Da S (C)

"ฟอร์บส์" ยก "เฉินหลง" (Jackie Chan) อันดับ 1 คนดังชาวจีน ฟันรายได้เกือบพันล้านบาท

Submitted by canjamm on 30 เมษายน, 2010 - 11:49

”เฉินหลง” (Jackie Chan) กลายเป็นคนดังชาวอันดับ 1 ของนิตยสาร “Forbes” ด้วยรายได้เกือบ 200 ล้านหยวนในรออบปีที่ผ่านมา บวกกับการเป็นข่าวอย่างถี่ยิบ ในการจัดอันดับที่รวบรวมคนดังชาวจีนจากทั้ง วงการกีฬา และบันเทิงของ ไต้หวัน, ฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่

นิตยสาร Forbes ทำการจัดอันดับคนดังชาวจีนมาเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งนี่จะเป็นปีแรกที่เป็นการรวบรวมคนบันเทิงจากทั้ง จีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง และไต้หวัน เข้าด้วยกัน โดยประเมินจากทั้งรายได้ และความถี่ของการปรากฏตัวตามสื่อ เพื่อหาว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบันเทิงเชื้อสายจีนอันดับ 1

ไม่น่าแปลกใจที่ชื่อของ เฉินหลง จะกลายเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับปีนี้ของ Forbes นักแสดงวัย 56 ปี ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก และตกเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน รวมถึงสามารถทำรายได้ไปเกือบ 200 ล้านหยวน (ประมาณ 940 ล้านบาท) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Little Big Soldier ทำรายได้ 150 ล้านหยวนเฉพาะในประเทศจีน นอกจากนั้นในวงการเพลง เฉินหลง ยังเป็นศิลปินคนแรก ที่ได้เปิดคอนเสิร์ตที่สนามกีฬารังนกอีกด้วย

สำหรับอันดับที่ 2 กลายเป็นของหนุ่ม โจวเจี๋ยหลุน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เจย์ โจว (Jay Chou) นักร้องคนดังจากไต้หวัน ที่ปีก่อนคนขยันคนนี้ ทำงานทั้งในวงการภาพยนตร์,เพลง และโทรทัศน์ เรียกว่าตลอดปี 2009 ชาวจีนแทบจะเจอพ่อหนุ่มคนนี้ตามสื่อต่างๆ กันเกือบทุกวันเลยทีเดียว และงานทั้งหมดในปีก่อน ก็ทำเงินทำทองให้เขาได้ถึง 120 ล้านหยวน (564 ล้านบาท) ปลายปีนี้ เจย์ โจว จะมีผลงานหนังระดับฮอลลีวูดเป็นเรื่องแรก ที่น่าจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักขึ้นไปอีก

ขณะเดียวกัน โจลิน ไช่อี้หลิน (Jolin Tsai) สาวคนดังแห่งไต้หวัน อดีตคนเคยรักของหนุ่ม เจย์ ก็ยังติดอันดับมาถึงอันดับ 7 กับรายได้ 46.5 ล้านหยวน (218 ล้านบาท) และเป็นข่าวในไต้หวันตลอดทั้งปี

การถูกเปิดโปงเรื่องชีวิตสมรสเกือบตลอดช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ภาพของ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ปรากฏในสื่อจีนแบบข้ามปี จนนักร้องนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง กลายเป็นคนบันเทิงอันดับ 3 ของ Forbes ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะด้านฉาวเท่านั้น หนุ่มวัย 48 ปีคนนี้ยังคงทำงานแบบไม่มีหยุดไม่มี่หย่อน อย่างที่เป็นมาหลายปีแล้ว จนมีรายได้ตลอดปีถึง 86.2 ล้านหยวน (405 ล้านบาท) เลยทีเดียว

"หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) กับ "Future X-Cops" อีกก้าวของหนังแอ็กชั่นไซไฟฮ่องกง

Submitted by canjamm on 11 เมษายน, 2010 - 16:31

ท่ามกลางหนังกำลังภายในย้อนยุคจำนวนมากในวงการภาพยนตร์จีน และฮ่องกง "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) และผู้กำกับ “หวังจิง” ส่ง "Future X-Cops" แจ้งเกิดหนังไซไฟฮ่องกง เป็นทางเลือกที่แตกต่างสำหรับคนดู แม้จะถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นเพียงความพยายามที่ล้มเหลวเท่านั้น

ในการเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Future X-Cops ที่ฮ่องกงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่ หลิวเต๋อหัว มาพร้อมกับบทบาทใหม่ เป็นตำรวจหนุ่มจากยุค 2085 ที่เดินทางย้อนเวลากลับมายังปี 2015 เพื่อปกป้องเด็ก ที่ต่อมาจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลก

นอกจากหลิวเต๋อหัวแล้ว Future X-Cops ยังร่วมด้วย สวี่ซีหยวน (Barbie Hsu), ฟานปิงปิง (Fan Bing Bing) และสาวน้อย ซู่เจียว (Xu Jiao) จาก CJ7

"ผมคิดว่านี่จะเป็นก้าวแรกแห่งหนังไซไฟของพวกเราครับ หวังว่าคนในวงการภาพยนตร์จะถ่ายทำหนังแนวนี้กันมากขึ้น ผมคิดว่าความสามารถ และศักยภาพของพวกเราสามารถพัฒนา ที่จะเข้าใกล้กับคุณภาพของหนังไซไฟจากตะวันตกได้" หลิวเต๋อหัวกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ขณะที่ฝ่ายผู้กำกับ หวังจิง กล่าวว่าต้องการนำเสนออะไรใหม่ๆ ให้กับวงการภาพยนตร์บ้าง "หลังจากมีหนังแอ็กชั่นหนังตลก ให้ดูกันมานาน เราอยากให้คนดูได้พบอะไรที่แตกต่างจากที่เป็นมาบ้าง "

ก่อนหน้ามีการแสดงความกังวลว่า Future X-Cops จะสามารถเทียบเคียงกับหนังขายเทคนิคพิเศษ ของคนทำหนังจากต่างประเทศโดยเฉพาะฮอลลีวูด ที่นำขบวนมาโดย Avatar หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลเรื่องปัจจุบัน ที่กวาดเงินคนจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกงไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน ได้หรือไม่

