ข่าวจีน

The Great Magician หนังใหม่ “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) ฉายชน หนังจีนเรื่องแรก “คริสเตียน เบล” (Christian Bale)

Submitted by canjamm on 28 เมษายน, 2011 - 20:16

บริษัทผู้สร้างได้ยืนยันว่า The Great Magician ผลงานใหม่ของ “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของนักมายากลยอดฝีมือ จะมีกำหนดเข้าฉายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหมายความว่าจะเป็นการฉายชนกับหนังจีนเรื่องแรกของพระเอกฮอลลีวูดอย่าง “คริสเตียน เบล” (Christian Bale) ด้วย

กลายเป็นคำถามที่แฟนหนังชาวจีนให้ความสนใจกันมากที่สุดในตอนนี้ ว่าผลงานเรื่องใหม่ของใครระหว่าง : คริสเตียน เบล นักแสดงฮอลลีวูดเจ้าของรางวัลออสการ์ กับ เหลียงเฉาเหว่ย นักแสดงยอดฝีมือชาวฮ่องกง จะประสบความสำเร็จครองใจแฟนหนังจีนในช่วงโปรแกรมทองท้ายปีมากกว่ากัน

ข้อถกเถียงดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงภายหลัง Bona Film Group ได้ประกาศว่า The Great Magician ผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับคนดัง เอ๋อตงเซิน ที่จะมี เหลียงเฉาเหว่ย รับบทนำจะมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 22 ธ.ค. 2011 เป็นวันเดียวกับที่ Nanjing Heroes ของผู้กำกับ จางอี้โหมว ที่มีนักแสดงฮอลลีวูด คริสเตียน เบล รับบทนำเข้าฉายพอดิบพอดี

“การฉายชนกันแบบนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก” ตัวแทนของบริษัท Bona Film Group กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter พร้อมย้ำว่า เป็นโอกาสดีที่คนดูสามารถเปรียบเทียบการแสดงของ เหลียงเฉาเหว่ย กับ คริสเตียน เบล ที่เคยรับบทเป็นนักมายากลในหนังปี 2006 เรื่อง The Prestige มาแล้วด้วย

ใน The Great Magician เหลียงเฉาเหว่ย จะสวมบทบาทเป็น จางเซียน ยอดนักมายากล ที่หวังใช้ฝีมือในด้านนี้ เพื่อช่วยเหลืออดีตคนรักของเขา (โจวซวิ่น) ที่กลายเป็นผู้หญิงของขุนศึกผู้ชั่วร้ายไปแล้ว (หลิวชิงหวิน) โดยหนังจะมีฉากหลังอยู่ที่ประเทศจีนยุคหลังการปกครองของราชวงศ์ชิง ที่เต็มไปด้วยความแตกแยกระส่ำระสาย

“มันคือหนังรักสามเส้า” เอ๋อตงเซิน กล่าวถึงหนังทุนสร้าง 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเขา “หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะเล่าเรื่องของตำนานแห่งมายากล แต่ยังจะมีความเป็นแฟนตาซี, ความรัก, แอ็กชั่น และองค์ประกอบอีกมากมาย ผมอยากจะสร้างหนังที่สามารถมอบความตื่นเต้น และสดใหม่ให้กับคนดูได้”

นักร้องไต้หวันแก้ผ้าต้านนิวเคลียร์ "นู้ดดีกว่านุก"

Submitted by canjamm on 26 เมษายน, 2011 - 18:32

เฟิ่ง หวง - ศิลปินสาวไต้หวันใจเด็ด เปลื้องผ้าโชว์การแสดงต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ รำลึกวันครบรอบ 25 ปี โศกนาฏกรรมนิวเคลียร์เชอร์โนบิล ณ บริเวณหน้าทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

หลี่ มี่ (Lee Mi / 李宓) ศิลปินนักแสดงไต้หวัน และกลุ่มนักแสดงจากองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมกันเปิดการแสดงในหัวข้อ "Rather Nude Than Nuke" (寧裸不核) หรือ "นู้ดดีกว่านุก" บริเวณด้านหน้าสำนักงานของหม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดี ไถเป่ย (ไทเป) ไต้หวัน เพื่อรณรงค์ต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์

ศิลปินสาวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า “ช่วงที่ยังเป็นนักศึกษา ฉันเข้าร่วมถ่ายภาพยนตร์ดังกล่าว เพราะความรักที่มีต่อโลก และขณะนี้ ฉันเป็นนักแสดง ซึ่งเป็นคนของประชาชน ยิ่งมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ในการรณรงค์ต่อต้านนิวเคลียร์”

หลี่ มี่ เป็นหญิงสาวคนแรกที่เปลือยกายเพื่อต่อต้านนิวเคลียร์ โดยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ปี 2549) เธอได้สร้างความฮือฮาด้วยการเข้าร่วมกับองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไต้หวัน ทำหนังสั้นครบรอบ 20 ปี รำลึกภัยพิบัตินิวเคลียร์เชอร์โนบิล เผยแพร่บนโลกออนไลน์ เรื่อง Rather Nude Than Nuke ซึ่งเป็นการเปลือยกายถ่ายภาพยนตร์ครั้งแรกของเธอ โดยในขณะนั้น เธอยังเป็นนักศึกษาคณะการละคร มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน

ทั้งนี้ หลี่ มี่ ศิลปินนักแสดงไต้หวันผู้นี้ มีฝีมือการแสดงและรูปร่างหน้าตาคล้ายกับโซเนีย สุย(隋棠-สุย ถัง) นักแสดงและนางแบบชื่อดังแห่งไต้หวัน จนได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็น “小隋棠" หรือ สุยถังน้อย

อนึ่ง โศกนาฏกรรมเชอร์โนบิล เป็นอุบัติภัยที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2529 ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมเชอร์โนบิล ริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์ ใกล้เมืองพริเพียต จังหวัดเคียฟ ทางตอนเหนือของยูเครน โดยอุบัติภัยครั้งนี้ได้รับการจัดระดับความรุนแรงไว้ที่ระดับ 7 ซึ่งสูงสุดตามมาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์

MayDaily / WatchChinaTimes / NowNews / Manager Online

"จางอี่ว์ฉี" (Kitty Zhang) สละโสด ปลื้มได้แหวนเพชร 8.688 กะรัตมัดใจ

Submitted by canjamm on 25 เมษายน, 2011 - 18:19

นางเอกสาวหุ่นสวยชาวจีน "จางอี่ว์ฉี" (Kitty Zhang / 张雨绮) กลายเป็นสาวคนดังอีกรายที่เลือกสละโสดในช่วงนี้ และเจ้าบ่าวของเธอก็คือผู้กำกับชื่อดัง "หวางฉวนอัน" (Wang Quanan / 王全安) ที่มีอายุห่างกันถึง 21 ปีนั่นเอง

มีข่าวดีของดาราสาวชาวจีนอีกคนอย่าง จางอี่ว์ฉี วัย 24 ปี ที่ได้จูงมือแฟนหนุ่มใหญ่ผู้กำกับมือรางวัล หวางฉวนอัน เข้าประตูวิวาห์กันไปในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

จางอี่ว์ฉี เข้าวงการบันเทิงขณะที่มีอายุได้ 20 ปี และเปิดตัวเป็นที่รู้จักโดยทันทีเมื่อได้รับเลือกให้รับบทเด่นในหนัง CJ7 ของราชาหนังตลก โจวซิงฉือ (Stephen Chow) หลังจากนั้นเธอยังมีผลงานอีกมากมายตามมารวมถึงหนังย้อนยุคเรื่อง The Butcher, the Chef and the Swordsman ที่เข้าฉายในเมืองจีนเมื่อเร็วๆนี้ด้วย

ขณะที่ฝ่ายชายเป็นผู้กำกับฝีมือดีที่ได้รับการยอมรับในวงการภาพยนตร์ระดับโลก เพราะ หวางฉวนอัน เคยพาผลงานเรื่อง Tuya's Wedding คว้ารางวัลหมีทองคำที่เทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินมาแล้ว โดยคู่รักที่มีอายุห่างกัน 21 ปีคู่นี่ได้มีโอกาสพบกันครั้งแรกระหว่างร่วมงานในซีรีส์เรื่อง White Deer Plain

ก่อนหน้านี้เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ถูกเปิดเผยให้สาธารณะรับรู้เลย จนกระทั่งไม่กี่สัปดาห์ก่อนการแต่งงาน

นอกจากเรื่องความรักแล้วแหวนเพชร 8.688 กะรัตซึ่งว่ากันว่ามีมูลค่าถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นอีกสิ่งที่นี่ผู้คนให้ความสนใจ ขณะที่ตัวของ จางอี่ว์ฉี พูดถึงเรื่องนี้ว่า "86.8.8 คือวันเกิดของฉันค่ะ ในเวลาเดียวกัน 8.688 ก็คือน้ำหนักของแหวนบนนิ้วมือของฉันด้วย เมื่อฝ่ายชายมอบของขวัญที่มีความหมายตรงกันแบบนี้ให้ มันจึงกลายเป็นแหวนที่พิเศษ ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึก ฉันจะใส่มันเพื่อรับความอบอุ่นนี้เอาไว้ และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับเขาต่อไปค่ะ"

