ข่าวจีน

“Twins” กลับมารวมตัวจัดคอนเสิร์ต “อาเจียว” (Ah Gill) วอนลืมเรื่องผิดพลาดในอดีต

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:57

ในที่สุดข่าวที่ว่า "Twins" วงไอดอลสุดดังจากฮ่องกง จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก็เป็นความจริงแล้ว หลังจาก "อาเจียว" (Ah Gill) และ "อาซา" (Ah Sa) ได้ออกมาประกาศว่าทั้งสองจะกลับมารวมวงเพื่อจัดคอนเสิร์ตในฮ่องกงในเดือน เม.ย. นี้

ก่อนหน้านี้ทั้งสองเพิ่งปรากฏตัวร่วมกันในการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Hot Summer Days จนมีข่าวว่า Twins ไอดอลสุดดังแห่งฮ่องกงคู่นี้ จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งในที่สุดมันก็เป็นความจริงจนได้ หลังสองสาว อาเจียว หรือ จงซินถง และอาซา ไช่เหยียนจั๊ว ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าเธอทั้งสองจะกลับมาจัดคอนเสิร์ตที่ฮ่องกงโคลิเซี่ยม เพื่อเป็นการฉลองโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Twins

ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเผยถึงธีมของงาน แต่จากโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ที่มีการปล่อยออกมาแล้ว สีดำ, เสื้อหนัง และรองเท้าบูต ส่อว่า Twins จะโตขึ้น และร็อคขึ้น "ถ้าร็อคแอนด์โรลล์ไม่มีวันตาย พวกเรา Twins ก็ไม่มีวันตาย ไม่มีวันยอมแพ้เหมือนกันค่ะ" อาซาบอกกับผู้สื่อข่าว

แต่แม้จะแสดงความมั่นใจออกมา ก็ยังมีบางอย่างที่พวกเธอกังวลอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการห่างจากการรวมวง และแฟนๆ ไปเป็นนับปีเช่นนี้ "มันเป็นเวลานานพอสมควรแล้วค่ะ ที่เราได้ร่วมงานกันครั้งสุดท้าย ตอนนี้มันจะแตกต่างออกไป เรากลัวนิดหน่อยว่าแฟนๆ จะลืม Twins ไปแล้ว เราก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะได้รับเสียงตอบรับอย่างดี"

ในโอกาสนี้สองสาวยังเอยถึงเหตุการณ์ฉาว ที่อาเจียวต้องเผชิญเมื่อสองปีก่อนด้วย พร้อมกับยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

"สำหรับโอกาสครบรอบ 10 ปีที่รวมวงกัน เราอยากจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นจริงๆ ค่ะ ฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะโอเค ตราบใดที่ฉันและอาเจียว มีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน" อาซา กล่าว พร้อมทั้งเอ่ยถึงเหตุการณ์ฉาว ที่เพื่อนของเธอไปเกี่ยวข้องกับเรื่องภาพหลุดของเฉินกวานซี (Edison Chen) ว่า อาเจียวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หลังเกิดปัญหา เธอเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิม "เธอเคยเป็นคนเงียบๆ แต่ตอนนี้เปิดเผยมากขึ้น แสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเองให้คนอื่นเห็นมากขึ้นด้วยค่ะ"

โปรเจ็คเจ้าปัญหา "Secret Fan" เดินเครื่อง "ฮิวจ์ แจ็คแมน", "หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing), "จวนจีฮยุน" (Jeon Ji Hyun) รับบทนำ

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2010 - 15:32

โปรเจ็คหนัง "Snow Flower and the Secret Fan" ที่เต็มไปด้วยปัญหาหลังการถอนตัวของ "จางจืออี้" (Zhang Ziyi) เริ่มกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง และจะได้ "ฮิวจ์ แจ็คแมน", "หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing), "จวนจีฮยุน" (Jeon Ji Hyun) มารับบทนำ

หลี่ปิงปิง นักแสดงสาวจีน จะเข้ามารับบทนำในหนังเรื่อง Snow Flower and the Secret Fan แทนที่การถอนตัวออกจากหนังอย่างไม่มีใครคาดคิดของ จางจื่ออี้ โดย หลี่ปิงปิง ได้เดินทางมาถึงโรงถ่ายที่เห่งเตี้ยน ใกล้ๆ กับเซี่ยงไฮ้ เพื่อเริ่มการถ่ายทำในวันอังคารที่ผ่านมา

นอกจากนั้นจากการรายงานของ CRIENGLISH.com นักแสดงสาวชาวเกาหลี จวนจีฮยุน ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าได้ถอนตัวออกจากหนังไปแล้ว แต่ตอนนี้มีการยืนยันว่าเธอยังจะรับบทนำหญิงอีกคน ใน Snow Flower and the Secret Fan เช่นเดิม ซึ่ง จวนจีฮยุน ก็ได้เดินทางมาถึงกองถ่ายแล้วเช่นเดียวกัน

ที่เป็นข่าวใหญ่อีกอย่างสำหรับหนังของผู้กำกับ เวย์น หวัง เรื่องนีก็คือ การได้ดาราดังชาวออสเตรเลีย ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) มารับบทนำด้วย โดยเขาจะเดินทางมาถึงในกลางเดือน ก.พ. นี้

Snow Flower and the Secret Fan เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดังปี 2005 ของ ลิซ่า ซี นักเขียนชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ซึ่งเล่าเรื่องของความสัมพันธ์ของสตรีชาวจีนสองคน ผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และรายละเอียดทางวัฒนธรรมจีนในศตวรรษที่ 19 อย่างเช่น ความไม่สงบทางการเมือง, เหตุการณ์กบฏไท่ผิง, ประเพณีการคลุมถุงชน และการมัดเท้าของสตรีชาวจีน โดยหนังจะถ่ายทำเป็นภาษาอังกฤษเพื่อฉายทั่วโลก

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีสาวเชื้อสายจีนคนดังของฮอลลีวูด 3 คนคือ เวนดี้ เมอร์ด็อกห์, ฟลอเรนซ์ สโลน, และ จางจื่ออี้ เป็นผู้อำนวยการสร้าง แต่ระหว่างการเตรียมงาน ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ จางจื่ออี้ ที่วางแผนว่าจะรับบททั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง กลับขอถอนตัวจากหนังในทุกสถานะ ไปอย่างกระทันหันเมื่อต้นเดือน ม.ค. ทั้งๆ ที่กำลังจะถึงกำหนดเปิดกล้องในอีกไม่กี่วันแล้วในตอนนั้น

"อ๊อกไซด์ แปง” เตรียมจูงมือ "แอนเจลิก้า ลี” เข้าประตูวิวาห์วันเสาร์นี้

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2010 - 15:23

ดาราสาวรางวัลม้าทองคำ "แอนเจลิก้า ลี" มีกำหนดการจะเข้าพิธีสมรสกับผู้กำกับหนังชาวฮ่องกง "อ๊อกไซด์ แปง" ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ในเกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งของกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียบ้านเกิดของฝ่ายหญิง

channelnewsasia.com รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฝ่ายหญิงว่า ทั้งคู่จะเชิญเฉพาะเพื่อนสนิท และคนในครอบครัว มาร่วมงานแต่งงานเล็กๆ ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 ก.พ. นี้ ที่เกาะแห่งหนึ่งที่ห่างออกไป จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ และต้องเดินทางด้วยเรือประมาณ 40 นาที เพื่อนคนนี้ยังบอกด้วยว่าพิธีจะจัดอย่างง่ายๆ เน้นไปที่ความอบอุ่น และโรแมนติกเป็นสำคัญ

งานแต่งงานของคู่ขวัญจะจัดขึ้นที่ชายหาดในช่วงเช้าของวัน และมีพิธีฉลองในตอนเย็น ซึ่งทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขกทั้งหมด จะอยู่ที่เกาะแห่งนั้นไปจนถึงตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น

แอนเจลิก้า ลี หรือ หลี่ซินเจี๋ย นักแสดงสาวเชื้อสายมาเลเซียวัย 34 ปี พบกับ อ๊อกไซด์ แปง ผู้กำกับชาวฮ่องกงวัย 44 ปี เมื่อ 8 ปีก่อน จากการร่วมงานกันในหนังเรื่อง The Eye (คนเห็นผี) ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลม้าทองคำ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

ถึงตอนนี้ทั้งสองครองคู่กันมาถึงเกือบ 8 ปีแล้ว ระหว่างการคบหากัน เกิดมีอุปสรรค์เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะเมื่อปี 2008 ที่ช่างภาพอิสระจับภาพของ อ๊อกไซด์ แปง เข้าโรงแรมไปกับนางแบบสาววัย 17 ปี มีข่าวลือว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ต้องมีการเลื่อนงานแต่งงานที่เดิมกำหนดจะจัดขึ้นในปี 2009 ไป เลยเถิดไปถึงเรื่องที่ว่า ทั้งสองอาจตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ จนกระทั่งผู้กำกับหนุ่ม ออกมาอธิบายว่าเขา และนางแบบสาวเป็นเพื่อนกัน และเขาเพียงไปส่งเธอที่ห้องพักเท่านั้น

สุดท้ายนางเอกชื่อดังออกมาสยบข่าวเลิก พร้อมกับแสดงความเชื่อใจในตัวของแฟนหนุ่ม หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีข่าวตามออกมาว่าทั้งสองได้ตัดสินใจจะเข้าประตูวิวาห์ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ในต้นปี 2010 ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันสุดสัปดาห์นี้แล้ว

