ข่าวจีน

"เจอรี่ F4"(Jerry F4) งงหุ่นขี้ผึ้งมาไง? แถมไม่เหมือนตัวจริงสุดๆ

Submitted by Rujiya on 11 ธันวาคม, 2009 - 12:27

ไอดอลหนุ่มชื่อดังแห่งไต้หวัน “เจอรี่ F4”(Jerry F4) เป็นอันงง หลังปรากฏมีหุ่นขี้ผึ้งของตัวเขา ที่สร้างและถูกจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง “หลุยส์ ทุสโซด์ส แวกซ์เวิร์คส์” พัทยา ประเทศไทย ที่นอกจากจะไม่ได้ขออนุญาตเจ้าตัวแล้ว ยังปั้นออกมาได้ไม่เหมือนตัวจริงแบบสุดๆ ด้วย

ตัวแทนของหนุ่ม เจอรี่ แห่ง F4 ออกมาให้ความเห็นกรณีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง สร้างรูปจำลองของเขาขึ้นมา โดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ หลังจากสื่อมวลชนของไต้หวันรายงานข่าวว่ามีการสร้างรูปเหมือนของพระเอกคนดังขึ้นที่เมืองไทย

เจอรี่ หรือ เหยียนเฉิงซวี่ นักแสดงชาวไต้หวันโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อหลายปีก่อน กับผลงานการแสดงหนังทีวีซีรี่ย์ชุด Meteor Garden หรือ รักใสๆ หัวใจ 4 ดวง ในบท เต้าหมิงซื่อ ที่ยังทำให้เขาเป็นที่รู้จักถึงทุกวันนี้

หุ่นของเจอรี่ เป็นหนึ่งในหุ่นของคนดังระดับโลกหลายคนที่ถูกแสดงอยู่ที่นี่ อาทิเช่น เติ้งลี่จวิน, โจวเหวินฟะ, แบรด พิตต์, เดวิด เบคแฮ่ม และประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา บารัค โอบาม่า

อย่างไรตามในความคิดของสื่อมวลชนไต้หวัน ที่ได้มีโอกาสเห็นหุ่นที่ว่านี้แล้ว ได้ลงความเห็นว่า หุ่นขี้ผึ้งของ เจอรี่ ดูเหมือนต้นฉบับแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากหุ่นขี้ผึ้งของ เขา ที่พิพิธภัณฑ์ มาดามทุสโซด์ส ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเขามีส่วนร่วมเป็นแบบในการปั้นขึ้นมา จนดูใกล้เคียงกับตัวจริงเป็นอย่างมาก

หุ่นขี้ผึ้งของ เจอรี่ ที่เมืองไทยอยู่ในชุดสูทสีดำ ที่ดูไกลๆ แบบผ่านๆ แล้ว อาจจะพอมองเป็นเจ้าตัวได้บ้าง แต่ถ้าดูกันให้ละเอียดแล้วกลับดูไม่ค่อยเหมือนตัวจริงสักเท่าไหร่ หน้าผากดูสูงเกินไป, กระดูกบนโครงหน้าดูชัดเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่ดูแล้วไม่เหมือนเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย โดยรวมแล้วสื่อ ในรายตาของสื่อไต้หวัน หุ่นขี้ผึ้งที่ว่าดูจะไปละม้ายกับดารานักร้องชาวญี่ปุ่นสมาชิกวง SMAP ที่ชื่อว่า คุซานากิ ทสึโยชิ เสียมากกว่า

หลอเจียเหลียง (Gallen Lo) จะแต่งงานที่ปักกิ่งในวันเสาร์นี้

Submitted by peary on 11 ธันวาคม, 2009 - 12:07

หลอเจียเหลียงอายุ 46 ปีและโซฟี (Sophie Su) อายุ 35 ปีตกลงปลงใจจะแต่งงานกันที่ปักกิ่งในวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ โดยที่ทั้งสองมีการบินไปถ่ายภาพอัลบั้มแต่งงานกันที่เนเธอร์แลนด์เรียบร้อยแล้ว หลอเจียเหลียงหย่ากับภรรยาเก่า (Fong Mun Yee) เมื่อปีที่แล้วหลังจากที่อยู่ด้วยกันมาถึงสิบปี ข่าวการเดทของหลอเจียเหลียงและโซฟีออกมาหลังจากที่เขาได้หย่าไปประมาณ 6 เดือน ซึ่งพวกเขาทั้งสองเริ่มหมั้นหมายกันเมื่อต้นเดือนมกราคมของปีนี้ และลงทะเบียนในการจดทะเบียนสมรสในวันที่ 9 กันยายน 2009 ที่ผ่านมา โดยที่งานจัดเลี้ยงจะมีขึ้นในวันเสาร์นี้ พวกเขากล่าวกับนักข่าวว่า “ปี 2009 เป็นปีที่ท้าทาย และพวกเขาก็จะฝ่าฟันความท้าทายทั้งหลายไปด้วยกัน ในช่วงเวลานี้พวกเราอยากจะแบ่งปันความสุขกับทุกๆ คน”

หลอเจียเหลียงบอกกับนักข่าวอีกว่าภรรยาเก่าของเขาและเขาได้ตกลงกันที่จะแยกกันอยู่ตั้งแต่ปี 2007 แต่การหย่าสิ้นสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ในช่วงที่รอการหย่าเป็นผล เขาได้พบกับโซฟี ซึ่งพวกเขาต้องร่วมงานกันในละครของจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อง “Perfect Ending” หลอเจียเหลียงยังพูดเสริมอีกด้วยว่าเป็นเหมือนพระเจ้าตั้งใจให้พวกเขาได้พบกัน ซึ่งโซฟีเป็นคนที่ธรรมชาติ ใจดีและอ่อนช้อยมาก นอกจากนี้หลอเจียเหลียงยังปฏิเสธอีกว่าโซฟีไม่ใช่มือที่สามแน่นอน

"หลี่ลี่เจิน" กลับมาหวิวในวัย 44

Submitted by Rujiya on 9 ธันวาคม, 2009 - 11:42

ดาราชาวฮ่องกงชื่อดังในอดีต “หลี่ลี่เจิน” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากตัดสินใจลดหุ่น เปลื้องผ้าถ่ายแบบโฆษณาช ให้กับสถานลดน้ำหนักแห่งหนึ่ง เป็นการกลับมารับงานแนววาบหวิวอีกครั้งหลังจาก เล่นหนังเกรด 3 จนเป็นที่ฮือฮาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน

มีรายงานจากฮ่องกงว่า หลี่ลี่เจิน ที่วันนี้อายุ 44 ปีแล้ว ได้รับเงินก้อนโตกว่า 5 ล้านเหรียญฮ่องกงในการ เป็นตัวแทนให้กับสถานลดน้ำหนักแห่งหนึ่ง ซึ่งในโอกาสเดียวกันนี้เธอยังเป็นแบบในเสื้อผ้าชุดชั้นในให้กับสถานลดน้ำหนักแห่งดังกล่าว

เมื่อสองปีก่อนส หลี่ลี่เจิน เคยถูกช่างภาพปาปารัซซี่ฮ่องกงแอบถ่ายภาพเธอที่ดูเจ้าเนื้อสุดๆ ขณะเดินซื้อของอยู่ที่ฮ่องกง ถึงวันนี้อดีตขวัญใจหนุ่มๆ คนนี้กลับมาสวยอีกครั้ง และด้วยรูปร่างที่กลับมาเข้าที่อีกครั้ง ส่วนหน้าตาก็ยังดูอ่อนกว่าวัยมาก หลายๆ คนถึงกับออกปากชมว่าในวัย 44 ปี หลี่ลี่เจิน ดูไม่ได้แตกต่างจากสมัยเมื่อ 20 ปีก่อนมากนัก

หลี่ลี่เจิน เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงฮ่องกงเมื่ออายุได้เพียง 19 ปี ในฐานะดาราวัยรุ่นที่ขายภาพความสดใสมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอก็สร้างความฮือฮา และความแปลกใจให้กับหลายๆ คน ด้วยการลุกขึ้นมาถ่ายภาพนู้ด และรับเล่นหนังเกรดสามหลายเรื่อง รวมถึง Spirit of Love, Girls Unbutton, Crazy Love และ Sex and Zen 2 ที่กลายเป็นหนังฮิต และยังคงขายดีมาจนถึงทุกวันนี้

เช่นเดียวกับดาราหญิงหลายๆ คนที่เมื่อทำงานมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นเธอตัดสินใจแต่งงาน และออกจากวงการไปชั่วคราวจนกระทั่งปี 1999 จึงกลับมารับงานอีกครั้ง ในหนังสะท้อนสังคมเรื่อง Ordinary Heroes งานซึ่งเธอสามารถพิสูจน์ถึงฝีไม้ลายมือในการแสดง และจนสามารถคว้ารางวัลม้าทองคำ ปี 1999 ไปครองได้สำเร็จ

ตอนนี้หลังจากหย่าขาดกับสามี ที่มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน หลี่ลี่เจิน กลับมารับงานในวงการแบบเต็มตัวอีกครั้ง มีผลงานหนังออกปีละ 1 – 2 แต่กับงานถ่ายภาพชิ้นล่าสุดในครั้งนี้ ถือ เป็นการกลับมารับงานแนววาบหวิวอีกครั้งในรอบหลาย 10 ปีเลยทีเดียว

Manager Online

แฟนประท้วง "แอรอน"(Aaron) แห่ง "Fahrenheit" ทิ้งของขวัญวันเกิด

Submitted by Rujiya on 8 ธันวาคม, 2009 - 09:43

กลุ่มแฟนจำนวนมากของ หนุ่ม แอรอน(Aaron) แห่ง "Fahrenheit" ประท้วงที่พ่อหนุ่มขวัญใจของเขาไม่ยอมรับของขวัญวันเกิดที่ได้รับมอบไป ที่ด้านนอกอพาร์เมนต์ของเขาชนิดข้ามวันข้ามคืน จนสร้างความเดือนร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก จนนักร้องหนุ่มต้องออกมาขอโทษเพื่อนบ้านทุกคน ที่ได้รับความเดือนร้อนจากเรื่องครั้งนี้

เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเกิดขึ้นเมื่อวันคล้ายวันเกิด เมื่อ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ของหนุ่มนักร้อง แอรอน เหยียนหย่าหลุนสมาชิกแห่งวงบอยแบนด์จากไต้หวัน Fahrenheit ซึ่งเป็นช่วงที่เขาทำงานอยู่ที่เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากเสร็จสิ้นจากงานดังกล่าว และ แอรอน ได้เช็คเอาท์ออกจากที่พักไป แฟนจำนวนหนึ่งกลับพบว่า นักร้องขวัญใจของพวกเธอ ไม่ได้เอาของขวัญวันเกิดที่ได้รับมอบกลับไปด้วย จนเกิดไม่พอใจ และติดตามมาด้วยการออกมาประท้วงที่หน้าบ้านพักของ เขาเมื่อไม่นานมานี้

เป็นเรื่องปกติไปแล้วกับรายงานข่าวถึงพฤติกรรมสุดขั้วจากกลุ่มแฟนๆ ของศิลปินบอยแบนด์ Fahrenheit ที่ก่อนหน้านี้ มักจะคอยติดตามชื่นชมนักร้องขวัญใจของพวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง แม้กระทั่งบ้าน และที่พักส่วนตัว ในการย้ายบ้านของหนุ่มแอรอน เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีแฟนๆ จำนวนมาก ตามเขาไปที่บ้านแห่งใหม่ ซึ่ง 10 กว่าคนในจำนวนนั้น เป็นกลุ่มแฟนคลับสาวๆ ที่เดินข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากต่างประเทศ และเธอก็ไม่ได้ใช้บริการห้องพักของโรงแรมใดๆ แต่อาศัยอยู่บริเวณแถบบ้านพักของ แอรอน และครอบครัวอยู่นั้นเลย จนสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก จนตัวของนักร้องหนุ่ม และครอบครัวต้องออกมาขออภัยกับเหล่าเพื่อนบ้านกับเรื่องที่เกิดขึ้น

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ดูจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนในบริเวณนั้นมากกว่าเดิมอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้ จนนักร้องหนุ่มแสดงความไม่พอใจ ถึงขั้นโกรธออกมาอย่างชัดเจน

ชาวไต้หวันลงมติ “หลินจื่อหลิง” (Lin Chi Ling) อกสวยสุดในประเทศ

Submitted by Ne_kapook on 7 ธันวาคม, 2009 - 12:14

นางแบบสาวคนดัง “หลินจื่อหลิง” (Lin Chi Ling) ถูกโหวตให้เป็นสาวที่มีหน้าอกที่สวยที่สุดในไต้หวัน (The Top Ten Queens of Beautiful Breasts) ขณะที่สาวร้อนคนอื่นๆ ของประเทศอย่าง “เทียนซิน” และ “เหยาเหยา” ได้รับอันดับรองๆ ลงมา

หนังสือพิมพ์บันเทิงแนวแทปลอยด์ Apple Daily ฉบับไต้หวัน ได้รายงานผลการโหวตจัดอันดับสาวหน้าอกสวยของประเทศ ที่ทำการลงคะแนนกันทางอินเตอร์เน็ตโดยมีผู้ร่วมโหวตถึงเกือบ 3,000 คน และก็เป็นไปตามคาดเมื่อ หลินจื่อหลิง ดารานางแบบสาวสุดดัง วัย 35 ปีกับ พาหน้าขนาดอก 34C ของเธอคว้าอันดับหนึ่ง กลายเป็นผู้หญิงที่ชาวไต้หวัน ลงมติอย่างเห็นพร้อมว่ามีหน้าอกหน้าใจสวยที่สุดในประเทศ

ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการจัดอันดับอะไรที่เกี่ยวข้องกับ ความสวย ความงาม ความเซ็กซี่ ดูเหมือนว่านางแบบชื่อดังคนนี้จะถูกจัดให้อยู่ในลำดับต้นๆ หรืออันดับหนึ่งอยู่เสมอๆ เช่นเดียวกับการโหวตสาวอกสวยประจำไต้หวันในครั้งนี้ โดยมีผู้โหวตให้กับ หลินจื่อหลิง กว่า 700 คน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของผู้โหวตทั้งหมดเลยทีเดียว

ดารานางแบบสาวเซ็กซี่ เทียนซิน (Tian Xin) วัย 34 ปี เจ้าของขนาด 34E ตามมาในอันดับ 2 ด้วยคะแนนที่ไม่ห่างกันมากนัก กับเสียงโหวต 18 เปอร์เซ็นต์ และดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างสาววัย 19 ปีที่ชื่อ เหยาเหยา (Yao Yao) ตามมาในอันดับที่ 3

ตัวแทนของ หลินจื่อหลิง ออกมาขอบคุณชาวไต้หวันทุกๆ คน สำหรับการที่โหวตให้ในครั้งนี้ และเผยถึงเคล็ดลับที่มาของความเซ็กซี่ว่า ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าการออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำอยู่เป็นประจำนั่นเอง

เช่นเดียวกับ เทียนซิน ที่ออกมาขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเธอว่า “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขมากๆ ค่ะ” นางแบบสาวที่ตอนนี้มีงานประจำเป็นพิธีกรรายการทีวีคนนี้กล่าว

เหยาเหยา สาววัย 19 ปี เจ้าของขนาดหน้าอก 32E กลายเป็นชาวร้อนคนล่าสุดของประเทศไต้หวัน ที่ติดอันดับอยู่ท่ามกลางรุ่นพี่อายุมากกว่า เธอเปิดใจว่าที่ดีใจที่สุดก็คือ การได้ติดอยู่ในการจัดอันดับเคียงคู่กับดาราสาวชื่อดัง ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่เธอชื่นชม “ฉันดีใจมากๆ ค่ะที่สามารถติดอยู่ใน 3 อันดับแรก ได้อยู่เคียงค้างกับพี่หลินจื่อหลิง กับพี่เทียนซิน ที่ฉันชื่นชอบมากๆ”

แอรอน เหยียน (Aaron Yan) แห่งวง Fahrenheit ไม่นำของขวัญแฟนๆกลับไปด้วย ก่อให้เกิดการประท้วงขึ้น

Submitted by canjamm on 6 ธันวาคม, 2009 - 23:42

แฟนๆใจกล้าของแอรอน เหยียน (Aaron Yan) แห่งวง Fahrenheit รวมตัวกันอยู่ทั้งคืนใต้ที่พักของของ สร้างความรบกวนให้แก่เพื่อนบ้านของเขาทำให้เขาต้องขอโทษอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เมื่อวันเกิดของเขา บังเอิญว่าเขาทำงานในประเทศจีน เมื่อเขาเช็คเอ้าท์ แฟนๆหาทางเข้าไปในห้องของเขา และพบว่าเขาไม่ได้นำเอาของขวัญทั้งหมดไปด้วย แฟนๆทางอินเทอร์เน็ทต่างก็ทำการประท้วง เกี่ยวกับเรื่องนี้ แอรอนเชื่อว่า เรื่องนี้เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว และไม่พอใจนิดหน่อย

แฟนๆใจกล้าพวกนี้มักจะติดตามวง Fahrenheit อย่างหนัก โดยตามเขาไปถึงบ้านเป็นประจำ เมื่อตอนที่แอรอนย้ายบ้านเมื่อเดือนกรกฎาคม แฟนๆยังติดตามเขาไปยังบ้านใหม่ของเขา โดยมีแฟนๆผู้หญิงมากกว่า 10 คนจากต่างประเทศร่ืวมอยู่ด้วย โดยไม่ได้พักในโรงแรม แต่ทำการรวมตัวกันภายใต้อพาร์ทเมนท์ของเขาแทน สร้างความรบกวนให้แก่เพื่อนๆร่วมอพาร์ทเมนท์ของเขา ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้น เขาต้องทำการขอร้องหลายๆครั้งว่าอย่าทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลอะไร เขาทำถึงขนาดแสดงอาการโกรธให้เห็น แต่แฟนๆเหล่านั้นก็ยังคงดำเนินสิ่งที่พวกเขาทำต่อไป ทำให้เขาและครอบครัวของเขาต้องขอโทษเพื่อนบ้านตลอดเวลาที่เขาได้พบเจอ

หลังจากแอรอนเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม แฟนๆชาวจีนก็เข้าไปในห้องของเขา เขาเชื่อว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขา "ผมหวังว่า แฟนๆจะให้ความเกรงใจผมบ้าง" และเขายังอธิบายบนบล็อกของเขาว่า ในระหว่างการทำงาน 10 วัน เขามีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ หนึ่งใบในนั้นว่างสำหรับไว้เก็บของขวัญจากแฟนๆ แต่มันไม่สามารถเก็บของขวัญทั้งหมดได้ เขาย้ำว่า เขานำเอาจดหมายและการ์ดทั้งหมดไปด้วย และแน่นอนว่าเขาจะอ่านมันทั้งหมด

China Times

คู่ขวัญรีเทิร์น "หลี่หมิง-หลี่เจียซิน" (Leon Lai - Michelle Reis)ร่วมถ่ายแบบ และแสดงนำในหนังเรื่องใหม่

Submitted by canjamm on 6 ธันวาคม, 2009 - 23:18

อดีตคู่ขวัญทั้งนอกจอในจอเมื่อกว่า 10 ปีก่อน มีโอกาสกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในหนังฟอร์มใหญ่ของฮ่องกงเรื่อง "Bodyguard and Assassins" ซึ่งก่อนที่หนังจะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่ ทั้งสองยังได้ร่วมกันถ่ายแบบลงนิตยสารที่เมืองจีนด้วย

