ข่าวจีน

เกาหลีรีเมกหนังฮ่องกงคลาสสิค "เถียนมีมี่" ลงจอแก้วปลายปีนี้

Submitted by canjamm on 31 พฤษภาคม, 2010 - 12:16

"ปาร์คยองฮา" (Park Yong Ha) ถูกเลือกให้มารับบทนำในซีรีส์ "เทียนมีมี่" ฉบับของเกาหลีใต้ ที่เป็นการหยิบเอาภาพยนตร์โรแมนติกสุดคลาสสิคของฮ่องกง มาสร้างใหม่ เพื่อฉายทางโทรทัศน์โดยเฉพาะ

KBS Global รายงานถึงการออกมาให้ข่าวของบริษัท Verdi Media แห่งเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า เกี่ยวกับโครงการสร้างซีรีส์เรื่องใหม่ ที่เป็นการนำเอา เถียนมีมี่ ภาพยนตร์อมตะจากฮ่องกง มาดัดแปลงเพื่อลงจอโทรทัศน์

โดยซีรีส์เรื่องนี้ จะเป็นการร่วมงานกันของทีมงานโปรดักชั่นระดับแนวหน้า ในวงการโทรทัศน์เกาหลีใต้ อย่าง โอซูยอน เจ้าของบทซีรีส์สุดดังอย่าง Winter Sonata (เพลงรักในสายลมหนาว) และ Autumn Story (รักนี้ชั่วนิรันดร์) และผู้กำกับ โจยองซู ที่เคยมีผลงานอย่างซีรีส์ Oh! Pil-seung and Bong Soon-Young (เชียร์สุดใจนายกระจอก) มาแล้ว

ขณะนี้มีการวางตัวพระเอกหนุ่ม ปาร์คยองฮาไว้ในบทนำแล้ว และอยู่ระหว่างการคัดเลือกนักแสดงหญิง ผู้จะมารับบทนำของเรื่อง ที่ จางม่านอวี้ เคยแสดงเอาไว้เมื่อเกือบ 15 ปีก่อน โดยทีมงานวางแผนเปิดกล้องไว้ในช่วงปลายเดือน ก.ค. เพื่อออกอากาศให้ทันในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ใด

เถียนมีมี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว หรือ Comrades, Almost a Love Story หนังโรแมนติกปี 1996 ของผู้กำกับชาวฮ่องกง ปีเตอร์ ชาน มี หลีหมิง (Leon Lai) และจางม่านอวี้ (Maggie Cheung) รับบทนำ เป็นหนึ่งในหนังรักที่ได้รับการยกย่องว่า ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งของเอเชียเรื่องหนึ่ง นอกจากจะทำเงินกว่า 30 ล้านเหรียญฮ่องกง แล้ว เถี่ยนมีมี่ ยังกลายเป็นหนังฮิตในหลายประเทศทั่วเอเชีย รวมถึงในเกาหลีใต้ที่ผู้ชมหลายคน ลงทุนตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ซ้ำรอบแล้วรอบเล่า ไม่แตกต่างอะไรกับปรากฏการณ์ของหนังรักจากฮอลลีวูดอย่าง Titanic

ในการนำกลับมาสร้างใหม่ครั้งนี้ ตัวแทนของบริษัทจากเกาหลี แสดงถึงความมุ่งมั่น ยืนยันว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ในการรักษามาตรฐานของต้นฉบับเอาไว้ "ในตอนเป็นหนังใหญ่ เทียนมีมี่ มีความยิ่งใหญ่ในตัวเอง เป็นหนังในดวงใจของคนนับล้านๆ ในเอเชีย ด้วยดารา และทีมงานชาวเกาหลี เราจะทำอย่างสุดความสามารถ ในการทำงานกับซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน"

Manager Online

อดีตนางงามประสานเสียงโต้ข่าวลือ เคยมีสาวประเภทสองเป็นมิสฮ่องกง

Submitted by canjamm on 29 พฤษภาคม, 2010 - 18:43

สื่อมวลชนรุ่นใหญ่คนหนึ่งในฮ่องกง ออกมาแฉถึงเรื่องน่าตกใจในแวดวงประกวดความงามฮ่องกงว่า เคยมีสาวแปลงเพศเข้าประกวด "มิสฮ่องกง" และเข้าถึงรอบ 3 คนสุดท้ายมาแล้ว จนสาวๆ ที่เคยผ่านการประกวดมาแล้ว ต้องออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเรื่องดังกล่าว ว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

The Daily Chili รายงานถึงข่าววุ่นๆ ในวงการนางงามฮ่องกง เมื่อนักข่าวรุ่นใหญ่คนหนึ่ง ออกมาเผยในรายการวิทยุถึงเรื่องในอดีต ว่าเคยมีสาวประเภทสองปลอมตัวเป็นผู้หญิง จนสามารถผ่านการคัดเลือก เข้าประกวดมิสฮ่องกงในรอบสุดท้าย และสามารถคว้าตำแหน่งสำคัญมาแล้ว เรื่องดังกล่าวกลายเป็นปรากฏการณ์ ให้เหล่าสื่อบันเทิงพยายามค้นหาว่า สาวงามในอดีตคนใดบ้างที่ดูจะเข้าข่ายข่าวลือที่ว่ามากที่สุด

สุดท้ายกลายเป็นสองสาวอดีตมิสฮ่องกง อย่าง เซียงไห่หลัน (Anne Heung) มิสฮ่องกงปี 1998 ซึ่งเคยเป็นอดีตนักแสดงในสังกัดทีวีบี และม่อเข่อซิ่น (Hoyan Mok) มิสฮ่องกงปี 1993 ที่โชคร้ายกว่าใคร หลังสื่อลงความเห็นว่า เมื่อดูจากลักษณะทางภายนอกแล้ว ทั้งคู่ดูเหมือนสาวประเภทสองมากที่สุด

จนกระทั่งในงานการกุศลเมื่อคืนวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเหล่าอดีตมิสฮ่องกงหลายยุคหลายสมัยช่วยกันจัดขึ้น ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอตต์ อดีตสาวงามหลายๆ คนได้ออกมาพูด แสดงความคิดเห็นถึงข่าวลือดังกล่าว และยืนยันว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้

จูหลิงหลิง (Loletta Chu) มิสฮ่องกงปี 1977 ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นสาวงามจากเวทีประกวดแห่งนี้ที่สวยที่สุดคนหนึ่ง ออกมาแสดงความแปลกใจที่มีข่าวลือเช่นนี้ออกมา "มันยากที่จะเป็นไปได้นะคะ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คงกลายเป็นข่าวไปนานแล้ว น่าจะเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น"

ฝ่ายของ เซียงไห่หลัน ที่เพิ่งถอนตัวจากวงการบันเทิงไปเมื่อสองปีก่อน และกลายมาเป็นหนึ่งในสองสาว ที่ถูกหยิบยกชื่อขึ้นมาในประเด็นนี้ ออกมากล่าวว่า เธอเองไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย นับแต่เข้าวงการบันเทิงเมื่อ 10 กว่าปีก่อน "TVB เป็นองค์กรที่ใหญ่ และการประกวดมิสฮ่องกงก็ประกอบไปด้วยกรรมการที่มีชื่อเสียง มีความสามารถมากมาย ฉันคิดว่าพวกเขาไม่พลาดกับอะไรแบบนี้หรอกค่ะ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้"

"ชุดเทพธิดาเจ้ากรรม" ของหลี่ เฟย (Li Fei)

Submitted by canjamm on 27 พฤษภาคม, 2010 - 01:03

ซูเปอร์สตาร์แห่งแผ่นดินใหญ่ หลี่ เฟยเอ๋อร์ (Li Fei Er) หน้าแตกยับขณะเดินเฉิดฉายบนพรมแดงระหว่างงานปิดม่านเทศกาลภาพยนตร์แห่งเมืองคานน์ส์ ครั้งที่ 63 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. สาวเจ้าหลี เฟย ในชุดเกาะอกสีชมพูหวานฟูฟ่องราวเทพธิดา แต่แล้ว จู่ๆชุดเทพธิดาเจ้ากรรมของเธอก็หลุด ทำเอาหน้ายิ้มหวานระรื่น มีอัน “แตกยับ”

หลี่ เฟยเอ๋อร์ ชื่อเดิมคือ หลี่ เฟย เป็นซูเปอร์สตาร์แห่งแผ่นดินใหญ่ เคยมีผลงานแสดงร่วมกับ หวง เสี่ยวหมิง ในภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยายกำลังภายในของกิมย้งเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ เวอร์ชั่นแผ่นดินใหญ่ ผลงานการแสดงทอื่นๆที่สร้างชื่อให้เธอ ได้แก่ บันทึกประวัติศาสตร์ลับของคังซี 《康熙秘史〉 และในปีที่แล้ว(2552) ก็ได้โชว์ฝีมือการแสดงในภาพยนตร์ เรื่อง Chongqing Blues 《日照重慶〉 ร่วมกับ ฟ่าน ปิงปิง (Fan Bing Bing)

Manager Online

"สงไต้หลิน" (Lynn Xiong) เป็น 'ยัยตัวร้าย' ใน "My Sassy Girl" ฉบับฮ่องกง

Submitted by canjamm on 26 พฤษภาคม, 2010 - 16:42

นางแบบสุดเซ็กซี่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "สงไต้หลิน" (Lynn Xiong) ถูกวางตัวให้รับบท 'ยัยตัวร้าย' สาวแสบแสนสวยในหนังตลกโรแมนติก "My Sassy Girl 2" ของผู้กำกับ "โจ หม่า" ที่หยิบเอาภาพยนตร์สุดฮิตของเกาหลีใต้ในอดีตมาสร้างใหม่ เป็นฉบับของฮ่องกงเอง

