ข่าวจีน

ทาโบล (Tablo) นักร้องฮิปฮอปจากกลุ่มศิลปินเอพิคไฮ (Epik High) เปิดเผยว่า เขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกับนักแสดงชาย เซี่ยถิงฟง Nicholas Tse) และยังเคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนด้วยกันด้วย

นักร้องวัย 29 ปี เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Gold Fish ของทาง MBC เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เขากล่าวว่า เขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันในระหว่างเรียนชั้นมัธยม ซึ่งในขณะนี้ เซี่ยถิงฟงมีจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) นักแสดงหญิงชาวฮ่องกงเป็นภรรยา

"พวกเราทะเลาะกันบ่อยครั้งกับคนผิวขาวคนหนึ่งที่โรงเรียนของพวกเราเป็นเวลาประมาณ 1 ปี" ทาโบลกล่าว "ผมไม่ชอบเขาเพราะเขามักจะปิดเพลงที่ผมฟังอยู่ และล้อเลียนมัน"

"วันหนึ่ง ผมไม่ได้อยู่ที่นั่น เซี่ยถิงฟงเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับเขา และผมก็ถูกไล่ออกมาพร้อมๆกับเขา ผมคิดว่าทางโรงเรียนไม่ชอบผมเพราะว่าพวกเราเคยทะเลาะกันมาหลายครั้งก่อนหน้านี้"

เซี่ยถิงฟงเป็นทั้งนักร้อง, นักแต่งเพลง และนักดนตรี เขาร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง เช่น Dragon Tiger Gate, Gen-X Cops และ New Police Story ซึ่งเป็นผลงานการร่วมมือกับเฉินหลง (Jackie Chan)

ทาโบลเป็นหัวหน้าวงเอพิคไฮ และกำลังจะแต่งงานกับนักแสดงหญิง คังเฮจอง (Kang Hye Jung) ในเร็วๆนี้

Asiae

โจ เฉิง (เสี่ยวจง / Joe Cheng / Zheng Yuan Chang) ออกอัลบั้ม EP เปิดตัวการเข้าสู่วงการเพลงของเขา โดยทำยอดขายได้เกือบ 2 หมื่นก็อปปี้ โดยยอดขายจริงๆของเขาคือ 18,008 ก็อปปี้ในเวลาเพียง 2 วัน เกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ เขาตื่นเต้นและกล่าวว่า "ในตอนแรก ผมคิดว่าผมจะทำได้เพียง 1 หมื่นก็อปปี้เท่านั้น"

นายเทราดะ ประธานบริษัท AVEX ภาคพื้นเอเชียปรากฏตัวเฉพาะสำหรับงานฉลองครั้งนี้ ด้วยการแจกลายเซ็น, เปิดแชมเปญ และทุบรูปปั้นน้ำแข็งด้วยกัน เสี่ยวจงที่ต้องทนอดหลับอดนอนมาหลายคืน และเพราะว่างานนี้ผ่านพ้นไปทำให้เขาคลายเครียด และได้หลับพักอย่างสบาย แฟนๆต่างก็ขอให้เขาแก้ผ้าวิ่งไปรอบๆ หรือไม่ก็แก้ผ้าว่ายน้ำ เขากล่าวอย่างภูมิใจว่า "พวกเราตั้งเป้าให้สูงกว่านี้ได้หรือเปล่า? รอจนกระทั่งถึง 5 หมื่นก็อปปี้ ถึงตอนนั้นแล้ว ร่างกายที่แข็งแรงของผมจะมีโอกาสได้พบกับทุกๆคน"

การที่เสี่ยวจงสามารถออก EP นี้ได้อย่างราบรื่น ต้องให้เครดิตกับคนสองคน ซึ่งก็คือครูสอนด้านการออกเสียงของเขา Xie Wen De และนักออกแบบท่าเต้น Niu Nai ทั้งสองคนมาถึงเพื่อตรวจสอบการแสดงของเขา หลังจาก Niu Nai ชมการแสดงของเสี่ยวจงแล้ว กล่าวชมการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเสี่ยวจง

ก่อนหน้านี้ในระหว่างการฝึกซ้อม Niu Nai เข้มงวดกับเขามาก ถ้าเขาไม่สามารถทำได้ตามมาตรฐานของ Niu Nai ก็จะโดยเสียงไม่พอใจออกมาจาก Niu Nai เมื่อถึงจุดนึงแล้ว เสียงดังกล่าวสร้างความกดดันให้เขาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาที่เขาเกิดอาการเครียดและเศร้าในระหว่างที่เขาฝึกซ้อมท่าเต้น นั่นเพราะว่าเขาอยู่กับ Niu Nai ทุกๆวัน และไม่สามารถทำให้ Niu Nai ยอมรับเขาได้ เขากล่าวตลกๆว่า "ในหมู่คนไต้หวันทั้งหมด มีเพียง Niu Nai เท่านั้นที่กล้าที่จะทำเสียงไม่พอใจใส่นักร้องไอด้อล ใช่หรือเปล่า?" ทางด้าน Niu Nai ย้อนกลับโดยกล่าวว่า เมื่อตอนที่เสี่ยวจงไม่พอใจ เขาจะใช้เท้าเตะด้านหลังของผม การกระทำนี้ทำให้ผมโมโหอย่างมาก

การออกอัลบั้ม EP นี้ เสี่ยวจงมีเพื่อนๆสนับสนุนเขามากมาย เช่นเสี่ยวกุ่ย (Xiao Gui) ที่ซื้อไป 50 ก็อปปี้, เรนนี่ หยาง (Rainie Yang) ที่ซื้อไป 20 ก็อปปี้, เพื่อนๆใน CATWALK และผู้จัดการทั่วไป Hong Wei Min ซื้อไป 50 ก็อปปี้ ทำให้เสี่ยวจงประทับใจอย่างมาก

ว่ากันว่า เพลง White เพลงใหม่จากแอนเจล่า จาง (Angela Zhang) นั่นช่างคล้ายคลึงกับเพลง Innocence ของอาวริล ลาวีน (Avril Lavigne) โดยเฉพาะในช่วงที่แอนเจล่าร้องเพลงว่า 你是無形的傷口 (คุณคือบาดแผลที่มองไม่เห็น) ฟังดูแล้วจะคล้ายกับท่อนที่อาวริลร้องว่า "I need you" ในเพลงของอาวริล

หลังจากมีการเปรียบเทียบรายละเอียดโดยนักข่าว พวกเขาสรุปว่า เพราะว่า 2 เพลงนี้ทำออกมาในสไตล์ซอฟร็อค และทีมงานพิเศษของอาวริลเองก็ถูกจ้างมาให้ช่วยในการทำอัลบั้มนี้ ทำให้มันไม่แปลกที่เพลงของแอนเจล่าจะออกมาคล้ายคลึงกับเพลงของอาวริล การไปกล่าวหาเธอว่าเธอทำเสียงเลียนแบบดูจะเกินไป

Innocence ออกมาเมื่อปี 2007 และเป็นการประกาศจากเธอว่าเธอออกมาจากวัยเยาว์ที่มืดมิด และแสดงให้เห็นถึงชีวิตใหม่ เมื่อเพลงนี้ออกมาก็เป็นที่สนใจกันไปทั่ง และถือว่าเป็นหนึ่งในเพลงระดับคุณภาพในหมู่แฟนเพลงตะวันตก

เกี่ยวกับข้อกล่าวหานี้ Linfair Records บริษัทต้นสังกัดของแอนเจล่ากล่าวว่า "ทุกๆคนมีความรู้สึกต่างกันไปในแต่ละเพลง พวกเรารู้สึกว่ามันไม่เหมือน แต่พวกเราเคารพความจริงที่ว่า ทุกๆคนมีความชอบและความรู้สึกที่แตกต่างกัน คราวนี้ เพลงของเธอถูกนำมาใช้ในการเปรียบเทียบ และทำให้รู้ว่าทุกๆคนสนใจในเพลงของแอนเจล่า และในช่วงเวลา 1 ปีกับอีก 8 เดือนที่พวกเราใช้เวลาในการเตรียมอัลบั้มนี้มันคุ่้มค่า"

แม้ว่าแอนเจล่าจะเพิ่งมีข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของเธอ เมื่อวันก่อน ทาง Linfair Records ประกาศว่า อัลบั้มใหม่ของแอนเจล่าทำยอดขายได้ 2 แสนก็อปปี้ในเอเชีย บริษัทโฆษณาก็สนับสนุนเธอ เธอจะมีโฆษณา 4 ชิ้นที่จะออกมาในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยืนยันความเป็นคนดังของเธอ