สองดาราชื่อดังชาวฮ่องกง หลี่หมิง (Leon Lai)และหลี่เจียซิน (Michelle Reis)ควงคู่กันมาถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Madame Figaro ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า "Blue" หรือความเศร้าที่มีทั้งภาพเดียว และภาพคู่ทั้งที่ดาราทั้งสองต้องแสดงท่าทาง เย็นชา,เฉยเมย และไม่ยินดียินร้ายต่อกัน เหมือนไม่สามารถจะสื่อสาร หรือกระทั่งสบสายต่ออีกฝ่ายได้

ย้อนไปกว่า 10 ปีก่อน ฝ่ายหญิงเป็นอดีตมิสฮ่องกงและถูกยกย่องว่า เป็นสาวที่สวยที่สุดในฮ่องกง ขณะที่ฝ่ายชายเป็นนักร้องดังหนึ่งใน 4 จตุรเทพแห่งฮ่องกง เมื่อมาร่วมงานกันหลายฝ่ายดาราชื่อดังทั้งสองเคยถูกยกให้เป็นคู่กิ่งทองใบหยก รวมงานกันในหนังถึง 4 เรื่อง และหนังทีวีซีรี่ย์อีก 1 เรื่อง โดยเฉพาะหนังชุดเรื่อง เทพบุตรผู้พิชิต ที่หลายๆ คนยังคงจดจำได้ และประทับใจอยู่

ความหวานในจอ ทำให้หลายๆ คนเชียร์ให้ทั้งคู่กลายเป็นแฟนกันนอกจอด้วย ซึ่งก็เกิดข่าวการคบกันของทั้งสองจริงๆ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังเรียกว่าข่าวลือ เช่นเดียวกับข่าวเรื่องรักหลายๆ ครั้งของหลี่หมิง ที่ไม่เคยมีการยืนยันจากเจ้าตัว ซึ่งถึงตอนนี้ทั้ง หลี่หมิง และหลี่เจียซิน ต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองไปแล้ว

การถ่ายภาพชุดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของการประชาสัมพันธ์หนังเรื่องใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้คู่รักคู่ลือทั้งสองได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง โดยในหนัง หลี่หมิงจะรับบทเป็นอดีตลูกหลานตระกูลใหญ่ที่เกิดเรื่องราวกระทบจิตใจบางอย่าง จึงเลือกใช้ชีวิตแบบขอทานข้างถนน จนกระทั่งได้พบกับตัวละครของหลี่เจียซิน ที่เป็นแรงบัลดาลใจให้เขา เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีอีกครั้ง

ภาพฉาวเป็นเหตุ ชื่อ "จางซิยี่" (Zhang Ziyi) ถูกเซิร์ชมากสุดในไต้หวันประจำปี 2009

Submitted by canjamm on 6 ธันวาคม, 2009 - 23:16

ชื่อของ "จางซิยี่" (จางจื่ออี้ / Zhang Ziyi) ดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นชื่อของคนดัง ที่ชาวไต้หวันเซิร์ชทางอินเตอร์เน็ตมากที่สุดในปี 2009 และเป็นคำที่ถูกเซิร์ชมากที่สุดอันดับ 4 เลยทีเดียว

ในปีที่ผ่านมาดาราวัย 30 ปีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ มีผลงานหนังเข้าฉายถึง 3 เรื่อง ตั้งแต่การมีส่วนร่วมในหนังแห่งชาติเรื่อง The Founding of a Republic, ได้โกอินเตอร์แสดงหนังภาษาอังกฤษกับ เดนนิส เควดในหนัง Horsemen รวมถึงทั้งสร้าง และแสดงนำในหนังของตัวเองเรื่อง Sophie's Revenge

แต่ทั้งหมดไม่ได้เท่าให้ดาราสาวคนดังผู้นี้ กลายเป็นที่สนใจ และทำให้ชื่อของเธอ ถูกเชิร์ช เท่ากับเหตุการณ์ฉาวเมื่อต้นปี เมื่อ จางซิยี่ และคู่หมั้นหนุ่มใหญ่ชาวอิสราเอล วีวี เนโว่ แสดงบทรักอันร้อนแรง บนชายหาดแถบคาริเบี้ยน จนถูกช่างภาพอิสระเก็บภาพไว้ได้ชุดใหญ่ และถูกแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลก กลายเป็นเรื่องฉาวอันดับต้นๆ ของวงการบันเทิงจีนในปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังมีข่าว รักๆ เลิกๆ ของคู่รักสุดดังคู่นี้ยังกลายเป็นที่สนใจของผู้คน และถูกนำเสนออย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

ทำให้ชื่อของเธอถูกชาวไต้หวันเซิร์ชมากที่สุด มากกว่าคนเด่นคนดังคนไหนก็ตาม นอกจากนั้น ยังอยู่ในอันดับ 4 เมื่อรวมกับคำในหมวดอื่นๆ ด้วย

สำหรับคำที่ถูกเซิร์ชเป็นลำดับ 1 ในหมู่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไต้หวันก็คือ คำว่า "Happy Farm" หรือเกมปลูกผัก บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ Facebook ที่ผู้คนเล่นกันเสียจนแทบจะเรียกว่าเป็นการเสพติด กลายเป็นปัญหาในไต้หวัน ทำให้บริษัทและหน่วยงานราชการหลายๆ แห่ง ต้องออกคำสั่งอย่างเป็นทางการ ห้ามเหล่าเจ้าหน้าที่ และพนักงานเล่นเกมที่ว่านี้ในเวลาทำงานเด็ดขาด

คำว่า "Facebook" เป็นคำที่ถูกเซิร์ชมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 และคำว่า "Internet-ATM" อยู่ในอันดับสาม เนื่องจากเป็นช่องทางสำคัญในการโอนเงิน และบริจาคเงิน ที่ประชาชนจำนวนมาก ต้องการหยิบยื่นความช่วยเหลือ ให้กับผู้ประสบภัยร่วมชาติ ในเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นมรกต ถล่มประเทศไต้หวันในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ที่สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน และมีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน

Manager Online

"หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing) โดนแฉแต่งงานแล้วนานนับสิบปี

Submitted by Ne_kapook on 4 ธันวาคม, 2009 - 11:55

"หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing) นักแสดงสาวชาวจีนชื่อดัง ที่เพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครองจากงานประกาศผลรางวัลม้าทองคำครั้งที่ 46 จากบทสายลับในเรื่อง The Message ถูกแฉว่าเคยแต่งงานมาแล้วตั้งแต่ปี 1999 ตามรายงานจากสื่อประเทศจีน

ตามรายงานระบุว่า หลี่ปิงปิง นักแสดงสาววัย 34 ปีเคยยอมรับว่ามีสามีเป็นหนุ่มนักธุรกิจ เมื่อครั้งเคยให้สัมภาษณ์อย่างคลุมเครือกับนิตยสารของจีนเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว โดยเธอระบุว่าเธอต้องการคนมาดูแล ดังนั้นเธอจึงเลือกผู้ชายที่มีอายุมากกว่าเพราะเธอจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

สอดคล้องกับปี 2001 หลังจากที่หลี่ปิงปิงเริ่มงานในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดง เธอก็ได้อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์สุดหรูในย่านดังอย่าง กวนเฉิงหยวน ในกรุงปักกิ่ง และเธอยังขับรถปอร์เช 740 ด้วย ตามรายงานจากสื่อของจีนระบุว่าหลังจากที่มีการเช็คว่าใครเป็นเจ้าของทั้งอพาร์ทเมนท์และรถยนต์ที่เธอขับก็พบว่า ทั้งสองอย่างนั้นมีชื่อของ มิสเตอร์ ฉีเต้า เป็นเจ้าของ

โดยพนักงานทำความสะอาดรถของอพาร์ทเมนท์ดังกล่าวระบุว่าทั้ง หลี่ปิงปิง และ ฉีเต้า ต่างก็พักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยอธิบายลักษณะของหนุ่มใหญ่คนนี้ว่า เป็นหนุ่มวัย 40 ค่อนไปทางอ้วนล่ำ หัวโล้นๆ ตามรายงานระบุว่าจากรูปพรรณสัณฐานที่ระบุไว้นั้นตรงกับหนุ่มนิรนามที่เคยถูกถ่ายภาพคู่กับหลี่ปิงปิงเมื่อตอนต้นปีได้

ทางด้านผู้จัดการของหลี่ปิงปิงเองก็เพิ่งจะออกมาปฏิเสธข่าวเรื่องที่นักแสดงสาวเคยแต่งงานแล้ว พร้อมระบุว่าหนุ่มคนนั้นเคยเป็นผู้จัดการของนักแสดงสาวเท่านั้น "เขาเคยเป็นผู้จัดการของเธอโดยเฉพาะหลังปี 2004 แต่สัมพันธ์ก่อนหน้านี้ยังไม่แน่ชัดว่าคืออะไร"

ตามรายงานจากสื่อในจีนและจากการเปิดเผยของผู้จัดการส่วนตัว ทำให้หลายๆฝ่ายเชื่อว่านักแสดงสาวเคยแต่งงานมานานร่วมสิบปีแล้ว

และนี่นับว่าไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับ หลี่ปิงปิง ที่มีข่าวฉาว เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เคยตกเป็นข่าวฉาวมาแล้วเมื่อครั้งควงกับ หนุ่ม เคน จูเสี้ยวเทียน (Ken Chu) จากวง F4 ที่กำลังโด่งดังอย่างมากในขณะนั้น โดยทั้งคู่เคยถ่ายทำละคร City of Sky ด้วยกันในปี 2005 ซึ่งครั้งนั้นมีภาพทั้งคู่กำลังเดินกอดกันเข้าห้องพักในโรงแรม และยังจูบดูดดื่มระหว่างยืนอยู่หน้าประตูด้วย