หมอไต้หวันโดนโวยทำผิดจรรยาแพทย์ แฉความลับการแปลงเพศพิธีกรคนดัง

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2010 - 15:21

เมื่อพิธีกรสาวคนดังของไต้หวัน โดนเปิดโปงความลับว่าจริงๆ แล้วเธอเป็น กะเทยแปลงเพศ หาใช่คนสองเพศ อย่างที่ตัวเองอ้าง โดยการโดนแฉครั้งนี้ มีต้นตอมาจากอดีตแพทย์ของตัวเอง ที่อ้างว่าเป็นการเผยข้อมูลเพื่อวิชาการ แต่ถูกหลายฝ่ายตำหนิว่ากำลังทำผิดจรรยาแพทย์ ที่ทำการเปิดเผยความลับค้นไข้

โผล่อีกรายแล้วสำหรับ การเผยความลับเรื่องเพศที่แท้จริงของคนบันเทิงสาวชาวไต้หวันยังก็เกิดกรณีใกล้เคียงขึ้นอีกครั้ง หลังจากเมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน นางแบบสาว อลิเชีย หลิว ถูกเพื่อนสมัยเรียนแฉว่าเธอเคยเป็นชายมาก่อน ตอนนี้มีกรณีการแฉความลับประเภทนี้ขึ้นมาอีกแล้ว แต่เรื่องราวซับซ้อนกว่าเดิม และยังเกี่ยวข้องกับจรรยาของแพทย์ด้วย

นายแพทย์ จางจื่อจง เขียนบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ ของไต้หวันเมื่อประมาณ ปีครึ่งที่ผ่านมา เป็นการบอกเล่าประสบการณ์กว่า 35 ปีในวิชาชีพแพทย์ของเขา ในบทความ หมอจาง เล่าเรื่องที่เขาเคยช่วยเหลือให้คำแนะนำ การผ่าตัดแปลงเพศให้กับชายคนหนึ่ง ที่ต้องการเป็นผู้หญิง ซึ่งในส่วนท้ายๆ ของบทความ ก็มีการเปิดเผยว่า อดีตคนไข้ของเขาก็คือ หลี่จิง พิธีกรหญิงคนดังวัย 48 ปี แห่งไต้หวันนั่นเอง

เรื่องความเป็นหญิงไม่แท้ของ หลี่จิง นั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วในไต้หวันอยู่แล้ว เพราะเจ้าตัวเคยประกาศออกมาว่าตัวเองเป็นคนสองเพศ อย่างไรก็ตามสิ่งที่อดีตนายแพย์ของเธอนำมาเปิดเผย กลับแตกต่างกับสิ่งที่ พิธีกรคนนี้เคยแจ้งกับสาธารณะชนเอาไว้

ในหนังสือชีวประวัติส่วนตัวที่ตีพิมพ์เมื่อ 6 ปี หลี่จิง เผยว่าตัวเองเกิดเมื่อปี 1962 ในครอบครัวที่มีบิดาเป็นนายกเทศมนตรีในเมืองแห่งหนึ่งในไต้หวัน เธอเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด โดยระบุถึงเพศแต่กำเนิดของตัวเองว่า เป็นกะเทยแท้ หรือคนที่มีสองเพศ คือมีอวัยวะเพศชายและหญิงแต่กำเนิด ซึ่งครอบครอบครัวได้เลือกที่แจ้งเกิด ลงทะเบียนเธอในฐานะเด็กผู้ชายจนเมื่อเติบโตขึ้นมา เจ้าตัวเลือกที่จะเข้ารับการผ่าตัด เฉือนความเป็นชายบางส่วนออก คงไว้แต่ความเป็นหญิง

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเธอได้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และสถานะทางกฏหมายให้เป็นหญิงด้วยรึเปล่า

การออกอากาศครั้งแรกของ Down With Love แสดงนำโดยเจอรี่ (Jerry) และเอลล่า (Ella) ทำเรทติ้งได้สูงสุดถึง 4.66 !!

Submitted by canjamm on 3 กุมภาพันธ์, 2010 - 18:19

ในที่สุด Down With Love ละครไอด้อลจากทาง CTV และ GTV ก็เริ่มออกอากาศแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการปะทะกันโดยตรงกับละครดังเรื่องอื่นๆ Down With Love ก็ยังคงสามารถทำเรทติ้งได้อย่างดี ด้วยเรทติ้งเฉลี่ยที่ 2.63 ในตอนที่ออกอากาศ เอลล่า (Ella) และเจอรี่ (Jerry) เจอกัน 3 ครั้ง และในการพบกันครั้งที่ 3 ที่เอลล่าคุกเข่าลงต่อเจอรี่ (ดูได้ด้านล่างในตอนที่ 8) เรทติ้งพุ่งไปสูงถึง 4.66 แสดงให้เห็นว่า การจับคู่คู่นี้ได้รับการตอบรับอย่างดีต่อแฟนๆและผู้ชม เมื่อติดต่อไปยังพวกเขา ทั้งเจอรี่และเอลล่าต่างก็มีความสุขอย่างมากที่ละครได้เรทติ้งที่ดี เนื่องจากเอลล่ากำลังทำงานในต่างประเทศ เธอไม่สามารถชมละครที่ออกอากาศได้ทัน ทันทีที่เธอเปิดมือถือของเธอที่สนามบินในไทเปหลังจากเธอเดินทางกลับมา เธอได้รับข้อความจากไมเคิล แจ้งให้เธอรู้เกี่ยวกับเรทติ้งของละคร เธอกล่าวอย่างมีความสุขว่า "การคุกเข่านี้แน่นอนว่าคุ้มค่า! ถ้าเรทติ้งสามารถทำได้สูงกว่า 10 ฉันยินดีที่จะทำท่าวางไข่ด้วย " เมื่อถูกถามว่าเจอรี่คิดว่าอย่างไรบ้าง เนื่องจากเอลล่าเพิ่งลงจากเครื่อง เธอกล่าวว่า เธอยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อกันเลย

ก่อนที่ละคร Down With Love จะออกอากาศ ตามรถเมล์ที่มีโฆษณาของละครสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนในไทเป มีช่วงเวลาที่เจอรี่พบเห็นรถเมล์เหล่านี้ทั้งหมดในครั้งเดียว เมื่อตอนที่เขาอยู่บนท้องถนน และเนื่องจากมีจำนวนมาก เขากล่าวตลกๆว่า "ผมค่อนข้างจะงงกับการได้เห็นโฆษณามากมาย มันรู้สึกราวกับว่า ผมกำลังวิ่งไปทั่วท้องถนนในไทเป มันต้องเหนื่อยมากๆแน่" เมื่อเจอรี่ได้ยินข่าวดีเกี่ยวกับเรทติ้งที่ได้รับ เขากล่าวว่า "ผมหวังว่า ทุกๆคนจะได้เห็นเจอรี่ที่แตกต่างออกไป และเอลล่าที่ยอดเยี่ยม"

就想賴著妳 Down with Love Ep.1 part 1/9

Twins กลับมาแล้ว ด้วยการจัดงานคอนเสิร์ตในปี 2010 !!

Submitted by canjamm on 3 กุมภาพันธ์, 2010 - 17:49

Twins จะจัดงานคอนเสิร์ตสองรอบที่"ฮ่องกงโคลิเซี่ยม" ในวันที่ 16 - 17 เมษายน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วง Twins ผ่านอะไรมามากมาย แต่การฉลองครบรอบ 10 ปีของ Twins อาซา (Ah Sa / Charlene Choi) และอาเจียว (Ah Gill / Gillian Chung) จะกลับมารวมกันต่อหน้าแฟนๆอีกครั้งหนึ่ง หลังจากงานคอนเสิร์ตเมื่อปี 2006 Twins ไม่มีคอนเสิร์ตมานานถึง 5 ปี พวกเธอใช้ชื่อธีมว่า "ทุกๆคนพุ่งขึ้นไป" โดยต้องการพิสูจน์ว่า Twins สามารถที่จะเผชิญสถานการณ์อะไรก็ได้ และยังคงกลับมาอีกครั้งในจุดที่สูงขึ้น การจัดงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ของ Twins ทำให้เกิดการพูดถึงกันมากมาย ตั้งแต่พวกเธอเปิดตัวเข้าสู่วงการบันเทิงในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา แฟนๆต่างก็เติบโตมาพร้อมๆกับพวกเธอ และก้าวเข้าสู่อีกช่วงวัยหนึ่งของชีวิต

งานคอนเสิร์ตนี้ออกแบบโดย Thomas Chan โดยโปสเตอร์งานคอนเสิร์ตแสดงให้เห็นถึงความเป็นฝาแฝด ทั้งอาซาและอาเจียวต่างก็แต่งตัวเหมือนๆกัน โดยจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นอมตะของร็อคแอนด์โรล ที่เข้ากับธีมของงานคอนเสิร์ต แสดงให้เห็นว่า Twins กลับมาอีกครั้งในปี 2010 บัตรเข้าชมงานคอนเสิร์ตเริ่มเปิดจำหน่ายแล้ว โดยสามารถสั่งจองล่วงหน้าด้วยการชำระโดยบัตรเครดิตการ์ด

Mingpao

เซลิน่า (Selina) แห่งวง S.H.E. ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในช่วงวันวาเลนไทน์

Submitted by canjamm on 1 กุมภาพันธ์, 2010 - 22:58

เซลิน่า (Selina) และ Chang Cheng Zhong เพื่อนชายที่มีอาชีพเป็นทนายจากฮ่องกง กำลังคบกันมามากกว่า 2 ปีแล้ว แต่เนื่องจากเพื่อนชายของเธอกำลังยุ่งกับงานของพขา พวกเขาไม่สามารถใช้เวลาร่วมกันในช่วงวันวาเลนไทน์ได้ ในระหว่างวันตรุษจีน เซลิน่าทำได้เพียงออกไปช็อปปิ้งกับครอบครัวของเธอในเกียวโต