Liberty Times

ความยุ่งยากจากผมร่วง หมิงเต้า (Ming Dao) นักแสดง/นักร้องชาวไต้หวันตัดสินใจแวะไปพบแพทย์ในระหว่างการถ่ายทำละครเรื่องใหม่ในไทเป Happiness is Definitely Strong และโครงการต่อไปของเขาจะเป็นละครย้อนยุค ดูเหมือนว่า ปัญหาเรื่องผมของหมิงเต้าจะยังไม่จบลงในขณะนี้

แม้ว่าหมิงเต้าจะมีผมที่ดูหนา เขาสังเกตุเห็นถึงผมที่ร่วงลง และมีผมงอกกลับขึ้นมาน้อยกว่าเดิม หมิงเต้าไม่ได้อายที่จะกล่าวเกี่ยวกับปัญหาเรื่องผมของเขา และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า "เนื่องจากพ่อของผมหัวล้าน ถือว่าผมมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นคนหัวล้านเนื่องจากเชื่อกันว่ามันถ่ายทอดกันทางพันธุกรรม"

หลังจากการแสดงในละคร Happiness is Definitely Strong หมิงเต้าจะรับแสดงในละครย้อนยุคเป็นครั้งแรก เพื่อนๆของเขาที่เป็นห่วงเขาแนะนำว่าให้เขาดูแลผมเขาดีๆ อาจจะทำให้เขาไม่ต้องใส่วิกเพื่อทำการแสดง และกล่าวถึงเจียวเอินจิ้น (Vincent Jiao) ที่หัวล้านเป็นตัวอย่าง จากการที่เขามีโอกาสจะหัวล้าน หมิงเต้าเปิดเผยว่า เขามีแผนที่จะเข้าไปที่คลีนิคที่เชี่ยวชาญด้านผมในช่วงที่เขามีเวลาว่าง เพื่อทำให้ผมที่หลุดร่วงของเขากลับมา

MediaCorpTV

เก็บตัวจากเหตุการณ์อื้อฉาวอยู่นับปี ในที่สุดดาราฮ่องกงจอมเจ้าชู้ "เฉินกวานซี" (Edison Chen) ถูกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ฮ่องกง ถ่ายรูปขณะเที่ยวกับสาวสวยคนใหม่จนได้

หนังสือพิมพ์ประเภทแท็บลอยด์ในฮ่องกงถ่ายรูปพระเอกหนุ่มจอมกวน เอดิสัน เฉิน หรือเฉินกวานซี ไปเที่ยวทะเล และขึ้นเรือมอเตอร์โบ้ทไปกับสาวคนหนึ่ง ที่ดูยังไงๆ ก็ไม่ใช่แฟนสาวที่ชื่อชือ วินซี หยาง (Vincy Yeung) หลานสาวของ อัลเบิร์ต หยาง ผู้บริหารบริษัท อีอีจี ที่พ่อหนุ่มเฉินกวานซีเคยสังกัดอยู่

โดยสาวคู่ควงคนใหม่ของพระเอกคนดัง ชื่อว่า Hailey C เป็นนางแบบหน้าใหม่มาแรงในฮ่องกง ที่มีผลงานออกมาหลายชิ้น ทั้งโฆษณา และงานถ่ายแบบ

ซึ่งนักข่าวภาพฮ่องกงที่ได้ภาพนี้มา ยังได้มีโอกาสถามพระเอกหนุ่มว่ายังคบอยู่กับแฟนคนเดิมอยู่รึเปล่า แต่เฉินกวานซี ก็ตอบแต่เพียงว่า "คุณไม่เห็นเหรอ ผมยังใส่สร้อยข้อมือที่เธอให้มาอยู่นะ"

ก่อนหน้านี้พระเอกหนุ่มชาวฮ่องกงเคยพูดถึงแฟนคนนี้ที่ชื่อ วินซี หยาง หรือ หยางหย่งชิง ว่า ความรักต่อเธอ ทำให้เขาเลิกนิสัยเจ้าชู้เพลย์บอย ในครั้งที่เธอต้องตกเป็นหนึ่งในสาวเคราะห์ร้ายที่ภาพหวิวถูกเผยแพร่ในเหตุการณ์เมื่อปีก่อน ยังมีข่าวว่าเฉินกวานซีพยายามแก้ตัวกับเธอด้วยการขอแต่งงาน แต่ได้รับคำปฏิเสธ

หลังจากเหตุการณ์ฉาวเมื่อปีก่อน ที่ภาพระหว่างเขากับดาราสาวๆ หลายคน ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ถูกขโมย และนำไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2008 หนุ่มเฉินกวานซีก็ขอรับผิดชอบด้วยการถอนตัวจากวงการ จนกระทั่งในระยะหลังเริ่มกลับมารับงานประเภทถ่ายแบบ, งานโฆษณา หรือออกงานการกุศลต่างๆ

Manager Online

S.H.E. เข้าชมงาน Biao Future – Biao Future Century Exhibition จัดขึ้นในเจียงไคเซ็กเมโมเรียลฮอล ก่อนที่งานจะจบลง และได้เห็นงานของศิลปินที่เป็นเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา พวกเธอกล่าวว่า พวกเธอปรารถนาที่จะผ่าเปิดสมองของศิลปินเหล่านี้ดู เพื่อจะมองดูว่ามีอะไรอยู่ในสมองของพวกเขา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในสมองหรืออย่างไร ทำไมพวกเขาทำได้ขนาดนี้

ในที่สุด เอลล่า (Ella) ก็เสร็จสิ้นการถ่ายทำละคร Down With Love และ S.H.E. เดินทางไปเข้าชมงานด้วยกัน ด้วยเพียงแค่การชำเลือง พวกเธอต่างก็ประทับใจกับงานภาพวาดเหล่านี้ พวกเธอชื่นชอบความสวยงามในงาน Woman & the environment ของ Pi Si La Pi Si (匹斯托里斯) เป็นอย่างมาก และต้องการที่จะอยู่ในภาพเพื่อเปรียบเทียบความสวยงามกับผู้หญิงในภาพนั้น และภาพชื่อว่า On the Beam Under the Clouds ของ Wu Bu Li Ya Hu (烏布里亞湖) นั่นก็ยอดเยี่ยมจริงๆ

ในภาพวาด Air Desire พวกเราสามารถมองเห็นเครื่องจักรกำลังกลับมาจากสถานที่หนึ่ง และมีเด็กหญิงซ่อนอยู่ด้านล่าง ฮีบี้เห็นภาพดังกล่าวและกล่าวว่า "แผงควบคุมนั่นเสียหายหมดในภาพ จริงๆแล้ว ศิลปินควรจะวาดถึงความรู้สึกที่มีความสุขเพียงแค่ไ่ด้นั่งเครื่องจักรนี้จนกระทั่งแผงควบคุมเสียหาย"

ในงานยังมีเครื่องแต่งกายออกแบบไว้ใช้บนเวที เอลล่า (Ella) กล่าวว่า "นี่ทันสมัยมากๆเลย พวกเราใส่มันในงานคอนเสิร์ตของพวกเรา"

เซลิืน่า (Selina) เห็นภาพวาดศิลปการสร้างภาพจากชิ้นส่วนเล็กๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกัน (Collage) และเธอกล่าวว่า เธออยากจะสะสมภาพด้วยตัวเธอเองจากหนังสือพิมพ์ นำมาต่อกันและสร้างวาดขึ้นมาจากภาพเล็กๆหลายๆภาพ เธอกล่าวตลกๆว่า "ยิ่งเหลืองมากยิ่งรวยมาก มันไม่ง่ายสำหรับใครสักคนที่จะปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ ฉันมีมากมาย แม้ว่ามากกว่าครึ่งของมันจะไม่สวย แต่มันจะกลายเป็นสิ่งมีค่าในอนาคต"

China Times

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) นักแสดงหญิงชาวไต้หวันได้รับความโด่งดังอย่างมาก ตั้งแต่เธอแสดงนำในภาพยนตร์ It Started With A Kiss โดยมีโจ เฉิง (Joe Cheng) ร่วมแสดงนำในละครด้วย เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาสองคนต่างก็เข้าสู่วงการเพลง เอเรียลกล่าวว่า เธอหวังว่าจะทำให้ผู้คนประทับใจได้ด้วยเสียงของเธอ ทางด้านโจ เฉิงที่ว่ากันว่ากำลังจีบเธออยู่นั่น เอเรียลกล่าวเพียงแค่ว่า "(เมื่อฉันพูดว่า) พวกเราเป็นเพื่อนกัน นั่นหมายความว่าเราเป็นเพียงแค่เพื่อนกันจริงๆ"

