ่ง, แอโรบิก เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกๆวัน แม้กระทั่งการทำผิวสีแทน ยังต้องทำอย่างเท่าๆกัน โดยแบ่งเวลา 15 นาที สำหรับหน้าและหลัง​ เหมือนกับการย่างปลา"

ChinaTimes

”เฉินหลง” (Jackie Chan) กลายเป็นคนดังชาวอันดับ 1 ของนิตยสาร “Forbes” ด้วยรายได้เกือบ 200 ล้านหยวนในรออบปีที่ผ่านมา บวกกับการเป็นข่าวอย่างถี่ยิบ ในการจัดอันดับที่รวบรวมคนดังชาวจีนจากทั้ง วงการกีฬา และบันเทิงของ ไต้หวัน, ฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่

นิตยสาร Forbes ทำการจัดอันดับคนดังชาวจีนมาเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งนี่จะเป็นปีแรกที่เป็นการรวบรวมคนบันเทิงจากทั้ง จีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง และไต้หวัน เข้าด้วยกัน โดยประเมินจากทั้งรายได้ และความถี่ของการปรากฏตัวตามสื่อ เพื่อหาว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบันเทิงเชื้อสายจีนอันดับ 1

ไม่น่าแปลกใจที่ชื่อของ เฉินหลง จะกลายเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับปีนี้ของ Forbes นักแสดงวัย 56 ปี ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก และตกเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน รวมถึงสามารถทำรายได้ไปเกือบ 200 ล้านหยวน (ประมาณ 940 ล้านบาท) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Little Big Soldier ทำรายได้ 150 ล้านหยวนเฉพาะในประเทศจีน นอกจากนั้นในวงการเพลง เฉินหลง ยังเป็นศิลปินคนแรก ที่ได้เปิดคอนเสิร์ตที่สนามกีฬารังนกอีกด้วย

สำหรับอันดับที่ 2 กลายเป็นของหนุ่ม โจวเจี๋ยหลุน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เจย์ โจว (Jay Chou) นักร้องคนดังจากไต้หวัน ที่ปีก่อนคนขยันคนนี้ ทำงานทั้งในวงการภาพยนตร์,เพลง และโทรทัศน์ เรียกว่าตลอดปี 2009 ชาวจีนแทบจะเจอพ่อหนุ่มคนนี้ตามสื่อต่างๆ กันเกือบทุกวันเลยทีเดียว และงานทั้งหมดในปีก่อน ก็ทำเงินทำทองให้เขาได้ถึง 120 ล้านหยวน (564 ล้านบาท) ปลายปีนี้ เจย์ โจว จะมีผลงานหนังระดับฮอลลีวูดเป็นเรื่องแรก ที่น่าจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักขึ้นไปอีก

ขณะเดียวกัน โจลิน ไช่อี้หลิน (Jolin Tsai) สาวคนดังแห่งไต้หวัน อดีตคนเคยรักของหนุ่ม เจย์ ก็ยังติดอันดับมาถึงอันดับ 7 กับรายได้ 46.5 ล้านหยวน (218 ล้านบาท) และเป็นข่าวในไต้หวันตลอดทั้งปี

การถูกเปิดโปงเรื่องชีวิตสมรสเกือบตลอดช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ภาพของ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ปรากฏในสื่อจีนแบบข้ามปี จนนักร้องนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง กลายเป็นคนบันเทิงอันดับ 3 ของ Forbes ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะด้านฉาวเท่านั้น หนุ่มวัย 48 ปีคนนี้ยังคงทำงานแบบไม่มีหยุดไม่มี่หย่อน อย่างที่เป็นมาหลายปีแล้ว จนมีรายได้ตลอดปีถึง 86.2 ล้านหยวน (405 ล้านบาท) เลยทีเดียว

คำวิจารณ์ในแง่ร้ายเกี่ยวกับการร้องเพลงของเขา แต่นั่นไม่ทำให้โจเฉิง (Joe Cheng) หมดความหลงใหลในเสียงเพลง

โจ เฉิงเข้าสู่วงการเพลงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วย EP อัลบั้ม Sing A Song ที่มีเพลงทั้งหมด 5 เพลง โดยเพลงของเขาโดยรวมแล้วถูกวิจารณ์ในแง่ลบ แต่เขาก็ยังยืนยันว่า เขาจะยังคงทำในสิ่งที่เขารักต่อไป