เนื่องจากเคิร์สเตน (Kirsten Ren) น้องสาวของเธอเสร็จสิ้นการสอบไปแล้ว เซลิน่า, น้องสาว และแม่ของเธอจะไปพักผ่อนกันที่เกี่ยวโตร่วมกับเพื่อนๆ พ่อของเธอจะยังคงอยู่ในไต้หวันเพื่อดูแลปู่ของเซลิน่า Kirsten กล่าวตลกๆว่านิสัยการช็อปปิ้งของเซลิน่าคล้ายๆกับแม่ของเธอ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอเดินทางไปต่างประเทศ พวกเธอจะซื้อกระเป่ามียี่ห้อให้เป็นของขวัญแก่ครอบครัว เซลิน่ามักจะจดสไตล์การแต่งตัวของเธอ และพวกเธอสองพี่น้องมักจะแบ่งกันใช้เสื้อผ้า

เมื่อไม่นานมานี้ เซลิน่าต้องการแต่งตัวสไตล์เซ็กซี่ แต่เคิร์สเตนยังไม่มั่นใจที่จะลองแต่งตัวอย่างนั้น ในขณะนี้ เซลิน่ากำลังเตรียมตัวที่จะออกอัลบั้มใหม่ ในขณะที่เคิร์สเตนต้องการจะรื้อฟื้นอาชีพของเธอ รวมถึงความสามารถด้านภาษาอังกฤษ

เซลินาเริ่มออกเดทกับเพื่อนชายของเธอเมื่อปี 2007 ความสัมพันธ์ของพวกเขานั่นค่อนข้างมั่นคง สำหรับสมาชิกคนอื่นๆในวง S.H.E. เอลล่า (Ella) กลับเข้าไปสู่วงการละครอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ฮีบี้ (Hebe) จะออกอัลบั้มเดี่ยวของเธอในเร็วๆนี้

เซลิน่าเริ่มที่จะคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะแต่งของของเธอ แม้ว่าเพื่อนชายของเธอกำลังยุ่งอยู่กับงาน แม่ของเซลิน่าก็หวังว่าลูกสาวของเธอจะได้แต่งงานก่อนที่เธอจะอายุ 30 ปี แม่ของเธอยังหวังว่า ลูกเขยของเธอจะเป็นผู้ใหญ่ และมีอาชีพการงานที่มั่นคง และที่สำคัญก็คือ รักและเอาใจใส่เซลิน่า

Epoch Times

S.H.E. เป็นหนึ่งในสามของศิลปินที่มีรายได้มากที่สุดในปี 2009

Submitted by canjamm on 1 กุมภาพันธ์, 2010 - 22:37

แม้ว่า S.H.E. จะไม่ได้ออกอัลบั้มใดๆในปี 2009 พวกเธอก็ยังทำงานไม่หยุดตลอดทั้งปีเพื่อให้ได้รับรางวัลที่ยอดเยี่ยม ทำให้พวกเธอใจดีถึงขนาดบริจาคเงินเป็นตัวเลข 6 หลักเป็นรางวัลแก่พนักงานในบริษัทเพลงของพวกเธอในช่วงการรับประทานอาหารค่ำปลายปี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับการออกอัลบั้มใหม่หลังจากตรุษจีน พวกเธอทั้งสามคนปฎิเสธที่จะไปขึ้นแสดงในงานรับประทานอาหารกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เธอได้รับเงินมากถึง 10 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

เฉพาะปี 2009 S.H.E. ร่วมถ่ายทำโฆษณาทั้งหมด 20 ชิ้น ทั้งภายในและนอกไต้หวัน, การแสดงตามงานต่างๆอีก 15 ชิ้น และคอนเสิร์ต 4 งาน ถือได้ว่าพวกเธอทำงานไม่ได้หยุดเลยตลอดทั้งปี ในข่าวล่าสุดเกี่ยวกับศิลปินที่มีรายได้มากที่สุดนั้น พวกเธอเป็นหนึ่งในสามที่มีรายได้มากที่สุด ด้วยรายได้ที่มากเมื่อปีที่แล้ว พวกเธอจะบริจาคเงินจำนวน 6 หลักเป็นรางวัลให้แก่พนักงานที่ทำงานอย่างหนักในงานทานอาหารปลายปี อัลบั้มใหม่ของพวกเธอจะออกมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2010 และเพื่อตั้งหน้าตั้งตาทำผลงานอัลบั้มใหม่ของพวกเธอ พวกเธอจึงปฎิเสธการแสดงในงานรับประทานอาหารไปถึง 5 งาน นอกจากนี้แล้ว นอกจากงานคอนเสิร์ตทั่วโลกที่พวกเธอจะขึ้นแสดงในต่างประเทศ พวกเธอยังจะจัดงานคอนเสิร์ตในไต้หวันที่ไทเปอารีน่าในเดือนพฤษภาคม 2010 อีกด้วย

UDN

"มิเชล โหยว" (Michelle Yeoh) หน้าจอจอมยุทธหญิง หลังจอเป็นแม่สื่อ

Submitted by canjamm on 1 กุมภาพันธ์, 2010 - 22:02

ภาพชุดแรกจาก "Rain of Swords" หนังผลงานการสร้างของ จอห์น วู (John Woo) ที่นักแสดงชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนชื่อดัง "มิเชล โหยว" หรือ "หยังจื่อฉุน" แสดงนำ ได้ถูกเผยแพร่สู่สายตาของแฟนหนังแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในการพูดคุยนักข่าว บทบาทการเป็นแม่สื่อของนักแสดงสาวบู๊คนนี้จะเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจมากกว่า

ในการพูดคุยกับนักข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้กำกับชาวไต้หวัน ซูเจ้าปิน (Su Chao Bin) กล่าวถึงบทบาทของ มิเชล โหยว ว่าเธอจะแสดงเป็นนักฆ่าที่ยอมดัดสินใจวางมือจากยุทธจักร หลังโชคชะตานำพาให้เธอ ไปตกหลุมรักชายหนุ่มคนหนึ่ง ทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์กันโดย เขาไม่ได้ล่วงรู้ความลับที่ว่าบิดาของตัวเองที่จบชีวิตลงไป ก็เพราะฝีมือจากหญิงสาวคนนี้นี่เอง

เรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับ ความรักที่เบ่งบาน แต่กลับถูกอดีตอันเจ็บปวดตามาหลอกหลอน โดยหนังยังได้นักแสดงชาวเกาหลีชื่อดัง จองวูซอง (Jung Woo-Sung) มารับบทนำร่วมด้วย มีดารานักแสดงชื่อดังมากมายรวมถึง สวี่ซีว์หยวน (Da S / Barbie Hsu), หลินซีเหลย (Kelly Lin), ชอว์น หยู (Shawn Yue) และหวังซูฉี (Wang Xue Qi)

Rain of Swords หรือ "Jianyu Jiangwu" ที่ชื่อภาษาจีนของหนังแปลแบบตรงตัวว่า ฝนกระบี่สู่ยุทธจักร โดยขณะนี้หนังกำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำที่เจ้อเจียง และมีกำหนดเข้าฉายในวันชาติปีนี้

มิเชล โหยว ไม่เคยสร้างความผิดหวัง กับการรับทบาทจอมยุทธหญิง ที่เธอเองแสดงได้อย่างน่าเชื่อถือ และมีเสน่ห์แบบหลุดออกมาจากนิยายกำลังภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลงานของผู้กำกับ อังลีเรื่อง "Crouching Tiger and Hidden Dragon" แต่ในชีวิตจริงดูเหมือนว่านักแสดงวัย 47 ปีผู้นี้จะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจากบทบาทแม่สื่อของเธอมากกว่า

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มิเชล โหยว ไม่เพียงรับหน้าที่ในเบื้องหน้ากล้อง แต่เธอยังทำงานเบื้องหลัง รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างคนหนึ่งของเรื่อง และมากองถ่ายเกือบทุกวันแม้จะไม่มีคิวเข้ากล้องก็ตามที ... "ฉันเคยเป็นแบบ หลินซีเหลย หรือสวี่ซีว์หยวน ที่เพิ่งมีโอกาสแสดงฉากบู๊ครั้งแรก คนที่เคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อนอย่างฉันอาจจะช่วยแนะนำอะไรให้กับพวกเธอได้บ้าง อาจจะช่วยเตือนอะไรบางอย่าง ที่จะป้องกันจากการบาดเจ็บได้"

"โจวเหวินฟะ" (Chow Yun Fat) เตรียมทุ่มเงินล้านจ้างสาวอุ้มบุญ หวังได้ทายาทคนแรก

Submitted by canjamm on 1 กุมภาพันธ์, 2010 - 21:56

มีรายงานว่า "โจวเหวินฟะ" (Chow Yun Fat) ตัดสินใจจะต้องมีทายาทสืบสกุลให้ได้ แม้จะต้องอาศัยหญิงคนอื่นมาทำหน้าที่อุ้มบุญให้ (Surrogate mother) โดยมีรายงานข่าวว่าดาราชื่อดังชาวฮ่องกง พร้อมจ่ายเงินจำนวนหลักล้านเหรียญ ให้กับหญิงที่พร้อมทำหน้าที่นี้ด้วย