เอเรียลที่อายุ 27 ปีในปีนี้ ประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงจากที่เคยเป็นนางแบบมาก่อน และเธอยังได้รับฉายาว่าเป็น นักแสดงนำหญิงอันดับหนึ่งในละครไอด้อล ทำให้หลายๆคนต่างก็พูดกันว่า การเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะศิลปินนั้น เป็นอะไรที่เรียบง่าย เมื่อเร็วๆนี้ เธอตอบรับการท้าทายอีกครั้งหนึ่งด้วยการออกอัลบั้ม ทำให้เธอกลายมาเป็นนักร้อง ผลตอบรับเป็นที่น่าประหลาดใจมาก เอเรียลกล่าวว่า "ตั้งแต่เข้าสู่วงการมา ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะเป็นนักร้อง ฉันชอบจะฮัมและร้องเพลงอย่างมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวาดฝันไปว่าฉันจะมีอัลบั้มทั้งอัลบั้มเป็นของฉันเอง"

การจากไปอย่างกระทันหันของเพื่อนสนิทของเธอ สวีเว่ยหลุน (Beatrice Hsu) และการเข้ารับการผ่าตัดสมองของเธอในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เอเรียลรู้สึกได้ถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ในที่สุด เธอก็ยอมรับคำแนะนำของผู้จัดการของเธอ และเริ่มที่จะเข้าสู่วงการนักร้อง เธอร่วมมือกับ Avex เพื่อออกอัลบั้มแรกของเธอในชื่อว่า Blissful Encounter

เอเรียลกล่าวว่า "จริงๆแล้ว มันเป็นโชคชะตาจริงๆ บริษัทเพลงที่สวีเว่ยหลุนเคยเซ็นสัญญาด้วยวนั่น เป็นบริษัทที่ฉันเซ็นสัญญาอยู่ด้วยในขณะนี้ แต่เธอเสียชีวิตไปหลังจากการบันทึกเพลงไม่กี่เพลง บางที ฉันอาจจะเป็นคนช่วยทำให้เธอทำได้อย่างที่เธอฝันไว้!"

หนังอิงประวัติศาสตร์ที่ว่าด้วยดารางิ้วชื่อดัง ของผู้กำกับเฉินก่ายเค่อ "Forever Enthralled" ที่มีหลี่หมิง (Leon Lai) และจางซิยี่ (Zhang Zi Yi) เป็นดารานำ ถูกเลือกโดยทางการจีน ให้เป็นตัวแทนชิงออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศ 2010

ผลงานชิ้นล่าสุดของ เฉินก่ายเค่อ เรื่องนี้ เล่าเรื่องชีวิตของ เหมยหลันฟาง ดารางิ้วชายที่รับบทตัวหญิง ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง หนังเล่าเรื่องราวอันหลากหลายตั้งแต่วัยหนุ่ม จนเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของอาชีพ ของตำนานงิ้วผู้นี้ โดยเป็นผลงานร่วมกันสร้างของ บริษัท China Film Group และ China Magnetics Corp.

หลี่หมิง เป็นผู้รับบทนำเป็นเหมยหลันฟาง โดยมี จางซิยี่ รับบทสมทบในเรื่อง เป็นเมิ่งเสี่ยวตง ดารางิ้วชื่อดัง ที่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับตัวละครของหลี่หมิง แต่ผู้ที่สามารถขโมยซีน และกลายเป็นที่จดจำมากที่สุดในหนัง กลับเป็น หยูเฉาชุน ดาราหน้าใหม่ที่รับบทเหมยหลันฟางในวัยหนุ่มได้อย่างโดดเด่น และบดบังรัศมีของหมี่หมิงไปไม่น้อยเลย

นับว่า Forever Enthralled เป็นผลงานเรื่องที่สามของเฉินก่ายเค่อแล้ว ที่ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศจีน ในการเข้าชิงออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ในปี 2005 หน่วยงานด้านภาพยนตร์ของจีนได้เลือกเอา The Promise หนังกำลังภายในแฟนตาซีของเขา เป็นตัวแทนมาแล้ว ขณะที่ Farewell My Concubine หนังงิ้วอันเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับท่านนี้ ก็เป็นตัวแทนในปี 1993

ถึงตอนนี้ยังไม่มีเคยหนังจากจีนแผ่นดินใหญ่เรื่องใด สามารถคว้ารางวัลสาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม เวทีออสการ์ได้มาก่อนเลย หนังกำลังภายในเรื่องดังเมื่อปี 2001 Crouching Tiger, Hidden Dragon ของ อังลี ที่ได้รับรางวัลนี้ไปครอง ก็ถูกส่งประกวดในชื่อของประเทศไต้หวัน

ซึ่งนอกจาก Forever Enthralled ที่เป็นตัวแทนจากจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว อีกสองประเทศ ที่พูดภาษาจีนเป็นหลัก ก็ได้ประกาศตัวแทนของตนมาแล้วเช่นกัน โดยฮ่องกงเลือกเอา Prince of Tears ของผู้กำกับรุ่นเก๋า หยอนฟาน ส่วนไต้หวันเลือก No puedo vivir sin ti ผลงานของ ลีออน ไต้ คนทำหนังหน้าใหม่ไฟแรง

Manager Online

แอนเจล่า จาง (Angela Zhang) ตั้งใจจะจัดงานแถลงข่าวสำหรับการออกอัลบั้มใหม่เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากข่าวในแง่ลบของครอบครัวของเธอถูกเปิดเผย เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา งานแถลงข่าวดังกล่าวถูกเปลี่ยนไปเป็นเพื่อการเคลียร์การเข้าใจผิด เธอนำผลการตรวจปัสสาวะ และปฏิเสธคำกล่าวของแม่ของเธอที่ว่าเธอหลงไหลในการใช้ยา เมื่อพูดถึงจุดนี้ เธอน้ำตาไหลออกมา เธอกล่าวว่า "มันไม่มีเรื่องอย่างนั้นจริงๆ ฉันรู้สึกแย่มากๆกับข้อกล่าวหาแบบนี้ นี่ไม่ใช่การพยายามที่จะสร้างข่าว ไม่มีใครต้องการจะทำอย่างนั้นด้วยการเอาครอบครัวมาเกี่ยวข้อง"

แม้ว่าเธอจะมีปัญหากับแม่ของเธอเกี่ยวกับเจนนี่ (Jenny) เพื่อนสนิทของเธอ เธอยังคงยืนอยู่ข้างเจนนี่ เธอเสียใจที่สร้างปัญหาให้กับเจนนี่ สำหรับการที่เจนนี่ทะเลาะกับแม่ของเธอผ่านสื่อ แอนเจล่าย้ำว่า เธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม เธอเคยบอกกับเจนนี่ครั้งหนึ่งว่า "ถ้าคุณถูกเข้าใจผิด วันหนึ่ง คุณจะมีสิทธิ์ที่จะพูดความจริงออกมา" อย่างไรก็ตาม แอนเจล่าไม่ยินดีที่จะตอบเกี่ยวกับปัญหาด้านการเงินระหว่างเธอและแม่ของเธอ เธอเพียงแค่กล่าวว่า "ให้เวลาฉันในการจัดการเรื่องนี้"

ก่อนหน้านี้ แอนเจล่ากล่าวว่า เธอจะไม่ติดต่อแม่ของเธอ แต่ทัศนคติของเธออ่อนลงในครั้งนี้ และเธอกล่าวว่า เธอเต็มใจที่จะพูดคุยกับแม่ของเธอ ตัวแทนจากทางบริษัทต้นสังกัดของเธอกล่าวว่า "แน่นอนว่าทางบริษัทจะช่วยในการพูดคุยของพวกเขา" อย่างไรก็ตาม ยังมีการประกาศในงานเดียวกันด้วยว่า งานของเธอจะหยุดพักไว้ก่อน