นางแบบวัย 29 ปี สงไต้หลิน ที่ขณะนี้ได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างเต็มตัวแล้ว ได้โอกาสเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง หลังจากโด่งดังจากบทภรรยาของอาจารย์ยิปมันในหนังสุดดัง Ip Man ภาค 1 และ 2 มาเป็นสาวแสบ เปรี้ยวซ่าเข็ดฟัน บทเดียวกันที่เคยสร้างชื่อให้กับ จวนจีฮยุน (Jun Ji Hyun) นักแสดงชาวเกาหลีใต้ ในหนังเรื่อง My Sassy Girl เมื่อหลายปีก่อน

หลังจากเคยเป็นหญิงผู้เรียบร้อย ช้างเท้าหลัง กับบทภรรยาครูมวยชื่อดัง ในหนังเรื่องที่แล้ว ถึงคราวที่ สงไต้หลิน จะเป็นฝ่ายบู๊เองบ้าง นักแสดงสาวชาวจีนพูดเมื่อตอนแถลงข่าวเปิดกล้องหนังถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ว่าจะในจอภาพยนตร์ หรือชีวิตจริง ตัวเองแทบไม่เคยมีประสบการณ์การทะเลาะตบตีกับคนอื่นเท่าไหร่เลย งานนี้จึงต้องมีการฝึกซ้อมกันอยู่พอสมควร ขณะที่ฝ่ายหนุ่มลูกครึ่ง ลีออน เจย์ วิลเลียมส์ (Leon Jay Williams) ที่รับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ก็ยืนยันว่า อนุญาตให้นางเอกคู่ขวัญสามารถเตะต่อยเขาจริงได้ตามสบาย

"ตบตีคนอื่น อาจจะเป็นงานยากที่สุดสำหรับฉันในหนังเรื่องนี้แล้วล่ะค่ะ" นางแบบสาวคนดังกล่าวอย่างติดตลก ก่อนจะแสดงความคิดเห็นว่า จุดเด่นของ My Sassy Girl ที่แท้จริงน่าจะอยู่ที่ การพูดถึงความรู้สึกอันลึกซึ้งของตัวละครต่างหาก ... "ฉันคิดว่า ไม่ว่าจะร้ายแค่ไหน ผู้หญิงทุกคนยังคงมีหัวใจที่เปราะบางค่ะ

ในภาพยนตร์ดังกล่าว นับได้ว่าเป็นผลงานการแสดงลำดับที่ 5 ของนางแบบคนดัง ที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่คนนี้แล้ว แต่ My Sassy Girl 2 มีความพิเศษตรงที่ นี่น่าจะเป็นการรับบทนำ ที่เป็นตัวเดินเรื่อง แบบเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกของเธอ

สงไต้หลิน กล่าวอย่างมั่นใจ ว่าไม่เคยกลัวการเปรียบเทียบกับ จวนจีฮยุน ที่โด่งดังไปทั่วเอเชียกับบทดังกล่าว "ฉันเริ่มต้นงานในฐานะนางแบบ ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีประสบการทางการแสดงมากมายอะไรนัก เพราะแบบนี้มั้งคะ ผู้กำกับจึงเลือกฉัน เพราะต้องการอะไรใหม่ๆ ให้กับบทนี้บ้าง ฉันเองไม่กังวลกับการถูกเปรียบเทียบ แค่ได้แสดงหนังก็มีความสุขแล้ว"

คู่รักเอเรียล หลิน (Ariel Lin) และ โจ เฉิง (Joe Cheng) จะกลับมาอีกครั้ง ในอีก 5 ปีข้างหน้า !!

Submitted by canjamm on 26 พฤษภาคม, 2010 - 11:47

Love or Bread ละครจากทาง GTV ออกมาในรูปแบบดีวีดี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เอเรียล หลิน (Ariel Lin) และโจ เฉิง (Joe Cheng) เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อโปรโมทงานกับแฟนๆ เอเรียลซึ่งห่างหายจากจอแก้วมานานมากกว่า 2 ปี ในที่สุด เธอก็ตอบรับที่จะแสดงในละครเรื่องใหม่ Extravagant Challenge โดยเธอจะร่วมงานกับซิวอน (Siwon) และดงเฮ (Donghae) แห่งวง Super Junior จากเกาหลี เธอกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน สำหรับละคร Coffee Prince เวอร์ชันไต้หวันนั่น ลือกันว่า แผนการณ์นี้มีขึ้นเพื่อให้เธอได้จับคู่กับเจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) ในขณะนี้ เอเรียลยังคงรอทีมงานในการค้นหานักแสดงนำชายที่เหมาะสม

เอเรียล หลิน และโจ เฉิง ร่วมงานกันในละครมา 3 เรื่องแล้ว และในใจของผู้ชมนั่น ดูเหมือนว่า พวกเขาจะเป็นคู่รักบนหน้าจอที่เหมาะสมกันมากที่สุด แต่ทั้งสองคนกังวลว่า ผู้ชมจะเบื่อกับการจับคู่อย่างต่อเนื่องของพวกเขา โจกล่าวว่า "อีกสัก 5 ปี มันจะทำให้เราเติบโตขึ้น ดังนั้น ให้เวลาพวกเราจนถึงปี 2015 ซึ่งก็บังเอิญไปตรงกับ It Started With A Kiss ครบรอบ 10 ปีพอดี" เอเรียลก้มหัวเห็นด้วยกับคำพูดของสามีในละครของเธอ

ทางด้านโจ เพิ่งเดินทางไปมัลดิฟ (Maldives) เพื่อพักผ่อน ที่ซึ่งเขาเริ่มการออกกำลังกายอย่างหนัก การมีผิวสีแทน เขายิ้ม "ผมต้องฝึกลดน้ำหนัก, วิ่ง, แอโรบิก เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกๆวัน แม้กระทั่งการทำผิวสีแทน ยังต้องทำอย่างเท่าๆกัน โดยแบ่งเวลา 15 นาที สำหรับหน้าและหลัง​ เหมือนกับการย่างปลา"

ChinaTimes

"แม็คกี้ คิว" (Maggie Q) เป็นนักฆ่าสาว "นิกิต้า" (Nikita) คนใหม่

Submitted by canjamm on 26 พฤษภาคม, 2010 - 10:53

สถานีโทรทัศน์ "CW" แห่งสหรัฐฯ ได้หยิบเอาหนังแอ็กชั่นสุดดัง "Nikita" กลับมาสร้างเป็นซีรีส์สำหรับฉายทางโทรทัศน์อีกครั้ง และมอบบทนักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ให้กับ "แม็กกี้ คิว" (Maggie Q) นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม

Nikita เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นสาวใจแตก ที่ไปพัวพันกับคดีอาชญากรรมจนต้องโทษประหารชีวิต แต่ได้รับโอกาสที่สองจากหน่วยงานลับของราชการ ที่พร้อมมอบชีวิตใหม่ให้ แลกกับการเข้าฝึกฝนเพื่อเป็นนักฆ่า คอยสังหารเหยื่อตามใบสั่งที่ได้รับมอบหมาย

เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่ตัวละครนักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ 'นิกิต้า' ถูกสร้างสรรค์โดย ลุค แบซง (Luc Besson) ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสในภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นอาชญากรรมเรื่อง Nikita (ผู้หญิงมากกว่าหนึ่ง) ซึ่งในตอนนั้น ยอดผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ได้มอบบทที่กลายเป็นหนึ่งในตัวละครประเภทสาวบู๊ ซึ่งคนจดจำมากที่สุดตลอดกาล ให้กับ แอนน์ ปาริลโย (Anne Parillaud) ภรรยาของเขาเองในขณะนั้น

หลังงานของแบซงกลายเป็นหนังฮิตไปทั่วโลก ในปี 1993 บริษัทวอร์เนอร์บราเธอร์สของสหรัฐฯ จึงได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว มาดัดแปลงสร้างใหม่ ในชื่อว่า Point of No Return มีนักแสดงสาวชาวอเมริกัน บริดเจ็ท ฟอนดา (Bridget Fonda) มารับบทนำ

จนกระทั่งต่อมาในปี 1997 วอร์เนอร์บราเธอร์ส จึงได้ตัดสินใจขยายเรื่องราวของนักฆ่าสาว นิกิต้า เป็นทีวีซีรีส์สำหรับลงจอโทรทัศน์แทน ภายใต้ชื่อ La Femme Nikita และมอบบทเด่นให้กับนักแสดงสาว พีตา วิลสัน (Peta Wilson) ออกอากาศทาง USA Network อยู่ถึง 5 ฤดูกาลด้วยกัน

ขณะเดียวกัน ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวฮ่องกงยังเคยหยิบหนังเรื่องนี้ไปสร้างใหม่ (แบบไม่เป็นทางการ และไม่เสียลิขสิทธิ์) ในชื่อว่า Black Cat (หัวใจเธอมันน่ากราบ) ด้วย

สำหรับ แม็คกี้ คิว หรือ มาร์กาเร็ต เดนิส ควิกลี่ย์ นักแสดงสาวลูกครึ่งวัย 31 ปี ผู้รับบทอันโด่งดังนี้คนล่าสุด และกลายเป็น นิกิต้า คนที่ 5 เป็นนักแสดงเชื้อสายเวียดนาม เกิดที่ฮอนนาลูลู ฮาวาย เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงกับงานนางแบบ จนมีชื่อเสียง และผันตัวไปเป็นนักแสดง ทั้งในฮ่องกงและระดับฮอลลีวูด รวมถึงได้ร่วมแสดงในหนังดังอย่าง Mission Impossible 3 และ Die Hard 4: Live Free or Die Hard

การขอแต่งงานของเจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) !!