โจวเหวินฟะ ใช้ชีวิตคู่กับ จัสมิน ตัน (Jasmine Tan) ภรรยาวัย 51 ปี ชาวสิงคโปร์ มาถึง 24 ปี หลังจากแต่งงานกันตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งแตกต่างจากดาราชาวฮ่องกงจำนวนมาก ที่มักจะปกปิดความสัมพันธ์เพราะเกรงว่าจะกระทบชื่อเสียงและความนิยม แต่ทั้งคู่กลับเลือกที่จะอยู่ด้วยกันอย่างโดยไม่มีการปิดบังใดๆ จนกระทั่งได้รับการยกย่องที่ครองรักกันอย่างยาวนานและเปิดเผย เป็นคู่รักตัวอย่างแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามการไร้ทายาทสืบสกุลยังเป็นปัญหาที่ โจวเหวินฟะ ไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้

ซึ่งอะไรก็ไม่สำคัญสำหรับนักแสดงหนุ่มใหญ่ผู้นี้ เท่ากับความต้องการให้มารดาวัย 90 ปีของตัวเอง ได้สมหวังกับการอุ้มหลานคนแรกเสียที แต่ดูเหมือนว่าความหวังดังกล่าวจะเป็นเรื่องเลือนลางไปทุกขณะ เมื่อภรรยาของเขาเริ่มมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังสุขภาพยังไม่ค่อยดี และมีปัญหาการมีบุตรยาก จนกระทั่งมีการลือกันว่าถึงตอนนี้ สองคู่รักคนดังแห่งฮ่องกง อาจตัดสินใจใช้วิธีทางการแพทย์เข้าช่วย

Yahoo News รายงานข่าวว่าความคิดดังกล่าวมาจาก หลี่ไหลฟง (Chan Lai-Fong) มารดาวัย 90 ปี ของพระเอกชื่อดัง ที่ได้แนะนำให้ลูกชายและลูกสะใภ้ ให้เลือกวิธีหาหญิงสาวคนอื่นมาทำหน้าที่อุ้มบุญ อุ้มท้องลูกคนแรกให้แทนที่ จัสมิน ตัน ที่ไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้เอง

โดยว่ากันว่าตอนนี้มีคนรู้จักกับโจวเหวินฟะ มารับหน้าที่ตามหาสตรีที่มีคุณสมบัติอันเหมาะสม โดยคัดเลือกสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ยังอายุน้อย และมีการศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อทำหน้าที่อุ้มท้องลูกของ โจวเหวินฟะ และภรรยา แลกเปลี่ยนกับเงินจำนวนถึงประมาณ 1 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ขาดความเชื่อมั่นในวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

Submitted by canjamm on 28 มกราคม, 2010 - 22:13

เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวว่ามีผู้หญิงท้องคนหนึ่งที่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เธอได้รับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่นั่นทำให้เธอแท้งในเวลาต่อมา ทางด้านจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ที่กำลังท้อง 5 เดือนนั่นได้อ่านข่าวนี้เข้า และตะโกนด้วยความกลัว เธอกล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของลูกของเธอ เธอทานวิตามิน, เข้านอนเร็ว, ตื่นนอนเช้า และจะไม่ฉีดวัคซีน พยายามทำทุกอย่างที่เธอจะทำได้เพื่อความปลอดภัยของลูกในท้องของเธอ เหตุการณ์ที่วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่สามารถปกป้องทารกในครรภ์ได้ ทำให้สาธารณชนขาดความมั่นใจในตัววัคซีน เมื่อข่าวนี้ออกมา ทำให้ผู้หญิงท้องต่างก็กลัว รวมถึงจางป๋อจือด้วย

สำหรับเซี๊ยะถิงฟง (Nicholas Tse) สามีของเธอ ที่ต้องออกไปถ่ายทำหนังเป็นประจำ และทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อหวัดได้อย่างง่ายดาย จางป๋อจือกล่าวว่า "พวกเรามีเด็กที่บ้าน ฉันบอกเขาให้ล้างมือ และรีบอาบน้ำทันที เมื่อเขากลับมาบ้าน ฉันจะใส่ใจอย่างมากกับความสะอาดและทำให้ถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ"

Oriental Daily

"จางจื่ออี้" (Zhang Ziyi) ถอนตัวจากหนัง "Snow Flower and the Secret Fan" แล้ว

Submitted by canjamm on 28 มกราคม, 2010 - 21:23

สื่อจากจีน รายงานว่า "จางจื่ออี้" (Zhang Ziyi) ได้ขอถอนตัวจากหนัง "Snow Flower and The Secret Fan" ทั้งในบทบาทนักแสดงนำ และผู้อำนวยการสร้างแล้ว โดยทางตัวแทนของเธอให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของตารางการทำงาน แต่สื่อจากจีนกลับมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับข่าวลือฉาวๆ ก่อนหน้านี้ของเธอมากกว่า

ภาพยนตร์เรื่อง Snow Flower and The Secret Fan เป็นงานที่ถูกจับตามองด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ ตั้งแต่การเป็นหนังที่สร้างมาจากนิยายชื่อดัง, เป็นหนังที่ จางจื่ออี้ ลงมือสร้างเองเป็นเรื่องที่สอง, เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับฮอลลีวูดเชื้อสายจีนคนดังอย่าง เวย์น หวัง และเป็นหนังภาษาอังกฤษเรื่องที่สองของ จวนจีฮุน (Jun Ji Hyun) นักแสดงสาวชาวเกาหลีชื่อดัง

อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้ Snow Flower and The Secret Fan กลายเป็นโปรเจ็คที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนไปเสียแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อจางจื่ออี้ถอนตัวออกจากหนังไป ทั้งในบทบาทผู้อำนวยการสร้าง รายงานข่าวชิ้นดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จวนจีฮุน นักแสดงนำหญิงอีกคนของเรื่อง ก็ขอถอนตัวออกไปจากหนังแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่ากำหนดเปิดกล้องปลายเดือน ม.ค. ต้องเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด

โดยในรายข่าวระบุว่า ผู้อำนวยการสร้าง กำลังเร่งหานักแสดงนำหญิงคนใหม่มารับบทนำทั้งสองของเรื่องแทน โดยมีรายชื่อดาราสาวชาวจีนดังๆ มากมายมาเป็นตัวเลือก ตั้งแต่ หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing), เกาหยวนหยวน (Gao Yuan Yuan), ฟานปิงปิง (Fan Bing Bing) รวมถึง ซูฉี (Shu Qi) ที่เคยปฏิเสธบทนำจากหนังเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่งด้วย

การถอนตัวจากหนัง ซึ่งตัวของเธอเองมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ทั้งงานเบื้องหน้า และเบื้องหลังแบบนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อการถอนตัวเกิดขึ้นหลังจาก ข้อพิพาทของดาราสาว กับสื่อเจ้าใหญ่ในจีนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง จางจื่ออี้ได้ฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทกับ นิตยสารที่ลงบทความกล่าวหาว่าเธอ "เป็นมือที่สาม ผู้ทำลายครอบครัวคนอื่น" ซึ่งคดีกำลังอยู่ในช่วงดำเนิน และตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ของคดีเพิ่มเติมออกมา

สาวจีนเตรียมศัลยกรรมหน้าให้เหมือน "เจสสิก้า อัลบ้า" (Jessica Alba) หวังเอาชนะใจแฟนเก่า

Submitted by canjamm on 28 มกราคม, 2010 - 21:12

หนังสือพิมพ์ "เซียงไฮ้ เดลีย์" รายงานว่า สาวชาวจีนคนหนึ่ง หวังเอาชนะใจอดีตแฟนหนุ่ม ด้วยการทำศัลยกรรมเปลี่ยนตัวเองให้เหมือน "เจสสิกา อัลบ้า" (Jessica Alba) นักแสดงชื่อดังชาวสหรัฐฯ ซึ่งแฟนเก่าของเธอคลั่งไคล้อย่างขนาดหนัก

เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข่าวดังขึ้นมา เมื่อหญิงสาวคนนี้ ยังไม่มีเงินก้อนใหญ่พอสำหรับการผ่าตัดใหญ่เปลี่ยนแปลงตัวเอง สิ่งที่เธอทำก็คือ การได้ทำการโพสต์รูปของตัวเอง ที่แต่งหน้า และใส่วิกผมให้เหมือนกับดาราชื่อดังที่เธอต้องการเป็น ลงบนกระดานข่าวของเว็บไซต์ชื่อดังในประเทศจีน โดยหวังว่าอาจจะมีสถาบันทางการแพทย์ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่าย และการผ่าตัด ที่จะทำให้ฝันครั้งนี้กลายเป็นความจริงได้ในที่สุด

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลศัลยกรรมพลาสติกในเซี่ยงไฮ้ ได้ทำการติดต่อมาถึงเธอ และมีการนัดหมายพบปะกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งหลังจากการพูดคุย โรงพยาบาลได้ให้ข้อมูลว่า สาววัย 21 ปีคนนี้ มีพื้นเพจากหูเป่ยทำงานอยู่ที่บริษัทอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง โดยเธอได้แจ้งความจำนงกับโรงพยาบาล ว่าต้องการทำศัลยกรรมตกแต่งตั้งแต่ ดึงหางคิ้ว, ทำตาสองชั้น และทำจมูกใหม่ เพื่อให้ใบหน้าของตัวเองมีความใกล้เคียงกับ ความสวยของ เจสสิก้า อัลบ้า นักแสดงชื่อดังชาวสหรัฐมากที่สุด

อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลจะไม่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมให้กับเธอทันทีในตอนนี้ เพราะนายแพทย์ต้องแน่ใจก่อนว่า สาวคนนี้ได้เตรียมความพร้อม และรับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัด, การใช้ชีวิตหลังจากนั้น รวมถึงการตระหนักถึงสายตาของคนอื่นๆ ที่จะมีต่อตัวเธอด้วย ... "เรื่องค่าใช้จ่ายไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง และในทางเทคนิคแล้ว การทำศัลยกรรมลักษณะนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่การผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้ เราหวังว่าเธอจะจริงจังกับสิ่งที่กำลังจะทำ"

"ฉันได้ตัดสินใจไปแล้วค่ะ" สาววัย 21 ที่เรียกตัวเองว่า เสี่ยวชิง กล่าวกับหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้เดลี่ย์ทางโทรศัพท์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเอง "ฉันไม่ได้ทำเพื่อแฟนเก่าเท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นการทำเพื่อตัวเองด้วยค่ะ ปกติฉันเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแอ ถึงตอนนี้จึงต้องการทำอะไรบางอย่างที่จะเป็นการท้าทายตัวเอง และทำให้ฉันกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นมา หลังจากผ่านมันไปได้"

GTV/CTV ลงทุนเพิ่มอีก 1.5 ล้านเหรียญ เพื่อโฆษณาละคร Down With Love ก่อนจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 31 ม.ค.นี้

Submitted by canjamm on 27 มกราคม, 2010 - 17:46

สองสมาชิกวง F4 เจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) และแวนเนส (Vanness Wu) จะแข่งกันจะๆในวันที่ 31 มกราคม 2010 ด้วยละครไอด้อลของพวกเขา ทางด้านแวนเนสที่แสดงในละคร Autumn's Concerto ของทาง TTV และ SET สามารถทำเรทติ้งได้อยู่ที่ 7 ทางด้านละคร Hi My Sweetheart ของทาง CTS สามารถทำเรทติ้งได้สูงสุดที่ 5 ทำให้ทาง CTV และ GTV ทำการขยายการโปรโมทละคร Down With Love ออกไป โดยในวันที่ 25 มกราคม ทั้งสองสถานีทีวีจะลงทุนอีก 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อโฆษณาละครตามป้ายรถประจำทาง 10 จุดตามถนน Renai ในไทเป โฆษณานี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความรักในละคร Down With Love

GTV ทำการเจาะจงเลือกป้ายรถประจำทางตามเส้นทาง เริ่มตั้งแต่ The National Dr. Sun Yat-Sen Memorial Hall ไปถึงถนน Lin Sen สายใต้ แต่ละป้ายรถประจำทางจะมีธีมที่แตกต่างกันไปแสดงให้เห็นเรื่องราวความรักระหว่างเจอรี่และเอลล่า (Ella) ในละคร Down With Love คนทั่วไปสามารถเข้าไปถ่ายภาพคู่กับโฆษณาชิ้นนี้ และนำมาอัพโหลดขึ้นบล็อกของพวกเขา พวกเขาสามารถส่งเว็บเพจผ่านทาง MSN หรือส่งไปยังกระทู้ของ Down With Love ซึ่งจะทำให้มีโอกาสได้รับรางวัลเป็นภาพพร้อมลายเซ็นของสองนักแสดงนำชายและหญิง

Down With Love จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 31 มกราคมนี้ จากการแข่งขันกันอย่างหนัก โดยเฉพาะละครเรื่อง Hi My Sweetheart ที่จะออกอากาศตอนสุดท้ายในวันที่ 31 มกราคม ทำให้ทางสถานีทีวีพยายามทำให้ดีที่สุดในการโปรโมทละครผ่านทุกช่องทางที่ทำได้

China Times

"อาซา" (Ah Sa) รับไม่ได้ ถูกลือเกี่ยวข้องนักพรตบ้ากาม

Submitted by canjamm on 27 มกราคม, 2010 - 15:24

"อาซา" (Ah Sa) หรือ “ไช่จั๊วเหยียน” (Cai Zhuo Yan) หนึ่งสาวจากวง Twin ออกมาแถลงด้วยความไม่พอใจ หลังมีการโยงชื่อของเธอไปในทำนองว่ามีความสัมพันธ์ในฐานะพ่อ-ลูกบุญธรรม กับ นักพรต 18 มงกุฎ ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

โอหยังกัวะฟู ผู้ที่อ้างตัวเป็นนักพรตลัทธิเต๋า (MaoShan Master) ถูกจับกุมฐานล่วงละเมิดทางเพศต่อนางแบบสาวด้วยการขอมีเพศสัมพันธ์ แลกกับการเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของพวกเธอให้รุ่งเรือง แต่นางแบบบางส่วนตัดสินใจแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแทน จนกระทั่งมีการจับกุม และนำมาซึ่งการตัดสินให้เขามีความผิดต้องโทษจำคุกนาน 81 เดือน

อย่างไรก็ตามหลังจากถูกจับกุม สื่อมวลชนได้ทำการขุดคุ้ยเรื่องราวดังกล่าวต่อ และอ้างว่าไม่ใช่เฉพาะนางแบบเท่านั้นที่มีชื่อพัวพันอยู่กับนักพรตนอกรีตผู้นี้ แต่ยังมีดาราและนักร้องอีกหลายคนด้วย "อาซา" หรือ ไช่จั๊วเหยียน หนึ่งในสองสาว Twins ไอดอลสุดดังแห่งฮ่องกง กลายเป็นหนึ่งในคนที่ถูกพาดพิงในข่าวลือดังกล่าว

โดยมีการระบุว่า เธอมีความสัมพันธ์ในฐานะลูกบุญธรรมของผู้กระทำความผิด รวมถึงมีข้อมูลว่า นักร้องสาวยังพึ่งพิงในไสยเวทย์ของนักพรตคนนี้ ในการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมตัวเอง เพื่อความโด่งดัง และคำแนะนำที่ทำให้เธอยุติความสัมพันธ์กับดาราตลก เจิ้งจงจี (Ronald Cheng)

อาซาออกมาพูดเรื่องนี้ในการร่วมงานอีเวนต์ของสถานีวิทยุรายการหนึ่ง พร้อมกับกล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงว่า

"ฉันเพิ่งกลับมาจากการพักผ่อนที่ญี่ปุ่นกับเพื่อนๆ หลายคน แต่จริงๆ แล้วฉันเองเกือบจะยกเลิกการเที่ยวครั้งนี้ไว้ก่อนด้วยซ้ำ เพื่อที่จะมาแก้ข้อสงสัยในข่าวพวกนี้ ว่าฉันเองไม่เคยมีพ่อบุญธรรมเลย แต่มีลูกบุญธรรมอยู่สองคน พูดแบบนี้เป็นการดูถูกสติปัญญาของฉันชัดๆ เลยนะคะ ลืมเรื่องนี้ไปได้เลย เขา (นักพรต) รับโทษจากสิ่งที่ได้กระทำไปแล้ว ครอบครัวของเขาก็คงจะไม่มีความสุขนัก ฉันไม่อยากจะซ้ำเติมใครในเวลานี้ค่ะ" นักแสดงสาววัย 27 ปีกล่าว

นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ไต้หวันรับ เคยใช้คำนำหน้าว่า "นาย"

Submitted by canjamm on 26 มกราคม, 2010 - 11:37

นางแบบสาวชาวชื่อดังไต้หวัน "อลิเชีย หลิว" (Alicia Liu) ออกมายอมรับแล้วว่า ข่าวลือที่ว่าเธอเคยเป็นผู้ชาย และผ่านการผ่าตัดแปลงเพศจนกลายเป็นผู้หญิงอย่างในปัจจุบันเป็นเรื่องจริง

อลิเชีย หลิวซุนอ้าย (Liu Xun Ai) หรือที่ชาวไต้หวันเรียกกันว่า เสี่ยวอ้าย (Xiao Ai) ออกมาเปิดเผยถึงความลับที่ว่า เธอเคยเป็นผู้ชายมาก่อน และผ่านการผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงเมื่ออายุได้ 18 ปี

"แฟนหนุ่มของฉันเป็นคนออกเงินค่าผ่าตัดให้ค่ะ" นางแบบชื่อดังชาวไต้หวัน บอกในการให้สัมภาษณ์กับ นิตยสารฉบับหนึ่งในไต้หวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากยอมรับว่าเมื่อ 5 ปีก่อน เธอเคยเป็นผู้ชายมาก่อน

สาววัย 24 ปี เริ่มสร้างชื่อขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในงานถ่ายแบบ, เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า และเริ่มต้นมีงานในวงการโทรทัศน์ไต้หวัน เธอได้รับคำชมว่ามีใบหน้า กับรอยยิ้มสวยเหมือนกับเทพธิดา, เสียงหวานราวกับนางฟ้า ซึ่งมาพร้อมกับรูปร่างเซ็กซี่ด้วยสัดส่วน 34C-25-34 ส่วนสูง 171 เซนติเมตร และน้ำหนัก 50 กิโลกรัม โดยไม่มีใครระแคะระคายมาก่อน ว่าสาวสวยคนนี้เคยใช้คำว่านายนำหน้าชื่อมาก่อน และมีชื่อเดิมว่า "จื่อหัว" (Zi Hua)