Manager Online

"เหลียงเฉาเหว่ย-หลิวเจียหลิง" (Tony Leung - Carina Lau) วัยละอ่อนในแสตมป์การกุศล

Submitted by Rujiya on 2 ธันวาคม, 2009 - 14:48

ดาราฮ่องกงชื่อดัง 4 คน ได้มอบรูปที่เป็นตัวแทนแห่งช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต ให้กับโครงการการกุศล เพื่อการหาเงินเพื่อกองทุนสำหรับเด็ก

หลิวเจียหลิง (Carina Lau), เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung), หลี่เจียซิน (Michelle Reis) และกัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok) ได้ร่วมกันกองทุนเพื่อเด็กนานาชาติ และบริษัท IPS ในการผลิตแสตมป์ ภายใต้ชื่อโครงการว่า "Starlight Crystal Heartwarming Charity Stamp" เพื่อนำเงินรายได้ทั้งหมดมอบแก่กองทุนของ UNICEF

ในแสตมป์แต่ละชุด ดาราทั้งสี่คนได้มอบภาพที่สำคัญในช่วงเวลาอันน่าประทับใจของชีวิต สำหรับกัวฟู่เฉิงได้เลือกภาพเมื่อเขาได้รับรางวัลม้าทองคำเป็นครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน และภาพบนเวทีคอนเสิร์ตที่เคยทำให้หนุ่มเท้าไฟคนนี้ได้รับฉายาว่า ราชาคอนเสิร์ต มาแล้ว ขณะที่ที่สาวงามอย่าง หลี่เจียซิน มอบรูปการถ่ายแบบให้กับนิตยสารของอิตาลีมาให้

แต่ที่เป็นที่สนใจมากที่สุดก็คือ แสตมป์ชุดของคู่รักสุดหวาน หลิวเจียหลิง และเหลียงเฉาเหว่ย ที่มอบภาพวัยเด็กของทั้งคู่ รวมถึงภาพจุมพิตจากการแต่งงานที่ประเทศภูฎานเมื่อปีที่แล้ว

โดยแสตมป์แต่ละชุดจะขายคู่กับคริสตัลของสวารอฟสกี้ 2 ชิ้น ด้วยราคา 388 เหรียญฮ่องกงหรือประมาณ 1900 บาท

Manager Online

เฉินหลง (Jackie Chan) ปรากฎตัวที่คอนเสิร์ตเรน (Rain) ที่ฮ่องกง

Submitted by peary on 2 ธันวาคม, 2009 - 13:37

เฉินหลง (Jackie Chan) เป็นนักแสดงชื่อดังจากฮ่องกงที่ทุกคนรู้จัก สร้างความประหลาดใจเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ด้วยการไปปรากฏตัวที่คอนเสิร์ตของนักร้องและนักแสดงเกาหลีชื่อดัง “เรน” (Rain)

เมื่อวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Jtune Entertainment ที่เป็นตัวแทนของเรนออกมาให้ข่าวว่า “เฉินหลงมาที่งานคอนเสิร์ตของเรนที่ Asia World Expo เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่สองของเอเชียทัวร์ของเรนนี้ใช้ชื่อว่า Legend of Rainism โดยที่เฉินหลงมาถึงประมาณสี่ทุ่ม ซึ่งเป็นขณะเดียวกับที่เรนกำลังร้องเพลง Rainism นอกจากนี้เฉินหลงถือช่อดอกไม้และบอกกับแฟนๆ ว่าเขาต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้ว มิฉะนั้นอาจจะตกเครื่องได้ เขาอยากจะให้การสนับสนุนเรน”

Jtune Entertainment กล่าวเพิ่มเติมว่า เรนนั้นไม่ทราบล่วงหน้าเลยว่าเฉินหลงจะมาในงานครั้งนี้ นอกจากนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมายังมีโจวเหวินฟะ และนักแสดงคนอื่นๆ มาเยี่ยมเรนในคอนเสิร์ตเมื่อวันเสาร์ที่เป็นวันแรก

จากนี้เรนยังมีแผนที่จะต่อไปทัวร์คอนเสิร์ตต่อที่จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียในวันจันทร์

ซอนมิ (Sunmi) สมาชิกวง Wonder Girls ได้รับบาดเจ็บ แต่จะยังคงขึ้นแสดงในงานคอนเสิร์ต

Submitted by canjamm on 1 ธันวาคม, 2009 - 16:21

งานคอนเสิร์ต The 1st WONDER 2009 Shanghai Concert จะมีขึ้นในวันนี้ (1 ธันวาคม 2009) และซอนมิ (Sunmi) สมาชิกวง Wonder Girls ถูกเห็นว่าเธอเข้าเฝือกที่ข้อเท้าเมื่อตอนที่เธอมาถึงประเทศจีน สร้างความกังวลให้แก่แฟนๆ

ตัวแทนจาก JYP Entertainment กล่าวว่า "ในระหว่างการฝึกซ้อมเธอหมุนข้อเท้าของเธอ และทำให้เส้นเอ็นของเธอมีบาดแผลนิดหน่อย แต่พวกเราใส่เฝือกรอบๆข้อเท้าของเธอ เพื่อป้องกันไม่ให้บาดเจ็บมากไปกว่านี้ นั่นไม่เป็นปัญหา เธอจะยังคงขึ้นแสดง และเธอก็รู้สึกต้องการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตนี้อย่างมาก"

AllKPop

สรรพากรไต้หวันจ้องเชือดดารานักร้องกว่า 400 ราย

Submitted by Ne_kapook on 1 ธันวาคม, 2009 - 13:42

สรรพากรไต้หวันกำลังทำจับตามอง และทำงานอย่างหนัก ในการรวบรวมหลักฐานเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ของศิลปินที่พยายามหลบเลี่ยงภาษี ที่คาดว่ามีกว่า 400 คน ซึ่งมีรายชื่อดาราดังอย่าง "สีซีหยวน" และ"หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) รวมอยู่ด้วย

ในกลุ่มศิลปินที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษได้แก่ สองสาวพี่น้อง สีซีหยวน (Barbie Hsu / Da S) และน้องสาวสีซีตี้ (Dee Hsu / Xiao S), นักแสดง เชอริล หยาง (Cheryl Yang) และโจ เฉิน (Joe Chen) ซึ่งล้วนเป็นผู้มีรายได้ลำดับต้นๆ ในวงการบันเทิงของไต้หวัน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การหนีภาษีกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการบันเทิงของที่นี่ เมื่อปีก่อนนักร้องชื่อดัง จางฮุ่ยเหม่ย (Zhang Hui Mei) และพิธีกรชื่อดัง แจ็กกี้ วู (Jackie Wu) กลายเป็นสองคนดังที่ต้องมีปัญหากับสรรพากรอย่างหนักในปีที่ก่อน ซึ่งทางเลือกของเขานักร้องนักแสดงก็คือ ยอมเสียภาษีตามจำนวนที่ถูกเรียกเก็บ หรือไม่ก็ต้องไปคุยกันในชั้นศาล

เมื่อปีก่อน สองพี่น้องสาวสวย สีซีหยวน และน้องสาวสีซีตี้ เคยมีปัญหาในเรื่องนี้และตัดสินใจสู้ในชั้นศาล จนชนะคดีความในท้ายที่สุด ซึ่งพวกเธอหวังว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้งในปีนี้ หลังจากทั้งสองสาวถูกแจ้งจากสรรพากรไต้หวันว่าต้องจ่ายภาษีรวมกันถึงกว่า 40 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งไม่สามารถทำการตกลงกับเจ้าหน้าที่ของสรรพากรได้อีกเช่นเคย จนเรื่องกำลังดำเนินไปสู่ศาลอีกครั้ง

นางแบบคนดังอย่าง หลินจื่อหลิง เป็นอีกคนที่ต้องพบกับปัญหาในเรื่องนี้ หลังปีที่ผ่านมาเป็นช่วงปีแห่งการโกยเงินมหาศาลสำหรับเธอมีงานหนัง และพรีเซนต์เตอร์โฆษณาเข้ามาจำนวนมาก จนได้รับแจ้งถึงเรื่องการค้างจ่ายภาษีเป็นจำนวนเงินถึง 15 ล้านเหรียญไต้หวัน แม้สาวสวยคนนี้จะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดรายได้ของเธอแล้ว แต่สรรพากรก็ยังยืนยันในเงินจำนวนเดิม แถมยังบอกว่าจะไม่มีการเจรจาอีกต่อไป

เอลล่า (Ella) ชวนเจอร์รี่ (Jerry) เล่นเกมเพื่อเปิดใจ

Submitted by peary on 1 ธันวาคม, 2009 - 11:17

ที่ผ่านมาทุกๆ คนรู้จักเจอร์รี่ว่าเป็นคนไว้ตัวและเงียบขรึม แต่หลังจากที่เจอร์รี่เล่นละครกับ Ella ของสถานี GTV เรื่อง Down with Love เจอร์รี่ก็เปลี่ยนบุคลิกภาพเป็นคนร่าเริงมากขึ้น ช่วงพักระหว่างการถ่ายละครทั้งสองนั่งเล่นเกมด้วยกัน ซึ่งทั้งสองเล่นกันเหมือนเด็กๆ

Ella รู้สึกว่าเจอร์รี่นั้นเหมือนเด็กผู้ชายที่ตัวโต เขาเป็นคนที่คาดหวังสูง อย่างเช่น ถ้ามี NG มาก เขามักจะโทษว่าเป็นความผิดของเขาเอง ส่วนด้านเจอร์รี่ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Ella ว่า Ella ค่อนข้างใส่ใจในความรู้สึกของคนอื่น และเธอเป็นคนค่อนข้างอ่อนไหวด้วย ในช่วงถ่ายละครนั้นเจอร์รี่ก็จะมีการแหย่ให้ Ella ขำออกมา และ Ella ก็จะแหย่เจอร์รี่เช่นกัน อย่างเช่นมีอยู่ฉากหนึ่งที่เจอร์รี่จะต้องอุ้ม Ella ไว้ Ella แหย่เจอร์รี่ว่า “รีบปล่อยลงไปเร็วๆ คนเขาเห็นกางเกงในฉันหมดแล้ว”