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาทำการโปรโมท Sing a Song เขากล่าวว่า เขาหวังว่าจะได้ออกอัลบั้มเต็มสักวันหนึ่ง แม้ว่าเขาจะยอมรับว่า เขาไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการร้องเพลง

โจเฉิงยังทำการเต้นให้ได้เห็นในมิวสิควีดีโอเพลงไตเติ้ลของเขา คู่กับเพื่อนสนิทของเขา หลินจื่อหลิง (Lin Chi Ling)

"การร้องและเต้นนั่นต่างก็ยาก แต่การร้องและเต้นไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกันนั้นยากที่สุด! ผมไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการร้องหรือเต้น ดังนั้น ผมจะต้องฝึกฝนให้หนักเป็นพิเศษ"

Milk อดีตศิลปินวง Energy รับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนการเต้นของโจ แม้ว่าหลายๆคนจะรู้จักเขาว่าเป็นคนที่ตลก โจกลับกล่าวว่า เขาเป็นอาจารย์ที่เข้มงวดมาก "เขาไม่ให้กำลังใจหรือว่าชื่นชม เขาจู้จี้มาก"

โจรับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างจริงจัง เพื่อที่จะพัฒนาต่อไปให้ประสบความสำเร็จในวงการเพลง "เทคนิคของผมแย่มากๆ ทำให้ผมต้องทำการศึกษาอย่างมาก และเรียนรู้ด้วยตัวผมเอง"

เมื่อเขาถูกถามว่า ทางบริษัทเพลงของเขามีเงื่อนไขว่าจะออกอัลบั้มเต็มให้ก็ต่อเมื่อซิงเกิ้ล EP ของเขาขายดีเท่านั้นหรือเปล่า โจเพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า "พวกเขาไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ผมสามารถรู้สึกได้!" จากนั้นโจจึงหัวเราะออกมา

MediaCorpTV

อีธาน รวน (Ethan Ruan) เพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์ Monga ทำให้เขาลดความดุของเขา และกลับมาบ้าตามธรรมชาติอีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ในรายการวาไรตี้โชว์ Kang Xi Lai Le (KangXi Arrives หรือ Here Comes KangXi) เขาและมาร์ค จ้าวโหย่วทิง (Mark Zhao) ก็จูบปากต่อปากกัน เมื่อวันที่ 7 ในงานแคทวอล์คของเหล่าคนดังที่มาร่วมถ่ายรูปกันฉลองวันปีใหม่ อีธานไม่ได้พบกับโจเฉิง (Joe Cheng) มาเป็นเวลานาน เขากระโจนเข้าหาโจเฉิง และเลียเข้าที่หูของโจ โจแทบไม่เชื่อและกล่าวว่า "ผมปฎิเสธจะแบ่งริมฝีปากเดียวกันกับมาร์ค"

ในระหว่างการถ่ายทำ Monga อีธานอินเข้าบทเขาอย่างมาก แม้กระทั่งนอกเวลาการถ่ายทำ เขาก็ยังมีบุคลิกเหมือนในการแสดง มีครั้งหนึ่งที่เขาโมโหคนขับรถแท็กซี่อย่างมาก เขาลดหน้าต่างลง และจ้องมองอย่างดุร้ายใส่คนขับ เขาเปิดเผยเรื่องนี้เนื่องจากเขาไม่สามารถทนได้ที่คนขับหยุดรถตลอดเวลารอบๆโรงแรม ยังมีครั้งหนึ่งที่เขาสู้กับคนอื่นข้างถนน แต่เมื่อการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง เขากลับมาเป็นตัวของเขาเอง เขากล่าวว่า "เมื่อผมมองกลับไปในภาพที่ผมเคยถ่ายมาก่อนหน้านี้ ผมยังรู้สึกกลัวตาของผมเองเลย"

ทั้งอีธาน และโจ มาจากไทจุง แต่เมื่อปีที่แล้ว โจขยายงานของเขาออกไปต่างประเทศ ในขณะที่อีธานก็ยุ่งอยู่กับการถ่ายทำหนัง Monga พวกเขาสองคนไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน เมื่อถามโจว่า เขากลัวว่าอีธานจะขโมยงานในวงการบันเทิงไปทั้งหมดหรือเปล่า? โจตอบมาว่า "ถ้ามันเป็นของผม มันก็เป็นของผม ถ้ามันเป็นของเขา มันก็ยังเป็นของเขา"

เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าความรักระหว่างพี่น้องของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง อีธานเข้าไปจูบที่หูของโจอย่างไม่คาดฝัน โจรีบปิดหูของเขา และตะโกนว่า "หูของผมเป็นส่วนที่เซนซิทีฟมากที่สุด คุณจะจูบที่ไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ที่หูของผม" แต่อีธานไม่สนใจคำเตือน และยังเข้าหาเขาอีกครั้ง สร้างความรำคาญให้แก่โจ โดยกล่าวว่า "หูของผมเปียกไปหมดแล้ว คุณแลบลิ้นออกมาด้วยใช่ไหม!"