ความลับของนางแบบสาวสวยเริ่มเป็นที่พูดถึงในอินเตอร์เน็ต หลังจากเพื่อนเก่าเมื่อสมัยเรียนคนหนึ่ง เป็นคนนำข้อมูลเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย หลังเริ่มรู้สึกคุ้นหน้านางแบบในโทรทัศน์คนหนึ่ง จนกระทั่งจดจำได้ว่า เคยร่วมชั้นกับเธอเมื่อสมัยมัธยมกับสาวคนนี้ แตกต่างที่ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กผู้ชายอยู่ พร้อมกันนี้ อดีตเพื่อนเก่ายังแสดงหลักฐานเป็นภาพถ่ายในหนังสืออนุสรณ์ สมัยที่เธอยังเป็นผู้ชายอยู่ ซึ่งแม้หน้าตาจะบ่งบอกได้ยาก ว่าเธอคนนี้เป็นเพศอะไรกันแน่ แต่ข้อมูลระบุอย่างอย่างชัดเจนว่า หนุ่มหน้าหวานคนนี้เป็นนักเรียนชาย

หลังจากข่าวลือถูกแพร่สะพัดไปเรื่อยๆ นางแบบสาวได้จัดแถลงข่าวขึ้น แต่ไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธข่าวดังกล่าวอย่างชัดเจน และชี้แจงว่าสำหรับตัวเธอเอง รู้สึกมีความสุขกับตัวตน และความเป็นอยู่ในปัจจุบันอยู่แล้ว โดยไม่คิดกลับไปรื้อฟื้นเรื่องในอดีตขึ้นมาอีก

สลัดภาพหวือหวา "ถังเหว่ย" (Tang Wei) รับบทสาวข้างบ้านในหนังใหม่ "Crossing Hennessy"

Submitted by canjamm on 25 มกราคม, 2010 - 13:21

ด้วยเสื้อผ้าธรรมดา และการแต่งหน้าที่ดูพิลึก เหมือนไม่ได้มาจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพ เป็นสาวข้างบ้านธรรมดาๆ นักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ๋ "ถังเหว่ย" (Tang Wei) สร้างความฮือฮาให้กับสื่ออีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิม ในผลงานใหม่ของเธอ "Crossing Hennessy" เป็นการกลับมารับงานแสดงครั้งแรกหลังจากโด่งดังและอื้อฉาวกับบทสุดๆ ในหนังเรื่อง "Lust, Caution" เมื่อสองปีก่อน

ในผลงานเรื่องนี้ ถังเหว่ย จะรับบทเป็นสาวผู้เก็บตัวจากสังคม ซึ่งถึงวัยที่คนรอบๆ ตัวคิดว่าน่าจึงถูกเวลาแต่งงานของเธอได้แล้ว จนนำมาซึ่งการจับคู่กับหนุ่มใหญ่เจ้าของร้านไฟฟ้า ที่รับบทโดย จางเซียะโหย่ว (Jacky Cheung)

Crossing Hennessy เป็นผลงานการกำกับของ ไอวี่ โห อดีตนักเขียนบทชื่อดังเจ้าของผลงาน Comrade, Almost the Love story (เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว) โดยเป็นงานที่ทุกฝ่ายคาดหวังว่าจะสามารถเริ่มต้นอาชีพให้กับสาว ถังเหว่ย อีกครั้ง โดยหนังมีกำหนดฉายปีนี้ ในหลายๆ ประเทศทั่วโลกยกเว้นในจีนแผ่นดินใหญ่บ้านเกิดของนางเอกของเรื่อง

หลังจากเป็นที่รู้จักจากบทหวือหวาสุดๆ ในหนังเรื่อง Lust, Caution ของ อังลี ในปี 2007 หนังรางวัลที่โด่งดังไปทั่วโลก และได้รับคำชมในฝีมือการแสดง ยกเว้นรัฐบาลจีนที่ไม่พอใจในการเล่นฉากเปลือย และเลิฟซีนที่รุนแรงเกินธรรมดา จนเป็นที่มาของข่าวการแบนยาว 10 ปี ที่เกือบจบอาชีพในวงการของถังเหว่ย

หลังจากถูกรัฐบาลแบน นักแสดงสาวตัดสินใจอพยพและเปลี่ยนสัญชาติเป็นฮ่องกง และเริ่มต้นงานในวงการอีกครั้ง ตั้งแต่เริ่มการถ่ายทำ Crossing Hennessy ถังเหว่ย ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และไม่ทำตัวให้เป็นข่าว จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ มีรายงานจากฮ่องกงว่า บิดาของเธอเดินได้เดินทางมาฮ่องกงเพื่อเรื่องงาน ในโอกาสดังกล่าวเขาได้กล่าวให้กำลังใจ ในทุกๆสิ่งที่ลูกสาวคนนี้กำลังทำ

ถังหยูหมิง ศิลปินพู่กัน บิดาของนักแสดงสาวคนดัง กำลังจะมีงานแสดงผลงานขึ้นที่ฮ่องกง กล่าวถึงลูกสาวว่า เป็นคนที่มีไหวพริบ, เลี้ยงง่าย และตั้งใจทำงาน เมื่อถูกถามถึงงานอันอื้อฉาวของลูกสาว ถังหยูหมิง ตอบว่าเขาได้ดูแล้ว และยอมรับได้ในฐานะงานศิลปะ "ผมคิดว่าเธอแสดงได้ดี หนังไม่มีปัญหาอะไรกับผม ถึงอย่างไรมันก็เป็นงานที่เธอสู้ เพื่องานศิลปะ"

อาเจียว (Gillian Chung) แห่งวง Twins ฉลองวันเกิด ก่อนจะเดินทางไปทำงานในประเทศจีน

Submitted by canjamm on 22 มกราคม, 2010 - 12:00

เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุ 29 ปีของอาเจียว (Gillian Chung) แต่เธอกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำละครในประเทศจีน เธอพบกับแฟนๆเกือบร้อยคนเพื่อฉลองวันเกิดกับเธอก่อนที่เธอจะเดินทางไปยังเมืองจีน แฟนๆรู้ว่าอาเจียวกำลังยุ่งอย่างมากกับการทำงานในอัลบั้มใหม่ของเธอในระหว่างวันเกิดของเธอ ทำให้พวกเขามอบเค้กอวยพรให้ทั้งงานด้านเพลงและการแสดงของเธอดำเนินไปอย่างดี เพราะว่าอาเจียวมีความสามารถในการทำเค้กด้วยตัวเอง ทำให้แฟนๆให้อิสระในการทำด้วยตัวเธอเอง

นอกจากเค้กแล้ว อาเจียวยังได้รับของขวัญมิคกี้เม้าส์หลายชิ้นจากแฟนๆ เพื่อที่จะให้เธอนำไปเมืองจีนพร้อมๆกับเธอ อาเจียวยังทำการแสดงเพลงใหม่ของเธอที่มีชื่อว่า Many Hearts (心多) เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ในระหว่างการร้องเพลง แฟนคนหนึ่งลุกขึ้นมาเต้นกับอาเจียว ทำให้บรรยากาศดำเนินไปอย่างสนุกสนาน

Mingpao

สกัดดาวรุ่ง! “Avatar” โดนแบนในจีนเปิดทางให้ “ขงจื้อ” ของโจวเหวินฟะ

Submitted by canjamm on 21 มกราคม, 2010 - 15:30

อวตาร (Avatar) ของ “เจมส์ คาเมรอน” กำลังเดินหน้ากวาดเงินทั่วโลก แต่ในจีนหนังต้องเจอตอซะแล้ว เมื่อทางการจีนตัดสินใจแบนการฉายหนังเรื่องนี้ หลังต้องสงสัยว่าอาจก่อให้เกิดปัญหากับชนกลุ่มน้อย และเปิดโอกาสให้ “ขงจื้อ” หนังฟอร์มใหญ่ในประเทศเข้าฉายแทน

หนังสือพิมพ์ Apple Daily จากฮ่องกงได้รายงานว่า มีคำสั่งโดยตรงไปถึง China Film Group บริษัทจัดจำหน่าย และเจ้าของโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดในเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ให้หยุดการฉายหนัง Avatar ภาพยนตร์ที่ดังที่สุดในโลกขณะนี้ ในฉบับ 2 มิติในประเทศจีนทั้งหมด ขณะที่แบบ 3 มิติ สามารถฉายต่อไปได้

Avatar เปิดฉายทั่วประเทศจีนมาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. และได้รับความสนใจจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก ตั๋วหนังสำหรับโรง IMAX ต้องจองล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ และเพียงเข้าฉายมาได้ 2 สัปดาห์เท่านั้น ก็มีข่าวว่าหนังทำลายสถิติรายได้ของ Founding of the Republic และกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในประเทศด้วยรายได้กว่า 500 ล้านหยวน โดยหนังมีกำหนดฉายไปถึงวันที่ 28 ก.พ. นี้ เพื่อรับวันตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงด้วย แต่ตอนนี้มีเวอร์ชั่นในโรงธรรมดาจะเปิดโอกาสให้ชาวจีนได้ดูกันถึงวันที่ 23 ม.ค. นี้เท่านั้น ขณะที่ยังจะฉายต่อไปในโรงหนังหนัง 3 มิติ และ IMAX แต่ในเมืองจีนนั้น โรงสองประเภทดังกล่าวมีอยู่จำนวนไม่มากนัก

โดยมีรายงานตามมาว่า เหตุผลเบื้องหลังการสั่งห้ามฉายหนังดังจากฮอลลีวูดเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลเกรงว่าเนื้อหาในหนัง ที่ว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างชาวนาวีชนพื้นเมืองแห่งดาวแพนดอร่า กับมนุษย์ผู้มาเยือน ซึ่งต้องการในทรัพยากรธรรมชาติของดาวนั้น อาจจะกระตุ้นให้เกิดปัญหาการต่อต้านของเหล่าชนกลุ่มน้อย กระทั่งประชาชนธรรมดาจำนวนมาก ผู้อยู่ภายใต้การปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ และได้รับผลกระทบต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยจากนโยบายต่างๆ ของรัฐ