ในอดีต จางอี่ว์ฉี เคยคบหากับ หวางเสี่ยวเฟย (Wang Xiao Fei) นักธุรกิจหนุ่มทายาทรุ่นที่สองของเจ้าของเครือร้านอาหารสุดหรู ซึ่งหลังจากแยกทางกันไป หวางเสี่ยวเฟย ได้พบรักกับนักแสดงสาวชาวไต้หวัน สวีซีหยวน (Da S) และเพิ่งเข้าประตูวิวาห์กันไปเมื่อประมาณไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้นี่เอง

QQ / Xinhuanet / Manager Online

T-Pop แรง นักร้องนักแสดงไทย โกยทรัพย์แดนมังกร

Submitted by canjamm on 25 เมษายน, 2011 - 18:15

หากกล่าวถึงกระแส J-Pop (Japanese pop culture) คนส่วนใหญ่ย่อมทราบว่าหมายถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันเป็นที่นิยมไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์เพลง เป็นต้น ซึ่งยุคหนึ่งได้รับความนิยมอย่างยิ่งในประเทศไทย ต่อมาจึงถูกแทนที่ด้วยกระแส K-Pop (Korean pop culture) ซึ่งก็คือวัฒนธรรมเกาหลี ในรูปแบบที่คล้ายๆกับ J-Pop นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยปัจจุบัน ทั้ง J-Pop และ K-Pop อาจจะต้องหลีกทางให้กับ กระแสความนิยมวัฒนธรรมไทย ซึ่งอาจเรียกได้ว่ากระแส T-Pop (Thai pop culture) ที่กำลังมาแรงอย่างยิ่งในตลาดบันเทิงขนาดใหญ่ระดับโลก อย่างประเทศจีน

หากกล่าวถึงธุรกิจบันเทิงจีนในประเทศไทย ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป เพราะดารา ละคร ภาพยนตร์ นักร้อง ตลอดจนเพลงจีนได้เข้ามาผลิดอกออกผลในตลาดบันเทิงของไทยมาเนิ่นนานหลายทศวรรษ แต่สำหรับ พ.ศ. นี้กลับเกิดปรากฏการณ์ตรงกันข้าม เพราะธุรกิจบันเทิงไทยหลายแขนง โดยเฉพาะละครไทย รวมทั้งดารา-นักร้องหลายคน กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดบันเทิงแดนมังกรที่มีขนาดและเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล ผลโหวตของผู้ชมจากสื่อจีนหลายสำนักระบุว่า ความนิยมละครไทยนั้นถึงกับแซงหน้าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตลาดบังเทิงเอเชียไปเรียบร้อยแล้ว

จากข้อมูลการสำรวจความนิยมละครโทรทัศน์ จากรายการแห่งหนึ่งในประเทศจีนพบว่ามีผู้โหวตให้ละครโทรทัศน์เกาหลีและละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นพอๆกันคือ จำนวน 2,000 กว่าคะแนน แต่ละครโทรทัศน์ไทยกลับมีผลโหวตมากถึง 8,000 กว่าคะแนน และแน่นอนว่าสำหรับประเทศที่มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ตลาดธุรกิจบันเทิงจีนจึงย่อมมีขนาดใหญ่โตมโหฬารตามไปด้วย

รายงานจากเว็บไซต์ โซหู ของประเทศจีน ได้กล่าวถึงละครไทยว่า ละครไทยดำเนินเรื่องอย่างแหลมคมแต่ไม่หยาบกระด้าง เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติกแต่ไม่ลามก มีอารมณ์ขันแต่ไม่ไร้รสนิยม และที่สำคัญมีเนื้อหาสอดคล้องกับรสนิยมชาวจีน ทั้งยังมีดาราที่เป็นลูกครึ่งเยอะกว่า หากเทียบกับละครเกาหลี ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งฮ่องกง ซึ่งที่เคยเป็นที่นิยมมากในยุคก่อนหน้านี้

"ต้าเอส (Da S) - หวางเสี่ยวเฟย (Wang Xiao Fei)" ยัน ไม่ได้อมเงินซองแดง บริจาคเข้าการกุศลแล้ว

Submitted by canjamm on 25 เมษายน, 2011 - 18:08

คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน "ต้าเอส" (Da S) และ "หวางเสี่ยวเฟย" (Wang Xiao Fei) เคยสัญญาว่าจะบริจาคเงินที่ได้รับจากซองแดงในพิธีแต่งงานให้กับการกุศล แต่ยังมีหลายคนสงสัยคลางแคลงใจในเรื่องนี้ และเรียกร้องขอให้ทั้งคู่แสดงหลักฐานว่าได้บริจาคเงินก้อนดังกล่าวไปแล้วจริงๆ

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีกลุ่มชายหญิง 4 คนเดินไปประท้วงที่ด้านหน้าของภัตตาคาร Southbeauty ที่ปักกิ่ง ซึ่งมี จางหลัน นักธุรกิจหญิงคนดังเป็นเจ้าของ เพื่อเรียกร้องให้ หวางเสี่ยวเฟย ลูกชายของเธอ และ ต้าเอส ลูกสะใภ้ แสดงหลักฐานว่าได้บริจาคเงินให้กับผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่นอย่างที่มีการลั่นวาจาเอาไว้

แม้ในตอนแรก หวางเสี่ยวเฟย จะแสดงท่าทีว่าไม่ค่อยสนใจกับกระแสวิจารณ์ดังกล่าว แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจพิสูจน์ความจริงของเรื่องนี้ ด้วยการถ่ายภาพใบเสร็จจากการบริจาคเงินเพื่อช่วยผู้ประสบภัยใน หยุนหนาน และญี่ปุ่น ที่รวมเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านหยวน (ประมาณ 13.7 ล้านบาท) ให้ทุกคนได้เห็น

โดยเขากล่าวว่า แม้ตนเองและภรรยาจะได้รับเงินจากซองแดงของแขกเหรื่อต่างๆ ในพิธีแต่งงานไม่ถึง 3 ล้านหยวน แต่ก็ได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งให้กับการกุศลไปด้วย และส่งมอบเงินให้กับมูลนิธิ Shanghai More Love Foundation ไปตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. แล้ว

นอกจากนั้น หวางเสี่ยวเฟย ยังเขียนในเว็บไซต์ของตัวเองด้วยว่า ระหว่างการบริจาคเงิน กับการแสดงใบเสร็จเพื่อพิสูจน์ความจริง อะไรควรเป็นสิ่งที่สำคัญกว่ากันแน่

Manager Online

สาวๆกรี๊ดยก "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) เป็นชายที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษ หลังบอกรักเมียคนเดียว

Submitted by canjamm on 23 เมษายน, 2011 - 18:38

"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) เพิ่งจะคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมไปครองได้หมาดๆจากเวทีตุ๊กตาทองของฮ่องกง ล่าสุดเจ้าตัวยังได้รับยกย่องจากชาวเน็ตเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในศตวรรษด้วย

นิโคลัส เซียะ หรือ เซียะถิงฟง เพิ่งคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ของฮ่องกงไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยงานนี้ทาง แพทริค เซียะ (Patrick Tse) พ่อของเขาก็ได้รับการยกย่องไปด้วย ว่าเป็นบุคคลที่สามารถเลี้ยงดูลูกชายสุดดื้อให้อยู่หมัดได้ โดยหลังจากที่ได้รับรางวัลนักแสดงหนุ่มคุณพ่อลูกสองได้พาครอบครัวและเพื่อนๆไปเลี้ยงฉลองกันที่ร้านอาหารโดยมีเพื่อนนักแสดงไปร่วมวงทั้ง ฮิลลารี ซุ่ย, เอ็ดมอนด์ เหลียง, วิลเลียม โซ, โจซี โห และ ทิมมี ฮวง

ซึ่งนอกจากหลายๆคนจะเห็นด้วยกับการที่เขาได้รับรางวัลใหญ่ในครั้งนี้แล้ว เซียะถิงฟงยังได้รับยกย่องให้เป็น "ผู้ชายที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษ" เนื่องจากความรักที่เขามีต่อภรรยานั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงลดน้อยลงแม้แต่น้อย แม้จะต้องเจอมรสุมข่าวมากมาย โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเขารักภรรยาของเขามากกว่าลูกเสียอีก

"ผมรักภรรยาของผมมากกว่า ลูคัส (Lucas) จะมีพี่น้องเพิ่มขึ้นอีก แต่ภรรยาของผมจะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นผมจะให้ความรักของผมกับจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) มากกว่า เช่นเดียวกันเมื่อลูกชายของผมโตขึ้น พวกเขาก็จะออกไปใช้ชีวิตของตนเอง แต่คนที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตก็คือภรรยาผมครับ"

และทันทีที่ข้อความของเขาได้รับการเปิดเผย เหล่าชาวเน็ตต่างก็ช่วยกันเผยแพร่ข้อความดังกล่าวจนเป็นที่พูดถึงไปทั่ว พร้อมๆกันนั้นต่างพร้อมใจกันยกย่องให้เขาเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษ โดยสาวๆต่างรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายในแบบที่ผู้หญิงหลายๆคนใฝ่ฝันถึง พร้อมทั้งแสดงความอิจฉาและยินดีที่จางป๋อจือเลือกผู้ชายได้ถูกคน

Manager Online

Sex & Zen ทุบสถิติ Avatar

Submitted by canjamm on 22 เมษายน, 2011 - 18:28

หนังตลกอีโรติกสามมิติ 3-D Sex and Zen สามารถทำลายสถิติรายได้หนังวันแรกของ Avatar ได้สำเร็จ ขณะที่เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ และผู้ชมยังมีความเห็นต่างกัน แต่ประเด็น “เปลือยหน้าอก” ของดาราสาว “เหลยไห่เหยียน” (Vonnie Lui Hoi Yan) กลายเป็นสิ่งที่ผู้ชมบางส่วนที่เข้าไปดูหนังมาแล้วพูดถึงกันมากที่สุด
       
