ข่าวจีน

สามีส่อแววเบี้ยวสัญญาก่อนแต่ง “จ้าวเหว่ย” (Zhao Wei) เปรยรับงานบันเทิงอีกครั้ง

Submitted by canjamm on 2 มีนาคม, 2010 - 17:00

"จ้าวเหว่ย" (Zhao Wei) นักแสดงสาวคนดังจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ขณะนี้กำลังอุ้มท้องลูกคนแรกได้ราว 7 เดือน อาจตัดสินใจกลับสู่วงการบันเทิงทันทีหลังคลอดลูก โดยมีสาเหตุมาจากการสามีนักธุรกิจของเธอ ทำท่าว่าจะผิดสัญญาว่าจะช่วยเหลือเงินทุนในการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวของเธอ

จ้าวเหว่ย ที่กำลังจะมีอายุครบ 34 ปีเต็มในเดือนนี้ เริ่มต้นคบหากับ หวงหยูหลง หรือ มาร์โก (Marco) นักธุรกิจวัย 31 ปี ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ในปี 2008 หลังจากหนุ่มเนื้อหอมคนนี้เลิกรากับอดีตแฟนสาว เทรซี ยิป (Tracy Ip) มิสฮ่องกง ได้ไม่นานนัก โดยสื่อบางเจ้าเรียก จ้าวเหว่ย ว่าเป็นมือที่สาม ที่แยกฝ่ายชายมาจากอดีตมิสฮ่องกง ปี 2005 ด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า การคบหาครั้งนั้นจะกลายเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมา มีข่าวว่า จ้าวเหว่ย และแฟนหนุ่มอายุน้อยกว่าคนนี้ ได้จดทะเทียนสมรสกันแบบเงียบๆ ที่สิงคโปร์เมื่อปีก่อน และอาศัยอยู่ที่นั่น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกติดตามขุดคุ้ยจากนักข่าว ขณะเดียวกัน ข่าวเรื่องการตั้งครรภ์ของนักแสดงหญิงขวัญใจชาวจีน ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความจริงในที่สุด

หลังจากที่จ้าวเหว่ยเสร็จสิ้นภารกิจในผลงานแสดงเรื่องล่าสุดของเธอ สามีภรรยาคู่นี้จึงกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง โดยฝ่ายของนักแสดงหญิงคนดังไม่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมการโปรโมตหนังเรื่อง 14 Blades ระหว่างปลายปีก่อนจนถึงต้นปีนี้เลย และไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่เมืองลอดช่อง เพื่อรอกำหนดการคลอดลูกคนแรกในประมาณเดือน เม.ย. แทน

หลังแต่งงานกัน สื่อในฮ่องกงอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคนทั้งสองว่า จ้าวเหว่ย มีแผนจะหยุดรับงานอยู่แล้ว เพราะเป็นคำขอของสามี ที่ต้องการหลีกเลี่ยงชีวิตที่วุ่นวายจากความโด่งดังของภรรยา

หวงหยูหลง มีทรัพย์สินอยู่ประมาณ 400 ล้านเหรียญฮ่องกง เขาสัญญาว่าจะซื้อบ้านสุดหรูหลายล้านเหรียญฯ ให้ภรรยาคนดัง นอกจากนั้นยังสัญญาว่าจะเตรียมปูทาง และสนับสนุนทางการเงินอย่างเต็มที่ สำหรับธุรกิจส่วนตัวที่จ้าวเหว่ยมีความคิดจะเริ่มทำ

"เซียะถิงถิง" (Jennifer Tse) น้องสาว "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) โชว์ชุดว่ายน้ำในโฆษณาลดน้ำหนัก

Submitted by canjamm on 1 มีนาคม, 2010 - 21:26

"เซียะถิงถิง" (Jennifer Tse) น้องสาวคนสวยของ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) เริ่มต้นงานในวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการแล้ว หลังเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของ "หวังจิง" (Wong Jing) เมื่อปีก่อน ล่าสุดตัดสินใจถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ ให้กับงานโฆษณาสถาบันลดน้ำหนักแห่งหนึ่ง ตอกย้ำเป้าหมายเป็นสาวเซ็กซี่คนใหม่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง

หลังจากเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของ หวังจิง ผู้กำกับผู้อำนวยการสร้างคนดังไปแล้ว เซียะถิงถิง น้องสาวคนสวยของ เซียะถิงฟง พระเอกหนุ่มชื่อดัง ก็เริ่มมีผลงานออกมาให้เห็นกันแล้ว ก่อนจะมีหนังให้ชมกัน เธอเริ่มต้นด้วยการถ่ายแบบสุดเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สถาบันลดน้ำหนักแห่งหนึ่งก่อน

เซียะถิงถิง ลูกสาวคนเล็กของ อดีตพระเอกคนดัง เซียะเสียน (Patrick Tse) กับ ตีปอร่า (Deborah Dik) เคยชิมลางงานในวงการบันเทิงมาแล้วบ้าง ทั้งการถ่ายแบบ และเดินแบบ แต่ส่วนใหญ่เป็นแค่งานประเภทฆ่าเวลา ไม่ได้มีความน่าจดจำอะไร แต่หลังเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของ หวังจิง เมื่อปลายปีก่อน จึงสามารถเรียกได้ว่าเธอเข้าสู่วงการตามรอยพ่อ, แม่ และพี่ชายอย่างแท้จริง นอกจากงานถ่ายแบบครั้งนี้แล้ว เธอยังจะมีผลงานหนังตามมาอีกอย่างแน่นอนในอนาคต

หวังจิง ที่เป็นทั้งคนเขียนบท ผู้กำกับ หรือผู้อำนวยการสร้าง ประสบความสำเร็จปั้นสาวๆ เซ็กซี่ป้อนให้กับวงการหนังฮ่องกงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รุ่นคลาสสิค ซิวซู่เจิน (Chingmy Yau), จูอิน (Athena Chu), ซูฉี (Shu Qi) และหลินซีเหลย (Kelly Lin) ดูเหมือนว่าตอนนี้เป้าหมายใหม่ของเขาก็คือ การปั้น เซียะถิงถิง ให้เป็นสาวร้อนคนใหม่ของวงการบันเทิงฮ่องกงให้ได้

Manager Online

Down With Love แสดงนำโดยเจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) และเอลล่า (Ella) นำเบื้องหลังการถ่ายทำมาออกอากาศ เพื่อสู้กับแผ่นผิดกฎหมาย

Submitted by canjamm on 1 มีนาคม, 2010 - 17:38

เนื่องจากละครไอด้อล Down With Love แสดงนำโดยเจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) และเอลล่า (Ella) หลุดออกมาก่อนที่จะฉายจริง ผู้ชมบางคนมีโอกาสได้ชมละครเวอร์ชันที่หลุดออกมาแล้วทางออนไลน์ ทำให้ทาง CTV และ GTV ต้องพยายามหาทางเพื่อทำให้เรทติ้งดีขึ้น ด้วยการทำอะไรเพิ่มเติมต่างๆให้แก่ละคร สำหรับการออกอากาศละครในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการออกอากาศเบื้องหลังการถ่ายทำของนักแสดง ก่อนที่ละครจะถูกตัดเข้าสู่โฆษณา บางช่วงของเบืิ้องหลังนั้นมีตอนที่เจอรี่ทำเสียงปล่อยตด, การพูดสิ่งที่ไม่ได้เตรียมออกมาในบท และช่วงเวลาที่ตลกๆในการถ่ายทำซ้ำ ทางสถานีทีวีหวังว่าจะช่วยดึงผู้ชมและทำให้พวกเขาได้รับรู้ว่า ละครดีๆกำลังจะฉาย

ในเบื้องหลังการถ่ายทำนั่น เจอรี่ทิ้งภาพลักษณ์ความเป็นไอด้อลของเขา เพื่อเข้าร่วมกับเอลล่าในการทำเสียงตดโดยใช้ปากของพวกเขา และพวกเขาทั้งคู่ก็ดูสนุกสนานอย่างมากเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ยังมีตอนที่เจอรี่กล่าวในขณะที่เครื่องบินบินผ่านพวกเขาไปในระหว่างการถ่ายทำ โดยเขากล่าวว่า "อะไรกันเนี่ย? ทำไมเครื่องบินมาบินผ่านในตอนนี้หล่ะ?" และยังมีช่วงเวลาที่เจอรี่ตั้งใจจะหยุดนิ่งไปเฉยๆในระหว่างการแสดง ในขณะที่ทางด้านเอลล่าก็หลุดพูดเรื่องตลกแนวลามกออกมา ฉากเบื้องหลังการถ่ายทำทั้งหลายนี้จะนำมาให้ผู้ชมได้ชมกัน โดยหวังว่าจะทำให้เข้าใจว่าการดูละครที่ถูกต้องตามกฎหมายมีข้อดีอย่างไร

ChinaTimes

เจอรี่ (Jerry) และเอลล่า (Ella) ช่วยกันแจกผ้าอนามัยตามท้องถนน

Submitted by canjamm on 1 มีนาคม, 2010 - 16:23

ในละคร Down With Love ของทาง CTV / GTV สัปดาห์นี้ ความเข้ากันได้จะเกิดขึ้นระหว่างเจอรี่ (Jerry) และเอลล่า (Ella) เพื่อความรักแล้ว เจอรี่ยอมตามเอลล่าไปตามท้องถนนเพื่อแจกผ้าอนามัย และเชิญชวนคนทั่วไปมาร่วมกันกรอกแบบสอบถาม อย่างไรก็ตาม ความกล้าและคำตอบที่ตรงไปตรงมาจากผู้หญิงวัยกลางคน เช่น การเลอะด้านข้าง, มามาก และอื่นๆมากมาย ทำให้เจอรี่รู้สึกอายและเกร็งๆไปบ้าง

UDN

นางแบบชาวจีนหวิดดับ พยายามฆ่าตัวตาย หลังแฟนเก่าปล่อยคลิปกาม

Submitted by canjamm on 1 มีนาคม, 2010 - 15:48

“ไจ๋หลิง” (Zhai Ling / 翟凌) นางแบบชื่อดัง ได้ทำพยายามฆ่าตัวตายหลังตกเป็นเหยื่อข่าวฉาว และเกี่ยวข้องกับประเด็นคลิปหลุด ซึ่งลือกันว่าอดีตแฟนหนุ่มของเธอเอง เป็นผู้ปล่อยคลิปดังกล่าว หวังแก้แค้นที่เคยถูกตัดความสัมพันธ์

