Tony Leung Chiu Wai (C)

        สื่อฮ่องกงเผย "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) และ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) กลายเป็นคู่รักนักแสดงที่รวยที่สุดคู่หนึ่งในเอเชียไปแล้ว หลังทั้งคู่ลงทุนในธุรกิจต่างๆ จนทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ว่ากันว่ารวมกันสูงถึง 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกงเลยทีเดียว
       
       โดยสื่อฮ่องกงยังระบุว่าขณะนี้ หลิวเจียหลิง กับ เหลียงเฉาเหว่ย แทบจะ "เกษียณ" ไปครึ่งตัวแล้ว เพราะทั้งคู่แทบจะไม่มีงานให้เห็นเลยในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สำหรับฝ่ายชายหลังเล่นหนัง The Grandmaster เมื่อ 2 ปีก่อนไป ก็ไม่มีงานใหม่ๆ มาให้เห็นกันอีก เช่นเดียวกับ หลิวเจียหลิง ที่เลือกรับเล่นบทรับเชิญในหนังของผู้กำกับที่สนิทสนมกันเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตามความสำเร็จด้านการลงทุนกลับทำให้ทั้งสองรวยขึ้นเรื่อยๆ โดยว่ากันว่า เหลียงเฉาเหว่ย วัย 52 ปี กับ หลิวเจียหลิง วัย 49 ปี มีทรัพย์สินรวมกันถึง 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือ 5,231 ล้านบาทเลยทีเดียว
       
       แต่ถึงจะร่ำรวยมหาศาลคู่รักนักแสดงซูเปอร์สตาร์แห่งเกาะฮ่องกงก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบๆ ของตัวเองต่อไป โดยเฉพาะฝ่ายของ เหลียงเฉาเหว่ย ซึ่งสื่อฮ่องกงระบุว่านักแสดงเจ้าบทบาทยังคงไปไหนมาไหนคนเดียว, ซื้อของตามซูเปอร์มาเก็ต, แต่งตัวแบบง่ายๆ และเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน
       
       ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งจะมีคนเห็น เหลียงเฉาเหว่ย ไปเดินซื้อของแถวย่านถนนจอร์แดน ซึ่งพระเอกคนดังยังแวะทานอาหารในร้านธรรมดาๆ และหมดเงินไปแค่ 200 เหรียญฮ่องกง (871 บาท) เท่านั้น ก่อนจะแวะเข้าร้าน HMV ดูแผ่น DVD กับ CD แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรกลับไปด้วย
       

        “เคน” (Ken Chu) หรือ “จูเสี้ยวเทียน”นักแสดงหนุ่มจาก F4 รักใสๆหัวใจสี่ดวง ยอมรับผิดจำเพิ่อน “วิค” (Vic Zhou) หรือ “ไจ่ไจ๋ - โจวอี้หมิน” ไม่ได้ บอกเข้าใจผิดทีแรกนึกว่า “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) นักแสดงชื่อดัง
       
       เรียกได้ว่าเป็นการโคจรมาเจอกันของ 2 นักแสดงจากซีรีย์ดังในตำนานอย่าง F4 รักใสๆหัวใจสี่ดวงเลยทีเดียว ระหว่าง จูเสี้ยวเทียน หรือ เคน F4 กับ โจวอี้หมิน หรือ วิค F4 ที่ต่างมาร่วมงาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองปักกิ่งที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมาด้วยกันทั้งคู่
       
       โดยรายงานระบุว่า เคน จำเพื่อนตนเองไม่ได้ โดยนึกว่าคนที่เดินพรมแดงอยู่คือ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง เหลียงเฉาเหว่ย จึงตั้งใจจะเดินเข้าไปทักทาย โดยไม่นึกมาก่อนว่าเหลียงเฉาเหว่ยที่เขาเห็น จะกลายเป็นวิค F4 เพื่อนของเขาเอง
       
       ตามรายงานระบุว่า เคนและวิคต่างทักทายและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเคนเองยังได้โพสต์ภาพของเขากับวิคลงใน Weibo พร้อมขึ้นข้อความว่า “จริงๆแล้วนายต้องเหมือนหลิวเต๋อหัว (Andy Lau) สิ แต่ทำไมตอนนี้นายยิ่งดูคล้ายเหลียงเฉาเหว่ยขึ้นไปทุกทีๆ? ฉันรู้ดีว่ามันเลวร้ายขนาดไหนที่ดันมายืนข้างๆนาย แต่ฉันก็ยังอดไม่ได้จริงๆ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?" ทางวิคก็ได้ตอบกลับ Weibo ของเคนแบบสุดน่ารักด้วยว่า “จุ๊บๆ!”
       

        ยอดผู้กำกับชาวฮ่องกง "หว่องกาไว" (Wong Kar Wai) จะกำกับหนังที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวบริษัทผลิตภาพยนตร์ Alibaba Pictures ของ "แจ็ค หม่า"(Jack Ma)  อภิมหาเศรษฐีคนดังแห่งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซซึ่งจะได้ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) มารับบทนำ
       
       โดยมีการแถลงข่าวเปิดตัวหนังเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ในอีเวนต์ที่ปักกิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับผลงานเรื่อง Bai Du Ren ซึ่งมีความหมายว่า "คนเรือข้ามฟาก" โดย หว่องกาไว อธิบายว่าหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของคนที่พยายามช่วยกันและกันให้ข้ามผ่านความเลวร้ายในชีวิตให้ได้
       
       ซึ่งนอกจาก หว่องกาไว แล้ว จางเจียเจีย นักเขียนเจ้าของนิยายต้นฉบับ ก็จะร่วมกำกับหนังเรื่องนี้ด้วย ส่วน เหลียงเฉาเหว่ย จะรับบทนำ ซึ่งผู้กำกับได้เปิดเผยว่า เหลียงเฉาเหว่ย คือตัวเลือกเดียวสำหรับรับบทนำในหนังเรื่อง และหนังยังจะเป็นผลงานเรื่องที่ 8 ที่ เหลียงเฉาเหว่ย จะได้ร่วมงานกับ หว่องกาไว ด้วย หลังเพิ่งจะประสบความสำเร็จได้ทั้งเงิน และกล่องในการทำหนังเรื่อง The Grandmaster ผลงานเรื่องล่าสุดของทั้งคู่
       
       ข่าวระบุว่าหนังเรื่องนี้ เหลียงเฉาเหว่ย ยังจะได้พักการเล่นบทเครียดๆ มาเล่นหนังที่มีเนื้อหาเบาๆ อีกครั้งด้วย
       