Submitted by canjamm on 25 พฤษภาคม, 2010 - 18:45

ในละคร Down With Love เรื่องราวที่เจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) จะขอเอลล่า (Ella) แต่่งงาน แต่ด้วยการแสดงที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เขาถูกเหน็บโดยเอลล่าว่า"แย่มากๆ" และกล่าวว่า "ถ้าเขาเป็นแบบนี้ เขาจะไม่สามารถหาภรรยาได้!"

Down With Love เพิ่งออกอากาศตอนสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อที่จะถ่ายทำฉากสำคัญ ซึ่งเป็นฉากขอแต่งงาน เจอรี่ ซึ่งอยู่ๆก็มีความคิด เขาเข้าหาเอลล่า และกล่าวว่า "มองนั่นสิ" เมื่อเธอหันหน้าไปทางอื่น เจอรี่ก็รีบหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า และเข้าไปด้านหน้าของเธอ และกล่าวว่า "แต่งงานกับผมนะ?" ด้วยการขาดความสร้างสรรค์หรืออะไรก็ตาม เขากลายเป็นเหยื่อของการถูกล้อ จากการที่ซูซู (Xuxu) แสดงโดยเจอรี่ เขาเป็นคนหล่อ และรวย สำหรับ Ah Xia แล้ว เธอรู้สึกว่า การมีแหวนเพชร และมีเขายืนอยู่เบื้องหน้าเธอ นั่นก็มากเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรให้ประหลาดใจ!

Down with Love 就想賴著妳 LAST EPISODE! ep.16 7/8 (HQ)
ประมาณนาทีที่ 3:25

NextMedia

"เฉินหลง" (Jackie Chan) เจ้านายยอดแย่? ไล่ลูกน้องคนสนิทออก ความภักดี 30 ปี ไร้ความหมาย

Submitted by canjamm on 23 พฤษภาคม, 2010 - 14:41

"เฉินหลง" (Jackie Chan) โดนสื่อและอดีตลูกจ้าง ออกมาแฉถึงพฤติกรรมยอดแย่ในฐานะนายจ้าง ที่ไล่ลูกน้องคนสนิทที่ทำงานด้วยกันมากว่า 30 ปี ออกอย่างไม่มีเยื้อใย และจ่ายเงินชดเชยให้อย่างไม่สมเหตุสมผล

ยอดนักบู๊ เฉินหลง ต้องตกเป็นข่าวในด้านลบอีกครั้ง หลังมีรายงานจากฮ่องกงว่าพระเอกวัย 56 ปี ไล่ “เคน โล” (Kenneth Lo) ลูกน้องคนสนิทของตัวเองออกอย่างไม่เป็นธรรม

เคน โล หลอฮุยกวง หรือ วิโรจน์ แซ่โล้ นักแสดงหนุ่มเลือดไทยเขมร เกิดที่จังหวัดสตึงแตรง ในกัมพูชา เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ปี 1959 และอพยพจากบ้านเกิด มายังจังหวัดอุดรธานี ประเทศไทยเมื่ออายุได้ 15 ปี หลังจากนั้นอีก 5 ปี จึงเดินทางไปเผชิญโชคยังฮ่องกง เขาทำงานหลายอย่างตั้งแต่ไกด์ทัวร์, เป็นนักมวย หรือกระทั่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในบาร์ จนกระทั่งได้พบกับเฉินหลง

เคน โล ได้รับการชักชวนให้มาเป็นหนึ่งในทีมผู้ช่วย และบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวของนักแสดงระดับตำนานชาวฮ่องกง เขากลายเป็นหนึ่งในทีมงานของเฉินหลง ที่ทำงานทั้งหน้าจอ และหลังจอ จนเป็นเพื่อนสนิทตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ถูกเรียกว่าเป็นมือขวาของเฉินหลง แม้แต่ลูกชายของตัวเอง โล ก็ยังตั้งชื่อว่า แจ็คกี้ เลยทีเดียว

บทบาทในฐานะนักแสดงซึ่งแฟนหนังน่าจะจดจำเขาได้ดี ก็คือการรับบทเป็นตัวร้ายในภาพยนตร์เรื่อง ไอ้หนุ่มหมัดเมา 2 เมื่อปี 1994 ที่ลีลาการเตะอันสุดยอดของเขา ในการต่อสู้กับ เฉินหลง ที่รับบทเป็นหวงเฟงหงในเรื่อง ถูกยกย่องให้เป็นฉากต่อสู้ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ฉากหนึ่งแห่งโลกภาพยนตร์ โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์ชื่อดังถึงกับยกย่อง นักแสดงทั้งสองในการบู๊มาราธอนยาวนานเกิน 20 นาทีในฉากดังกล่าวว่าเป็น “หนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ฉากต่อสู้ และการออกแบบคิวบู๊ ในภาพยนตร์สามารถยอดเยี่ยมได้มากเพียงใด”

ด้วยความสัมพันธ์ทั้งในฐานะลูกจ้างนายจ้าง และเพื่อนสนิทกว่า 30 ปี จึงกลายเป็นเรื่องที่สร้างความตกใจให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะแฟนๆ ของเฉินหลง เมื่อได้รับทราบว่า เคน โล ได้ถูกเจ้านายคนดังของตัวเองไล่ออกจากงานเสียแล้ว

นางแบบกิ๊กก๊อกอ้างสนิท "เจย์ โชว" (Jay Chou) คุยเคยขึ้น "แบทโมบิล" นักร้องดังมาแล้ว

Submitted by canjamm on 22 พฤษภาคม, 2010 - 17:23

"ฮันนี่ เฉิน" (Honey Chen) นางแบบวัย 20 ปี ออกมาอ้าง ถึงความสนิทสนมเป็นพิเศษของตัวเองกับ "เจย์ โชว" (Jay Chou) ศิลปินชื่อดังระดับประเทศ พร้อมระบุ "อาเจี๋ย" เคยเอ่ยปากขอเบอร์โทร และชวนเธอขึ้นรถ "แบทโมบิล" ของเขามาแล้ว

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โจย์ โชว หรือโจวเจี๋ยหลุน นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังวัย 31 ปี แห่งไต้หวัน ออกมาแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม Era ผลงานชุดที่ 10 ของตัวเอง ในช่วงหนึ่งของการแถลง เขากล่าวอย่างเหนื่อยหน่ายถึงข่าวลือเกี่ยวกับสาวๆ ที่มีมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ว่า "ระยะนี้โชคของผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยครับ"

ความซวยที่นักร้องหนุ่มพูดถึงก็คือ กรณีที่มีสาวถึง 2 คน ออกมาอ้างว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขานั่นเอง

สาวคนล่าสุดที่ออกมาพูดกับสื่อมวลชนในเรื่องดังกล่าวก็คือ ฮันนี่ เฉิน นางแบบสาว ที่สื่อไต้หวันระบุว่าเป็น นางแบบประจำเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ของที่นั่น นางแบบวัย 20 ปี ออกมาเผยในรายการวาไรตี้โชว์ท้องถิ่น ถึงความสนิทชิดเชื้อของตัวเองกับศิลปินอันดับ 1 ของประเทส จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วไต้หวัน หนึ่งในคำกล่าวอ้างของนางแบบคนนี้ ก็คือการอ้างว่า เจย์ โชว เคยเรียกเธอว่าเป็น "สาวที่ดูบริสุทธิ์ที่สุด เท่าที่เขาเคยรู้จักมา"

หลังจากกลายเป็นข่าวดังในชั่วข้ามคืน วันต่อมานางแบบคนเดิม ยังออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับนักร้องหนุ่มคนดังอีกครั้ง กับการเล่าถึงเรื่องสองปีก่อนว่า เจย์ โชว เคยพาเธอนั่ง 'รถแบทโมบิล' หรือ 'รถค้างคาว' สีดำสุดหวงของเขามาแล้ว

รถยนต์คันดังกล่าว เป็นที่รู้จักในประเทศไต้หวันดี เพราะเป็นรถที่ถูกออกแบบ ให้คล้ายกับยานพาหนะของแบทแมนซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดังแห่งดีซีคอมมิค ที่ เจย์ โชว ซื้อเก็บไว้เป็นของตัวเอง ในฐานะแฟนการ์ตูนฮีโร่ตัวยงนั่นเอง

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) จะแสดงในละคร 2 เรื่องใหม่ Extravagant Challenge ร่วมกับซิวอน (Siwon) และดงเฮ (DongHae) แห่งวง SJ / Coffee Prince เวอร์ชันไต้หวัน