หลิวเต๋อหัว ก็เคยกังวลกับเรื่องนี้มาก่อนเช่นเดียวกัน "ตอนหวังจิง บอกผมว่าจะทำหนังเรื่อง Future X-cops มันน่ากังวลมากๆ ครับ จะให้ผมแสดงเป็นตำรวจจากปี 2085 เนี่ยนะ ถ้าเทคนิคพิเศษออกมาแย่ มันจะน่าหัวเราะมากๆ ผมบอกเขาว่า คุณถนัดทำหนังตลก เราน่าจะไม่ต้องคิดอะไรมาก มาทำหนังตลกกันดีกว่า แต่เขายืนยันคำเดิม และบอกผมว่าพวกเราต้องมีก้าวแรก ผมรู้สึกได้ถึงความกล้าหาญในเรื่องนี้ของเขาครับ"

สาวเซ็กซี่แดนมังกร "กงซินเหลียง" (Gong Xin Liang) ฝึกกังฟูจากยอดฝีมือ สำหรับหนังเรื่องใหม่

Submitted by canjamm on 11 เมษายน, 2010 - 16:11

นางแบบชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "กงซินเหลียง" (Gong Xin Liang) เข้ารับการฝึกฝนมวยกังฟู กับครูมวยชื่อดัง เพื่อเข้าฉากในหนังกำลังภายในเรื่องใหม่ที่เธอร่วมแสดง

กงซินเหลียง หรือที่ชาวจีนรู้จักกันในชื่อ "หมิวหมิว" (Miumiu) นางแบบวัย 22 ปี ที่ผลงานการแสดงภาพยนตร์ และถ่ายปกหนังสือมาแล้วหลายเล่ม โดยเฉพาะการขึ้นปกของ For Him ฉบับประเทศจีนฉบับเดือน มี.ค.ของเธอที่กลายเป็นที่ฮือฮาอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

ล่าสุดสาวรูปร่าง 34 / 22 / 33 คนนี้จะได้กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง ในผลงานเรื่อง Dragon and Phoenix Inn (龙凤店) ซึ่งมีนักแสดงชื่อดังอย่าง เยิ่นเสียนฉี (Richie - Ren Yin Chi) และสวี่ซีหยวน (Barbie - Hsu Hsi Yuan) แสดงนำ และแม้จะมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาบ้างแล้ว แต่นี่จะแตกต่างจากงานก่อนๆ ที่นางแบบสาวเคยแสดงมา เพราะครั้งนี้ กงซินเหลียง จะต้องเล่นคิวบู๊ และโชว์ลีลากังฟูด้วย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนก่อนเริ่มการถ่ายทำ

สำหรับ อาจารย์ชิวจื่อหลิง ผู้ที่มาทำการถ่ายทอดวิชาให้กับนางแบบคนสวยในครั้งนี้ ไม่ใช่ระดับฝีมือธรรมดาสามัญ แต่เป็นถึงครูมวยผู้เชี่ยวชาญเพลงมวยหงฉวน (หงก่า) เป็นลูกศิษย์สายตรงจากสายเส้าหลินใต้ เฉกเช่นเดียวกับ หงซีกวน หรือหวงเฟยหง กันเลยทีเดียว

นอกจากนั้น อาจารย์ชิวจื่อหลิง ยังเคยทำงานในวงการภาพยนตร์ ทั้งเป็นตัวประกอบ และรับหน้าที่สตั้นแมนในหนังกว่า 70 เรื่อง ได้ร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำ เช่น บรูซ ลี, เฉินหลง, โจวเหวินฟะ และโจวซิงฉือมาแล้ว

ซึ่งงานล่าสุดที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือ การรับบทเด่นในหนังเรื่อง Kung Fu Hustle (คนเล็กหมัดเทวดา) ของยอดดาวตลกชาวฮ่องกง ซึ่งการรับบทยอดฝีมือผู้มีท่าทางตุ้งติ้งได้อย่างไม่น่าเชื่อในหนังเรื่องนั้น เป็นที่มาซึ่งทำให้เขาถูกเลือกมาฝึกปรือฝีมือกังฟูให้กับ นักแสดงสาวเซ็กซี่คนนี้นั้นเอง

Manager Online

"มิเชล โหยว" (Michelle Yeoh) หน้าจอจอมยุทธหญิง หลังจอเป็นแม่สื่อ

Submitted by canjamm on 1 กุมภาพันธ์, 2010 - 22:02

ภาพชุดแรกจาก "Rain of Swords" หนังผลงานการสร้างของ จอห์น วู (John Woo) ที่นักแสดงชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนชื่อดัง "มิเชล โหยว" หรือ "หยังจื่อฉุน" แสดงนำ ได้ถูกเผยแพร่สู่สายตาของแฟนหนังแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในการพูดคุยนักข่าว บทบาทการเป็นแม่สื่อของนักแสดงสาวบู๊คนนี้จะเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจมากกว่า

ในการพูดคุยกับนักข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้กำกับชาวไต้หวัน ซูเจ้าปิน (Su Chao Bin) กล่าวถึงบทบาทของ มิเชล โหยว ว่าเธอจะแสดงเป็นนักฆ่าที่ยอมดัดสินใจวางมือจากยุทธจักร หลังโชคชะตานำพาให้เธอ ไปตกหลุมรักชายหนุ่มคนหนึ่ง ทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์กันโดย เขาไม่ได้ล่วงรู้ความลับที่ว่าบิดาของตัวเองที่จบชีวิตลงไป ก็เพราะฝีมือจากหญิงสาวคนนี้นี่เอง

เรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับ ความรักที่เบ่งบาน แต่กลับถูกอดีตอันเจ็บปวดตามาหลอกหลอน โดยหนังยังได้นักแสดงชาวเกาหลีชื่อดัง จองวูซอง (Jung Woo-Sung) มารับบทนำร่วมด้วย มีดารานักแสดงชื่อดังมากมายรวมถึง สวี่ซีว์หยวน (Da S / Barbie Hsu), หลินซีเหลย (Kelly Lin), ชอว์น หยู (Shawn Yue) และหวังซูฉี (Wang Xue Qi)