       "ผมตัดสินใจรับบทนี้เพราะอยากจะเล่นหนังตลกโรแมนติกครับ" พระเอกวัย 52 ปี กล่าว พร้อมเผยว่าเขาไม่ได้เล่นหนังแบบนี้มาถึง 10 ปีแล้ว เมื่ออ่านเรื่องย่อจึงตัดสินใจรับงานทันที เพราะเชื่อมือของ หว่องกาไว อยู่แล้ว แม้จะกดดันนิดหน่อยเพราะห่างจากบทในหนังแบบนี้ไปนาน
       

        “เหมียวเฉียวเหว่ย” (Michael Miu) จัดงานฉลองวันเกิดปีที่ 53 ให้กับภรรยา และยังเป็นการฉลอง 25 ปีของการแต่งงานด้วย และเขาสามารถเชิญเพื่อนกลุ่ม “5 พยัคฆ์ทีวีบี” ให้กลับมาร่วมตัวกันได้เกือบครบทีมเลยทีเดียว
       
       4 ใน 5 สมาชิกกลุ่ม “ห้าพยัคฆ์ทีวีบี” ได้กลับมาร่วมตัวกันอีกครั้งในวันเกิดปีที่ 53 ของ ชีเหม่ยเจิน (Jaime Chik) ภรรยา เหมียวเฉียวเหว่ย พี่ใหญ่ของกลุ่ม ขาดก็แต่ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ที่ติดภารกิจโปรโมตหนัง The Grandmaster 3D ในช่วงนี้เท่านั้น
       
       โดยปัจจุบัน เหมียวเฉียวเหว่ย กับ ทังเจิ้นเย่ (Kent Tong) มีอายุ 56 ปีเท่ากัน ส่วน หลิวเต๋อหัว กับ หวงเย่อหัว (Felix Wong) อายุ 53 และ เหลียงเฉาเหว่ย ที่ไม่ได้อยู่ร่วมในงานมีอายุ 52 ปี โดยทั้ง 5 เคยถูกผลักดันให้เป็นนักแสดงหน้าใหม่ไฟแรงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีในยุค 80 ก่อนที่ต่อมาแต่ละคนจะมีเส้นทางในวงการที่แตกต่างกันออกไป โดย หลิวเต๋อหัว กับ เหลียงเฉาเหว่ย ที่ตัดสินใจมุ่งหน้ารับงานภาพยนตร์เต็มตัวคือคน 2 คนในกลุ่มที่ถือว่ายังดังอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ ส่วนเพื่อนอีก 3 คนก็ยังมีผลงานให้เห็นต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
       
       นอกจากกลุ่มเพื่อน 5 พยัคฆ์แล้วงานวันเกิดของ ชีเหม่ยเจิน ยังมีเพื่อนๆ ในวงการมาร่วมอวยพรมากมาย อาทิ จางเจ้าฮุย, หลิวเจียหลิง, เจิ้งจือเหว่ย, หลินฟง, หงเทียนหมิง, เซียะเทียนหัว และ หวีอันอัน เป็นต้น
       

        หนังกังฟูสุดดัง The Grandmaster กำลังจะกลับเข้าโรงที่จีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งในรูปแบบภาพสามมิติ ซึ่งจะมีการเพิ่มฉากต่อสู้ระหว่างตัวละครของ “เหลียงเฉาเหว่ย” และ “จางเจิ้น” (Chang Chen) ลงไปในหนังฉบับนี้ด้วย
       
       หว่องกาไว และ จางเจิ้น ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวหนัง The Grandmaster 3D ที่เซินเจิ้นเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา
       
       โดยนอกจากหนังจะฉายในระบบภาพสามมิติแล้ว Mingpao ยังเผยว่าผู้กำกับ หว่องกาไว ได้ตัดสินใจเพิ่มฉากต่อสู้ระหว่างตัวละคร “ยิปมัน” ของ เหลียงเฉาเหว่ย และ “ใบมีดโกน” ซึ่งสวมบทบาทโดย จางเจิ้น เข้าไปในหนังเวอร์ชั่นนี้ด้วย หลังจากตัดฉากนี้ทิ้งจากหนังเวอร์ชั่นก่อน จนทำให้ผู้ชมบางส่วนงงอยู่ไม่น้อย เพราะตัวละครทั้งสองแทบจะไม่ได้เจอกัน หรือเกี่ยวข้องอะไรกันเลย
       
       “นี่เป็นฉากสุดท้ายที่ถ่ายทำกันสำหรับหนังเรื่องนี้ เหลียงเฉาเหว่ย กับผมใช้เวลาเตรียมตัวกันนานมาก ขั้นตอนทั้งหมดน่าจะกินเวลาประมาณ 90 ชั่วโมงได้” จางเจิ้น กล่าว ส่วน หว่องกาไว ก็บอกว่าเขาตัดฉากนี้ทิ้งออกจากหนังเวอร์ชั่นแรก เพราะเหตุผลเกี่ยวกับการเล่าเรื่อง และการใส่ฉากดังกล่าวกลับเข้าไปในหนัง ก็น่าจะทำให้หนังมีมุมมองใหม่ๆ แตกต่างจากฉบับเดิม
       
       The Grandmaster เป็นงานที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านรางวัล และรายได้กับการทำเงินเฉพาะที่จีนแผ่นดินใหญ่ถึง 312 ล้านหยวน โดยหนังฉบับ 3D จะมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 8 ม.ค. ที่จะถึงนี้

Manager Online

        ในฐานะที่อยู่ในวงการบันเทิงมาร่วม 40 ปี "เจิ้งจื่อเหว่ย" (Eric Tsang) ได้แสดงความเห็นถึงเส้นทางในวงการของ "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) ที่เริ่มต้นจากเด็กสาวที่แสดงอะไรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แต่กลับอยู่ยงคงกระพันธ์ในวงการบันเทิง ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นแทบจะหายหน้าจากวงการไปหมดแล้ว
       
       ในการให้สัมภาษณ์สื่อครั้งล่าสุดพี่เตี้ยขาใหญ่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง เจิ้งจื่อเหว่ย ได้มีโอกาสพูดถึงเส้นทางในวงการของ หลิวเจียหลิง ดาราหญิงที่ยังคงโลดแล่นในวงการบันเทิงแม้อายุจะเข้าใกล้เลข 50 แล้ว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นไม่ว่าจะเป็น จางม่านอวี้, จงฉู่หง หรือ หลีเจียซิน ต่างหายหน้าหายตาไม่มีผลงานในวงการบันเทิงมาให้ดูกันอีกแล้ว
       
       โดย เจิ้งจื่อเหว่ย ได้เอ่ยถึงวันที่ หลิวเจียหลิง เข้าวงการบันเทิงมาใหม่ๆ ว่าเธอเป็นคนเชยมาก และแสดงอะไรไม่เป็นเลย แต่ระยะเวลาที่ผ่านมาเธอกลับสามารถพัฒนาทั้งบุคคลิกภาพ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการเข้าสังคม จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นนักแสดงหญิงจากยุค 80s คนสุดท้ายที่ยังคงรักษาชื่อเสียง และสถานภาพในวงการภาพยนตร์เอาไว้ได้
       