Submitted by canjamm on 20 พฤษภาคม, 2010 - 16:48

หลังจากห่างหายจากวงการละครไอด้อลไปประมาณ 2 ปี เอเรียล หลิน (Ariel Lin) ตอบรับที่จะแสดงละครเรื่องใหม่สองเรื่องในปีนี้ เรื่องแรกคือเรื่อง Extravagant Challenge (Skip Beat) ซึ่งจะกลับมาถ่ายทำซะที หลังจากเลื่อนมาประมาณหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม เจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) นักแสดงนำชายที่เคยเลือกเอาไว้ ถูกเปลี่ยนมาเป็นซิวอน (Siwon) และดงเฮ (DongHae) นักร้องวง Super Junior จากเกาหลี โดยผู้กำกับยังเป็น Niu Cheng Ze เช่นเดิม ละครอีกเรื่องหนึ่งที่เอเรียลตอบรับที่จะแสดงนั้น เป็นละครที่อิงมาจากละครเกาหลีชื่อดัง Coffee Prince เธอจะรับบทของยูนอึนเฮ (Yoon Eun Hye) และในตอนนี้ยังคงพูดคุยกันว่าจะเลือกใครมาเป็นนักแสดงนำชาย

เมื่อปีที่แล้ว เจอรี่ เหยียน และเอเรียล หลิน พร้อมกับผู้กำกับ Niu ประกาศว่าจะร่วมกันถ่ายทำละครไอด้อลเรื่อง Extravagant Challenge และพวกเขาเดินทางไปถึงญี่ปุ่น เพื่อที่จะจัดงานแถลงข่าวขึ้นที่นั่น เจอรี่ยอมเดินทางไปญี่ปุ่นให้ฟรีๆเพื่อทำการโปรโมทในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมาไต้หวัน พวกเขาได้รับแจ้งว่า ละครจะยังไม่เริ่มการถ่ายทำ และสิ่งที่พวกเขาทำมาทั้งหมดนั้นกลายเป็นเรื่องที่เสียเวลา ต่อมา ลือกันว่า นักแสดงนำชายถูกเปลี่ยนไปเป็นอู๋จุน (Wu Zun) และเรื่องนี้ทำให้เจอรี่โมโห และเขาตัดสินใจถอนตัวออกจากการแสดงในละคร

ทางด้านเอเรียลที่ไม่ได้แสดงในละครไอด้อลมาสักระยะหนึ่งแล้ว และแฟนๆถึงขนาดเดินทางไปบริษัทต้นสังกัดเธอเพื่อประท้วง แฟนๆหลายๆคนต่างก็เขียนจดหมายถึงผู้ช่วยของเธอ แฟนๆยังเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความไม่พอใจของแฟนๆทางเว็บไซค์อย่างเป็นทางการของเอเรียล โดยระบุว่า ไอด้อลของพวกเขาเป็นนักแสดง ไม่ใช่นักร้อง เมื่อไม่นานมานี้ เอเรียลยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวออกอัลบั้มที่สองของเธอ และยังมีหนังสือภาพการท่องเที่ยวอีกด้วย ช่วงเวลาที่เธอสามารถจะเริ่มถ่ายทำละคร Extravagant Challenge ได้นั่น ก็คือเดือนสิงหาคม และสำหรับละคร Coffee Prince เวอร์ชันไต้หวันนั่น เอเรียลชื่นชอบในละครเรื่องนี้ในเวอร์ชันเกาหลีเป็นอย่างมาก และเธอจะทำมันออกมาด้วยการแสดงของเธอเอง

ChinaTimes

สาวงามผู้เข้าประกวด "มิสฮ่องกง" อวดโฉมชุดว่ายน้ำ ก่อนขึ้นเวทีเดือนหน้า

Submitted by canjamm on 19 พฤษภาคม, 2010 - 10:27

8 สาวสวย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้เข้าประกวด "มิสฮ่องกง ประจำปี 2010" โชว์โฉมในชุดว่ายน้ำ ก่อนเก็บตัว และขึ้นเวทีประกวดในเดือน ก.ค. นี้

เมื่อสัปดาห์ก่อนบริษัททีวีบีได้จัดให้มีคัดเลือกรอบแรก สำหรับสาวงามผู้เข้าประกวด มิสฮ่องกง ประจำปี 2010 เพื่อสรรหาสาวงามชาวฮ่องกงจำนวน 12 คนเพื่อการประกวดในรอบสุดท้าย โดยผู้สมัครต้องมีอายุอยู่ระหว่าง 17 - 27 ปี โดยสาวๆ ที่สนใจเข้าร่วมการประกวด เวทีความงามที่ยิ่งใหญ่ยาวนานเจ้าหนึ่งแห่งฮ่องกง ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในวัยเรียนทั้งในระดับมัธยม และมหาวิทยาลัย แทบทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากจะมีการรับสมัครหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงแล้ว ทีวีบียังจะรับผู้สมัครที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในต่างประเทศด้วย

ล่าสุด 8 สาวงาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ได้อวดโฉมในชุดว่ายน้ำให้สื่อมวลชน และประชาชนได้ชมกัน ที่สระว่ายน้ำแห่งหนึ่งในมาเก๊า ซึ่งนอกจากความงามของสาวๆ จะเป็นที่สนใจแล้ว แล้วข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับพวกเธอก็กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันมากด้วย สาวคนนึงถูกพูดถึงว่าผ่านการทำศัลยกรรม เพื่อเข้าประกวด, นอกจากนั้นยังมีสาวที่เป็นอดีตแฟนของดารา มีกระทั่งข่าวลือเกี่ยวกับการมีลูกแล้วของผู้เข้าประกวดคนหนึ่ง

หนึ่งในสาวสวยที่ผ่านเข้ารอบ และได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ ซูกี้ หว่อง สาววัย 20 ปี ที่สื่อมวลชนลือกันหนักว่า เธอไปนอนให้หมอผ่าเสริมอึ๋ม เพิ่มขนาดหน้าอกจากคัพซี เป็นดี สำหรับการเข้าประกวดครั้งนี้โดยเฉพาะ

หลังเป็นที่พูดถึง เจ้าตัวได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้โดยทันที และยืนยันว่าทุกอย่างเป็นผลจากการเตรียมตัว, ลดความอ้วน และออกกำลังกายก่อนเข้าประกวดเป็นสำคัญ "ฉันอดอาหาร และออกกำลังกายค่ะ กินแต่ผลไม้ทุกวันมาหลายเดือน เพราะต้องการลดขนาดรูปร่างโดยเฉพาะต้นขา ตอนนี้ฉันผอมลง, หน้าก็เล็กลง รูปร่างดูบอบบางกว่าเดิม แต่หน้าอกไม่ได้เล็กลงไปด้วย เท่านั้นเอง"

ช่วงเวลาหลังจากนี้ จะเริ่มเข้าสู่การเก็บตัว ก่อนการประกวดรอบสุดท้าย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.ค. และถ่ายทอดสดทางทีวีบี เช่นเคย

Manager Online

เผยโฉม "ควินตัส" ลูกน้อย "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse), "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung)

Submitted by canjamm on 18 พฤษภาคม, 2010 - 16:16

พ่อแม่นักแสดงดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง เผยภาพแรกของลูกชายคนที่สอง หนูน้อยสมาชิกคนใหม่แห่งตระกูล "เซียะ" ที่ตอนนี้ได้ชื่อภาษาอังกฤษแล้วว่า "ควินตัส" (Quintus) ให้กับสื่อมวลชนและแฟนๆ ได้ชมกันเป็นครั้งแรก ขณะที่ฝ่าย "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ผู้เป็นแม่ออกมาเผยว่าคงไม่หยุดแย่สองแน่ๆ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะมีลูกให้ครบสัก 8 คน

ตอนนี้ เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) นักแสดงรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงคนล่าสุด คงต้องพักเรื่องงานไปช่วงใหญ่ๆ เพราะยุ่งกับการเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนมากกว่าแทน

หลังจากลูกคนที่สองถูกกำเนิดขึ้นมา ผู้เป็นปู่อย่าง เซียะเสียน (Patrick Tse) นักแสดงรุ่นใหญ่ให้คำแนะนำกับลูกชายตัวเองว่า อาจจะดีกว่าถ้าเขารีบพาภรรยา พร้อมด้วยสมาชิกคนใหม่ของครอบครัวกลับไปเลี้ยงที่บ้าน ในตอนนี้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่โรงพยาบาล ซึ่งนักข่าวจำนวนมากยังติดตามทำข่าวอยู่อย่างไม่ลดละ จนกลายเป็นความโกลาหลย่อมๆ ขึ้นมาแล้ว

แต่ เซียะถิงฟง ห่วงใยความรู้สึกของลูกชายคนโต ลูคัส วัย 3 ปี ที่อาจจะอิจฉา และรู้สึกว่าน้องเกิดใหม่แย่งความรักจากทุกๆ คนไป เขาจึงเลือกที่จะให้ จางป๋อจือ กับลูกน้อยพักอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน และเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำหน้าที่สามี และพ่อของลูกทั้งสองคนให้ดีที่สุด

เซียะถิงฟง จะพาลูคัส ไปเยี่ยมน้อง และจางป๋อจือผู้เป็นแม่ในตอนกลางวัน ส่วนตอนตกเย็นเขาจะกลับบ้าน เพื่อมาดูแลลูกชายคนโตด้วยตัวเอง