Rain of Swords หรือ "Jianyu Jiangwu" ที่ชื่อภาษาจีนของหนังแปลแบบตรงตัวว่า ฝนกระบี่สู่ยุทธจักร โดยขณะนี้หนังกำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำที่เจ้อเจียง และมีกำหนดเข้าฉายในวันชาติปีนี้

มิเชล โหยว ไม่เคยสร้างความผิดหวัง กับการรับทบาทจอมยุทธหญิง ที่เธอเองแสดงได้อย่างน่าเชื่อถือ และมีเสน่ห์แบบหลุดออกมาจากนิยายกำลังภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลงานของผู้กำกับ อังลีเรื่อง "Crouching Tiger and Hidden Dragon" แต่ในชีวิตจริงดูเหมือนว่านักแสดงวัย 47 ปีผู้นี้จะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจากบทบาทแม่สื่อของเธอมากกว่า

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มิเชล โหยว ไม่เพียงรับหน้าที่ในเบื้องหน้ากล้อง แต่เธอยังทำงานเบื้องหลัง รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างคนหนึ่งของเรื่อง และมากองถ่ายเกือบทุกวันแม้จะไม่มีคิวเข้ากล้องก็ตามที ... "ฉันเคยเป็นแบบ หลินซีเหลย หรือสวี่ซีว์หยวน ที่เพิ่งมีโอกาสแสดงฉากบู๊ครั้งแรก คนที่เคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อนอย่างฉันอาจจะช่วยแนะนำอะไรให้กับพวกเธอได้บ้าง อาจจะช่วยเตือนอะไรบางอย่าง ที่จะป้องกันจากการบาดเจ็บได้"

ลบเครื่องสำอางซุปเปอร์สตาร์สาวจีน พิสูจน์ใครสวยจริง ใครสวยแต่ง

Submitted by Ne_kapook on 22 ธันวาคม, 2009 - 18:13

หนังสือพิมพ์ "Chosun Sports" ของจีนทำการรวบรวมรูปของดาราสาวสวยเชื้อสายจีน มากหน้าหลายหลายตาทั้งไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง ในใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอาง ที่เป็นการพิสูจน์ไปเลยว่าสาวคนไหนกันแน่ที่สวยธรรมชาติ และใครที่สวยเพราะแต่ง

ซึ่งสองสาวที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันมากที่สุดก็คือ สองดาราสาวคนดังแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ "จางซิยี่" (Zhang Ziyi) และ "เจ้าเหว่ย" (Zhao Wei) ที่ฝ่ายแรกสร้างความผิดหวังให้กับหลายๆ คนกับหน้าไร้เครื่องสำอางของเธอ และขณะที่ฝ่ายหลังกลับได้รับเสียงชมในความงามอันเป็นธรรม

เจ้าเหว่ย ดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้โด่งดังจากบทบาทในหนังชุดเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ เมื่อ 12 ปีก่อน หรือเมื่อเธอเองอายุได้ 21 ปีในขณะนั้น ปัจจุบันสาวคนนี้อายุได้ 33 ปีแล้ว เปรียบเทียบกับสาวคนอื่นๆ ชาวจีนลงความเห็นว่า ใบหน้าไร้เครื่องสำอางของเจ้าเหว่ย นั้นดูดีที่สุด โดยเฉพาะดวงตา ที่แม้จะไม่มีการแต่งเติมใดๆ ก็ยังดูสุกใส เป็นประกายไม่แตกต่างจากเดิมนัก

พูดถึงดาราสาวชาวจีนระดับอินเตอร์แล้ว คงไม่มีใครจะเกิน จางซิยี่ ไปได้ เมื่อไม่มีเครื่องสำอาง เค้าหน้าเดิมของสาวคนนี้ยังคงอยู่ แต่คนจีนหลายๆ คนก็คงความเห็นว่า ความงามของเธอนั้นขึ้นอยู่กับเครื่องสำอางบนใบหน้าอยู่พอสมควรเลย โดยเฉพาะเพื่อปิดปังรอยกระบนใบหน้านั่นเอง อย่างไรก็ตามบางส่วนก็คิดว่า ใบหน้าของ จางซิยี่ มีความสวยแบบเป็นเอกลักษณ์ของสาวจีน ซึ่งสิ่งนี่เองที่ทำให้เธอสามารถสร้างชื่อในระดับโลกได้

โจวซุน (Zhou Xun) ดาราสาวเจ้าบทบาทอีกคนของวงการบันเทิง จีนแผ่นดินใหญ่ ที่มักจะได้รับคำชมอยู่เสมอว่า แม้จะมีอายุ 35 ปี แต่เธอคนนี้ก็ยังดูเหมือนเด็กสาวรุ่นอยู่เสมอ ซึ่งจากภาพที่เปิดเผยออกมาดูเหมือนว่า แป้งฝุ่นจะเป็นส่วนหนึ่งในเคล็ดลับความเยาวัยของ โจวซุนนั้นเอง

จูอิน (Athena Chu) ดาราสาวชาวฮ่องกงผู้โด่งดังกับบท อึ้งย้ง จากมังกรหยก แต่นั่นเป็นเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ตอนนี้ในวัย 38 จูอิน คงต้องพึงพาเครื่องสำอางไม่น้อยถ้าจะให้ความงามเมื่อ 17 ปีก่อนยังคงอยู่

นักร้องสาวคนดังแห่งไต้หวัน โจลิน ไช่อี้หลิง (Jolin Tsai) เป็นอีกคนที่ถูกนินทาเรื่องการทำศัลยกรรมมาตลอด แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร แต่งหน้า หรือด้วยมีดหมอ มันก็เปลี่ยนเธอคนนี้ก็กลายเป็นสาวร้อนที่สุดในไต้หวันได้สำเร็จ