       จากสาวน้อยที่มีพื้นเพมาจากซูโจว เจิ้งจื่อเหว่ย บอกว่าในตอนแรก หลิวเจียหลิง แทบจะพูดภาษากวางตุ้งไม่ได้เลย เธอยังสวมรองเท้าส้นสูงไม่เป็นด้วยซ้ำ และต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การเข้าสังคม แบบคนเมืองชาวฮ่องกงอยู่พอสมควร ก่อนจะปรับตัวได้ ซึ่ง เจิ้งจื่อเหว่ย ก็ชมเชยว่าสิ่งที่ทำให้ หลิวเจียหลิง ประสบความสำเร็จจนมาถึงทุกวันนี้ก็คือการทำงานหนักเท่านั้น
       

        นักแสดงหญิงชื่อดัง "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) ได้จัดปาร์ตีฉลองวันเกิดปีที่ 49 ของเธอขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนสนิทในวงการมาร่วมอวยพรกันมากมาย
       
       หลิวเจียหลิง เพิ่งจะอายุครบ 49 ปีเต็มไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเธอและสามีเลือกที่จะจัดงานวันเกิดสุดยิ่งใหญ่ขึ้นที่โรงแรม Grand Hyatt Hotel ซึ่งแน่นอนว่ากลายเป็นงานใหญ่ที่สื่อมวลชนให้ความสนใจกันอย่างมากมาย
       
       จากรายงานของ Mingpao News งานซึ่งจัดกันเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เป็นปาร์ตีสุดหรูที่ลงทุนไปหลักหลายล้านเหรียญฮ่องกง และมีแขกที่เป็นคนในวงการบันเทิงมาร่วมงานมากมาย อาทิ กวนจื่อหลิน, จงฉู่หง, หยังเชี่ยนหัว, เจิ้งจื่อเหว่ย, เฉินข่ายเกอ และ เคนนี บี เป็นต้น
       
       โดย หลิวเจียหลิง เดินทางมาถึงโรงแรมประมาณ 6 โมงเย็น ส่วน เหลียงเฉาเหว่ย สามีของเธอมาถึงในอีก 45 นาทีต่อมา ก่อนที่เหล่าแขกจะเดินทางมาสมทบเรื่อยๆ ซึ่งแขกที่ผู้คน และสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) กับ หวังเฟย (Wang Fei) ที่กำลังมีข่าวว่าได้กลับมาคบกันอีกครั้งแล้ว แต่ซูเปอร์สตาร์ทั้งสองที่มางานทั้งคู่กลับเลือกที่จะแยกกันมา ไม่ได้ควงมาด้วยกันแต่อย่างใด นอกจากนั้นทั้งคู่ก็ยังไม่ขอตอบอะไรเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองด้วย
       
       สำหรับตัวของ หลิวเจียหลิง เลือกที่จะสวมชุดโลว์คัตสีแดงสุดเซ็กซี ในช่วงของการตัดเค้ก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดสีขาว-ดำ ซึ่งแฟนๆ สังเหตุเห็นว่าเป็นชุดเดียวกับที่เธอเคยสวมในงานม้าทองคำเมื่อปี 1995 หรือ 19 ปีก่อนนั่นเอง
       

        อดีตนางเอกชื่อดัง “หลินชิงเสีย” (Brigitte Lin) ได้จัดงานใหญ่ฉลองวันเกิดปีที่ 60 ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนนักแสดงร่วมยินดีด้วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung), “หลิวเจียหลิง” (Carina Lau) และ “จงฉู่หง” (Cherie Chung) เป็นต้น
       
       โดยงานวันเกิดปีที่ 60 ของ หลินชิงเสีย ได้จัดขึ้นที่โรงแรมเพนินซูลาในฮ่องกง ซึ่งมีเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงมาร่วมงานด้วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงดังที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการ หรือดาวค้างฟ้าที่ถอนตัวจากงานแสดงไปแล้ว อาทิ หวังหลิน และ หลิวเจี่ยชาง ก็มาร่วมฉลองในวาระสำคัญของ หลินชิงเสีย ด้วย
       
       หลินชิงเสีย เกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 1954 ที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน โดยเธอเป็นลูกคนที่ 2 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 3 คน และเข้าสู่แวดวงการบันเทิงขณะที่เพิ่งเรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษา และกำลังรอสอบเอนทรานซ์เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เมื่อเธอได้รับการทาบทามจากผู้กำกับฯและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง ซ่งฉุนเทา ที่เห็นแววขณะที่เธอกำลังเดินเลือกซื้อของ จึงได้ติดต่อมาเล่นในภาพยนตร์เรื่อง “ชวงไว่” (Outside The Window) ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ ฉงเหยา ในปี 1972
       

        ระหว่างโปรโมตหนังเรื่องใหม่ "ตู้หมิ่นเจ๋อ" (Chapman To / 杜汶澤) ได้แสดงจุดยืนปฏิเสธที่จะถอดริบบินสีเหลือง ที่เขาติดเอาไว้เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนกลุ่มชาวฮ่องกงผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย หลังนักข่าว TVB ได้ขอให้เขาปลดริบบินออกก่อนให้สัมภาษณ์
       
       ในกิจกรรมโปรโมตหนัง Flirting in the Air ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดที่กำลังทำเงินในฮ่องกงอยู่ในขณะนี้ ตู้หมิ่นเจ๋อ ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ แต่เมื่อผู้สื่อข่าว TVB ได้ขอให้ดาวตลกชื่อดังถอดริบบินสีเหลืองที่เขาติดเอาไว้ที่เสื้อ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงออก ก็ทำให้ดาวตลกคนดังแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน พร้อมกล่าวออกมาว่า "TVB ไม่ยอมให้คนติดริบบินเหลืองแล้วใช่ไหม บ้าไปแล้ว! ถ้าโอเคจะเอาไปออกอากาศก็ได้นะ แต่ถ้าไม่ก็ไม่ต้อง"
       
       ตู้หมิ่นเจ๋อ ที่กำลังมีหนังเรื่อง Naked Ambition 3D หรือ “ซั่มกระฉูด ทะลุโตเกียว” เข้าฉายในเมืองไทยอยู่ในขณะนี้ ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับจุดยืนทางการเมืองของคนดังในวงการบันเทิงว่า เขาเคารพความคิดของทุกคน รวมถึง หวังจิง (Wong Jing) ที่ติดริบบินสีน้ำเงินเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็ไม่ขอวิจารณ์ใดๆ เพราะ หวังจิง ดีกับเขา และสนับสนุนงานของเขามาตลอด "ทั้งครอบครัว หรือเพื่อนก็มีความเห็นต่างกันได้ครับ ผมไม่คิดมากอะไร ได้คุยกับ หวังจิง ไปนิดหน่อยแล้วด้วย ทั้งๆ ที่ปกติผมไม่ได้คุยเรื่องการเมืองหรือศาสนากับเพื่อนเท่าไหร่"
       

       หลังประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์เรื่อง The Grand Master มีรายงานว่า”หว่องกาไว” (Wong Kar Wai) ผู้กำกับชื่อดังได้เตรียมสร้าง” The Ferryman”ภาพยนตร์เรื่องใหม่แล้ว งานนี้มีรายชื่อนักแสดงดังที่ถูกเล็งไว้เพียบ
       
       ตามรายงานระบุว่า ผู้กำกับดังชาวฮ่องกง ได้วางแผนจะคัดตัว 2 นักแสดงดังทั้ง เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) และ จอนจีฮยอน (Jun Ji Hyun) ให้มาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาแล้ว โดยนักแสดงดังรายอื่นที่มีชื่อเตรียมเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วยมีทั้ง ทาเคชิ คาเนชิโร่, ทังเหวย และ อู๋ซิ่วโป
       
       ซึ่งคาดกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะใช้ทุนสร้างถึง 150 ล้านหยวน โดยค่าตัวของหว่องกาไวที่รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้สูงถึง 20 ล้านหยวน ขณะที่เหลียงเฉาเหว่ย คาดการณ์ว่าน่าจะได้รับค่าตัวอยู่ที่ 35 ล้านหยวน และนักแสดงรายอื่นๆได้กันไปคนละ 10 ล้านหยวน
       
       โดยหว่องกาไว ตั้งใจว่าเหลียงเฉาเหว่ย และ จอนจีฮยอน จะเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ที่จะมาสร้างความสดใหม่ให้กับภาพยนตร์ของเขา โดยหว่องกาไว เล็งเห็นว่า จอนจีฮยอน เหมาะสมที่จะมารับบทนักแสดงนำหญิงของเขา หลังมีโอกาสได้เห็นฝีมือการแสดงของจอนจีฮยอนผ่านทางซีรีย์เรื่อง You Who Came From The Star ซึ่งหลังมีรายงานข่าวว่าเหลียงเฉาเหว่ย และ จอนจีฮยอนอาจได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เรียกความสนใจจากสื่อและบรรดาแฟนคลับได้ไม่น้อย
       

       นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) อายุครบ 52 ปีเต็มในวันนี้ (27 มิ.ย. 2014) จึงมีแฟนๆ ร่วมอวยพรให้กับเขามากมาย นอกจากนั้นก็ยังมีแฟนคลับส่วนหนึ่งที่เดินทางมาร่วมฉลองกับเขาด้วย
       
       มีแฟนๆ ที่เดินทางมาจากทั้งญี่ปุ่น, เกาหลี และในฮ่องกงจำนวนประมาณ 50 ชีวิตที่ได้มีโอกาสร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 52 ของ เหลียงเฉาเหว่ย ในงานที่จัดกันเล็กๆ ในวันนี้ นอกจากนั้นแฟนๆ ยังได้สั่งเค้กวันเกิดที่เป็นรูปเสือ ตามราศีเกิดของเขามาแสดงความยินดีให้กับนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงในโอกาสนี้ด้วย ถือเป็นงานฉลองวันเกิดกับแฟนคลับแบบเรียบๆ ของเขาอย่างที่จัดมาแบบนี้ทุกปี
       
       เหลียงเฉาเหว่ย ยังอยู่ระหว่างพักงานหลังจากทุ่มเทถ่ายทำหนังกังฟู The Grandmaster อยู่หลายปี แต่ก็มีข่าวว่าเขาเตรียมกลับไปรับงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ในเร็วๆ นี้ และหนังเรื่องต่อไปของเขาก็อาจจะเป็นหนังแอ็กชั่นภาคต่อ Paris Raiders ที่เขาเคยแสดงหนังภาคก่อนหน้าอย่าง Seoul Raiders และ Tokyo Raiders เอาไว้เมื่อหลายปีก่อน

Manager Online

งานประกาศและมอบรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงครั้งที่ 33 เสร็จสิ้นกันไปเรียบร้อยเมื่อค่ำคืนของวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยชัยชนะของหนังดังแห่งปี The Grandmaster ที่คว้ารางวัลไปได้ถึง 12 สาขารวมถึงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และสมทบชายยอดเยี่ยม ส่วน “น้องปอย” ก็มีโอกาสไปโชว์ตัวในงานครั้งนี้ด้วย

       The Grandmaster สร้างสถิติเป็นหนังที่กวาดรางวัลบนเวทีงานตุ๊กตาทองฮ่องกงไปได้มากที่สุดที่เคยมีมากถึง 12 สาขา ซึ่งเป็นการทำลายสถิติที่ Comrades: Almost a Love Story หรือ เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว เคยทำเอาไว้ด้วยการกวาดรางวัลไปทั้งหมด 9 สาขาในงานมอบรางวัลเมื่อปี 1996 นั่นเอง โดยนอกจากรางวัลด้านเทคนิค, รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมแล้ว จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ผู้รับบทนำใน zก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงไปตามความคาดหมายด้วย
       
       “ขอบคุณชาวฮ่องกงทุกคนสำหรับกำลังใจ และการยอมรับครั้งนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) tไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วใครจะได้รางวัลนักแสดงนำชายไป แต่สำหรับฉัน คุณจะเป็นนักแสดงยอดเยี่ยมเสมอ” นักแสดงสาววัย 32 ปี กล่าวหลังได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากบทจอมยุทธหญิงใน The Grandmaster และยังพูดต่อไปว่า “เมื่อปี 2009 หว่องกาไว (Wong Kar Wai) ติดต่อให้ฉันเล่นหนังเรื่องนี้ ตอนนั้นฉันเองดีใจมากๆ กระโดดเป็นกระต่ายเลย ไม่ใช่เพราะว่าถ้าได้เล่นหนังของเขาแล้วมีโอกาสจะได้รางวัลนะคะ แต่เพราะหนังของเขาสามารถดึงด้านที่ดีๆ ของนักแสดงออกมาได้ ตลอด 3 ปีของการถ่ายทำ ฉันได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย บางครั้งก็ต้องเช็ดน้ำตาด้วย มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ฉันเชื่ออยู่เสมอว่าถ้าจะมีใครที่ช่วยให้ฉันลุกขึ้นอีกครั้ง และสามารถก้าวเดินต่อไปได้ คนผู้นั้นก็คือเป็น หว่องกาไว”
       

       เทศกาลภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินได้รูดม่านเปิดฉากขึ้นแล้ว และในปีนี้มีคนบันเทิงฮ่องกงหลายคนได้มีส่วนร่วม ทั้งในฐานะตัวแทนหนังที่ได้เข้าฉายโชว์ ส่วน “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) ที่ไม่ได้มีผลงานใหม่ มาเบอร์ลินเพื่อดูหนังในบทบาทกรรมการที่ทำหน้าที่ตัดสินมอบรางวัลให้กับหนัง
       
       That Demon Within ของ Emperor Motion Picture โดยผู้กำกับ ดังเต้ แลม และ The Midnight After ของ ฟรุ๊ต ชาน คือหนังสองเรื่องจากวงการบันเทิงฮ่องกงที่ได้เข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินปีนี้ ในส่วนของสาย Panorama ที่เปิดโอกาสให้หนังอิสระและหนังแนวอาร์ตเฮาส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “เรื่องราวอันน่าถกเถียง หรือเล่าเรื่องด้วยวิธีที่ผิดแปลกไปจากงานภาพยนตร์ดั้งเดิม” ที่มีความโดดเด่นได้ร่วมฉายโชว์
       
       โดย That Demon Within มี จางเจียฮุย หนึ่งในนักแสดงนำมาร่วมงานด้วย เป็นหนังแนวตำรวจจับผู้ร้ายที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์จีนโบราณ ส่วน The Midnight After ที่นักแสดงยกขบวนกันมาร่วมเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้ทั้ง ฮุ่ยอิงหง, หมั่นหย่งซาน, หวังเย้าหนาน และ สวีเทียนเหยา เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายออนไลน์ ว่าด้วยคนแปลกหน้า 17 คนที่ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันไป จนก่อนพบว่าพวกเขาข้ามมาอยู่ในจักรวาลคู่ขนานของโลก ที่ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี แต่ไม่มีมนุษย์คนใดๆ หลงเหลืออยู่เลย นอกจากพวกเขาทั้ง 17 คนเท่านั้น
       

       ประกาศออกมาแล้วสำหรับรายชื่อคนดังที่จะมาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัล ในเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินครั้งที่ 64 ที่งานนี้พระเอกชื่อดังชาวฮ่องกง "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่กรรมการของเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกด้วย
       
       เทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน ครั้งที่ 64 ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 6 ก.พ. นี้ ได้ประกาศรายชื่อคณะกรรมการ ที่จะมาร่วมกันตัดสินมอบรางวัลให้กับภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ แล้วโดย เจมส์ ซามุส นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวอเมริกันเจ้าของผลงาน อาทิ Crouching Tiger, Hidden Dragon และ Lust, Caution รวมถึงหนังหลายๆเรื่องของ อังลี จะมาทำหน้าที่เป็นประธานของคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วย บาร์บารา บล็อคโคลี ผู้สร้างหนังชุด เจมส์ บอนด์, นักแสดงสาวชาวเดนมาร์ก ทรีน ไดรโฮล์ม, ผู้กำกับชาวอิหร่าน มีตรา ฟาราฮานี, นักแสดงสาวชาวสหรัฐฯ เกรต้า เกอร์วิค และ ผู้กำกับดังชาวฝรั่งเศส มิเชล กอนดรี
       
       นอกจากนั้น เหลียงเฉาเหว่ย ยังจะได้ร่วมเป็นกรรมการของเทศกาลภาพยนตร์ที่ถือว่าสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในปีนี้ด้วย
       

สองนักแสดงหญิงชื่อดังชาวฮ่องกงถ่ายภาพรวมกันระหว่าง ร่วมงานม้าทองคำ โดยข่าวระบุว่าเป็นการถ่ายภาพด้วยกันครั้งแรกในรอบ 10 ปี เลยทีเดียว
       
       หลิวเจียหลิง (Carina Lau) วัย 47 และ จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) วัย 49 ถ่ายภาพร่วมกันอีกครั้ง เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าต่างฝ่ายไม่ได้มีปัญหาบาดหมางอะไรกันอย่างที่คนพูดกันแต่อย่างใด
       
       เป็นที่พูดถึงมานานสำหรับประเด็นความสัมพันธ์รักสามเส้าระหว่าง 3 ดาราชื่อดัง โดยมีข่าวลือว่า เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) กับ จางม่านอวี้ ที่แสดงหนังด้วยกันมาหมายเรื่อง ได้พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักลึกซึ้งระหว่างร่วมงานในหนังเรื่อง In The Mood For Love เมื่อปี 1999 จนทำให้ จางม่านอวี้ กับ หลิวเจียหลิง ที่สนิทสนมหลังแจ้งเกิดเป็นนักแสดงดาวรุ่งของทีวีบีมาพร้อมๆกันต้องแตกหักกันไป ส่วน เหลียงเฉาเหว่ย กับ จางม่านอวี้ ก็ไม่ได้ร่วมงานกันอีกเลยหลังจากนั้น
       
       โดยล่าสุดทั้ง หลิวเจียหลิง, เหลียงเฉาเหว่ย และจางม่านอวี้ ได้มีโอกาสเป็นแขกของงานมอบรางวัลม้าทองคำเมื่อ 2 วันก่อน แต่ข่าวก็บอกว่าสองสาวดูจะพยายามหลบหน้ากันอยู่ตลอด โดย หลิวเจียหลิง เข้างานไปพร้อมกับทีมนักแสดงจากหนัง The Grandmaster ที่สามีของเธอได้รับรางวัล ส่วน จางม่านอวี้ ก็เดินพรมแดงตามไปในเวลาต่อมาพร้อมกับ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau)
       

"สตีเฟน ซิว" (Stephen Shiu) ผู้อำนวยการสร้างชื่อดังชาวฮ่องกง ต้องรีบชี้แจงโดยทันทีหลัง "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าเธอเคยปฏิเสธที่จะเล่นหนังเรื่องหนึ่งที่เขาเป็นผู้สร้าง จนเป็นที่มาของคดีลักพาตัวอันโด่งดังเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งผู้อำนวยการสร้างคนดังยืนยัน "หลิวเจียหลิง" จำชื่อหนังผิดแน่นอน
       
       หลิวเจียหลิง ได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการสุดฮิต TELLING MARIA 2 ว่าเหตุผลที่เธอเคยถูกลักพาตัว ก่อนจะโดนแก้ผ้าและถ่ายรูปเก็บเอาไว้นั้น มาจากสาเหตุที่เธอปฏิเสธไม่ยอมรับงานหนังเรื่อง Long Arm of the Law หรือในชื่อภาษาจีนว่า San Gong Kei Bing แต่ก็ยังเอ่ยปากขอบคุณบรรดาคนที่ลักพาตัวเธอไปในตอนนั้น ที่พวกเขาไม่ได้ลงมือทำอะไรเธอ และกล่าวว่าเธอรู้สึกโกรธคนที่บงการอยู่เบื้องหลังเท่านั้น
       