อย่างไรก็ตาม คนจีนส่วนใหญ่มองว่าเหตุผลที่แท้จริงในการถอด Avatar ออกจากโรงหนังค่อนประเทศ ก็เพื่อเปิดเป็นการทางให้หนังฟอร์มใหญ่ในประเทศอย่าง Confucius หรือ ขงจื้อ ได้เข้าฉายโกยเงินอย่างสะดวกโยธินพฤหัสนี้ต่างหาก

ตกงาน 6 เดือน นักร้องสาว "ยูกิ ซู" ผันตัวเป็นผู้ช่วยสำนักงานกฏหมาย

Submitted by canjamm on 21 มกราคม, 2010 - 15:20

นักร้องชื่อดังชาวไต้หวัน "ยูกิ ซู" (Yuki Hsu) ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้เธอได้ผันตัวมาทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่ในสำนักงานกฏหมายแห่งหนึ่ง หลังจากประสบกับภาวะว่างงานมาเป็นเวลา 6 เดือน จากการมีปัญหากับต้นสังกัดของตัวเองในเรื่องสัญญา และกล่าวหาอดีตต้นสังกัดว่าพยายามขายเธอให้กับนักธุรกิจคนหนึ่ง

เมื่ออาทิตย์ก่อน ยูกิ ซู นักร้องสาวชาวไต้หวันเผยในการแถลงข่าวถึงปัญหาของตัวเองในขณะนี้ว่า ได้ตัดสินใจสมัครงานในสำนักงานกฏหมายแห่งหนึ่ง หลังจากตกงานมาเป็นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมกันนั้นยังหวังว่า จะใช้โอกาสนี้ในการศึกษาข้อกฏหมาย เพื่อการต่อสู้ในชั้นศาลกับบริษัทต้นสังกัดที่กำลังจะมาถึง

“ถ้าได้กลับไปทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง ฉันก็คงจะมีความสุขที่สุดเลยค่ะ แต่มันคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ซึ่งตอนนี้ฉันรอไม่ได้จริงๆ” ยูกิเปิดใจถึงสถานการณ์ล่าสุดของตัวเอง นักร้องสาวยังยอมรับว่า งานที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นเพียงงานอาสาสมัครที่ไม่ได้รับค่าจ้าง โดยอดีตนักร้องชื่อดังกล่าวว่าหวังว่างานที่ทำอยู่จะช่วยในเรื่องคดี และเปิดโอกาสสำหรับอาชีพในอนาคตของตัวเอง

เมื่อนักข่าวถามว่าหลังจากไม่มีรายได้เข้ามาถึง 6 เดือนแล้ว ตัวของเธอมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร และได้รับเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ จากไหน ยูกิ ซู แสดงความลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด และปฏิเสธที่จะตอบ ซึ่งต่อมามีข้อมูลว่าเป็นเพื่อนสนิทของนักร้องสาว ที่ค่อยช่วยเหลือในค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็น

นักร้องวัย 31 ออกมาเปิดเผยปัญหาชีวิตส่วนตัวด้วยน้ำตาว่า ความบาดหมางระหว่างตัวของเธอ และต้นสังกัดได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ปีก่อน เมื่อเริ่มรู้สึกระแคะระคายว่าต้นสังกัดแห่งนี้ พยายามจะขายเธอให้กับนักธุรกิจชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง

โดย ยูกิ ซู ได้อ้างว่า นักธุรกิจคนนี้ได้ได้ยื่นข้อเสนอในตัวเธอเข้ามา ขณะที่เดินทางไปร้องเพลงที่ประเทศจีน เมื่อเธอทราบเรื่องดังกล่าว จึงรู้จักตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ตัดสินใจย้ายโรงแรมในทันที และบินกลับไต้หวันในเวลาต่อมา ซึ่ง ยูกิ ซู แสดงความเชื่อมั่นว่า บริษัทของเธอเป็นคนจัดการเรื่องดังหมด

“จางจื่ออี้” (Zhang Ziyi) เดือด! ข่าวแย่งสามี ขู่ฟ้องถ้าไม่หยุดปล่อย

Submitted by canjamm on 18 มกราคม, 2010 - 17:24

“จางจื่ออี้” (Zhang Ziyi) ไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นเป้านิ่งอีกต่อไป หลังถูกคนปล่อยข่าวโกงเงิน และมีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจที่มีภรรยาแล้ว ตอนนี้ดาราสาวชาวจีนได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว และแจ้งไปยังสื่อที่แพร่ข่าวลือว่า ถ้าไม่หยุดยั้งการกระทำเจอเล่นงานทางกฎหมายแน่ๆ

เมื่อปลายปี 2009 มีข่าวอื้อฉายเกิดขึ้นในวงการบันเทิง และแวดวงคนดังของจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อดาราสาวอินเตอร์ “จางจื่ออี้” ถูกโจมตีว่าโกงเงินอดีตเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เพื่อนเก่าคนนี้ยังกล่าวหาว่าดาราสาวสวยยังยั่วยวนสามีของเธอด้วย โดยคู่กรณีของดาราชื่อดังยังได้ว่าจ้างคนให้ประณามเธอ ด้วยการด่าต่อหน้า และสาดหมึกสีดำใส่ป้ายโฆษณา ที่สาวจางเป็น พรีเซ็นเตอร์ที่หน้าร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จนเหลือหลักฐานเป็นหมึกสีดำบนกระจก ให้นักข่าวได้เก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน

จนกระทั่งวันพุธที่แล้ว ข่าวนี้จึงถูกกระเพื่อมขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีสตรีในแวดวงสังคมคนหนึ่งที่ชื่อว่า จ้าวซินหยู ได้ให้ข่าวกับนิตยสารฉบับหนึ่งของจีน แฉถึงพฤติกรรมของดาราสาวอันดับหนึ่งของประเทศว่า เธอเป็นคนแนะนำ จางจื่ออี้ ให้กับนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งเอง และทั้งๆ ที่ดาราสาวคนดังมีคู่รักอยู่แล้วเธอ กลับเริ่มต้นหว่านเสน่ห์กับนักธุรกิจคนนั้น จนเขาตอบแทนเธอด้วยของขวัญราคาแพงมากมาย ตั้งแต่ ต่างหูเพชร, สร้อยคอ จนไปถึงรถยนต์ออดี้ จนกระทั่งภรรยาของเศรษฐีจอมทุ่มคนนี้ทราบเรื่อง และกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวไปทั่วในแวดวงสังคมของจีน

สาวสังคมรายนี้ไม่ได้ยืนยันว่า เหตุการณ์ ‘สาดหมึก’ นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้รึเปล่า แต่กล่าวว่า จางจื่ออี้ กับคู่รักหนุ่มใหญ่ชาวอิสราเอล วีวี เนโว่ นั้นจบไปแล้วอย่างที่ข่าวลือกันจริง เหตุเพราะทั้งคู่มีทัศนะคติเกี่ยวกับการแต่งงานที่แตกต่างกัน

เอลล่า (Ella) วง S.H.E. และเจอรี่ (Jerry) แห่ง F4 พูดถึงฉากจูบในละคร Down With Love !!!

Submitted by canjamm on 15 มกราคม, 2010 - 15:05

Down With Love ละครจากทาง CTV และ GTV จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 24 มกราคม 2010 นี้ ในวันที่ 17 มกราคมนี้ ทางสถานีทีวีจะออกอากาศเบื้องหลังการถ่ายทำละคร DWL – Exclusive BTS Special นอกจากมาร่วมกันเล่าความคิด และความรู้สึกในการร่วมงานกันมาประมาณ 5 เดือน เจอรี่ (Jerry) และเอลล่า (Ella) จะพูดถึงฉากจูบที่พวกเขาทุ่มเทอย่างมากด้วย ศิลปินทั้งสองคนดูอายอย่างมาก เจอรี่กล่าวว่า "เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกว่าฉากจูบนั่นเป็นเรื่องที่สวยงามเป็นเรื่องที่ยากมากๆ" ในระหว่างการถ่ายทำฉากนั้น เขาอินกับบทอย่างมาก ในขณะที่เอลล่ากล่าวตลกๆว่า เธอกังวลว่า ถ้าพวกเขาจูบกันนานกว่านี้ อาจจะมีปัญหามากขึ้นไปอีก

เอลล่ากล่าวตลกๆว่า "ในระหว่างการจูบครั้งแรก ฉันยังคิดว่าทำไมฉันรู้สึกอายอย่างมาก แต่เมื่อจูบครั้งที่สอง ทุกอย่างก็ดูจะโอเค" เมื่อผู้กำกับตะโกนว่า "คัท" ทั้งเจอรี่และเอลล่าต่างก็มองกันและกันอย่างเขินอายและยิ้ม จากนั้นเอลล่าจึงเดินไปอยู่ข้างพี่สาวของเธอเพื่อปิดบังใบหน้าที่แดงด้วยผ้าเช็ดตัว

ความเป็นมืออาชีพของพวกเขาทั้งสอง ทำให้เหล่านักแสดงและทีมงานต่างก็รู้สึกได้ทันทีถึงความรักระหว่าง Xiang Yu (ตัวละครนักแสดงนำชาย) และ Yang Guo (ตัวละครนักแสดงนำหญิง)

UDN / China Times

อาซา (Ah Sa) แห่งวง Twins ทำให้เพื่อนร่วมงานชายอิจฉา จากการถูกสาวๆในชุดว่ายน้ำรุมล้อม