สรรพากรไต้หวันจ้องเชือดดารานักร้องกว่า 400 ราย

Submitted by Ne_kapook on 1 ธันวาคม, 2009 - 13:42

สรรพากรไต้หวันกำลังทำจับตามอง และทำงานอย่างหนัก ในการรวบรวมหลักฐานเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ของศิลปินที่พยายามหลบเลี่ยงภาษี ที่คาดว่ามีกว่า 400 คน ซึ่งมีรายชื่อดาราดังอย่าง "สีซีหยวน" และ"หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) รวมอยู่ด้วย

ในกลุ่มศิลปินที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษได้แก่ สองสาวพี่น้อง สีซีหยวน (Barbie Hsu / Da S) และน้องสาวสีซีตี้ (Dee Hsu / Xiao S), นักแสดง เชอริล หยาง (Cheryl Yang) และโจ เฉิน (Joe Chen) ซึ่งล้วนเป็นผู้มีรายได้ลำดับต้นๆ ในวงการบันเทิงของไต้หวัน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การหนีภาษีกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการบันเทิงของที่นี่ เมื่อปีก่อนนักร้องชื่อดัง จางฮุ่ยเหม่ย (Zhang Hui Mei) และพิธีกรชื่อดัง แจ็กกี้ วู (Jackie Wu) กลายเป็นสองคนดังที่ต้องมีปัญหากับสรรพากรอย่างหนักในปีที่ก่อน ซึ่งทางเลือกของเขานักร้องนักแสดงก็คือ ยอมเสียภาษีตามจำนวนที่ถูกเรียกเก็บ หรือไม่ก็ต้องไปคุยกันในชั้นศาล

เมื่อปีก่อน สองพี่น้องสาวสวย สีซีหยวน และน้องสาวสีซีตี้ เคยมีปัญหาในเรื่องนี้และตัดสินใจสู้ในชั้นศาล จนชนะคดีความในท้ายที่สุด ซึ่งพวกเธอหวังว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้งในปีนี้ หลังจากทั้งสองสาวถูกแจ้งจากสรรพากรไต้หวันว่าต้องจ่ายภาษีรวมกันถึงกว่า 40 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งไม่สามารถทำการตกลงกับเจ้าหน้าที่ของสรรพากรได้อีกเช่นเคย จนเรื่องกำลังดำเนินไปสู่ศาลอีกครั้ง

นางแบบคนดังอย่าง หลินจื่อหลิง เป็นอีกคนที่ต้องพบกับปัญหาในเรื่องนี้ หลังปีที่ผ่านมาเป็นช่วงปีแห่งการโกยเงินมหาศาลสำหรับเธอมีงานหนัง และพรีเซนต์เตอร์โฆษณาเข้ามาจำนวนมาก จนได้รับแจ้งถึงเรื่องการค้างจ่ายภาษีเป็นจำนวนเงินถึง 15 ล้านเหรียญไต้หวัน แม้สาวสวยคนนี้จะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดรายได้ของเธอแล้ว แต่สรรพากรก็ยังยืนยันในเงินจำนวนเดิม แถมยังบอกว่าจะไม่มีการเจรจาอีกต่อไป

วิค (Vic Zhou) ไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแต่งงานของต้าเอส (Da S)

Submitted by sparking on 8 กันยายน, 2009 - 16:18

วิค (Vic Zhou) สวมชุดขุนนางอังกฤษดินอย่างสง่า และไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแต่งงานของต้าเอส

เมื่อตอนเย็นวันที่2กันยาที่ผ่านมา ไจ่ไจ๋ได้ปรากฎตัวในงานเขาได้แต่งตัวคล้ายๆกับขุนนางอังกฤษ หลังจากที่หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ได้มีข่าวแต่งงานออกไปแล้ว ต้าเอส (Da S) ยังถูกกล่าวว่าแต่งงานแล้วเหมือนกัน ไจ่ไจ๋ได้ตอบว่าสำหรับตัวเขาเองไม่รู้ข้อเท็จจริงใดๆ และหวังว่าสื่อควรให้เวลาส่วนตัวสำหรับนักแสดงมากๆเช่นกัน

ภายในงานมีการแสดงขี่ม้า แต่ท้องฟ้าไม่อำนวยทำให้ฝนตกลงมา ไจ่ไจ๋และผู้เข้าร่วมงานต่างเปียกฝน แม้กระทั่งม้าที่แสดงอยู่ก็เกิดการลื่นล้ม ปกติไจ่ไจ๋เป็นคนชอบดูกีฬาอยู่แล้วหลังการแสดงได้ให้สัมภาษณ์ว่า "บรรยากาศการแสดงวันนี้ได้สะกดคนดูมาก ทุกๆคนแต่งกายได้อย่างดีและยังมีการแสดงของม้าที่ยอดเยี่ยม สถานที่จัดงานเหมือนกับได้เข้าร่วมการแข่งม้าของราชวงศ์อังกฤษ"

เมื่อถูกถามเรื่องแต่งงาน ว่าตัวเองจะมีการเปิดเผยเรื่องความรักบ้างมั้ย เขาได้ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า "ต้องมองวันข้างหน้า เชื่อว่าถึงแม้จะเปิดเผยหรือไม่ก็ตามเขาก็ยังคงมีความสุขแน่นอน!"