Ella อธิบายต่อเพิ่มด้วยว่า เพราะว่าเจอร์รี่มีผู้ช่วยส่วนตัวหลายคน ซึ่งพวกเขาก็คอยปกป้องและดูแลเขา จึงทำให้ Ella กังวลว่าเธออาจจะสนิทแบบเพื่อนได้ลำบาก เพราะว่าถ้าเป็นเพื่อนกันได้ก็จะทำงานร่วมกันง่ายขึ้น แต่โชคดีที่เจอร์รี่เป็นคนเปิดใจทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนที่ดีกันง่ายขึ้น

ม้าทองคำครั้งที่ 46 ชัยชนะของนักทำหนังอิสระ

Submitted by Rujiya on 30 พฤศจิกายน, 2009 - 13:51


รางวัลม้าทองคำครั้งที่ 46 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อค่ำคืนของวันที่ 28 เป็นชัยชนะของคนทำหนังตัวเล็กๆ เมื่อหนังอินดี้จากไต้หวัน "No Puedo Vivir Sin Ti" กลายเป็นหนังที่ได้รับรางวัลสูงสุดไปครอง นับว่าเป็นหนังไต้หวันเรื่องแรกๆ ในรอบหลายปี ที่สามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ของเวทีม้าทองคำไปครองได้สำเร็จ

No Puedo Vivir Sin Ti งานของผู้กำกับหน้าใหม่ ลีออน ไต้ หนังทุนต่ำเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวในไทเป กลายเป็นหนังที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัลต่างๆ รวม 4 รางวัล เป็นดาวเด่นของงานม้าทองคำ งานแจกรางวัลที่มีฐานะเป็น ออสการ์ของหนังภาษาจีน ครั้งล่าสุด

"ผมอยากจะขอบคุณพ่อกับแม่, คุณ เอ็ดเวิร์ด หยาง อาจารย์ของผม และนักแสดงทุกคนในหนังเรื่องนี้ครับ" ลีออน ไต้ แสดงความรู้สึกของเขาในความสำเร็จครั้งล่าสุด No Puedo Vivir Sin Ti สร้างมาจากเรื่องจริง เป็นชีวิตของชายชนชั้นล่าง ที่ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิในการเลี้ยงดูลูกสาว หนังถ่ายทำด้วยฟิล์มขาวดำ สร้างแบบหนังอิสระแท้ๆ ด้วยเงินทุนเพียง หกล้านเหรียญไต้หวัน

"หนังเรื่องนี้ได้รับการดูแลจากชาวไต้หวันเป็นอย่างดี" ลีออน ไต้ กล่าวขอบคุณในความสำเร็จที่ได้รับ ที่ไม่ใช่เพียงในค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้ No Puedo Vivir Sin Ti เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศ ในการประกวดรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมของออสการ์มาแล้ว

อาจจะเรียกได้ว่างานม้าทองคำปีล่าสุดเป็นปีของคนทำหนังตัวเล็กๆ เพราะหนังอีก 3 เรื่องที่ถูกเสนอชื่อรางวัลสูงสุดล้วนเป็นงานประเภทขายยาก และไม่ตลาดด้วยกันทั้งสิ้น ตั้งแต่ Face ของผู้กำกับเชื้อสายมาเลเซีย ไช่หมิงเหลียง, Live A Dream ผลงานใหม่ของผู้กำกับหญิงชาวฮ่องกง คลาร่า ลอว์และ Cow ของ กวนหู จากจีนแผ่นดินใหญ่

แต่สิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับหลายๆ คนมากที่สุดในการแจกรางวัลครั้งนี้ก็คือ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปีของม้าทองคำ ที่ดารานำชายมีผู้ชนะถึงสองคน หลังกรรมการไม่สามารถตัดใจเลือกใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง หวงเป่า จากหนังตลกร้ายเรื่อง Cow และ จางเจียฮุย ในหนังแอ็กชั่นฮ่องกง The Beast Stalker จนเลือกให้ทั้งคู่ครองรางวัลร่วมกัน

"เซียะถิงถิง" (Jennifer Tse) น้องสาว "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) เปิดตัวเข้าสู่วงการบันเทิง

Submitted by Ne_kapook on 26 พฤศจิกายน, 2009 - 10:32

น้องสาวของ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ที่ชื่อว่า "เซียะถิงถิง" (Jennifer Tse Ting-Ting) ตัดสินใจเข้าสู่วงการแสดงแล้ว และจะมีผลงานเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกออกมาเร็วๆ นี้ หลังจากเซ็นต์สัญญาเล่นหนังกับกับ "หวังจิง" (Wong Jing) ผู้อำนวยการสร้างคนดัง

ที่ผ่านมา หวังจิง ที่เป็นทั้งคนเขียนบท ผู้กำกับหนัง หรือผู้อำนวยการสร้าง ยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่สร้างชื่อให้กับเขามาโดยตลอด คือการปั้นสาวๆ เซ็กซี่ป้อนให้กับวงการหนังฮ่องกงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รุ่นคลาสสิค ซิวซู่เจิน (Chingmy / Yau Suk-Ching), เคยเปลี่ยนให้สาวหวานอย่าง จูอิน (Athena / Chu Yan) กลายเป็นสาวร้อนอยู่พักหนึ่ง รวมถึงผลักดันให้ ซูฉี (Shu Qi) และหลินซีเหลย (Kelly Lin) โด่งดังขึ้นมาในยุคแรกๆ ซึ่งหลายๆ คนเริ่มสงสัยว่า สาวเซียะถิงถิงคนนี้จะเลือกเดินในทางสายนั้นด้วยรึเปล่า

ในการแถลงข่าวถึงเรื่องนี้ หวังจิง ยืนยันว่า ไม่ได้เซ็นต์สัญญากับ เซียะถิงถิง เพื่อให้มารับบทวับๆ แวมๆ อย่างแน่นอน แต่หลายๆ คนอาจจะไม่ปักใจเชื่อนัก โดยเฉพาะเมื่อสาวสวยคนนี้ ปรากฎขึ้นเพื่อแถลงข่าวเรื่องการเข้าสู่งานแสดงเมื่อวันก่อน ด้วยชุดคอเว้าคว้านลึกสุดเซ็กซี่ อย่างที่เห็น

อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าตัว เซียะถิงถิง หรือที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า เจนนิเฟอร์ เซียะ กลับไม่ได้ตอบปฏิเสธอย่างชัดเจนนัก ... "ฉันคิดว่าผู้หญิงทุกคนมีความเซ็กซี่ส์อยู่ในตัวกันอยู่แล้วนะคะ" เธอบอก

แต่ที่แน่ๆ ฉากประเภทนู๊ด เป็นไปไม่ได้แน่นอนสำหรับเธอ "ฉันจะไม่เล่นฉากนู้ดแน่นอนค่ะ ถ้ามันจำเป็นก็อาจจะใช้ตัวแสดงแทนเอา"

การเข้าสู่วงการบันเทิงของ เซียะถิงถิง ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับหลายๆ คน เนื่องจากการมีพ่อและแม่อย่าง เซียะเสียน กับ ตีปอร่า ที่เป็นอดีตดาราผู้ยิ่งใหญ่ มีพี่ชายที่ชื่อ เซียะถิงฟง ก็เป็นนักแสดงที่ถือว่าดังที่สุดคนหนึ่งในคนหนุ่มรุ่นเดียวกัน การตัดสินใจรับงานบันเทิงครั้งนี้ หวังจิง ที่รู้จักกับพ่อแม่ของสาวคนนี้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควร ได้กล่าวว่าเขาปรึกษาถึงเรื่องนี้กับ เซียะเสียน และตีปอร่า แล้วแต่สุดท้ายเป็นตัวเธอเองที่เป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง "เซียะเสียน กับ ตีปอร่า เคารพในการตัดสินใจของลูกสาว"

"หลิวเหวิน" (Liu Wen) สาวจีนบนรันเวย์ "Victoria's Secret"

Submitted by Ne_kapook on 24 พฤศจิกายน, 2009 - 16:06

ในงานแฟชั่นโชว์ชุดชั้นใน Victoria's Secret เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมานางแบบชื่อดังมากหน้าหลายตาได้โอกาสขี้นโชว์หุ่น ท่ามกลางซุปเปอร์โมเดลระดับโลก ยังมีสาวน้อยหน้าใหม่จากดินแดนตะวันออก ที่ได้รับเกียรติให้มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ด้วย

ซุปเปอร์โมเดลชาวจีน หลิวเหวิน (Liu Wen) เป็นสาวจีนที่ได้รับเลือกให้เป็นนางฟ้าของ Victoria's Secret หลังจากเคยมีสาวเชื้อสายเอเชียอย่าง ลูกครึ่งจีนเกาหลีและฮาวาย จาราห์ มาเรียนโน, นางแบบชาวอินเดีย อุจิวารา ราอุท และลูกเสี้ยวเกาหลี ชาเนล อีมาน ที่เคยเหยียบเวทีนี้มาก่อน

หลิวเหวินสาวสวยวัย 21 ปีที่เกิดเมื่อ 1988 ที่หยางโจว ในหูหนาน เริ่มต้นอาชีพนางแบบตั้งแต่ปี 2005 หลังจากเข้าร่วมในการประกวดนางแบบรายการ New Silk Road World Model Contest ที่ซุปเปอร์โมเดลชาวจีนรุ่นพี่อย่างตู้เจี้ยน ก็เคยเข้าร่วมประกวดมาแล้ว และถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นผู้ชนะแต่นี่ก็เป็นประตูสู่ความรุ่งโรจน์ที่จะตามมาในอนาคต