       3-D Sex and Zen: Extreme Ecstasy กวาดรายได้ไป 17 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 65 ล้านบาท) ในการเข้าฉายเปิดตัวสัปดาห์แรกด้วยจำนวน 73 จอฉาย ซึ่งจากตัวเลขของผู้อำนวยการสร้าง สตีเฟ่น เซียว ผลงานแนวเกรด 3 เรื่องนี้สามารถทำเงินเป็น 7 เท่าของหนังสยองขวัญจากฮอลลีวูดอย่าง Scream 4 ที่เปิดตัวชนกันเลยทีเดียว
       
       ในวันแรกที่หนังเปิดฉายเมื่อวันพฤหัสที่ 14 3-D Sex and Zen สามารถทำรายได้ถึง 2.78 ล้านเหรียญฮ่องกง (10.7 ล้านบาท) ที่ถือว่าเป็นการทำลายสถิติที่ Avatar เคยทำได้ไว้เมื่อปี 2009 ที่ 2.63 ล้านเหรียญฯ (10.08 ล้านบาท) ด้วย
       
       ขณะที่ในไต้หวันหนังเปิดตัวเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ด้วย 77 จอฉาย และทำรายได้ไป 17 ล้านเหรียญไต้หวัน (17.5 ล้านบาท) แม้จะน้อยกว่าหนังฮอลลีวูดที่เปิดฉายในวันเดียวกัน แต่ก็กลายเป็นหนังภาษาจีนที่เปิดตัวสูงสุดในปีนี้ไปแล้ว
       
       สองพ่อลูกผู้อำนวยการสร้าง สตีเฟ่น เซียว และ สตีเฟ่น เซียว จูเนียร์ แสดงความพอใจกับผลที่ได้รับ ซึ่งคนพ่อเคยสร้างหนัง Sex and Zen ภาคแรกให้กลายเป็นตำนานของหนังเกรด 3 เมื่อ 20 ปีก่อนมาแล้ว และเขายืนยันว่าคนดูยังคงรอคอยดูงานประเภทนี้อยู่เสมอ “เราสามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้ชมได้ ทุกคนคิดกันอยู่แล้วว่าเทคโนโลยี 3-D เนี่ยมันเหมาะกับหนังทำนองนี้ คนจึงให้ความสนใจหนังกันมาก”

“วิค (Vic Zhou) - F4” ยันซูบผอมเพราะงาน ไม่เกี่ยวโรคซึมเศร้า

Submitted by canjamm on 20 เมษายน, 2011 - 19:51

นักร้องนักแสดงหนุ่มชาวไต้หวัน “โจวอี๋หมิน” (Vic Zhou) หรือ วิค แห่งวง F4 ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนเป็นผลให้ร่างกายซูบผอม แต่กล่าวว่าเป็นเพราะการทำงานหนักต่างหาก ที่ทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในการร่วมงานอีเวนต์แห่งหนึ่งที่ปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน โจวอี๋หมิน หรือ ไจ๋ไจ๋ แห่ง F4 ได้ตอบคำถามถึงข่าวลือที่ว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนทำให้ร่างกายซูบผอม แทบจะดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

ซึ่งหนุ่มวัย 29 ปี ได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว และยืนยันว่าเป็นเพราะการทำงานอย่างหนักกับซีรีส์เรื่อง Returning Home ต่างหากที่ทำให้เขาน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วแบบนี้

“ผมต้องรับบทในซีรีส์เกี่ยวกับสงครามครับ เป็นงานที่หนักมาก น้ำหนักตัวเลยลด หลังจากนั้นได้บำรุงด้วยยาสมุนไพรจีน ถึงจะดีขึ้นมาบ้าง” วิค แห่งวง F4 กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวหนังเรื่อง Living with Fashion

อดีตสมาชิกวง F4 บอกอีกว่าตอนนี้น้ำหนักตัวของเขาก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว และยังเปรยว่าข่าวลือต่างๆเกี่ยวกับตัวเขานั้น ไม่มีพื้นฐานจากความจริงเลย “ตอนนี้ผมก็ดีขึ้นมาแล้วครับ … มีข่าวลือเกี่ยวกับผมมากมาย มีกระทั่งที่บอกว่าผมเป็นเกย์ด้วย คุณเชื่อไหมล่ะครับ”

ในช่วงการถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Returning Home ที่จีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปีก่อน มีรายงานว่า วิค มีปัญหาสุขภาพอย่างหนัก ทั้งการไม่อยากอาหาร และรับประทานข้าวได้มื้อละคำสองคำเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีโรคเกี่ยวกับท้อง และนอนไม่หลับ จนปรากฏชัดเจนจากทั้งแก้มที่ตอบ และน้ำหนักตัวที่เหลือเพียงแค่ 58 กก. เท่านั้น

จนกลายเป็นสาเหตุให้มีข่าวลือเรื่องโรคซึมเศร้าอีกครั้ง หลังจากเมื่อปี 2005 เคยมีข่าวว่านักร้องหนุ่มชื่อดังต้องขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ หลังต้องทนทุกข์กับโรคซึมเศร้ามาแล้ว

ซึ่งนอกจากคำปฏิเสธของเจ้าตัวแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวของ วิค ก็ได้ให้ข่าวปฏิเสธในเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน “ตามปกติเขาจะไปพบแพทย์ทุกๆ 3 เดือนอยู่แล้ว หมอได้ให้ยาบางอย่างเพื่อช่วยในการนอนหลับ แต่ไม่ใช่ยาประเภทระงับประสาทอย่างแน่นอน”

Manager Online

จีนสั่งห้ามทำหนังเดินทางย้อนเวลา : ชี้ลบหลู่ประวัติศาสตร์

Submitted by canjamm on 19 เมษายน, 2011 - 18:46

มีรายงานเรื่องคำสั่งของหน่วยงานจากรัฐบาลจีน ไปถึงผู้ผลิตซีรีส์ ให้งดเนื้อหาเกี่ยวกับ "การเดินทางข้ามเวลา" ของตัวละครไปยังยุคอดีต ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นเนื้อหาที่มีส่วนลบหลู่ และบิดเบือนประวัติศาสตร์
       
       กลายเป็นกระแสที่น่าจับตามองสำหรับวงการบันเทิงจีน กับความนิยมในหนังและหนังชุดทางโทรทัศน์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ “การเจาะเวลาหาอดีต” ที่มักจะเล่าเรื่องราวของตัวเอก ซึ่งเป็นบุคคลในยุคปัจจุบัน ที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาไปสู่อดีตด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจากเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หรือแฟนตาซี ตามแต่จินตนาการของผู้สร้าง
       
       เนื้อหาของเรื่องราวลักษณะนี้จะเกี่ยวข้องกับ การได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆจากโลกยุคโบราณ ขณะเดียวกันตัวละครก็ได้ใช้ความรู้จากโลกปัจจุบันแก้ไขสถานการณ์บางอย่าง นอกจากนั้นยังจะมีเรื่องราวโรแมนติก กับความรักของตัวละครในยุคปัจจุบัน กับบุคคลในประวัติศาสตร์ และเนื้อเรื่องว่าด้วยการหาวิธีกลับสู่ยุคสมัยของตนเองด้วย
       
       แม้จะไม่ใช่ของใหม่สำหรับโลกตะวันตก แต่ก็ถือว่าใหม่สำหรับชาวจีน และดูเหมือนจะเป็นที่ชื่นชอบของพวกเขาด้วย
       
       ตามรายงานข่าวจากจีนแผ่นดินใหญ่ ความนิยมในเนื้อหาลักษณะนี้ เริ่มทำให้หน่วยงานของรัฐบาลอย่าง สำนักงานวิทยุ, ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ หรือ SARFT อดกังวลไม่ได้ จนถึงขั้นล่าสุดมีการออกคำสั่งให้ผู้สร้างพิจารณายกเลิกแผนการสร้าง หนังชุดที่มีเนื้อหาว่าด้วยการเดินทางข้ามเวลาทั้งหมด
       

ตำรวจปักกิ่งจับ "ม่อเส้าชง" (Max Mok) คดีเสพยา เจ้าตัวยันถูกใส่ความ

Submitted by canjamm on 19 เมษายน, 2011 - 18:38

มีรายงานว่านักแสดงชาวฮ่องกง “ม่อเส้าชง” (Max Mok Siu Chung) ถูกจับกุมในคดีใช้ยาเสพติดที่ปักกิ่งเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเพื่อนสนิทอย่าง “ฉีเส้าเฉียน” ได้อ้างคำพูดของเขาถึงเรื่องนี้แต่เพียงสั้นๆว่าเขาถูกใส่ความ

มีข่าวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงเรื่องที่นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง ม่อเส้าชง วัย 50 ปี ถูกจับกุมในคดียาเสพติด จากตำรวจปักกิ่งในเขตจ้าวหยาง หลังจากมีผู้แจ้งความถึงการกระทำผิดครั้งนี้ต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งแม้จะไม่มีการพบของกลาง แต่ผลการตรวจปัสสาวะชี้ว่าเขามีสารเสพติดในร่างกาย