Yahoo Taiwan

ในที่สุดงานคอนเสิร์ต Fantasy Concert ของกลุ่มศิลปิน Fahrenheit ก็กลับมายังไทเปอารีน่า (Taipei Arena) อุปกรณ์ในการใช้ในงานจะเพิ่มขึ้น พวกเขาจะใช้มากกว่าเครื่องมือมากกว่า 12 ชิ้นในการทำให้สมาชิกทั้ง 4 คนสามารถจะบินไปมาได้ทั่วสถานที่ และเพื่อที่จะฝึกฝนความกล้าของพวกเขา เมื่อวันก่อน สมาชิกทั้ง 4 คนไปฝึกการปีนเขา แอรอน เหยียน (Aaron Yan) เป็นคนกลัวความสูงอย่างมากหลังจากไต่เขาไปได้ประมาณ​ 3 เมตร มือและขาของเขาหมดแรง และกล่าวว่า เขาทำสุดความสามารถแล้ว

เป็นที่รู้กันว่า ไทเปอารีน่ามีประวัติในการที่คอนเสิร์ตส่วนใหญ่จะใช้ลวดในการทำให้ตัวลอย นอกจากการที่ Fahrenheit จะเข้าสู่เวทีในเรือที่ลอยได้แล้ว พวกเขาอาจจะปรากฏตัวใกล้ๆกับแฟนๆถึงขนาดที่อาจจะสัมผัสพวกเขาได้ อู๋จุนกล่าวว่า "พวกเราจะลอยโดยลวดสูงประมาณ 2-3 ชั้น โดยร้องเพลงอยู่ต่อหน้าแฟนๆ"และเพื่อจะฝึกความกล้า พวกเขาจึงต้องทำการไต่เขา

อู๋จุนเป็นคนที่ไต่เขาเร็วที่สุด เพียงแค่ชั่วพริบตา เขาไต่ไปได้แล้วถึง 8 เมตร ทำให้ทุกๆคนหัวเราะเขา "คุณเป็นลิงจริงๆเลย คุณยังชอบกินกล้วย และยังไต่เขาได้เร็วขนาดนี้" ทางด้านแอรอน หลังจากปัญหาทั้งหมดแล้ว เขาสามารถจะเอาชนะใจเขาได้ เขายังกล่าวว่า ตัวเขาเองเป็นโรคอาการทางจิตที่หวาดระแวง มักจะนึกคิดไปว่า บางคนใกล้ๆเขาหรือด้านหลังของเขาจะผลักเขา ถ้าให้เลือกว่าจะให้ลอยอยู่บนฟ้า หรือยืนด้วยเท้าเขาเอง เขาเลือกที่จะยืนด้วยตัวเขาเองมากกว่า

หลังจากฝึกมาจากการแสดง 10 รอบก่อนหน้านี้ สมาชิกทั้ง 4 คนต่างก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ ยอมรับว่า พวกเขาประสานงานกัน และการแสดงของพวกเขานั่นดีที่สุดแล้ว แอรอนกล่าวว่า "ในช่วงนี้ พวกเราตั้งใจทำอย่างเต็มที่จริงๆ และพวกเราได้รับเกียรติอย่างมากในไต้หวัน Fahrenheit เป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วเกือบจะเหมือนกับกลุ่มศิลปินเกาหลีที่เดินทางมาไต้หวันเลยทีเดียว!"

LibertyTimes

ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์หวานชื่นของ “จางซิยี่” (Zhang Zi Yi) กับคู่หมั้นหนุ่มมหาเศรษฐีชาวอิสราเอลจะไม่ราบรื่นซะแล้ว เมื่อมีคนเห็นฝ่ายชายควงสาวคนอื่นออกงานอย่างเปิดเผย

นางเอกสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จางซิยี่ วัย 33 ได้พบกับ ''อาวีฟ เนโว่' หรือ วีวี่ มหาเศรษฐีอิสราเอลวัย 44 เป็นครั้งแรกในปี 2007 และทั้งสองก็ตกหลุมรักกันทันที สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือ การหมั้นหมายที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมปีต่อมา

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งคู่แสดงความรักกันอย่างดูดดื่มให้ช่างภาพได้เห็นอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นภาพจูบในสนามบาสเก็ตบอลที่นิวยอร์ก หรือภาพบทรักอันร้อนแรงบนชายหาด ที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อต้นปี 2009

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง เริ่มถูกสงสัยว่าจะไปไม่รอดเสียแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเร็วๆ นี้ ที่มีคนเห็นพ่อหนุ่มวีวี่ ควงกับสาวคนอื่นออกงานอย่างเปิดเผย

ในรอบปฐมทัศน์ของหนังสารคดีเกี่ยวกับแฟชั่นเรื่อง The September Issue ที่จัดขึ้นที่นิวยอร์กเมื่อเดือนก่อน วีวี่ ก็เป็นหนึ่งในแขกของงาน เขากลับไม่ได้มาพร้อมคู่หมั้นสาวชาวจีน แต่ควงคู่มากับ ทาบิธา ซิมมอนส์ สาวสังคมชาวอังกฤษ ที่จับมือถือแขนถ่าย และเปิดโอกาศให้ช่างภาพถ่ายรูปอย่างสนิทสนม โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่อาทิตย์ก็มีคนเห็นคนทั้งคู่ เคยควงกันไปร่วมงานปาร์ตี้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนิวยอร์กมาแล้ว

ข่าวลือเรื่องรักร้าวระหว่าง จางซิยี่ และคู่หมั้น ได้เริ่มต้นขึ้นเร็วๆ นี้เอง เมื่อการให้สัมภาษณ์กับสื่อในครั้งหนึ่ง ดาราสาวปรากฏตัวโดยไม่ได้สวมแหวนหมั้นเอาไว้เหมือนเคย ประกอบกับเรื่องงานแต่งงาน ที่มีข่าวว่าเดิมกำหนดไว้ว่าจะจัดที่เกาะแห่งหนึ่งในอิตาลี ในเดือน ก.ค. ถูกเลื่อนออกไปแบบไม่กำหนด ยิ่งทำให้สื่อในเมืองจีนมั่นใจเข้าไปใหญ่ ว่าความรักของทั้งคู่ไปไม่รอดแน่ๆ

โดยมีข่าวลือว่า ดาราสาวชาวจีน พยายามกดดันให้แฟนหนุ่มยอมแต่งงานด้วยมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนมหาเศรษฐีชาวอิสราเอลคนนี้ยังไม่พร้อมจะมีครอบครัวสักที

Manager Online

กลุ่มศิลปิน Fahrenheit (FRH) จะจัดงานคอนเสิร์ตของพวกเขาขึ้นในไทเปในเดือนตุลาคมนี้ และเป็นครั้งแรกที่เขาเปิดเผยให้รู้ถึงไฮไลท์ของงาน ในรายการ จิโร่ หวัง (Jiro Wang) ทำท่าเลียนแบบเป็นจูกัดเหลียง (Zhu Ge Liang) ทำให้หัวเราะกัน ตั้งแต่พวกเขาเข้าสู่วงการมาเมื่อ 3 ปีก่อน FRH แทบจะไม่เคยมีภาพที่ถ่ายคู่กับศิลปินหญิงเลย ทำให้คิดกันไปว่า ทางบริษัทห้ามพวกเขาคบกับใคร อย่างไรก็ตาม FRH หัวเราะและกล่าวว่า "พวกเรายุ่งกันจนพวกเราไม่มีเวลาคบกับใคร!"

เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา FRH เข้าร่วมรายการ Gentlemen Club ของ FTV ไฮไลท์ของงานคอนเสิร์ตถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรก นอกจากการร้องเพลง 2 เพลง ได้แก่เพลง Superb และ Loving More ในระหว่างการแสดง แคลวิน เฉิน (Calvin Chen), จิโร่,​ แอรอน เหยียน (Aaron Yan) และอู๋จุนจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการเล่นกีต้าร์, ตีกลอง และร้องเพลงไปพร้อมๆกับการเล่นเปียโน ทำให้แฟนๆต่างก็ร้องลั่นไปทั่วสตูดิโอ จูกัดเหลียงท้าทายอู๋จุนในการออกกำลังกาย เขาแสดงให้เห็นถึงการใช้เครื่องซิทอัพตรงนั้นเลย FRH กล่าวว่า จูกัดเหลียงเป็นไอด้อลของพวกเขาทั้ง 4 คนที่พวกเขาต่างก็ชื่นชอบเหมือนๆกัน ในรายการ FRH เชิญ 2 พิธีกรในรายการมาเป็นแขกวีไอพีเพื่อมาเข้าร่วมในงานคอนเสิร์ตของพวกเขา และหวังว่า พวกเขาจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับจูกัดเหลียงในอนาคตอันใกล้นี้

ตั้งแต่พวกเขาเปิดตัวเข้าสู่วงการเมื่อ 3 ปีก่อน ข่าวลือส่วนใหญ่ที่พวกเขามีก็คือการเกี่ยวข้องกับศิลปินหญิงที่พวกเขาร่วมงานด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพียงแค่เรื่องที่สร้างขึ้น พวกเขาไม่ค่อยมีข่าวในแง่ลบอีกด้วย จิโร่เปิดเผยว่า ศิลปินส่วนใหญ่ที่พวกเขาเป็นเพื่อนด้วยนั้น ปกติจะเป็นคนที่พวกเขาร่วมงานด้วย อู๋จุนคิดว่า สำหรับศิลปินแล้ว การมีเพื่อนนั้นยาก มันเป็นไปได้อย่างมากที่จะถูกถ่ายรูปด้วยกันถ้าพวกเขาออกไปด้วยกัน ทำให้พวกเขาทำได้แค่เพียงพูดคุยกันในระหว่างที่พวกเขาพบกันในงานต่างๆ พวกเขากล่าวตลกๆว่า ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ถูกถ่ายภาพว่าจับมือหรือจูบกันอยู่ถือว่าโอเค เมื่อถูกถามอีกครั้งว่า ทางบริษัทห้ามพวกเขาคบกับใครหรือเปล่า ทั้ง 4 คนพูดพร้อมๆกันว่า "พวกเรายุ่งกันมากจริงๆ จนพวกเราไม่มีเวลาคบกับใคร!"

NowNews

แม้ปากจะบอกตัดใจได้แล้ว ที่ "หลี่หมิง" (Leon Lai) อดีตแฟนหนุ่มของเธอพึ่งแต่งงานไป แต่ก็มีคนไปแอบถ่ายภาพสาวเซ็กซี่ “ซูฉี” (Shu Qi) ที่มีอาการแปลกๆ ในบ้านตัวเองเมื่อเร็วๆ นี้มาได้ ซึ่งนักข่าวก็ฟันธงทันทีว่านี้เป็นอาการที่เกิดจากข่าวแต่งงานของอดีตแฟนหนุ่มอย่างแน่นอน

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นักข่าวฮ่องกงสามารถแอบถ่ายภาพซูฉีในบ้านพักมาได้ นางเอกสาวมีพฤติกรรมที่ประหลาดๆ คล้ายจะเกิดอาการคิดมาก และวิตกจริต หลังจากกลับมาถึงบ้าน และอาบน้ำอย่างรวดเร็ว นางเอกสาวที่ออกจากห้องน้ำ ในผ้าเช็ดตัวสีแดง ก็เริ่มเดินไปเดินมา เป็นการเดินอย่างไร้จุดหมาย วนเวียนอยู่ในบ้านของตัวเองถึง 10 นาที

จนกระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาเป็นชุดชั้นในแล้ว เธอก็ยังเดินแบบไร้จุดหมายแบบเดิมอีกกว่า 30 นาที นักข่าวฮ่องกงก็ไม่รอช้า ที่จะวิเคราะห์ภาพดังกล่าว และฟันธงไปเลยว่านี้เป็นอาการปั่นป่วนหลังจากที่เธอได้รับรู้เรื่องการแต่งงานของ หลี่หมิง อย่างแน่นอน

หลี่หมิง และซูฉี ได้พบ และเริ่มคบหากันเมื่อปี 1998 ในกองถ่ายหนังเรื่อง City of Glass ซึ่งขณะนั้นฝ่ายหญิงยังอายุแค่ 22 ปี และพึ่งหันมาแสดงหนังทั่วๆ ไปหลังจากแจ้งเกิด และหากินมากับบทวาบหวามในหนังเกรด 3 อยู่หลายปี

ในตอนแรกดูเหมือนจะมีเสียงไม่เห็นด้วยอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะจากแฟนคลับของพระเอกหนุ่มที่เห็นว่าสาว ซูฉี มีภาพพจน์ที่ไม่ดีนักจากการเล่นหนังเปลืองตัวมากก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ยังสามารถประคับประคองความสัมพันธ์ และคบหากันได้ยาวนานถึง 6 ปีระหว่างนั้น หลี่หมิง ก็เริ่มมีข่าวพัวพันกับผู้หญิงคนอื่นๆ มาโดยตลอด จนกระทั่งในปี 2004 ทั้งสองจึงได้เลิกรากันไป

หลังจากความรักของทั้งสองจบลง ซูฉีมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับนักแสดงชายคนอื่นอย่างจางเจิ้น และวังลีฮอม แต่ก็ท้ายก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือ ขณะที่หลี่หมิงเองก็เริ่มสานสัมพันธ์กับนางแบบสาว เล่อจีเอ๋อ ทันทีหลังจากเลิกกับซูฉี จนกระทั่งแต่งงานกันอย่างเงียบๆ ในเดือน มี.ค. ปี 2008 นี่เอง

ช่างภาพอิสระกับการแอบถ่ายดาราในเมืองจีน และฮ่องกง กำลังจะเป็นปัญหาที่ควบคุมไม่ได้ ล่าสุดมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกแล้ว ซึ่งคราวนี้ก็ไม่ใช่ดาราสาวๆ อย่างทุกทีแต่เป็นคราวของหนุ่มๆ บ้างแล้ว

ในงานการแข่งรถการกุศลที่เฉินตู เสฉวน ซึ่งจัดโดยมูลนิธิ One Foundation ของ เจ็ท ลี (Jet Li) เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ย. มีดาราชื่อดังมากมายมาร่วมงานรวมถึง เฉินเสี่ยวชุน, จูอิน และนักร้องหนุ่มสี่จตุรเทพ กัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok) ที่สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันมาได้ หลังจากฝึกซ้อมเป็นเวลาถึง 4 วันเต็ม

แต่สิ่งที่กลายเป็นเป้าสนใจกลับไม่ใช่รายละเอียดของงาน หรือการแข่งรถดังกล่าว กลับเป็นเรื่องอื้อฉาว เมื่อมีบุคคลลึกลับ หลุดเข้าไปในงาน และแอบเข้าไปถ่ายรูป ถึงในพื้นที่ส่วนตัวที่กันไว้ให้สำหรับดาราที่มาร่วมงาน

ซึ่งเหยื่อครั้งนี้ก็ไม่ใช่ดาราสาวๆ อย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นพ่อหนุ่มกัวฟู่เฉิง ที่ขณะนั้นกำลังอยู่ในห้องแต่งตัวพอดี โดยช่างภาพลึกลับคนนั้นอาศัยช่องระบายลมที่หน้าต่าง เป็นช่องโหว่ในการแอบถ่ายครั้งนี้ แต่ก็ทำได้อยู่ไม่นาน เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาพบเข้า และสามารถยับยังการล่วงละเมิดต่อพระเอกคนดังได้ทันท่วงที แม้ว่าจะไม่สามารถจับตัว หรือระบุชื่อรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เพื่อการตามเอาผิดได้ก็ตามที

ตัวแทนของพระเอกหนุ่มออกมาให้ข่าวสยบความสงสัยที่ว่า แล้วยังนี้ในอนาคตจะมีภาพหลุดจากกรณีนี้ของ กัวฟู่เฉิง ถูกเผยแพร่ออกมาทางสื่อ หรืออินเตอร์เน็ตรึเปล่า... “ตอนนั้นกัวฟู่เฉิงยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออก ไม่มีอะไรน่าตกใจที่ถูกถ่ายออกไปได้” โดยในที่เกิดเหตุยังพบกล้องถ่ายวีดีโอดิจิตอลตกอยู่ แต่ไม่ได้มีการบันทึกภาพอะไรลงไปในนั้น

สำหรับตัวของกัวฟู่เฉิงเอง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “เรื่องแบบนี้มันแย่มากๆ ผมหวังว่าสังคมจะเคารพ สิทธิของบุคคลสาธารณะบ้าง"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาราฮ่องกง และจีน ต้องถูกคุกคาม เมื่อสองปีก่อน จงซินถง หรือ อาเจียว นักร้องสาวสมาชิกวง Twin ก็เคยถูกแอบถ่ายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จนต้องออกมาหลั่งน้ำตากับการแถลงข่าว นำไปสู่โครงการรณรงเพื่อสิทธิส่วนตัวของดาราขึ้น