หลังการประกวดครั้งนั้นเธอเริ่มได้รับความสนใจ และมีโอกาสขึ้นปกหนังสืออย่าง FHM, Vogue และ Harper's Bazaar จนกระทั่งในปี 2007 ความงามอันมีเอกลักษณ์ของสาวคนนี้ก็ไปเตะตาแมวมองวงการแฟชั่นระดับโลกเข้าอย่างจัง ในเดือน ก.ย. 2007 เมื่อหลิวเหวินมีโอกาสได้ขึ้นหน้าปกนิตยสาร Cosmo และร่วมงานกับดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง คาร์ล ลากาเฟล ที่ประทับใจในคุณสมบัตินางแบบระดับโลกของสาวจีนคนนี้ เจ้าของความสูง 179 ซ.ม. และมีโหนกแก้มสูง ตามแบบฉบับซุปเปอร์โมเดลระดับโลก

ในปีต่อมา หลิวเหวิน จึงได้เซ็นต์สัญญากับเอเจนต์ซี่นางแบบที่ปารีส และเส้นทางบนรันเวย์ระดับโลกของเธอจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง ได้มีโอกาสแสดงแบบเสื้อทั้งในหน้านิตยสาร และบนเวทีเดินแบบให้กับแบรนด์ดังๆ มากมาย ตั้งแต่ Chanel, Gaultier, Hermes, DKNY, Benetton และ Diane von Furstenberg

"เฉินหลง" (Jackie Chan)เปิดใจไม่ภูมิใจกับ "ไอ้หนุ่มหมัดเมา"

Submitted by Ne_kapook on 24 พฤศจิกายน, 2009 - 11:54

มีผลงานการแสดงมาแล้วมากกว่า 100 เรื่อง แต่พระเอกนักบู๊ชื่อดัง "เฉินหลง" (Jackie Chan) ยอมรับว่ามีหนังบางเรื่องที่เขาไม่ภูมิใจเอาเสียเลย แต่อาจจะเป็นเรื่องแปลกใจสำหรับหลายๆ คน เมื่อหนึ่งในนั้นมีงานอย่าง "ไอ้หนุ่มหมัดเมา" ผลงานแจ้งเกิดของหนุ่มใหญ่จมูกโตรายนี้รวมอยู่ด้วย

"มันเป็นความผิดพลาด ที่สร้างไอ้หนุ่มหมัดเมาออกมา" เฉินหลงบอกสื่อมวลชน เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว ในการร่วมเปิดตัวสินค้ารายหนึ่งที่ปักกิ่ง ที่เขาเปิดใจถึงหนังสุดฮิตของตัวเองในอดีต แบบไม่พอใจเอาเสียเลย "หนังที่ว่าด้วยการดื่มเหล้าให้เมาเพื่อใช้ในการต่อสู้แบบนี้ อาจชักนำคนดูไปในทางที่ผิดได้" เฉินหลงยังเสริมว่า "ผมพยายามแก้ไขความผิดพลาดนั้นแล้ว ในหนังภาคต่อ ไอ้หนุ่มหมัดเมา 2 ในปี 1994 ที่พยายามจะบอกถึงความอดทนอดกลั้นแทน"

เด็กๆ เป็นกลุ่มลูกค้าที่พระเอกขวัญใจคนทุกเพศทุกวัยผู้นี้ให้ความสำคัญมาตลอด เขาพยายามหลีกเลี่ยงฉากรุนแรงเกินควรในหนัง หรือฉากเกี่ยวกับเรื่องเพศมาตลอด ซึ่งในงานวันเดียวกันนี้ เฉินหลง ยังได้เปิดตัวผลงานชิ้นใหม่ เป็นงานที่สร้างสำหรับกลุ่มเด็กและวัยรุ่นโดยเฉพาะ กับวีดีโอเกมส์ออนไลน์ที่สร้างมาจากหนังใหม่เรื่อง Little Big Soldiers ของเขา

"วีดีโอเกมส์ทุกวันนี้มักจะเกี่ยวกับการต่อสู้ และฆ่าแกงกัน มันอาจจะไม่ค่อยดีกับพวกเด็กๆ เท่าไหร่ ผมอยากจะทำเกมส์ที่ส่งสารเกี่ยวกับเรื่องความสันติไปถึงพวกเขาบ้าง" ในเกมส์ที่ว่านี้ ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครในหนัง Little Big Soldiers ที่เล่าเรื่องของทหารปลายแถววัยดึก ที่ลักพาตัวแม่ทัพหนุ่มฝ่ายตรงข้าม พาเดินทางไกลเพื่อหวังรางวัลก้อนโต

เฉินหลงเป็นผู้คิดเนื้อเรื่องของหนังขึ้นเอง เป็นหนังที่เขาบอกว่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในช่วงเวลาของสงคราม และพยายามพูดถึงคุณค่าของความสันติสุข ที่เขาจะรับบทเป็นทหารชั้นผู้น้อยผู้หวังในรางวัลก้อนโต ส่วนนักร้องชื่อดัง วังลีฮอม (หวังลี่หง) เป็นแม่ทัพหนุ่ม เดิมหนังมีกำหนดฉายในปลายปีนี้ แต่ถูกเลื่อนไปเป็นวันตรุษจีนปีหน้าแล้ว ขณะที่วีดีโอเกมส์ไม่ต้องปล่อยให้รอกันนาน เพราะจะออกมาให้เล่นกันก่อนในเดือน ธ.ค. นี้ แล้ว

Manager Online

ไมค์ เฮอ / เสี่ยวเหม่ย (Mike He) เดินทางไปโปรโมทภาพยนตร์ในฮ่องกง

Submitted by canjamm on 23 พฤศจิกายน, 2009 - 21:25

ไมค์ เฮอ / เสี่ยวเหม่ย (Mike He / Xiao Mei) ไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อโปรโมทภาพยนตร์ของเขา Love at Seventh Sight ทำให้แฟนๆมารวมกันหลายร้อยคนเพื่อสนับสนุนเขาในงาน และทำให้บรรยากาศในบริเวณนั้นเสียงดังมาก ในระหว่างการปรากฏตัวของเขา เสี่ยวเหม่ยโบกมือให้แฟนๆอย่างต่อเนื่อง และใช้ภาษาจีนกวางตุ้งเพื่อทักทายแฟนๆ ทำให้แฟนๆต่างก็ร้องและตะโกนออกมา ทางผู้จัดงานยังได้จัดเตรียมแฟนๆผู้หญิงสองสามคนเพื่อขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำการสารภาพรักแก่เสี่ยวเหม่ย แฟนๆแสดงอย่างตื่นเต้น และนอกจากการตะโกนร้องฉันรักคุณแล้ว พวกเธอยังขอกอดเสี่ยวเหม่ยตรงนั้นด้วย นอกจากนี้ยังมีแฟนๆที่นำเค้กไปฉลองวันเกิดของเสี่ยวเหม่ยในเดือนหน้าด้วย แม้ว่าแฟนๆผู้หญิงจะดูรุกเขามากเหลือเกิน แต่เสี่ยวเหม่ยก็เต็มใจ ทำหน้าที่ราวกับเป็นหวังต้าเซียน (Wang Tai Sin) ตอบสนองการร้องขอทุกรูปแบบ

หลังจากงาน เสี่ยวเหม่ยถูกถามว่าเขาถูกแฟนๆไฟแรงทำให้กลัวหรือเปล่า เขาตอบว่า "ไม่ได้พบกับแฟนๆในฮ่องกงมานานแล้ว คิดถึงพวกเขามาก ที่ไหนที่ผมไป แฟนๆจากฮ่องกงจะปรากฏตัวเพื่อสนับสนุนผมซึ่งสนุกอย่างมาก การมาฮ่องกงในวันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก แฟนๆต่างก็รอคอยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเวลานาน การปรากฎตัวของผมในงานวันนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงการประสบความสำเร็จ

พอถามว่าเสี่ยวเหม่ยรู้สึกมั่นใจในภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับการทำยอดที่บ็อก ออฟฟิศ เขาตอบว่า "ไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังว่าเมื่อแฟนๆได้ชมมันแล้ว พวกเขาจะรู้สึกว่า ผมสามารถรับบทที่ผมแสดงได้เป็นอย่างดี"

แล้วมีบทที่ไม่สามารถลืมได้ไหม? เขาตอบว่า "หลี่เสี่ยวลู่ (Jacqueline Li / Li Xiao-lu / นักแสดงนำหญิง) และผมต้องเข้าฉากถ่ายทำบนต้นไม้ แต่ต้อนไม้นั่นไม่ใช่ต้นไม้จริงๆ มันถูกทำขึ้นโดยใช้คอนกรีตยึด ในตอนนั้นลมแรงอย่างมาก และพวกเราอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายอย่างมาก 3 วันหลังจากการถ่ายทำเสร็จสิ้น ต้นไม้ถูกพัดไป ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ผมรอดพ้นโชคร้ายอย่างหนักไปได้"

On.cc

"เจวายพี" (JYP) ชี้เหตุ "Wonder Girls" พุ่ง "โคโค่ ลี (Coco Lee)- อูทาดะ ฮิคารุ (Utada Hiraku)" ร่วง

Submitted by Ne_kapook on 23 พฤศจิกายน, 2009 - 10:10

"ปาร์คจินยอง" (Park Jin Young / JYP) ได้ให้สัมภาษณ์กับ billboard.com ถึงความสำเร็จของสาวๆ "Wonder Girls" โดยเฉพาะความแตกต่างจากศิลปินเอเชียรุ่นก่อนหน้า ที่ต้องล้มเหลวในการเจาะตลาดอเมริกา

ผู้บริหาร, โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงคนเก่ง เจวายพี หรือ ปาร์คจินยอง แห่ง JYP Entertainment ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องมุมมองของเขากับ billboard.com ต่อการบุกตลาดอเมริกาของศิลปินตะวันออกโดยเฉพาะสาวๆ วง Wonder Girls ของเขา ที่เจ้าตัวยืนยันว่า มาถึงวันนี้ได้ เพราะไม่เคยเปลี่ยนสีตัวเองเหมือนศิลปินเอเชียรายอื่นๆ