สำนักข่าวซินหัวเป็นผู้ยืนยันถึงข่าวครั้งนี้ ซึ่งนอกจากพระเอกชาวฮ่องกงแล้วยังมีนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซุนซิ่ง (Sun Xing / Suen Hing) ที่ถูกจับกุมด้วย ซึ่งแหล่งข่าวในส่วนของเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าทั้งสองใช้ยาเสพติดประเภทใด แต่ซินหัวให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นกัญชา

โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่าถ้าถูกตัดสินให้มีความผิดจริง พระเอกรุ่นใหญ่ก็อาจรับโทษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะนี่เป็นการกระทำความผิดครั้งแรก โดย ม่อเส้าชง อาจจะต้องโทษกักขังเป็นเวลา 10 วัน และปรับเงินประมาณ 5,000 หยวน

ตามปกติความผิดเรื่องยาเสพติดถือเป็นโทษร้ายแรงสำหรับกฎหมายจีน แต่ในกรณีที่เป็นความผิดครั้งแรก และเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในจำนวนที่ไม่มากนัก เจ้าหน้าที่อาจจะแค่ปรับเงิน และตักเตือนเท่านั้น

หลังจากเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวขึ้นมา หงซิน (Catherine Hung) อดีตแฟนสาวของม่อเส้าชง ที่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน เป็นคนแรกที่นักข่าวต้องการความเห็น ซึ่งเธอกล่าวถึงข่าวว่า ไม่เชื่อว่าอดีตชายคนรักจะทำเรื่องแบบนั้น “ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงค่ะ และจะไม่บอกลูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย”

ขณะที่เพื่อนนักแสดงอย่าง เจิ้งจื่อเหว่ย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเขายังไม่ทราบรายละเอียดและ “จะไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ” ฝ่ายเพื่อนอีกคนก็กล่าวว่ารู้สึกตกใจกับเรื่องครั้งนี้ และกล่าวว่าตามปกติ ม่อเส้าชง ก็ดูจะเป็นคนที่ห่วงใยในสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ และยังวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้าของทุกๆวันด้วย

"หลินซีเหลย" (Kelly Lin) ท้องแล้ว 3 เดือน หลังเพิ่งเข้าพิธีแต่งงาน

Submitted by canjamm on 19 เมษายน, 2011 - 18:26

เพิ่งจะเข้าพิธีวิวาห์อย่างแสนเรียบง่ายสุดโรแมนติคกันที่มัลดีฟส์เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้มีข่าลือออกมาว่า"หลินซีเหลย" (Kelly Lin) นักแสดงสาวชาวไต้หวันอดีตแฟนสาวของ"เคน F4" (Ken Chu) ได้ตั้งครรภ์แล้ว 3 เดือน

โดยความสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของหลินซีเหลย เกิดขึ้นนับตั้งแต่มีการประกาศแต่งงานอย่างสายฟ้าแล่บระหว่างเธอกับคริส ยัง แฟนหนุ่มนักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายจีน โดยมีกระแสข่าวว่าเธอเก็บเรื่องตั้งครรภ์เป็นความลับ ไม่ได้เปิดเผยให้แม่ของเธอทราบเรื่องก่อนที่เธอจะแต่งงานแต่อย่างใด

แม้ว่างานแต่งงานของทั้งคู่ที่จัดขึ้นที่มัลดีฟส์จะเน้นความเรียบง่ายสบายๆแล้ว แต่ในส่วนของบ้านที่พักอาศัยนั้นทั้งคู่ได้ทุ่มเงินกว่า 52,653,500 บาทในการต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวเลยทีเดียว

Manager Online

"หลิวเจียหลิง" (Carina Lau), "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) คว้ารางวัลใหญ่ ตุ๊กตาทองฮ่องกงครั้งที่ 30

Submitted by canjamm on 19 เมษายน, 2011 - 00:10

หนังแอ็กชั่นตลกฟอร์มเล็ก Gallants หักปากกาเซียนคว่ำหนังฟอร์มใหญ่ คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในการประกาศรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงไปอย่างเหลือเชื่อ ... เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของผู้อำนวยการสร้างที่ชื่อว่า "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) อีกครั้ง ขณะที่ "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) และ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำไปครอง

3D Sex and Zen เข้าฉายแล้ว!! สิงคโปร์อดดู 18 นาทีเด็ด, ผู้สร้างเซ็งโดนเกาหลีตัดหน้า

Submitted by canjamm on 18 เมษายน, 2011 - 23:46

ภาพยนตร์สามมิติสุดเซ็กซี่จากฮ่องกง 3D Sex And Zen: Extreme Ecstasy เข้าฉายแล้วที่ฮ่องกง และไต้หวันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้หนังจะเป็นผลงานจากผู้สร้างอิสระแต่ก็เรียกความสนใจได้จากแฟนหนังมากมาย ไม่แตกต่างจากผลงานจากค่ายใหญ่เลย

Newport Entertainment ได้เปิดตัว 3D Sex And Zen: Extreme Ecstasy หนังโป๊สามมิติสุดดังใน 246 โรงฉาย มีเพียง The Grand Cinema โรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาลูนเท่านั้น ที่ไม่ได้ฉายหนังเรื่องนี้ ซึ่งหนังก็ยังได้รับความสนใจจากประชาชนมากมาย โดยเฉพาะ 2 แถวหน้าที่ถูกจองจนเต็ม แตกต่างจากหนังทั่วๆไป ที่แถวหน้าดูจะไม่ค่อยมีใครต้องการนัก

นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนตร์บางแห่งที่เปิดรอบพิเศษสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะขึ้นมา เพื่อสาวๆผู้สนใจในหนัง 3D Sex And Zen: Extreme Ecstasy จะได้ชมภาพยนตร์กันอย่างสบายใจ

“ฉันอยากรู้เหมือนกันค่ะว่าหนังโป๊สามมิติจะเป็นอย่างไรในจอใหญ่แบบนั้น” เหยียนซื่อ นักศึกษาสาววัย 21 ปี กล่าว “พวกเราสงสัยกันมาก นี่จะเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ดูหนังเรตเอ็กซ์ในโรงภาพยนตร์ มันน่าสนใจมากๆ”

โดยหนังอีโรติกสามมิติเรื่องนี้ สามารถขายลิขสิทธิ์ให้กับผู้จัดจำหน่ายใน สิงคโปร์, อินเดีย, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อิตาลี, ฝรั่งเศส, เปรู และรัสเซียแล้ว

ขณะที่เมืองจีน ผู้สร้างได้ทำใจเอาไว้ล่วงหน้า ว่าหนังคงจะไม่ได้เข้าฉาย เพราะไม่สามารถฝ่าด่านเซนเซอร์อันเข้มงวดของที่นั่นได้ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีรายงานว่า เริ่มมีกรุ๊ปทัวร์จากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่วางแผนเดินทางไปฮ่องกง หรือไต้หวัน เพื่อชมภาพยนตร์เรื่อง 3D Sex And Zen: Extreme Ecstasy โดยเฉพาะแล้ว

สำหรับฉบับที่เข้าฉายในฮ่องกงไปในวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าจะมีความยาวประมาณ 118 นาที ขณะที่ฉบับเต็มจะมีความยาว 129 นาที แต่ผู้สร้างยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำฉบับเต็มออกฉายในฮ่องกงหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเสียงเรียกร้อง และกองเซนเซอร์ ซึ่งสุดท้ายหากไม่ได้ฉายโรง ก็อาจจะวางจำหน่ายในรูปแบบแผ่นดีวีดีต่อไป

จูบแบบเพื่อนสไตล์ “เฉินหลง” (Jackie Chan)

Submitted by canjamm on 12 เมษายน, 2011 - 18:04

ในงานเปิดร้านอาหารแห่งหนึ่ง “เฉินหลง” (Jackie Chan) สร้างความฮือฮาด้วยการแสดงการจูบ เพื่อล้อเลียนข่าวฉาวเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับ นักแสดง/ผู้กำกับสาวคนดัง "สวีจิงเล่ย" (Xu Jing Lei) เป็นการจิกกัดตัวเอง ที่เรียกเสียงฮาจากผู้ร่วมงานไปทั่ว

ในช่วงของการตัดเค้กฉลองวันเกิด ระหว่างงานเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 57 เฉินหลง ได้พูดถึงวันที่อายุของเขาเพิ่มขึ้นอีกปีว่า "ผมเกลียดช่วงเวลานี้มากครับ ทุกคนจะรู้อายุของผม และต้องแก่ตัวไปอีกปี"

หลังจากนั้น เขาก็สร้างเซอร์ไพร์ซด้วยการบรรจงจูบไปที่แก้มของนักแสดงสาว หลินเผิง ที่เซ็นสัญญากับบริษัทของเขาเอง เฉินหลงยังใช้มือทั้งสองจับไปที่ใบหน้าของเธอในตอนจุมพิต และพูดขึ้นด้วยว่า "ผมจะจูบเธอในแบบที่จูบ สวีจิงเล่ย นะครับ" ที่กลายเป็นการเรียกเสียงปรบมือ และเสียงหัวเราะจากผู้ร่วมงานวันนั้นได้ไม่น้อยเลย

มุขตลกดังกล่าว ก็คือการล้อเลียนข่าวฉาวของเขา กับนักแสดง/ผู้กำกับหญิงคนเก่ง สวีจิงเล่ย ซึ่งถูกพูดถึงเมื่อเดือนก่อนนั่นเอง