เฉินหลง (Jackie Chan), หลิวเต๋อหัว (Andy Lau), เจ็ท ลี (Jet Li), และดาราชื่อดังมากมายพร้อมใจกันแสดงหนังฟอร์มยักษ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อ โอกาสครอบรอบ 60 ปีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะเล่าเรื่องของประวัติศาสตร์ของการสร้างชาติ เป็นการฉลองวาระดังกล่าว และกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กลับมามีความรู้สึกร่วมกลับเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกครั้ง

ในชื่อภาษาจีนว่า 《建国大业》 (Jian Guo Da Ye) หรือในภาษาอังกฤษ "The Founding of a Republic” จะเล่าเรื่องความยิ่งใหญ่ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนช่วงปี 1945 - 1949 ในสงครามกลางเมืองเพื่อแย่งชิงอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อกองทัพแดงซึ่งนำโดยประธานเหมา ที่ขาดแคลนอาวุธอันทันสมัย แต่เต็มไปด้วยความอดทน และอุดมการณ์ กลับสามารถครองใจประชาชน เอาชนะในสงครามเหนือพรรคก๊กมินตั่งที่นำโดยนายพลเจียงไคเช็ค ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณ ยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกา

หนังได้ฤกษ์เปิดฉายไปเมื่อวัน 17 ก.ย. ที่ผ่านมา และสามารถทำรายได้ในวันเปิดตัวไปได้ทั้งสิ้น 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับหนังดังจากฮอลลีวูด Transformers: Revenge of the Fallen ที่ทำเงินในวันแรกไป 3.22 ล้านเหรียญแล้วอาจจะดูน้อยกว่า แต่ต้องไม่ลืมว่าในการฉายวันแรกของ The Founding of a Republic เป็นการเปิดฉายแค่ครึ่งวันเท่านั้น ซึ่งตามการคาดการของผู้สร้างก็หวังว่าหนังน่าจะจบด้วยตัวเลขประมาณ 65.89 ล้านเหรียญสหรัฐ และน่าจะกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของประเทศได้ในที่สุด

แน่นอนว่าจุดขายของ The Founding of a Republic จะอยู่ที่ดาราจำนวนมากมาย ที่จะมาปรากฏตัวในหนัง ที่ว่ากันว่าจะมีดาราระดับมีชื่ออยู่ถึง 170 ชีวิตในเรื่อง ทั้งจากจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง

เฉินหลง, หลิวเต๋อหัว, เจ็ท ลี, จางจื่ออี้ (Zhang Zi Yi) อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแม่เหล็กระดับเฮฟวี่เวท และเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ แต่หนังยังประกอบไปดาราที่มีชื่อเสียงระดับรองๆ หรือดังในประเทศ อีกมากมาย อาทิ เหลียงเจียฮุย, หวังซูฉี, เฉินคุน, จางฮั่นหยู, หลิวเย่, หวงเสี่ยวหมิง และหวงเซียงอี้ เป็นต้น นอกจากนั้นผู้กำกับเชื้อสายจีนมากมายยังให้เกียรติมาแสดงในบทรับเชิญ รวมไปถึง จอห์น วู, เฉินกายเค่อ ส่วนดาราตลกชื่อดัง โจวซิงฉือ ก็บอกว่ายินดีมาเข้าฉากให้ฟรีๆ แต่หนังดันถ่ายเสร็จไปเสียก่อน

อาซา (Ah Sa / Charlene Choi) เพิ่งป่วยเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากเธอไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างเหมาะสม เมื่อวันก่อน เธอบินไปไต้หวันเพื่อโปรโมทละครไอด้อลเรื่อง Calling For Love (Calling Big Star) ที่เธอแสดงคู่กับไมค์ เฮอ (Mike He) โดยเธอจะอยู่ที่ไต้หวันเป็นเวลา 4 วัน ภาษาจีนกลางของเธอค่อยๆดีขึ้นเรื่องๆ แต่เมื่อวันก่อน เธอทำให้เกิดเรื่องตลกขนาดใหญ่เลยทีเดียว โดยเธอกล่าวอย่างไม่ตั้งใจว่า "ถอดเสื้อชั้นในของฉันให้ที" แทนที่จะเป็น "เอาที่ปิดตาออกให้ที" หลัวจื้อเสียง (Show Luo) ที่คิดไปไกลอย่างรวดเร็ว เขาทำท่าถอดชุดชั้นในจริงๆออกมา ทำให้อาซาตกใจและลืมทุกอย่าง โดยวิ่งล่าหลัวจื้อเสียงไปทั่วสตูดิโอ

เมื่อวันก่อน อาซาเดินทางไปไต้หวันเพื่อโปรโมทละคร Calling For Love พร้อมกับไมค์เฮอ และทั้งสองคนเข้าร่วมรายการ 100% Entertainment ที่มีหลัวจื้อเสียงเป็นพิธีกร ละครเรื่องใหม่นี้จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 18 ตุลาคม ทางด้านอาซาที่เคยมีข่าวลือว่าอาจจะกำลังคบกับอู๋จุน (Wu Zun) อยู่ในระหว่างที่พวกเขาร่วมงานกัน ทำให้หลัวจื้อเสียงถามอาซาตรงๆว่า ใครที่เธอชอบมากกว่ากัน ไมค์ หรือว่าอู๋จุน อาซาไม่รู้ว่าจะตอบยังไง และตอบแบบอายๆว่า "อู๋จุนชอบที่จะกิน ไมค์ดูเข้มๆและแมนกว่า อู๋จุนนั่นดูเรียบร้อย!" และปฏิเสธที่จะให้คำตอบตรงๆสำหรับคำถามนี้

ในช่วงการทดสอบการแสดง ในรายการ หลัวจื้อเสียงต้องการลองการแสดงของพวกเขา ในการแสดง อาซาตะโกนว่า "ปล่อยฉันไปเถอะ! เร็วเข้า และช่วยถอดที่ปิดตาของฉันออกด้วย!" แต่อาจจะเพราะว่าเธอพูดมันเร็วเกินไป และทุกๆคนได้ยินคำว่า "ชุดชั้นใน" แทนที่จะเป็น "ที่ปิดตา"และทำให้หลัวจื้อเสียงที่คิดอย่างรวดเร็ว และทำท่าถอดชุดชั้นในทันที ทำให้ทีมงานและผู้ชมต่างก็หัวเราะกัน

TOM

ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2009 S.H.E. กลุ่มศิลปินหญิงยอดนิยมในเอเชียจะปรากฏตัวพร้อมๆกับคนดังและนางแบบมากมายใน Grand Epoch City เพื่อร่วมในงานแฟชั่น จัดโดย C&B ยี่ห้อเครื่องสำอางค์ยี่ห้อหนึ่ง โดยใช้ชื่อของงานว่า Fashion Forward 2010 C&B & S.H.E. Trendy Cosmetics Series Launch (แปลจากภาษาจีน) ทางผู้จัดงานจะแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับปี 2010 โดยให้สัญญาว่าผู้ชมจะได้สัมผัสกับงานที่ไม่เคยได้พบเห็นมาก่อนเลยทีเดียว

ในงาน S.H.E. จะแต่งตัวในสไตล์ที่แตกต่างออกไป ให้เห็นถึง S.H.E. ในมุมมองที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน นอกจากนี้ พวกเธอจะมีการโต้ตอบกับผู้ชมและมอบของขวัญให้แก่ผู้ชมด้วย

ตัวแทนของทาง C&B กล่าวว่า เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงแฟชั่นล่าสุด และเพื่อเน้นสินค้าหรูระดับบนของทางบริษัท พวกเขาทำการเชิญ S.H.E. และคนดังคนอื่นๆ รวมถึงนางแบบ/นายแบบระดับชาติมาร่วมงานนี้ด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ ในงานนี้ยังเปิดให้เข้าชมฟรีสำหรับลูกค้าของทางบริษัท เมื่อทำการซื้อสินค้าอย่างน้อย 268 เหรียญจากทาง C&B ระหว่างวันที่ 25 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม ลูกค้าจากทางบริษัทจะได้รับของขวัญที่มีลายเซ็นของ S.H.E. และยังมีโอกาสได้เป็นผู้โชคดีที่จะร่วมกันในงานที่ Grand Epoch City อีกด้วย