เจิ้งหยวนจาง (Zheng Yuan Chang) หรือเสี่ยวจง (Xiao Zong) เป็นแขกรับเชิญในรายการ Love Love Love ทาง Channel [V] เมื่อวันก่อน เขาทำการเลือกแฟนหญิง 3 คน และเขาจะทำการแวะไปเยี่ยมบ้านของพวกเธอ พิธีกร Chen Chein Chou กล่าวชมเสี่ยวจงว่าเขามีแฟนที่สวย และเขาอิจฉาเสี่ยวจงอย่างมาก

หนึ่งในแฟนสาวสวมชุดสตรอเบอรี่สร้างความประหลาดใจให้แก่เสี่ยวจง แฟนสาวกล่าวว่า "ฉันรู้ว่าคุณชอบสตรอเบอรี่ นั่นคือสาเหตุที่ฉันแต่งตัวอย่างนี้" หลังจากเสี่ยวจงเดินเข้าไปในบ้านของเธอ เขามักจะเล่นกับแมวสีขาวของเธอ และดูรูปต่างๆบนคอมพิวเตอร์ของเธอ รวมถึงภาพชุดว่ายน้ำด้วย เหม่ยเหมย (Mei Mei) พิธีกรร่วมในรายการ เพิ่งมารู้ว่า แฟนหญิงคนนี้คือ Honey ซึ่งเคยเป็น Mei Mei ใน The Blackie Show เหม่ยเหมยกล่าวชื่นชมเธอว่าดูดี เธอชื่นชอบเสี่ยวจงมาตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงตอนนี้

on.cc

โจ เฉิง (เสี่ยวจง / Joe Cheng / Zheng Yuan Chang) ออกอัลบั้ม EP เปิดตัวการเข้าสู่วงการเพลงของเขา โดยทำยอดขายได้เกือบ 2 หมื่นก็อปปี้ โดยยอดขายจริงๆของเขาคือ 18,008 ก็อปปี้ในเวลาเพียง 2 วัน เกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ เขาตื่นเต้นและกล่าวว่า "ในตอนแรก ผมคิดว่าผมจะทำได้เพียง 1 หมื่นก็อปปี้เท่านั้น"

นายเทราดะ ประธานบริษัท AVEX ภาคพื้นเอเชียปรากฏตัวเฉพาะสำหรับงานฉลองครั้งนี้ ด้วยการแจกลายเซ็น, เปิดแชมเปญ และทุบรูปปั้นน้ำแข็งด้วยกัน เสี่ยวจงที่ต้องทนอดหลับอดนอนมาหลายคืน และเพราะว่างานนี้ผ่านพ้นไปทำให้เขาคลายเครียด และได้หลับพักอย่างสบาย แฟนๆต่างก็ขอให้เขาแก้ผ้าวิ่งไปรอบๆ หรือไม่ก็แก้ผ้าว่ายน้ำ เขากล่าวอย่างภูมิใจว่า "พวกเราตั้งเป้าให้สูงกว่านี้ได้หรือเปล่า? รอจนกระทั่งถึง 5 หมื่นก็อปปี้ ถึงตอนนั้นแล้ว ร่างกายที่แข็งแรงของผมจะมีโอกาสได้พบกับทุกๆคน"

การที่เสี่ยวจงสามารถออก EP นี้ได้อย่างราบรื่น ต้องให้เครดิตกับคนสองคน ซึ่งก็คือครูสอนด้านการออกเสียงของเขา Xie Wen De และนักออกแบบท่าเต้น Niu Nai ทั้งสองคนมาถึงเพื่อตรวจสอบการแสดงของเขา หลังจาก Niu Nai ชมการแสดงของเสี่ยวจงแล้ว กล่าวชมการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเสี่ยวจง