โดยเรื่องทั้งหมด มีที่มาจากภาพถ่ายของปาปารัสซี่ ที่บันทึกภาพการแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมของ เฉินหลงกับสวีจิงเล่ย ระหว่างพระเอกคนดังเดินไปส่งเพื่อนหญิงรายนี้ที่รถและจูบลาเธออย่างสนิทสนม ภายหลังเสร็จจากงานเปิดไนต์คลับแห่งหนึ่ง

ซึ่งหลังจากเรื่องครั้งนั้นเป็นข่าวขึ้นมา ฝ่ายหญิงได้ออกมาอธิบายว่าเธอกับเฉินหลง เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ซึ่งการจุมพิตที่เกิดขึ้น ก็คือการบอกลาแบบเพื่อนนั่นเอง

ผลงานใหม่ของสองซุปเปอร์สตาร์

สำหรับเรื่องผลงาน เฉินหลง วัย 57 ปี กำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่คือ Chinese Zodiac หนังแอ็กชั่นผจญภัยฟอร์มยักษ์ ที่ถือว่าเป็นภาคต่อของหนังดัง “Armour Of God (ใหญ่สั่งมาเกิด)” ในอดีต และงานนี้จะได้ดาราชื่อดังชาวเกาหลีใต้ ควอนซังวู (Kwon Sang Woo) มาร่วมงานด้วย

“เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) กลุ้ม ลูกชายจ้ำม่ำเกิน

Submitted by canjamm on 11 เมษายน, 2011 - 18:34

เด็กๆที่มีรูปร่างจ้ำม่ำอาจจะเป็นที่รักที่ใคร่ของใครต่อใคร แต่คงไม่ใช่สำหรับยอดคุณพ่ออย่าง “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) ที่คิดว่าลูกชายคนที่สอง “ควินตัส” (Quintus Tse) เริ่มจะอ้วนเกินไป และสมควรลดน้ำหนักได้แล้ว

เซียะถิงฟง ออกมาแสดงความกังวลผ่านสื่อถึง ควินตัส ลูกชายคนรองที่ขณะนี้มีน้ำหนักถึง 14 กก. แล้ว จนหมอได้แจ้งให้เขาทราบว่า ลูกกำลังอยู่ในภาวะน้ำหนักตัวเกิน

“ผมกำลังจะให้ ควินตัส ควบคุมอาหารเป็นพิเศษครับ” เซียะถิงฟง กล่าว “ลูกยังอายุไม่ถึงขวบดีเลย ก็มีน้ำหนักถึง 14 กก. แล้ว คุณหมออยากให้เราลดอาหารของลูกลงบ้าง”

ซึ่งยอดคุณพ่อแห่งวงการบันเทิงยังแสดงความกังวลในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อหนูน้อยควินตัสมักจะออกอาการร้องตะโกนเสียงดัง หากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ “ลูกชายของผมกินเก่งกันทั้งคู่ครับ แต่ลูคัส (Lucas Tse - ลูกชายคนโต) ไม่ค่อยอ้วนง่ายเหมือนน้องชาย อาจจะเพราะว่าเขาซนกว่าก็ได้”

และดูเหมือนว่าเรื่องน้ำหนักตัวจะเป็นปัญหาของครอบครัว “เซียะ” ไปแล้ว เพราะในขณะเดียวกันคุณแม่อย่าง จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ก็ดูจะมีปัญหาในเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีข่าวว่านางเอกสาวคนแม่ลูกสอง เริ่มสนุกปากกับการรับประทานอาหาร จนขณะนี้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาถึง 9 กก. แล้ว

Manager Online

"เฉินหลง" (Jackie Chan) เตรียมยกมรดกให้การกุศล ย้ำลูกชายต้องหาเงินเอง

Submitted by canjamm on 8 เมษายน, 2011 - 19:03

ระหว่างร่วมงานการกุศลแห่งหนึ่งที่ปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ดาราแอ็กชั่นชื่อดังชาวฮ่องกง "เฉินหลง" (Jackie Chan) เปิดเผยว่าเขามีแผนการจะยกมรดกทั้งหมดให้กับการกุศลเมื่อตนเองจากโลกไปแล้ว โดยที่อาจจะไม่เหลือเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว ให้กับ "เจซี ชาน" (Jaycee Chan) ลูกชายของเขาเลยก็ได้

เฉินหลง ที่ครั้งหนึ่งได้เคยแสดงเจตจำนงว่าจะมอบทรัพย์สินส่วนตัวครึ่งหนึ่ง ให้กับมูลนิธิการกุศลหากตนเองได้จากโลกนี้ไปแล้ว ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขากำลังจะตัดสินใจมอบมรดกของตัวเองทั้งหมดให้กับการกุศลไปเลย และลูกชายก็ต้องก่อร่างสร้างตัวด้วยลำแข้งของตัวเอง

"ถ้าเขา (เจซี ชาน ลูกชายของเฉินหลง) มีความสามารถเพียงพอ ก็จะหาเงินของตัวเองได้" เฉินหลงกล่าว "แต่ถ้าไร้ความสามารถ ก็จะมีแต่ผลาญเงินของผมจนหมดเท่านั้น"

ซึ่งแม้ เจซี ชาน ได้กลายเป็นนักแสดงผู้ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงตามรอยพ่อไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่า เฉินหลง ยังไม่ค่อยจะพอใจในตัวลูกชายคนนี้ซักเท่าไหร่นัก … "ผมรู้สึกเสียดายเหมือนกัน ที่ในอดีตไม่ได้ส่งเขาเข้าโรงเรียนทหาร เพื่อจะได้มีประสบการณ์ และความเข้มแข็งมากกว่านี้" นักแสดงวัย 56 ปีกล่าว

เฉินหลง ยังพูดถึงข่าวลือเรื่องการเสียชีวิตของเขา ที่แพร่กระจายไปในโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยว่า "ผมยังไม่ตายครับ แต่งานยุ่งมาก อาจจะทำงานหนักจนตายไปเลยก็ได้" นักแสดงบู๊ขวัญใจชาวฮ่องกงกล่าว "หวังว่าสื่อจะรายงานข่าวเกี่ยวกับการทำงานการกุศล เพื่อสาธารณะประโยชน์ มากกว่าจะเป็นข่าวกอสซิปต่างๆแบบนี้ มันมีคุณค่าแตกต่างกันมาก"

"แม้แต่ วิล สมิท ยังโดนหลอกด้วยข่าวลือพวกนี้ และเขาถึงกับแสดงความเสียใจกับการตายของผมผ่านอินเตอร์เน็ตเลยนะ" เฉินหลง เล่า

ขณะที่ฝ่าย เจซี ชาน ที่อยู่ร่วมในงานวันนั้นด้วย ก็บอกว่าข่าวลือที่เกิดขึ้น ถึงกับทำให้เขาต้องรีบโทรศัพท์ไปเช็คว่าพ่อไม่ได้เป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ … "พ่อถึงกับเอ็ดผมเอาเลยครับว่า 'อยากให้พ่อตายจริงๆเหรอ' ตอนนั้นแหละผมถึงรู้ว่าข่าวนี่มันมั่วแน่ๆ"

Manager Online

ภาพฉาวรอบใหม่ !! "พานช่วงช่วง" (Mavis Pan) สุดหวิว เปิดหน้าเปลือยหลังฉายเดี่ยว "หลินฟง" ไม่เกี่ยว

Submitted by canjamm on 6 เมษายน, 2011 - 16:29

หลังภาพถ่ายแสดงความใกล้ชิดสนิทสนม ระหว่างนางแบบชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "พานช่วงช่วง" (Mavis Pan) กับนักแสดงหนุ่มคนดังแห่งทีวีบี "หลินฟง" (Raymond Lam) ถูกเผยแพร่ออกมา ชื่อของฝ่ายหญิงก็กลายเป็นคนดังแห่งแวดบันเทิงจีนไปโดยปริยาย ล่าสุดมีภาพชุดใหม่ของเธอหลุดออกมาในอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง เป็นภาพถ่ายสุดเซ็กซี่ ที่ถ่ายเอาไว้ ก่อนที่เธอจะโด่งดังมีชื่อเสียง

ชื่อของ พานช่วงช่วง ถือว่าโด่งดังมาแรงแบบสุดๆ จากประเด็นภาพหลุดภาพฉาว ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ชุดแล้ว !!! ตั้งแต่รอบแรกที่เป็นภาพของเธอนอนอยู่บนเตียงกับ หลินฟง นักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวฮ่องกง จนฝ่ายชายต้องออกมายอมรับว่าเคยคบหากับสาวคนนี้อยู่ในช่วงหนึ่ง และต่อมาก็มีภาพหลุดชุดที่สอง เป็นภาพขณะที่ทั้งคู่กำลังจุมพิตกันอย่างหวานชื่น และในที่สุดภาพหลุดชุดที่ 3 ก็ปรากฏ คราวนี้ หลินฟง คงจะสบายใจได้เพราะไม่มีเขาอยู่ในภาพด้วยแต่อย่างใด

โดยคราวนี้เป็นผลงานถ่ายแบบในสมัยที่ พานช่วงช่วง เพิ่งเข้าวงการบันเทิงมาใหม่ๆ เป็นภาพชุดชั้นใน ที่เรียกว่าเปิดเผยสุดๆ ทั้งเปลือยหน้าอก, บั้นท้าย และยังเผยให้เห็นจุดสงวนในบางภาพด้วย