ก่อนหน้านี้ เซียะถิงฟง เคยเปรยว่าอยากตั้งชื่อลูกคนที่สอง ให้คล้ายกับชื่อ 'ลูคัส' ของลูกชายคนโต เขายังเคยกล่าวว่ามีชื่อย่าง มาคัส และโฟกัส อยู่ในหัว แต่ในที่สุดคุณพ่อวัย 29 ปี คนนี้ตัดสินใจตั้งชื่อ 'ควินตัส' ให้กับสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว พร้อมอธิบายว่าคำดังกล่าวมาจากภาษาลาติน มีความหมายถึงตัวเลข 5 ซึ่งเป็นเดือนที่ ลูกคนนี้ถือกำเนิดขึ้นมานั่นเอง

เซียะถิงฟง ยังกล่าวว่าลูกชายคนนี้มีส่วนที่คล้ายกับตัวเองตอนเด็กๆ มาก แต่นักแสดงหนุ่มคนดัง ยังยอมรับว่าตัวเองอาจจะเห่อลูกไปหน่อย ซึ่งคงต้องรอให้พ่อหนุ่มน้อยโตกว่านี้ถึงจะบอกได้ว่าคล้ายพ่อหรือแม่มากกว่ากัน แต่สำหรับ ตีปอร่า ผู้เป็นคุณย่ามองว่าหลานชายคนนี้ดูคล้ายคุณปู่ เซียะเสียน มากๆ

เปิดตัวหุ่นขี้ผึ้ง "ยิปมัน" ดอนนี่ เยน (Donnie Yen) มาดามทุสโซ เซี่ยงไฮ้

Submitted by canjamm on 15 พฤษภาคม, 2010 - 16:44

เอเยนซี - ดอนนี่ เยน (Donnie Yen) ร่วมงานเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ ในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. โดยจำลองจากบทบาทการแสดงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา "ยิปมัน"

ภาพยนตร์เรื่อง "IP MAN 2" (ยิปมัน ภาค 2) ยิปมันอาจารย์บรู๊ซ ลี ซึ่งเปิดตัวไปในฮ่องกงเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังคงสร้างกระแสต่อเนื่อง โดยทำรายได้ในการเปิดฉายสัปดาห์แรกไปกว่า 70 ล้านบาท สูงกว่าสถิติที่ภาคแรกเคยทำไว้ถึง 2 เท่า และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวได้สูงสุดของ "ดอนนี่ เยน" นักแสดงนำผู้รับบทอาจารย์ยิปมันอีกด้วย

ดอนนี่ เยน กล่าวถึง 3 ฉากใหญ่ในภาพยนตร์เรื่อง IP Man 2 คือตลาดค้าปลาควุนชุง คือฉากสู้ระหว่างยิปมันกับนักเลงเจ้าถิ่นกว่า 200 คนในตลาดค้าปลาควุนชุง เพื่อช่วยชีวิตลูกศิษย์ของเขา ที่เล่นเอาสตันท์แมนบาดเจ็บไปกว่า 10 คน และการรับคำท้าจากอาจารย์มวยทุกคนในฮ่องกงบนโต๊ะจีน ด้วยวิทยายุทธมวยวงแคบภายในเวลาของธูปหนึ่งก้าน รวมถึงฉากสะเทือนอารมณ์และนำไปสู่ไคลแม็กซ์ซึ่งอุบไว้ให้ผู้ชมไปดูเอง โดยบอกเพียงว่า ฉากนี้เล่นเอาหงจินเป่าต้องนั่งเย็บแผลสดกันกลางกองถ่ายก่อนกลับมาเข้าฉากต่อทันที

ทั้งนี้ยิปมัน 2 ยังประกอบด้วยนักแสดงวัยรุ่น ซึ่งกำลังก้าวขึ้นมาเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการทั้งสิ้น ดอนนี่ บอกว่า เขาได้วางโครงเรื่องยิปมัน ไปถึงภาค 4 แล้ว และเดิมทีตั้งใจจะนำเสนอชีวิตวัยเยาว์ของบรู๊ซ ลีตั้งแต่ในภาค 2 นี้ แต่สุดท้ายก็ยอมถอดออกไปไว้ในภาค 3 ซึ่งเราจะเห็นบรุ๊ซลีในภาค 2 เฉพาะเวอร์ชั่นที่มีความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง

Ip Man 2 (2010) Trailer

Manager Online

เปิดตัวละคร Calling For Love แสดงนำโดยไมค์ เฮอ (Mike He) และอาซา (Ah Sa)

Submitted by canjamm on 15 พฤษภาคม, 2010 - 13:56

ในการถ่ายทำละคร Calling For Love ของทาง CTS นักแสดงนำหญิงอาซา (Ah Sa / Charlene Choi) มีฉากจูบกันอย่างมากมายกับไมค์ เฮอ (Mike He) นักแสดงนำชายในละคร อาซายอมรับว่า ทักษะการจูบของไมค์นั่นทำให้เธอรู้สึกดีอย่างมาก และเธอเปิดเผยว่า "เธอเข้าสู่โลกของความรักอย่างรวดเร็ว"

Calling For Love จะออกอากาศในวันอาทิตย์นี้ แต่ดูเหมือนว่า อาซาต้องการจะหลบหน้าสื่อ เธอใช้การทำงานเป็นข้ออ้าง และไม่ต้องการที่จะเดินทางมาไต้หวันเพื่อโปรโมทละครเรื่องใหม่ของเธอ ทำให้โปรดิวเซอร์ Angie Chai ต้องรับหน้าแทน บทของอาซาในละครนั้นเป็นคนที่ใสซื่อมากๆ ทำให้เธอไม่ค่อยมีฉากเซ็กซี่อะไรมากนัก สไตล์การแต่งตัวของเธอนั้นค่อนข้างโบราณอย่างมาก ถ้าเธอไม่ใส่ชุดพนักงานขับรถแท็กซี่แล้ว เสื้อผ้าของเธอก็จะเป็นอะไรที่มิดชิด ในตอนนั้น เธอไม่ได้ขออะไรมากนัก นอกจากต้องการให้มีช่างแต่งหน้าส่วนตัวของเธอเอง และเธอไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการถ่ายทำฉากรัก

ก่อนหน้านี้ อาซามีฉากจูบกับหลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ในละคร All About Love ซึ่งใช้เวลามากกว่า 10 วินาที เธอกล่าวว่า การจูบครั้งนั้นเป็นสิ่งที่เธอยากจะลืมได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเดินทางมาไต้หวันเพื่อร่วมงานกับไมค์ เธอรู้สึกว่า เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์อย่างมาก เธอยอมรับว่า เธอรู้สึกดีอย่างมากในระหว่างการถ่ายทำกับเขา "ตาของเขานั้นสะกดใจอย่างมาก ในตอนแรก ฉันรู้สึกกลัวที่จะมองเขาไปในดวงตา ฉันกังวลเป็นอย่างมาก"

ในตอนนั้น ไมค์ไม่รู้ว่า ผู้หญิงที่เขาจูบนั้น จริงๆแล้ว เธอแต่งงานแล้ว และถือได้ว่า อาซาเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่แต่งงานแล้ว ที่มาร่วมงานกับไมค์ ไมค์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาไปร้องเพลง KTV ด้วยกัน และทุกๆคนต่างก็จงใจเลือกเพลงของ เจิ้งจงจี (Ronald Cheng) อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกหยุดโดยอาซา ที่ค้านการเลือกนั้นอย่างหนัก

UDN

กู่เทียนเล่อ (Louis Koo) ไม่กล้าพูดในสถานที่ถ่ายทำหนัง

Submitted by canjamm on 15 พฤษภาคม, 2010 - 13:42

ใน Triple Tap ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของทาง EEG กู่เทียนเล่อ (Louis Koo) ร่วมงานกับผู้กำกับ Derek Yee อีกครั้งหนึ่ง เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่ามันสนุก และไม่ท้าทาย เพราะว่าบทของเขานั้นไม่ได้ต้องการให้มีการแสดงออกอะไรทางหน้าสักเท่าไหร่นัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฉากแอ็คชั่น เขากล่าวว่า "ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังการถ่าย หรือเมื่อตอนกำลังถ่ายทำอยู่ ผู้กำกับกดดันผมอย่างหนักให้แสดงออกมาให้ดี เขาไม่ค่อยพูดเท่าไหร่นักในสถานที่ถ่ายทำ ทำให้ทุกๆคนในนั้นไม่กล้าที่จะพูดไปด้วย เขาเพียงแค่ให้เวลาผมสั้นๆ เพื่อให้ผมเปลี่ยนตัวเองไปเป็นตัวละครในบทอย่างสมบูรณ์"

กู่เทียนเล่อยังหัวเราะและกล่าวว่า ภาพยนตร์ทำให้เขาเข้าใจคนที่ต้องการจะป้องกันอาชญากรรม โดยทำการฆาตกรรม และทำให้พวกเขาเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม เขาแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าเขาไปพบเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะรวบรวมความกล้าเพื่อเข้าไปหยุดมัน

Oriental Daily

"เหลียงหย่งฉี" (Gigi Leung) เลือกแม่ เลิกแฟนฝรั่ง

Submitted by canjamm on 14 พฤษภาคม, 2010 - 18:20

"เหลียงหย่งฉี" (Gigi Leung) ออกมายอมรับว่า ได้เลิกรากับแฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศสแล้ว หลังคบหากันได้ประมาณ 4 ปี สื่อฮ่องกงแฉ เหตุหนุ่มตาน้ำข้าวไม่แฮปปี้สาวคนรักให้ความสำคัญกับครอบครัว และแม่มากกว่า