สำหรับการรายงานของสื่อเกี่ยวกับการแต่งงานต้าเอส ไจ่ไจ๋พูดแค่ว่า ไม่รู้ข้อเท็จจริงแต่บางครั้งสื่อก็ไม่ได้ให้ความยุติธรรมต่อนักแสดงสักเท่าไหร่ และหวังว่าทุกคนจะให้เวลาส่วนตัวกับนักแสดงบ้างและให้ความสุขเยอะๆ

Sina

"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) อุ้มลูกเยือนไต้หวันไร้เงาสามี หลังวีนใส่กันเรื่องลูก

Submitted by canjamm on 24 เมษายน, 2009 - 10:33

"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) และลูกชายได้เดินทางมาเยือนประเทศไต้หวันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยไร้เงาของสามี "เซี่ยถิงฟง" (Nicholas Tse) หลังจากทั้งสองมีปากเสียงกันในที่สาธารณะ เรื่องจะเอาลูกเข้าวงการเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

เมื่อวันพุธที่ 22 ที่ผ่านมา จางป๋อจือ ดาราสาวคนสวยวัย 28 พร้อมกับลูกชายตัวน้อย ลูคัส ได้เดินทางมาถึงประเทศไต้หวันกันแบบแม่ๆ ลูกๆ ซึ่งดาราสาวได้เปิดใจต่อผู้สื่อข่าวว่าที่เธอเดินทางมาเยือนไต้หวันครั้งนี้ ก็เพื่อมาเยี่ยมสองพี่น้องเสี่ยวเอส (Xiao S) และต้าเอส (Da S) โดยเฉพาะคนพี่ที่เธอคบหากันเหมือนพี่สาวน้องสาวแท้ๆ ในช่วงหลายปีมานี้

ซึ่งการเดินทางแบบไร้เงาผู้เป็นสามีอย่างเซี่ยถิงฟง สอดคล้องกับรายงานของทางฮ่องกงเมื่อหลายวันก่อนว่า คู่สามีภรรยาคนดังของวงการบันเทิงฮ่องกงกำลังมีปัญหาที่เคลียร์กันไม่ตกเรื่องลูกของพวกเขา เมื่อมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่พร้อมทุ่มเงินกว่า 38 ล้านหยวน เพื่อชวนให้ทั้ง 3 คนมาร่วมถ่ายทำโฆษณากับแบบพ่อแม่ลูก หลังจากที่สภาพเศรฐกิจที่ย่ำแย่ทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายเรื่องบ้านและที่ดินในเมืองจีนตกต่ำอยู่ในขณะนี้

ขณะที่ผู้เป็นแม่เห็นชอบกับโปรเจ็คท์ดังกล่าว แต่ผู้เป็นพ่ออย่าง เซี่ยถิงฟง กลับไม่ชอบกับความคิดที่จะให้ลูกชายวัย 2 ขวบต้องไปเจอกับแสงสีเพียงอายุเท่านี้ เมื่อเขาไม่ต้องการซ้ำรอยกับที่พ่อแม่ของเขาเคยทำมาก่อน เพราะเมื่อนิโคลัสยังเด็ก พ่อแม่ของเขาถือเป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการ ซึ่งเปิดทางให้เขาเข้าสู่วงการในฐานะดาราเด็ก ซึ่งทำให้เขารู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดและความยากลำบากของการมีชีวิตที่ปราศจากความเป็นส่วนตัวเหมือนกับที่เด็กๆ ทั่วไปควรจะได้รับ

ตรงข้ามกับทางจางป๋อจือที่ไม่เห็นด้วยที่จะทิ้งโอกาสนี้ไป เพราะเธอคิดว่าอย่างน้อยก็สามารถถ่ายทำมันให้ดูเหมือนว่าครอบครัวกำลังไปท่องเที่ยวกันอยู่ก็ได้ ที่เธอเชื่อว่างานโฆษณานี้จะไม่ส่งผลต่อตัวลูคัสอย่างแน่นอน

ดาราชาวไต้หวัน 23 คน ได้รับเชิญให้แสดงในภาพยนตร์เรื่องสั้น สำหรับงาน Golden Horse Film

Submitted by canjamm on 3 ธันวาคม, 2008 - 10:50

ดาราชื่อดังชาวไต้หวันจำนวน 23 คน มารวมตัวกันเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ตลกเรื่องสั้น ที่จะออกอากาศในเทศกาลงานแจกรางวัล Golden Horse Awards ครั้งที่ 45 ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ภาพยนตร์นี้มีชื่อว่า Movie Dreams of the Taiwanese ซึ่งจะมีดาราหลายๆคนร่วมแสดง เช่น ไบรอันท์ (Bryant Chang), เอเรียล หลิน (Ariel Lin), ชางเฉิน (Chang Chen), เฉินป๋อหลิน (Wilson Chen), เผิงอวี๋เอี้ยน (Eddie Peng), ฟานอี้เฉิน (Van Fan), ต้าเอส (Barbie Hsu), หวังลี่หง (Wang Lee Hom) และจางจวินหนิง (Janine Chang)

Sina

ต้าเอส (Da S) และไจ่ไจ๋ (Zai Zai) กลับมาคบกันอีกแล้วหรือ?

Submitted by canjamm on 1 ธันวาคม, 2008 - 14:08

หลังจากต้าเอส (Da S) และไจ่ไจ๋ (Zai Zai) เลิกกันมานานประมาณ 10 เดือน ทั้งสองคนกลับมาคบกันกันอีกแล้วหรือ?

เมื่อไม่นานมานี้ ไจ๋ไจ๋อยู่ในโอซาก้า สำหรับงานคอนเสิร์ต F4 และมีคนเห็นว่ามีคนคล้ายกับต้าเอสในโอซาก้าด้วย จากการรายงานของแฟนๆชาวญี่ปุ่น หลังจากงานคอนเสิร์ต F4 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม วันต่อมาเวลา 10 โมงเช้าที่โรงแรม New Otani พวกเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่บริเวณรับรองแขกในโรงแรม แฟนๆจำได้ว่า ผู้หญิงคนนั่นก็คือต้าเอส เมื่อเธอตัวว่ามีคนจำเธอได้ เธอรีบเอาผ้ามาปิดหน้าไว้ และขึ้นรถออกไป และก็บังเอิญที่ว่า รถที่ต้าเอสขึ้นไปนั่น เป็นรถเดียวกับที่ไจ๋ไจ๋ใช้ในระหว่างที่เขาอยู่ในญี่ปุ่น

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) พบเข้ากับโจ เฉิง (Joe Cheng) ในญี่ปุ่นโดยบังเอิญ !!