Submitted by canjamm on 14 มกราคม, 2010 - 18:17

อาซา (Ah Sa / Charlene Choi), อู๋จินหยู (Sandra Ng), William Chan และ ฟานซิ่วหว่อง (Louis Fan) ร่วมแสดงในภาพยนตร์ Secret Beauty 美麗密令 ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของหวังจิง (Wong Jing) เมื่อวันก่อน เหล่านักแสดงมาร่วมกันถ่ายทำฉากเหล่านางงาม การถ่ายทำดำเนินไปข้างๆสระว่ายน้ำ อาซายืนอยู่โดยเธอถูกล้อมรอบโดยสาวๆสวยๆมากมายในชุดว่ายน้ำ พวกเธอยืนเบียดอาซาอย่างมากทำให้เธอตกลงไปในสระว่ายน้ำ

หวังจิงทำการตระเตรียมฉากโดยเฉพาะสำหรับอาซา ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆร่วมงานผู้ชายต้องอิจฉาเธอ ทางด้านซ้ายของอาซาเป็น Jeanette Leung ที่มีหน้าอกขนาด 34C ในขณะที่ทางด้านขวาของเธอเป็นศิลปินจีนที่มีชื่อว่า Lin Jia Ling ที่มีหน้าอกขนาด 33B พวกเธอสองคนต่างก็ดันหน้าอกของพวกเธอไปที่แก้มของอาซา เนื่องจากว่ามันยากที่จะได้มุมกล้องของสองสาวที่หันหน้าอกไปที่หน้าอาซา ทำให้ฉากนี้ต้องถ่ายทำซ้ำอีกสองถึงสามครั้งกว่าจะได้ภาพที่ต้องการ

ครั้งแรกในการถ่ายทำฉากนี้ อาซาพูดตรงๆว่า เธอรู้สึกเขินอายนิดๆ แต่หลังจากนั้นเธอรู้สึกถึงความนุ่มทำให้เธอรู้สึกสนใจ อาซายังถือโอกาสนี้ในการกล่าวชมสาวๆในชุดว่ายน้ำกับอู๋จินหยู และยังกล่าวตลกๆว่า เธอต้องการจะจับหน้าอกของสาวๆพวกนั้นด้วย เนื่องจากฉากนี้อาซาจะต้องตกลงไปในสระว่ายน้ำจากการเบียดของสาวๆ ทำให้เธอป่วยจากน้ำที่เย็น ทำให้ไม่แปลกใจที่เธอจะกล่าวว่า ฉากนี้เป็นฉากที่เธอจดจำได้ดีที่สุดในการถ่ายทำ

Oriental Daily

ละคร Down With Love แสดงนำโดยเอลล่า (Ella) และเจอรี่ (Jerry) ถูกเตือนจากทาง NCC ให้แก้ไขฉากในละคร !!

Submitted by canjamm on 14 มกราคม, 2010 - 14:42

Down With Love ละครจากทาง CTV และ GTV มีกำหนดที่จะออกอากาศในวันที่ 24 มกราคม 2010 อย่างไรก็ตาม จากการโปรโมทอย่างหนักของละครเรื่องนี้ ฉากที่เอลล่า (Ella) และเจอรี่ (Jerry) ทะเลาะหลังจากเกือบจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และ เอลล่าจึงถ่มน้ำลายอย่างโกรธเคืองใส่เจอรี่ก่อนที่เธอจะขี่จักรยานจากไป ก่อให้เกิดการร้องเรียนจากผู้ชมบางคน เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ของละคร ที่ได้รับการเตือนจากทางคณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติของไต้หวัน (Taiwan's National Communications Commission / NCC) ก่อนที่ละครจะได้ออกอากาศ

คลิปวีดีโอโปรโมทความยาว 1 นาที แสดงให้เห็นถึงตัวเจอรี่ในบททนายที่เย็นชา และเอลล่าในบทของคนจน ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เกิดการโต้แย้งกันที่ร้านอาหารก่อนแล้ว ส่งผลให้ เมื่อเจอรี่ที่ขับรถจนเกือบจะชนเอลล่า สร้างการทะเลาะอย่างรุนแรงระหว่างพวกเขา "คุณต้องการจะตายหรือไง? ถึงแม้จะอย่างนั้น คุณก็ควรจะไปให้ห่างๆรถของผม!" จากการที่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆมาเมื่อไม่นานมานี้ และยังเพิ่งถูกด่าเกี่ยวกับการที่เกือบจะถูกรถชน ทำให้เอลล่าหันหน้าไปและตอบกลับไปว่า "มีอะไรให้มอง คุณคิดว่าคุณมีตาใหญ่หรือไง?" เธอเถียงกลับ

เมื่อเร็วๆนี้ คลิปโปรโมชั่นนี่ถูกนำมาฉายอย่างหนักทางทีวีและทางอินเทอร์เน็ท นิสัยตรงไปตรงมาของเอลล่า ทำให้ผู้ชมต่างก็ประทับใจอย่างมาก และทำให้คลิปนี้มีคนชมมากถึง 1 หมื่นครั้งอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความดังอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทาง CTV ได้รับจดหมายเตือนจากทาง NCC เมื่อวันก่อน กล่าวถึงว่าผู้ชมบางคนรู้สึกว่า การกระทำในการถ่มน้ำลายนั่นไม่เหมาะสม และสร้างความเข้าใจผิดให้แก่เด็กๆ ทำให้ NCC เขียนมาแจ้งให้ทำการแก้ไขฉากนั่นซะ เพื่อให้ไม่ต้องถูกปรับ

เมื่อติดต่อไป ทางเอลล่าเล่าความจริงให้ฟังว่า ในบทละครไม่ได้เขียนให้ทำการถ่มน้ำลาย แต่เนื่องจากเธอกำลังอินกับบทในตอนนั้น และรู้สึกว่า ด้วยบทของ Yang Guo (เอลล่า) ที่เป็นคนสนใจ, ร่าเริง และตรงไปตรงมา เมื่อต้องพบกับปัญหาอย่างต่อเนื่อง และมาโมโหกับเหตุการณ์ที่เกือบจะถูกรถชน เธอจะตอบโต้อย่างสับสนด้วยการถ่มน้ำลาย เมื่อพูดถึงการกระทำนี้ของเธอ จริงๆแล้ว เหล่าทีมงานรู้สึกชื่นชอบ และเข้าใจในบุคลิกที่ค่อนข้างจะเป็นเด็กผู้ชายของ Yang Guo

อดีตมิสฮ่องกง “ฉีจื่อซาน” (Kate Tsui) โต้ข้อหา ‘เสี่ยเลี้ยง’

Submitted by canjamm on 14 มกราคม, 2010 - 13:37

อดีตมิสฮ่องกงปี 2003 “เคท - ฉีจื่อซาน” (Kate Tsui) ออกมาโต้ข้อกล่าวหาว่าเธอได้รับการเลี้ยงดูจากเศรษฐีคนหนึ่ง ผู้มีทรัพย์สินกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญฮ่องกง เป็นข่าวที่เธอต้องออกมาโต้ทันทีว่าไม่มีความจริงโดยเด็ดขาด

สื่อสำนักหนึ่งในฮ่องกงรายงานว่า ฉีจื่อซาน นักแสดงสาวอดีตมิสฮ่องกงปี 2003 ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่สุดหรูมูลค่ากว่า 15 ล้านเหรียญฮ่องกง พร้อมกับคู่รักคนใหม่ของเธอที่สื่อเรียกว่า “มิสเตอร์ เค” โดยดาราสาววัย 30 ปียังได้รับสิ่งของแพงๆ เป็นของขวัญอีก 20 ล้านเหรียญ

สื่อที่เป็นนิตยสารแนวซุบซิบเล่มนี้ รายงานว่า อดีตมิสฮ่องกงคนสวย เริ่มต้นคบหากับ มิสเตอร์ เค หลังจากเลิกรากับแฟนหนุ่มผู้กำกับภาพยนตร์ได้ไม่นานนัก

ผู้จัดการส่วนตัวออกมาให้ข่าวถึงเรื่องนี้ว่า ดาราสาวคนดังไม่ได้อ่านนิตยสารฉบับนี้ด้วยตัวเอง แต่มีคนเอานำมาเล่าให้ฟัง ซึ่งเธอขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

“ความจริงเคทเคยตอบเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ว่าข้อมูลทั้งหมดที่ลงไปไม่มีความจริงเลย มีรายงานว่าเธอไปกินข้าวเที่ยงในวันปีใหม่กับชายคนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นไปได้ยังไงเพราะในวันนั้นเธอทำงานตลอดทั้งวัน อพาร์ทเมนท์ที่เธออยู่ตอนนี้ เธอก็เป็นคนจ่ายค่าเช่าเองทั้งหมด เคทไม่สบายใจกับเรื่องนี้มากๆ ซึ่งเธอจะมาตอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน” ผู้จัดการอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ดาราสาวจึงออกมาตอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง “เรื่องทั้งหมดเป็นการแต่งขึ้นมาตั้งหมดค่ะ ไม่มีอะไรแบบนี้ทั้งสิ้น ไร้สาระมากๆ ฉันยอมรับว่าตัวเองหัวเสียกับเรื่องนี้มากๆ สำหรับผู้หญิงชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ถูกใส่ร้ายด้วยข้อหาพวกนี้เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับฉันเลยค่ะ เหมือนกับว่าเป็นการทำลายความตั้งใจที่ผ่านมาของฉันทั้งหมดในการทำงาน และสร้างชื่อเสียงขึ้นมาในวงการบันเทิง มันอาจจะมีผลเกี่ยวกับงานของฉันเองในอนาคต นอกจากนั้นคนในครอบครัวยังต้องรับเคราะห์ในเรื่องแบบนี้ไปด้วย”