เหลียงหย่งฉี นักแสดงสาวชาวฮ่องกง ยุติความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศสมาได้ประมาณ 4 ปีแล้วแต่ท้ายที่สุดบทสรุปแห่งความรักครั้งนี้ ต้องจบด้วยการเลิกราอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า แม่ของดาราสาวคนดัง ไม่เคยยอมรับแฟนชาวต่างชาติของลูกสาวตัวเองคนนี้เลย "ครอบครัวของฉันค่อนข้างหัวโบราณน่ะค่ะ พวกเขาไม่ยอมรับในความสัมพันธ์ กับเพื่อนชายชาวต่างชาติคนนี้มาตั้งแต่ต้น แต่ถึงยังไงพวกเขาก็เคารพการตัดสินใจของฉัน" เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดือนประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้ และเปรยว่าคงไม่รีบร้อนอะไร หวังว่าเวลาจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

รายงานของหนังสือพิมพ์หมิงเป้า ยังระบุว่านักแสดงสาวคนดังพยายามแก้ไขปัญหาพวกนี้ ด้วยการให้ตัวเอง, แม่ และหนุ่มชาวฝรั่งเศส ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะแฟนหนุ่มเริ่มรู้สึกอึดอัด และคิดว่ามารดาของหญิงคนรัก กลายเป็นอุปสรรคในความรักครั้งนี้

ซึ่งในที่สุดความรัก 4 ปี ก็ต้องจบลง หลังจาก เหลียงหย่งฉี กำลังจะตัดสินใจรับแม่ และสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ให้อยู่ด้วยกัน ในบ้านหลังใหม่ของตัวเองที่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งนักแสดงวัย 34 เคยกล่าวกับนักข่าวว่า อยากจะใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆ กับครอบครัวที่สามารถไปมาหาสู่กันได้ทุกวัน ทุกคนจะได้ช่วยดูแลกันได้ แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่แฟนหนุ่มชาวต่างชาติจะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

ในการเปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง เหลียงหย่งฉี ยอมรับว่าข่าวลือเกี่ยวกับแฟนหนุ่มและครอบครัว มีทั้งเรื่องที่เป็นจริง และเรื่องที่เป็นเท็จ อย่างไรก็ตามเธอยืนยันว่าการเลิกรากัน เกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยปรึกษากับฝ่ายชายอย่างเป็นเหตุเป็นผล และเป็นการจากกันด้วยดี ไม่ได้หลงเหลือความรู้สึกแย่ๆ ให้แก่กันแต่อย่างใด

"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse), "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ได้ลูกชายคนที่สองแล้ว

Submitted by canjamm on 13 พฤษภาคม, 2010 - 16:28

"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ได้ให้กำเนิดลูกชายคนที่สองคนของเธอ และสามีนักแสดงหนุ่ม "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) แล้วในช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา

มีรายงานจากฮ่องกงว่า จางป๋อจือ นักแสดงสาววัย 31 ปีได้ให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง ในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม 45 นาทีของวันพุธที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา และหนูน้อยทายาทสองนักแสดงชื่อดังมีสุขภาพแข็งแรงดีทุกประการ และมีน้ำหนักแรกเกิดประมาณ 7 ปอนด์ 7 ออนซ์

เซียะถิงฟง เดินทางมาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ในวันที่ 11 พ.ค. แล้ว ซึ่งหลังมีข่าวว่าภรรยาคนสวยของเขาจะให้กำเนิดลูกชายคนที่สองภายในสัปดาห์นี้ นักข่าวจำนวนมากต่างเดินทางมาติดตามทำข่าว ทั้งที่บ้านของทั้งคู่ และที่โรงพยาบาล เป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน มีข่าวว่านักแสดงหนุ่มลงทุนเลี้ยงทาร์ตไข่ ให้กับนักข่าวและช่างภาพจำนวนร่วม 100 ชีวิตที่คอยติดตามทำข่าวของเขา

คุณปู่ เซียะเสียน (Patrick Tse) พ่อของเซียะถิงฟง เป็นผู้ออกมาพูดถึงข่าวดีครั้งนี้เป็นคนแรก พร้อมกล่าวยืนยันว่าหลานชายสุขภาพแข็งแรงดี ขณะที่ฝ่ายคุณย่า ตีปอร่า (Deborah Dik) กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ในตอนนี้ฉันมีความสุขมากๆ "

ซึ่งทั้งคุณปู่และคู่ย่านักแสดงรุ่นใหญ่ ได้เดินทางไปเยี่ยมหลานคนใหม่ที่โรงพยาบาลทันที ทั้งสองยังกล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นเหมือนเดิม แม้ทารกน้อยจะเป็นหลานชายคนที่สองแล้วก็ตาม คุณปู่เซียะเสียนยังพูดถึง ลูคัส หลานชายคนโตด้วยว่า ได้พบกับน้องชายคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า จางป๋อจือ และเซียะถิงฟง อาจจะตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้กับลูกว่า "โฟกัส" เพื่อให้คล้องกับ "ลูคัส" ลูกชายคนแรก ขณะที่ชื่อภาษาจีนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้ชื่ออะไร

จางป๋อจือ และเซียะถิงฟง สองนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงเข้าพิธีแต่งงานกันอย่างเงียบๆ ในปี 2006 ก่อนที่จะมีทายาทคนแรกในปีต่อมา แม้ที่ผ่านมาชีวิตคู่ของทั้งสองจะต้องพบกับมรสุมลูกใหญ่ เมื่อฝ่ายหญิงต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับนักแสดงหนุ่ม เฉินกว้านซี (Edison Chen) เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน แต่ทั้ง จางป๋อจือ และเซียะถิงฟง ยังประคองชีวิตคู่ให้ผ่านพ้นเรื่องต่างๆ มาได้ จนกระทั่งมีพยานรักเป็นลูกชายคนที่สองในวันนี้

Manager Online

ยุติศึก "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) ดาราดัง VS "หลิวเต๋อหัว" พ่อค้าเป็ดย่าง

Submitted by canjamm on 13 พฤษภาคม, 2010 - 13:39

ตัวแทนจากบริษัทของ "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) ออกแถลงการณ์ ยุติการดำเนินการทางกฎหมายกับชายชราวัย 66 ปี นาม "หลิวเต๋อหัว" ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ กับการเปิดร้านอาหาร 'เป็ดย่างเกลือ หลิวเต๋อหัว ของแท้และดังเดิม' ที่ตั้งอยู่ในเสฉวน ชี้เรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น

Topman Global บริษัทของนักแสดงชื่อดังยังกล่าวขออภัย ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และยุติการดำเนินการใดๆ ทั้งหมด ต่อร้านเป็ดย่างเกลือแห่งหนึ่งในเสฉวน อ้างทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด หลังจากมีปัญหาทางข้อกฎหมายระหว่าง หลิวเต๋อหัว นักแสดงชื่อดัง กับ หลิวเต๋อหัว พ่อค้าเป็ดวัย 66 ปี เจ้าของร้าน 'เป็ดย่างเกลือ หลิวเต๋อหัว ของแท้และดังเดิม'

บริษัทดังกล่าว ยังออกมาอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องดำเนินการก่อนหน้านี้ว่า ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสับสน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต พร้อมอ้างไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาเปรียบ ล่วงละเมิดสิทธิ์การใช้ชื่อ และตราสินค้าของผู้อื่น

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ตัวแทนของพระเอกคนดัง ออกมาแสดงความไม่พอใจที่ร้านอาหารแห่งใช้ชื่อร้านและตราสินค้า 'หลิวเต๋อหัว' ในการขายทั้ง เป็ดย่างเกลือ, เนื้ออบ และไส้กรอก Topman Global ยังอ้างว่าการกระทำเหล่านี้นอกจากจะละเมิดลิขสิทธิ์ ในชื่อของนักแสดงคนดังแห่งเกาะฮ่องกงแล้ว ยังลบหลู่ต่อชื่อหลิวเต๋อหัวของเขาด้วย โดยบริษัทตัวแทนได้เรียกร้องให้ร้านขายเป็ดย่างเกลือ เปลี่ยนชื่อเป็นอย่างอื่น ถ้าไม่ต้องการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

ซึ่งมีการอ้างว่าการใช้ชื่อร้านอาหารว่า 'เป็ดย่างเกลือ หลิวเต๋อหัว ของแท้และดังเดิม' นั้นอาจสร้างความเข้าใจผิดว่าร้านดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ พระเอกคนดัง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่

เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มปานปลาย บริษัท Topman Global พยายามดำเนินการทางกฎหมาย กับเจ้าของร้านอาหารแห่งนั้น ซึ่งต่อมาปรากฏว่าเป็นชายชราวัย 66 ปี ที่ชื่อ หลิวเต๋อหัว เช่นเดียวกัน

เรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักจากชาวจีน ว่านักแสดงฮ่องกง และบริษัทของเขา กำลังเล่นงานกลั่นแกล้งชายชราผู้ไม่มีทางสู้ จนเกิดกระแสต่อต้านจากทั้งคนในท้องถิ่น, ลูกค้าประจำของร้าน รวมถึงผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากทั่วประเทศจีน ที่ต่างกดดันจนเป็นที่มาแห่งการยุติศึกในที่สุด

ทาคุยะ คิมูระ (Takuya Kimura) ชมหลินจื้อหลิง (Lin Chi Ling) ว่าเธอสวยอย่างแท้จริง