Submitted by canjamm on 20 พฤศจิกายน, 2008 - 15:14

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) นักแสดงยอดเยี่ยม พบกับผู้ชาย 2 คนในโตเกียว เจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) เพิ่งแยกไป แต่แล้วเธอก็พบเข้ากับคู่หูเก่า โจเฉิง (Joe Cheng) ที่สนามบินนาริตะ ยิ่งไปกว่านั่น แม้ว่าทั้งสองคนจะเข้าร่วมงานคนละงานกัน แต่พวกเขากลับใส่ชุดคล้ายกันอีก

ไจ๋ไจ๋ (Vic Zhou) ลืมวันเกิดต้าเอส (Da S) ?

Submitted by canjamm on 15 ตุลาคม, 2008 - 12:49

ต้าเอส (Da S)เข้าร่วมงานโปรโมทสินค้าของ Tissot เมื่อหลายวันก่อน เธอฉลองวันเกิดของเธอ และไจ๋ไจ๋ (Zai Zai) แฟนเก่าของเธอ ไม่ได้ส่งอะไรให้เธอเลย เธอกล่าวว่า "ฉันไม่ได้รับของขวัญ หรือ SMS" แล้วไม่พอใจหรือเปล่า? เธอตอบว่า "เขารู้ว่าฉันไม่ชอบฉลองวันเกิด มันน่าอายจริงๆ" เขาลืมวันเกิดคุณหรือเปล่า? เธอตอบว่า "มัน ok ฉันหวังว่าทุกๆคนจะลืมอายุฉันเช่นกัน!" เมื่อถูกถามว่าเธอมีใครอยู่ไหม เธอยิ้มและตอบว่า เธอเคยมี แต่เธอได้ประกาศไปแล้วว่าเธอต้องการตั้งใจทำงาน ดังนั้น เธอยังไม่มีใครในตอนนี้

Devoted2barbie

ไจ๋ไจ๋ (Vic Zhou) กล่าวว่า ต้าเอส (Da S) เป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของผม!!

Submitted by canjamm on 8 กันยายน, 2008 - 13:53

ไจ๋ไจ๋ (Zai Zai / Vic Chou) และรักเก่าของเขา ต้าเอส (Da S) ยังยากที่จะตัดความสัมพันธ์กันหมด คืนก่อน ไจ๋ไจ๋ถูกเชิญไปงานแฟชั่นโชว์ในฮ่องกง ลือกันว่า ต้าเอสก็ได้ถูกเชิญไปด้วย แต่เพื่อเลี่ยงที่จะเจอไจ๋ไจ๋ เธอปฎิเสธที่จะเข้าร่วมงาน ในคืนนั้น ไจ๋ไจ๋ถูกถามเกี่ยวเรื่องนี้ เขากลับไม่คิดอย่างนั้น เขาย้ำว่า ทางบริษัทของต้าเอสได้อธิบายไปแล้ว ว่าต้าเอสติดงาน และไม่สามารถมาร่วมงานได้ ไจ๋ไจ๋อธิบายว่า พวกเขายังคงเป็นเพื่อนกัน และยังคงกล่าวอย่างเปิดเผยว่า "ต้าเอสยังคงเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"

ต้าเอส (Da S) เปิดเผยเหตุผล ที่ทำให้เธอเลิกกับไจ๋ไจ๋ (Zai Zai / Vic Zhou)

Submitted by canjamm on 6 สิงหาคม, 2008 - 14:36

เมื่อวันก่อน ต้าเอส (Da S) ได้ให้สัมภาษณ์กับ ELLE และเปิดเผยถึงเหตุผลที่เธอเลิกกับไจ๋ไจ๋ (Zai Zai / Vic Zhou)

เธอกล่าวว่า "ฉันตระหนักดีว่า ทั้งสองฝ่ายไม่เหมาะที่จะแต่งงานกัน จึงได้จบความสัมพันธ์นี้ลง ฉันเคยคิดว่า ฉันจะแต่งงานเมื่อตอนที่ยังสาว แต่หลังจากเพื่อนสนิทหลายๆคนของฉันแต่งงานไป ฉันมารู้ว่า ฉันไม่ใช่คนที่เหมาะที่จะดูแลครอบครัว"

ต้าเอสยอมรับว่า เหตุผลที่เธอเลิกกับไจ๋ไจ๋นั่นตรงๆ และง่ายมาก นั่นอาจจะไม่แฟร์กับอีกคนหนึ่ง แต่ถ้ามันไม่มีถนนให้เดินต่อไปในเรื่องความสัมพันธ์ ทำไมไม่จบมันลงซะละ?

เธอยังได้ยอมรับว่า การตัดสินใจที่จะเลิกนั่นเจ็บปวดมาก ฉันเป็นคนที่ดื้อมาก และมักจะตัดสินใจในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าแปลก แต่เมื่อฉันเชื่อในสิ่งที่ควรจะทำ ฉันจะใช้ความมุ่งมั่นเพื่อทำมันให้ได้

MingPao

"ต้าเอส" น้ำตาร่วง หลังยอมเข้าฉากสุดสยิว แต่ผกก.เปลี่ยนใจหั่นทิ้ง

Submitted by canjamm on 26 กรกฎาคม, 2008 - 01:30

"ต้าเอส" (Da S) ดาราสาวคนดังถึงกับหลั่งน้ำตา สำหรับการตัดสินใจเข้าฉากสุดสยิวกับดาราชายถึง 3 รายในหนังเรื่องใหม่ แต่ความพยายามบวกความกล้าของเธอกลับไร้ความหมาย เมื่อผู้กำกับตัดสินใจหันฉากดังกล่าวทิ้งหน้าตาเฉย

ต้าเอส หรือสาว สีว์ซีหยวน ดาราสาวชาวไต้หวันวัย 31 ปี ที่เพิ่งจะเลิกรากับหนุ่มรุ่นน้องอย่าง ไจ่ไจ๋ ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีเรื่องให้เสียน้ำตาอีกแล้ว แต่ความนี้เป็นเรื่องงาน เมื่อในผลงานเรื่องใหม่อย่าง Love Audible Practice ที่สาวต้าเอสต้องเข้าฉากขึ้นเตียงกับดาราหนุ่มถึง 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่หนุ่ม จางเสี่ยวช่วน รุ่นน้องวัย 24 ที่เธอต้องมีอะไรกับเขาในหนังทั้งในห้องน้ำและบนรถไฟ ด้วยท่าร่วมรักที่หลากหลาย แต่กลายเป็นว่าผู้กำกับตัดสินหันมันทิ้งทั้งหมด