MOP / QQ

หนังสือ 3 Spas of Love ของกลุ่มศิลปิน S.H.E. ออกมาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ในบันทึกเล่มนั้น มีการเขียนไว้ 7 หมื่นตัวอักษร พวกเธอสามคนมาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ตั้งแต่ยังเด็กจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ เอลล่า (Ella) ยังรับหน้าที่วาดภาพใส่ลงในบันทึกเล่มนี้ด้วย โดยรวมแล้ว บันทึกเล่มนี้เหมาะแก่การสะสมอย่างมาก ทำให้ยอดจองหนังสือ 3 Spas of Love ซึ่งเริ่มเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม กลายเป็นหนังสือที่มียอดขายสูงสุดทางชาร์ทออนไลน์เป็นเวลา 4 สัปดาห์ต่อเนื่อง

แฟนๆต่างก็รอคอยงานแจกลายเซ็นในไทจุง ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา และแม้กระทั่งคืนก่อนหน้านั้น แฟนๆต่างก็มารวมตัวกันในสถานที่จัดงานแล้ว เพื่อจองตำแหน่งๆดีๆที่นั่น ในวันที่มีการแจกลายเซ็น สถานที่จัดงานเต็มไปด้วยผู้คนเมือสามสาวมาถึง สามสาวทำการแสดงเพลง Locked in Time เพลงใหม่ของพวกเธอ งานนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ การแจกลายเซ็นนี้ใช้เวลานานพอสมควรกว่าพวกเธอจะเสร็จสิ้นการเซ็นลงไปในหนังสือทั้งหมด

Sina

โฉมแรกของ “เฉินหลง” (Jackie Chan) จากหนัง "The Karate Kid" ฉบับใหม่ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตแล้ว ขณะเดียวกันพระเอกนักบู๊ชาวฮ่องกงยังออกชมคู่หูในหนังคนใหม่ของเขา ที่เป็นลูกของพระเอกชาวอเมริกัน "วิล สมิธ" (Will Smith) ด้วย

การนำ The Karate Kid หนังสุดฮิตแห่งปี 1984 กลับมาสร้างใหม่ในครั้งนี้ มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นพอสมควร ที่สำคัญที่สุดก็คือตัวละครเครื่องหมายการค้าของเรื่อง มิสเตอร์มิยากิ เซนเซ ของพระเอก (ที่ในฉบับเก่ามีดาราชาวญี่ปุ่น แพท โมริตะ แสดงเอาไว้) จะถูกเปลี่ยนเป็นชาวจีนที่ชื่อว่า คุณฮั่น ซึ่งดารากังฟูชื่อดังชาวฮ่องกง เฉินหลง จะเป็นผู้รับบทดังกล่าว แน่นอนว่าศิลปะป้องกันตัวในเรื่อง ได้ถูกเปลี่ยนจากคาราเต้เป็นกังฟู และหนังก็มีชื่อเรื่องใหม่ว่า The Kung Fu Kid

หนังฉบับใหม่นี้จะเล่าเรื่อง ของเด็กชายชาวอเมริกา ที่ต้องย้ายตามมารดาไปอยู่เมืองจีน ที่นั่นเขาโดนกลั่นแกล้งโดยเด็กท้องถิ่น จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากหนุ่มใหญ่ชาวจีนสุดยอดฝีมือกังฟู ที่ยอมถ่ายทอดศิลปะป้องกันตัวประจำชาติจีน ให้กับเด็กน้อยชาวต่างชาติ

จาเดน สมิธ (Jaden Smith) ลูกชายของดาราชื่อดัง วิล สมิธ จะเป็นผู้รับบทไอ้หนูกังฟูตัวเอกของเรื่อง ซึ่งมีข่าวว่าลูกชายดาราฮอลลีวูดชื่อดังคนนี้ ลงทุนเก็บตัวฝึกกังฟู ก่อนที่หนังจะเปิดกล้องถึง 2 เดือนเลยทีเดียว โดยล่าสุด เฉินหลง ได้ออกมาเปิดใจผ่านเว็บไซท์ส่วนตัวของเขา ถึงการทำงานกับ จาเดน ในช่วงเวลาที่ผ่านมาว่า

"ผมเห็นเด็กๆ ที่ฝึกกังฟูมามาก แต่ไม่เคยมีใครเหมือนเขามาก่อน เขาเรียนรู้วิชาเพลงมวยหลายอย่าง ตอนครูฝึกบอกจาเดน ให้แสดงสิ่งที่ฝึกฝนไปให้ผมดู จาเดน ตอบรับคำสั่งของครูฝึกเป็นภาษาจีน แล้วจึงแสดงเพลงมวยหลายวิชาที่เขาได้เรียนรู้ออกมา ก่อนจะปิดท้ายด้วย หมัดเมา ที่มาจากหนังเรื่องไอ้หนุ่มหมัดเมาของผม”

เฉินหลงยังพูดถึงความตั้งใจของนักแสดงคู่หูตัวจิ๋วคนนี้ โดยเอาลูกของเขาเองมาเปรียบเทียบ “ไอ้หนูคนนี้ทำเอาลูกชายของผมขายหน้าไปเลย ผมพยายามหาครูมวยที่เก่งที่สุดในโลกมาสอนให้ แต่เขาไม่เคยแม้แต่จะพยายามลองมัน เขาเป็นเด็กมีพรสวรรค์ แค่สองเดือนเรียนรู้อะไรได้มากเหลือเกิน ร้องเพลงได้ เต้นเบรคแดนซ์เป็น ตอนนี้บู๊บู๊ได้ด้วย"

อาซา (Ah Sa / Charlene Choi) ลุยเดี่ยวเข้าสู่ตลาดไต้หวันด้วยละครไอด้อลเรื่อง Calling For Love โดยมีกำหนดออกอากาศในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ทาง CTS ออกตัวอย่างละครมาให้ชมกัน ในคลิปนั่นมีฉากจูบระหว่างนักแสดงนำชายหญิงอยู่หลายฉาก โดยสองนักแสดงนำนั่นก็คือ อาซา และไมค์ เฮอ (Mike He) ตัวอย่างละครสร้างความตื่นเต้นให้แก่แฟนๆ โดยมีผู้เข้าไปชมกันมากมาย

ในละคร อาซาและไมค์จูบกันบ่อยครั้ง และตั้งแต่เธอเริ่มแสดงมา น่าจะถือได้ว่า ละครเรื่องนี้เป็นละครที่มีฉากจูบมากที่สุดเลยทีเดียว ในทางตรงกันข้าม ไมค์ที่แสดงในละครไต้หวันหลายๆเรื่อง ในแต่ละเรื่อง เขาจะมีฉากจูบกับนักแสดงนำหญิงเสมอ ด้วยนักแสดงไอด้อลชื่อดังจากฮ่องกงมาร่วมงานกับนักแสดงไอด้อลชื่อดังของไต้หวัน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแฟนๆชาวไต้หวันต่างก็ชื่นชอบตัวอย่างละครเรื่องนี้กัน

CCT

เอเอฟพี – ผู้สร้างภาพยนตร์จีนแก้ปัญหาหนังผ่านกรรไกรเซนเซอร์กบว.ยาก หันมาสร้างหนังสะท้อนสังคมโดยถ่ายทอดเป็นแนวย้อนยุคแทนแนวร่วมสมัย ตามที่เหอ ผิง ผู้กำกับหนังเรื่อง “Wheat” ให้สัมภาษณ์ในระหว่างร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองโตรอนโตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 ก.ย.)