Submitted by canjamm on 13 พฤษภาคม, 2010 - 13:17

เมื่อหลายวันก่อน นักแสดงหญิงชาวไต้หวัน หลินจื้อหลิง (Lin Chi Ling) กล่าวชื่นชมเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่น ทาคุยะ คิมูระ (Takuya Kimura) โดยชมเขาว่า "หล่อ" และ "สูง"

มาคราวนี้ ก็ถึงคราวของนักแสดงชายผู้มากเสน่ห์ ในการชมคู่รักบนหน้าจอจากละครเรื่อง Moon Lovers (Tsuki no Koibito) ในการสัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น Men's Non-no

"เมื่อตอนแรกที่ผมได้ยินว่าเธอจะมาร่วมการถ่ายทำมิวสิควีดีโอของพวกเรา (SMAP) ผมแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ผมได้ยิน ผมรู้สึกว่า เธอสวยจริงๆ เธอสวยอย่างมาก เธอไม่เพียงแค่สวยเพียงภายนอก เธอเป็นคนที่สุภาพมากๆอีกด้วย" ทาคุยะกล่าว

ทั้งทาคุยะ และหลินจื้อหลิงต่างก็แต่งตัวกันในชุดสีดำสำหรับการถ่ายทำในนิตยสาร ทาคุยะโอบเอวของเธอไว้ ในขณะที่เธอก็นำมือของเธอวางไว้บนแขนของเขา

ละคร ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่คืนก่อนหน้านี้ทาง Fuji TV (10 พ.ค.) ทางสถานียังออกอากาศเบื้องหลังการถ่ายทำหลังจากการออกอากาศตอนแรกจบลง ทั้งคู่ต่างก็ดูเข้ากันได้อย่างดี ในฉากที่ทาคุยะกอดเอวของหลินจื้อหลิงพร้อมกับหัวเราะมาที่กล้อง

จากข่าว ชิซูกะ คุโด้ (Shizuka Kudo) ภรรยาของทาคุยะ รู้สึกอิจฉาคู่รักบนจอ และให้ข่าวต่อสาธารณชนว่า เธอตั้งใจจะไปเยี่ยมสามีของเธอในที่ทำงาน

แซมมี่ (Sammy) ผู้จัดการของหลินจื้อหลิง กล่าวอย่างมั่นใจเกี่ยวกับข่าวลือนี้ว่า "ถ้ามันมีเรื่องส่วนตัวอะไรนั่น พวกเราไม่แน่ใจเกี่ยวกับมัน พวกเราเพียงแค่ตั้งใจทำงานให้ออกมาดี พวกเราไม่มีเวลาคิด หรือถามเรื่องของคนอื่นๆ"

Yahoo

Fahrenheit ทำเงินได้มากถึง 45 ล้านเหรียญไต้หวัน ในการปรากฎตัวเพียงครั้งเดียว

Submitted by canjamm on 13 พฤษภาคม, 2010 - 12:53

พวกเราไม่เลือกข้าง แต่การแทนที่ F4 ด้วยความหนุ่มกว่า รวมถึงความหล่อของหนุ่มๆ Fahrenheit แน่นอนว่าทำให้เงินหมุนเวียนมากขึ้น

กลับมาอีกครั้งสำหรับการเป็นฑูตการท่องเที่ยวของไต้หวัน สำหรับเกาหลีและญี่ปุ่น กลุ่มศิลปิน Fahrenheit สามารถนำเงินเข้ามาได้ประมาณ 45 ล้านเหรียญไต้หวันในการปรากฎตัวเพียงครั้งเดียวที่ฟู่หลง (Fulong) ไต้หวัน

กระทรวงการท่องเที่ยวจัดงานบาร์บีคิวปาร์ตี้ให้กับแฟนๆในปีนี้ โดยมี Fahrenheit มาเป็นแขกรับเชิญ และพวกเขาจะทำการนำทัวร์ไปยังฮั่วเหลียน (Hualien) ในเดือนตุลาคม

แนวความคิดใหม่ๆนี้ยากที่จะทำให้ปฏิเสธได้ และมีผู้เข้าร่วมทัวร์นี้มากกว่า 1 พันคน

ด้วยงานนี้ กลุ่มศิลปิน Fahrenheit สามารถสยบคำวิจารณ์ที่ว่า พวกเขาได้รับเงินโฆษณาจำนวน 8 ล้านเหรียญไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว เพียงแค่ให้ยืมใบหน้าของพวกเขาไปใช้ในโครงการ

แอรอน (Aaron) ทะเลาะกับแม่ก่อนวันแม่

เมื่อวันอาทิตย์เป็นวันแม่ ซึ่งทำให้แฟนๆหลายๆคนพาแม่ของพวกเขามาในงานซึ่งมีขึ้นในวันต่อมา

หนุ่มๆ Fahrenheit ฉลองกันอย่างไร?

จิโร่ (Jiro) เปิดเผยว่า เขาเคยพาแม่ของเขาไปพักผ่อนที่เซี่ยงไฮ้ สำหรับแคลวิน (Calvin) เนื่องจากเขาต้องทำงาน เขาทำได้แค่เพียงชดเชยช่วงเวลาที่เขาหายไป ด้วยการออกไปทานอาหารกับครอบครัว โดยเป็นผู้ชำระค่าอาหารให้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า งานประจำปีนี้จะดำเนินไปอย่างสงบกันทุกๆคน

ก่อนหน้าวันอาทิตย์ แอรอนทะเลาะกับแม่ของเขาหลังจากเธอเปลี่ยนตำแหน่งแก้วฮวงจุ้ยของเขา ทำให้เขาต้องเอาใจแม่ของเขาในเวลาต่อมา ด้วยการซื้อกระเป๋า Chanel ให้เธอ

แม่ของอู๋จุน (Wu Chun) เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน และเขากล่าวว่า ในวันเช่นนี้ ทำให้เขาคิดถึงแม่ของเขามากยิ่งขึ้น

Yahoo

คุณแม่มือใหม่ "จ้าวเวย" (Zhao Wei) ออกงานครั้งแรกหลังคลอดลูกสาว

Submitted by canjamm on 12 พฤษภาคม, 2010 - 00:50

"จ้าวเวย" (Zhao Wei) นักแสดงสาวชาวจีน ออกงานเป็นครั้งแรก หลังจากคลอดลูกสาวเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน ในการเป็นแขกรับเชิญงานเปิดห้องแสดงภาพของเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่สิงคโปร์ นักแสดงเจ้าของฉายาองค์หญิงกำมะลอ ยังปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าวเช่นเดิม

จ้าวเวย เก็บตัวเงียบและหยุดงานในวงการบันเทิงทั้งหมดโดยสิ้นเชิง นับแต่ตั้งครรภ์เมื่อปลายปีก่อน จนการเข้าร่วมงานรอบปฐมทัศน์ของหนัง Hua Mulan ที่กวางโจวเมื่อ พ.ย. ปีที่แล้ว ถือเป็นการออกงาน และปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณะชนครั้งสุดท้าย ของนักแสดงหญิงผู้โด่งดังจากบทบาทในละครชุดองค์หญิงกำมะลอ ไปโดยปริยาย

หลังจากให้กำเนิดลูกสาวเมื่อวันที่ 1 เม.ย. จ้าวเวย ยังคงเก็บตัวเงียบ ใช้ชีวิตในฐานะแม่คนหนึ่งที่สิงคโปร์อย่างไม่มีอะไรหวือหวา และไม่ได้ออกมาให้ข่าวถึงต่างๆ ที่คนจำนวนมากให้ความสนใจแต่อย่างใด

จนกระทั่งล่าสุดเธอเดินทางมาเป็นแขก ในงานเปิดห้องแสดงภาพของ คิม โรบินสัน ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการออกงานสังคมครั้งแรกในรอบครึ่งปี โดย จ้าวเวย ร่วมงานเปิดห้องภาพของเพื่อนสนิทคนนี้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียงประมาณ 15 นาทีเท่านั้น แต่ก็สามารถเรียกความสนใจจากนักข่าวจำนวนมาก ให้มารวมตัวกันในงานวันนั้นได้

นักแสดงสาวคนดังยังคงปฏิเสธจะตอบคำถามใดๆ และบอกเพียงว่า "ฉันมีความสุขดีค่ะ แต่ต้องขออภัยด้วย ที่วันนี้ให้สัมภาษณ์ไม่ได้จริง" โดยผู้จัดการส่วนตัวออกชี้แจงว่า ระหว่างนี้จ้าวเวย จะยังไม่รับงานใดๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าหนัง หรืออีเวนต์ การมาร่วมงานเปิดตัวห้องแสดงภาพ ครั้งนี้เป็นเกี่ยวข้องกับมิตรภาพความเป็นเพื่อนของเธอ กับคิม โรบินสัน ไม่ใช่เรื่องธุรกิจแต่อย่างใด

นอกจากนั้น ในช่วงใกล้เคียงกัน จ้าวเวย ยังได้รับการโหวตให้เป็นนักแสดงหญิงยอดนิยมจาก เทศกาลหนังนักเรียนปักกิ่งครั้งที่ 17 นับเป็นการคว้ารางวัลดังกล่าวได้เป็นหนที่ 3 แล้ว