ก่อนหน้านี้ในระหว่างการฝึกซ้อม Niu Nai เข้มงวดกับเขามาก ถ้าเขาไม่สามารถทำได้ตามมาตรฐานของ Niu Nai ก็จะโดยเสียงไม่พอใจออกมาจาก Niu Nai เมื่อถึงจุดนึงแล้ว เสียงดังกล่าวสร้างความกดดันให้เขาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาที่เขาเกิดอาการเครียดและเศร้าในระหว่างที่เขาฝึกซ้อมท่าเต้น นั่นเพราะว่าเขาอยู่กับ Niu Nai ทุกๆวัน และไม่สามารถทำให้ Niu Nai ยอมรับเขาได้ เขากล่าวตลกๆว่า "ในหมู่คนไต้หวันทั้งหมด มีเพียง Niu Nai เท่านั้นที่กล้าที่จะทำเสียงไม่พอใจใส่นักร้องไอด้อล ใช่หรือเปล่า?" ทางด้าน Niu Nai ย้อนกลับโดยกล่าวว่า เมื่อตอนที่เสี่ยวจงไม่พอใจ เขาจะใช้เท้าเตะด้านหลังของผม การกระทำนี้ทำให้ผมโมโหอย่างมาก

การออกอัลบั้ม EP นี้ เสี่ยวจงมีเพื่อนๆสนับสนุนเขามากมาย เช่นเสี่ยวกุ่ย (Xiao Gui) ที่ซื้อไป 50 ก็อปปี้, เรนนี่ หยาง (Rainie Yang) ที่ซื้อไป 20 ก็อปปี้, เพื่อนๆใน CATWALK และผู้จัดการทั่วไป Hong Wei Min ซื้อไป 50 ก็อปปี้ ทำให้เสี่ยวจงประทับใจอย่างมาก

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) นักแสดงหญิงชาวไต้หวันได้รับความโด่งดังอย่างมาก ตั้งแต่เธอแสดงนำในภาพยนตร์ It Started With A Kiss โดยมีโจ เฉิง (Joe Cheng) ร่วมแสดงนำในละครด้วย เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาสองคนต่างก็เข้าสู่วงการเพลง เอเรียลกล่าวว่า เธอหวังว่าจะทำให้ผู้คนประทับใจได้ด้วยเสียงของเธอ ทางด้านโจ เฉิงที่ว่ากันว่ากำลังจีบเธออยู่นั่น เอเรียลกล่าวเพียงแค่ว่า "(เมื่อฉันพูดว่า) พวกเราเป็นเพื่อนกัน นั่นหมายความว่าเราเป็นเพียงแค่เพื่อนกันจริงๆ"

เอเรียลที่อายุ 27 ปีในปีนี้ ประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงจากที่เคยเป็นนางแบบมาก่อน และเธอยังได้รับฉายาว่าเป็น นักแสดงนำหญิงอันดับหนึ่งในละครไอด้อล ทำให้หลายๆคนต่างก็พูดกันว่า การเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะศิลปินนั้น เป็นอะไรที่เรียบง่าย เมื่อเร็วๆนี้ เธอตอบรับการท้าทายอีกครั้งหนึ่งด้วยการออกอัลบั้ม ทำให้เธอกลายมาเป็นนักร้อง ผลตอบรับเป็นที่น่าประหลาดใจมาก เอเรียลกล่าวว่า "ตั้งแต่เข้าสู่วงการมา ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะเป็นนักร้อง ฉันชอบจะฮัมและร้องเพลงอย่างมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวาดฝันไปว่าฉันจะมีอัลบั้มทั้งอัลบั้มเป็นของฉันเอง"

การจากไปอย่างกระทันหันของเพื่อนสนิทของเธอ สวีเว่ยหลุน (Beatrice Hsu) และการเข้ารับการผ่าตัดสมองของเธอในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เอเรียลรู้สึกได้ถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ในที่สุด เธอก็ยอมรับคำแนะนำของผู้จัดการของเธอ และเริ่มที่จะเข้าสู่วงการนักร้อง เธอร่วมมือกับ Avex เพื่อออกอัลบั้มแรกของเธอในชื่อว่า Blissful Encounter

เอเรียลกล่าวว่า "จริงๆแล้ว มันเป็นโชคชะตาจริงๆ บริษัทเพลงที่สวีเว่ยหลุนเคยเซ็นสัญญาด้วยวนั่น เป็นบริษัทที่ฉันเซ็นสัญญาอยู่ด้วยในขณะนี้ แต่เธอเสียชีวิตไปหลังจากการบันทึกเพลงไม่กี่เพลง บางที ฉันอาจจะเป็นคนช่วยทำให้เธอทำได้อย่างที่เธอฝันไว้!"