มีรายงานข่าวจากเมืองจีนว่า นางแบบสาวชาวจีน ไจ๋หลิง ได้พยายามฆ่าตัวตาย แต่นับเป็นโชคดีที่เพื่อนคนหนึ่งมาพบเข้า และช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ก่อนนำตัวของเธอส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที โดยขณะนี้นางแบบคนดังกล่าวยังอยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. มีคลิปภาพการประกอบกิจกรรมทางเพศอันร้อนแรงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และถูกพูดถึงไปทั่ว ระหว่างหนุ่มนิรนาม และสาวสวยคนหนึ่ง ที่ชาวจีนหลายๆ จดจำใบหน้าได้ว่าคือ ไจ๋หลิง นางแบบชื่อดังที่ชาวจีนรู้จักกันดี

โดยการสืบค้นต้นตอของคลิปพบว่า มันถูกปล่อยออกมาจากห้องสนทนาในเว็บไซต์แห่งหนึ่งของจีน คาดกันว่าชายในภาพคืออดีตแฟนหนุ่มของเธอ ที่เคยคบหากันช่วงประมาณปี 2007 หลายฝ่ายสันนิฐานว่า เป็นเขาเองซึ่งเป็นผู้ปล่อยคลิปที่ว่านี้ออกมา

มีการเผยข้อมูลจากวงสนทนาในเว็บดังกล่าวว่า ชายหนุ่มผู้เรียกตัวเองว่า “หยางตี้” (Yang Di) อ้างเป็นอดีตคนรักของนางแบบสาวคนดัง ซึ่งคบหากันตั้งแต่เมื่อเธอยังเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงเมื่อ 3 ปีก่อน

อดีตแฟนเก่าคนนี้ ยังเผยว่านางแบบคนสวย ไม่ได้ไร้ประสบการณ์ในการถ่ายหนังสดลักษณะนี้ และถ่ายทำหนังส่วนตัวกับแฟนหนุ่มคนก่อนหน้ามาแล้วด้วย จนมันมันเกือบกลายเป็นเรื่องขึ้นมา สกัดความรุ่งของเธอในตอนนั้น แต่เพราะเขาใช้เส้นสายของครอบครัว จนสามารถช่วยเหลือเธอจากปัญหาในคราวนั้น และยังช่วยผลักดันให้ ไจ๋หลิง โด่งดังขึ้นมาด้วย

หนุ่มคนดังกล่าวยังให้ข้อมูลว่าเขาและครอบครัว กับอดีตแฟนสาว มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันอย่างมาก แต่เมื่อเธอเริ่มมีชื่อเสียง กลับปฏิบัติตัวแตกต่างออกไป ไม่ได้ให้เกียรติมารดาของเขาอย่างที่เคย จนกระทั่งต่อมาจึงเลิกรากันไป

หลังจากคลิปฉาวกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ไจ๋หลิง ไม่ยอมตอบคำถามในเรื่องนี้ และวางสายโทรศัพท์ทันที เมื่อมีนักข่าวผู้หนึ่งติดต่อขอสัมภาษณ์โดยเธอ

ซวยซ้ำซวยซ้อน "ยิปมัน" ของ "หว่องกาไว" เลื่อนการถ่ายทำอีกแล้ว

Submitted by canjamm on 26 กุมภาพันธ์, 2010 - 16:04

"The Grand Master" หนังชีวประวัติครูมวยหยงชุน "ยิปมัน" (Ip Man) ผลงานเรื่องล่าสุดของ "หว่องกาไว" (Wong Kar-wai) ต้องเลื่อนการถ่ายทำไปอีกแล้ว หลังประสบปัญหาหลายอย่าง ตั้งแต่อาการบาดเจ็บของ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) , ปัญหาสภาพอากาศ และปัญหาส่วนตัวของนางเอก "จางจื่ออี้" (Zhang Ziyi)

The Grand Master เป็นงานที่หว่องกาไวเตรียมงานสร้างนานเกือบ 10 ปี โดยมีกำหนดเปิดกล้องในปี 2004 แต่หลังจาก เหลียเฉาเหว่ย นักแสดงชาวฮ่องกงชื่อดังที่ถูกวางตัวไว้ในบทนำได้รับบาดเจ็บจากการเล่นสกี จนต้องพักพื้นกว่า 6 เดือน และหลังจากนั้นพระเอกคนดัง ยังมีกำหนดต้องถ่ายทำหนังหลายๆ เรื่องตั้งแต่ Lust, Caution ไปจนถึง Red Cliff (สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ) ขณะที่ หว่องกาไวเอง ก็ต้องไปอเมริกาเพื่อกำกับ My Blueberry Nights หนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเขา The Grand Master จึงถูกเลื่อนแบบไม่มีกำหนด

จนกระทั่งปีก่อน หนังกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง เหลียงเฉาเหว่ย เข้ารับการฝึกมวยหยงชุนจากผู้เชี่ยวชาญหลายสัปดาห์ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุกระดูกแขนซ้ายร้าว ระหว่างการฝึกซ้อม และต้องเลื่อนการถ่ายทำไปอีก

หลังจากเข้ารับการผ่าตัด และเตรียมเข้าฉากถ่ายทำเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดมีการตรวจพบว่าปัญหาที่แขนของเหลียงเฉาเหว่ยไม่ได้หายดีอย่างที่หมอคาดการณ์เอาไว้ ทำให้พระเอกวัย 48 ปี ต้องเข้าผ่าตัดซ้ำ เพื่อแก้ไขกระดูกให้เข้าที่อีกครั้ง และต้องทำการพักกอง เลื่อนการถ่ายทำไปอีกเช่นเคย

เมื่อเร็วๆ นี้ The Grand Master ยังต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการหลายๆ อย่าง หลัง จางจื่ออี้ นักแสดงนำหญิงของเรื่อง มีปัญหาอื้อฉาวเรื่องโกงเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่ทำให้เธอต้องวุ่นวายอยู่กับการแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นอยู่พักใหญ่ ทีมงานต้องเปลี่ยนตารางการทำงานครั้งใหญ่ เพื่อให้ดาราสาวชาวจีนสามารถมาเข้าฉากหนังเรื่องนี้ได้

ขณะที่ก่อนหน้านี้หนังต้องเสียเวลาไปไม่น้อย หลังจากได้รับอนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่น ให้สามารถถ่ายทำในกวางตุ้งได้ แต่กลับต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันเลวร้าย จนไม่สามารถเริ่มการถ่ายทำได้ทันที

ในวันที่หนังเป็นเพียงงานอดิเรก "หลี่เหลียงเจี๋ย" (Jet Li) เผยซึนามิจุดเปลี่ยนของชีวิต

Submitted by canjamm on 25 กุมภาพันธ์, 2010 - 12:04

“หลี่เหลียนเจี๋ย” ออกมาเผยถึงสาเหตุที่เขารับงานแสดงน้อยลงในช่วงหลังๆ ว่า ในตอนนี้หนังคืองานอดิเรกเท่านั้น เพราะเขาได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังทรัพย์ ให้กับงานการกุศล หลังจากค้นพบสัจธรรมบางอย่างจากเหตุการณ์ซึนามิเมื่อหลายปีก่อน

ระหว่างการพบปะสื่อมวลชนครั้งล่าสุด “หลี่เหลียนเจี๋ย” นักแสดงชื่อดังที่ชาวตะวันตกรู้จักกันในชื่อว่า เจ็ท ลี (Jet Li) ปฏิเสธที่จะโพสต์ท่าตั้งการ์ดแบบเดิมๆ ให้นักข่าวถ่ายรูปอย่างที่เคยเป็นมา พร้อมกับอธิบายว่า ในโอกาสเช่นนี้ เขาไม่อยากจะทำอะไรที่เป็นการส่งเสริมความรุนแรงขึ้นมา

ในการรับมอบรางวัลจากการช่วยเหลืองานสังคมอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา หลี่เหลียนเจี๋ย นักแสดงวัย 46 กล่าวว่า พักหลังเขาหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องศาสนา และงานการกุศล และเรียกสิ่งพวกนี้ว่าเป็นงานหลัก และยังย้ำว่าสำหรับเขาในตอนนี้หนังเป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น

หลี่เหลียนเจี๋ยกล่าวว่า จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาเกิดขึ้นในปี 2004 ระหว่างการพักร้อนของครอบครัวที่หมู่เกาะมัลดีฟ ซึ่งต่อมา ได้พบกับเหตุการณ์สำคัญที่หลายๆ คนยังจำได้ เมื่อคลื่นยักษ์ซึนามิจากมหาสมุทธอินเดีย โหมเข้าถล่มชายฝั่งของหลายประเทศประเทศ อาทิ ไทย, อินโดนีเซีย, อินเดีย, ปากีสถาน และมัลดีฟที่เขาพำนักอยู่ในเวลานั้นด้วย

"มันแตกต่างจากในหนังโดยสิ้นเชิงครับ น้ำมาเร็วมาก ผมอุ้มลูกสาววัย 4 ปี ส่วนพี่เลี้ยงอุ้มลูกอีกคน เราวิ่งจากชายหาดไปที่โรงแรม น้ำขึ้นมาถึงที่เอวของผม อีกไม่กี่วินาทีก็ขึ้นมาถึงระดับหน้าอก" หลี่เหลียนเจี๋ย เล่าถึงประสบการณ์ที่เขาไม่มีวันลืม

พระเอกชาวจีนพูดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า ทำให้เขารู้สึกว่า ความสามารถ หรือความสำเร็จใดๆ ที่เคยได้รับมา ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยกับพลังของธรรมชาติ ... "ทั้งเงิน, อำนาจ หรืออะไรก็ตามในโลกนี้ ไม่สามารถช่วยคุณจากคลื่นครั้งนั้นได้เลย" หลี่เหลียนเจี๋ยกล่าวว่า หลังจากนั้นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปในการศึกษาพระธรรม เดินทางไปทั่วโลก หาความหมายของชีวิต