       หลังเทปรายการได้ออกอากาศเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สตีเฟน ซิว โปรดิวเซอร์คนดังเจ้าของหนังอีโรติกสุดฮิตอย่าง 3D Sex and Zen ที่ครั้งหนึ่งเคยแจ้งเกิดในวงการด้วยการสร้างและกำกับ Long Arm of the Law ได้เขียนข้อความผ่าน Facebook ว่าเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องการลักพาตัว หลิวเจียหลิง แน่นอนพร้อมอธิบายว่าเขาสร้าง Long Arm of the Law มาทั้งหมด 4 ภาคตั้งแต่ภาคแรกในปี 1984, ภาคสองในปี 1986, ภาคสามในปี 1988 และภาคสุดท้ายในปี 1989 หลังจากนั้นก็ไม่ได้หยิบหนังว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มโจรจีนแดงชุดนี้ขึ้นมาสร้างอีก หนังจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ หลิวเจียหลิง ในปี 1990 แต่อย่างใด
       

นักแสดงหนุ่มชาวไต้หวันวัย 37 ปี "จางเจิ้น" (Chang Chen) จูงมือแฟนสาวเข้าประตูวิวาห์แล้ว ในงานที่มีคนวงการภาพยนตร์มาร่วมแสดงความยินดีด้วยมากมาย ทั้งผู้กำกับ "หว่องกาไว" (Wong Kar Wai), "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) และภรรยา "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) เช่นเดียวกับ "ซูฉี" (Shu Qi) ที่ครั้งหนึ่งมีข่าวลือว่าเคยคบหากับ "จางเจิ้น" ก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วย

       หลังคบหาดูใจกันมาได้ 4 ปี จางเจิ้น ได้จูงมือแฟนสาวที่ชื่อว่า แอน ซวง เข้าประตูวิวาห์แล้ว เมื่อค่ำคืนของวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้คู่บ่าวสาวเพิ่งถือฤกษ์ดี 11-12-13 หรือวันที่ 12 พ.ย. 2013 ไปจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายกันมา
       
       ซึ่งแขกในงานประกอบไปด้วยทั้ง เหลียงเฉาเหว่ย กับ หลิวเจียหลิง, หว่องกาไว และภรรยา, เฉินป๋อหลิน, ลิออน ไต้ และเหล่าคนในวงการอีกมากมาย แต่คนที่สื่อให้ความสนใจกันเป็นพิเศษก็คือดาราสาววัย 37 ปี ซูฉี ที่ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวเรื่องความสัมพันธ์กับ จางเจิ้น โดยเธอได้กล่าวคำอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว และยังบอกให้ จางเจิ้น รีบมีลูกเร็วๆด้วย ฝ่าย จางเจิ้น ยังเผยว่าตนกำชับกับภรรยาเอาไว้แล้ว ว่าเมื่อถึงตอนโยนช่อดอกไม้ให้โยนไปทาง ซูฉี ด้วย และพูดติดตลกว่าเมื่อ ซูฉี ทราบเรื่องนี้ เธอซึ้งจนพูดไม่ออกและน้ำตานองหน้าเลยทีเดียว

       บรรดานักแสดงนำ, ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างหนังสุดฮิต Infernal Affairsหรือ "สองคมสองคน" ต่างเดินทางมาเมืองไทย เพื่อเคารพศพ "อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว" หรือ "หลวงปู่มังกรขาว" ที่ถือว่ามีส่วนต่อความสำเร็จของหนังไม่น้อย
       
       หลังเสียชีวิตลงตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. ยังมีคนบันเทิงฮ่องกงเดินทางมาเมื่อไทยเพื่อเคารพศพ "อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว" กันอย่างเนืองแน่น ก่อนที่จะถึงพิธีฝังศพในวันที่ 1 ก.ย. ที่จะถึงนี้ โดยล่าสุดเจ้าพ่อวงการบันเทิง "ปีเตอร์ แลม" (Peter Lam / 林建岳) ผู้สร้างหนังดัง Infernal Affairs ก็เดินทางมาเพื่อไว้อาลัยให้กับ "หลวงปู่มังกรขาว" ด้วย
       
       ปีเตอร์ แลม ประธาน/ซีอีโอของ Media Asia Entertainment Group ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ได้เดินทางมาถึงเมืองไทย เพื่อเคารพศพของ อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเดินทางมาพร้อมกับลูกชาย และ มิเชล แลม ที่ว่ากันว่าเป็นแฟนสาวคนปัจจุบันของเขา นอกจากนั้นสื่อฮ่องกงยังรายงานว่าคณะของ ปีเตอร์ แลม ยังได้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทางมาถึงตำหนักมังกรขาวด้วย
       

       “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงบินตรงร่วมเคารพศพ อาจารย์ “กิมน้ำ แซ่จิว” หรือ “หลวงปู่มังกรขาว” ที่ประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวนับถือเป็นบุคคลที่เคารพรัก
       
       ตามรายการจากสื่อฮ่องกงระบุว่า หลิวเต๋อหัว นักแสดงชื่อดังได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมาถึงที่วัดจัดพิธีศพในช่วงบ่าย โดยมีภรรยาของอาจารย์กิมน้ำให้การต้อนรับ ก่อนที่ทั้งคู่จะโผเข้ากอดปลอบใจกันและกัน
       
       โดยหลิวเต๋อหัวมาร่วมงานด้วยชุดสีขาว เดินเข้าไปเคารพศพด้วยเท้าเปล่า จุดธูปเพื่อเคารพศพของอาจารย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ เลา หรือ หลิวเหว่ยเฉียงก็เคยหยุดงานเพื่อมาร่วมเคารพศพหลวงปู่มังกรขาวทันทีที่ทราบข่าวการเสียชีวิต
       
       ซึ่งหลิวเต๋อหัว ได้เปิดเผยด้วยว่าเขาเคารพอาจารย์กิมน้ำหรือหลวงปู่มังกรขาวเสมือนพ่อแท้ๆ ของเขา และเป็นคนที่เขาสนิทใกล้ชิดมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตด้วย
       
       การปรากฏตัวของหลิวเต๋อหัว สามารถเรียกความสนใจจากสื่อ ผู้มาร่วมงานศพ และคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างมาก มีคนขอถ่ายรูปตลอดงานและโพสต์สู่โลกออนไลน์ ซึ่งหลิวเต๋อหัวยังได้พบกับลูกสาวของอาจารย์กิมน้ำโดยเขาเข้าสวมกอดเพื่อให้กำลังใจเธอพร้อมกับถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเธอและลูกชายของเธอ รวมถึงภาพถ่ายรวมญาติที่ถ่ายร่วมกับรูปหน้าศพของอาจารย์กิมน้ำ ก่อนจะอยู่ร่วมพิธีศพจนกระทั่งถึงเวลา 2.00 น.เลยทีเดียว
       