โจเฉิง (Joe Cheng / Zheng Yuang Chang) เพิ่งเดินทางจากญี่ปุ่นไปยังฮ่องกงเพื่อเข้าร่วมงาน เขาเปิดเผยว่า เขายุ่งอย่างมากในการถ่ายภาพสำหรับปฏิทินในญี่ปุ่นสำหรับปีหน้า เมื่อถูกถามว่าเขามีเวลาไปช็อปปิ้งในญี่ปุ่นหรือเปล่า? เขากล่าวว่า "ผมมีโอกาสได้ช็อปปิ้ง และซื้อจานชาม รวมถึงเครื่องใช้เล็กๆมามากมาย ทำให้กระเป๋าหนักเกินที่กำหนด และเขาต้องหิ้วของบางอย่างขึ้นเครื่องแทน หลังจากนั้น เพื่อนร่วมงานบอกผมว่า ผมสามารถหาของเหล่านั้นได้ในไต้หวัน แต่ผมไม่กล้าที่จะช็อปในไต้หวัน!"

เมื่อโจถูกถามว่าคุณจะให้ของเหล่านั้นกับแฟนของคุณหรือเปล่า? เขาตอบว่า ไม่ นั่นมันสำหรับผม ถ้าเวลาเหมาะสม ผมจะให้ของบางอย่างกับเพื่อนๆ อย่างเช่นก่อนหน้านี้ ในระหว่างภัยพิบัติในไต้หวัน ผมก็บริจาคเสื้อ 2 ตัวของผมที่เคยใช้ในการถ่ายทำละคร เพื่อนำมาประมูล

แล้วคุณจะแวะไปบริเวณที่ประสบภัยพิบัติหรือเปล่า? โจตอบว่า ผมกลัวว่าผมจะเข้าไปรบกวนพวกเขา และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำหลังจากภัยพิบัติคือการสร้างกลับมาใหม่ และนี่เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำกันได้ภายใน 1 - 2 ปี

On.cc

สองหนุ่มสุดหล่อ โจเฉิง (Joe Cheng / Xiao Zhong) และไมค์ เฮอ (Mike He) พร้อมกับนักแสดงสาวโจเฉิน (Joe Chen) เดินทางไปเซี่ยงไฮ้เมื่อวันก่อนเพื่อร่วมงานกับแฟนๆนับพัน

จากละคร It Started With a Kiss มาจนถึง They Kissed Again และยังมีละครเรื่อง Love Or Bread โจเฉิงและเอเรียล หลิน (Ariel Lin) ร่วมงานกันมาถึง 3 ครั้งแล้ว อาจจะกล่าวได้ว่า พวกเขามีโชคชะตาที่ต้องมาร่วมงานกัน แม้กระทั่งความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาเองก็ดีมากๆ โดยมักจะมีข่าวลือออกมาบ่อยๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ โจเฉิงตอบอย่างเรียบๆว่า อะไรก็เป็นไปได้ "เอเรียลเพิ่งให้ของขวัญผม สำหรับวันเกิดของผม มันเป็นจักรยานสีขาวที่พับเก็บได้" สำหรับเหตุผลที่ได้จักรยานนั้น แม้กระทั่งโจเฉิงเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขากล่าวว่า เขาจะใช้มันในการออกกำลังกายมากขึ้น

โจเฉิงพูดเกี่ยวกับเรื่องตลกที่เขาพบในระหว่างการถ่ายทำโฆษณาเมื่อเร็วๆนี้ ในฉากหนึ่ง เขาและไมค์จะต้องใช้สเก็ตบอร์ดเพื่อยกโจเฉินไปในกลางอากาศ แต่เพราะว่าความสูงของพวกเขาไม่เท่ากัน และโจเฉินเองก็กลัวความสูงด้วย โจเฉินแสดงให้เห็นถึงความกลัวออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อกล้องไม่ได้ทำการถ่ายทำ แต่เมื่อกล้องส่องไปที่เธอ เธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มออกมาอย่างสวยงาม สร้างความประทับใจให้โจเฉิงเป็นอย่างมาก

People.com.cn

โจ เฉิง (Joe Cheng) และเอเรียล หลิน (Ariel Lin) สองนักแสดงชื่อดังจากละครเรื่อง It Started With A Kiss : They Kissed Again ละครชื่อดังจากไต้หวัน พวกเขาเดินทางมายังโตเกียวเพื่อพบปะแฟนๆในงาน "การปรึกษาเร่ืองการจูบ"