หลังจากปรึกษากับภรรยา นีน่า ลี อดีตมิสฮ่องกง เขาบริจาคเงิน 500,000 เหรียญฮ่องกงให้กับผู้ประสบภัยซึนามิ ส่วนอีก 500,000 เหรียญฯ ใช้เป็นทุนสำหรับก่อตั้งมูลนิธิ ที่ให้ความช่วยเหลือทั้งในเรื่องภัยธรรมชาติ, การศึกษา, สุขภาพ และปัญหาสิ่งแวดล้อม

"หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) บุกญี่ปุ่น เตรียมประกบ "ทาคุยะ" (Takuya Kimura) ในซีรีย์ใหม่

Submitted by canjamm on 23 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:18

"หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) เตรียมข้ามฟากไปรับงานแสดงที่วงการบันเทิงญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังมีการทาบทามให้เธอมารับบทเป็นนางเอกในซีรีย์เรื่องใหม่ของ "ทาคุยะ คิมูระ" (Takuya Kimura) ที่กำลังมีปัญหาหานางเอกใหม่ไม่ได้

หลินจื่อหลิง นางแบบและนักแสดงหญิงคนดังแห่งไต้หวัน กลายเป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุ่น หลังจากหนังเรื่อง Red Cliff ทั้งสองภาคที่เธอร่วมแสดง กลายเป็นหนังฮิตในแดนปลาดิบ จนได้รับการติดต่อให้มาปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอของวง SMAP และตอนนี้อาจจะมีโอกาสได้เป็นนางเอกซีรีย์ คนใหม่ของหนุ่ม ทาคุยะ ด้วย

จากรายงานของสื่อในญี่ปุ่น ฟูจิทีวี กำลังอยู่ระหว่างเตรียมงานสร้างซีรีย์เรื่องใหม่ของ ทาคุยะ คิมูระ พระเอกอันดับ 1 ของประเทศ ขณะเดียวกัน หลินจื่อหลิง ก็กำลังเข้ามารับงานโฆษณาหลายๆ ตัวที่ญี่ปุ่นพอดี เธอยังได้มีโอกาสร่วมงานกับ ทาคุยะ รวมถึงมีโครงการถ่ายมิวสิควีดีโอร่วมกันด้วย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าทั้งสองน่าจะพัฒนากลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ได้

รายงานดังกล่าวยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ ฟูจิทีวี ต้องพบกับปัญหาในการเลือกนางเอกคนใหม่ให้กับ ทาคุยะ ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ โดยเฉพาะการเป็นคนช่างเลือก และจู่จี้ของพระเอกหนุ่มวัย 37 ปี ทั้งในเรื่องของบท และนักแสดงร่วม

มีการพูดชื่อของนักแสดงสาวๆ ที่ประสบความสำเร็จในการร่วมงานกับเขามาแล้วอย่าง อายาเซะ ฮารุกะ (Ayase Haruka) หรือ คุโรกิ เมอิซะ (Kuroki Meisa) ที่กำลังมีหนังเรื่องใหม่ด้วยกันขึ้นมา แต่หลายๆ ฝ่ายก็ค้านว่าพวกเธอขาดความสดใหม่ไปแล้ว

ก่อนหน้านี้สถานีเคยพยายามติดต่อให้ อาโออิ มิยาซากิ (Aoi Miyazaki) นักแสดงวัย 25 ปี ที่เพิ่งโด่งดังสุดๆ กับละครประวัติศาสตร์เรื่องเจ้าหญิงอัตสึ มาเป็นนางเอกคนใหม่ของทาคุยะ แต่ดาราสาวคนดังได้ตอบปฏิเสธไป โดยอ้างเรื่องความแตกต่างของอายุเป็นเหตุผลหลัก ... "อายุของเราค่อนข้างห่างกันน่ะค่ะ ฉันว่ามันคงไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ถ้าต้องมาแสดงเป็นคู่รักกัน"

หลินจื่อหลิง สาวไต้หวัน วัย 35 ปี ที่กำลังโด่งดังในญี่ปุ่น จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ทุกๆ ฝ่ายเห็นว่าเหมาะสมที่สุด

เดิมซีรี่ย์ดังกล่าวมีกำหนดเปิดกล้องในกลางเดือน ก.พ. แต่เพราะปัญหาเรื่องความไม่ลงตัวของบทนางเอกนี่เอง ที่ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดกล้องออกไป

"แวนเนส F4" (Vanness Wu), ลูก "หงจินเป่า" (Jimmy Hung) ปัดมีเอี่ยวขบวนการค้ายาเสพติด

Submitted by canjamm on 23 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:12

การเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดในไต้หวันเมื่อเดือนก่อน กลายเป็นเรื่องร้อนขึ้นมา เมื่อมีการเผยว่าผู้ต้องหาคนนี้ เกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีคนดังในวงการบันเทิงไต้หวันอย่าง "แวนเนส วู" (Vanness Wu) แห่ง F4 และ ลูกชายของจินเป่า นักแสดงคนดัง ถือหุ้นอยู่ จนเกิดข้อสงสัยว่าคนบันเทิงมีเอี่ยวกับคดียาเสพติดครั้งนี้หรือไม่

เมื่อเดือนก่อน มีการจับกุมในคดีค้ายาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาเป็นลูกจ้างของบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่ชื่อว่า "เทียนตี้เหรินเหอ ฟิล์ม" ในไทเป ซึ่งมี แวนแนส วู หรือ "อู๋เจี้ยนหาว" นักร้องหนุ่มแห่งวง F4 และ จิมมี่ หงเทียนจาง (Jimmy Hung) ลูกชายของ หงจินเป่า (Sammo Hung) ดาราชื่อดังในอดีตเป็นหนึ่งถือหุ้น จนเกิดความสงสัยว่าทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ว่าหรือไม่

ในการเข้าจู่โจมเพื่อจับตัวผู้ต้องสงสัย ตำรวจไทเปได้พบยาเสพติดประเภทกัญชาในตัวของพนักงานคนหนึ่งของบริษัท และได้ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ซึ่งเมื่อมีการตรวจค้นเพิ่มเติมที่บ้านของผู้ต้องหา ก็พบกัญชาเพิ่มเติมอีกหลายห่อ โดยผู้ต้องหาได้ปฏิเสธว่าไม่มีการขายยาเสพติดให้กับเหล่าศิลปิน หรือผู้มีชื่อเสียง แต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การของเขานัก และยังให้ความเห็นว่าคดีคราวนี้น่าจะเป็นเรื่องของขบวนการค้ายาที่ใหญ่กว่านั้น และอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ายาเสพติดระหว่างประเทศด้วย

ซึ่งตำรวจไทเปต้องการสืบสวน และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ในบริษัทผลิตภาพยนตร์แห่งนี้ ซึ่งรวมถึงดารานักแสดงที่เคยร่วมงานกับบริษัทด้วย

แวนเนส วู ที่ก่อนหน้านี้ยังอยู่ในญี่ปุ่นได้ให้ข่าวผ่านผู้ช่วยส่วนตัวว่า ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาว และยาเสพติดครั้งนี้อย่างแน่นอน และยังเสริมว่าตัวเองเป็นเพียงผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เป็น จิมมี่ หง ที่ดูแลบริหารงานส่วนใหญ่

ฝ่าย หงจินเป่า เองก็ออกมาพูดกับสื่อ เพื่อปกป้องลูกชายทันทีที่เกิดเรื่องขึ้นว่า "เขาบอกกับผมว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ซึ่งผมเชื่อคำพูดของลูก"

ขัดแย้งผู้มีอิทธิพลสาเหตุ "ถังเหว่ย" (Tang Wei) โดนแบน "จางจื่ออี้" (Zhang Ziyi) สุดซวย โดนลือชักใยอยู่เบื้องหลัง

Submitted by canjamm on 22 กุมภาพันธ์, 2010 - 22:40

"ลู่ฉวน" (Lu Chuan) ผู้กำกับชื่อดังชาวจีน ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ทำให้ "ถังเหว่ย" (Tang Wei) นักแสดงสาวคนดังโดนทางการแบนห้ามมีผลงานเป็นระยะเวลา 10 ปีเต็ม ว่าไม่ได้มีสาเหตุหลักมาจากการแสดงบทวาบหวาม แต่เพราะไปขัดแย้งกับสาวผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในวงการบันเทิงจีน ซึ่งชื่อของ "จางจื่ออี้" (Zhang Ziyi) นักแสดงสาวคนดังก็ถูกดึงมาเกี่ยวข้องด้วยอีกครั้ง

ด้วยฉากกิจกรรมด้านเพศอันโจ๋งครึ้มเกือบตลอดทั้งเรื่อง Lust, Caution ต้องถูกเซนเซอร์อย่างหนัก ถึงเข้าฉายในเมืองจีนได้ แต่หนังที่ว่าด้วยเรื่องสายลับ ในช่วงสงครามโลก ที่ถูกตัดฉากสำคัญออกไปหลากฉากเรื่องนี้ กลับกลายเป็นหนังฮิตเรื่องหนึ่งในเมืองจีน ประจำปี 2007 อย่างไรก็ตามนักแสดงนำของเรื่องอย่าง ถังเหว่ย ต้องหมดอนาคต ในวงการบันเทิงของประเทศบ้านเกิดหลังจากงานชิ้นนี้

เมื่อปี 2008 มีรายงานถึงคำสั่งของรัฐบาลจีน ไปยังสถานีโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำในประเทศว่า ห้ามออกอากาศ สื่อ หรือโฆษณาที่มีถังเหว่ยปรากฏอยู่อย่างเด็ดขาด จนเธอไม่สามารถรับงานในประเทศได้อีกต่อไป และต้องหันหน้าไปหางานในฮ่องกง หรือเกาหลีแทน