“ดูแต่นักร้องเยี่ยมๆ อย่าง อุทาดะ ฮิคารุ (Utada Hikaru) จากญี่ปุ่น หรือ โคโค ลี่ (Coco Lee) จากจีน ที่ล้มเหลวมาแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยากเย็นเอามากๆ ผมพยายามวิเคราะห์ว่าทำไมศิลปินที่วิเศษแบบนั้น ไม่สามารถขึ้นไปถึงชาร์ตบิลบอร์ดได้ ข้อสรุปก็คือ พวกเธอเปลี่ยนตัวเอง การจ้างโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันอย่างทิมเบอร์แลนด์ เพื่อเจาะตลาดอย่างอเมริกาโดยเฉพาะ แต่ผลสุดท้ายก็ทำให้พวกเธอ ไม่มีอะไรแตกต่างจากศิลปินของที่นั่น จนที่สุดก็สูญเสียความเป็นตัวเองไป"

ปาร์คจินยอง ยืนยันว่านี้เป็นข้อแตกต่างของสาวๆ Wonder Girls ที่คงความเป็นตัวเองไว้โดยตลอด “โดยพื้นฐานผมเขียน และแต่งเพลง Nobody ขึ้นมา โดยไม่ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ในตัวศิลปินของพวกเราเลย ในการมาที่นี่ เรายังเป็นตัวของตัวเองเช่นเดิม”

ที่ผ่านมา Nobody เคยทำยอดขายจากการดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ตในเกาหลีมาแล้วถึง 7 ล้านครั้ง แต่นั้นอาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นเท่ากับ การบุกชาร์ตบิลบอร์ด ที่เพลงดังกล่าวสามารถขึ้นไปติดที่อันดับ 76 ได้เมื่อเดือนก่อน สร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกของศิลปินเกาหลี แม้จะหลุดจากชาร์ตในสัปดาห์ต่อมา ถึงตอนนี้ซิงเกิลเพลง Nobody สามารถขายในอเมริกาได้ 32,000 แผ่น และถูกดาวน์โหลดกว่า 30,000 ครั้งแล้ว

ทุกคนที่เกี่ยวข้องตื่นเต้นกับความสำเร็จครั้งนั้น แต่ทุกคนพยายามมองไปให้ไกลกว่าเดิม ตอนนี้แผนการทั้งหมดได้ถูกวางล่วงหน้า ทีมงานชาวตะวันตกที่มีส่วนร่วมในการวางแผนงานโปรโมต Wonder Girls เผยถึงความพยายามที่เกิดจาการร่วมมือระหว่างบริษัทจากเกาหลี และอเมริกาว่า ต้องการ การสร้างแบรนด์ สร้างกลุ่มแฟนๆ ขึ้นมา และทำให้ที่นี่เป็นบ้านอีกหลังของ Wonder Girls

“ซูฉี” (Shu Qi) บอกปัดหนัง “จางซิยี่” (Zhang Ziyi) เหตุไม่อยากเล่นฉากนู้ด

Submitted by Ne_kapook on 23 พฤศจิกายน, 2009 - 10:04

”ซูฉี” (Shu Qi) ปฏิเสธรับบทสำคัญในหนังภาษาอังกฤษเรื่อง "Snow Flower and the Secret Fan" ที่อำนวยการสร้างโดย “จางซิยี่” (Zhang Ziyi) เพราะมีบทต้องเปลือยในเรื่อง

หนังที่ดัดแปลงจากนิยายของ ลิซ่า ลี Snow Flower and the Secret Fan ซึ่งเป็นผลงานการสร้างร่วมของดาราสาวชื่อดัง จางซิยี่, เวนดี้ เมอร์ด็อก ภรรยาของ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าพ่อสื่อคนดัง และฟลอเรนซ์ สโลน ภรรยาของอดีตผู้บริหารบริษัท MGM แฮรี่ สโลน

Snow Flower and the Secret Fan เล่าเรื่องราวชีวิตของในเขตชนบทจังหวัดเหอหนาน ที่หญิงสาวสองคนได้ถักทอมิตรภาพขึ้น จนกลายเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ที่คงอยู่ตลอดทั้งชีวิต ทั้งสองใช้ภาษาพิเศษที่เรียกว่า ‘หนี่ซู’ เพื่อสื่อสาร และป้องกันไม่ให้ผู้ชายล่วงรู้สึกความหมาย และความลับของระหว่างกัน ซึ่งในฉากหนึ่งของเรื่อง ตัวละครเอกทั้งสอง ที่จะแสดงโดย จางซิยี่ และซูฉี เขียนภาษา ‘หนี่ซู’ ที่ว่าลงบทหน้าอกของอีกฝ่าย และกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ ซูฉี ต้องปฏิเสธบทดังกล่าว

การเปลือยในหนังอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ ซูฉี ที่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เธอเคยเป็นนักแสดงหนังเกรด 3 และเล่นบทโป๊เปลือย รวมถึงถ่ายภาพนิ่งแนววาบหวามมาหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่า ดาราสาวัย 33 ผู้นี้ไม่อยากจะกลับไปเดินทางสายเดิมอีกแล้ว จึงมีรายงานว่าได้ปฏิเสธในบท ที่อาจทำให้เธอได้แสดงในหนังระดับโลกไปอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ดาราสาวสวยชาวไต้หวัน เคยปฏิเสธบทนำในหนังกำลังภายในเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon ของผู้กำกับอังลี จนบทตกไปอยู่ในมือของ จางซิยี่ และกลายเป็นบทที่สร้างชื่อให้เธอกลายเป็นดาราเชื้อสายจีน ที่คนรู้จักทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้

จางซิยี่ กล่าวว่ารู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของ ซูฉี อยู่บ้าง และคงต้องหานักแสดงคนอื่นมารับบทนี้แทนต่อไป

สำหรับ Snow Flower and the Secret Fan มีกำหนดเปิดกล้องในต้นปีหน้าที่ประเทศจีน ซึ่งหนังจะถ่ายทำเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อออกฉายทั่วโลกด้วย โดยมี เวย์น หวัง ที่ฝากฝีมือไว้ใน Joy Luck Club เป็นผู้กำกับภาพยนตร์

Manager Online

“Jump” ผลงานชิ้นใหม่ “จางอี่ฉี” (Kitty Zhang) เด็กปั้น “โจวฉิงฉือ” (Stephen Chow)

Submitted by Ne_kapook on 20 พฤศจิกายน, 2009 - 09:52

“จางอี่ฉี” (Kitty / Zhang Yuqi) สาวสวยที่หลายๆ คนติดอกติดใจจากหนัง “CJ7” กำลังจะมีผลงานชิ้นใหม่ออกมาให้ชมกันแล้ว กับหนังที่ว่าด้วยการเต้นฮิปฮอปที่มีชื่อว่า “Jump” อันเป็นผลงานการสร้างของดาราตลกคนดัง “โจวซิงฉือ” (Stephen Chow) นั่นเอง

"ฉันเคยเรียนการเต้นรำมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กบ้างแล้วค่ะ แต่มันไม่พอสำหรับการแสดงหนังเรื่องนี้ ที่ต้องการลีลามืออาชีพมากๆ โดยเฉพาะการเต้นแบบฮิปฮอป ในเรื่อง” จางอี่ฉี ดาราสาวสวยกล่าวถึงความท้าทายใหม่ๆ ของเธอในหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้สาวคนนี้ต้องใช้เวลาอย่างมากในการเรียน และฝึกซ้อม ก่อนจะถึงการถ่ายทำจริงกับผลงานชิ้นใหม่ ที่มีชื่อว่า Jump

สาวชาวแผ่นดินใหญ่ จางอี่ฉี ปัจจุบันอายุ 21 ปี เธอกลายเป็นดาวรุ่งมาแรงคนหนึ่งในวงการบันเทิงจีน หลังจากได้พบกับ โจวซิงฉือ เมื่อหลายปีก่อน ที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในโฆษณาชิ้นหนึ่ง จนทำให้เธอถูกทาบทามจาก พระเอก และผู้กำกับคนดังคนนี้ ให้มารับบทนำในหนังเรื่องใหม่ของเขา

สิ่งที่ โจวซิงฉือ ติดใจในตัวสาวคนนี้ก็คือ รูปร่างของเธอ ด้วยความสูงถึง 170 ซ.ม. และสัดส่วน 35D-24-35 กลายเป็นจุดเด่นที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในสาวจีนแผ่นดินใหญ่คนอื่นๆ ถึงตอนนี้ Jump เป็นผลงานลำดับที่ 3 แล้ว ที่สาวจางอี่ฉี แสดงในหนังของโจวซิงฉือ หลังจาก CJ7 และหนังญี่ปุ่น Shaolin Girl ที่ดาราตลกชาวฮ่องกงร่วมเป็นผู้อำนวยการสร้างอยู่ด้วย

Jump เป็นเรื่องของสาวน้อยบ้านนอก ที่เดินทางมาเมืองใหญ่เพื่อสานฝันการเป็นนักเต้นรำของเธอ หนังมีส่วนผสมของหนังตลก, โรแมนติก และมีจุดขายเป็นฉากเต้น ฮิปฮอป โจวซิงฉือ ไม่ได้มีเพียงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสร้างของหนังเท่านั้น แต่เนื้อเรื่องของ Jump ยังมาจากเขาด้วย แน่นอนว่าหนังจะมีฉากฮาๆ ตามแบบฉบับของเขาด้วยเช่นเคย น่าเสียดายที่ โจวฉิงฉือ ไม่ได้มาแสดงในบทรับเชิญ หรือปรากฏตัวในหนังอย่างที่หลายๆ คนหวังจะให้เกิดขึ้น