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ชาวจีนหาทางหลีกเลี่ยงการแบนของรัฐบาล โดยใช้บทกวีหรือวรรณกรรมโบราณเข้ามาเปรียบเปรยสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน เช่นเดียวกับภาพยนตร์ล้อเลียนสังคมของ เหอ ผิง ซึ่งประเดิมฉายนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกที่งานเทศกาลครั้งนี้ โดยภาพยนตร์กล่าวถึงเหตุการณ์ในยุคจั้นกั๋ว (ก่อนคริสตศักราช 476 ปี) จนกระทั่งถึงยุครวมแผ่นดินในช่วงสมัยราชวงศ์ฉินเมื่อช่วงก่อนคริสตศักราช 221 ปี

เนื้อหาพูดถึงการดิ้นรนมีชีวิตรอดของเหล่าสตรี เมื่อบุรุษต้องออกไปทำศึก รวมถึงหนทางที่จะทำให้พวกเธอใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เพราะเชื่อในคำหลอกลวงว่าสักวันสามีและลูกชายจะกลับมา

เป็นเรื่องง่ายถ้าจะสร้างหนังโดยมีฉากเป็นยุคปัจจุบัน แต่เหอกล่าวว่า “ถ้าคุณบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ในรูปแบบหนังร่วมสมัยล่ะก็ มันจะกลายเป็นประเด็นอ่อนไหวขึ้นมาทันที และจะไม่ผ่านเซนเซอร์”

เช่นเดียวกับ ภาพยนตร์เรื่อง “The Warrior and the Wolf” ของผู้กำกับเถียน จวงจวง ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของนักประพันธ์ชาวญี่ปุ่น ยาสุชิ อิโนอุเอะ ซึ่งย้อนเรื่องราวกลับไปในยุคจั้นกั๋วเช่นกัน ขณะที่ผู้กำกับลู่ ชวน ก็สร้างหนังเรื่อง “City of Life and Death” ซึ่งมีเนื้อหาย้อนไปเกือบ 80 ปี เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของการสังหารหมู่ชาวจีนที่เหี้ยมโหดโดยกองทัพญี่ปุ่นที่เมืองนานกิงในช่วงปี 1937

โดยภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ก็ได้รับเกียรติให้ฉายในงานเทศกาลหนังโตรอนโตสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน

เหอ ผิง ผู้กำกับเรื่อง “Wheat” แสดงความเห็นอย่างระมัดระวังว่า เป้าหมายของเขาในการสร้างหนังเรื่องนี้อยู่ที่สังคมจีน ไม่ใช่คิดโจมตีการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ “จีนก้าวหน้าไปจากอดีตมาก แต่ก็ยังมีความจริงอีกมากที่ยังถูกปิดบัง”

S.H.E. อยู่ด้วยกันมานานถึง 8 ปีแล้ว เมื่อวันก่อน พวกเธอสามคนจัดงานแจกลายเซ็นขึ้นพร้อมกับการฉลองร่วมกับแฟนๆ จากตั้งแต่ยังเป็นวันรุ่นจนมาเป็นผู้ใหญ่แล้ว และในหนังสือแต่งงาน พวกเธอเขียนเกี่ยวกับความต้องการของพวกเธอสำหรับอีกครึ่งหนึ่งของพวกเธอ เซลิน่า (Selina) ซึ่งแน่นอนว่ากำลังตกอยู่ในความรัก เธอเพียงแค่เขียนว่า "ผู้ชายที่หล่อมากๆ"และปฏิเสธที่จะกล่าวถึงแฟนหนุ่มของเธอที่เป็นทนายความ ทางด้านฮีบี้ (Hebe) เขียนเอาไว้ว่า "ผู้ชายที่เป็นคนดีมากๆ" และเอลล่า (Ella) เขียนไว้ว่า "ชายที่มีความรัก"

UDN

S.H.E. กลุ่มศิลปินหญิงชื่อดังจากไต้หวันเดินทางไปฮ่องกงเพื่อจัดงานแถลงข่าวสำหรับงานคอนเสิร์ต Love As One World Tour ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ พวกเธอประกาศว่า ฮ่องกงจะเป็นจุดแรกของทัวร์คอนเสิร์ตของพวกเธอ และจะจัดขึ้นที่ HK Coliseum ในวันที่ 16 - 17 ตุลาคม ทั้งสามสาวแต่งตัวในชุดที่เซ็กซี่

แม้ว่าบัตรเข้าชมงานคอนเสิร์ตยังไม่ได้วางจำหน่าย แต่ยอดจองล่วงหน้ากลับขายหมดแล้ว เมื่อถูกถามว่าพวกเธอจะเพิ่มรอบแสดงหรือเปล่า ทั้งสามคนยิ้มและกล่าวว่า "ร่างกายของพวกเราไม่ได้สมบูรณ์เหมือนเมื่อ 8 ปีก่อน และนอกจากนั้น พวกเราไม่สามารถจะเพิ่มรอบเพียงเพราะเราต้องการเท่านั้น" นี่ยังถือเป็นครั้งแรกที่พวกเธอจะร้องเพลง 2 คืนติดกัน ในอดีต พวกเธอจะขึ้นร้องเพลงเพียงแค่หนึ่งคืนในแต่ละเมือง งานคอนเสิร์ตจะมีธีมทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Pyjamas, Movies และ KTV

เพลงไตเติ้ล White จากอัลบั้ม 5th Season ของแอนเจล่า จาง (Angela Zhang) เพิ่งออกมาทั่วโลก หลังจากการพักผ่อนไป 1 ปีกับอีก 8 เดือน เธอพร้อมที่จะออกเพลงใหม่ของเธอ อัลบั้มใหม่ของเธอจะออกมาในวันที่ 25 กันยายนนี้ เพลง White เป็นผลงานการร่วมมือระหว่าง Chen Wei และ Li Zhuo Xiong พวกเขายังเชิญทีมงานเพลงของอาวรีล ลาวีน (Avril Lavigne) มาร่วมมือในอัลบั้มนี้ด้วย นอกจากนี้แล้ว BOBSON ยีนส์ชื่อดังจากญี่ปุ่นก็เลือกเพลง White มาใช้เป็นธีมซองด้วย ว่าแล้วก็มาลองฟังเพลงของเธอกัน

Crimson Rain

ผลกระทบจากการแต่งงานของ “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) พระเอกหนุ่มชาวฮ่องกง ดูจะมีมากมายเหลือเกิน หนึ่งในนั้นก็คือการถูกขุดคุ้ยเรื่องรักในอดีต ตั้งแต่ความสัมพันธ์กับภรรยาปัจจุบัน เรื่องกุ๊กกิ๊กกับดาราสาวที่เคยร่วมงานด้วย รวมถึงเรื่องเพื่อนชายคนสนิทในอดีตของเขาด้วย

หนุ่มที่กลายเป็นเป้าหมายในการตามล่าครั้งดังกล่าวก็คือ พานหงปิน หรือ แดนนี่ เพื่อนนักแสดงหนุ่ม ของหลิวเต๋อหัว

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นได้เริ่มต้นเมื่อ 28 ปีที่แล้ว สมัยที่ทั้ง หลิวเต๋อหัว และเพื่อนสนิทคนนี้ ยังเป็นนักเรียนการแสดงของบริษัททีวีบี สถานที่ซึ่งทำให้ทั้งสองกลายเป็นเพื่อสนิทกัน และเป็นที่มาของข่าวลือถึงความสัมพันธ์ที่อาจจะเกินเลยคำว่าเพื่อน ไปเป็นคนรัก

หลังจากจบจากโรงเรียนการแสดง หลิวเต๋อหัว กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์คนหนึ่งของฮ่องกง ขณะที่ พานหงปิน ยังคงรับบทเป็นตัวประกอบระดับรอง ที่มักจะรับบทที่ไม่สำคัญนักเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงเวลานี้ทั้งสองก็ยังมีโอกาสได้ร่วมงานด้วยกันหลายครั้ง รวมถึงในหนังอย่างเรื่อง On The Wrong Track, The Tiger และ A Taste Of Killing And Romance

จนกระทั่งปี 1998 พานหงปิน จึงถอนตัวออกจากวงการบันเทิงไป ผันตัวเองไปเป็นนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ และก็ไม่ได้ติดต่อกับหลิวเต๋อหัวอีกเลย ซึ่งพระเอกชื่อดังก็เคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า เขาเสียใจอยู่เหมือนกันที่ต้องขาดการติดต่อกับเพื่อนสนิทคนนี้ไปเลย

ข่าวการประการเรื่องชีวิตคู่ของ หลิวเต๋อหัว กลายเป็นสาเหตุให้นักข่าวบันเทิงในฮ่องกงมุ่งขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของเขาโดยเฉพาะเรื่องความรัก และตามหาตัว ฟานหงปินจนเจอ จากดาราหนุ่มหน้ามนต์ในอดีต ตอนนี้ได้กลายเป็นชายวัยกลางคน ศีรษะล้าน และรูปร่างท่วมขึ้นนิดหน่อย

เมื่อนักข่าวพยายามถามถึงเรื่องข่าวลือความเป็นเกย์ของลิวเต๋อหัว กับเขา พานหงปิน กลับให้คำตอบที่คลุมเครือว่า “ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบพวกคุณยังไงดี”

ถึงแม้จะประกาศถึงการมีชีวิตคู่อย่างเป็นตัวเป็นตน รวมถึงเรื่องการมีบุตรไปแล้ว แต่ข่าวลือถึงเรื่องรสนิยมทางเพศของพระเอกหนุ่มก็ยังจะคงถูกพูดถึง และไม่ยุติลงไปง่ายๆ แน่

Manager Online