ซึ่งก่อนหน้าจะมีชื่อเสียง พานช่วงช่วง เคยเป็นนางแบบเซ็กซี่ถ่ายภาพวาบหวิวมาแล้วไม่น้อย และถูกรู้จักในฐานะนางแบบที่มีใบหน้าละม้ายกับ ฉีจื่อซาน (เคท ฉี) อดีตมิสฮ่องกง ก่อนที่เธอจะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมความงาม จนไปดูคล้ายกับ แอนเจล่าเบบี้ ผสม ซูฉี เหมือนทุกวันนี้แทน ซึ่งในภาพสุดหวิวที่ถูกเผยแพร่ล่าสุดนี้หลายคนยังตั้งข้อสังเกตว่า สาวพ่านช่วงช่วงดูจะมีดวงตา และขนาดหน้าอกที่เล็กกว่าในปัจจุบันนิดหน่อย

นอกจากนั้นนี่อาจจะไม่ใช่ภาพหลุดชุดสุดท้ายของ พานช่วงช่วง เพราะมีข่าวลือว่ายังมีภาพชุดสวีตหวานระหว่างเธอกับหลินฟง เมื่อครั้งไปพักร้อนที่บาหลีซึ่งยังไม่เคยถูกเผยแพร่ โดยข่าวระบุว่าตัวของหลินฟงเองก็ทราบถึงภาพชุดนี้ ที่เป็นเหมือนระเบิดเวลาสำหรับตัวของเขา ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

วงการหนังเกรด 3 อ้าแขนรับ "พานช่วงช่วง"

"หลันเหยียน" (Lan Yan) หายตัวลึกลับ, คนใกล้ชิดเผยเครียดจัดหลังเล่น Sex and Zen

Submitted by canjamm on 4 เมษายน, 2011 - 19:21

ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง 3D Sex & Zen: Extreme Ecstasy ได้ออกมาให้ข่าวว่า "หลันเหยียน" (Lan Yan / 蓝燕) นักแสดงสาวผู้รับบทนำในหนังเรื่องนี้คนหนึ่ง ได้หายตัวไปจากบ้านเป็นเวลาถึง 2 สัปดาห์แล้ว หลังจากเธอเอ่ยปากว่าอยากจะไปใช้เวลาเดินทางเที่ยวพักผ่อนตั้งแต่กลางเดือนก่อน และยังไม่สามารถติดต่อได้จนถึงตอนนี้

จากการรายงานข่าวของสื่อจีน ดาราสาว หลันเหยียน หรือ เลนี่ หลัน วัย 25 ปี ที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์เกรด 3 สามมิติ 3D Sex & Zen: Extreme Ecstasy ได้หายตัวไปเป็นเวลาถึง 2 สัปดาห์ จนขณะนี้ญาติได้แจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาแล้ว

โดยข่าวระบุว่า หลันเหยียน หายตัวไปหลังจากเธอต้องรับแรงกดดันอย่างหนัก กับการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง 3D Sex & Zen: Extreme Ecstasy หนังเกรด 3 (หนังที่อนุญาตสำหรับผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น ใกล้เคียงกับ NC-17 ในระบบจัดเรตติ้งของฮอลลีวูด) ที่จะเข้าฉายในระบบสามมิติ เป็นงานที่ถูกจับตามองจากทุกฝ่าย

ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวได้ให้ข่าวว่าก่อนจะหายตัวไป หลันเหยียน ได้บอกกล่าวไว้ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ว่าต้องการใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อน และหรือญาติสนิทก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้อีกเลย

"เธออาจจะเป็นนักแสดงหญิงที่เล่นฉากนู้ด แต่ก็เป็นคนที่แคร์กับสายตาของคนอื่นที่มองเธอมาก" ผู้จัดการส่วนตัวกล่าว

ขณะเดียวกันยังมีข่าวว่า มารดาของดาราสาวถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ และต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลเลยทีเดียว หลังจากไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ซึ่งหนัง 3D Sex & Zen จะมีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 8 เม.ย. นี้แล้ว และ หลันเหยียน ก็มีกำหนดต้องมาร่วมงานดังกล่าวด้วย

นับแต่ประกาศการสร้างตั้งแต่ต้นปี 2009 ผู้สร้างหนัง 3D Sex & Zen: Extreme Ecstasy พยายามใช่ยุทธวิธีต่างๆนานา ในการสร้างข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามสำนักข่าวในจีนยังแสดงความคาดหวังว่า ข่าวการหายตัวไปของนักแสดงสาววัย 25 ปี จะเป็นเพียงการสร้างข่าวอีกครั้ง เพื่อจะไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเธอไปจริงๆ

Manager Online

"เยี่ยซวน" (Michelle Yip) ขโมยซีน เป็นลมกลางงานเปิดตัวหนังฉลองพรรคคอมมิวนิสต์

Submitted by canjamm on 4 เมษายน, 2011 - 19:14

ในงานแถลงข่าวเกี่ยวกับตัวหนัง The Founding of a Party ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางดาราชื่อดังมากมาย นักแสดงสาวชาวฮ่องกง "เยี่ยซวน" (Michelle Yip) กลายเป็นดาวเด่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากเหตุที่เธอเป็นลมล้มพับ จนต้องถูกหามลงจากเวทีไป

ที่งานอีเวนต์โปรโมตภาพยนตร์ฉลอง 90 ปี พรรคคอมมิวนิสต์ The Founding of a Party ซึ่งจัดกันขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ชื่อของ เยี่ยซวน กลายเป็นข่าวใหญ่แซงหน้าดาราคนอื่นๆไปหมด เมื่อเธอเกิดเป็นลมระหว่างการร่วมงานในวันนั้น จนล้มลงไปนอนกองกับพื้น แม้จะพยายามลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว จนเพื่อนนักแสดงอย่าง หลิวเย่ (Liu Ye) ต้องช่วยประคองเธอเข้าไปพักที่ด้านหลังเวที

หลังจากได้ดื่มชาร้อน และช็อคโกแลต เยี่ยซวนจึงเริ่มมีอาการดีขึ้น และสามารถให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวได้ ซึ่งเธอกล่าวอย่างสั้นๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ"

ต่อมาผู้จัดการส่วนตัวของ เยี่ยซวน จึงได้อธิบายว่าเป็นเพราะการรับงานมากเกินไปนั่นเอง ซึ่งกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเป็นลมในงานใหญ่แบบนี้ "เธอรับงานเยอะมากก่อนที่จะถึงวันนั้น โหมทำงานหนักมากเกินไป แต่ตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว เธอยุ่งมาก ทำงานเกินขีดจำกัด ปริมาณน้ำตาลในเลือดก็ต่ำมากๆ"

โดยผู้จัดการส่วนตัวได้เผยว่า เยี่ยซวน รับงานหนังไปถึง 10 เรื่องในช่วงปีก่อน จนกลายเป็นที่มาของปัญหาสุขภาพ นอกจากนั้นในวันที่จัดงานแถลงข่าว เธอยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาด้วย

The Founding of a Party หนังฟอร์มใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 90 ปีแห่งการตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นงานที่รวบรวมดาราทั่วฟ้าเมืองจีนเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ โดยมี หลิวเย่ รับบทเด่นเป็น เหมาเจ๋อตง, เฉินคุน เป็น โจวเอินไหล และ โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) เป็น หยวนซื่อไข ร่วมด้วยนักแสดงอื่น ๆ อีกมากมาย

Manager Online

“หลิวอี้เฟย” (Liu Yi Fei) คืนจอเงิน รับบทปีศาจสาวใน “โปเยโปโลเย”

Submitted by canjamm on 2 เมษายน, 2011 - 19:07

หายหน้าหายตาไปเสียนานจนหนุ่มๆ บ่นคิดถึงกันเป็นแถว มาคราวนี้สาวหน้าใส “หลิวอี้เฟย” (Liu Yi Fei) กลับมาพร้อมกับผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุด “A Chinese Ghost Story” 《倩女幽魂》 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โปเยโปโลเย” ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อ “เนี่ยเสี่ยวเชี่ยน” ในนิยายอมตะของจีนชุด “เหลียวจายจื้ออี้” 《聊斋志异》ของผู่สงหลิง โดยเธอรับบทเป็น “เนี่ยเสี่ยวเชี่ยน” ปีศาจสาวที่มาพบรักกับบัณฑิตหนุ่ม

ที่ผ่านมาตำนานรักข้ามภพเรื่องนี้ได้เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครหลายต่อหลายครั้ง โดยชอว์บราเดอร์สได้เคยหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 1959 กำกับการแสดงโดยหลี่ฮั่นเสียงผกก.ชื่อดังของฮ่องกง แต่เวอร์ชั่นที่ดังเปรี้ยงปร้างและตราตรึงใจผู้ชมที่สุดคงหนีไม่พ้น โปเยโปโลเย ตอน เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า ปี 1987 ของผู้กำกับฉีเคอะ ที่หวังจู่เสียน-เลสลี่ จางนำแสดง

แต่ในเวอร์ชั่นของผู้กำกับวิลสัน ยิป (ผู้กำกับยิปมันภาค 1 และ 2) นี้ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วน เช่นการให้เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนกลายเป็นปีศาจ แทนที่จะเป็นผีสาวอย่างเวอร์ชั่นก่อนๆ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมิติให้แก่ตัวละครมากขึ้น มีการสร้างปมความรักสามเส้าระหว่างเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน บัณฑิตหนิงไฉ่เฉิน (หยูเส้าฉวิน แสดง) และอาจารย์ปราบปีศาจ เยี่ยนเช่อเสีย (กู่เทียนเล่อ แสดง) ให้ผู้ชมได้ลุ้นจนตัวโก่ง แถมด้วยฉากเลิฟซีนที่หลิวอี้เฟยลงทุนประกบปากกับสองนักแสดงชายของเรื่องด้วย

หลิวอี้เฟย หายไปไหนมา?