ลือ "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) ขังเมียห้ามออกนอกบ้าน

Submitted by Ne_kapook on 19 พฤศจิกายน, 2009 - 10:26

กลายเป็นทุกข์ของการมีแฟนเป็นคนดังไปซะแล้ว เมื่อมีรายงานถึงคู่แห่งปีของฮ่องกง ที่เพิ่งเปิดตัวต่อสาธารณะชนอย่างครอบครัวของ “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) ว่า พระเอกคน ได้ทำการตกลงกันกับ ฝ่ายภรรยา "จูลี่เชี่ยน" ห้ามออกไปไหนมาไหนนอกบ้านอย่างอิสระ เพื่อเป็นการป้องกันการตกเป็นข่าว และการติดตามของสื่อมวลชน นั่นเอง

ตั้งแต่ปีก่อนจนมาถึงปีนี้ เรื่องราวของการชีวิตคู่ ของพระเอกคนดัง หลิวเต๋อหัว กลายเป็นข่าวใหญ่ในวงการบันเทิงฮ่องกง หลังจากข่าวการแต่งงานของเขากับ จูลี่เชี่ยน หญิงสาวที่คบกับมายาวนานได้ถูกเปิดเผยออกมา เป็นการยืนยันความสัมพันธ์กว่า 20 ปีที่ถูกลือของทั้งคู่ไปโดยปริยาย

เรื่องราวดังกล่าวทั้งหมดมีผลต่อชื่อเสียง และความโด่งดังที่สร้างสมมาอย่างยาวนานของนักแสดงวัย 48 ผู้นี้อย่างมหาศาล แม้จะเปิดตัวภรรยาแล้ว และยอมรับถึงเรื่องการมีครอบครัวแล้ว แต่ดูเหมือน หลิวเต๋อหัว ก็ยังไม่สะดวกใจจะพูดถึงเรื่องดังกล่าวเท่าไหร่นัก

ล่าสุดมีการรายงานจากสื่อวงในของฮ่องกงว่า หลิวเต๋อหัว ได้พยายามกันภรรยาของเขาออกจากสายตาของสื่อ และสาธารณะชนให้มากที่สุด ด้วยการตกลง ที่จะให้ฝ่ายหญิงอยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องออกไปไหนมาไหนให้ใครพบเห็น และถ้ามีอะไรจำเป็นก็ให้สาวใช้ไปทำแทนให้ นับเป็นความพยายามอีกครั้ง ที่จะทำให้ชีวิตแต่งงานของตัวเองไม่ต้องถูกจับจ้อง และกลายเป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์ แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะออกมาตรงกันข้าม

ทางฮ่องกงได้รายงานว่า เมื่อสองอาทิตย์ก่อน เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้ง ที่นักร้องนักแสดงหนุ่มใหญ่ชาวฮ่องกงผู้นี้ พาภรรยาออกนอกบ้าน โดยพาเธอไปชมภาพยนตร์เรื่อง This Is It ของ ไมเคิล แจ็คสัน ด้วยกัน แต่การดูหนังครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องโรแมนติกอะไรนัก เพราะเป็นการออกเดทที่มีพ่อแม่ และญาติอีก 10 กว่าคนของฝ่ายชายติดตามไปด้วย

รายงานฉบับเดียวกันนี้ยังระบุว่า หลิวเต๋อหัว จองรอบโรงหนังทั้งรอบด้วยจำนวนเงินประมาณ 5,000 เหรียญฮ่องกง เพื่อความเป็นส่วนตัว และปลอดภัยจากสายตาของผู้อื่น ขณะที่พนักงานของโรงหนังก็ช่วยสอดส่องว่ามีอะไรผิดสังเกตที่ด้านนอกของโรงภาพยนตร์ เป็นการป้องกันอีกทาง

“เจย์ โชว” (Jay Chou) ปั้นซุปเปอร์ฮีโร่ไต้หวัน “แพนด้าแมน” หวังโกย 1,000 ล้านบาท

Submitted by Rujiya on 18 พฤศจิกายน, 2009 - 11:33

หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วไม่ว่าจะเป็นงานหนัง และงานเพลง ล่าสุด “เจย์ โชว” (Jay Chou) ขอลองงานในวงการโทรทัศน์ดูบ้าง กับการลงแรง และลงทุนควักกระเป๋าเอง ในการสร้างซีรี่แนวซุปเปอร์ฮีโร่ “แพนด้าแมน” ที่ว่ากันว่าจะสามารถทำรายได้ให้กับนักร้องหนุ่มผู้นี้เหยียบ 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

แม้จะยุ่งอยู่กับการถ่ายหนังซุปเปอร์ฮีโร่ The Green Hornet ที่อเมริกา นักร้องนักแสดงชื่อดังชาวไต้หวัน เจย์ โชว ยังปลีกเวลาช่วงที่ผ่านมา เพื่อกลับมาทำงานที่ประเทศบ้านเกิด กับการลองงานในวงการโทรทัศน์ ผลิตทีวีซีรี่ของตัวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งเขาได้ลงทุนควักกระเป๋าตัวเอง มาเป็นงบประมาณหลักสำหรับงานสร้างครั้งนี้ กับหนังซีรี่แนวซุปเปอร์ฮีโร่ ภายใต้ชื่อว่า แพนด้าแมน

ถึงตอนนี้ แพนด้าแมน ยังไม่ได้มีกำหนดเรื่องเวลาออกอากาศที่แน่ชัด ซึ่งน่าจะเป็นต้นปี 2010 เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา กับสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน ที่ต่างต้องการ และกำลังแย่งชิงกันอย่างหนักเพื่อสิทธิ์ในการนำ แพนด้าแมน ไปออกอากาศในช่องของตัวเอง

ไม่ใช่แต่เพียงค่าลิขสิทธิ์เท่านั้น มีการคาดการว่า แพนด้าแมน จะสามารถทำเงินให้กับนักร้องหนุ่มผู้นี้รวมแล้วถึงกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการทำกำไรจาก ธุรกิจเสริมต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ของเล่น, เสื้อผ้า, ของที่ระลึก และหนังสือการ์ตูนต่อยอดจากซีรี่ แน่นอนว่าเพลงประกอบที่ผลิตโดย เจย์ โชว ก็คงได้รับความสนใจอีกเช่นเคย ซึ่งทั้งหมดจะออกวางจำหน่ายทั้งในจีน และไต้หวัน ซึ่งสื่อมวลชนคาดว่ารายได้จากส่วนนี้ อาจจะสูงกว่ารายได้จากการออกอากาศเสียอีก โดยมีการประมาณการกันไว้ว่า ถ้าซีรี่ได้รับความนิยม สินค้าต่อยอดเหล่านี้อาจทำเงินได้ถึง 700 ล้านบาท เลยทีเดียว

ซีรี่ความยาว 20 ตอน ที่เรื่องราวมีส่วนผสมของเรื่องราวแบบไซไฟ กับแฟนตาซี โดยได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูนฝั่งตะวันตก และมีทีมงานบู๊ที่เคยร่วมงานกับหนุ่มเจย์มาแล้วในหนัง Curse of the Golden Flower มาช่วยดูแลด้านแอ็กชั่นให้ ซึ่งทำให้ แพนด้าแมน มีค่าใช้จ่ายต่อตอนถึงเกือบ 5 ล้านบาท

"หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) ปฏิเสธร่วมงานม้าทองคำไม่อยากเจอหน้า "จางม่านอวี้" (Maggie Cheung)

Submitted by Ne_kapook on 17 พฤศจิกายน, 2009 - 17:59

กลายเป็นคู่เกาเหลาของวงการบันเทิงแดนมังกรไปเสียแล้วสำหรับ"หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) นักแสดงสาวชื่อดังกับ"จางม่านอวี้" (Maggie Cheung) นักแสดงสาวชาวฮ่องกงที่ล่าสุด ขอไม่เข้าร่วมพิธีประกาศผลรางวัลม้าทองคำในไต้หวัน เหตุเพราะข่าวลือระหว่างสามีและจางม่านอวี้

มีรายงานข่าวว่า แม็กกี้ เฉิง หรือ จางม่านอวี้ นักแสดงสาวชื่อดังเจ้าของรางวัลม้าทองคำถึง 5 รางวัล ตอบรับเข้าร่วมเชิญรางวัลในงานที่จะจัดขึ้นวันที่ 28 พ.ย. นี้ ซึ่งนับเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 9 ปีหลังจากที่หายหน้าจากวงการ

การตอบรับดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ หลิวเจียหลิง ออกมาปฏิเสธร่วมงานพิธีประกาศผลรางวัลดังกล่าว สืบเนื่องมาจากข่าวคราวก่อนหน้านี้ที่ลือกันว่า จางม่านอวี้เป็นมือที่สาม

ทางด้านเหลียงเฉาเหว่ย นักแสดงวัย 47 ปี ก็ไม่ตอบรับเข้าร่วมงานเช่นกันด้วยเหตุผลที่ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการถ่ายทำภาพยนตร์ "The Grand Master" ซึ่งมีคิวเข้าฉายปีหน้า ขณะที่หลิวเจียหลิง นักแสดงวัย 43 ปี ก็อ้างว่ากำลังยุ่งอยู่กับการแสดงในภาพยนตร์จีนเรื่อง "Let The Bullets Fly"

แต่งานนี้ผู้จัดการของหลิวเจียหลิง ออกมาปฏิเสธข่าวลือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าของ 2 นักแสดงสาวชื่อดังโดยระบุว่า "เรื่องระหว่างหลิวเจียหลิงและจางม่านอวี้เป็นไปด้วยดี หลิวเจียหลิงอยากร่วมงานครั้งนี้มาก แต่ทีมงานภาพยนตร์ปฏิเสธที่จะให้เธอมาร่วมงานเพราะติดเรื่องการถ่ายทำ ซึ่งเธอเองก็พยายามที่จะขอร้องทีมงานอยู่เหมือนกัน"

Manager Online