ล่าสุดผู้กำกับชื่อดัง ลู่ฉวน เจ้าของหนังฮิต City of Life and Death ได้ออกมาเผยถึงข้อมูล ที่เขาได้รับทราบมา ผ่านบล็อคส่วนตัว ถึงทฤษฎีสมคบคิดที่ทำใหั้ถังเหว่ยโดนแบนว่า ความจริงแล้วเกิดจากการที่เธอไปขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลมากๆ 2 คน หนึ่งคือนักการเมืองระดับสูงคนหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งเป็นนักแสดงหญิงผู้มีชื่อเสียง ที่ใช้ความโด่งดังส่วนตัว โน้มน้าวให้สมาชิกในพรรคคอมมิวนิสท์ ตัดสินใจในคำสั่งแบนครั้งนี้

"ผมเห็นชื่อของเธอในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ถังเหว่ย เป็นนักแสดงที่ดี มีความเป็นธรรมชาติ มีความพิเศษในตัวเอง ผมชื่นชมในตัวเธอ และคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ที่อาชีพของนักแสดงคนหนึ่งต้องถอยหลังไปหลายปีเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าหนังมีปัญหาจริง เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้ฉายก็ต้องรับผิดชอบ และถ้าจะแบนกันจริงๆ อังลี หรือเหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ก็ควรจะโดนด้วย เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่จะเล่นงานนักแสดงหญิงคนนี้เป็นพิเศษ" ลู่ฉวน กล่าวหลังข้อเขียนของเขากลายเป็นข่าวใหญ่

จิโร่ หวัง (Jiro Wang) เปิดตัวเสื้อผ้ายี่ห้อ MUA

Submitted by canjamm on 19 กุมภาพันธ์, 2010 - 15:56

จิโร่ หวัง (Jiro Wang) หนึ่งในสมาชิกวง Fahrenheit ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ Advertising Design and Fu Hsing Trade & Arts College ออกเสื้อผ้ายี่ห้อ MUA ซึ่งเริ่มให้ทำการสั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากเขาชอบที่จะวาดภาพระบายสีอยู่แล้ว บริษัทต้นสังกัดของเขาจึงวางแผนที่จะช่วยให้เขาเปิดนิทรรศการศิลปะนิพนธ์ (Art Exhibition)

จิโร่ หรือที่รู้จักกันในชื่อต้าตง (Da Dong) รักที่จะวาดและออกแบบ ก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง เขาเคยเป็นนายแบบ และสไตลิสด้านเสื้อผ้า หลังจากจับงานนักร้อง เขามักจะวาดภาพการ์ตูนน่ารักๆอย่างมีความสุขเมื่อสื่อร้องขอ เสื้อยืดใหม่ของเขาจะมีรูปริมฝีปากสีแดงขนาดใหญ่ MUA เสียงของการจูบ หวังว่าจะนำความรักมาให้แก่ทุกๆคน

"จุดประสงค์ของ MUA คือการกระจายความรู้สึกหวานๆของความรัก ที่อยู่รอบๆตัวคุณอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความรักจากครอบครัว จากเพื่อน หรือความรักกับคนรู้ใจ คุณสามารถใช้ MUA แสดงความรู้สึกนั้นได้! ถ้าคุณกำลังอยู่ในอารมณ์ของความสุข พวกเราหวังว่า MUA จะช่วยเสริมความหวานนั้นให้แก่ความสุขของคุณ ถ้าคุณรู้สึกเหงาในขณะนี้ พวกเราก็หวังว่า MUA จะนำความรักและห่วงใยมาอยู่ข้างๆคุณ จนกระทั่งคุณพบอีกครึ่งหนึ่งของคุณ"

เว็บไซค์อย่างเป็นทางการของเสื้อผ้า MUA คือ http://www.mua-jo.com ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเป็นวันไวท์เดย์ ลูกค้าสามารถเริ่มทำการลงทะเบียนเป็นสมาชิกในวันนั้น และระบบสะสมแต้มก็จะเริ่มในวันนั้นด้วย สมาชิก 100 คนแรกจะได้รับของขวัญพิเศษคนละชิ้น ในขณะนี้ MUA กำลังขายโลโก้ และเสื้อ JO อยู่ สินค้าล็อตแรกของยี่ห้อนี้จะเริ่มออกวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนมีนาคม - เมษายนนี้

UDN / http://385541.cnc-us1-g4.chinadns.net

หนุ่มแร็พไต้หวันแต่งเพลงแซว "เจย์ โชว์" (Jay Chou) ไร้น้ำยา หมดปัญญาเจาะไข่แดงสาว

Submitted by canjamm on 19 กุมภาพันธ์, 2010 - 15:32

"เจย์ โชว์" (Jay Chou) นักร้องซุปเปอร์สตาร์ชาวไต้หวัน โดนลูบคมซะแล้ว หลังถูกศิลปินแร็พเพื่อนร่วมชาติ ออกงานเพลงแซวทำนองว่าไม่มีน้ำยา จากข่าวลือที่ว่าอดีตแฟนสาวที่เขาเคยคบอยู่ระยะ และกำลังจะแต่งงาน เป็นสาวบริสุทธิ์

Dog G ศิลปินแร็พแห่งไต้หวัน ได้เขียนผลงานเพลงชิ้นใหม่ออกมา ซึ่งมีเนื้อหาอ้างอิงข่าวที่กำลังเป็นที่สนใจในวงการบันเทิงไต้หวัน เมื่อสาวคนดังแห่งวงการโทรทัศน์ แพ็ตตี้ โหว (Patty Hou) ผู้ประกาศคนสวยแห่งไต้หวันอดีตคู่รักของ เจย์ โชว์ กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับมหาเศรษฐีนักการธนาคารคนหนึ่ง และมีข่าวลือว่า เธอยังคงความเป็นเจ้าสาวบริสุทธิ์ไว้เพื่อสามีเท่านั้น

โดยสื่อในไต้หวันให้ข้อมูลว่า แพ็ตตี้ โหว เต็บโตมาในครอบครัวที่เข้มงวด และถูกปลูกฝังค่านิยมแบบดั่งเดิมมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้เธอจะคบหากับ เจย์ โชว์ และมีความใกล้ชิดกันเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่ทั้งสองไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยไปกว่านั้น

แม้ฝ่ายหญิงปฏิเสธที่จะตอบถึงเรื่องนี้ แต่มันได้กลายเป็นที่พูดถึงทั่วไปในไต้หวัน และยิ่งกลายเป็นเรื่องเผ็ดร้อนขึ้นมา เมื่อมีนักร้องเพลงแร็พเอาข่าวนี้มาแต่งเป็นเพลง ซึ่งเป้าหมายในการถูกเสียดสีกลับเป็นฝ่ายของ เจย์ โชว์ แทน

จากรายงานของ Channel News Asia ในเพลงของ Dog G มีการเล่นสำนวน ใช้คำภาษาจีน "diao" ที่หนุ่มเจย์เคยใช้เป็นสแลงในเพลงของเขา ในความหมายว่า "เท่ห์ หรือทรงพลัง" แต่คำดังกล่าวสามารถให้ความหมายถึง อวัยวะเพศชายได้ด้วย โดยในเพลงของ Dog G มีการแซวว่า พ่อหนุ่มนักร้องอันดับหนึ่งของไต้หวันคนนี้ เก่งแต่พูด แต่กลับไม่มีน้ำยาที่จะใช้ "diao" ของเขาทำอะไรอย่างอื่นกับสาวๆ

แม้จะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ฝ่าย เจย์ โชว์ ไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไรอะไรกับเรื่องนี้นัก และยังกล่าวว่า ขอให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของ เคโต้ และแพนด้าแมน เป็นคนตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับเรื่องทั้งหมดอย่างไรดีกว่า ซึ่งชื่อทั้งสองที่เอ่ยขึ้นมานั้น หมายถึงตัวละครที่เขารับบทใน The Green Hornet หนังฮอลลีวูดเรื่องแรก และซุปเปอร์ฮีโร่ที่ เจย์ โชว์ คิดขึ้นเอง

"หมีเซียะ" (Michelle Yim) เศร้า มะเร็งพรากชีวิตคนรัก ปิดฉาก 26 ปีแห่งการครองคู่

Submitted by canjamm on 18 กุมภาพันธ์, 2010 - 13:44

นักแสดงสาวสองพันปี "หมีเซียะ" (Michelle Yim) ต้องพบกับเรื่องเศร้าเมื่อ "ว่านจื่อเฉียง" (Wan Chi-Keung) คนรักของเธอได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 53 ปี จากโรคมะเร็ง นักแสดงสาวชาวฮ่องกง อยู่เคียงข้างชายที่เธอรัก จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเขา หลังจากคบหากันตลอดระยะเวลา 26 ปี โดยไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน

ว่านจื่อเฉียง เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 8.35 น. ของวันที่ 16 ก.พ. ชายวัย 53 ปี เป็นที่รู้จักทั่วไปในฮ่องกง ในฐานะอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ, เป็นนักธุรกิจ และเคยยังเป็นนักแสดงที่ฝากผลงานไว้หลายเรื่อง บทนายตำรวจระดับสูงในหนังเรื่อง Infernal Affairs น่าจะเป็นผลงานในระยะหลังที่แฟนหนังรุ่นใหม่เคยผ่านตากันมาบ้าง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ชายคนนี้โด่งดังเป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนานก็คือในฐานะการเป็นคู่รักของนางเอกสาวสองพันปี หมีเซียะ

หมีเซียะ และครอบครัวของอดีตนักกีฬาคนดัง อยู่เคียงข้างจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิตของว่านจื่อเฉียง หลังจากคนรักได้สิ้นใจลง นักแสดงสาววัย 54 ปี ยืนยันว่าเธอจะพยายามใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง พร้อมกับกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจในตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ซิดนีย์ น้องสาวที่สนับสนุนในทุกเรื่อง แม้ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก เธอยังส่งคำขอบคุณไปถึงเพื่อนนักแสดงในวงการ อาทิ เจิ้งจื่อเหว่ย และอลัน ทัม ที่ได้ยื่นมือให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด

ในบ่ายวันนั้น หมีเซียะ ออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้าน เพื่อปรึกษาเรื่องการจัดงานศพกับเหล่าญาติของฝ่ายชาย โดยเธอไม่ได้ยกเลิกกำหนดการทำงานในวันนั้น หมีเซียะยังคงเดินทางไปโรงถ่าย TVB เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ชุดเรื่องใหม่ของเธอ ตามเดิม ... "หมีเซียะเข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพมากๆ เธอไม่ต้องการทำให้ตารางงานของคนอื่นต้องวุ่นวาย หรือถูกเลื่อนออกไป" ผู้อำนวยการสร้างกล่าวชื่นชม

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 18 ปีก่อน หลังจากตรวจพบมะเร็งที่โพรงจมูก นักแสดงหญิงคนดังคอยดูแลชายคนรักในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลายครั้งเธอบอกกับสื่อข่าวว่าอาการป่วยของเขาค่อยๆ ดีขึ้นมา แต่ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับอาการป่วยของแฟนหนุ่มให้ใครได้ทราบ

Down With Love แสดงนำโดยเจอรรี่ (Jerry) และเอลล่า (Ella) ถูกนำไปทำเป็นแผ่นเถื่อนขายในจีน !!