เปลี่ยนตัวต้าเอส (Da S) ให้เอเรียล หลิน (Ariel Lin) แสดงคู่กับโจ เฉิง (Joe Cheng) แทน ในละคร Love Or Bread

Submitted by canjamm on 18 กรกฎาคม, 2008 - 17:18

ต้าเอส (Da S) กลัวจะน้ำหนักเพิ่ม? เอเรียล หลิน (Ariel Lin) รับบทหญิงยากจนในหมู่บ้าน

ละคร Love or Bread ของทาง GTV แสดงนำโดยต้าเอส และโจ เฉิง (Joe Cheng) ได้มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงนำหญิง จากต้าเอส ไปเป็นเอเรียล ต้าเอสกล่าวถึงเหตุผลว่า เนื่องจากตารางงานชนกันกับภาพยนตร์ที่เธอจะเข้าร่วมถ่ายทำ อีกอย่างหนึ่งที่มีการคิดกันก็คือว่า ตัวละครที่เธอจะแสดงใน Love or Bread นั่น เป็นชาวบ้านมากจนเกินไป ซึ่งต้องใส่เฉพาะรองเท้าฟ้าขาว และเป็นผู้หญิงอ้วน ต้าเอสไม่ยอมลดตัวเธอเองจากเจ้าหญิงไปเป็นตัวละครอย่างในละครนี้

เรื่องบังเอิญ? ฟิลม์ของละครที่ไจ๋ไจ๋ (Vic Zhou) แสดงนำ หายไป หลังจากฟิลม์ภาพยนตร์ที่ต้าเอส (Da S) แสดงนำ ก็เพิ่งหายไปได้ไม่นาน

Submitted by canjamm on 10 กรกฎาคม, 2008 - 14:04

ฟิลม์ละคร Black & White (Ruffian Hero) ได้หายไป และมีการเสนอมอบเงินรางวัล 50,000 เหรียญไต้หวัน สำหรับคนที่นำมามอบคืน

ภาพยนตร์เรื่อง "Love Audible Practice" แสดงนำโดยต้าเอส (Da S) เพิ่งมีเหตุการณ์ฟิลม์หายไปเมื่อไม่นานนี้เอง และก็บังเอิญที่แฟนเก่าของเธอ ไจ๋ไจ๋ (Vic Chou) ซึ่งกำลังถ่ายทำละครเรื่องใหม่ Black & White ก็มีรายงานว่า เครื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ และฟิลม์ 15 ชุดได้ถูกขโมยไป

ต้าเอส (Da S) พร้อมที่จะร่วมงานกับไจ๋ไจ๋ (Vic Zhou) อีกครั้ง ใน Corner with Love 2 ?

Submitted by canjamm on 14 มิถุนายน, 2008 - 17:56

Corner With Love ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลละครทีวีที่ดีที่สุด ต้าเอสได้เข้าร่วมงานในวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับรางวัล ต้าเอสไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร เธอกล่าวว่า เธอโชคดีที่ได้เป็นที่รู้จัก เธอไม่ได้หวังจะชนะในงานนี้

ฉากอาบน้ำของต้าเอส (Da S) ถูกขโมย / เอ็ดดี้ เผิง (Eddie Peng) อาจจะต้องถูกตีอีกครั้งหนึ่ง

Submitted by canjamm on 6 มิถุนายน, 2008 - 12:27

ฉากที่ต้าเอส (Da S) ถูกล่วงเกินทางเพศในขณะที่อาบน้ำ และฉากที่เธอตีเอ็ดดี้ เผิง (Eddie Peng) ได้สูญหายไป ทำให้ทีมงานสร้างต้องสูญเงินไปถึง 500,000 เหรียญ พวกเขาได้พบว่า ฉากดังกล่าวได้ถูกขโมยไป มีการแจ้งความกับทางตำรวจ และเก็บลายนิ้วมือไปตรวจสอบ พวกเขาหวังว่าจะจับโจรคนนั้นได้เร็วนี้

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ในไต้หวัน ต้าเอสได้รับแจ้งข่าวร้ายนี้ แต่เธอก็ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอกล่าวว่า "เราจะพบมันแน่ๆ เพราะว่าฉันไม่ต้องการจะตีเอ็ดดี้อีกครั้งหนึ่ง" แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถหามันเจอ เอ็ดดี้จะต้องถูกขอให้ถ่ายทำฉากนั้นอีกครั้งหนึ่ง

Love Or Bread ละครไต้หวันเรื่องใหม่ แสดงโดยโจ เฉิง (Joe Cheng) และ ต้าเอส (Da S)

Submitted by canjamm on 31 พฤษภาคม, 2008 - 17:02

ไจ๋ไจ๋ (Zai Zai) และโจ เฉิง (Joe Cheng) มีชะตาเกี่ยวพันกันแน่ๆ เพราะละครเรื่อง Honey and Clover และ Wish To See You Again ก็เป็นคู่แข่งกันทางทีวี มาคราวนี้ ต้าเอส (Da S) จะแสดงละครร่วมกับโจเฉิง (Joe Cheng) ในละครเรื่องใหม่ ในตอนแรกของละคร Honey and Clover โจกล่าวว่า อย่างน้อย เรทติ้งจะดีกว่าเรื่อง Wish To See You Again ซึ่งก่อนให้เกิดความวุ่นวาย แต่ผลที่ออกมาก็เป็นตามที่โจกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อเอาละคร Honey and Clover ไปเทียบกับ Fated To Love You นั่น ยังเรียกว่าห่างชั้นกันอย่างมาก

ต้าเอส (Da S) เหนื่อยล้าจากการทำงาน ทำให้การถ่ายทำ Love Audible Practice ต้องล่าช้า