ดาราชื่อดัง “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) เคลียร์คิวซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่ที่ฮ่องกง บินตรงเข้าไทยเพื่อเดินทางเคารพศพ อ.กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ ที่จังหวัดชลบุรี ผู้เป็นที่เคารพ และเปรียบเสมือนพ่อ และบุคคลในครอบครัว ก่อนเดินทางกลับในวันเดียวกัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) และหยูเหวินเล่อ (Shawn Yu) ได้เดินทางมาเคารพศพท่ามกลางกองทัพนักข่าวทั้งไทย จีน ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่เกาะติดบรรยากาศ
       
       เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (24 ส.ค.) หลิวเต๋อหัว ซูเปอร์สตร์คนดังจากฮ่องกง ได้เดินทางมายังตำหนักหลวงปู่มังกรขาว “White Dragon King temple” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อเคารพศพอาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีกองทัพนักข่าวทั้งจากฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศไทย ที่เฝ้าติดตามการเดินทางมาของเหล่าซูเปอร์สตาร์คนดังจากฮ่องกง เพื่อเคารพศพอาจารย์ที่นับถือเป็นจำนวนมาก
           
       หลังจากที่ หลิวเต๋อหัว เดินทางมาถึงได้ตรงเข้าทักทายบุคคลในครอบครัวของอาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ โดยมีนางศรีรัตน์ ชิดวิเศษ ภรรยา พร้อมบุตร และบุคคลในครอบครัวให้การต้อนรับ ก่อนจะเข้าเคารพศพตามธรรมเนียมจีน และไทย หลังจากนั้น เปิดโอกาสให้บรรดาแฟนคลับชาวไทย และผู้ที่เดินทางมาเคารพศพได้ถ่ายภาพ
           
       หลังจากนั้น ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการเดินทางมายังจังหวัดชลบุรีในครั้งนี้ว่า ไม่ใช่ครั้งแรก และได้เดินทางมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากอาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ เปรียบเสมือนบิดา และครอบครัวของอาจารย์เปรียบเสมือนครอบครัวของตน แต่เนื่องจากติดภารกิจในฮ่องกง จึงจำเป็นต้องเดินทางกลับทันที
           

       "โจวซวิ่น" (Zhou Xun), "กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo), "หลิวชิงเหวิน" (Sean Lau) และ "แดเนียล วู" (Daniel Wu) ร่วมงานฉลองปิดกล้องหนัง Overheard ภาค 3 ที่งานนี้ดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้โอกาสยืนยันชัดเจน ว่าเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทั้ง "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) หรือ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) อย่างที่มีข่าวซุบซิบกันแน่นอน
       
       การเดินทางมาฮ่องกงทำให้สาวหน้าใสวัย 38 ปี โจวซวิ่น ต้องโดนกระแสข่าวลือจากสื่อในฮ่องกงมากมาย ทั้งที่ว่าเธอคือผู้หญิงคนใหม่ของ เซียะถิงฟง ที่ออกเดตกันมาได้ถึงร่วม 8 เดือนแล้ว ต่อมายังมีข่าวว่าอันที่จริงแล้วเธอกำลังปลูกต้นรักลักลอบมีความสัมพันธ์กับ เหลียงเฉาเหว่ย สามีของ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ต่างหาก
       
       และข่าวบางสำนักก็ไปไกลถึงขั้นวิเคราะห์ว่า โจวซวิ่น พยายามเข้าไปตีสนิทกับ เซียะถิงฟง ก็เพื่อทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย หึงหวงนั่นเอง
       
       ซึ่งหลังจากปล่อยให้ผู้จัดการส่วนตัวปฏิเสธข่าวแทนมาพักใหญ่ ล่าสุดในงานอีเวนต์ดังกล่าว โจวซวิ่น จึงได้โอกาสปัดข่าวเองอย่างเป็นทางการ โดยเธอยืนยันว่าตนเองเดินทางมาฮ่องกงด้วยเหตุผลอื่น ไม่ได้มาเพราะ เหลียงเฉาเหว่ย หรือ เซียะถิงฟง แน่นอน แต่หากจะให้บอกว่าหนุ่นคนไหนทำให้เธอมาฮ่องกงจริงๆ ก็คงเป็น หลิวชิงหวิน เท่านั้นเอง
       

      พระเอกชาวฮ่องกง "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) เพิ่งจะอายุครบ 51 ปีไปเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา งานนี้นักแสดงยอดฝีมือยังตัดผมทรงใหม่ฉลองวันเกิดในปีนี้ด้วย
       
       เป็นปกติอยู่แล้วที่ เหลียงเฉาเหว่ย มักจะโพสต์ภาพส่วนตัวให้แฟนๆ ดูกันในวันคล้ายวันทุกๆปีของเขา โดยในปีนี้ภรรยาคนสวย หลิวเจียหลิง (Carina Lau) เป็นผู้โพสต์ภาพสามีให้กับทุกคนดูกันพร้อมอวยพรวันเกิดให้กับเขาก่อน จนกระทั่งเว็บไซต์ของ เหลียงเฉาเหว่ย จึงโพสต์ภาพของพระเอกหนุ่มขวัญใจแฟนหนังฮ่องกงตลอดกาลพร้อมกับผมทรงใหม่ และยังมีเค้กก้อนเล็กๆ ในวันเกิดแบบเรียบง่ายสไตล์ของเขาด้วย
       
       ระหว่างร่วมอีเวนต์งานหนึ่ง หลิวเจียหลิง ยังพูดถึงผมทรงใหม่ของสามีว่า "เขาดูหล่อรึเปล่าค่ะ? คือเขารู้สึกว่าไว้ผมทรง 'ยิปมัน' มาหลายปี เลยอยากจะลองอะไรใหม่ๆบ้าง แน่นอนค่ะว่าฉันชอบ เขาดูดีอยู่แล้วไม่ว่าจะทรงอะไร ตอนนี้คนยิ่งชมว่าเด็กขึ้นด้วยซ้ำ เขาไม่เคยแก่อยู่แล้ว"
       
       หลิวเจียหลิง ยังบอกอีกว่าสามีของเธอขอพรให้ตัวเองมีสุขภาพดีเท่านั้น ไม่ได้ขอเรื่องลูกอย่างที่หลายคนคิดแต่อย่างใด ดาราสาววัย 47 ปี บอกว่าถึงเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงหลายคนพยายามมีลูกกันมากเมื่ออายุเพิ่มขึ้น แต่สำหรับเธอและสามีกลับไม่ได้คิดมากถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด "จริงๆ ทุกคนมีวิถีที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เพื่อนหลายคนพยายามช่วยหาวิธีขอลูกให้ ซึ่งฉันก็ไม่รู้จะร้องไห้ หรือหัวเราะดี เอาเป็นว่าขอบคุณก็แล้วกันค่ะ"