Submitted by canjamm on 12 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:57

ละครไอด้อล Down With Love ของทาง CTV และ GTV แสดงนำโดยเจอรรี่ (Jerry) และเอลล่า (Ella) ออกอากาศมาแล้ว 2 ตอน ทั้งเรทติ้งและรีวิวของละครออกมาดี และมีข่าวออกมาว่า ดูเหมือนว่าจะมีแผ่นดีวีดีเถื่อนออกมาวางจำหน่ายแล้ว ทางบริษัทต้นสังกัดของเธอกล่าวว่า "คุณภาพจากการดูทางออนไลน์ และทางทีวี แน่นอนว่าไม่เหมือนกัน ผมหวังว่า ทุกๆคนจะรอชมกันทางทีวีที่บ้าน!"

จากการร้องเรียนของผู้ชมละคร Down With Love ในช่วงที่ผ่านมา มีบางเว็บไซค์จากจีนให้ข้อมูลแก่นักเล่นเน็ททั้งหลายเกี่ยวกับวิธีการดาวน์โหลดละครเรื่องนี้ แต่เมื่อนักเล่นเน็ทดาวน์โหลดไปยังคอมพิวเตอร์ของพวกเขาแล้ว กลายเป็นว่าไฟล์ดังกล่าวเป็นไวรัส นอกจากนี้ยังมีบางคนเห็นแผ่นดีวีดีเถื่อนวางจำหน่ายอยู่ตามท้องถนน ทาง GTV ทำการสืบสวน และพบว่า เนื้อหาจากแผ่นเถื่อนนั่นเป็นเวอร์ชันทดลองชม เพื่อการออกอากาศในประเทศจีนในภายหลัง พวกเขารู้สึกแย่ต่อการละเมิดลิขสิทธิ์นี้ แต่ก็ยากที่จะอธิบายเรื่องนี้แก่เจ้าหน้าที่ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

GTV กล่าวเมื่อวันที่ 10 ว่า พวกเขาทำการขอความร่วมมือไปยัง Golden Series Film Processing ในประเทศจีน เพื่อจัดการเรื่องนี้ในทันที โดยการสอบสวนว่าต้นตอมาจากไหน ทาง Zhao Yi Fang ผู้จัดการของ Golden Series Film Processing กล่าวว่า ทางบริษัทกำลังทำการตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ และจะใช้มาตรการทางกฎหมายต่อเว็บไซค์และผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการละเมิดลิขสิทธิ์นี้ มีรายงานว่า ทางสถานีวิทยุและทีวีในจีนได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการดาวน์โหลดอย่างผิดกฎหมายนี้

Zhao Yi Fang กล่าวว่า จริงๆแล้ว ทาง An Hui TV ตั้งใจเปิดตัวละครเรื่องนี้อย่างยิ่งใหญ่ในวันตรุษจีน และคาดว่าจะออกอากาศได้ในเดือนเมษายน หรือในช่วงฤดูร้อน แม้ว่าการออกอากาศจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ก็ยังมีการสูญเสียอะไรไปบ้าง เมื่อวันก่อน ทาง GTV ยังพบบางคนในกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับการขายแผ่นดีวีดีที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เขาทำการลงลิงค์ไปยังเว็บไซค์ แต่ดูเหมือนว่าเว็บดังกล่าวจะเป็นเว็บในต่างประเทศ ทางบริษัททำการสืบสวนอยู่ และยังทำการแจ้งไปทาง YouTube ในกรณีที่มีการอัพโหลดเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ให้ทำการหยุดการกระทำดังกล่าวทันที

YAM

ฉากจูบโรแมนติกระหว่าง ไมค์ เฮอ (Mike He) และ หลี่เสี่ยวลู่ (Jacqueline Li) กลายมาเป็นฉากตลก !!

Submitted by canjamm on 12 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:19

ภาพยนตร์เรื่อง Love You Within 7 Days แสดงนำโดยไมค์ เฮอ (Mike He) และ หลี่เสี่ยวลู่ (Jacqueline Li / Li Xiao-lu) จะเริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกทางช่อง Movie Videoland ในวันที่ 20 เวลา 21:00 ในฉากจูบฉากหนึ่งเป็นที่สนใจกันมาก เพราะว่ามือของหลี่เสี่ยวลู่ลื่น และทำให้เธอเกือบจะหล่นออกนอกเตียง กลายเป็นฉากตลกไปแทน

ทาง Movie Videoland กล่าวว่า เมื่อผู้กำกับ Alfred Cheung คิดเกี่ยวกับฉากจูบโรแมนติกออกมาโดยเฉพาะ หลี่เสี่ยวลู่นั่งอยู่บนเตียงรอคอยไมค์เข้ามาจูบเธอ เมื่อการถ่ายทำเริ่่มต้นขึ้น เมื่อริมฝีปากของทั้งสองกำลังจะเข้าหากัน มือของหลี่เสี่ยวลู่ที่อยู่บนเตียงเกิดลื่นขึเ้นมา และกลายเป็นว่าตัวเธอเกือบจะตกลงมาจากเตียง ฉากจูบกลายเป็นฉากตลกไปแทน เพราะว่าทั้งสองคนต่างก็แสดงพลาดตลอด ทำให้ต้องถ่ายทำซ้ำอยู่หลายครั้ง เหล่าทีมงานที่อยู่รอบๆต่างก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน

หลี่เสี่ยวลู่กล่าวว่า เะอไม่รู้ว่าทำไมมือเธอถึงลื่น ภาพของฉากดังกล่าวติดอยู่ในหัวของฉันอยู่ตลอด ทำให้ฉันเอาแต่หัวเราะตลอดเวลา

ภาพยนตร์ Love You Within 7 Days เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของไมค์เฮอในละครจอเงิน เขากล่าวว่า ในอดีต ผมคิดว่าหลี่เสี่ยวลู่นั่นเย็นชา ยากที่จะเข้าได้ แต่เมื่อเรามาร่วมกันถ่ายทำหนังด้วยกัน ผมพบว่า จริงๆแล้วเธอค่อนข้างเข้ากับคนอื่นได้ง่าย

ไมค์กล่าวว่า ประเภทของผู้หญิงที่เขาชอบนั้นเป็นคนที่มีความคิดแนวอนุรักษ์นิยม และยังเป็นประเภทที่พร้อมที่จะสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา วันวาเลนไทน์กำลังจะมาถึงแล้ว เขาซึ่งยังเป็นโสดอยู่จะใช้วันหยุดนี้ในการทำงาน แต่เขาเปิดเผยว่า เมื่อตอนที่เขายังเป็นนักเรียนอยู่ เขาเคยรอหญิงอยู่ที่ชั้นล่างของตึก เมื่อตอนที่เขาพยายามจีบเธอ และยังซื้ออาหารเย็น นำกลับบ้านพร้อมกับเทียน และนำเทียนมาจุดในระหว่างรับประทานอาหารเย็น เพื่อทำให้เพื่อนหญิงของเขามีความสุข

เขากล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ผมไม่ใช่คนโรแมนติก และการจุดเทียนในวันวาเลนไทน์นั่นเป็นสิ่งที่ผมทำได้มากที่สุดแล้ว" ในระหว่างวันตรุษจีน เขาจะใช้เวลาว่างของเขาในไทจงกับครอบครัวของเขา

YAM

"สงไต้หลิน" ปล่อยโฮรับไม่ได้ถูกล่าวหา 'จับ' กัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok)

Submitted by canjamm on 12 กุมภาพันธ์, 2010 - 16:43

"สงไต้หลิน" (Lynn - Xiong Dailin) นางแบบชื่อดัง แสดงความรู้สึกออกออกมาทันที หลังถูกผู้สื่อข่าวถามถึงบทความในหนังสือบันเทิงฉบับหนึ่ง ที่ว่าด้วยเรื่อง วิธีที่เธอใช้จับนักแสดงหนุ่มคนดัง "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok)

ในการร่วมงานประชาสัมพันธ์สินค้ารายการหนึ่งที่ฮ่องกง สงไต้หลิน นางแบบนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ถูกถามถึงเรื่องของตัวเอง กับหนุ่มกัวฟู่เฉิง ซึ่งเธอตอบอย่างอารมณ์ดีว่าได้ดูหนังเรื่อง Murderer ผลงานล่าสุดของเขาถึงสองรอบ และชื่นชมการแสดงของหนุ่มคนสนิท เธอยังกล่าวยินดีในการที่เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในงานตุ๊กตาทองฮ่องกงครั้งล่าสุดด้วย

อย่างไรตามบรรยากาศการให้สัมภาษณ์ที่ดูปกติธรรมดา ก็กลายเป็นความตึงเครียดทันที เมื่อผู้สื่อข่าวถามนางแบบคนดังถึงบทความชิ้นหนึ่งในนิตยสารบันเทิงของฮ่องกง ซึ่งเป็นคำถามที่สร้างความสะเทือนอารมณ์ให้กับเธอเป็นอย่างมาก

บทความดังกล่าว ซึ่งมีชื่อแปลเป็นภาษาไทยว่า "8 เคล็ดลับการจับคนหัวใจคนทั้งเมือง" แต่เมื่ออ่านด้วยสำเนียงจีนกลาง สามารถแปลความหมายกลายเป็น "8 เคล็ดลับการจับกัวฟู่เฉิง" เป็นบทความที่พูดถึงความสัมพันธ์ของเธอ กับนักร้องหนุ่มวัย 44 ปีแบบไม่ใช่ในทางที่ดีนัก

"ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่า การให้สัมภาษณ์ในการโปรโมตภาพยนตร์ธรรมาดๆ จะกลายเป็นข่าวแบบนั้นไปได้ ฉันไม่พอใจอย่างยิ่งค่ะ รู้สึกเหมือนกับตัวเองถูกหลอก" สงไต้หลิน ตอบนักข่าวก่อนจะไม่สามารถระงับอารมณ์ไว้ได้ ถึงกับเสียน้ำตาให้กับการเสนอข่าวแรงๆ ครั้งนี้เกี่ยวกับตัวเธอ

หลังจากรวบรวมสติกลับมาอีกครั้ง นางแบบสาววัย 29 ปี จึงกลับมาตอบคำถามเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง โดยอธิบายว่า เธอไม่ได้ให้สัมภาษณ์แบบนั้น แต่เป็นการบิดเบือนของนักข่าว "มีคำพูดมากมายที่เขาใส่เข้ามาเองค่ะ"

เธอยังกล่าวว่าการเสียน้ำตา และไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อยู่แบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเธอจะกลัวว่าข่าวดังกล่าวจะมากระทบความสัมพันธ์ของตัวเองกับกัวฟู่เฉิง แม้จะยอมรับว่ามันอาจจะมีผลอยู่บ้าง และยังกล่าวว่า เธอต้องออกมาพูดเรื่องนี้เพื่อทำให้ทุกอย่างชัดเจน ว่าเธอไม่ได้ให้สัมภาษณ์ไปในทำนองนั้นอย่างแน่นอน

แผ่นดินไหว IMAX, 007 ราชวงศ์ถัง, High School Musical โปรแกรมเด็ดหนังจีนปี 2010

Submitted by canjamm on 12 กุมภาพันธ์, 2010 - 16:22

"หัวอี้ บราเธอร์ส" เผยถึงโปรแกรมเด็ด ในปีนี้ของบริษัท อันได้แก่ ผลงานใหม่ของ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau), งานรีเมกหนังวัยรุ่นสุดดังจากฮอลลีวูด และหนัง IMAX เรื่องแรกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เล่าเรื่องเหตุการณ์แผ่นดินใหญ่ครั้งใหญ่ในอดีต

หัวอี้ บราเธอร์ส บริษัทผลิตภาพยนตร์ของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีแผนปล่อยผลงานฟอร์มใหญ่เข้าฉาย หวังเรียกเงินจากกระเป๋าชาวจีนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2010 ซึ่งจะเริ่มต้น ด้วยหนังรักโรแมนติกรวมดาราแนวเดียวกับ Love Actually ที่ชื่อว่า Hot Summer Days ซึ่งกำลังจะเข้าฉายในวันที่ 11 ก.พ. นี้ ขณะที่หนังแก็งสเตอร์ The Informers ที่มีเซียะถิงฟง และจางเจียฮุย รับบทนำ เป็นโปรแกรมใหญ่ถัดไป

แต่ที่น่าจับตามองก็คือ Disney's High School Musical: China ที่มีกำหนดฉายในหน้าร้อนปีนี้ เป็นหนังที่ทาง หัวอี้ ร่วมงานกับ ดิสนีย์ บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ในการหยิบเอาหนังเพลงวัยรุ่นสุดฮิตมาสร้างในรูปแบบของจีน

"ชาวจีนจะสนุกกับเนื้อเรื่องที่ส่งเสริมค่านิยมดีๆ อย่างเรื่อง ทีมเวิร์ค, การมองโลกในแง่ดี, มิตรภาพ, ศักดิ์ศรี และการค้นพบตัวเอง ที่เคยทำให้ High School Musical ได้รับความนิยมในทั่วโลกมาแล้ว และเรามั่นใจว่ามันจะประสบความสำเร็จ ในการเป็นความบันเทิงสำหรับครอบครัวชาวจีน" สแตนลีย์ จาง รองประธาน ของ บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศจีนกล่าว ซึ่ง High School Musical ฉบับจีนจะไม่ได้เป็นการหยิบเอาเวอร์ชั่นดั้งเดิมมารีเมกโดยตรง แต่จะใช้เป็นแรงบัลดาลใจในการเขียนบทขึ้นมาใหม่ เพื่อใส่ค่านิยมแบบจีนลงไปด้วย

ส่วนในครึ่งปีหลัง หัวอี้ บราเธอร์ส จะปล่อยหนังใหญ่ๆ ออกฉายอีกหลายเรื่องตั้งแต่ ภาคต่อของหนังสุดฮิต If You Are The One และ Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame หนังยอดยุคที่พระเอกชื่อดัง หลิวเต๋อหัว จะรับบทเป็นสุดยอดนักสืบ ผู้คลี่คลายคดีฆาตกรรมลึกลับในวังหลวง เป็นหนังที่ว่ากันว่าจะเป็น เจมส์ บอนด์ ของจีนแผ่นดินใหญ่ เป็น 007 ยุคราชวงศ์ถัง โดยมี ฉีเคอะ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และร่วมด้วยนักแสดงชั้นนำมากมาย อาทิ หลี่ปิงปิง, เติ่งเชา และที่พิเศษสุด หลิวเจียหลิง จะมารับบทเป็นจักรพรรดินีบูเช็กเทียน โดย Detective Dee มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 1 ต.ค. นี้

“คริสตี้ ชุง” (Christy Chung) คลอดลูกคนที่สาม เผยถึงเวลาปิดอู่เสียที

Submitted by canjamm on 10 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:47

นักแสดงชาวฮ่องกง “คริสตี้ ชุง” (Christy Chung) ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนที่สามเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปักกิ่ง โดยเจ้าตัวเผยด้วยว่าคงจะเป็นลูกคนสุดท้ายของเธอแล้ว

ลูกสาวตัวน้อยเป็นลูกสาวคนที่ 3 ของ จงลี่ถี หรือ คริสตี้ ชุง นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ และเป็นลูกคนที่ 2 ซึ่งเกิดกับสามีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์เพลง

โดยทายาทคนแรกของทั้งคู่เป็นลูกสาวที่ชื่อว่า เจเดน (Jaden) ซึ่งเกิดเมื่อปี 2008 นอกจากนั้นนักแสดงสาวชื่อดังยังมีลูกสาววัย 12 ปีที่ชื่อ แจสมีน (Yasmine) ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ครั้งก่อนด้วย

คริสตี้ ชุง กำลังจะมีอายุ 40 ปีเต็มในปีนี้ บอกว่าเธอมีความกังวลอยู่เหมือนกันว่าวัยที่มากขึ้น จะมีปัญหาอะไรกับการให้กำเนิดลูกครั้งนี้รึเปล่า โดยเฉพาะเมื่อลูกสาวที่ตั้งชื่อว่า เคย์ล่า (Cayla) คนนี้ออกมาลืมตาดูโลกก่อนกำหนดอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์

ย้อนไปเมื่อสุดสัปดาห์ คริสตี้ ชุง เกิดอาการเจ็บท้องคลอดลูกขึ้นมาในตอนเช้ามืดของวันเสาร์ที่ 6 ก.พ. สามีจึงรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันที แต่กลับพบปัญหาเมื่อไม่มีแพทย์ที่จะมาทำการคลอดครั้งนี้ สุดท้ายกลายเป็นหน้าที่ของคุณพ่อ และพยาบาลที่ช่วยกันดูแล จนทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

“ฉันรอด้วยความอึดสุดๆ เลยค่ะ แต่หมอก็ไม่มาถึงสักที สามีของฉันเป็นพ่อมืออาชีพจริงๆ เขาช่วยให้กำลังใจกับพวกพยาบาล บอกให้พวกเธอใจเย็นๆ และยังช่วยในการทำคลอด เมื่อลูกลืมตาดูโลก เขาเป็นคนอุ้มลูกมาให้กับฉัน ฉันภูมิใจในตัวเขาจริงๆ ค่ะ” นักแสดงสาวกล่าวถึงประสบการณ์สุดพิเศษในห้องทำคลอด

นางเอกคนดังเป็นปลื้มกับลูกสาวที่มีน้ำหนักแรกคลอด 3 กิโลกรัมคนนี้สุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดมาในช่วงเวลาที่กำลังเข้าใกล้วันตรุษจีนแบบนี้ เธอยังกล่าวติดตลกว่า “ต่อไปนี้บ้านเราคงได้รับซองแดงทีละสามซองเลยนะคะ ในเทศกาลตรุษจีนแบบนี้”

นอกจากนั้นคุณแม่ลูกสามแสนสวย ยังยืนยันว่าแม่หนูน้อยคงจะเป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวแล้ว “ฉันคงจะไม่มีลูกคนที่สี่แล้วล่ะค่ะ มีลูกสาวสามคนก็กำลังดีอยู่แล้ว ฉันเองไม่ได้สนใจหรอกว่าจะมีลูกชายหรือลูกสาว ขอให้พวกเขาสุขภาพดี ในฐานะแม่ก็มีความสุขที่สุดแล้ว” คริสตี้ ชุง ถีกล่าว

"จางจื้อยี่" (Zhang Ziyi) สุดซวย โดนกล่าวหาอมเงินบริจาค เจ้าตัวยอมควักกระเป๋าจ่ายเต็มจำนวน

Submitted by canjamm on 10 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:41

เรียกได้ว่าซวยซ้ำซวยซ้อนทีเดียวสำหรับสาว"จางจื้อยี่" (Zhang Ziyi) นักแสดงสาวเอเชียชื่อดังที่โดนกล่าวหาว่าแย่งสามีชาวบ้าน จนกระทั่งไปถึงเรื่องเข้าใจผิด โดนกล่าวหาอมเงินบริจาคผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวจ่ายให้ไม่ครบล้านหยวน ล่าสุดเจ้าตัวยอมควักกระเป๋าจ่ายให้ครบเต็มจำนวนแล้ว

จางจื้อยี่ นักแสดงสาวชื่อดังได้ควักเงินบริจาค 160,000 หยวน เพื่อชดเชยเงินที่ขาดไปจากเงินกองทุนที่เธอรับบริจาค ซึ่งแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริจาคเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1 ล้านหยวนแล้ว ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เสฉวน เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ปี 2008