หลายคนอาจสงสัยว่า หลังจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง “มังกรหยก (เอี้ยก้วย-เซียวเล่งนึ้ง)” และหนังเรื่อง “หนึ่งฟัดหนึ่ง ใหญ่ต่อใหญ่” (The Forbidden Kingdom) ที่เธอร่วมงานกับเจ็ท ลี (Jet Li) และเฉินหลง (Jackie Chan) แล้ว ทำไมถึงไม่ค่อยได้เห็นผลงานใหม่ๆ ของสาวน้อยคนนี้เลย

ต้องเท้าความไปเมื่อปี 2007 หลิวอี้เฟยได้เจริญรอยตามดารารุ่นพี่อย่างจางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) เซ็นสัญญาเข้าสังกัด William Morris ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ของฮอลลิวูด หลังจากนั้นทางบริษัทก็ได้วางตัวให้เธอแสดงบทนำในภาพยนตร์เรื่อง “หนึ่งฟัดหนึ่งฯ” ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่วงการฮอลลิวูดให้กับเธอ

เผยบทสนทนาสุดท้ายของ “เลสลี่ จาง” (Leslie Cheung) ก่อนปลิดชีพตัวเองเมื่อ 8 ปีก่อน

Submitted by canjamm on 1 เมษายน, 2011 - 18:33

วันที่ 1 เม.ย. นอกจากจะเป็นวันโกหกโลก “เอพริลฟูลส์ เดย์ส” (April Fool's Day) แล้ว สำหรับชาวฮ่องกงยังเป็นวาระการรำลึกถึงการสูญเสียซุปเปอร์สตาร์ที่คนฮ่องกงรักมากที่สุดอย่าง “เลสลี่ จาง” (Leslie Cheung) ด้วย และในปีนี้ ซึ่งเป็นวาระการเสียชีวิตปีที่ 8 ของเขา ได้มีการเปิดเผยถึงคำพูดและเรื่องราวในวาระสุดท้ายของ “เลสลี่ จาง” จากปากคำของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง

หมิงเป้ารายสัปดาห์ ได้เปิดเผยถึงบทสัมภาษณ์ของ อัลเฟรด ม็อก อินทีเรียดีไซน์เนอร์ เพื่อนสนิทที่เป็นคนสุดท้าย ซึ่งมีโอกาสได้พูดคุยกับ เลสลี่ จาง ก่อนเขาจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเมื่อวันนี้ของเมื่อ 8 ปีก่อน

ในวันที่ 1 เม.ย. 2003 กลายเป็นเรื่องช็อควงการบันเทิง เมื่อมีรายงานข่าวการเสียชีวิตของ เลสลี่ จาง ที่ได้กระโดดลงมาจากชั้นที่ 8 ของโรงแรมแมนดารินโอเรียนทัลเมื่อเวลาประมาณ 18:40 น. ซึ่งในตอนแรกทุกคนคิดว่านี่คือส่วนหนึ่งของมุขตลกล้อเล่นในวันเอพริลฟูลส์ เดย์ส จนกระทั่งต่อมาจึงมีการยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง

ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณครั้งนั้นไม่นานนัก เลสลี่ จาง ได้ร่วมรับประทานอาหาร และพูดคุยกับเพื่อนอย่าง อัลเฟรด ม็อก เป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมง โดยนักแสดงชื่อดังเลือกสั่งสปาเก็ตตี้ และดูมีท่าทางอยากอาหารดี นอกจากนั้นยังค่อนข้างระมัดระวังกับโรคซาร์ที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานั้นเป็นพิเศษ

“เขาประหม่านิดหน่อย แล้วก็ดูมือสั่นด้วย เขายังถามถึงเลขหมายบัตรประชาชนของผมด้วย” ต่อมา ม็อก จึงได้ทราบว่า เลสลี่ จาง ต้องการนัดพบเขาในครั้งนั้น ก็เพราะต้องการเลขบัตรประชาชนสำหรับการเขียนพินัยกรรมนั่นเอง ซึ่งเพื่อนสนิทคนนี้ก็ได้รับมรดกส่วนหนึ่งไปด้วย แต่เขาไม่ได้เปิดเผยว่าคืออะไร นอกจากนั้นเขายังทราบในเวลาต่อมาว่า เลสลี่ จาง ได้จองห้องในโรงแรมเอาไว้ และวางแผนการปลิดชีพตัวเอง ก่อนที่จะถึงการนัดพบครั้งนั้นแล้ว

ระหว่างมื้ออาหาร เลสลี่ เอ่ยปากถามความเห็นขึ้นมาว่า จะทำอย่างไรหากทราบว่าตัวเองป่วย เป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ซึ่ง อัลเฟรด ม็อก ตอบว่าเขาจะกินยานอนหลับ … “ผิดแล้วล่ะ ถ้าจะตาย ง่ายที่สุดก็คือกระโดดลงมาจากตึกไงล่ะ” เลสลี่ จาง พูดออกมาในวันนั้น

เผยอดีต "พ่านช่วงช่วง" (Mavis Pan) แฟนเก่า "หลินฟง" (Raymond Lam) ลือแต่งงานแล้วกับชาวต่างชาติ

Submitted by canjamm on 31 มีนาคม, 2011 - 18:30

หลังจากที่โด่งดังภายในข้ามคืนจากการมีรูปถ่ายบนเตียงระหว่าง "พ่านช่วงช่วง" (Mavis Pan) นักแสดงสาวชาวจีนกับ "หลินฟง" (Raymond Lam) พระเอกหนุ่มชื่อดังจาก TVB "พ่านช่วงช่วง" ก็เป็นที่จับตาและถูกพูดถึงอย่างมากจนล่าสุด เพื่อนวัยเด็กออกมาเผยอดีตของฝ่ายสาวให้ฟังแล้ว

ภาพบนเตียงระหว่าง พ่านช่วงช่วง นักแสดง-นางแบบสาววัย 23 ปีและ หลินฟง นักแสดงชื่อดังจาก TVBได้ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารแท็บลอยด์ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วอยู่พักใหญ่ โดยมีฝ่ายชายออกมาให้สัมภาษณ์เคลียร์ทุกประเด็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าทั้งคู่เคยคบหากันจริง ซึ่งภาพดังกล่าวเกิดขึ้นนานแล้ว และเขาไม่รู้ตัวว่าถูกอดีตแฟนสาวแอบถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ยังมั่นใจว่าเธอไม่ใช่คนปล่อยรูปดังกล่าวอย่างแน่นอน ส่วนทางด้านพ่านช่วงช่วงนั้นได้หายหน้าไปและไม่ปรากฏตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด

ล่าสุดได้มีคนที่ยืนยันว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับพ่านช่วงช่วงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงอดีตของนักแสดง-นางแบบสาวรายนี้ถึงพฤติกรรมสมัยเด็กว่า "เธอมีแฟนเยอะมากตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว"

นอกจากจะบอกว่าเธอมีแฟนมาแล้วหลายคน เพื่อนร่วมชั้นเรียนยังระบุว่าเธอมาจากครอบครัวที่ธรรมดาๆ และผลการเรียนของเธอมักจะตกต่ำอยู่เสมอ ซึ่งนางแบบสาวต้องหยุดเรียนกลางครันขณะเรียนมัธยมปลายปีแรก

โดยพ่านช่วงช่วงได้บอกกับเพื่อนๆว่า เธอต้องเดินทางไปปักกิ่งเพื่อทำธุรกิจและเธอกลับบ้านนานๆครั้ง เพื่อนของเธอยืนยันว่าเขาไม่รู้เลยว่าเธอเข้าสู่วงการบันเทิง

เพื่อนร่วมชั้นเรียนของพ่านช่วงช่วงยังได้นำรูปอดีตของเธอมาให้นักข่าวได้ชม ก่อนที่เขาจะระบุว่า แม้ผู้หญิงในรูปดูไม่ค่อยเหมือน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ยังสามารถจดจำได้ว่าเป็นเธออย่างแน่นอน

หลังจากที่มีข่าวสุดฉาวออกมา ตามรายงานระบุว่าพ่านช่วงช่วงมีงานติดต่อเข้ามามากมาย และเธอได้รับงานต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีวี่แววว่านักแสดง-นางแบบสาวรายนี้จะปรากฏตัวต่อสื่อแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามได้มีรายงานล่าสุดระบุว่า พ่านช่วงช่วง หรือ มาวิส พ่าน ได้แต่งงานแล้ว โดยชาวเน็ตระบุว่านักแสดง-นางแบบสาววัย 23 ปี ได้แต่งงานแล้วกับชาวต่างชาติซึ่งรู้เพียงแค่ว่าเขาชื่อ จอห์น ตั้งแต่ปี 2009

"เติ้งกวงหยง" (Alan Tang) ลาโลกแล้ว: ปิดตำนานพระเอกผู้สร้าง "ขบวนโหดมาโปรดสัตว์"