หนุ่มจีนทำศัลยกรรม ใช้ใบหน้า "ฟานปิงปิง" (Fan Bing Bing) เป็นต้นแบบ

Submitted by canjamm on 11 พฤษภาคม, 2010 - 19:16

หนุ่มจีนผู้โด่งดังในฐานะผู้ชายที่มีใบหน้าคล้าย "ฟานปิงปิง" (Fan Bing Bing) ถูกแฉด้วยรูปว่า ก่อนจะมีวันนี้ เขาผ่านการทำศัลยกรรมหลายจุด เพื่อให้เหมือนนักแสดงสาวคนดัง ไม่ได้เป็นการเหมือนโดยธรรมชาติโดยไม่ได้ตั้งใจ แบบที่เจ้าตัวอ้างแต่อย่างใด

นักแสดงสาว ฟานปิงปิง เคยได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 50 คนจีนที่มีหน้าตาดีที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่นักแสดงสาวคนสวยวัย 28 ปีคนนี้ กลายเป็นต้นแบบแห่งความงามแบบจีน มีหญิงสาวมากมายที่ใช้ใบหน้าหวานซึ้งของเธอเป็นต้นแบบ แต่มันกลายเป็นความผิดปกติขึ้นมาทันที ที่มีหนุ่มคนหนึ่ง ใช้ใบหน้าของ ฟานปิงปิง ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นเดียวกัน

กงหมิง หนุ่มนักศึกษาธรรมดาๆ แต่กลายเป็นคนดัง เพราะเขามีหน้าตาละม้ายนักแสดงหญิงคนดังของประเทศอยู่ และจะยิ่งเหมือนขึ้นไปอีก ถ้าเขาแต่งหน้าเป็นผู้หญิงเลียนแบบฟานปิงปิง โดยหนุ่มคนนี้เริ่มต้นเป็นที่รู้จัก หลังตัดสินใจเพื่อเข้าร่วมในรายการโทรทัศน์ ประเภทประกวดร้องเพลงรายการหนึ่งของที่นั่น

ในการประกวดร้องเพลงครั้งนั้น ฟานปิงปิงเพศชายคนนี้เคยย้ำว่า ตัวเองไม่ต้องการโด่งดังในฐานตัวสำรองของใคร หลังจากที่เขาโด่งดังขึ้นมา ในฐานะผู้ชายที่มีใบหน้าคล้ายนักแสดงสาวคนดังของประเทศแล้ว เขากลับตัดสินใจประกวดรอบต่อไป ด้วยรูปโฉมผู้ชายของตัวเอง แต่ก็ตกรอบไปกับความเห็นของกรรมการที่ว่า คุณภาพเสียงยังไม่ถึง บังคับลมหายใจได้ไม่ดี และร้องเพลงผิดจังหวะ

กงหมิง มีบ้านเดิมอยู่ที่จังหวัด จี่หลิน อายุ 21 ปี ส่วนสูง 176 เซนติเมตร เป็นนักเรียนในแผนกดนตรีของสถานบันศิลปะเซี่ยงไฮ้ ที่ทำให้เขาต้องเรียนทั้งการร้องเพลง, เล่นเปียโน และเรียบเรียงเพลง ก่อนหน้านี้เขาเคยรับงานบันเทิงมาบ้างแล้วเป็นครั้งคราว

ในการค้นพบว่าตัวเองหน้าเหมือน ฟานปิงปิง เขาอ้างว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ ระหว่างแต่งหน้าสำหรับการถ่ายโฆษณาครั้งหนึ่ง เมื่อจู่ๆ ช่างแต่งหน้าก็เปรยขึ้นมาว่า "คุณนี่ดูหน้าคล้ายฟานปิงปิงเหมือนกันนะ"

กงหมิง ยังกล่าวอีกว่าเขายกย่อง นักร้องจากญี่ปุ่นทั้ง Glay และ Luna Sea ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองทำงานหนักขึ้นไปอีก เพื่อความสำเร็จแบบเดียวกัน

"โคโค่ ลี" (Coco Lee) สลัดผ้าโชว์ชุดว่ายครั้งแรกในรอบ 16 ปี

Submitted by canjamm on 11 พฤษภาคม, 2010 - 15:41

นักร้องสาวชาวจีน "โคโค่ ลี" (Coco Lee) อวดหุ่นสวย บนหน้าปกนิตยสาร "Trends Health" ฉบับล่าสุด ที่ว่ากันว่าเป็นการสวมชุดว่ายน้ำถ่ายแบบครั้งแรกของเธอในรอบ 16 ปีเลยทีเดียว

โคโค่ ลี หรือ หลี่เหวินเป็นนักร้องสาวชาวฮ่องกงที่ไปใช้ชีวิต และเติบโตที่ ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่มีอายุเพียง 10 ขวบ ต่อมาจึงกลับบ้านเกิดอีกครั้งเพื่อออกผลงานเพลงในปี 1993 จนโด่งดัง และประสบความสำเร็จอย่างสูง กระทั่งได้เซ็นสัญญากับ โซนี่ มิวสิค เพื่อออกอัลบั้มเป็นภาษาอังฤษ ที่วางจำหน่ายทั่วโลก

ในช่วงโด่งดังสุดขีด โคโค ลี ยังเคยมีโอกาสขึ้นไปร้องเพลง A Love Before Time บนเวทีออสการ์ สืบเนื่องจากเพลงดังกล่าว ได้รับการเสนอชื่อ เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากหนังเรื่อง Crouching Tiger Hidden Dragon นั่นเอง

ในการเป็นนางแบบหน้าปกนิตยสาร Trends Health ของเมืองจีนฉบับล่าสุด ซึ่งออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา นักร้องสาวคนดังอยู่ในวัย 35 ปี นับเป็นการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำทูพีซครั้งแรกในรอบ 16 ปี ของเธอ ซึ่ง โคโค่ ลี เลือกที่จะเผยด้าน สดใส, สวยงาม, และมีสุขภาพดี มากกว่าจะเป็นความเซ็กซี่ยั่วยวน

Manager Online

"หวังซินหลิน" (Cyndi Wang) เศร้า โดนอดีตแฟนหนุ่มแฉเสียสาวตอนอายุ 17

Submitted by canjamm on 10 พฤษภาคม, 2010 - 15:55

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในวงการบันเทิงไต้หวัน เมื่อนักร้องสาวคนดัง "ซินดี้ หวังซินหลิน" (Cyndi Wang) ถูก "ฟานจื่อเหว่ย" (Fan Zhi Wei) อดีตแฟนหนุ่มออกมาแฉถึงเรื่องความลับส่วนตัว เรื่องที่ว่านักร้องสาวคนดังเสียความบริสุทธิ์ไปตั้งแต่ก่อนอายุ 17 ปี และเขาไม่ใช่คนแรกของแฟนสาวอย่างที่ตัวเองเคยคาดหวัง

"ตอนนั้นเธออายุประมาณ 17 ปี ครับ ผมเคยคิดว่าเธอจะมอบครั้งแรกให้กับผม แต่สุดท้ายมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ยอมรับว่าตัวเองผิดหวังนิดหน่อยนะครับ" ฟานจื่อเหว่ย หนุ่มวัย 30 ปี ให้สัมภาษณ์ เปิดเผยเรื่องความรักของเขาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน กับ หวังซินหลิน "ตอนนั้นผมอายุ 19 เคยมีแฟนมาแล้ว 2 คน แน่ล่ะมันไม่ใช่ครั้งแรกของผม แต่เธออายุแค่ 17 ปี เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"

นักแสดงหนุ่มคนนี้ ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกผิดหวังที่ได้รับรู้ว่า แฟนสาววัยใสของตัวเองในขณะนั้น ไม่ได้สดซิงอย่างที่เคยคิด พร้อมกันนั้นยังอ้างว่า อดีตนักแสดงหนุ่มที่ชื่อ เอ็ดเวิร์ด หยู (Edward Ou) วัย 29 ปี ซึ่งตอนนี้ถอนตัวจากวงการบันเทิงไปแล้ว น่าจะเป็นคนแรกของ นักร้องสาวคนดัง เพราะทั้งสองคบหากันก่อนหน้าที่เธอจะหันมาคบเขาไม่นาน

ฟานจื่อเหว่ย ยังแสดงความคิดเห็นเชิงแนะนำไปถึงหนุ่มๆ ว่าอย่าพยายามคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากหญิงคนรัก แม้ว่าเธอจะอายุน้อยเพียงใดก็ตาม

หลังความลับส่วนตัวกลายเป็นข่าวดัง หวังซินหลิน ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่เขียนบรรยายความรู้สึกในบล็อกของตัวเอง โดยไม่พยายามระบุชื่อของฝ่ายชาย เธอกล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามจดจำแต่เรื่องดีๆ และปล่อยความเจ็บปวดให้ผ่านเลยไป แต่ในความเป็นจริง ทุกอย่างไม่ได้ออกมาง่ายดายเช่นนั้น ... "เราต้องพบกับทั้งคนที่ใช่ และคนที่ไม่ใช่ ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับทั้งความสุข และเศร้าที่มากับความรัก"

ซึ่งแม้จะต้องเสียน้ำตา นักร้องสาวยังกล่าวว่าตัวเองยังไม่สิ้นหวังกับความรัก “ฉันยังเชื่อนะคะ ว่ามีคนที่ใช่อยู่ คนที่จะมอบความโรแมนติกให้ ไม่อยากให้คนในครอบครัว และเพื่อนที่อยู่รอบๆตัวคิดว่าฉันกลัวที่จะมีความรักอีกครั้งค่ะ”