ส่วนเรื่องที่เธอยักยอกเงินบริจาคนั้นทาง จี หลิงหลิง ตัวแทนของเธอได้ออกมากล่าวขอโทษและชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงถึงยอดเงินที่หายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่าเป็นความผิดของเธอเอง ซึ่งทั้งจางจื้อยี่และตัวเธอไม่ทราบว่าเงินบริจาคนั้นขาดหายไป จนกระทั่งนักแสดงสาวได้รับใบเสร็จจากองค์กร Chinese Red Cross Foundation ว่ายอดเงินบริจาคนั้นมีทั้งสิ้น 840,000 หยวนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จี ได้บอกกับทาง Sina.com ด้วยว่า ตอนนี้ทางผู้บริหารขององค์กรได้ออกมายืนยันแล้วว่าได้รับเงินครบถ้วน 1 ล้านหยวนแล้ว หลังนักแสดงสาวชื่อดังควักกระเป๋าจ่ายเพิ่มเพื่อชดเชยเงินที่ขาดหาย

จากกระแสข่าวว่านักแสดงสาวเป็นผู้ยักยอกเงินบริจาคนั้น สืบเนื่องมาจากมีสื่อออนไลน์แห่งหนึ่งรายงานเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังทราบยอดบริจาคที่แท้จริงจาก Chinese Red Cross Foundation ว่า จางจื้อยี่บริจาคเงินเพียงแค่ 840,000 หยวน ไม่ใช่ 1 ล้านหยวนอย่างที่เธอได้ออกมาประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ลือกันว่านักแสดงสาวยักยอกเงินส่วนที่เหลือไปจนเป็นข่าวครึกโครม

ต่อมาไม่นาน สื่อต่างๆก็เริ่มประโคมข่าวตามมา ว่านักแสดงสาวได้รับเงินบริจาคเพิ่มอีกกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเงินที่เธอได้รับบริจาคจากทั่วโลก หลังเธอเปิดให้ทุกคนร่วมโอนเงินบริจาคผ่านเข้าบัญชีส่วนตัวของเธอที่เปิดไว้ที่แบงค์ในสหรัฐอเมริกา

ซึ่งจากเรื่องนี้จี หลิงหลิง ได้ระบุว่า จางจื้อยี่มีการตั้งกองทุนบริจาคในสหรัฐฯจริง เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนจากทั่วโลกได้บริจาคเงินเข้ามาในบัญชี ซึ่งส่วนมากเป็นเงินที่มาจากบรรดาเพื่อนๆของเธอเอง

ภาพยนตร์ 14 Blades ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอู๋จุน (Wu Chun) และพ่อของเขาสนิทกันขึ้น

Submitted by canjamm on 9 กุมภาพันธ์, 2010 - 15:53

การถ่ายทำภาพยนตร์ 14 Blades ทำให้ชีวิตของอู๋จุน (Wu Chun) เปิดรับอะไรหลายๆอย่าง สำหรับเรื่องพรสวรรค์ เขาเรียนรู้วิธีการขี่ม้า, ศิลปะการต่อสู้ สำหรับเรื่องทัศนวิสัย จากการที่เขาเติบโตในประเทศบรูไนที่ร้อน เขาได้รับความประสบการณ์ของทะเลทรายสีเหลืองในหยินชวน (Yin Chuan) ที่น่าจดจำ สำหรับความสัมพันธ์ เมื่อตอนที่พ่อของอู๋จุนมาเยี่ยมเขาในเมืองจีน ในระหว่างการถ่ายทำ การได้เห็นเขาขี่ม้าอย่างสง่างาม พ่อของเขาเป็นคนบอกให้เขามาถ่ายรูปด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเข้าสู่วงการบันเทิง ที่เขารู้สึกว่า "พ่อของผมภูมิใจจากการที่มีผมเป็นลูกชาย"

การเข้าสู่จอเงินนั้นเป็นความใฝ่ฝันของอู๋จุนมาตลอดเวลา แต่เพราะว่าเส้นทางสู่ความฝันของเขานั่นราบเรียบเกินไป ทำให้เขาเปลี่ยนแผนการณ์ในชีวิต สองปีที่แล้ว เคยมีการกล่าวเป็นนัยๆว่า เขาไม่ต้องการห่างจากครอบครัวของเขานานเกินไป แม้ว่านั่นจะหมายความว่า เขาจะไม่ได้เป็นศิลปินอีกต่อไป การออกจากวงการบันเทิงก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

แต่หลังจากเขารับแสดงในภาพยนตร์ Butterfly Lovers และ 14 Blades เขากล่าวว่า "ผมโชคดีมากๆ ทำให้ผมต้องใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้" ภาพยนตร์ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นต่องานด้านการแสดง และทำให้เขามีโอกาสได้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของคนดังเพิ่มขึ้นไปอีก การถ่ายภาพนั่นเขาสวมใส่ Lanvin และ Piaget แสดงการแต่งตัวอย่างเต็มยศ

จริงๆแล้ว ในระหว่างการถ่ายทำ 14 Blades อู๋จุนพบเจอปัญหาอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เขาท้อ ในระหว่างการถ่ายทำ อยู่ๆเขาก็หันดาบไปยังนักข่าว ระยะห่างระหว่างดาบกับนักข่าวนั้นประมาณแค่ 1 ซ.ม. "ฉากศิลปินการต่อสู้หลายๆฉากต้องมีการโคลสอัพ นั่นมันจะใกล้ประมาณนี้ แต่ตาจะต้องไม่กระพริบ" ตั้งแต่เริ่มต้นการถ่ายทำ เพียงแค่กระพริบตา ทำให้เขาต้องถ่ายทำใหม่อย่างไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่

ทุกๆวันจะมีแต่การต่อสู้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ในฉากที่ต้องการให้เขาบินไปเตะแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ ทำให้ข้อเท้าเขาพลิกไปเกือบสัปดาห์ จากนั้นก็มีฉากยิงธนู ที่ผงดินระเบิดระเบิดไปก่อน ซึ่งทำให้เขาเจ็บมากถึงขนาดร้องไห้ไม่หยุด ในใจของเขาคิดว่า "มันโอเคสำหรับผมที่แขนหรือขาจะหัก แต่อย่าทำให้ผมตาบอด ไม่สามารถเห็นอะไรในโลกได้ นั่นจะทำให้ผมฆ่าตัวตาย"

"เจย์ โชว์" (Jay Chou) แป้ก!! ซุปเปอร์ฮีโร่ "Pandamen" เปิดตัวไม่สวยเรตติ้งต่ำติดดิน

Submitted by canjamm on 9 กุมภาพันธ์, 2010 - 14:59

ทีวีซีรีย์ "Pandamen" ผลงานการสร้างของ "เจย์ โชว์" (Jay Chou) ด้วยทุนสร้าง 110 ล้านเหรียญไต้หวัน เคยถูกจับตามองว่าจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งในการฉายที่บ้านเกิดและจีนแผ่นดินใหญ่ แต่หลังจากออกฉายจริง ซีรีย์เรื่องดังกล่าวกลับมีเรตติ้งที่ต่ำมาก จนอนาคตของซุปเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่รายนี้ ดูจะไม่สดใสเสียแล้ว

Pandamen เล่าเรื่องของ สองซุปเปอร์ฮีโร่ ที่มีพื้นฐานและแนวทางแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งคู่ล้วนใช้สัตว์ประจำชาติจีน มาเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวเหมือนกันทั้งคู่ Pandamen สร้างและดูแลการผลิตโดย เจย์ โชว์ โดยเขาไม่ได้ลงมารับบทนำเอง แต่ปรากฏตัวในฐานะแขกรับเชิญเท่านั้น ส่วนบทตัวเอกของเรื่องยกให้เป็นของ กลุ่มนักร้องรุ่นน้อง หนันฉวนมาม่า (Nan Quan Mama)

โดยในไต้หวัน Pandamen ออกอากาศทางช่อง CTS สถานีโทรทัศน์หลัก 1 ใน 4 ของประเทศ แต่เมื่อลงจอฉายจริง ซีรีย์กลับไม่ได้ผลตอบรับอย่างที่หลายๆฝ่ายคาดกันเอาไว้ โดยมีเรตติ้งจำนวนผู้ชมอยู่แค่ 0.77 เทียบกับรายการอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็แทบจะเรียกได้ว่าต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้

ผู้ชมชาวไต้หวันส่วนใหญ่ที่ได้สัมผัสทีวีซีรีย์ชุดนี้ ต่างส่งเสียงบ่นกันมาว่า Pandamen มีการนำเสนอที่ดูเป็นหนังสำหรับเด็กเกินไปซักหน่อย ในทางตรงกันข้าม การขมวดปมของหนังกลับยากต่อการติดตาม นอกจากนั้นคนดูส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่า หนังมีการพูดจีนกลาง ด้วยสำเนียงแบบจีนแผ่นดินใหญ่มากแบบผิดสังเกต จนชาวไต้หวันต่างสงสัยว่า เป็นการเอาใจผู้ชมในจีนแผ่นดินใหญ่มากเกินไปรึเปล่า

เจย์ โชว์ ที่รับผิดชอบในการสร้างหนังเรื่องนี้ ออกมาแสดงความรู้สึกถึงกระแสคำวิจารณ์ต่างๆ ว่า เขาไม่ได้คาดหวังตัวเลขเรตติ้งสูงๆ อยู่แล้ว แต่อยากจะทำอะไรใหม่ๆ และยืนยันว่าสำหรับเขา Pandamen ประสบความสำเร็จไปแล้ว ในฐานะการนำเสนอยุคสมัยใหม่ของหนังฮีโร่ ซึ่งโดยส่วนตัวของเขามันคือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

เจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ CTS ก็ออกมาให้การสนับสนุนนักร้องหนุ่มชื่อดัง และยืนยันว่า Pandamen ไม่ได้ล้มเหลวขนาดนั้น ถ้านับเฉพาะรายการหลัง 22.00 น. เป็นต้นไปที่สถานีเคยออกอากาศมา Pandamen ก็ถือว่าแทบจะได้รับความนิยมสูงสุดแล้ว

โจเฉิง (Joe Cheng) ยังคงเดินหน้าต่อไป แม้ว่าการร้องเพลงของเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก !!

