อาโออิ (Sora Aoi), เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) โดนลูกหลงความขัดแย้ง จีน-ญี่ปุ่น

หลังเขียนข้อความสนับสนุนความสัมพันธ์ของ จีนกับญี่ปุ่น ให้กลับมาดีเหมือนเดิม “โซระ อาโออิ” (Sora Aoi) กลับโดนโจมตีจากชาวจีน เช่นเดียวกับบรรดาดาราหลายคน และหนังหลายเรื่อง ที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศไปตามๆ กัน
       
       ดาราเอวีเลือดปลาดิบขวัญใจบรรดาอาตี๋ทั้งหลายอย่าง โซระ อาโออิ ได้แสดงจุดยืนเรื่องการแย่งเกาะเจ้าปัญหา ผ่านการเขียนลายมือตัวอักษรภาษาจีน ที่มีความหมายว่า “ความสัมพันธ์ ญี่ปุ่น-จีน” พร้อมกับเขียนแสดงความเห็นว่า “ฉันหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั่วๆ ของทั้งสองประเทศยังจะดีเหมือนเดิม ฉันก็อยู่ในโลกใบเดียวกับทุกคน มันน่าเศร้าอยู่เหมือนกัน
       
       หลังเริ่มรับงานในจีนมาตั้งแต่ปี 2010 กับงานโฆษณาเกมออนไลน์ โซระ อาโออิ ได้ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ถนนบันเทิงของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะ Sina Weibo ของเธอนั้นมีคนจีนตามอยู่ถึง 13 ล้านคนเลยทีเดียว
       
       นอกจากนั้น หนุ่มจีนบางคนยังเรียก อาโออิ ว่าเป็น “ซินแส” หรือในภาษาญี่ปุ่นที่ว่า “เซนเซ” ซึ่งแปลว่า “อาจารย์” ก็เพราะเธอคนนี้เป็นสาวคนแรกที่สอนให้หนุ่มๆ หลายคนได้รู้จักเรื่องของเซ็กซ์ นั่นเอง
       
       โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อเธอถามแฟนๆ ในเน็ต ว่า มีที่ไหนในจีนที่น่าเที่ยวบ้าง ก็มีคนเอ่ยชื่อของเกาะเตี้ยวอี๋ว์ที่กำลังเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาติขึ้นมา ซึ่งดาราสาวคนดังยังบอกว่าเธอจะพยายามใช้ชื่อเสียงในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง ผสานรอยร้าวระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในอีกทางด้วย
       
       ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชื่อของ โซระ อาโออิ ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องการแย่งชิงเกาะของจีนกับญี่ปุ่น เพราะเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลของทีม กวางโจว เอเวอร์เกรนเด ของจีน กับ คาชิวา เรย์โซล ตัวแทนจากญี่ปุ่น ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล รายการเอเอฟซี เอเชียน คัพ มีแฟนบอลชาวจีนรายหนึ่งจากบรรดาคนดู 40,000 ชีวิตในสนาม เทียนหอ สปอร์ต เซนเตอร์ ได้ชูป้ายที่มีข้อความว่า “เกาะเตี้ยวอี๋ว์ เป็นของจีน, โซระ อาโออิ เป็นของทุกคน
       
       โดยข้อความเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งของสองประเทศจากดาราเอวีคนดัง ถูกส่งต่อไปถึง 120,000 ครั้ง และมีคนแสดงความคิดเห็นมากมายถึง 130,000 ครั้ง ในเวลาแค่พริบตา แต่ด้วยประเด็นความขัดแย้งครั้งนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเปราะบางเป็นอย่างมาก จึงเกิดปัญหาขึ้นมาจนได้
       
       มีความเห็นอันหลากหลายต่อข้อความของ อาโออิ ตั้งแต่ที่ชื่นชมในจุดยืนของเธอ และมีคนบอกว่าไม่เสียแรงที่ชาวจีนจำนวนไม่น้อยหลงรักเธอคนนี้
       
       แต่ก็ยังมีชาวจีนบางคนที่เรียกดาราเอวีคนดังว่า เป็น “สุนัขญี่ปุ่น” และจำนวนไม่น้อยที่บอกว่าการเขียนข้อความ “ความสัมพันธ์ ญี่ปุ่น-จีน” ของเธอนั้นไม่ถูกต้อง แต่ควรจะเขียนชื่อประเทศจีนขึ้นนำหน้า จนทำให้ดาราวัย 28 ปี ต้องเขียนข้อความใหม่ว่า “ความสัมพันธ์ จีน-ญี่ปุ่น” และอัปโหลดให้ทุกคนได้เห็นกันแทน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของสถานการณ์ใดๆ ได้ แฟนคลับชาวจีนรายหนึ่งเขียนข้อความสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความเข้าไปในเว็บไซต์ของเธอถึงเรื่องนี้ว่า “เสือสองตัวคงจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
       
       ปัญหาระหว่างจีนได้ส่งผลกระทบโดยตรงไปสู่เหล่านักแสดง จีน และญี่ปุ่นที่รับงานต่างประเทศหลายๆ คนไปเรียบร้อย รวมถึงยอดนักแสดงชาวฮ่องกง เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ที่ก่อนหน้านี้ เพิ่งจะมีการแถลงถึงโครงการหนังฟอร์มใหญ่เรื่อง 1905 ที่เขาจะแสดงกับดาราสาวชาวญี่ปุ่น มาเอดะ อัตสึโกะ (Maeda Atsuko) ในผลงานของผู้กำกับ คิโยชิ คุโรซาวะ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แผนการของหนังเรื่องนี้ ก็เริ่มจะไม่แน่นอนแล้ว
       
       ซึ่งเป็น หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ภรรยาของ เหลียงเฉาเหว่ย ที่ออกมาให้ข่าวว่าการถ่ายทำหนังเรื่อง 1905 คงต้องเลื่อนไปก่อน โดยหนังเริ่มต้นเตรียมงานกันมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว ตั้งแต่สถานการณ์ยังไม่มีอะไรรุนแรง แต่เมื่อพร้อมจะเปิดกล้องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นกลับปะทุขึ้นมา และไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงง่ายๆ
       
       หลิวเจียหลิง ยังบอกอีกว่าอันที่จริงแล้ว เหลียงเฉาเหว่ย ก็ยังไม่ได้เห็นบทหนัง และเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
       
       โดยการตกลงรับเล่นหนังเรื่องนี้ ถึงกับทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย ถูกชาวจีนบางคนตราหน้าว่าเป็น “คนทรยศ” ซึ่ง หลิวเจียหลิง ก็กล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ว่าคนควรจะมีเหตุผลกันบ้าง และสามีของเธอก็ไม่มีอะไรต้องขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้
       
       ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศยังทำให้ดาราสาว หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing) ปฏิเสธจะเดินทางเข้าไปโปรโมตหนัง Resident Evil ภาคใหม่ในกรุงโตเกียว ส่วนหนัง The Love Leading to Tomorrow ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีของสองประเทศ ก็ต้องโดนเลื่อนจากกำหนดเข้าฉายในจีนไปแบบไม่มีกำหนด

 

Manager Online