It Started With A Kiss เป็นการ์ตูนที่เรื่องสุดท้ายที่ทาดะ คาโอรุ (Tada Kaoru) เขียนขึ้น เธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อปี 1999 เรื่องราวของการ์ตูนเกี่ยวกับนักเรียนหญิงชั้นมัธยม Kotoko (Xiang Qin) ที่ตกหลุมรักอัจฉริยะ Naoki (Zhishu) แต่เขาไม่ตอบรักนั้นของเธอ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ Kotoko ย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของ Naoki และเรื่องราวต่างๆก็เริ่มขึ้น ละคร They Kissed Again เป็นภาคที่ 2 ซึ่งเริ่มต้นด้วยการแต่งงานของพวกเขา ละครเรื่องนี้กำลังออกอากาศในญี่ปุ่น และยังมีดีวีดีออกจำหน่ายด้วย

แดนสัน ถัง (Danson Tang) หนึ่งในนักแสดงในละครเข้าร่วมงานสองงานด้วย โดยมีแฟนๆทั้งหมดประมาณ 3 พันคนเข้าร่วม ในงาน โจเฉิงที่รับบท Naoki ยิ้มและกล่าวเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "They Kissed Again น่าสนใจมาก คุณต้องหาโอกาสชมเรื่องนี้" ตั้งแต่เดินทางมาญี่ปุ่น เขาไม่มีโอกาสไปช็อปปิ้งที่ชิบูย่าเลย และดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยพอใจ เขากล่าวว่า "น่าเสียดายจัง" นอกจากนี้แล้ว แดนสันยังกล่าวว่า "ในตอนแรก ผมมีแผนที่จะออกไปหาอะไรอร่อยๆกิน และก็เป็นอย่างที่คาด คือไม่มีเวลา" หลังจากเขากล่าวเสร็จแล้ว พวกเขาทั้ง 3 คนก็กล่าวว่า "น่าสงสารจริงๆ!" ทำให้ผู้สื่อข่าวต่างก็หัวเรากัน

Mainichi

จางซอฮี (Jang Seo Hee) นักแสดงจากเกาหลีใต้เดินทางมายังไต้หวันเพื่อโปรโมทละคร Temptation of Wife และใช้ช่วงเวลาว่างของเธอในการตามล่าหาคนดังเพื่อหลานของเธอ และเธอก็ได้พบกับจิโร่ หวัง (Jiro Wang) เธอกล่าวตลกว่า ถ้าเธอมีโอกาส เธออยากจะร่วมงานกับจิโร่ หวัง (Jiro Wang) และโจเฉิง (Joe Cheng) ในละคร It Started With A Kiss ภาค 3 การต่อสู้กับนักแสดงนำหญิงเอเรียล หลิน (Ariel Lin)

ในระหว่างที่จองซอฮีพักอยู่ในไต้หวัน เธอเปิดเผยว่า หลานของเธอเป็นแฟนตัวยงของจิโร่ หวัง (Jiro Wang) แห่งวง Fahrenheit ทางบริษัทต้นสังกัดของเธอจึงติดต่อกับทางต้นสังกัดของจิโร่ และทำให้จิโร่มาพบกับเธอในช่วงที่เขามีเวลาว่างจากการถ่ายทำ ทำให้เธอได้รับโปสเตอร์ที่มีลายเซ็นของจิโร่เป็นของขวัญในการพบกัน

เมื่อจิโร่ปรากฎตัวขึ้น พนักงานหญิงทั้งหลายที่มากับจางซอฮีต่างก็ตื่นเต้นในตัวจิโร่ และหลังจากจางซอฮีได้เห็นเสน่ห์ของต้าตง (ชื่อของจิโร่) เธอบอกบริษัทของเธอว่า เธอหวังจะมีโอกาสได้แสดงร่วมกับเขา โดยกล่าวตลกๆว่า "ฉันปรารถนาที่จะมีโอกาสได้ร่วมถ่ายทำภาคต่อไปของละคร It Started With A Kiss ร่วมกับโจเฉิง และจิโร่ หวัง ฉันสามารถแสดงบทของเอเรียล หลินได้"