Submitted by canjamm on 31 มีนาคม, 2011 - 18:25

นักแสดงรุ่นใหญ่ "เติ้งกวงหยง" (Alan Tang / Tang Kwong Wing) เสียชีวิตลงแล้วในวัย 64 ปี ปิดตำนานนักแสดง/ผู้อำนวยการสร้าง ที่มีผลงานมากกว่า 60 เรื่อง และโด่งดังเป็นพิเศษในยุคหนังมาเฟียครองเมืองเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งมีผลงานเด่นที่แฟนหนังในยุคนั้นรู้จักกันดีอย่าง "หลังกระแทกฝา" และ "ขบวนโหดมาโปรดสัตว์"

The Standard รายงานข่าวเศร้าในวงการบันเทิงฮ่องกง กับการเสียชีวิตของ เติ้งกวงหยง นักแสดง/ผู้อำนวยการสร้างวัย 64 ปี ที่สิ้นลมลงในบ้านที่มงก๊ก ในช่วงประมาณ 3 ทุ่มของวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สันนิฐานเบื้องต้นว่า เป็นการเสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ระหว่างนอนหลับพักผ่อน โดยสาวใช้เป็นคนพบศพ ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น

โดยลูกชายของนักแสดงผู้ล่วงลับได้กล่าวว่า “พ่อเสียชีวิตอย่างสงบ เราเสียใจที่ท่านจากไป และจะพยายามจัดงานศพให้สมกับเกียรติของท่านครับ” ขณะที่เพื่อนสนิทอย่าง เจิ้งจื่อเหว่ย ก็กล่าวด้วยความตกใจว่า “เขาร่างกายแข็งแรงมาตลอดเลยนะ อาทิตย์ก่อนเพิ่งไปเล่นกอล์ฟกับผมมาเอง”

เริ่มต้นด้วยบทบาทดาราวัยรุ่น

เติ้งกวงหยง เกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 1946 ที่ ซุ่นเต๋อ กว่างตง ในจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัวที่มีพี่สาว และพี่ชายสองคน หลังจากได้ย้ายตามครอบครัวมาพำนักที่ฮ่องกง เขาได้เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิง ตั้งแต่มีอายุเพียง 16 ปี ในหนังวัยรุ่นเรื่อง Student Prince หลังจากนั้นยังมีผลงานอย่างต่อเนื่อง ได้รับบทเด่นประกบคู่นักแสดงสาวชื่อดังในยุคนั้นทั้ง เซียวฟงฟง, เฉินเฉิน และ เฉินเป่าจู

หลังจากจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยกฎหมายฮ่องกง เติ้งกวงหยง ก็เริ่มรับงานแสดงอย่างเต็มตัว และประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการเดินทางไปรับงานยังประเทศไต้หวัน โดยเฉพาะในหนังรักโรแมนติก ที่เขาได้ร่วมงานกับนางเอกชื่อดังหลายคน รวมถึง หลินชิงเสีย ในหนังเรื่อง Run Lover Run

สร้างตำนานหนังมาเฟีย

ลือสนั่นฮ่องกง "มิสเตอร์ Y" ติดเอดส์ !, "ชอว์น หยู" (Shawn Yu) ปฏิเสธคนแรก

Submitted by canjamm on 30 มีนาคม, 2011 - 13:57

หนังสือพิมพ์แท็ปลอยด์ในฮ่องกงเสนอข่าวลือครึกโครมวงการบันเทิง ที่ว่าด้วยนักแสดงหนุ่มปริศนา ซึ่งมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศกับทั้งหนุ่มและสาว และจนกระทั่งติดเชื้อโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดอย่าง เอดส์เข้าจนได้

Three Weekly ผู้รายงานข่าวดังกล่าว เรียกดาราหนุ่มปริศนาด้วยนามแฝงว่า "มิสเตอร์ Y" พร้อมอธิบายว่าเขาเป็นผู้มีรสนิยมทางเพศแบบเสือไบ ประเภทที่ว่าหญิงก็ได้, ชายก็ดี นอกจากนั้นยังมีชีวิตส่วนตัวสุดหวือหวา มีความสัมพันธ์กับทั้งนักแสดงหญิงและชายในวงการมากมาย นอกจากนั้นยังเคยผ่านผู้หญิงมาแล้วถึงกว่า 100 คน

นอกจากนั้นสื่อจอมแฉยังระบุว่า นักแสดงหนุ่มคนนี้มีผลงานการแสดงในหนังชุดทางโทรทัศน์หลายเรื่อง, เคยมีหนังฮิต รวมถึงออกอัลบั้มเพลงมาแล้ว ซึ่งหลังจากตรวจพบเชื้อเอชไอวี นักแสดงหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายก็เริ่มรับการรักษาด้วยการใช้ยา (cocktail therapy) โดยทันที เพื่อเป็นการป้องการไม่ให้เชื้อโรคลุกลาม อย่างที่หลายคนสามารถมีชีวิตยืนยาวได้อีกหลายปี แม้จะมีเชื้อเอชไอวีอยู่ในตัว

อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าเรื่องการป่วยของเขา เริ่มเป็นที่ทราบในวงการบันเทิงแล้ว ถึงขั้นที่ว่ามีนักแสดงบางคนปฏิเสธที่จะร่วมงานด้วยเลยทีเดียว

หลังจากข่าวลือแพร่สะพัดออกไปนักแสดงหนุ่ม หวังสี่ และ เรมุส ชอย แห่งวง Grasshopperboy ที่มีข่าวลือเรื่องการเบี่ยงเบนทางเพศอยู่เป็นระยะ เป็นชื่อแรกที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็น "มิสเตอร์ Y" โดยทั้งสองปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้

ขณะเดียวกันนักแสดงหนุ่ม หยูเหวินเล่อ หรือ ชอว์น หยู (Shawn Yu) ที่แซ่ หยู ของเขาตรงกับตัวอักษร Y มีผลงานทั้งภาพยนตร์, หนังชุด และงานเพลง รวมถึงยังเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของข่าวลือไปด้วย

เมื่อข่าวลือถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ชอว์น หยู จึงต้องออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ด้วยตนเองในที่สุด โดยเขาให้ข่าวผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวว่า

"ดอนนี่ เยน" (Donnie Yen) ประกาศพักงาน ขอเวลาให้ครอบครัวครึ่งปี

Submitted by canjamm on 29 มีนาคม, 2011 - 17:55

พระเอกยอดนักบู๊ชาวฮ่องกง "ดอนนี่ เยน" (Donnie Yen) หรือ "เจินจื่อตัน" ออกมาประกาศขอพักงานเป็นระยะเวลาครึ่งปี เพื่อให้เวลากับครอบครัว และเตรียมร่างกายสำหรับหนังใหม่ในช่วงปลายปี

หลังจากปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง The Monkey King หรือ ไซอิ๋ว ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน พระเอกยอดนักบู๊ ดอนนี่ เยน ได้เปิดเผยว่าเขาจะใช้เวลาประมาณครึ่งปีสำหรับการหยุดพักให้เวลากับครอบครัว หลังจากทำงานอย่างหนักหน่วงมาหลายปี อย่างไรก็ตามซุปเปอร์สตาร์แอ็กชั่นยังยืนยันว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเขายังจะฝึกซ้อมกังฟูอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานหนังใหม่ ที่จะมีเข้ามาในช่วงปลายปีต่อไป

ที่ผ่านมาเริ่มมีคนเป็นห่วงถึงสุขภาพร่างกายของพระเอกดังแห่งฮ่องกง ที่อายุเข้าใกล้เลข 5 ไปทุกขณะแล้ว หลังจากมีข่าวว่า ดอนนี่ เยน ไปพบแพทย์เมื่อเร็วๆนี้ นอกจากนั้น ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เขายังรับงานหนังถึง 2 เรื่องซ้อนกันทั้ง The Monkey King และ The Lost Bladesman ที่เขาต้องสวมบทบาทเป็น กวนอู แถมยังต้องทำงานหลังฉาก เป็นผู้กำกับคิวบู๊ของหนังด้วย

ดอนนี่ เยน กล่าวว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง สุขภาพเขายังดีเยี่ยม มีติดหวัดจากทีมงานบ้างเล็กน้อย แต่เป็นภรรยาที่ต้องการให้เขาไปพบกับแพทย์บ้าง "ผมฝึกมวยมานานมากนะครับ คงไม่เป็นอะไรไปง่ายๆแบบนั้นหรอก" พระเอกคนดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังยอมรับว่าเขาทำงานมากเกินไป และมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยมาก จึงอยากจะชดเชยให้กับภรรยา และลูกชายวัย 4 ขวบบ้าง

หลังจากกลับมาโด่งดังกับหนังแอ็กชั่น SPL: Sha Po Lang เมื่อปี 2005 ภายในระยะเวลา 6 ปี ดอนนี่ เยน มีผลงานการแสดงและกำกับคิวบู๊ไปถึง 15 เรื่อง นอกจากนั้นขณะนี้ยังมีหนัง 3 เรื่องที่รอฉายได้แก่ The Monkey King, The Lost Bladesman และ Swordsmen หนังกำลังภายในของผู้กำกับ ปีเตอร์ ชาน

เจินจื่อตัน วัย 47 ปี ยังพูดถึงแผนการในช่วงนี้ว่า เขาอยากจะใช้เวลากับลูกเป็นหลัก สำหรับแผนงานในอนาคต เจ้าตัวเปรยว่าหลังจากเล่นหนังย้อนยุค เป็นตัวละครต่างๆมานับไม่ถ้วน เขาก็อยากจะกลับไปแสดงหนังแอ็กชั่น ที่มีฉากหลังเป็นยุคปัจจุบันบ้าง และเผยว่าช่วงปลายปี จะมีโปรเจ็คที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน

Manager Online