Submitted by canjamm on 9 กุมภาพันธ์, 2010 - 10:46

คำวิจารณ์ในแง่ร้ายเกี่ยวกับการร้องเพลงของเขา แต่นั่นไม่ทำให้โจเฉิง (Joe Cheng) หมดความหลงใหลในเสียงเพลง

โจ เฉิงเข้าสู่วงการเพลงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วย EP อัลบั้ม Sing A Song ที่มีเพลงทั้งหมด 5 เพลง โดยเพลงของเขาโดยรวมแล้วถูกวิจารณ์ในแง่ลบ แต่เขาก็ยังยืนยันว่า เขาจะยังคงทำในสิ่งที่เขารักต่อไป

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาทำการโปรโมท Sing a Song เขากล่าวว่า เขาหวังว่าจะได้ออกอัลบั้มเต็มสักวันหนึ่ง แม้ว่าเขาจะยอมรับว่า เขาไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการร้องเพลง

โจเฉิงยังทำการเต้นให้ได้เห็นในมิวสิควีดีโอเพลงไตเติ้ลของเขา คู่กับเพื่อนสนิทของเขา หลินจื่อหลิง (Lin Chi Ling)

"การร้องและเต้นนั่นต่างก็ยาก แต่การร้องและเต้นไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกันนั้นยากที่สุด! ผมไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการร้องหรือเต้น ดังนั้น ผมจะต้องฝึกฝนให้หนักเป็นพิเศษ"

Milk อดีตศิลปินวง Energy รับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนการเต้นของโจ แม้ว่าหลายๆคนจะรู้จักเขาว่าเป็นคนที่ตลก โจกลับกล่าวว่า เขาเป็นอาจารย์ที่เข้มงวดมาก "เขาไม่ให้กำลังใจหรือว่าชื่นชม เขาจู้จี้มาก"

โจรับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างจริงจัง เพื่อที่จะพัฒนาต่อไปให้ประสบความสำเร็จในวงการเพลง "เทคนิคของผมแย่มากๆ ทำให้ผมต้องทำการศึกษาอย่างมาก และเรียนรู้ด้วยตัวผมเอง"

เมื่อเขาถูกถามว่า ทางบริษัทเพลงของเขามีเงื่อนไขว่าจะออกอัลบั้มเต็มให้ก็ต่อเมื่อซิงเกิ้ล EP ของเขาขายดีเท่านั้นหรือเปล่า โจเพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า "พวกเขาไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ผมสามารถรู้สึกได้!" จากนั้นโจจึงหัวเราะออกมา

Chang Yi Shou Ge MV - Joe Cheng

MediaCorpTV

S.H.E. ร่วมร้องเพลงคู่กับจูดี้ โจว (Judy Zhou) ในปักกิ่ง

Submitted by canjamm on 9 กุมภาพันธ์, 2010 - 10:03

S.H.E. จะออกอัลบั้มที่ 12 ของพวกเธอหลังจากวันตรุษจีน อย่างไรก็ตาม เพลงหนึ่งในอัลบั้มของเธอมีการเปิดเผยออกมาแล้ว ซึ่งเป็นการร้องเพลงร่วมกับ จูดี้ โจว (Judy - Zhou Ding Wei) เพื่อรุ่นน้องของพวกเธอแล้ว พวกเธอทั้งสามคนร่วมกันแสดงเพลงนี้พร้อมๆกับจูดี้ต่อหน้าสาธารณชน ในระหว่างการอัดรายการ Mi Gu Celebrity College

เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างก็กำลังยุ่งกับงานของพวกเขา และมีเวลาไม่มากนักที่จะร่วมกันฝึกฝน จูดี้ทำได้แค่เพียงฟังเพลงทางไอพ็อด และร้องออกมาคนเดียวเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเวลาในปักกิ่ง เขากล่าวว่า "ผมกังวลอย่างมาก ไม่ใช่เพราะว่าผมต้องร้องเพลงนี้ แต่เพราะว่าผมจะต้องร้องเพลงร่วมกับ S.H.E. รุ่นพี่ของผม และผมกลัวว่า การแสดงของผมจะไม่ดีพอ"

อีกทางด้านหนึ่ง S.H.E. ต่างก็ชื่นชมรุ่นน้องของพวกเธอ และยังถามด้วยว่า ใครที่เขาจะเลือกเป็นแฟนของเขา เขาตอบออกมาว่า "แน่นอน เอลล่า (Ella) เพราะว่าผมเพิ่งมีโอกาสได้แสดงร่วมกับเธอใน Down With Love ในบทแฟนของเธอ แต่บทของผมในละครนั้นเป็นคนเลวที่ทิ้งแฟนของเขา และจบลงด้วยการด่าทออย่างหนักจากผู้ชม" ในความคิดของเขา เซลิน่า (Selina) เป็นเหมือนกับพี่สาวที่มีความสวยงามอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ฮีบี้ (Hebe) เป็นเหมือนกับเพื่อนและพี่สาวของเขา

S.H.E. เดินทางไปปักกิ่งโดยเฉพาะสำหรับการร้องคู่กับจูดี้ และเพื่อเป็นการตอบแทน เขาเตรียมเป็ดปักกิ่งและหม้อไฟเพื่อสุขภาพสำหรับพวกเธอ ซึ่งทำให้พวกเธอต่างก็ประทับใจ

UDN

หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing) บนหน้าปกนิตยสาร Vogue

Submitted by canjamm on 9 กุมภาพันธ์, 2010 - 09:22

หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing) นักแสดงสาวชาวจีนมีโอกาสได้ถ่ายภาพขึ้นปกนิตยสาร Vogue ไต้หวัน เธอได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในงานมอบรางวัล 46th Golden Horse Awards ในไทเป เมื่อปี 2009 สำหรับการแสดงเป็นสายลับในภาพยนตร์ The Message

ในการสัมภาษณ์กับทางนิตยสาร เธอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความตื่นเต้นที่ได้รับรางวัล

"ฉันเชื่อในชะตากรรม คุณได้รับในสิ่งที่คุณควรได้ และสูญเสียในสิ่งที่ไม่ใช่ของคุณ ดังนั้น ฉันไม่ได้ขออะไรมากนักในชีวิต และจะไม่กระทบอะไรจากสิ่งต่างๆรอบๆตัวฉัน"

เธอจำได้ถึงความตื่นเต้นของเธอในงานมอบรางวัล แต่ก็เปิดเผยว่า เธอค่อนข้างมีความชัดเจนในใจของเธออยู่แล้ว ว่า ไม่ว่าเธอจะได้รับรางวัลหรือไม่ เธอก็ยังคงเป็นตัวเธออยู่ดี

CRIEnglish

อู๋จุน (Wu Zun) กล่าวเกี่ยวกับคนที่อาจจะเป็นแฟนของเขาได้ - เอลล่า (Ella)?, อาซา (Ah Sa)?, แอนเจล่า จาง (Angela Zhang)?, เอเรียล หลิน (Ariel Lin)?

Submitted by canjamm on 6 กุมภาพันธ์, 2010 - 14:31

จากการอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี ข่าวลือเกี่ยวกับแฟนของอู๋จุน (Wu Zun) เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เอเรียล หลิน (Ariel Lin), แอนเจล่า จาง (Angela Zhang) ไปจนถึงอาซา (Ah Sa) แม้กระทั่งอู๋จุนยังหัวเราะและกล่าวว่า "ใครที่ผมควรจะคบ ผมคบพวกเขาทั้งหมดมาแล้ว" ไม่ว่าเธอจะสนุกหรือว่าน่ารัก ดูเหมือนว่าบุคลิกของผู้หญิงที่เขาควรจะคบนั้นมีอยู่ในรายชื่อที่ลือกันมาแล้ว และอีกหนึ่งคนที่เกือบจะถูกเปิดเผยออกมา ก็คือคนที่ค่อนข้างจะคล้ายผู้ชาย ซึ่งก็คือเอลล่า (Ella) เอลล่าที่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดว่าเธอเป็นได้แค่เพียงพี่ชายน้องชายที่ดีกับอู๋จุน แต่เธอสามารถเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการเป็นแฟนของเขาด้วย เขากล่าวว่า "จริงๆแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่เอาใจใส่ และรับผิดชอบ มันไม่แน่นอนว่าเธอจะเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น" ไม่เพียงแต่เอลล่า อู๋จุนยังเปิดเผยว่า จริงๆแล้ว ศิลปินหญิงคนอื่นๆก็มีโอกาสเป็นแฟนเขาได้ "จริงๆแล้ว พวกเธอทั้งหมดมีความเป็นไปได้ที่จะมาเป็นแฟน แต่มันขึ้นอยู่กับว่าผมรู้สึกด้วยหรือเปล่า"

แม้ว่าข่าวลือจะยังคงมีต่อไปไม่หยุด ตั้งแต่อู๋จุนเข้าสู่วงการ เขายังคงเป็นโสด อย่างไรก็ตาม อู๋จุนที่มีอาชีพการงานที่ดี เขากลับไม่รู้สึกเสียใจที่เขายังโสดอยู่ "ตารางงานของผมแน่นอย่างมาก และยิ่งกว่านั้น มีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ยอมรับที่จะอยู่กับแฟนของเธอ โดยมีเวลาพบเจอเขาน้อยกว่าหนึ่งเดือนในช่วงเวลาหนึ่งปี แม้ว่าวันวาเลนไทน์ พวกเราก็ไม่สามารถใช้เวลาด้วยกันได้ ดังนั้น ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติละกัน" เขาซึ่งเป็นคนที่ดูดี ยอมรับว่า เมื่อเลือกแฟน เขาไม่ได้มองที่หน้าตาของผู้หญิง การเป็นคนซื่อสัตย์และรับผิดชอบนั่นสำคัญสำหรับเขามากกว่า เขากล่าวว่า "เพราะผมไม่ชอบผู้หญิงที่เสแสร้ง การเป็นคนใสซื่อสักนิดน่าจะดีกว่า นั่นทำให้เธอเต็มใจที่จะแบ่งปันทุกๆอย่างร่วมกับผม"

m1905