Manager Online

หลังจากที่มีการโปรโมทเทศกาลภาพยนตร์เมืองจีนครั้งที่ 5 พร้อมฉายหนัง The Grandmasters เปิดงานในประเทศเกาหลี งานนี้มีเพื่อนนักแสดงจากแผ่นดินจีนอย่าง"เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) และ "จางจื้อยี่" (Zhang Ziyi) มาร่วมงานและสาวแดนโสมเจ้าของพื้นที่อย่าง "ซองเฮเคียว" (Song Hye Kyo) ให้การต้อนรับอย่างดี ด้านผู้กำกับมากฝีมือ"หว่องกาไว" (Wong Kar Wai) ถึงขั้นเอ่ยชมนักแสดงสาวเกาหลีออกสื่อเป็นดาราสาวที่สวยที่สุดในเอเชียบอกหน้าตาสมบูรณ์แบบ
       
       ตามรายงานระบุว่า ก่อนหน้าที่งานดังกล่าวจะเริ่มช่างภาพปาปารัสซีเห็นซองเฮเคียว นักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ปรากฏตัวอยู่ที่ร้านเสริมสวยในย่านกังนัม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวันงาน เพื่อร่วมโปรโมทภาพยนตร์ The Grandmasters ที่เข้าฉายในต่างประเทศ
       
       ทางด้านซองเฮเคียว ที่ก่อนหน้านี้ยุ่งอยู่กับการถ่ายทำละครเรื่อง THAT WINTER, THE WIND BLOWS จนไม่สามารถเดินทางไปร่วมโปรโมทภาพยนตร์พร้อมกับนักแสดงรายอื่นๆในประเทศต่างๆ ก็ได้เตรียมตัวเต็มที่ เพื่อเดินพรมแดงพร้อมกับผู้กำกับและนักแสดงรายอื่นที่มาเยือนถึงเกาหลีใต้
       
       อย่างไรก็ตาม ตามรายงานจากดีไซเนอร์และช่างทำผมของเธอระบุว่า นักแสดงสาวได้ร้องขอให้เสื้อผ้าและเครื่องประดับของเธอเป็นอะไรที่เรียบง่ายมากที่สุด โดยเธอระบุว่า การร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองจีนครั้งนี้ นักแสดงที่ควรได้รับการจับตามอง คือนักแสดงจากเมืองจีนที่เดินทางมาเยือนเกาหลีไม่ใช่ตัวเธอ
       

เป็นข่าวเศร้าสำหรับแฟนหนังชุดของทีวีบีฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อมีรายงานการเสียชีวิตของนักแสดงหญิงรุ่นใหญ่ "ซูชิงฉวน" (So Hung-shuen / 蘇杏璇 / 苏杏璇) ที่แม้จะไม่ใช่ดาราซูเปอร์สตาร์ที่มีแฟนคลับมากมาย แต่บทสมทบมากมายที่เธอได้ฝากเอาไว้ในช่วงยุคทองของทีวีบี ก็ทำให้การแสดงของดาราหญิงท่านนี้ ยังอยู่ในความทรงจำของผู้ชมทุกคน
       
       ตามข่าว ซูชิงฉวน ป่วยเป็นโรคเบาหวานมาหลายปีแล้ว จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลควีนอลิซาเบ็ธในฮ่องกงด้วยวัย 61 ปี โดยระยะหลังเพราะโรคร้ายยังทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื่อนขาซ้ายได้ และต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง นอกจากนั้น ดารารุ่นใหญ่ยังมีอาการแทรกซ้อนของโรคเส้นเลือดในสมอง และแผลในช่องท้อง ที่ทำให้สุขภาพของเธอทรุดโทรมลงมากในช่วงหลัง
       
       ซูชิงฉวน มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนจะย้ายมาอาศัยอยู่ในฮ่องกง และได้เข้าเป็นนักเรียนการแสดงรุ่นที่ 1 ของทีวีบีในปี 1972 หลังจากนั้นจึงมีโอกาสได้รับงานแสดงตั้งแต่ในยุค 70s, 80s จนถึง 90s และออกจากการเป็นนักแสดงในสังกัดของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังแห่งฮ่องกงไปเมื่อปี 2003
       
       ในช่วง 4 - 5 ปีหลัง ซูชิงฉวน ยังรับงานแสดงให้เห็นอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้มากเช่นเดิม และเพิ่งจะคว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมบทในหนัง Life Without Principle ของ ตู้ฉีฟง ในงานตุ๊กตาทองฮ่องกงครั้งที่ 31 เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเพราะเธอต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงไม่สามารถเดินทางไปรับรางวัลครั้งนั้นได้ด้วยตัวเอง
       

     “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) เป็นหนึ่งในคนดังที่มีโอกาสขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ต ซึ่งจัดเพื่อรำลึกถึง “เลสลี่ จาง” (Leslie Cheung) ซูเปอร์สตาร์ผู้จากโลกนี้ไปเมื่อ 10 ปีก่อน ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ที่ฮ่องกง
       
       คอนเสิร์ต Miss You Much Leslie เป็นการรวมตัวของคนดังในวงการบันเทิงฮ่องกง ที่มาพร้อมกันเพื่อรำลึกถึง เลสลี่ จาง ผู้ล่วงลับ ในวาระการเสียชีวิตครบ 10 ปีเต็มของเขา โดยงานนี้ เหลียงเฉาเหว่ย ที่เคยร่วมงานกับ เลสลี จาง ในหนัง Days of Being Wild และ Happy Together ก็ได้มาร่วมขึ้นเวทีเพื่อกล่าวถึงอดีตเพื่อนนักแสดงผู้จากไปด้วย
       
       “อะไรที่คุณต้องการจะจดจำเอาไว้ มันก็จะถูกจดจำเอาไว้ตลอดกาล” เหลียงเฉาเหว่ย หยิบประโยชน์หนึ่งที่ตัวละคร หยกไจ๋ ของ เลสลี ในหนังดัง Days of Being Wild ขึ้นมาพูด ระหว่างคอนเสิร์ตพิเศษ Miss You Much Leslie เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
       
       “ผมจำได้ว่าคุณชอบประโยคนี้จากหนังมาก คุณจากโลกนี้ไปมากกว่า 3,000 วันแล้ว ผมเพิ่งเข้าใจความหมายของถ้อยคำพวกนี้ หลังจากเวลาผ่านไปนานหลายปี ผมเพิ่งจะเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เอาไว้ ถึงเราจะไม่ได้พบกันอีก ผมจะไม่ลืมเพื่อนคนนี้แม้แต่นาทีเดียว บางครั้งเมื่อผมมองขึ้นไปบนฟ้า ก็จะพยายามมองหานกไร้ขาตัวนั้น”