ทางด้านละคร Temptation of Wife ละครที่จางซอฮีเดินทางมาไต้หวันเพื่อโปรโมทนั่น สามารถทำเรทติ้งได้อย่างสวยงาม เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ละครสามารถทำเรทติ้งได้สูงสุดที่ 2.88% ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 2 ของรายการทีวีทางเคเบิ้ล ก่อนที่เธอจะเดินทางมายังไต้หวัน เรทติ้งที่ได้รับอยู่ที่ 1.95% และมาตอนนี้ เรทติ้งเพิ่มไปถึง 0.9% ซึ่งหมายความว่า มีจำนวนคนชมเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนคน เมื่อเปรียบเทียบกับคนดังจากเกาหลีที่เดินทางมาไต้หวันเพื่อโปรโมทละครของพวกเขา จางซอฮีกลายเป็นศิลปินหญิงที่มีอิทธิพลในการสร้างเรทติ้งมากที่สุดเลยทีเดียว

Liberty Times

โจ เฉิง (Joe Cheng / Zheng Yuan Chang) มีอายุครบ 27 ปี ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ หลังจากการจัดงานฉลองวันเกิดนานาชาติในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้ โจที่ชอบชายหาดและแสงแดดเลือกที่จะฉลองวันเกิดของเขาในโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยมีแฟนๆนอกจากแฟนชาวญี่ปุ่นมาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะมาจากไต้หวัน, ฮ่องกง, เกาหลี และประเทศอื่นๆ รวมทั้งหมดประมาณ 500 คน พวกเขามาร่วมฉลองวันเกิดในโอกินาว่าเป็นเวลา 2 วัน 1 คืนด้วยกัน

เพื่อนสนิทของโจในวงการบันเทิงต่างก็ส่งข้อความอวยพรวันเกิดให้แก่เขาทางคลิปวีดีโอ หลินจื้อหลิง (Lin Chi Ling) กล่าวว่า "เสี่ยวจงมักจะเป็นคนแรกที่โทรหาฉันเมื่อฉันรู้สึกไม่ดี หรือมีปัญหาอะไร ช่วยคลายความไม่สบายใจของฉัน ให้ความสนับสนุนฉัน เป็นคนที่มีความคิดอย่างมาก"

ทางด้านอีธาน รวน (Ethan Ruan) กล่าวว่า "เสี่ยวจงมักจะนำหน้าคนอื่นทุกๆคน การเดินทางไปยังเมืองต่างๆในประเทศต่างๆ หวังว่าเสี่ยวจงจะกลายมาเป็นคนดังในหลายๆที่มากขึ้น และนำหน้าพวกเราไปด้วย!" ในคลิปวีดีโออวยพรยังมีคำอวยพรจากเอลล่า (Ella), จางจวินหนิง (Janine Chang) และคนอื่นๆด้วย

ของขวัญจากแฟนๆต้องใช้กล่องใหญ่ๆถึง 20 กล่องเพื่อเก็บของเหล่านั้น ของที่พิเศษที่สุดนั่นเป็นของขวัญจากแฟนๆชาวญี่ปุ่นที่ร่วมกันซื้อดาวสำหรับเขา โดยซื้อมาจาก Astronomical Society of Australia และตั้งชื่อมันเป็นชื่อภาษาอังกฤษของโจว่า JOSEPH CHENG โจตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเขาถือหนังสือรับรอง เขากล่าวว่า "ดาวดวงนี้จะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในวันที่ 19 มิถุนายนของทุกๆปี! ถือเป็นดาวดวงหนึ่งที่รวมกันเป็นสัญลักษณ์ของราศีพฤศจิก"

UDN

เมื่อบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นักแสดงนำชายและหญิงของละคร They Kiss Again โจเฉิง (Joe Cheng) และเอเรียล หลิน (Ariel) เป็นแขกรับเชิญในรายการโชว์ทางอินเทอร์เนทของทาง Hunan TV พูดคุยเกี่ยวกับการร่วมงานระหว่างสองคู่รักชื่อดังคู่นี้

ระหว่างการสัมภาษณ์ ทั้งสองคนพูดเกี่ยวกับเรื่องตลกของพวกเขา, เรื่องที่พวกเขาสนใจ และความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับการแสดง เมื่อพูดเกี่ยวกับฉากในละคร Love or Bread โจเปิดเผยว่า เอเรียลมีฉากจูบที่น่าตื่นเต้นและร้อนแรงกับ Jarvis Wu เอเรียลแสดงออกมาทันทีที่โจกล่าว เธอกล่าวว่า เธอไม่ได้มีฉากจูบกับ Jarvis Wu นั่นมันนักแสดงหญิงอีกคนหนึ่ง โจเฉิงจึงแสดงความโล่งใจออกมา พร้อมกับถามว่า "โอ้ จริงหรือ?" นิสัยของพวกเขาสร้างความสนใจกับพิธีกร และทำให้พิธีกรเริ่มถามพวกเขาเกี่ยวกับฉากบนเตียง และฉากในห้องน้ำ