Submitted by canjamm on 31 พฤษภาคม, 2008 - 16:11

ต้าเอส (Da S) กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Love Audible Practice มีรายงานว่า เนื่องจากการทำงานอย่างหนัก และมีความกดดันอย่างมาก เธอรู้สึกไม่สบาย การถ่ายทได้หยุดลงเพื่อให้เธอได้พักผ่อน ในตอนแรก โปรเจคนี้มีแผนที่จะถ่ายทำฉากใกล้ชิดกับเอ็ดดี้ เผิง (Eddie Peng) ซึ่งแสดงเป็นชายที่เป็นรักแรกของต้าเอส แต่การถ่ายทำได้ล่าช้าออกไป Chen Yi Ling ตัวแทนของต้าเอสได้กล่าวว่า ต้าเอสได้เข้าร่วมการถ่ายทำมาตลอดเวลา 23 วันที่ผ่านมาโดยไม่ได้พัก เธอรู้สึกเหนื่อยล้า และต้องการที่จะขอเวลาช่วงสั้นๆเพื่อพักผ่อน และสุขภาพของเธอไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

ลือกันให้แซด ''ไจ่ไจ๋'' ลมพัดหวน ''ต้าเอส''

Submitted by canjamm on 28 พฤษภาคม, 2008 - 11:54

เมื่อวานนี้สำนักข่าวไต้หวันได้รายงานว่า ในละครเรื่องใหม่ "ผี่จึอิงสง" ไจ่ไจ๋ โจวอวี้หมิ่น (Zai Zai) ได้แสดงประกบ เฉินอี้หัน นักแสดงหน้าใหม่ แต่เรื่องความรักในชีวิตจริงระหว่างเขากับต้าเอส (Da S) ทุกวันนี้ก็ยังได้รับความสนใจถูกจับจ้อง แม้ทั้งคู่จะได้ออกมาประกาศว่าเลิกกันแล้วก็ตาม แล้วก่อนหน้านี้ไจ่ไจ๋กับต้าเอส ก็เคยได้รับการโหวตให้เป็นคู่รักในดวงใจ ที่อยากให้กลับมาคืนดีกันที่สุด แม้แต่ปาร์กอึนเฮนางเอกสาวที่เคยร่วมงานกับเขาเรื่อง Silence ก็ยังอยากให้เขากลับไปคืนดีกับต้าเอส สำหรับเรื่องนี้เมื่อไจ่ไจ๋ได้ยิน เขาก็เอาแต่หัวเราะไม่พูดอะไร ส่วนทางด้านต้าเอสก็ตอบว่า ให้เป็นเรื่องของอนาคตปล่อยไปตามธรรมชาติ ซึ่งจากที่รู้มาตอนนี้ทั้งสองคนต่างงานยุ่งมาก จนไม่ค่อยมีเวลาติดต่อกันด้วยซ้ำ

เหอยุ่นตง (Peter Ho) ยอมรับว่าเขาแอบชอบต้าเอส (Da S)

Submitted by canjamm on 27 พฤษภาคม, 2008 - 22:47

3 ปีที่แล้ว เหอยุ่นตง (Peter Ho) และต้าเอส (Da S) ได้ร่วมงานกันใน Phantom Lover เมื่อวานนี้ เหอยุ่นตงเปิดเผยว่า เขามีใจให้กับต้าเอส แต่น่าเสียดายที่เธอมีแฟนแล้วในตอนนั้น และทำให้เขาต้องหยุดความรู้สึกของเขา เนื่องจากความไม่ถูกต้อง

เหอยุ่นตงต้องการร่วมงานกับต้าเอส

ต้าเอส ไม่ปฏิเสธลมพัดหวนไจ่ไจ๋

Submitted by canjamm on 27 กุมภาพันธ์, 2008 - 14:11

"เป่าฉือทงหว้า" ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เรื่อง "Cellular" ของผู้กำกับฯ David R. Ellis ที่สร้างเมื่อปี 2004 เฉินมู่เซิ่ง ชื่นชอบบทภาพยนตร์เรื่องนี้มาก เมื่อสามารถซื้อลิขสิทธิ์จัดสร้างได้เขาดีใจเป็นที่สุด พร้อมกับมีการวางตัวให้ กู่เทียนเล่อ ประกบกับ ต้าเอส ซึ่งก็มีการเดินกล้องถ่ายทำทันที

ไจ๋ไจ๋ เยี่ยมบ้านต้าเอส ในวันตรุษจีนที่ผ่านมา

Submitted by minere on 23 กุมภาพันธ์, 2008 - 11:06

เมื่อเร็วๆ นี้ต้าเอส (Da S/Barbie Hsu) ได้เปิดเผยกับนักข่าวว่า เค้าและไจ๋ไจ๋ (Zai Zai)มีความสัมพันธ์ี่ที่ดีหลังจากแยกทางกัน

อาทิตย์ที่แล้วในวันตรุษจีีน ไจ๋ไจ๋ได้ไปเยี่ยมบ้านต้าเอส และอวยพรให้กับคุณแม่เธอในวันตรุษจีน ทำให้มีข่าวลือว่าทั้งสองแกล้งเลิกกัน เพื่อสร้างความสนใจ

ต้าเอสก็ออกมาปฏิเสธทันทีเรื่องแกล้งแยกทางกัน เธอบอกว่า ไจ๋ไจ๋และเธอได้ตัดสินใจว่าจะแยกทางกัน บางครั้ง ความสัมพันธ์ของพวกเค้าก็เป็นเรื่องยาก ที่จะหาเหตุผลว่าทำไมพวกเค้าถึงต้องแยกทางกัน พวกเค้าไม่จำเป็นต้องแกล้งทำแบบนั้น

หลังจากที่แยกทางกัน ต้าเอสก็ยุ่งอยู่กับงานถ่ายภาพยนตร์เรื่องใหม่ "Keeping in touch" ซึ่งแสดงกับกู่เทียนเล่อ (Louis Koo) และหลิวเต๋อหัว (Andy Lau)ที่ฮ่องกง ส่วนไจ๋ไจ๋เองก็มีงานโปรเจ็กใหม่เข้ามาแล้วเหมือนกัน

KrFilm