Defeated Queen (My Queen) ละครเรื่องใหม่ของอีธาน รวน (Ethan Ruan) ดาราสุดฮอท เริ่มออกอากาศไปแล้ว พร้อมกับเรทติ้งที่สวยงาม โจ เฉิง (Joe Cheng) ซึ่งต่อสู้กับอีธานมาแล้วสองครั้ง ยังคงพ่ายแพ้อีธานอยู่ดี แต่เขายังไม่ต้องการให้เอาเรื่องนี้มาปนกัน โดยย้ำว่า ความเป็นเพื่อนกันระหว่างโจเฉิงและเสี่ยวเทียน (Xiao Tian / Ethan Ruan) ยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่โจก็ไม่ได้ปิดความจริง และยอมรับว่า เขาไม่ได้ดู Defeated Queen เขากล่าวว่า "ผมคิดว่า ตอนนี้ของ Love Or Bread ดีมากที่จะชม และระหว่างพักโฆษณา ผมพูดคุยกับแม่ผม ทำให้ผมไม่มีเวลาเปลี่ยนช่องดู"

ละคร Defeated Queen (My Queen) เริ่มออกอากาศแล้ว ฉากบนเตียงระหว่างอีธาน รวน (Ethan Ruan) และ ชอริล หยาง (Charyl Yang) กลายเป็นเรื่องพูดคุยกันอย่างมาก โจเฉิง (Joe Cheng) และเอเรียล หลิน (Ariel Lin) ไม่ต้องการที่จะแพ้ ต่อจากละคร They Kiss Again พวกเขาถ่ายฉากบนเตียงกันอีกครั้งในละคร Love Or Bread เอเรียลพูดติดตลกว่า "เพราะว่าฉันลดน้ำหนักลง ทำให้เปิดเผยได้มากขึ้น"

จริงๆแล้ว การถ่ายทำฉากนี้เพราะว่าโจ ทั้งสองคนร่วมงานกันหลายครั้ง ทำให้เอเรียลรู้สึกสบายๆเมื่อต้องสวมใส่ชุดชั้นในต่อหน้าเขา นอกจากนั้น ฉากนี้เกี่ยวกับว่า เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมา พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมพวกเขามานอนอยู่ด้วยกัน มันไม่มีการสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งหรืออะไรก็ตาม

UDN

เสี่ยวจง (Xiao Zhong / Joe Cheng) มีความอดทนมากกว่า Huang Wen Xing เมื่อวันก่อน ในงานโปรโมทละคร Love or Bread ของทาง GTV การแข่งขันกันกอดถูกจัดขึ้นท่ามกลางสายฝน และเมื่อ Huang Wen Xing อุ้มจางเจียฮุย (Zhang Jia Hui / Angus Zhang) เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็หล่นลงมา เสี่ยวจงกล่าวกวนๆว่า "ผมมีความอดทนมากกว่าคุณ!"

คืนก่อนหน้านี้ โจเฉิง (Joe Cheng) เดินทางไปไท้จุงเพื่อร่วมงานฉลองวันปีใหม่ และในระหว่างทาง เขาแวะบ้านของเขาเพื่อพบกับครอบครัวของเขา แต่แล้วพ่อของเขาก็ไม่พอใจ และเท่าที่เขาคิดได้ ก็คือว่า เขาต้องการจะคุยกับลูกสะใภ้ของเขา เอเรียล หลิน (Ariel Lin) โจกล่าวว่า "ผมจะไม่ให้เขาทำอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาอาจจะทำอะไรเว่อร์ๆเกินไป"

โจเฉิง (Joe Cheng) เข้าร่วมงานโปรโมทงานหนึ่ง เปิดเผยว่า ทัวร์การแสดงบนเวทีของเขากำลังจะมีขึ้นในไต้หวันเร็วๆนี้

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นักแสดงไอด้อลรุ่นใหม่ เสี่ยวจง (Xiao Zhong / Joe Cheng) เข้าร่วมงาน LOTTE Extravagance Christmas Tree เสี่ยวจงรับหน้าที่เป็นคิวปิด Pepero เพื่อนำของขวัญชิ้นใหญ่มอบให้แก่ผู้ชนะการแข่งขัน ที่จัดขึ้นทางเว็บของ Pepero รวมถึงการดูแลสาวๆ ทำให้สาวๆคนอื่นที่อยู่ในงานนั่นต่างก็อิจฉา